TODAY

19/08/2024

ปัญหาสุขภาวะทางเพศ เป็นปัญหาที่ใกล้ตัวทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การยุติการตั้งครรภ์ ความรุนแรงทางด้านเพศ รวมไปจนถึงการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งส่วนบุคคลและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคม
ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นรุนแรงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และมีอัตราการคลอดของวัยรุ่นไทยพุ่งสุงสุด 53.4 ต่อ 1,000 คน ของประชากรหญิงอายุ 15-19 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2554 - 2555 การร่วมมือกันหลายภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา ภายใต้การนำของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นปี พ.ศ. 2559
โดยข้อมูลในปี พ.ศ. 2565 มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ อัตราการคลอดของแม่วัยรุ่น ลดลงอยู่ที่ 21.0 ต่อ 1,000 คน ของประชากรหญิงอายุ 15-19 ปี โดยมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ จัดการประชุมระดับชาติภายใต้การกำกับของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอย่างต่อเนื่อง
การประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติ ครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “Strong Community for Healthy S*xuality : ชุมชนเข้มแข็งสร้างสุขภาวะทางเพศ” โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มูลนิธิแพธทูเฮลท์ และภาคีเครือข่าย ประกาศถึงความสำเร็จที่ประเทศไทยสามารถลดแม่วัยรุ่นลงได้เท่าตัว พร้อมตั้งเป้าลดแม่วัยรุ่นเหลือ 15 : 1,000 คน ภายในปี พ.ศ. 2570 โดยมีผู้แทนคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับจังหวัด เครือข่ายคนทำงานเรื่องสุขภาวะทางเพศ แกนนำเยาวชน เข้าร่วมกว่า 1,000 คน
‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองประธานกองทุน สสส. คนที่ 1 กล่าวว่า สุขภาวะทางเพศมีหลากหลายมิติ เกี่ยวพันกับประชาชนทุกเพศทุกวัย ทั้งเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ การยุติการตั้งครรภ์ ความรุนแรงทางเพศ รวมถึงการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นที่เป็นปัญหาสำคัญระดับโลก การจัดการประชุมครั้งนี้ เน้นสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาวะทางเพศในระดับชุมชนซึ่งความมุ่งมั่นในการทำงานของทุกภาคส่วน รวมถึงส่งเสริมการเกิดที่มีคุณภาพ ความท้าทายในยุคเด็กเกิดน้อย สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ขณะเดียวกัน ยังมีเด็กส่วนหนึ่งที่เกิดจากแม่วัยรุ่นและไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสมจึงต้องร่วมกันดำเนินงานให้ทุกชีวิตเติบโตอย่างมีคุณภาพเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
‘นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์’ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทาย ต้องทำให้วัยรุ่นมีทักษะในการป้องกัน ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พร้อม ชะลอการเข้าสู่ช่วงเวลาของการเป็นพ่อแม่ในวัยเรียน เพราะการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นส่งผลต่ออนาคต สังคมและชุมชนจึงต้องร่วมสนับสนุนโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้เรื่องสุขภาวะทางเพศ รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ที่ปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนได้รับสวัสดิการที่เกี่ยวข้อง กรณีเด็กมีการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ทัศนคติของคนรอบข้างต้องไม่ตีตรา ส่งเสริมให้เข้าถึงการใช้บริการทางเลือกที่เป็นมิตร
‘นพ.กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง’ ประธานคณะอนุกรรมการด้านวิชาการการจัดประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติ ครั้งที่ 4 กล่าวว่า การจัดการประชุม ครั้งที่ 4 เน้นสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ครอบคลุมประเด็นเรื่องเพศ เอดส์ และท้องวัยรุ่น พร้อมนำเสนอข้อมูล องค์ความรู้ นวัตกรรมเครื่องมือ และบทเรียนการทำงาน ในรูปแบบเวทีเสวนา 23 ประเด็น ตลอด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 จัดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อค้นพบทางวิชาการ รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้นำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานในชุมชนของตัวเอง รวมถึงร่วมกันถอดบทเรียนจากการนำเสนอ กำหนดเป็นนโยบายขับเคลื่อนการทำงานด้านสุขภาวะทางเพศในระดับประเทศ ที่สำคัญ นอกจากองค์ความรู้ เครื่องมือ และบทเรียนการทำงานใหม่ๆ คือประสบการณ์ที่ได้รับ เพื่อพัฒนาให้การดำเนินงานด้านสุขภาวะทางเพศเข้มแข็งยิ่งขึ้น ผู้สนใจข้อมูลหรือต้องการรับชมถ่ายทอดสดทางออนไลน์สามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจและยูทูบ มูลนิธิแพธทูเฮลท์
#สำนักข่าวทูเดย์

19/08/2024

คนไทย 66% อยากไปทำงานต่างประเทศ ‘สิงคโปร์’ มาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ประเทศที่คนไทยอยากย้ายไปทำงาน

คนไทย 66% อยากไปทำงานต่างประเทศ
‘สิงคโปร์’ มาแรงเป็นอันดับหนึ่ง
ประเทศที่คนไทยอยากย้ายไปทำงาน
ช่วงนี้ประเทศไทยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นค่อนข้างหลายอย่าง ตั้งแต่เศรษฐกิจ, การเมือง จนไปถึงพฤติกรรมคนไทยในกลุ่มต่างๆ ซึ่งสถานการณ์ความไม่แน่นอนในประเทศไทย (อาจ) มีส่วนทำให้มุมมอง ความคิดของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการไปทำงานในต่างประเทศเปลี่ยนไปมากขึ้นหรือไม่
จากผลสำรวจ Global Talent Survey 2024 โดย Jobsdb by SEEK ได้เปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานทั่วโลกและในประเทศไทย จากผู้ที่ทำแบบสำรวจกว่า 150,000 คน จาก 180 ประเทศ
ผลสำรวจพบว่า ผู้ที่หางานทำคนไทยให้ความสนใจในการทำงานต่างประเทศมากขึ้น ประมาณ 66% โดย 79% เป็นคนรุ่นใหม่ หรือคนที่มีอายุน้อย ที่มองว่าการย้ายไปทำงานในต่างประเทศจะตอบโจทย์สิ่งที่ใฝ่ฝันของพวกเขาได้
นั่นก็คือ 1) ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 2) ค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลและสูงขึ้น 3) โอกาสที่จะได้รับประสบการณ์ในระดับนานาชาติ
‘ดวงพร พรหมอ่อน’ กรรมการผู้จัดการ Jobsdb by SEEK (ประเทศ) ได้พูดระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษ ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดโรคระบาดในปี 2561 แต่ความสนใจของคนไทยถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2566
ทั้งนี้ มุมมองของคนไทยใน 66% นั่นนับว่าเป็นสัญญาณเตือนถึงปรากฏการณ์สมองไหลออกจากไทยอย่างชัดเจน ขณะที่กลุ่มอาชีพที่ทำให้มีโอกาสมากกว่าอาชีพใน Top 5 หากต้องการย้ายไปทำงานในต่างประเทศ ก็คือ
1) การศึกษาและการฝึกอบรม 85%
2) กฎหมาย 73%
3) การจัดการธุรกิจ 73%
4) ไอที 72%
5) วิศวกรรม และฝ่ายเทคนิค 69%
[ สิงคโปร์ = ปลายทางที่คนไทยอยากไปทำงาน ]
สำหรับจุดหมายปลายทางที่คนไทยสนใจอยากเข้าไปทำงาน ก็คือ ‘สิงคโปร์’ นำมาเป็นอันดับหนึ่งของการสำรวจครั้งนี้ มากถึง 33% จากประเทศทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมี ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ที่ติดอยู่ใน Top 3 ที่คนไทยอยากทำงานมากที่สุดเป็นอันดับ 2 และ 3
ทั้งนี้ ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจของคนไทย แต่อาจจะไม่ได้อยู่ใน Top ตัวเลือกของพวกเขา ได้แก่ ญี่ปุ่น, จีน, สหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และแคนาดา
ดวงพร อธิบายว่า จุดหมายปลายทางของคนไทยที่อยากไปทำงานในประเทศเหล่านี้ มีแนวโน้มมาจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น ความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค, ศักยภาพทางการตลาด และการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม 60% ของผู้ที่ได้ไปทำงานในต่างประเทศมีความตั้งใจที่จะกลับมายังประเทศไทยในท้ายที่สุด เเละอีก 18% ต้องการอยู่ต่ออย่างไม่มีกำหนดกลับชัดเจน
[ ไทย = จุดหมายปลายทางของต่างชาติ ]
ในชุดการสำรวจครั้งนี้ ยังมีส่วนที่พูดถึง ‘ประเทศไทย’ ด้วยเพราะว่าได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของผู้หางานเช่นกัน โดยขยับขึ้นมาลำดับที่ 31 จากลำดับที่ 39 ในการจัดอันดับโลกนับตั้งแต่ปี 2561
โดยไทยดึงดูดผู้ที่มีความสามารถหลากหลายจากทั่วโลกถึง 62% ให้เข้ามาทำงาน เนื่องจากชื่นชอบในคุณภาพชีวิต วัฒนธรรมที่เป็นมิตรและการไม่แบ่งแยก รวมไปถึงเรื่องค่าครองชีพที่เอื้อต่อการอยู่อาศัย
โดยผลสำรวจในเดือนมีนาคมปี 2566 เปิดเผยว่าในไทยมีพนักงานต่างชาติกว่า 2.7 ล้านคน ซึ่งนับเป็น 7% ของแรงงานในประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
‘ดวงพร’ อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า คนต่างชาติที่ทำงานในไทยล้วนมาจากประเทศที่ค่าครองชีพที่สูงกว่าการใช้ชีวิตในไทย อีกทั้งยังมองว่าคนไทยเปิดกว้าง และเป็นชาติที่ใจดี ทั้งยังมีระบบเฮลล์แคร์ที่ดี ดังนั้น ในภาพรวมของเรื่องคุณภาพชีวิตก็คือสิ่งเหล่านี้ที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานอีกด้วย
ทั้งนี้ Top 10 คนจากต่างประเทศที่อยากย้ายมาทำงานในไทย อันดับหนึ่ง คือ ‘สิงคโปร์’ อยู่ที่ 9% ส่วนประเทศอื่นๆ ในอีก 9 ประเทศส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
9% เป็นสิงคโปร์
5% เป็นมาเลเซีย
3% เป็นฮ่องกง
2% เป็นฟิลิปปินส์
1% เป็นอินโดนีเซีย
1% เยอรมนี
1% เดนมาร์ก
1% แอฟริกาใต้
1% สหรัฐอเมริกา
1% ฝรั่งเศส
ในผลการสำรวจยังได้พูดถึง ‘เทรนด์การทำงานระยะไกล’ ที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการทำงานของคนยุคนี้ โดยตั้งแต่ปี 2563 คนไทยที่หางานมีความต้องการในการทำงานระยะไกล หรือการทำงานแบบไม่ต้องย้ายถิ่นฐานเพิ่มขึ้นถึง 26% จาก 50% ในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 76% ในปี 2566
ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีในสมัยนี้ รวมไปถึงการรับรู้ การเปิดกว้างของคนจ้างงานที่สามารถสั่งงานและให้ค่าตอบแทนแบบระยะไกลได้นั่นเอง

18/08/2024

เหลืออีกเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์
กับงานฟรีที่ SME ไม่ควรพลาด!
มหกรรมสร้างแรงบันดาลใจที่สุดแห่งปี Thailand Trade Exponential Fest 2024
จัดโดย สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) ✈️
Conference ความรู้ที่รวมตัวผู้ประกอบการ SMEs ไทย เพื่อส่งต่อความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้แบรนด์ไทยติดปีกไกลไปทั่วโลก จากรุ่นพี่ที่ทำสำเร็จมาแล้ว พวกเขาจะมาแชร์ประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
เตรียมสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อมกัน
🗓️ วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567
⏰ เวลา 09:00 - 19:00 น.
📌 TRUE ICON HALL, ICONSIAM
📣 พิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและมายืนยันตัวตนก่อน 09.30 น. ในวันงานรับสิทธิพิเศษมากมายก่อนใคร (จำนวนจำกัด)
ลงทะเบียนฟรีได้ทาง: https://bit.ly/3AhJOFb


ิดปีกไกลทั่วโลก

18/08/2024

แพทองธาร ชินวัตร รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
วันนี้ (18 ส.ค.) เวลา 09.29 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการว่า “เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดิฉัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนับเป็นเกียรติยศ และเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต"
"ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้นทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชนสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ"
"ดิฉัน ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ให้ดิฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้าฝ่าฟันทุกอุปสรรคแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน 3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิฉันในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง"
"พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจยิ่งใหญ่นี้ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วนทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชนและพี่น้องประชาชน"
"ดิฉัน จะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ และทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วของบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง"
"ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความสุขของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม ขอบคุณค่ะ"
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์

18/08/2024

ทักษิณ ยิ้มแก้มปริ สวมกอด แพทองธาร
ร่วมยินดีก่อนรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ
บรรยากาศการการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่โถงอาคาร Voice Space น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมาถึงก่อน จากนั้นเมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาถึงลำดับถัดมา ทันทีที่รถนายทักษิณ จอด น.ส.แพทองธาร เดินไปรับที่รถ ก่อนที่นายทักษิณจะหอมแก้มลูกสาว และสวมกอด ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมเปิดเผยว่า “ตนมีความดีใจกับน.ส.แพทองธาร อย่างมาก”
พิธีดังกล่าวนี้ มีครอบครัวชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับ น.ส.แพทองธาร จะเป็นนายกฯหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุด
ภาพ สุภัทตรา โพล้งกล่ำ / ภานุมาศ สงวนวงษ์ / Thai News Pix
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์

17/08/2024

ราชกิจจาฯ ประกาศ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ คาด 'ทักษิณ' เข้าเกณฑ์พ้นโทษทันทีพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) ตามเงื่อนไขผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ ไม่ต้องรอครบกำหนดพักการลงโทษสิ้นเดือน #สำนักข่าวทูเดย์

17/08/2024

บทสัมภาษณ์พิเศษ ‘SPRITE’ 3 ปี บนเส้นทางศิลปิน และการกลับมาอีกครั้งของ "ทน (TON)" เพลงฮิตระดับโลกในรูปแบบ Live Session

บทสัมภาษณ์พิเศษ ‘SPRITE’ 3 ปี บนเส้นทางศิลปิน และการกลับมาอีกครั้งของ "ทน (TON)" เพลงฮิตระดับโลกในรูปแบบ Live Session

SPRITE หรือ สไปร์ท ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ เจ้าของเพลงฮิตมากมายทั้ง ไอต้าว, เดียวดาย, KIMINOTO และอีกมากมาย แต่มีเพลงหนึ่งที่คงไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือเพลง "ทน (TON)" ที่ร้องคู่กับ GUYGEEGEE เป็นหนึ่งเพลงที่ใครหลาย ๆ รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะแค่เปิดท่อนมาว่า “พี่ไม่มี Louis Vuitton” หลาย ๆ คนก็สามารถร้องตามกันได้อย่างแน่นอน ซึ่งเพลง "ทน (TON)" ถือเป็นเพลงไทยเพลงแรก เนื้อร้องภาษาไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ในการทะยานขึ้นติดชาร์ตระดับโลกอย่าง Billboard Global ในอันดับที่ 89 อีกด้วย

และแน่นอนว่าใน 3 ปีต่อมา ‘สไปร์ท’ ปัจจุบันอายุ 18 ปี ได้หยิบเพลง "ทน (TON)" กลับมาเล่นอีกครั้งในรูปแบบของ Live Session ผ่านโปรเจกต์ ‘Here’s to the Dreamers’ ซึ่งเป็นหนึ่งโปรเจกต์จาก ‘Apple’ งานนี้ TODAY Play ไม่พลาดที่ชวน ‘สไปร์ท’ มาทักทายผ่านบทสัมภาษณ์สุดพิเศษ และพูดถึงการเดินทางบนเส้นทางศิลปินตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลงานในอนาคต กันค่ะ

“สวัสดีครับ ผมสไปร์ท (SPRITE) นะครับจาก HYPE TRAIN ครับ”

🔵เส้นทางศิลปินตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของ ‘SPRITE’ และความสำเร็จของเพลงฮิตระดับโลก ‘ทน’
“ถือว่าเป็นช่วงโอกาสและจังหวะชีวิตที่สำคัญมากเลยครับ ที่ผมมีโอกาสได้ไปออกรายการ SUPER 10 เพื่อขอเตียงสองชั้น เพราะตอนนั้นบ้านผมน้ำท่วม หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสจากบ้านพี่ NINO ให้ผมเข้าไปเรียนรู้การทำเพลง การทำสตูดิโอ ประกอบกับช่วงนั้น เป็นช่วงที่ผมชอบทำเพลงและเขียนเพลงมาก เลยทำมันมาเรื่อย ๆ จนได้มีโอกาสเข้าไปประกวดรายการ SHOW ME THE MONEY SEASON 2 และได้ตำแหน่งรองแชมป์ เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสที่ผมไม่เคยฝันมาก่อนในชีวิต ผมเริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งเพลงทน (TON) ในตอนแรกผมยังไม่รู้ว่ามันไวรัล ไม่รู้ว่าบิลบอร์ดคืออะไร จนกระทั่งไปย้อนดู ก็เห็นว่าเพลงมันไปไกลขนาดนี้เลยหรอ ดีใจที่ได้ทำให้คนต่างชาติได้ฟังเพลงผม ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินก็ว่าได้ครับ เพราะทำให้ผมหาเงินได้จากการทำเพลง ครอบครัวอยู่สบายขึ้นตามความฝันที่ตั้งไว้สักที

หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่าผมจะตั้งใจทำเพลงที่จะทำให้ทุกคนได้ฟังในแนวที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รู้จักผมผ่านเพลงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากเพลงทน ผมก็มีทำเพลงกับพี่ ๆ ในวงการมากมายเลยครับ ซึ่งเป็นโอกาสดีดีที่ผมได้รับ ต้องขอบคุณทุกคนครับที่เห็นบางอย่างในตัวผมและเลือกให้ผมไปฟีทเจอริ่งด้วย นอกจากนี้ผมก็ยังได้ปล่อยเพลงที่ผมคิดว่าเนื้อหาหรือเรื่องที่อยากเล่ามันโตขึ้น จะมี EP ที่ผมทำกับพี่เฟิร์ส (1ST) และเพลงสองล้อไม่ง้อสองรัก ฝากทุกคนไปฟังกันด้วยนะครับ ตอนนั้นดีใจมาก ๆ ครับและตื่นเต้นด้วยที่ความพยายามของผมสำเร็จเป็นตัวเลขและอันดับที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยครับว่าจะทำได้ รู้สึกเกินจริงไปมากครับ ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณพี่ ๆ ทีม HYPE TRAIN ทุกคนที่ช่วยกันทำเพลงนี้ออกมา จำได้ว่าตอนนั้นยุ่งมากเลยครับ ดีใจที่หลายคนชอบและใช้เพลงของผมจนมันไวรัลครับ”

🔵3 ปี กับเส้นทางศิลปิน และความเปลี่ยนแปลง
“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกผมเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากครับ ในฐานะศิลปินผมมีเรื่องที่อยากเล่าเปลี่ยนแปลงไปตลอดครับ แต่ความตั้งใจและฝันของผมยังเป็นฝันเดิมและกล้าที่จะฝันมากขึ้นครับ ในช่วงแรกที่ผมเริ่มทำเพลง เริ่มร้องเพลง เพราะผมอยากจะช่วยที่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนถึงตอนนี้มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น แต่ที่เปลี่ยนไปตอนนี้ คือ ผมอยากที่จะให้เพลงของผมเป็นเพื่อนของทุกคน อยากให้คนรู้จักเพลงของผมที่เห็นแล้วรู้ว่านี่แหละคือผม ผมก็คิดว่าสักวันนึงอยากจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองที่เล่นเพลงของผมให้ทุกคนฟัง ผมรู้สึกว่าถ้าผมทำให้ใครคนนึงหายเศร้า มีความสุขจากการฟังเพลงผม เท่านั้นผมถือว่าผมประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินแล้วครับ”

🔵การร่วมงาน ‘Apple’ ในโปรเจกต์ ‘Here’s to the Dreamers’
“Here’s to The Dreamers Project ก็เป็น Project ที่เลือกศิลปินจาก Southeast Asia ของทาง Apple Music ครับ แคมเปญนี้จะยกย่องศิลปินและนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของพวกเรา กว่ามาจะถึงทุกวันนีภายใต้ธีมต่างๆ ซึ่งของผมเป็นธีม Humble ครับ โดยโปรเจ็คต้องการที่จะสื่อสารให้ทุกคนกล้าที่จะฝันและหวังว่าเรื่องราวของผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังฝันอยู่ว่าสักวันต้องมีวันของเราแน่นอนครับ โดยจะทำ Live Session ซึ่งผมเลือกเพลงทน (TON) ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายกับผมมาก ๆ เพราะเป็นเพลงที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ครับ ซึ่งทั้งนี้ผมก็ต้องขอบคุณ Apple Music ครับที่มองเห็นศักยภาพและเลือกผมเป็นตัวแทนประเทศไทย และขอบคุณต้นสังกัดของผม ขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานครับที่คอยผลักดันผมอยู่ตลอดเวลาครับ”

🔵Live Session เพลง ‘ทน’ ที่กลับมาทำใหม่ในรอบ 3 ปี
“ใน Live Session เพลง ทน Version นี้จะมีความแตกต่างออกไปจากเดิมครับ ทั้งในแง่ของภาพและดนตรี ส่วนในแง่ของดนตรีเพลงนี้จะถูก rearrange ใหม่ทั้งหมด โดยเพิ่มกลิ่นดนตรีความเป็นไทยในจังหวะช้าลง ให้เพลงฟังง่ายมากขึ้นครับ นอกจากนี้ผมยังเขียน Verse ใหม่ขึ้นมา เพื่อบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าไปฟังใน Apple Music นะครับ ที่พิเศษไม่แพ้กันเลย คือ ด้านภาพ ผมอยากให้ทุกคนไปดูทาง Apple Music ก่อนครับ และค่อยกลับมาอ่านตรงนี้ เพราะจะได้เข้าใจสิ่งที่อยากจะสื่อมากยิ่งขึ้นครับ ทุกคนจะเห็นว่าผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัดผม ซึ่งตรงนี้ผมต้องการจะสื่อสารเปรียบเรื่องราวของชีวิตกับเก้าอี้ตัดผมครับ ว่าชีวิตคนเราไม่ว่าจะรวยจะจนต้องไปร้านตัดผมกันทุกคน และทุกครั้งที่ไปร้านตัดผม เราจะออกมาเป็นคนใหม่เสมอ แม้ว่าสุดท้ายก็ยังเป็นเราคนเดิมแค่เปลี่ยนแปลงไปครับ เหมือนชีวิตคนเราครับผมในเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กับผมในปัจจุบันตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมมีเรื่องที่จะต้องทนมากขึ้นตามบทบาทของช่วงชีวิตครับ”

🔵‘SPRITE’ กับตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า
“ตัวผมในอีก 5 ปีข้างหน้า อาจจะตอบยากนิดหน่อยครับ เพราะเป็นเวลาที่ค่อนข้างนานเลย และในช่วงเวลาแค่สั้น ๆ คนเราก็เปลี่ยนแปลงไปตลอด ดังนั้นถ้าจะให้ผมตอบว่าเห็นตัวเองยังไงให้ 5 ปีข้างหน้า อาจจะเป็นอะไรที่ผมคิดว่าผมจะทำได้จริงและทำได้แน่นอน คิดว่าคงยังทำเพลงและมีเพลงให้ทุกคนฟังอยู่ครับ เพราะนั้นยังคงเป็นสิ่งที่ผมชอบและฝันมาตลอดชีวิต แต่อาจจะเป็นผมในเรื่องราวใหม่ ๆ บทบาทใหม่ ๆ ครับ จนถึงตอนนั้นผมหวังว่าทุกคนจะยังรอฟังเพลงของผมอยู่เรื่อย ๆ นะครับ”

🔵ข้อความจาก ‘SPRITE’ ถึงแฟน ๆ ที่คอยซัพพอร์ต
“ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบเพลงและผลงานของผมนะครับ ทุกคนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ แรงสนับสนุนของทุกคนเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เพลงของผมยังทำงานตอนถึงตอนนี้ ดังนั้นขอบคุณทุกคนมาก ๆ ครับ”

“ฝากทุกคนติดตาม ทน Live Session Exclusive on Apple Music นะครับ นอกจากนี้ยังมี Essentials Playlist บน Apple Music และจริง ๆ ปีนี้ผมยังมีผลงานเพลงที่จะปล่อยอีกเยอะเลยนะครับ อยากให้ทุกคนรอติดตามกัน นอกจากนี้ฝาก EP MY TYPE ของผมกับ 1ST และเพลงสองล้อไม่ง้อสองรักด้วยนะครับ”


#ทน

16/08/2024

พบกับคอนเทนต์ที่คุณไม่ควรพลาด จากสำนักข่าว TODAY
• ประเด็นร้อนสัปดาห์ที่ผ่านมา
: หญิงเหล็กการเมืองเวเนซุเอลา ยิ่งถูกแบนยิ่งโต
: นายกฯ เพื่อไทย ใต้เงาทักษิณ
#วิเคราะห์บอลจริงจัง : ทำไม 'เชลซี' ถึงตัดสินใจขาย 'โมฮาเหม็ด ซาลาห์-เควิน เดอ บรอยน์'
: TEMU รุกไทย สินค้าจีนทะลัก ไทยขาดดุลหนักขึ้น?
: สำรวจ 'สุขภาพใจ' มนุษย์ออฟฟิศ กับ หมอเอิ้น พิยะดา
• ประเด็นน่าสนใจสุดสัปดาห์นี้
[เสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567]
: ซูเปอร์ติดแกลมกำลังมา! ส่องเทรนด์ซูเปอร์หรู Erewhon และ Bailey & Sage
: รู้จักเจ้าของเพลงฮิต "เผื่อวันไหนเธอจะกลับมา" ผ่าน 5 Keyword กว่าจะมาเป็น guncharlie
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#เปิดความรู้ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

“ก่อนเทคโนโลยีพร้อม คนต้องพร้อมก่อน” สิ่งสำคัญต่อการเข้าสู่ยุคดิจิตอลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทย ไอเดียหลักที่ได้จากการสัมมนาหัวข้อ Transform to Innovate: Key Incentives for a Thriving Tech Economy (เปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างสรรค์: แรงจูงใจหลักเพื่อเศรษฐกิจเทคโนโลยีที่เจริญรุ่งเรือง) ในงาน Techsauce Global Summit 2024 ที่จัดขึ้นในวันที่ 7-9 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมี นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ บรรณาธิการบริหารสำนักข่าว TODAY เป็นผู้ดำเนินงาน
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แสดงความคิดเห็นว่า ประเทศไทยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกมากมายที่ทำให้ตลาดการค้าและเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ ทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่กว่า 20% ของประชากร หรือมากกว่า 13.2 ล้านคนในประเทศไทยอยู่ในช่วงผู้สูงอายุ ปัจจัยในด้านความสามารถในการผลิตสินค้าที่น้อยลง โดยเฉพาะด้านสินค้าเทคโนโลยีที่มีการส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศน้อยกว่า 25% เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างจีน ที่ส่งออกสินค้าเทคโนโลยีมากกว่า 35% รวมไปถึงเวียดนามที่มากกว่า 40%
ปัจจัยด้านธุรกิจส่งออกของไทยก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เมื่อมีธุรกิจของไทยเพียง 1% เท่านั้นที่สามารถเป็นผู้ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้ นอกจากนี้ประเทศไทยยังส่งออกสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้น้อยกว่า 8% เมื่อเทียบกับประเทศจีนที่ส่งออกอยู่ที่ 10% และญี่ปุ่นที่ 15% รวมถึงปัจจัยในด้านของพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่ส่งผลให้ประเทศไทยในปี 2028 มีแนวโน้มว่าจะจำหน่ายสินค้าผ่าน e-commerce สู่ผู้ค้าปลีกต่างๆ ในตลาดโลกได้ลดลงกว่า 24% อีกด้วย
ดังนั้นจริงๆ แล้วประเทศไทยยังมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจด้านเทคโนโลยีอยู่อีกมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าส่งออกต่างประเทศได้มากขึ้นทั้งในแง่ของคุณภาพที่ดีขึ้น และได้สินค้าจำนวนมากขึ้นในเวลาเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการก้าวเข้ามาของเทคโนโลยีต่างๆ ที่ประเทศไทยควรเริ่มมีการนำมาใช้เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เพียงแค่การจำหน่ายในไทย แต่ต้องไปสู่ตลาดโลก
แต่จากการสำรวจพบว่า 2 ใน 3 ของธุรกิจ SME ของไทยยังไม่พร้อมต่อการปฏิรูปเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ประเทศไทยอยู่ที่อันดับที่ 51 ในโลกของการเป็นประเทศที่ผู้ประกอบการพร้อมเข้าสู่ยุคของการปฏิรูปธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล โดยผู้ประกอบการไทยกว่า 35% ที่ระบุว่ามีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มที่ และกว่า 33% ระบุว่ามีแรงงานและพนักงานที่แสดงความพร้อมต่อการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานต่างๆ เป็นระบบดิจิตอล แต่เป็นที่น่ากังวลว่ากว่า 63% ของธุรกิจในไทยยอมรับว่าต้องการการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบดิจิตอลได้อย่างรูปแบบจริงๆ
[ คนไทยต้องเก่งเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้นให้ได้ ]
คุณเดช ฐิติวณิช ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายระบบข้อสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า นอกจากเรื่องของการสนับสนุนทางด้านการเงินที่ผู้ประกอบธุรกิจในไทยต้องการเพิ่มขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบในการดำเนินธุรกิจและกระบวนการผลิตสินค้าต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิตอลแล้ว แรงงานในไทยเองก็ต้องการความรู้เพิ่มเติมในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีออกมามากขึ้นในโลกปัจจุบัน เพื่อที่จะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่ไหนเมื่อไรก็ได้บนโลกใบนี้
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการสนับสนุนให้คนไทย แรงงานไทย เตรียมความพร้อม เปิดใจรับ และได้รับการฝึกสอน ได้รับความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ให้ได้เร็วที่สุด
ทางด้านของคุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ระบุว่า ประเทศไทยต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตอลในการช่วยลดต้นทุน และเพิ่มผลประโยชน์ในการผลิตให้ได้มากที่สุด และเมื่อเศรษฐกิจมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศไทยดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนของเกษตรกรรม หรือการศึกษาของเด็กๆ ที่จะทำให้เด็กๆ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นไปด้วย
[ แรงงานไทยขาดทักษะ เพราะไม่มีเงินมากพอ ]
สำหรับปัญหาที่องค์กรในไทยต้องพบเจอระหว่างการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิตอลนั้น คุณธีรนันท์ ตอบว่า สิ่งแรกคือ ทุนมนุษย์ (human capital) แรงงานในไทยยังขาดทักษะในการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการผลิตสินค้าได้อย่างเต็มที่ แรงงานไทยจำเป็นต้องมีคนที่มีความรอบรู้ในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีต่างๆ อย่างลึกซึ้ง อาจจะต้องเริ่มต้นจากการนำเข้าแรงงานต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีมาสอนแรงงานไทยก่อน
นอกจากเรื่องของทักษะแล้ว แรงงานไทยเองก็จำเป็นจะต้องมีใจที่เปิดกว้าง เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ เพราะในช่วงแรกจะเป็นสิ่งที่ยากที่จะเรียนรู้ เป็นความท้าทายของแรงงานไทยอย่างมากเช่นกัน
สุดท้าย นอกจากจะยังไม่มีผู้เล่นใหม่ๆ ในตลาดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตของไทยแล้ว สิ่งสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งคือ การขาดงบประมาณในการสร้างโครงสร้างของระบบนิเวศสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆ อย่างเพียงพอ เมื่อเทคโนโลยีเป็นเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงแรก ธุรกิจสตาร์ทอัพเล็กๆ จึงอาจยังไม่มีเงินมากพอในการลงทุนเพื่อใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ
ดร.รักษ์ เสริมว่า การศึกษาในไทยก็เป็นเรื่องสำคัญ คนไทยยังมีปัญหาในการใช้และเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะยังไม่มีการส่งเสริมให้นักเรียนไทยได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในภาคธุรกิจมากเท่าที่ควร นอกจากนี้การปลูกฝังเด็กไทยให้เปิดใจกว้าง พร้อมเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ค่อนข้างยาก เพื่อพัฒนาธุรกิจเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ก็ยังเป็นเรื่องที่ยังต้องปรับกันต่อไป เพราะตอนนี้มีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ประกอบการในไทยที่สามารถก้าวเข้าไปเป็นผู้ค้าในตลาดโลกได้
คุณเดช เสริมว่า ในประเทศไทยเองก็ยังหาบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ยากเช่นกัน ซึ่งบุคลากรไทยหลายคนมีใจที่อยากจะเรียนรู้ แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการศึกษาที่ดีพอ และยังต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจและทำงานได้จริงอีกเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี
[ ภาคธุรกิจกับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตอลในระยะสั้น ]
หากมองแค่ในช่วงสั้นๆ 6-12 เดือนนี้เราทำอะไรให้ดีขึ้นได้บ้าง ดร.รักษ์ ให้ความเห็นว่า ภาคธุรกิจของไทยสามารถไปในทิศทางของ “Go Green” หรือสินค้ารักษ์โลก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งสินค้ารักษ์โลกสามารถส่งเสริมไปด้วยกันกับภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่เป็นที่นิยมอย่างสูงในคนต่างชาติได้ด้วย
นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยสามารถใช้จ่ายเพิ่มเติมไปกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น เช่น โรงแรมรักษ์โลก และสามารถขยายต่อไปถึงเรื่องของธุรกิจฟาร์มอัจฉริยะ ที่หากลงทุนในการวิจัยและพัฒนาได้อย่างเป็นระบบ จะสามารถผลิตสินค้าที่รักษ์โลกและดีต่อสุขภาพได้มากขึ้น เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณโซเดียม และน้ำตาลน้อยลง เป็นต้น
นอกจากนี้การเข้าสู่ยุคดิจิตอล สามารถเริ่มได้จากส่วนของหลังบ้านอย่างการจัดการข้อมูลด้วยเอไอ ดาต้าเซ็นเตอร์ การใช้เทคโนโลยีคลาวด์มาช่วยจัดการฟาร์ม รวมถึงการพัฒนาต่อยอดจากการที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก เราสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเราได้ด้วยใส่ระบบหุ่นยนต์เพิ่มเข้าไป เช่น การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้เทคโนโลยีในการทำงาน ที่พร้อมจะเปลี่ยนชีวิตคนให้ดีขึ้น สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากสิ่งที่เรามีไปก่อนได้
คุณเดช เสริมว่า การผสมผสานของซอฟต์แวร์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการและลดข้อมูลซ้ำซากจำนวนมหาศาล ก็ช่วยให้กระบวนการในการทำงานต่างๆ รวดเร็วได้มากขึ้น เป็นสิ่งที่สามารถเริ่มทำได้ทันทีในตอนนี้เช่นเดียวกัน
ปิดท้ายที่คุณธีรนันท์ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐในการช่วยเจรจาต่อรองนำคนเก่งๆ จากบริษัทใหญ่ๆ เข้ามาสอนคนไทย ก็จะช่วยให้คนไทยได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ เพื่อวางรากฐานการผลิตของไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างแข็งแรง
และเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ทักษะภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน แม้จะเป็นการเริ่มต้นจากสตาร์ทอัพเล็กๆ และเป็นไปอย่างช้าๆ แต่รับรองว่าเราจะสามารถก่อร่างสร้างฐานการใช้เทคโนโลยีในภาคธุรกิจของไทยได้อย่างมั่นคง พร้อมให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของอาเซียนในอนาคตได้อย่างแน่นอน
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

โลตัสผู้นำค้าปลีกไทยที่มุ่งสู่การเป็น SMART
Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนในชุมชน ฉลองครบรอบ 30 ปี แทนคำ ขอบคุณจากใจผ่านแคมเปญใหญ่เพื่อมอบให้กับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมมอบความทรงจำสุดพิเศษด้วยกิจกรรม "Lotus's 30th Anniversary with Gong Yoo in Bangkok" พบศิลปินเกาหลี "กงยู" ที่จะมาสร้างช่วงเวลาดีดีร่วมกับแฟนคลับชาวไทยแบบฟิน ๆ ในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมเดินหน้าเติบโตเคียงข้างสังคมไทยตามกลยุทธ์ความยั่งยืน “Vision 2030. Actions every day." ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและการกำกับดูแลตลอดการดำเนินธุรกิจ
ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://workpointtoday.com/lotuss30th/

“ร้านทองไม่เข้าร่วมกิจกรรม Top Spender แต่สามารถลุ้นชิงโชค Lucky Draw ได้”

#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

เติบโตเข้าสู่ปีที่ 5 สำนักข่าว TODAY ยังคงตั้งใจเน้นย้ำจุดยืนเดิมในการเป็นสำนักข่าวของคนรุ่นใหม่และมุ่งสร้างไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลกในยุคดิจิทัลไร้พรมแดน
“ที่ TODAY เรามีคีย์เวิร์ดอยู่ 3 คำ คือ 1. In Depth ความลึก - จุดเด่นของการเป็นนักข่าวก็คือ เรามีแหล่งข่าวอยู่ในมือ แต่ไม่ใช่แค่มีแหล่งข่าว เราเองก็ต้องหมั่นหาความรู้ หาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ข่าวมีคุณภาพมากที่สุด 2. Appealing - นอกจากเรื่องของคุณภาพกับความลึกแล้ว การทำข่าวทุกวันนี้ ยังต้องดึงดูดด้วยการเล่าเรื่องและโปรดักชันที่ดี และ 3 Engaging - นี่เป็นอีกโจทย์สำคัญ เพราะทำข่าวดีแค่ไหน ถ้าไม่มีคนดู สิ่งที่เราทำมาก็คงจะไม่มีประโยชน์
“TODAY จึงยึดคีย์เวิร์ดทั้ง 3 คำนี้ ในการทำงานเพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม ตามสโลแกนของเราที่ว่า Make Tomorrow Today” - นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว TODAY
ในวาระครบรอบ 4 ปีของการก่อตั้งสำนักข่าว TODAY จึงถือโอกาสนี้จัดงาน Open House เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและพาร์ทเนอร์ทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปกับพวกเราได้มาพบปะเจอกัน
#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

สมาคมนักข่าวฯ กังวลพฤติกรรม 'ประวิตร' ใช้ความรุนแรง หลังถูกถามโหวตนายกฯ 'แพทองธาร' เข้าข่ายคุกคามสื่อ เรียกร้องความรับผิดชอบ เตือนคนระวังอารมณ์รุนแรงชั่ววูบ อาจเกิดผลเสียตามมา #สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

หลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค จัดแถลง ชี้แจงถึงขั้นตอนพิจารณาการกระทำ ของ 6 สส. ที่ขัดต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค โดยเริ่มจากการขอโทษประชาชน และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ย้ำว่าจะไม่มีการสนับสนุนคนกลุ่มนี้ในสภาฯ อีกต่อไป
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

คุณกำลังคิดมาก...ไปหรือเปล่า?
ชวนทุกคนมาสำรวจสุขใจ ไปกับรายการ AIM Night 1 ทุ่มตรงวันนี้ (16 ส.ค.) ไปกับ หมอเอิ้น-พิยะดา หาชัยภูมิ จิตแพทย์นักแต่งเพลงรัก

วิกฤตวัยกลางคนไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะกับคนที่ต้องสวมบทบาท ‘ลีดเดอร์’ เพราะสุขภาพใจของพวกเขาย่อมกระทบคนหมู่มาก ชวนทุกคนมาสำรวจสุขใจ ไปกับรายการ AIM Night 1 ทุ่มตรงวันนี้ (16 ส.ค.) ไปกับ หมอเอิ้น-พิยะดา หาชัยภูมิ จิตแพทย์นักแต่งเพลงรัก

16/08/2024

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมสั่งติดตามการขนย้ายฝุ่นแดง มายังไทยกว่า 100 ตู้คอนเทนเนอร์ จากประเทศแอลบาเนีย เสี่ยงเป็นการ
#ขยะนำเข้า
#กรมโรงงานอุสหกรรม #สิงคโปร์ #แอลบาเนีย
#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

เจ้าหน้าที่รัสเซียให้สัมภาษณ์สื่อ โยง ‘นาโต-ตะวันตก’ ช่วยวางแผนให้ยูเครนรุกรานรัสเซีย ประเมินโลกกำลังเข้าใกล้สงครามเต็มรูปแบบเข้าไปทุกที

ดำเนินรายการโดย จอมพล ดาวสุโข

16/08/2024

สีหน้าท่าทาง 'แพทองธาร' ที่ตัวเธอเองยอมรับว่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ ระหว่างการแถลงข่าวประวัติศาสตร์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย เบื้องหน้ากองทัพสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ท่ามกลางการรายล้อมของ สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ภาพ สุภัทตรา โพล้งกล่ำ / ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / ภานุมาศ สงวนวงษ์ / Thai News Pix
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์

16/08/2024

เปิดใจครั้งแรกของ 'แพทองธาร' หลังได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ยอมรับตื่นเต้นพอสมควร เผย 'ทักษิณ' แซวเห็นลูกสาวได้รับตำแหน่งนายกฯ ก่อนเป็นอัลไซเมอร์
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ระบุว่า วันนี้ตั้งใจจะมาเพื่อขอบคุณคะแนนโหวตมากกว่า ส่วนเรื่องการสานต่อนโยบายให้เป็นเรื่องหลังจากการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่เปิดเผยว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุดในห้อง แต่คิดเสมอว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน และเรามีทีมที่ดี เรามีความโชคดีตรงนี้ที่ทีมของเราเข้มแข็ง มีประสบการณ์ มีความตั้งใจ และคิดไปในแนวทางเดียวกับเรา
นางสาวแพทองธารยังเปิดใจย้อนไปด้วยว่า ทันทีที่ทราบข่าว 'เศรษฐา' พ้นตำแหน่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำเพื่อพรรคและประเทศ และหวังว่าจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
สำนักข่าว TODAY
สำนักข่าวออนไลน์ เปิดความรู้ ดูทูเดย์
#สำนักข่าวทูเดย์