WAY bitter life, better world
(338)

WAY เคยเป็นสิ่งพิมพ์รายเดือน ตีพิมพ์เผยแพร่ฉบับแรก ตุลาคม พ.ศ. 2549 เป็นนิตยสารที่มีเนื้อหาหนักแน่น แต่รูปแบบนำเสนออุดมด้วยความคิดสร้างสรรค์ ครอบคลุมประเด็นทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ศิลปะ และไลฟ์สไตล์

WAY ก่อตั้งโดย อธิคม คุณาวุฒิ เป็นการรวมตัวของคนหนุ่มสาวที่ชำนาญการทำนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ที่สนใจข่าวสารความเคลื่อนไหวทางสังคม และเป็นแหล่งชุมนุมคอลัมนิสต

์คุณภาพสูง

waymagazine.org คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนิตยสาร WAY เปิดตัวในปี 2555 เพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนไป เป็นศูนย์รวมงานชิ้นสื่อสารในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบของ WAY ไม่ว่าจะเป็นข้อเขียน ภาพถ่าย กราฟิก วิดีโอ โดยทำงานร่วมกับเครื่องมือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันและอนาคต

การถูกตำหนิจากทั่วสารทิศทั้งในและนอกประเทศ ภายหลังรัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์กว่า 40 คนคืนรัฐบาลจีน เป็นเรื่องปกติที่ควรเก...
04/03/2025

การถูกตำหนิจากทั่วสารทิศทั้งในและนอกประเทศ ภายหลังรัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์กว่า 40 คนคืนรัฐบาลจีน เป็นเรื่องปกติที่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่ละเมิดข้อตกลงด้านสิทธิมนุษยชนต่อประชาคมโลกอย่างตรงไปตรงมา

ในฐานะผู้อยู่ในชุมชนนักนโยบายต่างประเทศ ‘ป.ฐากูร’ ตั้งคำถามต่อเนื่องว่า นอกเหนือจากรัฐบาลไทยแล้ว ยังมีตัวละครใดในเวทีโลกอีกบ้างที่สมควรถูกกล่าวโทษ จากเหตุการณ์ครั้งนี้

รัฐบาลจีนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้แน่ๆ มันเป็นแรงส่งต่อเนื่องจากการเอื้อมมือข้ามอธิปไตยทางกฎหมาย เข้ามาจัดการกับจีนเทาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

นโยบายของโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐที่เคยเป็นฝ่ายชูประเด็นสิทธิมนุษยชน เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างแน่นอน นับตั้งแต่นโยบายขวาจัดยุคทรัมป์1.0 จนถึงยุคที่หวุดหวิดเกือบวางมวยกับผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาว ท่าทีแข็งกร้าวห้าวเป้งเช่นนี้ ทำให้เสียงคำรามของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐต่อรัฐบาลไทย กลายเป็นเสียงร้องหงอยๆ ภายในพริบตา

ภายใต้สถานะ ‘มณฑลไท่กั๋ว’ คำว่า จึงถูกยกขึ้นมาอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า คู่ขนานไปกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ตกต่ำทั่วทั้งโลก

https://waymagazine.org/realpolitik-in-uyghurs-case/

[NEWS] แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้ไทยส่ง ‘อุยกูร์’ กลับไป เสี่ยงถูกปฏิบัติอย่างทารุณภายหลังข่าวลือการส่งตัวชาวอุยกูร...
27/02/2025

[NEWS] แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้ไทยส่ง ‘อุยกูร์’ กลับไป เสี่ยงถูกปฏิบัติอย่างทารุณ

ภายหลังข่าวลือการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีนเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ชาวอุยกูร์ประมาณ 40 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2557 ถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศจีนในวันนี้ ภายหลังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ชาวอุยกูร์ 40 คน เดินทางถึงประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซาราห์ บรูคส์ ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศจีน เผยว่า การบังคับส่งชาวอุยกูร์เหล่านี้กลับไปยังจีน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชี้แจงสถานะของพวกเขาโดยทันที

"พวกเขาหนีจากการปราบปรามในจีน แต่มาถูกควบคุมตัวโดยพลการในประเทศไทยนานกว่าทศวรรษ ความจริงที่ว่าตอนนี้พวกเขาอาจถูกบังคับส่งตัวกลับไปยังประเทศที่ชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่ใช่ชาวฮั่นในซินเจียงต้องเผชิญกับการทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย การควบคุมตัวโดยพลการ และการบังคับให้สูญหาย เป็นสิ่งที่โหดร้ายเกินจะจินตนาการ" บรูคส์กล่าว

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยไม่ละเมิดหลักการไม่ส่งกลับ (Non-refoulement principle) ซึ่งหลักการนี้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับนานาชาติและภายในประเทศ

เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดในขณะที่ประเทศไทยเพิ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHRC

ข้อเรียกร้องในแถลงการณ์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า

"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนเปิดเผยที่อยู่ของบุคคลเหล่านี้ และหากพวกเขายังคงถูกควบคุมตัวอยู่ รัฐบาลจะต้องรับรองว่าสิทธิของพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ รวมถึงสิทธิที่จะไม่ถูกทรมาน หรือถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย หรือไร้มนุษยธรรม”

ทั้งนี้ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์หลายคนมีสุขภาพย่ำแย่จากการถูกควบคุมตัวเป็นเวลาหลายปี ควรต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมและเพียงพอ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ยุติความทุกข์ทรมานของพวกเขา และให้ทางการรับรองสิทธิในการเดินทางอย่างเสรีของพวกเขา ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาควรได้รับโอกาสให้กลับไปพบกับครอบครัวอย่างปลอดภัย

บุคคลที่ถูกส่งกลับในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชาวอุยกูร์ประมาณ 300 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยควบคุมตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2557 หลังจากพวกเขาหนีการประหัตประหารและการเลือกปฏิบัติในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน โดยในเดือนกรกฎาคม 2558 มีบุคคล 109 คนจากกลุ่มนี้ที่ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน

ในปี 2564 แอมเนสตี้ออกรายงานว่า รัฐบาลจีนได้กระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างน้อยในรูปแบบของการกักขังโดยพลการ การทรมาน และการกดขี่ข่มเหงชาวอุยกูร์ คาซัค และกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมอื่นๆ ในซินเจียง

ประเทศไทยมีพันธกรณีภายใต้หลักการไม่ส่งกลับ (Non-refoulement principle) ห้ามไม่ให้ส่งกลับบุคคลไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม หากบุคคลดังกล่าวเสี่ยงภัยที่จะได้รับการทรมานหรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง

ท่าทีของรัฐบาลไทยต่อเรื่องนี้จึงถูกจับตาจากทั่วโลก

photo: สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

 #บัญชีม้า ‘หัวใจ’ ของคอลเซ็นเตอร์หลายคนมีความเข้าใจว่า ‘บัญชีม้า’ คือ บัญชีธนาคารที่มีการโอนเงิน เข้า-ออก ในระยะเวลาอัน...
27/02/2025

#บัญชีม้า ‘หัวใจ’ ของคอลเซ็นเตอร์

หลายคนมีความเข้าใจว่า ‘บัญชีม้า’ คือ บัญชีธนาคารที่มีการโอนเงิน เข้า-ออก ในระยะเวลาอันสั้นหรือแทบไม่มีเงินติดบัญชี จนคนไทยพูดติดตลกว่า บัญชีธนาคารของตนเองนั้นเป็นบัญชีม้าอย่างแน่นอน เพราะจำต้องนำเงินรายได้ไปใช้จ่ายผ่อนหนี้ผ่อนสินของตนเองแบบโอนจ่ายไว ไร้เงินติดบัญชี
อย่างไรก็ตาม เงินออกจากบัญชีอย่างรวดเร็ว เป็นเพียงหนึ่งในการตั้งข้อสังเกตลักษณะของบัญชีม้าเท่านั้น

ตามการนิยามของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บัญชีม้า หมายถึง บัญชีเงินฝากธนาคารหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ของบุคคลอื่น ที่นำมาใช้เป็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนถ่ายเงิน การรับเงินโอน ที่มาจากการกระทำผิดกฎหมายอย่างรวดเร็ว โดยจะส่งต่อไปยังบัญชีอื่นๆ อีกทั้งสิ้น 5 ทอด หรืออาจมากกว่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัวผู้กระทำผิดได้ ซึ่งถือว่าเป็น ‘หัวใจ’ ของการหลอกลวงทางออนไลน์

💳บัญชีม้า สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่

1. บัญชีม้าแบบขายขาด - บัญชีที่เหยื่อรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนขายขาดให้กลุ่มมิจฉาชีพเพื่อนำไปก่ออาชญากรรม โดยกลุ่มที่รับซื้อบัญชีมักจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (call centre) เป็นบัญชีที่มีการซื้อขายสูงราว 1,500 บาทขึ้นไป

2. บัญชีม้าเลี้ยง - บัญชีม้าแบบเช่ารายเดือน ที่เหยื่อรับจ้างดำเนินการเปิดบัญชีธนาคาร มีการซื้อขายตั้งแต่ 30,000 บาท พร้อมจ่ายค่าดูแลเป็นรายเดือนราว 5,000-10,000 บาท โดยบัญชีชนิดนี้ได้รับความนิยมในหมู่วงการพนันออนไลน์

3. บัญชีม้านิติบุคคล - บัญชีที่เหยื่อถูกจ้างวานให้ไปจดทะเบียนบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน จากนั้นนำหลักฐานการจดทะเบียนไปเปิดบัญชีธนาคารแบบนิติบุคคล ซึ่งเป็นบัญชีที่มีการซื้อขายสูงถึง 150,000 บาท

โดยบัญชีม้าที่กลุ่มมิจฉาชีพนิยมใช้มักจะเป็น ‘บัญชีส่วนบุคคล’ ซึ่งสามารถจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติหรือกลลวง หากกลุ่มมิจฉาชีพมีการแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากการรับโอนเงินโดยหน่วยงานราชการหรือเอกชน จะใช้บัญชีที่เป็นของหน่วยงานนั้นๆ พร้อมส่งหนังสือชี้แจงเสมอ
สถิติล่าสุดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เผยว่า จากความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในการดำเนินการระงับบัญชีม้า พบว่า มีบัญชีม้าถูกระงับไปแล้วทั้งสิ้น 1,660,000 บัญชี ภายในเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

การเปิดบัญชีม้าไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนมิจฉาชีพในการกระทำความผิด แต่ยังทำให้เจ้าของบัญชีมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยไม่สามารถใช้ข้ออ้างว่า "ไม่รู้" หรือ "ถูกหลอกให้เปิดบัญชี" มาหลีกเลี่ยงความรับผิดได้ การเปิดบัญชีม้าแม้เพียงครั้งเดียว อาจทำให้คุณกลายเป็นผู้ต้องหา และส่งผลกระทบต่อประวัติทางการเงิน รวมถึงโอกาสในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ดังนั้น อย่าหลงเชื่อข้อเสนองานที่ให้ค่าตอบแทนสูงจากการเปิดบัญชีธนาคารหรือให้เช่าบัญชี และหากพบพฤติกรรมต้องสงสัย ให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ

#บัญชีม้า ‘หัวใจ’ ของคอลเซ็นเตอร์

หลายคนมีความเข้าใจว่า ‘บัญชีม้า’ คือ บัญชีธนาคารที่มีการโอนเงิน เข้า-ออก ในระยะเวลาอันสั้นหรือแทบไม่มีเงินติดบัญชี จนคนไทยพูดติดตลกว่า บัญชีธนาคารของตนเองนั้นเป็นบัญชีม้าอย่างแน่นอน เพราะจำต้องนำเงินรายได้ไปใช้จ่ายผ่อนหนี้ผ่อนสินของตนเองแบบโอนจ่ายไว ไร้เงินติดบัญชี

อย่างไรก็ตาม เงินออกจากบัญชีอย่างรวดเร็ว เป็นเพียงหนึ่งในการตั้งข้อสังเกตลักษณะของบัญชีม้าเท่านั้น

ตามการนิยามของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บัญชีม้า หมายถึง บัญชีเงินฝากธนาคารหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ของบุคคลอื่น ที่นำมาใช้เป็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนถ่ายเงิน การรับเงินโอน ที่มาจากการกระทำผิดกฎหมายอย่างรวดเร็ว โดยจะส่งต่อไปยังบัญชีอื่นๆ อีกทั้งสิ้น 5 ทอด หรืออาจมากกว่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัวผู้กระทำผิดได้ ซึ่งถือว่าเป็น ‘หัวใจ’ ของการหลอกลวงทางออนไลน์

💳บัญชีม้า สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่

1. บัญชีม้าแบบขายขาด - บัญชีที่เหยื่อรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนขายขาดให้กลุ่มมิจฉาชีพเพื่อนำไปก่ออาชญากรรม โดยกลุ่มที่รับซื้อบัญชีมักจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (call centre) เป็นบัญชีที่มีการซื้อขายสูงราว 1,500 บาทขึ้นไป

2. บัญชีม้าเลี้ยง - บัญชีม้าแบบเช่ารายเดือน ที่เหยื่อรับจ้างดำเนินการเปิดบัญชีธนาคาร มีการซื้อขายตั้งแต่ 30,000 บาท พร้อมจ่ายค่าดูแลเป็นรายเดือนราว 5,000-10,000 บาท โดยบัญชีชนิดนี้ได้รับความนิยมในหมู่วงการพนันออนไลน์

3. บัญชีม้านิติบุคคล - บัญชีที่เหยื่อถูกจ้างวานให้ไปจดทะเบียนบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน จากนั้นนำหลักฐานการจดทะเบียนไปเปิดบัญชีธนาคารแบบนิติบุคคล ซึ่งเป็นบัญชีที่มีการซื้อขายสูงถึง 150,000 บาท

โดยบัญชีม้าที่กลุ่มมิจฉาชีพนิยมใช้มักจะเป็น ‘บัญชีส่วนบุคคล’ ซึ่งสามารถจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติหรือกลลวง หากกลุ่มมิจฉาชีพมีการแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากการรับโอนเงินโดยหน่วยงานราชการหรือเอกชน จะใช้บัญชีที่เป็นของหน่วยงานนั้นๆ พร้อมส่งหนังสือชี้แจงเสมอ

สถิติล่าสุดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เผยว่า จากความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในการดำเนินการระงับบัญชีม้า พบว่า มีบัญชีม้าถูกระงับไปแล้วทั้งสิ้น 1,660,000 บัญชี ภายในเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

การเปิดบัญชีม้าไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนมิจฉาชีพในการกระทำความผิด แต่ยังทำให้เจ้าของบัญชีมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยไม่สามารถใช้ข้ออ้างว่า "ไม่รู้" หรือ "ถูกหลอกให้เปิดบัญชี" มาหลีกเลี่ยงความรับผิดได้ การเปิดบัญชีม้าแม้เพียงครั้งเดียว อาจทำให้คุณกลายเป็นผู้ต้องหา และส่งผลกระทบต่อประวัติทางการเงิน รวมถึงโอกาสในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ดังนั้น อย่าหลงเชื่อข้อเสนองานที่ให้ค่าตอบแทนสูงจากการเปิดบัญชีธนาคารหรือให้เช่าบัญชี และหากพบพฤติกรรมต้องสงสัย ให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ

“ผมไม่เคยกลัวการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะผมมั่นใจในหลักการ เราทำสิ่งที่ถูกต้องและสุจริตตามวิชาชีพ เมื่อเผชิญกับควา...
23/02/2025

“ผมไม่เคยกลัวการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะผมมั่นใจในหลักการ เราทำสิ่งที่ถูกต้องและสุจริตตามวิชาชีพ เมื่อเผชิญกับความกดดัน ผมมีหลักคิดว่า ถ้าเขาเถียงสู้เราไม่ได้ อย่างมากเขาก็ขังเรา...

“การได้เรียนกฎหมายและใช้กฎหมายเพื่อพี่น้องผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถือเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับผม อาจฟังดูกระแดะ แต่มันเป็นเช่นนั้น และเป็นมาโดยตลอด” - ทนายอานนท์ นำภา

ข้อความข้างต้นคือส่วนหนึ่งจาก #ขนนกบนตราชู หนังสือเล่มล่าที่จัดทำโดย #ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (Thai Lawyers for Human Rights: TLHR) เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวชีวิตและการต่อสู้ของ 10 ทนายความที่ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย ท่ามกลางความอยุติธรรมที่แผ่คลุมไปทั่วสังคมไทย

20 กุมภาพันธ์ #วันทนายความ จึงเป็นฤกษ์งามยามดีของการจัดเวทีเสวนาเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ ภายใต้ชื่องาน ‘ขนนกบนตราชู: บทบาททนายความในการปกป้องสิทธิมนุษยชน’ โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์ บรรณาธิการหนังสือ จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความเครือข่าย TLHR ดร.สงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และวัลย์นภัสร์ เจนร่วมจิต เป็นผู้ดำเนินรายการ

---
ขนนกบนตราชู: เรื่องเล่าการต่อสู้ของ 10 ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
https://waymagazine.org/tlhr-book-feather-on-a-scale/

text: อาทิตย์ เคนมี

WAY x FFT คว้ารางวัลชมเชย ‘สื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน’ จาก Amnesty International Thailandเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ...
18/02/2025

WAY x FFT คว้ารางวัลชมเชย ‘สื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน’ จาก Amnesty International Thailand

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Amnesty International Thailand) จัดงานประกาศผลและมอบรางวัล ‘สื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2567’ ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น จตุจักร กรุงเทพฯ สำหรับผลงานสื่อมวลชนดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนในประเภทต่างๆ ทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ สื่อโทรทัศน์ คลิปวิดีโอออนไลน์ และภาพถ่าย ในหัวข้อ ‘สิทธิมนุษยชน’

โดยในปี 2567 ผลงานสารคดีเชิงข่าวเรื่อง ‘การเดินทางของเม็ดเงิน: ธุรกิจข้ามชาติ ผลประโยชน์รัฐ ธุรกรรมการเงิน และสถานการณ์หลังรัฐประหารในเมียนมา’ ได้รับรางวัลชมเชย ข่าวและสารคดีเชิงข่าว ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์ หลังจากได้รับการคัดเลือกจากทางคณะกรรมการให้เป็น 1 ใน 8 ผลงานเข้าชิงรางวัลจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 63 ชิ้น

โดยคณะกรรมการชี้ว่า นี่เป็นผลงานที่มีศิลปะในการเล่าเรื่อง มีองค์ประกอบครบถ้วนทั้งภาพ ข้อมูล อินโฟกราฟิก และข้อกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน มีมุมมองที่หลากหลาย ทำให้เห็นปัญหาในภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในเมียนมามากยิ่งขึ้น

พุทธณี กางกั้น ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ในฐานะผู้มอบรางวัล กล่าวชื่นชม WAY ว่า “บทความชิ้นนี้เป็นหนึ่งในบทความที่ดีมากๆ ในงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนและเชิงวิจัยที่ละเอียดลึกซึ้งเกี่ยวกับธุรกิจและสิทธิมนุษยชน และผลงานชิ้นนี้ควรจะถูกใช้ประโยชน์ในการทำงานเชิงนโยบายต่อสถานการณ์ในเมียนมา”

ผลงานชิ้นนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand: FFT) และ WAY ภายใต้กรอบแนวคิดและความเชี่ยวชาญด้านการเงินการธนาคารของ FFT องค์กรภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนการธนาคารที่ยั่งยืน และประสบการณ์ในการทำงานข่าวของ WAY จึงได้ร่วมกันผลิตสารคดีเชิงข่าวชิ้นนี้ขึ้น โดยขยายผลจากรายงานของผู้เสนอรายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ ซึ่งให้คำอธิบายบนหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ที่ธนาคารไทยทั้ง 5 แห่งที่ปรากฏในรายงานนั้นได้ประกาศรับหลักการแล้ว

ผลงานชิ้นนี้มีความมุ่งหวังว่าจะมีส่วนช่วยย่นระยะห่างของความเข้าใจ จากเหตุความรุนแรงในเมียนมาถึงธนาคารพาณิชย์ไทย เพื่อสร้างการตระหนักและข้อเสนอเชิงนโยบายในการตรวจสอบธุรกรรมอย่างเข้มข้น (Enhanced Due Diligence: EDD) เพื่อต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งทางตรงและทางอ้อม อันจะช่วยปกป้องสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคนี้ต่อไป

อ่านบทความที่นี่: https://waymagazine.org/the-journey-of-money-thai-myanmar-financial-relationship-after-the-coup/

การประกาศยุบองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development: USAID)...
14/02/2025

การประกาศยุบองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development: USAID) เหตุผลหนึ่งเพราะ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ต้องการให้มีผู้พยายามก่อรัฐประหารเงียบ คอยบ่อนทำลายฐานอำนาจของตนแบบที่เกิดขึ้นในสมัยแรก จึงไม่ใช่เรื่องพิสดารอันใด หากทรัมป์จะพยายามใช้เกมยุบ USAID นี้เพื่อถ่ายเลือดเก่าที่ถูกมองว่าเป็นพิษออกจากองค์กร

และใช่ว่าความเป็นองค์กรของ จะอันตรธานหายไปเสียทีเดียว เพราะเป็นที่ทราบดีว่าภารกิจของ USAID เป็นขาที่ขาดไม่ได้ขาหนึ่งของนโยบายต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะองค์กรที่คอยส่งเงินส่งท่อน้ำเลี้ยงช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา/ด้อยพัฒนา เพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาลที่สหรัฐจะได้รับ

การปิดหรือยุบ USAID จึงแทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ คำถามสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่า ทรัมป์จะหาทางลงให้ USAID อย่างไรโดยที่ก่อความเสียหายต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐน้อยที่สุด

อ่านเกมยุบ USAID ถ่ายเลือดเก่า เปิดทางคนในของรัฐบาลทรัมป์ 2.0
https://waymagazine.org/trump-and-usaid/

[NEWS] โอนคดี สุชาติ สวัสดิ์ศรี ม.116 จากพัทลุง มาที่ บช.ก. ทนายสิทธิชี้ช่อง โอนย้ายคดีฟ้องกลั่นแกล้งในพื้นที่ห่างไกลได้...
13/02/2025

[NEWS] โอนคดี สุชาติ สวัสดิ์ศรี ม.116 จากพัทลุง มาที่ บช.ก.
ทนายสิทธิชี้ช่อง โอนย้ายคดีฟ้องกลั่นแกล้งในพื้นที่ห่างไกลได้

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือแจ้งถึงนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ จากกรณีถูกร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหา ม.116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยให้โอนคดีดังกล่าวให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รับผิดชอบดำเนินการสอบสวนแต่เพียงผู้เดียว ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568

คดีฟ้องร้องกล่าวหานายสุชาติ สวัสดิ์ศรี หรือ ‘สิงห์สนามหลวง’ บรรณาธิการ นักคิดนักเขียน และศิลปินแห่งชาติผู้ถูกถอดถอน เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจต่างๆ หลายจังหวัด จากเหตุแชร์คลิปวิดีโอจากเพจ iLaw เรื่อง ‘10 ข้อที่คนไม่รู้เกี่ยวกับ #มาตรา112’

ต่อมา สภ.ศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ได้ออกหมายเรียก จนเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายสุชาติและทีมทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางไปยังจังหวัดพัทลุง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

นายสัญญา เอียดจงดี หนึ่งในทีมทนายความ ระบุว่า คดีนี้มีลักษณะการแจ้งความแบบปูพรมในพื้นที่ห่างไกลหลายพื้นที่ ทำให้เกิดภาระกับผู้ถูกกล่าวหาในการต่อสู้คดี ซึ่งผู้แจ้งอาจมีวาระซ่อนเร้น มากกว่าการอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เช่นเดียวกับนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทีมทนายความ ที่ระบุว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน จึงไม่ควรใช้กฎหมายแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา

ทั้งนี้ คำสั่งให้มีการโอนย้ายคดีมายัง บช.ก. ถือเป็นกรณีตัวอย่างว่าหากมีคดีที่จงใจแจ้งความกลั่นแกล้งในพื้นที่ห่างไกล ย่อมสามารถโอนย้ายได้ตามเหตุผลความจำเป็นในการต่อสู้คดีของผู้ถูกกล่าวหา

คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง หรือ อาจารย์ตุล ได้จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวWAY ขอร่ว...
09/02/2025

คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง หรือ อาจารย์ตุล ได้จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว

WAY ขอร่วมไว้อาลัยนักวิชาการทางปรัชญา ผู้เชี่ยวชาญด้านฮินดูอย่างลึกซึ้ง ด้วยการชวนอ่านบทสัมภาษณ์ประเด็นแง่มุมทางศาสนากับการขอโทษ เพื่อสืบต่อองค์ความรู้และปัญญาแก่สังคมต่อไป

คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง: สำนึกของการขอขมาและคุณค่าของการให้อภัย
https://waymagazine.org/interview_komkrit/

เรื่อง: รุ่งฤทธิ์ เพ็ชรรัตน์ และ ณิชากร ศรีเพชรดี
ภาพ: อนุชิต นิ่มตลุง

(เผยแพร่เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2560)

04/02/2025

แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand)
ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน ‘การปรับตัวรับโลกรวนและคะแนน ESG ของภาคธนาคารไทย’ สดจากศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand Learning Center)

#ช่วงบ่าย
13.40 น.
แถลงผลประเมินธนาคารปีที่ 7 โดย คณะวิจัยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรม และพิธีมอบรางวัลประจำปี 2567

14.45 น.
เวทีเสวนาและถาม-ตอบ ในหัวข้อ ‘Ensuring Access to Remedy: Strategies for Thai Banks to Develop Effective Grievance Mechanisms’ โดย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินการธนาคาร และนักสิทธิมนุษยชน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางการเงิน เพื่อความยั่งยืนในภาคการเงินการธนาคาร ในภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในหลายด้าน

04/02/2025

FB live: Adapting to Climate Change and ESG Scores of Thai Banks (Afternoon session)

📌 Join us on 4 February 2025 starting from 09.00 to 16.15 (GMT+7) at Bank of Thailand Learning Center, 5th floor. for in-depth discussions on climate resilience, sustainable finance, and grievance mechanisms in the Thai banking sector.

🔹 7th Annual ESG Assessment & 2024 Awards Ceremony

🔹 Panel Discussion: Ensuring Access to Remedy – Effective Grievance Mechanisms for Thai Banks

- Ms. Annefloor Alting, Human Rights Specialist, Sustainability Centre of Excellence, ABN AMRO

- Ms. Sayamol Kaiyoorawongs, National Human Rights Commissioner of Thailand, Office of the National Human Rights Commission of Thailand

- Ms. Sor Rattanamanee Polkla, Executive Coordinator, the Community Resource Centre Foundation

- Ms. Cheraporn Siripalang Thummas, Justice Officer, Senior Professional Level, Rights and Liberties Protection Department

- Moderator: Kannikar Kijtiwatchakul, Host of Morning World Review, FM96.

04/02/2025

แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand)

ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน ‘การปรับตัวรับโลกรวนและคะแนน ESG ของภาคธนาคารไทย’
พบกับประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการธนาคารที่น่าสนใจตลอดทั้งวัน ดังต่อไปนี้:

#ช่วงเช้า
09.45 น.
การนำเสนอกรณีศึกษาเรื่อง ‘การเปิดเผยข้อมูลของธนาคารไทยตามข้อเสนอแนะของ TCFD ปี 2567’ โดย คณะวิจัยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย

10.40 น. เวทีเสวนาและถาม-ตอบ ในหัวข้อ ‘เส้นทางสู่ Net Zero ในภาคธนาคาร: ความท้าทายและโอกาส’ โดย ผู้แทนจากธนาคาร ผู้แทนจาก International Finance Corporation (IFC) และผู้แทนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

04/02/2025

Join us on 4 February 2025 starting from 09.00 to 16.15 (GMT+7) at Bank of Thailand Learning Center, 5th floor. for in-depth discussions on climate resilience, sustainable finance, and grievance mechanisms in the Thai banking sector.

📌 Morning Session (09.00 - 13.00)

🔹 Presentation: Comparative Analysis of Thai Banks’ Climate Disclosures (2024)

🔹 Panel Discussion: Net Zero Pathway in Banking – Challenges & Opportunities

- Mr. Chow Wong Yuen, Chief Sustainability Officer, UOB Thailand

- Ms. Thuy Thu Bui, Principal Investment Officer, Financial Institutions Group, International Finance Corporation (IFC)

- Dr. Soraphol Tulayasathien, Senior Executive Vice President, Head of Corporate Strategy Division, The Stock Exchange of Thailand (SET)

- Mr. Rapeepat Ingkasit, Head of Research, Climate Finance Network Thailand (CFNT)

- Moderator: Kannikar Kijtiwatchakul, Host of Morning World Review, FM96.

🍽 Lunch (12.00 - 13.00)

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 เครือข่ายนักวิชาการและองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานรณรงค์เพื่อการเข้าถึงยา 13 องค์กร/เครือข่าย ...
31/01/2025

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 เครือข่ายนักวิชาการและองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานรณรงค์เพื่อการเข้าถึงยา 13 องค์กร/เครือข่าย ได้ส่งความเห็นต่อการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ. ... ไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่กำลังเปิดรับฟังออนไลน์ เพื่อคัดค้านมาตราที่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอล หรือ 'การใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ' โดยย้ำจุดยืนว่าการแก้ไขกฎหมายต้องไม่สร้างเงื่อนไขที่ทำให้การประกาศใช้ซีแอลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะและป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประเทศนั้นต้องเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตด้านสาธารณสุข

ในเอกสารแสดงความคิดเห็นส่วนหนึ่งระบุว่า เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาสังคมฯ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อความในมาตรา 62 ของร่าง พรบ.สิทธิบัตรฯ ใน 2 ประเด็น คือ 1) การใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ ‘ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี’ ก่อนที่กระทรวง ทบวง หรือกรมจะประกาศคำสั่ง และ 2) การอนุญาตให้ผู้ทรงสิทธิบัตรหรือผู้ได้รับอนุญาต ‘แต่เพียงผู้เดียว’ สามารถอุทธรณ์คำสั่งการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐต่อศาล

เหตุผลสำคัญของการคัดค้าน เพราะถือเป็นการสร้างเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคที่จะทำให้การประกาศใช้มาตรการซีแอลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะและป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประเทศ เป็นไปได้ยากและไม่ทันเวลาต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤต อยู่ในภาวะฉุกเฉิน หรือเพื่อประโยชน์ของประชาชน ที่สำคัญความทุกข์ของประชาชนไม่อาจรอการถ่วงเวลาของผู้ทรงสิทธิบัตรที่ใช้สิทธิโดยไม่ชอบด้วยการใช้มาตรา 62 ในการอุทธรณ์คำสั่งการใช้ซีแอลโดยรัฐต่อศาล

พร้อมทั้งมีข้อเสนอว่าให้การประกาศใช้มาตรการซีแอล ‘ไม่ต้อง’ ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และไม่อนุญาตให้เจ้าของสิทธิบัตรอุทธรณ์คำสั่งการใช้มาตรการซีแอล เว้นแต่เรื่องค่าตอบแทนการใช้สิทธิที่สามารถอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรได้ ทั้งนี้หน่วยราชการควรดำเนินการไปก่อนได้โดยไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิและไม่ต้องรอคำวินิจฉัยเรื่องค่าตอบแทน

#สิทธิบัตร #ซีแอล #กรมทรัพย์สินทางปัญญา

หน้าแรก ข่าว/บทความ 13 กลุ่มวิชาการและภาคเครือข่ายประชาสังคมส่งความเห็นค้านมาตรการซีแอลในร่าง พรบ.สิทธิบั....

ในโลกที่ความเท่าเทียมถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง สถาบันการเงินซึ่งเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่สะท้อ...
23/01/2025

ในโลกที่ความเท่าเทียมถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง สถาบันการเงินซึ่งเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำทางเพศ ทั้งการเข้าถึงสินเชื่อ ความก้าวหน้าทางอาชีพ และโอกาสในการมีบทบาทในระดับผู้นำ และนี่เป็นเพียงบางส่วนของ ‘เพดานกระจก’ ที่ผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญ

เราสำรวจบทบาทของสถาบันทางการเงินไทยที่ตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศ พยายามมีส่วนร่วมสนับสนุนโอกาสเพื่อความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการมีนโยบายให้สินเชื่อสำหรับผู้หญิงและ LGBTQIA+ หรือการสร้างความหลากหลายในตำแหน่งผู้บริหาร

พร้อมกับชวนคิดว่าความเท่าเทียมนี้ไม่เพียงสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับสังคม แต่ยังเสริมสร้างความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นี่คือเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากความเชื่อสู่การลงมือทำของบุคคลที่เป็นผู้ถูกจำกัดสิทธิ ตกใต้สภาวะไร้อำนาจ และลุกขึ้นมาส่งเสียงให้ผู้สะสมความมั่งคั่งได้ยินจนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

https://waymagazine.org/gender-diversity-and-capital-market/

ในโลกที่ความเท่าเทียมถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง สถาบันการเงินซึ่งเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่สะท้อ...
23/01/2025

ในโลกที่ความเท่าเทียมถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง สถาบันการเงินซึ่งเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำทางเพศ ทั้งการเข้าถึงสินเชื่อ ความก้าวหน้าทางอาชีพ และโอกาสในการมีบทบาทในระดับผู้นำ และนี่เป็นเพียงบางส่วนของ ‘เพดานกระจก’ ที่ผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญ

เราสำรวจบทบาทของสถาบันทางการเงินไทยที่ตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศ พยายามมีส่วนร่วมสนับสนุนโอกาสเพื่อความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการมีนโยบายให้สินเชื่อสำหรับผู้หญิงและ LGBTQIA+ หรือการสร้างความหลากหลายในตำแหน่งผู้บริหาร

พร้อมกับชวนคิดว่าความเท่าเทียมนี้ไม่เพียงสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับสังคม แต่ยังเสริมสร้างความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นี่คือเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากความเชื่อสู่การลงมือทำของบุคคลที่เป็นผู้ถูกจำกัดสิทธิ ตกใต้สภาวะไร้อำนาจ และลุกขึ้นมาส่งเสียงให้ผู้สะสมความมั่งคั่งได้ยินจนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

ในโลกที่ความเท่าเทียมถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง สถาบันการเงินซึ่งเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำทางเพศ ทั้งการเข้าถึงสินเชื่อ ความก้าวหน้าทางอาชีพ และโอกาสในการมีบทบาทในระดับผู้นำ และนี่เป็นเพียงบางส่วนของ ‘เพดานกระจก’ ที่ผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญ

เราสำรวจบทบาทของสถาบันทางการเงินไทยที่ตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศ พยายามมีส่วนร่วมสนับสนุนโอกาสเพื่อความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการมีนโยบายให้สินเชื่อสำหรับผู้หญิงและ LGBTQIA+ หรือการสร้างความหลากหลายในตำแหน่งผู้บริหาร

พร้อมกับชวนคิดว่าความเท่าเทียมนี้ไม่เพียงสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับสังคม แต่ยังเสริมสร้างความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นี่คือเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากความเชื่อสู่การลงมือทำของบุคคลที่เป็นผู้ถูกจำกัดสิทธิ ตกใต้สภาวะไร้อำนาจ และลุกขึ้นมาส่งเสียงให้ผู้สะสมความมั่งคั่งได้ยินจนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

https://fairfinancethailand.org/article/2024/gender-diversity-and-capital-market/

primitive comics by Antizeptic
21/01/2025

primitive comics by Antizeptic

จากชุดโปสการ์ด 'ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี' กลายเป็นกรอบรูปประดับบ้านนักอ่านท่านหนึ่ง ผู้สนใจยังสั่งซื้อหนังสือฉบับปกแข็...
20/01/2025

จากชุดโปสการ์ด 'ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี' กลายเป็นกรอบรูปประดับบ้านนักอ่านท่านหนึ่ง

ผู้สนใจยังสั่งซื้อหนังสือฉบับปกแข็ง (แถมโปสการ์ดฟรี)ได้ทางกล่องข้อความ

หรือฉบับปกอ่อนสามารถติดตามและสั่งซื้อได้ที่
บริษัท เคล็ดไทย จำกัด | www.kledthai.com
FB: kledthai | LINE:
#ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี

ที่อยู่

339/1 อ่อนนุช 66 ซอย 7 แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
Bangkok
10250

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

+6621214979

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ WAYผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง WAY:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์