WAY bitter life, better world
(338)

WAY เคยเป็นสิ่งพิมพ์รายเดือน ตีพิมพ์เผยแพร่ฉบับแรก ตุลาคม พ.ศ. 2549 เป็นนิตยสารที่มีเนื้อหาหนักแน่น แต่รูปแบบนำเสนออุดมด้วยความคิดสร้างสรรค์ ครอบคลุมประเด็นทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ศิลปะ และไลฟ์สไตล์

WAY ก่อตั้งโดย อธิคม คุณาวุฒิ เป็นการรวมตัวของคนหนุ่มสาวที่ชำนาญการทำนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ที่สนใจข่าวสารความเคลื่อนไหวทางสังคม และเป็นแหล่งชุมนุมคอลัมนิสต

์คุณภาพสูง

waymagazine.org คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนิตยสาร WAY เปิดตัวในปี 2555 เพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนไป เป็นศูนย์รวมงานชิ้นสื่อสารในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบของ WAY ไม่ว่าจะเป็นข้อเขียน ภาพถ่าย กราฟิก วิดีโอ โดยทำงานร่วมกับเครื่องมือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันและอนาคต

สถานการณ์  #หนี้ครัวเรือน ของไทยอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เหมือนฝีที่ใกล้จะปริแตกรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ตระหนักรับรู้ถึงป...
03/01/2025

สถานการณ์ #หนี้ครัวเรือน ของไทยอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เหมือนฝีที่ใกล้จะปริแตก

รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ตระหนักรับรู้ถึงปัญหานี้ดี จึงประกาศให้นโยบายแก้หนี้เป็นนโยบายเร่งด่วน พร้อมผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ

หากย้อนมองชีพจรเศรษฐกิจไทยในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา จะพบว่าตัวเลขหนี้ครัวเรือนเริ่มส่งสัญญาณท้าทายมาตั้งแต่ช่วงเหตุการณ์รัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557 เป็นต้นมา โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นเกินร้อยละ 80 ของ GDP จนถึงช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หนี้ครัวเรือนกระโดดขึ้นไปถึงกว่าร้อยละ 90 ของ GDP และไต่อยู่ที่ระดับนี้ยาวนานร่วม 10 ปีเต็ม

สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองอันเกิดจากความไม่สมดุลของรายได้และหนี้สิน ซึ่งกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและเสถียรภาพของระบบการเงิน

กรณีที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจนไม่อาจชำระคืนได้ หนทางสุดท้ายคือการถูกฟ้อง #ล้มละลาย ยึดทรัพย์ หมดโอกาสฟื้นตัว หลายรายท้อแท้ สิ้นหวัง หรือบางกรณีร้ายแรงถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่

ปี 2565 แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย ( Finance Thailand) จัดทำแคมเปญรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ change.org เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายล้มละลาย เปิดช่องให้ลูกหนี้บุคคลธรรมดามีโอกาสฟื้นฟูสภาวะทางการเงินได้โดยไม่ต้องรอถูกฟ้องล้มละลายอยู่ฝ่ายเดียว

ปี 2567 ร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ที่เสนอโดยพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างกฎหมาย รวมถึงมีร่างของกระทรวงยุติธรรมที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567

หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับรอง นั่นหมายความว่าบรรดาลูกหนี้รายย่อยจะได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อฝ่ายเจ้าหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมจากการชำระหนี้ด้วยเช่นกัน

https://fairfinancethailand.org/article/2024/household-debt-crisis/

มัจฉา พรอินทร์ เรียกตัวเองว่าเป็นลาว เลสเบี้ยน เฟมินิสต์ และเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตั้งแต่ช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบ...
27/12/2024

มัจฉา พรอินทร์ เรียกตัวเองว่าเป็นลาว เลสเบี้ยน เฟมินิสต์ และเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

ตั้งแต่ช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ลุกขั้นมาวิ่ง จึงมีภาพจำเป็นนักวิ่งเทรลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งบทบาท

และในฐานะประธานมูลนิธิสร้างสรรค์อนาคตเยาวชน เหตุผลหนึ่งที่ทำให้มัจฉาต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนของคนชายขอบ อาจมาจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในฐานะคนลาวที่เกิดในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว เผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ตลอดเวลาที่เป็นเด็กจนกระทั่งเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัยเธอต้องหาเงินเรียนมาโดยตลอด และเป็นแรงงานเด็กตั้งแต่อายุ 9 ขวบ

นี่คือความเหลื่อมล้ำอันเนื่องมาจากความเป็นชาติพันธุ์ชนเผ่าพื้นเมือง

อย่างที่สองคือความเป็นผู้หญิง

เธอเล่าว่าเห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับแม่ เห็นสังคมที่ไม่ยอมรับผู้หญิง

“ตอนที่แม่เลือกตัดสินใจแยกทางกับพ่อ แทนที่สังคมจะชื่นชมผู้หญิงที่ตัดสินใจรับผิดชอบลูกทุกคน กลายเป็นว่าสังคมรอบตัวแม่ไม่ยอมรับผู้หญิงหม้าย พยายามยัดเยียดให้เป็นเมียคนนั้นเมียคนนี้ ในขณะที่แม่ยืนยันว่าเขาต้องการที่จะอยู่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว” คือสิ่งที่มัจฉาบอกเล่า สาดสะท้อนภาพให้เราเห็นทั้งความเข้มแข็งของแม่ และเห็นทั้งการกดขี่ทางเพศต่อผู้หญิง

อย่างที่สาม ที่เธอคาดหวังว่าจะเป็นอย่างสุดท้ายที่จะต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำ แม้ในความปรารถนาจะไม่อยากให้มีเลยก็ตาม คือการถูกเลือกปฏิบัติ ในฐานะที่เธอนิยามตัวเองว่าเป็นเลสเบี้ยน เธอเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า homophobia หรือการเกลียดชังคนที่มีความหลากหลายทางเพศ

อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม: https://waymagazine.org/intervire-matcha-phornin/
text: ศศิพร คุ้มเมือง

[NEWS] ของขวัญปีใหม่ให้ชาวม่วงงาม ศาลปกครองสงขลาพิพากษา 'ยกเลิกโครงการกำแพงกันคลื่นหาดม่วงงาม' สั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างร...
26/12/2024

[NEWS] ของขวัญปีใหม่ให้ชาวม่วงงาม
ศาลปกครองสงขลาพิพากษา 'ยกเลิกโครงการกำแพงกันคลื่นหาดม่วงงาม'
สั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมหาด ฟื้นฟูให้กลับสภาพเดิม และคงคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว

เมื่อ 25 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 นาฬิกา ศาลปกครองสงขลาอ่านผลแห่งคำพิพากษา
คดีหมายเลขดำที่ ส./๒๕๖๓ คดีหมายเลขแดงที่ ส./๒๕๖๗

กรณีผู้ฟ้องคดีทั้งห้าฟ้องว่าได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และโครงการก่อสร้างเชื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา (ระยะที่ 2) ของผู้ถูกพ้องคดีที่ 1 (กรมโยธาธิการและผังเมือง) และผู้ถูกพ้องคดีที่ 2 (กรมเจ้าท่า) โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา) ที่ออกใบอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำ ประเภทเขื่อนกันน้ำกัดเซาะ ให้แก่ผู้ถูกพ้องคดีที่ 1 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา ขอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดังกล่าว และเพิกถอนใบอนุญาติก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ออกให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 รวมทั้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกพ้องคดีที่ 2 ร่วมกันหรือแทนกันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามโครงการที่พิพาทออกจากบริเวณชายหาดม่วงงามทั้งหมด และปรับสภาพให้พื้นที่ชายหาดกลับคืนสู่สภาพเดิม

ศาลปกครองสงขลาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าโครงการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กรมโยธาธิการและผังเมือง) มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดม่วงงาม ลดการสูญเสียพื้นที่และลดความเสียหายของทรัพยากรชายฝั่ง เพื่อให้ชายฝั่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม เมื่อพิจารณาข้อมูลเอกสาร ภาพถ่าย ประกอบกับการตรวจสถานที่ที่ดำเนินโครงการพิพาทบริเวณชายหาดหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา แม้มีปัญหาการถูกคลื่นกัดเซาะบางจุดในช่วงมรสุม แต่ไม่รุนแรง และชายหาดสามารถฟื้นตัวกลับสู่สภาพปกติได้ จัดเป็นพื้นที่ชายฝั่งที่มีการกัดเซาะน้อย

แต่ผู้ถูกพ้องคดีที่ 1 เลือกใช้มาตรการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง คือโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตแข็งแบบขั้นบันไดบนชายหาดม่วงงาม ซึ่งมาตรการดังกล่าวเหมาะสมกับสภาพชายฝั่งที่มีปัญหาการกัดเซาะปานกลางถึงรุนแรง และเมื่อพิจารณาถึงประโยชน์อันเป็นความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อป้องกันตลิ่งริมทะเลกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของชายหาดที่จะต้องสูญเสียไปจากการดำเนินการดังกล่าวแล้ว การดำเนินโครงการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จะเกิดผลเสียต่อทรัพยากรธรรมชาติของชายหาดม่วงงามมากกว่า

ประโยชน์ที่จะได้รับในกรณีนี้จึงเป็นการเลือกใช้มาตรการป้องกันและแก้ปัญหาที่ไม่ได้สัดส่วนต่อการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะในพื้นที่ดังกล่าว อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักความได้สัดส่วน ทั้งกรณีดังกล่าวยังถือเป็นการจำกัดสิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ให้การรับรองและคุ้มครองไว้อีกด้วย การดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งห้า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงต้องดำเนินการเยียวยาความเสียหายจากการทำละเมิด โดยการทำให้ชายหาดม่วงงามกลับคืนสู่สภาพเดิมด้วยการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างตามโครงการดังกล่าวที่ได้ดำเนินการไปแล้วออกไปให้พ้นจากชายหาดม่วงงาม และปรับสภาพชายหาดม่วงงามให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

พิพากษาให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา (ระยะที่ 2) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างตามโครงการดังกล่าวที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และปรับสภาพชายหาดม่วงงามให้กลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด และให้คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีผลต่อไปจนกว่าคดีถึงที่สุดหรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

่วงงาม #กำแพงกันคลื่น #ทวงคืนชายหาด

ทบทวนการต่อสู้คัดค้านโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นของประชาชนได้ที่ https://waymagazine.org/seawall-on-donthalae-beach/

เวลา 07.58 นาฬิกาของวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 แผ่นเปลือกโลกบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตราเกิดการสั่นสะเทือนอย่...
26/12/2024

เวลา 07.58 นาฬิกาของวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 แผ่นเปลือกโลกบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตราเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวขนาด 9.1 ที่ความลึก 30 กิโลเมตร การขยับตัวของผืนธรณีเป็นระยะทางยาว 1,300 กิโลเมตรในครั้งนั้น ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีความสูงระหว่าง 15-51 เมตร ถาโถมเข้าสู่ชายฝั่งทั่วมหาสมุทรอินเดีย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายมากมายเหลือคณานับ

วันนั้นเองที่คนไทยส่วนใหญ่ได้รู้จักกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เรียกว่า #สึนามิ

ปัจจุบันสึนามิเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ยังไม่สามารถทำนายการเกิดล่วงหน้าได้ แม้จะมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยค้นหาคำตอบแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่มนุษย์ทำได้คือ การตรวจวัดและแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดสึนามิ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นตามมา

บทความนี้จะพาผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ‘วิทยาศาสตร์ของสึนามิ’ ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่มีสมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน และครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ควรรู้
----
สึนามิวิทยา 101: เรื่องราวของคลื่นยักษ์แห่งการทำลายล้าง
https://waymagazine.org/tsunamiology-101/
text: สมาธิ ธรรมศร

สำหรับนักอ่านที่สั่งซื้อหนังสือฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (ฉบับสะสม) ทางสำนักพิมพ์ WAY of BOOK ได้เริ่มดำเนินการจัดส่งเป...
25/12/2024

สำหรับนักอ่านที่สั่งซื้อหนังสือฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (ฉบับสะสม) ทางสำนักพิมพ์ WAY of BOOK ได้เริ่มดำเนินการจัดส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหนังสือกำลังเดินทางไปหานักอ่านทุกท่านในสัปดาห์นี้
สามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อได้ผ่านทาง
https://wayofbook.org/order-tracking/
* หากนักอ่านท่านใดพบปัญหาในคำสั่งซื้อของท่าน สามารถติดต่อกลับมาได้ทาง Inbox โดยทางสำนักพิมพ์จะรีบตอบกลับโดยเร็วที่สุด
#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

หนังสือฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (พิมพ์ครั้งที่ 5) ฉบับปกแข็งรอบพรีออเดอร์ กำลังเดินทางไปหานักอ่านทุกท่านแล้วในสัปดาห์นี้

สามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อได้ผ่านทาง
https://wayofbook.org/order-tracking/

* สำหรับผู้สั่งซื้อฉบับสะสมพร้อม bookcover จะเริ่มจัดส่งวันที่ 25 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป
* หากนักอ่านท่านใดพบปัญหาในคำสั่งซื้อของท่าน สามารถติดต่อกลับมาได้ทาง Inbox โดยทางสำนักพิมพ์จะรีบตอบกลับโดยเร็วที่สุด

#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

Q: ช่วยยกตัวอย่างความรู้ทางการเงินอะไรบ้างที่ลูกหนี้ควรทราบปัญหาเรื่องการขาดความรู้ทางการเงินที่เราพบบ่อยคือ กรณีลูกหนี้...
23/12/2024

Q: ช่วยยกตัวอย่างความรู้ทางการเงินอะไรบ้างที่ลูกหนี้ควรทราบ

ปัญหาเรื่องการขาดความรู้ทางการเงินที่เราพบบ่อยคือ กรณีลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระเกิน 3 เดือน และกลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งถ้าเขาเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ แล้วพยายามชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันสถานะในข้อมูลเครดิตของเขาจะเป็นหนี้ปกติทันที และถ้าเขาชำระตรงเวลาต่อเนื่อง 6 เดือนขึ้นไป เราเห็นเจ้าหนี้บางรายเริ่มพิจารณาปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แล้ว เพราะสะท้อนว่าลูกหนี้คนนี้มีความตั้งใจจะชำระหนี้ แต่คนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เขาหนีหนี้ พอหนีแล้วก็ต้องเสียเวลาจากการถูกฟ้องร้องอีกเป็นปี แล้วประวัติก็จะติดตัวเขาไปอีก 3 ปี ซึ่งเป็นทางออกที่ไม่ค่อยสวยนัก แต่ถ้าหากเขาเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ก็จะมีโอกาสแก้ตัวใหม่ได้

อีกปัญหาหนึ่งที่พบมากคือ หนี้บัตรเครดิต เมื่อเขาไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็มักไปเปิดบัตรใหม่เพื่อเอามาโปะบัตรเก่า ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ผิด บางคนเปิดบัตรใหม่เกือบ 10 ใบ ทำให้เจอปัญหาดอกเบี้ยทบต้น แต่ที่จริงถ้าเขาเป็นหนี้บัตรเครดิตเพียงเจ้าเดียวแล้วไปเข้ากระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ก็จะไม่มีดอกเบี้ยทบต้น เพราะการคิดดอกเบี้ยทบต้นถือว่าผิดกฎหมาย

และอีกกรณีคือ หนี้เรื้อรัง แม้จะมีประวัติชำระดี แต่ไม่สามารถปิดจบหนี้ได้ เพราะที่ผ่านมาจ่ายแต่ดอก อย่างเช่นกลุ่มลูกหนี้เกษตรกร จริงๆ แล้วธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดช่องให้โปะเงินต้นได้ แต่คนทั่วไปอาจไม่รู้ ซึ่งเราจะโทษว่าลูกหนี้ไม่มีความรู้ก็ไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ในการให้ความรู้ด้วย เพราะฉะนั้นมาตรการ responsible lending ของ ธปท. ในลำดับถัดไปจะเน้นไปที่บทบาทของเจ้าหนี้ในการให้ความรู้แก่ลูกหนี้มากขึ้นด้วย

แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) พูดคุยกับ อรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธปท. สำรวจมาตรการแก้ไข #หนี้ครัวเรือน พร้อมข้อแนะนำสำหรับลูกหนี้ในการบริหารจัดการการเงินอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาวะทางการเงินที่ดีตลอดช่วงชีวิต

อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม
https://fairfinancethailand.org/article/2024/interview-bot-oramone-chantapant/

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา ภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่ ราย...
23/12/2024

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา ภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่ รายเล็ก ไปจนถึงประชาชนทั่วไปล้วนประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง รายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ส่งผลให้ตัวเลขหนี้เสียและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เฝ้าติดตามแก้ไขสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน มาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (responsible lending) ตามมาด้วยมาตรการแก้หนี้เรื้อรัง เพื่อช่วยเหลือให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากกับดักหนี้ โดยคาดหวังว่าจะช่วยให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยลดลงสู่ระดับที่ยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาและอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) พูดคุยกับ อรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธปท. สำรวจมาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือนในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนติดตามผลลัพธ์การดำเนินการ พร้อมข้อแนะนำสำหรับลูกหนี้ในการบริหารจัดการการเงินอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาวะทางการเงินที่ดีตลอดช่วงชีวิต

#หนี้ครัว #แบงก์ชาติ

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา ภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่ รายเล็ก ไปจนถึงประชาชนทั่วไปล้วนประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง รายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ส่งผลให้ตัวเลขหนี้เสียและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เฝ้าติดตามแก้ไขสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน มาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (responsible lending) ตามมาด้วยมาตรการแก้หนี้เรื้อรัง เพื่อช่วยเหลือให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากกับดักหนี้ โดยคาดหวังว่าจะช่วยให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยลดลงสู่ระดับที่ยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาและอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) พูดคุยกับ อรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธปท. สำรวจมาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือนในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนติดตามผลลัพธ์การดำเนินการ พร้อมข้อแนะนำสำหรับลูกหนี้ในการบริหารจัดการการเงินอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาวะทางการเงินที่ดีตลอดช่วงชีวิต

#หนี้ครัว #แบงก์ชาติ

https://fairfinancethailand.org/article/2024/interview-bot-oramone-chantapant/

Dialogue with the Father: Documentary Theatre แสดงจบไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ธงชัย วินิจจะกูล เป็นหนึ่ง...
21/12/2024

Dialogue with the Father: Documentary Theatre แสดงจบไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ธงชัย วินิจจะกูล เป็นหนึ่งในผู้ชมวันนั้น เขาใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เรียบเรียงความคิดและตกตะกอนความรู้สึก แบ่งปันเป็น ‘บทสนทนา’ สั้นๆ เกี่ยวกับ วัฒน์ วรรลยางกูร ส่งตรงมาให้ WAY เผยแพร่

ในฐานะที่ Dialogue with the Father เป็นงานศิลปะชนิดหนึ่ง ธงชัยบอกกล่าวส่วนที่ตนเองชอบ และแสดงความเห็นบางประเด็นว่าสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ ซึ่งเป็นความเห็นทั่วไปที่คนเสพงานศิลปะทุกคนมีสิทธิแสดงออก

ในฐานะที่ ธงชัย วินิจจะกูล เป็นนักประวัติศาสตร์ เขายืนยันข้อความหนึ่งว่า - ไม่มีงานประวัติศาสตร์ใดๆ สามารถเล่าถึงอดีตได้ ‘ทั้งหมด’

แน่นอนว่า เนื้อหาใน Documentary Theatre เรื่องนี้ ส่วนที่ 'ทำงานกับความรู้สึก'ของธงชัยที่สุด ก็คือเนื้อหาส่วนที่บรรยายถึงบาดแผลความเจ็บปวดของ วัฒน์ วรรลยางกูร จากเหตุการณ์ 6 ตุลา

“ผมรู้สึกได้ว่าบาดแผลมันร้าวลึกเกินกว่าถ้อยคำใดๆ จะสื่อออกมาได้ เป็นความร้าวลึกที่รับรู้ได้ด้วยใจ บรรยายไม่ออก ผมตระหนักในห้วงขณะที่ชมการแสดงทันทีว่า ผมไม่เคยเข้าใจมากพอเลยว่า 6 ตุลากระทบกับผู้คนมากขนาดไหน”

เมื่อสัมผัสถึงรูปธรรมความเจ็บปวดร้าวลึกของวัฒน์ วรรลยางกูร ธงชัยพลันตระหนักว่า คำกล่าวถึง 6 ตุลาที่ว่า “เป็นประวัติศาสตร์บาดแผลที่ร้าวลึกเจ็บปวดมากสำหรับสังคมไทย” ช่างเป็นนามธรรมที่ผิวเผินเหลือเกิน

https://waymagazine.org/dialogue-with-the-father/

---
photo: Jiraphat Vinagupta

[New Release] ‘ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี’ พิมพ์ครั้งที่ 5 (ฉบับปกอ่อน)Bury My Heart at Wounded Kneeเขียนโดย ดี บราวน์ |...
20/12/2024

[New Release] ‘ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี’ พิมพ์ครั้งที่ 5 (ฉบับปกอ่อน)
Bury My Heart at Wounded Knee
เขียนโดย ดี บราวน์ | แปลโดย ไพรัช แสนสวัสดิ์
📖ความหนา 976 หน้า
📖ราคาปก 1,000 บาท

📦ช่องทางการสั่งซื้อ Kledthai
Website: https://kledthai.com/9786163291318.html
Shopee: https://shopee.co.th/kledthai/29421151246
Lazada: https://www.lazada.co.th/-i5520301711-s23442066852.html

----

ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (Bury My Heart at Wounded Knee) เป็นสารคดีเชิงประวัติศาสตร์ของนักเขียนอเมริกันชื่อ ดี บราวน์ (Dee Brown) ตีพิมพ์ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1970 ทันทีที่เผยแพร่ก็ติดอันดับ National Bestseller List ยาวนาน
เนื้อหาหลักของหนังสือ กล่าวถึงประวัติศาสตร์การสร้างชาติอเมริกันในช่วง ปี 1860-1890 อันเป็นช่วงเวลาที่เรียกกันว่า ‘การพิชิตตะวันตก’ ซึ่งแต่เดิมมักถูกบอกเล่าผ่านวีรกรรมความกล้าหาญของนักบุกเบิก นักร่อนทอง คนนำร่องเรือกลไฟ คาวบอย มือปืน พ่อค้าขนสัตว์ หมอสอนศาสนา ฯลฯ โดยมีชนพื้นเมืองอินเดียนเป็นนักปล้น หัวขโมย เจ้าเล่ห์เพทุบาย
ดี บราวน์ เลือกที่จะเล่าและใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์อธิบายในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ เรื่องราวทั้งหมดคือการรุกราน ไล่ต้อน คดโกงชนพื้นเมืองชาวอินเดียนเพื่อครอบครองผืนแผ่นดิน แร่ธาตุ ป่าไม้ ฝูงสัตว์ ก่อนจะนำมาสู่โศกนาฏกรรมการสังหารหมู่ชาวอินเดียนครั้งใหญ่ที่ตำบลวูนเด็ดนี ส่งผลให้อารยธรรมเก่าแก่ของชนเผ่าอินเดียนแห่งอเมริกาเหนือถูกทำลายสูญหายย่อยยับ
หากนับเส้นเวลาจากประวัติศาสตร์ ‘การพิชิตตะวันตก’ ตามโครงเรื่องเดิม กระทั่งถูกหักโค่นด้วยหลักฐาน เอกสาร จากการทำงานสืบค้นของ ดี บราวน์ ต้องใช้เวลาราว 100 ปี กว่าโลกจะยอมรับข้อเท็จจริงใหม่
ทันทีที่หนังสือเล่มนี้เผยแพร่ในสังคมอเมริกัน ดี บราวน์ จึงตกอยู่ในฐานะผู้แฉเรื่องราวอันเป็นอัปยศของชาติ (national disgrace) คนแรกๆ ในประวัติศาสตร์ คนอเมริกันจำนวนมากเพิ่งตระหนักถึงภูมิหลังพฤติกรรมชนชาติตน มันเป็นหนังสือที่ทำให้โลกทัศน์หลายคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน ฉากเหตุการณ์สังหารหมู่ที่วูนเด็ดนี ก็กลายเป็นตำนานที่ถูกบอกเล่า อ้างอิง แทรกซึมอยู่ในเรื่องเล่าของชาวอเมริกันจวบจนถึงปัจจุบัน
ฐานะทางประวัติศาสตร์ของ ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (Bury My Heart at Wounded Knee) จึงถือเป็น ‘ต้นแบบ’ ของหนังสือว่าด้วยเรื่องราวชนเผ่าอินเดียน ซึ่งมีผู้ผลิตเรื่องราวทำนองนี้ตามออกมาในภายหลังจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าเป็นหนังสือที่ว่าด้วยปรัชญาอินเดียน แนวคิดและวิถีชีวิตที่แนบแน่นกับธรรมชาติ รวมถึงถ้อยคำภาษาของชาวอินเดียนที่เรียบง่าย แต่งดงามและทรงพลังราวบทกวี
กล่าวได้ว่า หากต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ชนพื้นเมืองอินเดียนแห่งอเมริกาเหนือ ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (Bury My Heart at Wounded Knee) คือหนังสือเล่มบุกเบิกและครบถ้วนสมบูรณ์ ควรค่าแก่การอ่านและเก็บรักษาเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลก

#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

สถานการณ์สู้รบในรัฐยะไข่ ระหว่างกองทัพอาระกันกับกองทัพเมียนมากำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้น ทำให้ชาว  #โรฮิงญา (Rohingya) จำ...
19/12/2024

สถานการณ์สู้รบในรัฐยะไข่ ระหว่างกองทัพอาระกันกับกองทัพเมียนมากำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้น ทำให้ชาว #โรฮิงญา (Rohingya) จำนวนมากตกเป็นเป้าหมายการโจมตีจากทั้ง 2 ฝ่าย

จากการเปิดเผยของกองทัพอาระกันพบว่า มีชาวโรฮิงญาต้องไร้ที่อยู่อาศัยและพลัดถิ่นราว 130,000 คน จำต้องหนีภัยสงครามไปยังประเทศอื่นผ่านนายหน้า #ค้ามนุษย์ ที่ให้สัญญาว่าจะพาไปทำงาน โดยมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย แต่ระหว่างจะถูกทารุณกรรมเพื่อเรียกค่าไถ่หรือรีดทรัพย์จากญาติเหยื่อ

เส้นทางการค้ามนุษย์โรฮิงญาเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนที่เน้นทางเรือในทะเลอันดามัน แต่หลังจากถูกปิดเส้นทางโดยกองทัพเรือไทย ทำให้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางทางบกมากขึ้น โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน

https://waymagazine.org/new-route-human-trafficking/

หนังสือฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (พิมพ์ครั้งที่ 5) ฉบับปกแข็งรอบพรีออเดอร์ กำลังเดินทางไปหานักอ่านทุกท่านแล้วในสัปดาห์น...
19/12/2024

หนังสือฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี (พิมพ์ครั้งที่ 5) ฉบับปกแข็งรอบพรีออเดอร์ กำลังเดินทางไปหานักอ่านทุกท่านแล้วในสัปดาห์นี้

สามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อได้ผ่านทาง
https://wayofbook.org/order-tracking/

* สำหรับผู้สั่งซื้อฉบับสะสมพร้อม bookcover จะเริ่มจัดส่งวันที่ 25 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป
* หากนักอ่านท่านใดพบปัญหาในคำสั่งซื้อของท่าน สามารถติดต่อกลับมาได้ทาง Inbox โดยทางสำนักพิมพ์จะรีบตอบกลับโดยเร็วที่สุด

#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

ข้ายังไม่รู้ว่าทุกสิ่งมันจบสิ้นลงเพียงใดเมื่อข้าชราและมองย้อนกลับไปเสมือนยืนบนเนินเขาข้ายังคงมองเห็นร่างผู้หญิงและเด็กเห...
19/12/2024

ข้ายังไม่รู้ว่าทุกสิ่งมันจบสิ้นลงเพียงใด
เมื่อข้าชราและมองย้อนกลับไปเสมือนยืนบนเนินเขา
ข้ายังคงมองเห็นร่างผู้หญิงและเด็ก
เหยื่อการสังหารหมู่นอนตายก่ายกอง
ถมทับ กระจัดกระจายตามลำห้วยคดเคี้ยว
เป็นภาพเดียวกับที่ข้าเคยเห็นเมื่อวัยเยาว์
จงฟังเถิดหัวหน้าทั้งหลายของข้า
ข้าเหน็ดเหนื่อย หัวใจของข้าเป็นทุกข์และเศร้าหมอง
นับจากนี้ขณะที่ดวงตะวันกำลังส่องแวง
ข้าไม่จะไม่สู้รบอีกต่อไปตลอดกาล

— หัวหน้าโจเซฟ

----
‘ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี’ พิมพ์ครั้งที่ 5
Bury My Heart at Wounded Knee
เขียนโดย ดี บราวน์ | แปลโดย ไพรัช แสนสวัสดิ์
📖ความหนา 976 หน้า
📖ราคาปก 1,300 บาท
✨พิเศษ – สำหรับผู้สั่งซื้อกับทาง WAY of BOOK
• Postcard (ขนาด 10*15 ซม.) 4 แผ่น
• ฟรีค่าจัดส่งภายในประเทศ
📦ช่องทางการสั่งซื้อ WAY of BOOK
https://wayofbook.org/product/wounded-knee-5th/
📦หนังสือเริ่มจัดส่งตั้งแต่ วันที่ 18 ธ.ค. เป็นต้นไป
สำหรับนักอ่านที่สนใจฉบับปกอ่อนสามารถติดตามและสั่งซื้อได้ที่
บริษัท เคล็ดไทย จำกัด | www.kledthai.com
FB: kledthai | LINE:
#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

เมื่อไม่นานมานี้ ดัชนี ‘Trump Risk Index’ ที่จัดทำโดยมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม (Information Technology & Innov...
18/12/2024

เมื่อไม่นานมานี้ ดัชนี ‘Trump Risk Index’ ที่จัดทำโดยมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม (Information Technology & Innovation Foundation: ITIF) องค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐ จัดให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดอันดับ 2 รองจากเม็กซิโก ที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การนำของ #โดนัลด์ทรัมป์ ( )

บุคลิกความไม่แน่นอนและความกล้าได้กล้าเสียของทรัมป์ เป็นสิ่งที่นานาประเทศต้องเตรียมการรับมือเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานะเป็นลูกไล่ในสงครามการค้าของสหรัฐ

ความท้าทายจึงอยู่ที่ว่า ไทยพอจะมีคนที่มีภาพลักษณ์เป็นนักสู้ หรือมีภาวะผู้นำแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด (strongman) มากพอที่จะส่งไปปะทะคารมกับทรัมป์ในห้องเจรจาหรือไม่
---
Trump Risk Index: ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยใต้เงารัฐบาลทรัมป์ 2.0
https://waymagazine.org/trump-risk-index/

text: ป. ฐากูร

ไม่มีสิ่งใดดำรงชีวิตยืนนานนอกจากผืนโลกและขุนเขา— ไวต์แอนตีโลป----‘ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี’ พิมพ์ครั้งที่ 5Bury My Hea...
18/12/2024

ไม่มีสิ่งใดดำรงชีวิตยืนนาน
นอกจากผืนโลกและขุนเขา

— ไวต์แอนตีโลป

----
‘ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี’ พิมพ์ครั้งที่ 5
Bury My Heart at Wounded Knee
เขียนโดย ดี บราวน์ | แปลโดย ไพรัช แสนสวัสดิ์
📖ความหนา 976 หน้า
📖ราคาปก 1,300 บาท
✨พิเศษ – สำหรับผู้สั่งซื้อกับทาง WAY of BOOK
• Postcard (ขนาด 10*15 ซม.) 4 แผ่น
• ฟรีค่าจัดส่งภายในประเทศ
📦ช่องทางการสั่งซื้อ WAY of BOOK
https://wayofbook.org/product/wounded-knee-5th/
📦หนังสือเริ่มจัดส่งตั้งแต่ วันที่ 18 ธ.ค. เป็นต้นไป
สำหรับนักอ่านที่สนใจฉบับปกอ่อนสามารถติดตามและสั่งซื้อได้ที่
บริษัท เคล็ดไทย จำกัด | www.kledthai.com
FB: kledthai | LINE:
#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

การพิจารณาคดีลับย่อมทำได้ หากมีข้อยกเว้นอันสมควร“ถ้าคุณจะมองว่าการพิจารณาคดีลับคือการคุ้มครองจำเลย ก็ให้จำเลยเขาร้องขอสิ...
17/12/2024

การพิจารณาคดีลับย่อมทำได้ หากมีข้อยกเว้นอันสมควร

“ถ้าคุณจะมองว่าการพิจารณาคดีลับคือการคุ้มครองจำเลย ก็ให้จำเลยเขาร้องขอสิ ว่าต้องการให้พิจารณาคดีลับหรือไม่ ศาลไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจเอง และนี่เขาไม่ได้ร้องขอ”

สาวตรี บอกเล่าถึงเหตุผลการพิจารณาคดีลับที่ควรมีความเป็นกลางโดยปราศจากอคติของผู้พิพากษา โดยยกตัวอย่างในประเทศญี่ปุ่นที่บอกว่า การพิจารณาคดีและการพิพากษาต้องกระทำโดยเปิดเผย การพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับการกักขังก็ต้องให้ศาลกระทำโดยเปิดเผยด้วย และในคดีที่เป็นความผิดทางการเมืองก็ต้องพิจารณาคดีโดยเปิดเผยเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ซึ่งเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยถูกกักขังอิสรภาพโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ข้อสังเกตในคดี 112 ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกี่ยวพันกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และคนที่เกี่ยวโยงก็คือบุคคลสาธารณะที่ควรจะวิจารณ์ได้

ในข้อนี้หากศาลเห็นว่า การพิจารณาโดยเปิดเผยจะส่งผลกระทบต่อจำเลย แต่ท้ายที่สุดควรต้องให้จำเลยร้องขอ แต่เรื่องนี้จำเลยเขาไม่ได้ร้องขอ

“เวลาที่เราจะวิพากษ์วิจารณ์ศาลก็ดี หรือบุคคลผู้บังคับใช้กฎหมายก็ดี เราต้องวิจารณ์โดยใช้กฎหมายเป็นตัวตั้ง เพื่อที่จะชี้ให้ประชาชนเห็นว่ากฎหมายเขียนแบบนี้ แต่คุณทำไม่ตรงกับกฎหมาย เราต้องยืนหลักตรงนี้ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์เขาโดยอาศัยตัวกฎหมายมันจะสร้างความกระอักกระอ่วนให้กับคนพวกนี้มากที่สุด”

สาวตรีทิ้งท้ายไว้ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ศาล

“ถ้าใครพูด จะจับขังให้หมด” คำบอกเล่าจากห้องพิจารณาคดีลับ
https://waymagazine.org/story-from-a-secret-courtroom/

ธงชัย วินิจจะกูล พาไปทบทวนวรรณกรรมระดับโลกอย่าง ‘1984’ ที่ ‘พี่เบิ้ม’ บอกกับทุกคนว่า 2+2=5 และเราต่างต้องเชื่อแบบนั้น หา...
17/12/2024

ธงชัย วินิจจะกูล พาไปทบทวนวรรณกรรมระดับโลกอย่าง ‘1984’ ที่ ‘พี่เบิ้ม’ บอกกับทุกคนว่า 2+2=5 และเราต่างต้องเชื่อแบบนั้น หากจะยืนยันว่า 2+2=4 นั่นหมายความถึงการสูญสิ้นอิสรภาพ แต่ตัวเอกของเรื่องปฏิเสธสิ่งนั้น

“การที่ศาลบอกว่า การเรียกพยานเอกสารเป็นการละเมิดมาตรา 6 ตามรัฐธรรมนูญ แต่อานนท์ปฏิเสธว่าไม่ละเมิด เหมือนกับคนที่ไม่ยอมรับว่า 2+2=5 ห้องพิจารณาคดีจึงต้องปิดการพิจารณาให้เป็นความลับ ไม่ให้คนข้างนอกรู้ เพราะคนข้างนอกจำเป็นจะต้องเชื่อว่า 2+2=5 จริงๆ คุณห้ามพูดจนกว่าคุณจะยอมรับว่า 2+2=5 คุณถึงจะได้อิสระ”

ธงชัยกล่าวต่อว่า เหตุผลที่ศาลอธิบายต่อการกระทำในกระบวนการยุติธรรมนี้ เป็นเหตุผลที่คงเส้นคงวา เขายึดหลักบางอย่างอยู่ อย่าคิดว่าเขาไม่ยึดหลัก เขายึดอย่างเป็นระบบด้วย เพียงแต่มันขัดกับระบบกฎหมายปกติ

หลักทั่วไปบอกว่า กฎหมายมีไว้จำกัดอำนาจรัฐว่าอย่ามาก้าวล้ำปัจเจกบุคคล แต่สำหรับประเทศไทย เข้าใจว่ากฎหมายมีไว้จำกัดอำนาจประชาชน เพราะธรรมเนียมการเข้าใจกฎหมายของไทยเป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ระบอบนิติศาสตร์ไทยกำลังสร้างข้ออ้างสารพัด เพื่อให้เป็นระบอบนิติศาสตร์ที่รับใช้ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

“ถ้าใครพูด จะจับขังให้หมด” คำบอกเล่าจากห้องพิจารณาคดีลับ
https://waymagazine.org/story-from-a-secret-courtroom/

ทำไมศาลถึงสั่งพิจารณาคดีลับคดีของ อานนท์ นำภา จากกรณี  #ชุมนุมแฮรี่พอตเตอร์ เป็นที่มาของการพิจารณาแบบลับครั้งนี้ โดย จัน...
17/12/2024

ทำไมศาลถึงสั่งพิจารณาคดีลับ

คดีของ อานนท์ นำภา จากกรณี #ชุมนุมแฮรี่พอตเตอร์ เป็นที่มาของการพิจารณาแบบลับครั้งนี้ โดย จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ในฐานะทนายที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งวันที่ 27-28 พฤศจิกายน ได้ไล่เรียงเหตุการณ์โดยลำดับดังนี้

วันที่ 27 เป็นวันนัดสืบพยาน โดยให้ทนายจำเลยถามค้าน (โจทก์สืบพยานโดยซักถามไว้ครบถ้วนแล้ว) ในคดีมาตรา 112 ที่อานนท์ นำภา เป็นจำเลยจากการชุมนุมแฮรี่พอตเตอร์

อานนท์แถลงต่อศาลว่า ทนายความและจำเลยไม่สามารถใช้สิทธิถามค้านได้ เพราะศาลไม่ได้ออกหมายเรียกพยานเอกสารมาให้ประกอบการถามค้าน ซึ่งเป็นการจำกัดการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมของจำเลย

ศาลยืนยันว่าไม่สามารถออกหมายเรียกพยานเอกสารให้ได้ เพราะการออกหมายเรียกพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ จะเป็นการขัดมาตรา 6 ตามรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้

อานนท์โต้แย้งว่า มาตรา 6 กับวิธีพิจารณาความอาญาเป็นคนละส่วนกัน การออกหมายเรียกพยานเอกสารเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลที่จะทำให้คู่ความเข้าถึงความยุติธรรมได้

เมื่อเกิดการโต้แย้งกันไปมา ศาลอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ไม่ยอมออกหมายให้ อานนท์จึงแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการถอดเสื้อ เพื่อให้ศาลเห็นว่าตัวเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาไม่มีสิ่งอื่นใดจะทำได้นอกจากแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาล

“หลังจากอานนท์ถอดเสื้อ ศาลก็สั่งให้พิจารณาคดีลับ สั่งให้ทุกคนออกจากห้องพิจารณาคดีภายใน 5 นาที หากใครยังฝ่าฝืนคำสั่งศาล ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลมาควบคุมตัวลงไปขัง” จันทร์จิรากล่าว

วันถัดมาคือวันที่ 28 พฤศจิกายน ศาลให้อานนท์นำพยานจำเลยเข้าสืบ จันทร์จิราเล่าว่า อานนท์แถลงต่อศาลว่าไม่สามารถสืบพยานจำเลยได้ เนื่องจากกระบวนการพิจารณาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุ 3 ประการ คือ

1. ศาลไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญเข้ามาในคดี
2. ศาลสั่งพิจารณาคดีลับโดยไม่มีเหตุตามกฎหมาย
3. คดีนี้จำเลยยื่นคำร้องขอเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา เนื่องจากมีอคติชัดเจน แต่ศาลไม่ยอมเปลี่ยนให้ จึงไม่สามารถสืบพยานได้ เพราะจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

“เราอยากจะอ่านคำร้องที่อานนท์ยื่นต่อศาลให้ทุกคนได้ฟัง ส่วนหนึ่งของคำร้องบอกว่า ‘การสั่งพิจารณาคดีลับโดยไม่มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย ทำให้จำเลยไม่อาจเข้าใจเหตุผลเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากเป็นไปเพื่อปกปิดพฤติการณ์ในทางไม่ชอบของศาลเอง’” จันทร์จิรากล่าว

วงเสวนาครั้งนี้เป็นการยกกรณีศึกษาในการพิจารณาคดีของอานนท์ แต่เนื้อหานั้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรมไทยในภาพรวม กล่าวคือ การพิจารณาคดีลับ แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นให้สามารถทำได้ เช่น คดีเยาวชน คดีข่มขืน เพื่อประโยชน์ต่อเหยื่อ หรือเด็กและเยาวชน แต่สำหรับกรณีของทนายอานนท์ ยังไม่สามารถหาเหตุผลอันสมควรได้

กฤษฎางค์ยืนยันว่า การเรียกร้องเรื่องนี้เพื่อหลักการที่ถูกต้อง ศาลต้องออกมาตอบให้ได้ว่าทำไมจึงพิจารณาคดีลับ ประชาชนต้องได้รับคำตอบ เพราะนี่คือสิ่งที่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนทุกๆ คน

นอกจากเรื่องเล่าของทนายแล้ว ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ธงชัย วินิจจะกูล ได้อยู่ในห้องพิจารณาคดีด้วย อันนำมาซึ่งข้อสังเกตของการใช้หลักกฎหมายของศาลอันน่าสนใจ

อ่านบทความต่อที่ https://waymagazine.org/story-from-a-secret-courtroom/

ที่อยู่

339/1 อ่อนนุช 66 ซอย 7 แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
Bangkok
10250

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

+6621214979

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ WAYผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง WAY:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์