efinanceThai

24/08/2023

SET พุ่ง 1,562 จุด
+13.26 จุด
ช่วยไปแล้ว 8 จุด
#ใส่แว่นแป๊บ 😎

24/08/2023

📍"เศรษฐา" เผย พลเอกประยุทธ์ ฝากสานต่อนโยบาย-ดูแลบ้านเมือง แนะอดทน-ใจเย็น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า ถือเป็นครั้งแรกและประวัติศาสตร์ที่ 2 นายกรัฐมนตรี มาพบปะกัน เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดีย รวมถึงฝากฝังบ้านเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยพลเอกประยุทธ์ ได้ฝากสานต่อนโยบายต่างๆ รวมถึงให้อดทน ใจเย็น ยึดมั่นดูแลเรื่องชาติ ศาสน์ กษัตริย์
“เป็นการไปเยี่ยมเยียน และเป็นการไปเคารพตามมารยาท และท่านได้ฝากความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ผมในฐานะผู้น้อยและเพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ได้เข้าไปพบปรึกษาหารือว่ามีอะไรจะฝากฝังบ้านเมืองหรือไม่ และท่านน่ารักที่พาชมทำเนียบ รวมถึงห้องทำงานด้วย ผมมาจากภาคเศรษฐกิจ วิธีการบริหารจัดการบ้านเมืองก็อาจจะแตกต่างกันออกไป มีหลายภาคส่วนที่ต้องคำนึงถึง และต้องระวัง รวมถึงยังบอกให้ใจเย็น อดทน ยึดมั่นดูแลเรื่องชาติ ศาสน์ กษัติรย์ และนโยบายอะไรก็ฝากดูแลต่อด้วย ซึ่งผมจะไปพบปะกับคนที่ทำงานให้ท่านมาด้วย”นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนการพบปะวันนี้ ไม่ได้มีการหารือถึงตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด โดยในวันนี้เป็นการหารือกันในเรื่องทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ก้าวข้ามความขัดแย้ง และมาดูแลบ้านเมืองให้ดี โดยยืนยันว่า ท่านมีความเป็นห่วงบ้านเมืองจริงๆ

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

24/08/2023

📌ICHI อัพเป้ายอดขายปี 66 เป็น 7,600 ลบ. จ่อสร้างโรงงานใหม่หากยอดขายแตะหมื่นลบ.

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า บริษัทฯ ปรับเป้ายอดขายใหม่ปี 66 เป็น 7,600 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากเดิม 7,300 ล้านบาท หรือโต 15.3% เนื่องจากยอดขายที่ดีขึ้นจากสถานการณ์เอลนีโญทำให้อากาศร้อนมากขึ้น ด้านภาพรวมการท่องเที่ยวประเทศไทยฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ ทำให้ผู้บริโภคเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากช่องทางการขายสินค้าผ่านค้าปลีกสมัยใหม่(MT) จะกลับมามียอดขายได้ดีตามปกติ ด้านช่องทางกระจายสินค้าแบบการตลาดดั้งเดิม(TT) ยังมีร้านค้าเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทิศทางในช่วงครึ่งหลังปี 66 บริษัทฯ คาดว่ายังมียอดขายดี โดยมีแผนงานทั้งค่าใช้จ่ายการตลาดไม่เกิน 4% ของรายได้สุทธิ รวมถึงการนำเสนอสินค้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เช่น เครื่องดื่มตันซันซู (TAN SAN SU) จะออกรสชาติใหม่น้ำผึ้งมะนาว ช่วงเดือนต.ค.นี้ โดยแบรนด์ตันซันซูคาดว่าจะมีรายได้กว่า 300 ล้านบาท ในปีนี้ , ส่งเสริมสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกด้านสุขภาพ เช่น น้ำด่าง และสนับสนุนสินค้ามาร์จิ้นสูงให้เพิ่มมากขึ้นในพอร์ตยอดขาย
ด้านยอดขายในอินโดนีเซียแม้ว่ายังไม่ดีจากผลกระทบจากต้นทุนราคาที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งปรับราคาขายขึ้นตาม แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 2-3ไตรมาส สถานการณ์จะกลับมาปกติ โดยมองว่าแม้กำไรจะลดลง แต่ไม่กระทบภาพรวมบริษัทฯ มากนักเนื่องจากมีส่วนแบ่งดังกล่าวไม่มาก ด้านภาพรวมการส่งออกดีและการรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) คาดว่าจะสามารถทำได้อย่างต่ำ 130 ล้านบาทขึ้นไป
สำหรับการลงทุนบริษัทได้ขยายกำลังการผลิตใช้งบ 460 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสูงสุด 1,700 ล้านขวดต่อปี จากเดิมปัจจุบันผลิตได้ 1,500 ล้านขวดต่อปี โดยใช้พื้นที่เดิมของโรงงาน เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศไทยอนาคต และ รองรับการผลิต OEM โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในไตรมาส 4/67
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการลงทุนโรงงานใหม่ในอนาคต หากสามารถทำยอดขายกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับไว้ก่อนแล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงลงทุน 1,500 - 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันกำลังการผลิตโดยรวมของ ICHI อยู่ที่ระดับกว่า 70%
"เราเพิ่มไลน์การผลิตใหม่อีก 200 ล้านขวดต่อปี และเมื่อเต็มกำลังการผลิต เรายังมีที่จากโรงงานเดิมเหลืออีก 6 ไร่ ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกเล็กน้อย หากไม่พอเราจะไปทำโรงงานใหม่ซึ่งเราซื้อที่ไว้แล้ว โดยโรงงานใหม่จะใช้เงินลงทุน 1,500 -2,000 ล้านบาท แต่นั้นหมายถึงเราต้องมียอดกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งอาจเห็นได้ภายใน 1-2 ปี" นายตันกล่าว
ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ในปี 67 เบื้องต้นวางเป้าหมายยอดขายโต 12% จากปีนี้ หรือแตะระดับ 8,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่อนุมัติจากบอร์ด

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

24/08/2023

📍OR เผยบริษัทร่วมทุน 1-2 แห่ง เตรียมพร้อมเข้าตลาดหุ้น เดินหน้าเจรจาดีล M&A-JV

นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยในงาน "Opportunity Day" ว่า เตรียมแผนส่งบริษัทที่เข้าไปร่วมลงทุน เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ 1-2 บริษัท ในช่วงเร็วๆนี้
โดยเบื้องต้นก็มี 1 บริษัทที่มีแผนพร้อมระดมทุนชัดเจนเป็นลำดับแรก คือ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ซึ่ง OR ได้เข้าลงทุนในสัดส่วน 24-25% รวมถึงยังมีบริษัทที่มีศักยภาพที่จะเข้าตลาดหุ้นอีก 1-2 ราย แต่ขอรอดูความชัดเจนของทิศทางการดำเนินงานและอัตรากำไรก่อน
สำหรับการซื้อกิจการ (M&A) และการร่วมลงทุน (JV) ในธุรกิจอื่นๆเข้ามาในพอร์ตเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีดีลอยู่ในมือจำนวนมากทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มก็มีเข้ามาให้บริษัทได้พิจารณาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีธุรกิจ Health & Wellness และ BEAUTY ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาและหาความร่วมมือที่เหมาะสม
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 66 ผลการดำเนินของ OR จะยังสดใส จากปัจจัยด้านการท่องเที่ยวและภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวจะช่วยให้ธุรกิจยังเติบโตและการขยายธุรกิจยังทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้เกือบ 90% มากจากกลุ่มธุรกิจ Mobility และมีสัดส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) จากกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ราว 25%
ส่วนแผนการขยายสาขาในปีนี้ จะขยายสถานี EV station ให้ครอบคลุมทั่วประเทศอีก 500 แห่ง จากปีก่อนที่ 300 แห่ง ซึ่งจะทำให้ช่วงสิ้นปีนี้มีจำนวนรวม 800 แห่ง และมีแผนเปิดสาขาร้าน Café Amazon อีกกว่า 400 สาขา จากงวดไตรมาส 2/66 ที่มีอยู่จำนวนรวม 4,000 กว่าสาขา

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

24/08/2023

📌NVIDIA รายงานผลประกอบการQ2/66 ทำสถิติรายได้สูงสุดกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลล์ หลังความต้องการ AI เพิ่ม

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เอ็นวิเดีย (Nvidia) บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ มีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์สหรัฐ และทำรายได้ที่ 1.351 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 101% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 88% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ หลังความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทเอ็นวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์สหรัฐ และทำรายได้สูงเป็นสถิติที่ 1.351 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.122 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายได้ที่เติบโตสูง มาจากกลุ่มธุรกิจ Data Center ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดบริษัทเช่นกันที่ 1.0323 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 171% โดยเอ็นวิเดียระบุว่า กลุ่มลูกค้าหลักมาจากผู้ให้บริการคลาวด์ และบริษัทผู้ให้บริการบนอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ ที่ต่างสั่งซื้อจีพียูบน Hopper และ Ampere เพื่อนำไปใช้ในงาน Generative AI และ LLM
ด้านกลุ่ม Gaming มีรายได้ 2.486 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% สะท้อนตามความต้องการ GeForce RTX ซีรี่ส์ 40 ในตลาด ขณะที่กลุ่ม Automotive รายได้เพิ่มขึ้น 15% เป็น 253 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กลุ่ม Professional Visualization มีรายได้ลดลง 24% เป็น 379 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เอ็นวิเดีย คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาสปัจจุบันจะเติบโตขึ้นอีก อยู่ที่ราว 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ บวก-ลบ ประมาณ 2%
ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2567 จะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.261 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่ายอดขายจะพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 170% ในไตรมาสดังกล่าวเมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดและแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของเอ็นวิเดีย สะท้อนให้เห็นว่า หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของเอ็นวิเดีย ได้กลายมาเป็นปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
โดยชิป AI รุ่น A100 และ H100 ของเอ็นวิเดีย ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสร้างแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ AI เช่นแชตบอต ChatGPT ของบริษัท โอเพน เอไอ (Open AI)

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

24/08/2023

🔥 #สามพี่น้องจ๊กก๊ก🔥
บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ (NVDA) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/23 สูงกว่าคาด‼️
#กำไร ของบริษัทสูงเพิ่มขึ้น 171% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.32 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 จากปีที่แล้ว เนื่องจากธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนไปใช้การประมวลผลแบบเร่งความเร็วและ AI เชิงสร้างสรรค์จากการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป

#เนื่องจาก ความต้องการ AI เพิ่มขึ้น ชุดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ของ NVDA รวมถึงชิปและบริการคลาวด์เพื่อฝึกอบรมโมเดล AI เชิงสร้างสรรค์ กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับสตาร์ทอัพหรือธุรกิจที่ต้องการขยายไปสู่ AI
#ส่งผลให้ กลุ่มหุ้นอีเลคโทรนิคส์ในประเทศไทย ปรับตัวกันอย่างคึกคัก แต่หากพูดถึง HANA และ KCE ในด้านราคาหุ้นไม่ใช่เพิ่งจะพุ่งทะยานวันนี้ แต่ก่อนหน้านี้ราคาก็ขยับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ในส่วน DELTA ไม่ต้องพูดถึง (แล้วแต่อารมณ์) 🤭
แอดคาสิโน

24/08/2023

📍เปิดโผ 22 หุ้น รับอานิสงส์นโยบาย `ดิจิทัล วอลเล็ต` ของรัฐบาลใหม่

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า หลังนายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับการโปรดเกล้าฯนายกฯ ประเด็นถัดไปที่คนส่วนใหญ่พูดถึงและติดตาม คือ นโยบาย Digital Wallet และการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท/คน ของพรรคเพื่อไทย ที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงหลังเป็นนโยบายชูโรง ของพรรค และมีกระแสว่านายกฯจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังด้วย
กลุ่มหุ้นที่ สามารถเก็งกำไรได้แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ดังนี้
1) กลุ่มหุ้นที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ และเครือข่ายโทรคมนาคม เช่น ADVANC, TRUE, COM7, SPVI,CPW, IT, SYNEX ,SIS เป็นต้น
2) กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Digital Asset ทั้งหมด
2.1 บริษัทที่เข้าไปลงทุนใน Crypto Currency โดยตรง เช่น หุ้น BROOK ซึ่งผลประกอบการจะขึ้น / ลง หรือได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ฯจากแนวโน้มราคา เหรียญ
2.2 บริษัทที่เข้าไปลงทุนขุด BITCOIN (BITCOIN Mining) : เช่น หุ้น JTS ต้นทุน คือ ค่าไฟ , อุปกรณ์ และการ์ดจอในขุด ฯลฯ ส่วนรายได้คือ เหรียญ Crypto อาทิ Bitcoin ที่ได้จากการเข้าไปแข่งกันถอดรหัส ทั้งนี้หากแนวโน้มราคา Bitcoin ปรับขึ้น , ต้นทุนเท่าเดิม จำนวนเหรียญฯที่ขุดได้เท่าเดิม แต่มูลค่า เหรียญที่ขุดได้จะเพิ่ม เป็นกำไร
2.3 บริษัทที่รับ Crypto currency หรือ tokens เพื่อใช้ซื้อสินค้า หรือ บริการ : ก่อนหน้าที่ออกข่าวและเกิดกระแสเก็งกำไร อาทิ RS, ANAN, SIRI ,SC, ORI ,ASW ,MAJOR, JMART ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินว่าจะได้เพียงกระแส หรือ Sentiment เชิงบวกเท่านั้น
2.4 บริษัทที่ทำ ICO portal คือ (ผู้ให้บริการToken) ทำหน้าที่คล้ายที่ปรึกษาทางการเงินในการตรวจสอบข้อมูลการออก ICO ของบริษัทที่เสนอขายโทเคน (due diligence) และเก็บรักษาทรัพย์สินของผู้ลงทุน ฯลฯ อาทิ KBANK SCB , XPG, JTS 2.5 ทำระบบ Exchange ซื้อขาย Crypto currency อาทิ GULF
สรุป ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่านโยบาย Digital wallet มีโอกาสเกิดขึ้นจริง หลังได้ตัวนายก ฯ ดังนั้นหุ้นที่อยู่ในกระแสเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว และฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ คือ COM7, TRUE ,SIRI ,SC, JMART, KBANK, SCB ,GULF

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

24/08/2023

ราคาทองคำแท่งประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2566

#ซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ #ทองคำ
#อีฟินโกลด์ #ลงทุนทองคำแท่ง

สมัครสมาชิกง่ายๆเพียง 2 ขั้นตอน :
https://www.efingold.com/Register?step=1
ทำไมต้องลงทุนกับ efinGold :
https://www.efingold.com/whyEfingold
เกี่ยวกับเรา :
https://www.efingold.com/aboutUs

ติดตามข่าวสาร บทความดีๆและเทรดทองคำได้ง่ายๆที่ :
https://bit.ly/3j5jWPI

24/08/2023

สรุปหุ้นเด่นทางเทคนิค (24/08/66)

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -24 ส.ค. 66 9:20: น. บล.กรุงศรี หุ้น แนวรับ/แนวต้าน คำแนะนำ BE8 44.50 / 47.00/49.00 Cut loss 43.50 กราฟกลับตัวแบบกะทะหงา....

24/08/2023

สรุปหุ้นเด่นทางพื้นฐาน (24/08/66)

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -24 ส.ค. 66 9:20: น. บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หุ้น ราคาพื้นฐาน(บาท) คำแนะนำ/ประเด็นที่สำคัญ ADVANC 250 คา...

24/08/2023

📌KTC ตั้ง `พิทยา วรปัญญาสกุล` นั่ง CEO แทน `ระเฑียร ศรีมงคล` มีผล 1 ม.ค.67

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่จะครบกำหนดการขยายเวลาเกษียณอายุ และแต่งตั้งกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
โดย มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566ได้มีมติแต่งตั้ง นางพิทยา วรปัญญาสกุล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) แทนนายระเฑียร ศรีมงคล ที่ได้ครบกำหนดขยายเวลาเกษียณอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยมีผลตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งนางประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน แทนนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ มีผล 23 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

24/08/2023

📌`เศรษฐา ทวีสิน` รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นนายกฯคนที่ 30 ของไทย

"นายเศรษฐา ทวีสิน" รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นนายกฯคนที่ 30 ของไทยแล้ว ย้ำพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน บริหารงบภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวัง - ดินแดนแห่งความสุข และเป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติ
วานนี้ (23 ส.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
โดย นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการฯ มาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย ท่ามกลาง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมพิธี อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า หลังจากนั้น ได้มีการอ่านพระบรมราชโองการฯ ดังนี้
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
จึงแต่งตั้งให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระราชโองการ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ต่อมา นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้กล่าวใน พิธีรับพระบรมราชโองการ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กระผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นศุภสิริมงคล แก่ชีวิตและขวัญกำลังใจอันสูงสุด แก่กระผมและครอบครัว อย่างหาที่สุดมิได้ กระผมมีความปลื้มปิติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และความ วัฒนาสถาพร ของประเทศชาติ สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ
ในวาระที่ผมได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตลอดจนภาคประชาสังคม เอกชน สำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ผมได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน
พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพ ผมขอยืนยันว่าผมจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง
ประเทศไทยวันนี้อยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนสำคัญ เรามีวิกฤตและปัญหาที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ความมั่นคง สังคม การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การทุจริตประพฤติมิชอบ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ความยากลำบาก
ผมมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤต บรรเทาปัญหา สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค ไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคการต่างประเทศ ทำให้ทั้งภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
ผมมีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์ เคารพความแตกต่างทางความคิด และเคารพกฎกติกาในกรอบระเบียบและกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงและตรงไปตรงมา
ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ร่วมกันเป็นพลังที่จะคอยผลักดัน ร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยของเราไปข้างหน้า
พี่น้องประชาชนที่เคารพ ผมขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำงานอย่างหนักเพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข นำพาความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่ม อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้งหนึ่ง
ผม นายเศรษฐา ทวีสิน จะขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

23/08/2023

สรุปข่าวเด่น สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2566
***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น
#สรุปข่าวเด่น
#อีไฟแนนซ์ไทย

สรุปข่าวเด่น สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2566สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -24 ส.ค. 66 6:23: น. ตลท.ปลื้ม 200 กองท.....

23/08/2023

"เศรษฐา" ยันพร้อมทำงานหนัก สร้างอนาคตประเทศไทย ลั่น 4 ปีข้างหน้าจะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงการณ์หลังเข้ารับตำแหน่งว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กระผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นศุภสิริมงคล แก่ชีวิตและขวัญกำลังใจอันสูงสุด แก่กระผมและครอบครัว อย่างหาที่สุดมิได้

กระผมมีความปลื้มปิติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และความ วัฒนาสถาพร ของประเทศชาติ สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ

ในวาระที่ผมได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตลอดจนภาคประชาสังคม เอกชน สำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ผมได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน

พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพ ผมขอยืนยันว่าผมจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง

ประเทศไทยวันนี้อยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนสำคัญ เรามีวิกฤตและปัญหาที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ความมั่นคง สังคม การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การทุจริตประพฤติมิชอบ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ความยากลำบาก

ผมมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤต บรรเทาปัญหา สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค ไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคการต่างประเทศ ทำให้ทั้งภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

ผมมีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์ เคารพความแตกต่างทางความคิด และเคารพกฎกติกาในกรอบระเบียบและกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงและตรงไปตรงมา

ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ร่วมกันเป็นพลังที่จะคอยผลักดัน ร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยของเราไปข้างหน้า

พี่น้องประชาชนที่เคารพ ผมขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำงานอย่างหนักเพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข นำพาความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่ม อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้งหนึ่ง

ผม นายเศรษฐา ทวีสิน จะขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป

23/08/2023

ธนาคารกลุ่ม BRICS ตัวแปรถ่วงอำนาจดอลล่าร์

23/08/2023

ส่องราคาเป้าหมาย-อัพไซด์ 134 หุ้น
หลังประกาศงบฯ Q2/66
อัปเดทบทวิเคราะห์หุ้น 134 บจ.หลังประกาศงบฯ Q2/66 พบ กลุ่มพลังงานอัพไซด์สูงสุดถึง 88%
อีก 2 กลุ่มที่มีอัพไซด์สูงสุดรองลงมา คือ กลุ่มท่องเที่ยว - กลุ่ม mai อัพไซด์สูงสุด 82% และ 80% ตามลำดับ
ฝั่ง กลุ่มชิ้นส่วนฯ เริ่มเทรดเกินพื้นฐานระดับ 6 - 45%
***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

23/08/2023

📍3 โบรกฯมองต่างชาติพร้อมซื้อหุ้นไทย หลังการเมืองคลี่คลาย-ลุ้นรัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นลงทุน

นายศุภโชค ศุภบัณฑิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ในตลาดหุ้นไทยจากนี้ จะมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น จากที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยมาโดยตลอดและปัจจุบันก็ยังมีสัดส่วนการถือครองไม่ได้มากนัก
อย่างไรก็ตามเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังรอซื้อหุ้นไทยอยู่ หลังเมื่อวานนี้ (22ส.ค.66) ประเทศไทยมีความชัดเจนเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีและกำลังเฝ้ารอดูว่านโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะออกมาจะเป็นผลบวกต่อกลุ่มอุตสาหกรรมไหนบ้าง
ส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติตอนนี้ไม่ได้โฟกัสเฉพาะแค่เพียงตามดัชนี (INDEX) เท่านั้น แต่ต้องเน้นเลือกรายตัวหรือเฉพาะกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์มากขึ้น ซึ่งสะท้อนได้จากตอนนี้ที่ตลาดก็อาจปรับตัวนิ่งๆ แต่หุ้นบางกลุ่มอาทิ กลุ่มค้าปลีก,โรงพยาบาล และโรงแรมก็ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นดีกว่าตลาด
ด้าน นายฐาปน พานิช รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง เพราะไม่สนเมืองไทย แต่ปัจจุบันปัจจัยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลได้จบลงแล้ว
ทั้งนี้ คิดว่าในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้าตราบใดที่ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนก็น่าจะเห็นการฟื้นตัวกลับมา แต่จะนานเท่าไหร่นั้นยังต้องดูต่อไป โดยเฉพาะหากผ่านพ้นช่วงฮันนีมูนกับพรรคร่วมรัฐบาล รัฐบาลชุดใหม่จะทำอะไรต่อและภาวะเศรษฐกิจ (GDP) จะไปต่อเท่าไหร่ รวมถึงรัฐบาลต้องใส่เงินอัดฉีดเพิ่มหรือไม่
วงการตลาดทุน ต้องการให้รัฐบาลได้รับฟังมุมมองของคนในวงการ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งหากภาครัฐจะช่วยกระตุ้นได้ดีกว่าที่คิด คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้มากกว่านี้
“จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยได้นั้น ผมว่ารัฐบาลจัดตั้งได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ยังต้องจับตาต่อไปว่าพรรคร่วมรัฐบาล 14 พรรคจะไปได้ไหม รวมถึงตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งหากบางจุดอิ่มตัวและเมืองไทยมีสตอรี่ที่น่าสนใจก็อาจดึงดูดเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้ามาได้” นายฐาปน กล่าว
นางนริศรา วิเศษโกสิน Head of Thailand Institutional Business บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เชื่อว่าต่างชาติให้ความสนใจในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาอาจมีประเด็นทางการเมืองเลยทำให้กังวลไม่กล้าเข้ามา แต่ปัจจุบันเราได้รัฐบาลใหม่มาแล้ว ซึ่งต้องรอดูนโยบายภาครัฐจะสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนจุดเปลี่ยนที่สำคัญ มองว่ารัฐบาลจะออกนโยบายอะไรมากระตุ้น ส่วนประเด็นเรื่องการเก็บภาษีการขายหุ้นรัฐบาลควรพักโครงการไปก่อน เพราะจะช่วยให้การแข่งขันและความน่าสนใจต่อตลาดหุ้นไทยในมุมมองนักลงทุนต่างชาติปรับตัวเพิ่มมากขึ้น

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

23/08/2023

สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 161.76 ลบ.
***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#หุ้นไทย

#ข่าวหุ้น

23/08/2023

LH BANK รุกรายย่อย เปิดตัวสินเชื่อบุคคล `Happy Cash` วางเป้า 1 หมื่นลบ. ใน 5 ปี

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า LH Bank ยกระดับการบริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และ บริการด้านดิจิทัลสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยมุ่งเน้นขยายฐานกลุ่มลูกค้าเจนเนอเรชันใหม่ ที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน "แอปพลิเคชัน LHB You" จึงเป็นไลฟ์สไตล์แบงก์กิ้งทางการเงินที่สะดวก ครบทุกการใช้งานของธนาคาร โดยได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีฐานลูกค้าแอปพลิเคชันประมาณ 200,000 ราย และ ตั้งเป้าหมายมีจำนวน 1 ล้านรายใน 5 ปี (66-70)
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารจะเป็นกลุ่มเวลธ์ แต่ขณะนี้ได้อยากขยายฐานไปสู่ลูกค้ากลุ่ม young generation ซึ่งให้ความสำคัญกับ Digital lifestyle มากขึ้น ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้ากลุ่มเวลธ์ก็ยังให้ความสำคัญเห็นได้จากเงินฝาก Byou MAX ดอกเบี้ยสูง 6% ในวงเงิน 1 หมื่นบาท ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมีลูกค้าเข้ามามากกว่า 30,000 ราย
นางสาวชมภูนุช กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเชื่อว่าทางรัฐบาลจะมีนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย หรือ โครงการใช้จ่ายผ่านงบประมาณต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการกระจายรายได้ หรือ เงินหมุนเวียนในระบบ
"ตอนนี้มีความชัดเจนทางด้านนายกรัฐมนตรี ต่อไปคงเป็นการจัดตั้งรัฐบาล โดยภาคเอกชน หรือ ธนาคาร ก็อยากเห็นภาครัฐเร่งกระตุ้นใช้จ่าย เพิ่มสปีดให้มากขึ้น ก็ถือว่าช่วยภาคเอกชนได้แล้ว"นางสาวชมภูนุช กล่าว
นายเคลวิน ฟู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้ารายย่อย LH Bank กล่าวว่า นอกจากในกลุ่มผลิตภัณฑ์เงินฝากแล้ว ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล Happy Cash ตอบโจทย์ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ง่าย สะดวก ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 5.55% นาน 3 เดือน กู้ง่ายอนุมัติไวภายใน 1 วันทำการ วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท ไม่ต้องมีบุคคลหรือ หลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมรับเงินผ่านบัญชีเงินฝาก บนแอปพลิเคชัน LHB You โดย LH Bank ตั้งเป้าหมายมียอดสินเชื่อผ่านช่องดิจิทัลในสัดส่วน 1ใน 3 ของพอร์ตสินเชื่อบุคคลใน 5 ปีข้างหน้า หรือ คิดเป็น 3,500 ล้านบาท จากพอร์ตรวม 10,000 ล้านบาท
ล่าสุด จับมือร่วมกับ Rabbit Card สร้างสรรค์แคมเปญพิเศษจาก LHB You ด้วยการออกแบบดีไซน์บัตรแรบบิทคอลเลกชันพิเศษ “LHB You Avatar Edition” สุดคิ้วท์ ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการผนึกกำลังครั้งสำคัญ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงธุรกรรมด้านบริการสินเชื่อส่วนบุคคลได้ง่ายยิ่งขึ้น
นายเคลวิน เหลียง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด ผู้ให้บริการ บัตรแรบบิท (Rabbit Card) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ LH Bank ในการร่วมกันพัฒนาเพื่อให้บริการที่หลากหลาย และ ครบวงจรแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยการเปิดให้บริการยืนยันตัวตน (Know You Customer : KYC) สำหรับลูกค้าของ LH Bank ที่เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออนไลน์ เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว ณ จุดให้บริการห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานีได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ภายใต้ความร่วมมือกันในครั้งนี้ ยังเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานบัตรแรบบิท ให้สามารถเติมเงินบัตรแรบบิทบนแอปพลิเคชัน My Rabbit โดยเลือกวิธีการชำระเงินผ่าน Mobile Banking ของ LH Bank ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

23/08/2023

⚡️ #เกือบฟ้าผ่า.. . #บ้าจริงเชียว‼️🤭
แอดคาสิโน

23/08/2023

📌ตลท.ปลื้ม 200 กองทุนทั่วโลก แห่ร่วมงาน ‘Thailand Focus 2023’-หวังรัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นตลาดทุน


ตลท. เผยกองทุนทั่วโลกตบเท้าร่วมงาน ‘Thailand Focus 2023’ กว่า 200 ราย ลุ้นรัฐบาลใหม่ออกนโยบายหนุนตลาดทุน ชงผลักดันอุตสาหกรรม growth engine เข้าตลาดหุ้น-นำดาต้ามาใช้ในการประมวลผลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมชี้ 3 ปัจจัยท้าทายตลาดหุ้น
อ่านข่าวฉบับเต็ม : https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=azlFaWdoMFRxcEU9

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น

23/08/2023

📌จีนประณามญี่ปุ่น หลังเตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี จ่อตอบโต้กลับ คาดกระทบส่งออกญี่ปุ่นราว 1.9 พันล้านดอลล์

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทางการจีน ออกมาให้คำมั่นว่าจะใช้ "ขั้นตอนที่จำเป็น" เพื่อปกป้องความปลอดภัยของอาหารและสิ่งแวดล้อมทางทะเล หลังญี่ปุ่นกำหนดวันที่จะเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีฟุกุชิมะ ลงมหาสมุทรแปซิฟิก แม้จะผ่านการบำบัดแล้วก็ตาม พร้อมกล่าวประณามญี่ปุ่นว่า “เห็นแก่ตัว”
นายซุน เว่ยตง (Sun Weidong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เรียกนายฮิเดโอะ ทารุมิ ( Hideo Tarumi) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศจีนเข้าพบ เพื่อแสดงการคัดค้านอย่างจริงจังและเป็นทางการต่อญี่ปุ่น ในเรื่องการประกาศว่าจะเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีฟุกุชิมะลงมหาสมุทรแปซิฟิก ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้
โดยชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลญี่ปุ่น เพิกเฉยต่อความสงสัยและการต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาคมโลก และยืนกรานที่จะประกาศว่าจะน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีฟุกุชิมะลงมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งการกระทำนี้เป็นการกระจายความเสี่ยงของมลพิษทางนิวเคลียร์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งจีน และประชาคมโลก นับเป็นการถือผลประโยชน์ของตนเองแต่เพียงผู้เดียว และอยู่เหนือผลประโยชน์ในระยะยาวของประชาชนในภูมิภาคและทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว และขาดความรับผิดชอบอย่างยิ่ง โดยทางการจีน ขอแสดงความกังวลและต่อต้านอย่างชัดเจน
รัฐบาลจีน ระบุว่า “จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล ความปลอดภัยของอาหาร และสุขภาพของประชาชนอย่างเข้มงวด” หากการปล่อยน้ำปนเปื้อน ดำเนินต่อไปตามแผนที่ญี่ปุ่นวางไว้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น กล่าวยืนยันแผนการเริ่มปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล ในวันพฤหัสบดีนี้ (24 ส.ค.) โดยมีกำหนดการเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนในเดือนหน้า
การตอบโต้ของจีนครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและประมงรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 2.78 แสนล้านเยน (1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีที่แล้ว ขณะที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและประมงรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น รองจากจีน นำเข้าสินค้ามูลค่าประมาณ 2.09 แสนล้านเยน ยืนยันว่าจะขยายเวลาจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ตั้งแต่อาหารทะเลไปจนถึงสาหร่ายจากบางพื้นที่
ทั้งนี้ บริษัท โตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ หรือ TEPCO กำลังเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการปล่อยน้ำเสียประมาณ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกประมาณ 500 สระ จากไซต์งานฟุกุชิมะ ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 30 ปี

***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************

#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น