กระทรวงการเมือง - MOP

กระทรวงการเมือง - MOP ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก กระทรวงการเมือง - MOP, บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร, แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว, Bangkok.

11/12/2022
11/12/2022

11 ธันวาคม 1946
ก่อตั้งยูนิเซฟ (UNICEF)
องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF ก่อตั้งขึ้นโดยสมัชชาสามัญแห่งองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1946 เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เด็กในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จากจุดเริ่มต้นจวบจนวันนี้ UNICEF ยังคงให้ความช่วยเหลือแก่เด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา
UNICEF เริ่มงานในประเทศไทยใน พ.ศ. 2491 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สุขอนามัย และโภชนาการของเด็ก สนับสนุนโครงการเพื่อขจัดโรคร้ายในเด็ก โครงการฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค และการจัดน้ำดื่มสะอาด และสุขอนามัยในพื้นที่ชนบท ตลอดจนการแจกจ่ายนมถั่วเหลืองผสมข้าวโพด และเกลือผสมไอโอดีน



______________________________________

⚽️ เกาะติดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กับ THE STANDARD
ติดตามรายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ได้ทาง https://thestandard.co/worldcup2022/

https://youtu.be/kb0qYWJ7G1g พรรคไทยสร้างไทยแถลงข่าว เสนอร่างรัฐธรรมนูญ
10/12/2022

https://youtu.be/kb0qYWJ7G1g
พรรคไทยสร้างไทยแถลงข่าว เสนอร่างรัฐธรรมนูญ

Live 🔴 แถลงข่าวเรื่อง “50,000 ชื่อ ร่วมเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบโดย สสร.” เ.....

10/12/2022
10/12/2022

ก่อนชมบอลโลกคืนนี้ ชวนมาฟังคูมไหมไหม Sirikanya Tansakun - ศิริกัญญา ตันสกุล พูดรายละเอียดนโยบายค่าแรงของพรรคก้าวไกล กับ Jomquan
ติดตามได้ 20.00 น. คืนนี้ ในรายการ #มีเรื่องLive
ลิงก์สำหรับชม LIVE: https://youtu.be/ZWlr4fBSALw

10/12/2022
10/12/2022
10/12/2022
10/12/2022
10/12/2022

“พี่น้องแรงงานไทยก็เป็นมนุษย์ มีศักดิ์ศรี มีครอบครัวที่ต้องดูแล มีพ่อแม่ที่ต้องเจ็บป่วย มีลูกหลานที่ต้องเรียนหนังสือ ทุกชีวิตต้องได้รับโอกาส ได้รับเกียรติ และคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยนโยบายค่าแรง 600 บาท/วัน เท่าเทียมกัน”
สุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบาย พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ รองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคเพื่อไทย นายอรรถชัย อนันเมฆ คณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคเพื่อไทย ต้อนรับ ปิยรัชต์ สมาทา ประธานสหภาพแรงงานโตโยต้า พร้อมด้วยสมาชิกผู้ใช้แรงงาน ร่วมให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ประกาศวิสัยทัศน์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาท ภายในปี 2570
สุธรรม กล่าวว่า วิสัยทัศน์และนโยบายของพรรคเพื่อไทย ตรงใจผู้ใช้แรงงานและพี่น้องประชาชน เพราะเรามุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องตั้งแต่อดีตสมัยไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย นโยบายนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง วิพากษ์วิจารณ์กันในทุกภาคส่วนของสังคมซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี ที่เราจะได้ถกเถียง แลกเปลี่ยนความเห็นให้หลากหลาย เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์
ขณะนี้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาะวิกฤตหนักที่สุด มีหนี้สินสูง ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ รายได้ไม่เพียงพอ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความทุกข์ที่พี่น้องประชาชนเผชิญอยู่ได้ จึงมีความจำเป็นและเป็นหน้าที่ที่พรรคการเมืองจะต้องคิด และหาทางออกมากกว่า
“ค่าแรงขั้นต่ำที่ 600 บาท/วัน และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาท เป็นนโยบายที่เราเห็นว่า พี่น้องแรงงานไทยมีครอบครัวที่ต้องดูแล เจ็บป่วยต้องได้รับการดูแล มีลูกต้องได้เรียนหนังสือ ทุกชีวิตต้องได้รับโอกาส ได้รับเกียรติ และคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยนโยบายค่าแรง 600 บาท/วัน เชื่อว่าจะดูแลคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ” ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบาย กล่าว
ด้านตัวแทนประธานสหภาพแรงงานโตโยต้า กล่าวว่า พี่น้องแรงงานไทยต้องการให้ปรับค่าแรงให้มีความสมดุลกับค่าครองชีพ เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตได้โดยปกติ สามารถดูแลครอบครัวได้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ไม่ได้เกินเลยกำลังของนายจ้าง หรือผู้ประกอบการ และพรรคการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล พี่น้องชาวแรงงานมีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ธุรกิจต้องมีกำไร ภาครัฐเอง ซึ่งเป็นส่วนกลางในการนำเสนอนโยบายที่ดี ก็จะมีมาตรการที่ดีรองรับด้วย
“จึงขอให้กำลังใจคณะทำงานด้านนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย ในการผลักดันนโยบายแรงงานขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ให้สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และดำเนินนโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวแรงงานไทย” ตัวแทนประธานสหภาพฯ กล่าว

10/12/2022

“เมื่อเราปรับนโยบาย ให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น มีผู้นำที่มีความน่าเชื่อถือเชื่อมั่น เมื่ออัตราการเติบโตของ GDP สูงขึ้น ภาคเอกชนและประชาชน จะเห็นโอกาสและอนาคตแล้ว ดังนั้น ค่าแรงขั้นต่ำ 600-700 บาทต่อวันในปี 2570 จึงทำได้ไม่ยาก”
สุชาติ​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​​ กล่าวถึงกรณี​มีการถกเถียงกันว่า ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ในปี 2570 เป็นไปได้ไหม​ ภาคธุรกิจ​จะมีปัญหา​ไหม​ กระผมวิเคราะห์​เหตุผลตามหลักวิชาการแล้วเป็นไปได้แน่นอน​​
เมื่อ​ 30​ ปีที่แล้ว​ ประเทศจีนมีค่าแรงขั้นต่ำ​ต่อวัน​ 25​ บาท​ ในขณะที่ค่าแรงฯ​ ในไทย​วันละ 100 บาท​ วันนี้ในปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้​ ให้ค่าแรงขั้นต่ำ​ต่อวัน 1,000​ บาทแล้ว​ แต่ไทยให้ค่าแรงฯ​ แค่วันละ 300​ กว่าบาท​ ทั้งนี้เพราะจีนพัฒนาไปไกลแต่ไทยพัฒนาช้ามาก
พรรคเพื่อไทย กล้าคิดกล้าเสนอ​ กล้าสร้างความหวัง​ ถึงแนวทางใหม่ๆ​ ในการพัฒนาประเทศ​ ให้ทั้งภาคธุรกิจ​และภาคแรงงาน​เจริญเติบโต​ขึ้น ทำให้​รายได้ของชาติ​ (GDP​) เติบโตได้ถึง​ 5-6% (จากเพียง​ 2-3% ในปัจจุบัน​) ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจ​ ภาคแรงงาน​ ภาคเกษตร​กรรม​ และภาคประชาชนอาชีพ​อิสระ ทั้งหมดมีรายได้สูงขึ้น​ ดังนั้น ​ค่าแรงงานขั้นต่ำ​ ในอีก 5 ปีข้างหน้า​ คือในปี​ 2570​ จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 600-700 บาท​ จึงเป็นไปได้​ ไม่ได้ยากอะไร
เมื่อคราวที่ประกาศ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แทบไม่มีนักการเมืองคนไหน เชื่อว่าจะทำได้ มีบางพรรคเอาไปวางบนขั้นบันไดเหยียบขึ้นลง เป็นการดูถูกดูแคลน มีแต่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่เชื่อว่าทำได้ จึงไปลงคะแนนเสียงให้อย่างถล่มทลาย วันนี้ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นระบบสาธารณสุขที่ดีมากในอันดับต้นๆ ของโลก
เมื่อครั้งโครงการกองทุนหมู่บ้าน โครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (SML) โครงการ OTOP สำเร็จได้อย่างดี​ ซึ่งนักการเมืองรุ่นเก่าดูถูกดูแคลนว่าจะเอาเงินมาจากไหนเช่นกัน
วันนี้ เมื่อ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ประกาศสร้างงานใหม่ด้วยทักษะใหม่ที่สูงขึ้น 20 ล้านตำแหน่ง โดยสร้างศักยภาพใหม่ให้คนไทย ด้วยโครงการ 1 ครอบครัว 1 soft power จะสร้างรายได้ใหม่ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อคนต่อปี สร้างเงินใหม่ให้ประเทศ 4 ล้านล้านบาท เฉพาะในส่วนนี้ หากทำงาน 26 วันต่อเดือน ก็จะมีรายได้ต่อวัน 640 บาทแล้ว​ ยิ่งมีการใช้วิธีการเกษตร​สมัยใหม่​ เป็นเกษตรแม่นยำ​ ผลิตตามความต้องการของตลาด​โลก​ ด้วยเทคโนโลยี​สมัยใหม่​ ยิ่งทำให้พี่น้องประชาชน​สามารถล้างหนี้ได้​ มีเงินมีทองเก็บออมไว้ในอนาคตให้ลูกหลาน
แรงงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการอีก 24 ล้านคน จะมีค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน 600-700 บาทในปี 2570 จึงเป็นไปได้ เมื่อเราเพิ่มอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็น 5-6% ต่อปี รายได้รวมของชาติ (GDP) ก็จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 17 ล้านล้านบาท เป็น 24 ล้านล้านบาท​
เมื่อเราปรับนโยบาย​ ให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น มีผู้นำที่มีความน่าเชื่อถือเชื่อมั่น เมื่ออัตราการเติบโตของ GDP สูงขึ้น ภาคเอกชนและประชาชน จะเห็นโอกาสและอนาคต ประเทศไทยก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีก เป็นประเทศก้าวหน้าสมัยใหม่ เป็น Digital Economy ดังนั้น ค่าแรงขั้นต่ำ 600-700 บาทต่อวันในปี 2570 จึงทำได้ไม่ยาก

10/12/2022

10 ธันวาคม 2475
วันรัฐธรรมนูญ (Constitution Day)
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย
ปัจจุบันประเทศไทยใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ฉบับที่ 20 ซึ่งจัดร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในระหว่าง พ.ศ. 2557-2560 ภายหลังการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557


______________________________________
⚽️ เกาะติดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กับ THE STANDARD
ติดตามรายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ได้ทาง https://thestandard.co/worldcup2022/

09/12/2022

UPDATE: สุดารัตน์-สุพันธุ์ ชูนโยบายไทยสร้างไทยต้านคอร์รัปชัน เปิดยุทธศาสตร์ 8 ด้าน ยกระดับคะแนนชี้วัดคอร์รัปชันให้ดีขึ้น
วันนี้ (9 ธันวาคม) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวถึงนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยด้านการปราบคอร์รัปชัน
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงสถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทยซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงและตกต่ำอย่างที่สุด ดัชนีชี้วัดการคอร์รัปชันปี 2564 ซึ่งเป็นดัชนีภาพลักษณ์ความโป่รงใส หรือ CPI ไทยได้เพียง 35 คะแนน และได้ลำดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ เป็นตัวเลขที่ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับแต่เราเข้าร่วม CPI ปี 2538 เราสอบตกมาโดยตลอด ยิ่งหลังการรัฐประหารที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ้างเหตุเรื่องการคอร์รัปชันในการรัฐประหาร การคอร์รัปชันกลับยิ่งเลวร้ายลงในปี 2557 ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันไทยอยู่ที่ 38 คะแนน ได้ลำดับที่ 85 ของโลก แต่จากการปกครองประเทศของผู้ที่อาสาจะเข้ามาปราบโกงคะแนน CPI ตกลงมาโดยตลอด
ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทยจึงมีเป้าหมายในการกำจัดคอร์รัปชันโดยขอประกาศการปฏิวัติคอร์รัปชันให้เป็นวาระแห่งชาติ และจะทำให้คะแนนดัชนีภาพลักษณ์ความโปร่งใสของไทยขึ้นมาอยู่ที่ 50 คะแนนให้ได้
ขณะที่สุพันธุ์กล่าวว่า จากความเลวร้ายที่เกิดขึ้นพรรคไทยสร้างไทยจึงมียุทธศาสตร์ในการปฏิวัติการคอร์รัปชันของประเทศไทย ผ่านยุทธศาสตร์ทั้ง 8 ด้าน ประกอบไปด้วย
1. ผู้นำตั้งใจจริง ผู้นำประเทศจะต้องมีความตั้งใจจริงที่จะปราบคอร์รัปชันให้สิ้นซาก การปราบคอร์รัปชันจึงจะประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน ผู้นำประเทศจะต้องเป็นต้นแบบในการถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อแสดงความจริงใจ ความโปร่งใส และสร้างบรรทัดฐานให้กับผู้อื่นต่อไป โดยเรื่องดังกล่าวต้องถูกประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่เอามาเป็นข้ออ้างในการรัฐประการ แต่การทุจริตกลับเพิ่มขึ้น
2. ทุกคนต้องถูกตรวจสอบหมด การปราบคอร์รัปชันต้องจริงจังในทุกภาคส่วน องค์กรตรวจสอบก็ต้องถูกตรวจสอบด้วยโดยไม่มีข้อยกเว้น เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แล้วเปิดเผยต่อสาธารณชนทุกปี รวมไปถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย เพื่อความโปร่งใสและลดโอกาสในการกระทำการทุจริต
3. มีเส้นตายการสืบสวนสอบสวนและการพิจารณาคดี การสืบสวนสอบสวนการทุจริต ต้องมีการกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จให้ชัดเจน เมื่อถึงกำหนดเวลาหากการสืบสวนสอบสวนไม่แล้วเสร็จ จะต้องมีการทำรายงานชี้แจงต่อหน่วยงานตรวจสอบถึงเหตุผลของการล่าช้า
4. ลงโทษหนักทั้งผู้ให้ผู้รับ โดยสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้คนไทยโกงไม่มีที่ยืนในสังคม ไม่ใช่เพียงภาครัฐ แต่ภาคเอกชนก็ต้องเข้ามาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง นโยบายของพรรคไทยสร้างไทยจึงมีความพยายามในการดึงภาคเอกชนเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด
5. ให้อำนาจประชาชนแจ้งเบาะแสและฟ้องได้โดยตรง การแจ้งเบาะแสเรื่องทุจริต จะต้องสะดวกง่ายดายและเป็นความลับ มีระบบคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส สามารถร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจะต้องจัดไว้ตามองค์กรภาคธุรกิจ ชุมชน และสถาบันการศึกษา เมื่อได้รับการร้องเรียน องค์กรที่รับผิดชอบจะต้องมีการตอบสนองต่อการร้องเรียนอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง และต้องแจ้งกลับผู้ร้องเรียนว่าจะดำเนินการอย่างไรภายใน 14 วัน
6. สื่อมวลชนมีเสรีภาพ เสรีภาพของสื่อมวลชนต้องได้รับการรับรองและคุ้มครองอย่างเต็มที่ รวมถึงสิทธิการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพราะเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล องค์กรอิสระและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบการทำงานขององค์กรและหน่วยงานปราบคอร์รัปชัน
7. นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเหมือนกับในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อป้องกันการโกงโดยใช้ AI หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท จะต้องนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาบริหารจัดการเพื่อป้องกันการโกง ไม่ใช่ปล่อยให้มีผีมารับเงินบำนาญประชาชน และยังเป็นการลดต้นทุน ลดงบประมาณ และป้องกันการทุจริตได้
8. ให้อำนาจประชาชนผ่านสภาชุมชนกำหนดงบประมาณและตรวจสอบการใช้งบประมาณ เช่น การกำหนดงบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่น ให้ใช้วิธีการ Participatory Budgeting ซึ่งกำหนดให้ท้องถิ่นหรือชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดงบประมาณของโครงการในพื้นที่ ตั้งแต่เริ่มวางแผนโครงการเพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตตั้งแต่ต้น และกำหนดให้ท้องถิ่นหรือชุมชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการ การตรวจรับงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จ โดยผ่านกลไกสภาชุมชนมาร่วมตรวจรับงาน มีสิทธิในการคัดค้าน

______________________________________

⚽️ เกาะติดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กับ THE STANDARD

ติดตามรายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ได้ทาง https://thestandard.co/worldcup2022/

09/12/2022

UPDATE: ยุติธรรมมอบหมาย ป.ป.ส. นำหมายอายัดทรัพย์สิน โฉนดที่ดิน โรงแรม เครือข่ายตู้ห่าว มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
วันนี้ (9 ธันวาคม) ที่กระทรวงยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้ชุดปฏิบัติการพาลีปราบยา ได้ปฏิบัติการอายัดทรัพย์สินเครือข่ายของ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว หลังได้รับข้อมูลจาก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่นำมาส่งมอบให้กับกระทรวงยุติธรรม คือบริษัท ดีวาลักซ์ รีสอร์ทแอนด์สปา จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ
ซึ่งประกอบด้วย โฉนดที่ดินจำนวน 5 แปลง รวมกว่า 39 ไร่ รถยนต์หรู 5 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างที่อายัดไว้ประมาณ 3,020 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวได้ก่อตั้งเมื่อปี 2555 มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท มีชื่อกรรมการ 3 คนคือ พัชรินทร์, รัตนา และตู้ห่าว ร่วมเป็นกรรมการบริษัท และเริ่มก่อสร้างโรงแรมในปี 2559 ถึงปี 2561
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการอายัดทรัพย์ โรงแรมยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ จนกว่ากระบวนการอายัดทรัพย์จะแล้วเสร็จด้วยคำสั่งของศาล ซึ่งหลังจากนี้เจ้าของทรัพย์สินสามารถนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงที่มาของทรัพย์ที่ถูกอายัดได้
สมศักดิ์กล่าวต่ออีกว่า ตามอำนาจกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถือว่ายาเสพติดเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดการฟอกเงิน ดังนั้นการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นอำนาจการสอบสวนคดีอาญาที่ตำรวจรับผิดชอบ

______________________________________

⚽️ เกาะติดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กับ THE STANDARD

ติดตามรายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ได้ทาง https://thestandard.co/worldcup2022/

09/12/2022

UPDATE: สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตประชาธิปัตย์ ซบรวมไทยสร้างชาติอีก 1 คน หลังไม่มีชื่อเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ตรัง เขต 4
วันนี้ (9 ธันวาคม) สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตรัง เดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเมื่อมาถึงสมบูรณ์ได้เขียนใบสมัครต่อหน้านายทะเบียน และดำเนินการตามขั้นตอนของพรรค ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่าตนได้ลาออกจากพรรคเก่าเมื่อวานนี้ (8 ธันวาคม) และคิดว่าชีวิตทางการเมืองจะต้องเดินไปข้างหน้า วันนี้ถือเป็นวันฤกษ์ดี จึงได้เดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
โดยมีแนวคิดว่าการทำงานในที่ที่มีความสุขเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และคิดว่าที่นี่จะเป็นที่ที่ทำให้ตนทำงานได้อย่างมีความสุข จึงตัดสินใจที่จะมาร่วมงานกับพรรค เพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดตรังอีกครั้ง
สมบูรณ์กล่าวต่อไปว่า จากการที่ตนได้ติดตามนโยบายของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เห็นว่าทั้งสองประกาศแนวคิดที่เน้นเรื่องการสร้างความเป็นธรรมและเสมอภาคเท่าเทียมให้กับประชาชนทุกคน รู้สึกชื่นชมและเชื่อว่าเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนทุกคนต้องการ จึงอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยทำงานร่วมกับพรรค
ที่ผ่านมาตนเคยได้มีโอกาสร่วมงานกับพีระพันธุ์เมื่อสมัยที่เข้ามาเป็น ส.ส. ครั้งแรกเมื่อปี 2544 และได้เข้าไปอยู่ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพีระพันธุ์เป็นประธาน ทำให้มีโอกาสร่วมทำงานด้วยกันหลายปี ทราบว่าพีระพันธุ์เคยเป็นอดีตผู้พิพากษามาก่อน และเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้นำที่ดี โดยเฉพาะการตั้งใจทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรที่มีแนวคิดและวิธีการนำเสนอที่ทำให้ตนประทับใจมาก ขณะที่เอกนัฏ ตนก็เห็นว่าเป็น ส.ส. รุ่นน้องที่เป็นคนหนุ่มไฟแรง มีความตั้งใจ ได้เห็นความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสังคม ทำให้อยากมาร่วมงานด้วย
“ทั้งหมดทำให้เห็นได้ว่าภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้ผมจึงตั้งใจที่จะมาร่วมทำพรรคการเมืองให้ก้าวสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง ดูแลให้ความยุติธรรมกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ การได้รับความเป็นธรรม” สมบูรณ์กล่าว
สมบูรณ์ยังกล่าวถึงบรรยากาศทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดตรังว่า จากที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเห็นได้ว่าประชาชนค่อนข้างตื่นตัวขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนตัวของตนที่ขอเสนอตัวลงสมัคร ส.ส. จังหวัดตรัง เขต 4 ก็มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะในการเลือกตั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา คะแนนของตนพัฒนาเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ โดยในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 ตนยังเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงที่สุดในจังหวัดตรัง ครั้งนี้จึงอยากขออาสาเข้าไปรับใช้พี่น้องชาวจังหวัดตรังอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับสมบูรณ์ เป็นอดีต ส.ส. จังหวัดตรัง 4 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ โดยยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ หลังพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีชื่อตนเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดตรัง เขต 4


______________________________________
⚽️ เกาะติดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กับ THE STANDARD
ติดตามรายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ได้ทาง https://thestandard.co/worldcup2022/

09/12/2022

UPDATE: ศาลเลื่อนอ่านฎีกาครั้งที่ 6 ‘ธาริต’ กับพวกคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็น 2 ก.พ. 66 ทนายแจ้งธาริตไม่มา ป่วยนิ่วในไตต้องผ่าตัดพักฟื้น 4 เดือน
วันนี้ (9 ธันวาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ครั้งที่ 6 คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หมายเลขดำ อ.310/2556 ที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุรุนแรงทางการเมือง ปี 2553 พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ. ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 วรรคสอง
โดยในช่วงเช้าวันนี้มีเพียงจำเลยที่ 2-4 เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา ไม่พบว่า ธาริต จำเลยที่ 1 เดินทางมายังศาลแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 12.15 น. ศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณา นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกาวันนี้ ทนายโจทก์ที่ 1-2 จำเลย 2-4 ทนายจำเลยที่ 1 พนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยที่ 3-4 และในฐานะผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยที่ 1 และที่ 2 และผู้รับมอบอำนาจ นายประกันจำเลยทั้งสี่มาศาล ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มา
ทนายจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่าจำเลยที่ 1 เจ็บป่วยเป็นโรคนิ่วในไตทั้งด้านซ้ายและด้านขวา มีอาการปวดอักเสบรุนแรง มีเลือดออกมาพร้อมปัสสาวะ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ด้วยการผ่าตัดนิ่วทั้งสองข้าง ใช้เวลารักษารวม 4 เดือน และจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่เป็นคดีหมายเลขดำที่ รฟ 1/2565 คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างไต่สวน ซึ่งหากศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชนะคดี อาจมีผลต่อการใช้ดุลพินิจในการลงโทษจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ ทั้งนี้ในคดียังมีญาติของผู้เสียชีวิตบางรายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 แต่ยังอยู่ระหว่างระยะเวลายื่นคำคัดค้านคำร้องดังกล่าว ด้วยเหตุจำเป็นทั้งหมด จำเลยที่ 1 จึงขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไป ตามคำร้องขอเลื่อนคดีฉบับลงวันที่ 7 ธันวาคม สำเนาคำร้องให้คู่ความทุกฝ่ายแล้ว
ทนายโจทก์ที่ 1-2 แถลงว่า คดีนี้มีการเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วหลายนัด ประกอบกับญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งยื่นคำขอเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สามารถยื่นคำร้องดังกล่าวเข้ามาในคดีได้ก่อนมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด เหตุการณ์ตามฟ้องมีผู้เสียชีวิตมากถึง 99 คน
หากมีการยื่นคำร้องเข้ามาเรื่อยๆ อาจทำให้ต้องเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาไปอีกหลายนัด เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ทำให้ศาลชั้นต้นไม่อาจสั่งคำร้องต่างๆ ที่ยื่นมาในระหว่างนี้ได้ เป็นเหตุให้คดีล่าช้า หากให้ศาลฎีกาเป็นผู้อ่านคำพิพากษาเองจะเป็นการสะดวกและรวดเร็วยิ่งกว่า ส่วนอาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 1ให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ายังมีคำร้องหลายฉบับที่อยู่ระหว่างระยะเวลายื่นคำคัดค้านศาลนี้จึงยังไม่ได้ดำเนินการส่งคำร้องดังกล่าวให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่ง หากศาลฎีกามีคำสั่งประการใดอาจส่งผลต่อดุลพินิจในการทำคำพิพากษาคดีนี้ได้ กรณีมีเหตุจำเป็นไม่อาจอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาไปในวันนี้ได้
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเร่งรัดคดีให้สามารถอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้โดยเร็ว จึงเห็นสมควรให้คู่ความทุกฝ่ายรับสำเนาคำร้องต่างๆ ในสำนวนไปในวันนี้ หากบุคคลใดประสงค์จะคัดค้านให้ยื่นคำคัดค้านต่อศาลภายในวันที่ 5 มกราคม 2566
หากไม่ยื่นภายในกำหนดให้ถือว่าไม่ติดใจยื่นอีก และให้เจ้าหน้าที่รวบรวมสำนวนพร้อมคำร้องทั้งหมดส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งโดยเร็ว ส่วนคำร้องอื่นที่ยื่นมาหลังจากวันนี้ ให้รวบรวมส่งศาลฎีกาทั้งหมดโดยไม่ต้องสำเนาให้อีกฝ่ายคัดค้านก่อน และให้ศาลฎีกาเป็นผู้สอบคำคัดค้าน พร้อมสั่งคำร้องดังกล่าวในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในนัดหน้าผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ ให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566
ส่งหมายแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 1 ทราบเป็นหมายศาล โดยให้มีหนังสือถึงศาลจังหวัดที่จำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาในเขตศาลเป็นผู้ดำเนินการส่ง หากไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด และให้แจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 1 ทราบด้วยวิธีการปิดประกาศทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และปิดประกาศหน้าศาลอีกทางหนึ่งด้วย ให้จำเลยที่ 2-4 และนายประกันจำเลยทั้งสี่ลงชื่อทราบนัดไว้ ให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับศาลฎีกา และให้จัดเตรียมห้องพร้อมระบบการประชุมทางจอภาพกับศาลฎีกาในวันนัดให้เรียบร้อย
ภายหลัง สวัสดิ์ เจริญผล ทนายความโจทก์กล่าวว่า ศาลได้กำชับเรื่องอาการป่วยของธาริต จำเลยที่ 1 ว่าครั้งหน้าถ้ามีปัญหาแบบนี้อีก ศาลจะใช้ดุลยพินิจและมีคำสั่ง ทำให้วันนี้จำเป็นต้องเลื่อนคำพิพากษาออกไปก่อน จึงยังไม่มีคำสั่งใดๆ ทั้งนี้ ไม่มีความกังวลว่าจำเลยที่ไม่มาศาลหลายครั้งจะหลบหนี เพราะเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับศาลมากกว่า



______________________________________

⚽️ เกาะติดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กับ THE STANDARD

ติดตามรายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก ได้ทาง https://thestandard.co/worldcup2022/

09/12/2022

UPDATE: ชูวิทย์ ขออัยการสูงสุดรับทำคดี ตู้ห่าว เหตุเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ จี้ตำรวจพลาดหลายข้อหา
วันนี้ (9 ธันวาคม) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ขอเข้าพบ นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด เพื่อขอให้คดีทุนจีนสีเทาเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ให้อัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เนื่องจากโดยพฤติการณ์แล้วเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ จากการนำเข้ายาเสพติดข้ามชาติจากประเทศจีนมายังประเทศไทย
โดยก่อนที่ชูวิทย์จะขึ้นไปพบอัยการสูงสุดได้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าคดียาเสพติดที่ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เป็นผู้ต้องหา มีส่วนเกี่ยวพันกับการนำเข้ายาเสพติดจากประเทศจีน ซึ่งบรรจุภัณฑ์ยาเสพติดติดฉลากภาษาจีนชัดเจน อีกทั้งตู้ห่าวเป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวางระหว่างประเทศ จึงเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นคดีนอกราชอาณาจักรได้ โดยอัยการสูงสุดจะเข้ามารับผิดชอบในคดีได้ทันทีในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน จึงมาเพื่อขอยื่นหนังสือแก่อัยการสูงสุดเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ยื่นให้แก่โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแต่อย่างใด
ชูวิทย์ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการตั้งข้อหาดำเนินคดีกับตู้ห่าวของตำรวจว่ามีเพียงคดียาเสพติด 3 ข้อหาเท่านั้น คือ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ไม่ปรากฏว่ามีการตั้งข้อหาฟอกเงินแต่อย่างใด
ทั้งที่ข้อหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่จะต้องดำเนินคดีเรื่องการฟอกเงินกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดด้วย เมื่อไม่มีการตั้งข้อหาฟอกเงินกับตู้ห่าว การยึดอายัดทรัพย์สินของตู้ห่าวก็ไร้ความหมาย เนื่องจากเป็นเพียงการยึดอายัดชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่ยึดมาดำเนินคดีฟอกเงินขายทอดตลาด และเมื่อไม่มีคดีฟอกเงินของตู้ห่าวเป็นมูลฐาน ก็ทำให้พัชรินทร์รอดข้อหาสมคบกันฟอกเงินกับตู้ห่าว
ชูวิทย์กล่าวด้วยว่า พัชรินทร์มีพฤติการณ์รับโอนเงินจากตู้ห่าว ซึ่งมีพยานหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินชี้ชัด แต่ทางตำรวจให้พัชรินทร์เป็นเพียงแค่พยาน จึงมองว่าถ้ากระบวนการทำสำนวนของตำรวจผิดพลาดแบบนี้ อาจจะทำให้คดีนี้หลุดรอดได้ในชั้นศาล ซึ่งอาจจะซ้ำรอยคดีทัวร์ศูนย์เหรียญที่ศาลฎีกายกฟ้องไป จึงฝากเรียกร้อง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าทำไมถึงไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินแก่ตู้ห่าว มีตำรวจมีส่วนเอี่ยวหรือช่วยเหลือในการเลี่ยงตั้งข้อหาฟอกเงินหรือไม่ และจะนำเรื่องนี้ให้ทางอัยการสูงสุดตรวจสอบด้วย
ชูวิทย์กล่าวต่อไปว่า ตนไม่ใช่ไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจ แต่การปล่อยให้ตำรวจอย่างเช่นสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ยานนาวา หรือ สน. อื่นๆ ทำหน้าที่สอบสวน ก็ปรากฏข้อผิดพลาดจากตำรวจอย่างต่อเนื่อง เช่น การปล่อยรถของกลาง และหมายจับที่ล่าช้า เลยเชื่อมั่นและไว้วางใจอัยการสูงสุดซึ่งมีความเป็นนักกฎหมายสูงกว่าตำรวจ

ส่วนประเด็นที่จะมีการมอบส่วนแบ่ง 5% จากการยึดทรัพย์สินตู้ห่าวให้แก่ตน พร้อมแต่งตั้งตนเป็นที่ปรึกษาเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นั้นตนขอปฏิเสธรับตำแหน่งดังกล่าว และเงิน 5% หากได้รับจริง ตนจะนำไปบริจาคให้แก่โรงพยาบาลและสถานบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดทั้งหมด ส่วนเหรียญที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมอบให้ ตนก็รับและขอขอบคุณ ส่วนกระบวนการคุ้มครองพยานที่มีการเสนอแก่ตน ตนก็ไม่รับเช่นกัน
ต่อมา อิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า ที่ชูวิทย์มายื่นเรื่องเพราะกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ตนจะนำเรียนอัยการสูงสุดให้พิจารณา และดำเนินการตรวจสอบตามระบบต่อไป ยืนยันว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินคดีนี้อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน และจะไม่ทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย ตอนนี้จะดำเนินการประสานงานกับทางตำรวจให้สำนวนคดีมาตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนเรื่องการพิจารณาว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ อิทธิพรกล่าวว่า ปัจจัยที่จะทำให้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรได้ ต้องเป็นคดีที่มีคนไทยมีส่วนได้ส่วนเสีย และเหตุเกิดนอกราชอาณาจักร หรือส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นข้อเท็จจริง จึงยังไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ ต้องรอดูข้อเท็จจริงในสำนวนโดยละเอียด
ซึ่งตามขั้นตอน ทางพนักงานสอบสวนจะต้องส่งเรื่องเสนอให้ทางอัยการสูงสุดรับทราบ หากอัยการสูงสุดพิจารณาเห็นชอบ ก็จะทำให้อัยการสูงสุดป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน มีอำนาจมอบหมายให้อัยการหรือพนักงานสอบสวนชั้นตำรวจดำเนินการต่อไป แต่ถ้ามีประชาชนเสนอมาสามารถรับพิจารณาได้ ส่วนเรื่องกรอบระยะเวลาการพิจารณาว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรนั้น คงต้องใช้เวลาสักพักในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำสำนวนส่งมาให้อัยการพิจารณาข้อเท็จจริง

ที่อยู่

แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
Bangkok
10230

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00
เสาร์ 09:00 - 17:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ กระทรวงการเมือง - MOPผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด