Voice TV VoiceTV สถานีข่าวปลุกความคิดกับรายการ Wake Up News, In Her View, Tonight Thailand และข่าวทันสถานการณ์ Voice of the New Generation

‘นายกฯเศรษฐา’ วางคิวแน่น ออนทัวร์ลากยาว ‘เหนือ-อีสาน-ใต้‘ 25 พ.ย. - 9 ธ.ค.นี้ ประเดิม ครม.สัญจรนัดแรก จ.หนองบัวฯ 'อิ๊งค์...
24/11/2023

‘นายกฯเศรษฐา’ วางคิวแน่น ออนทัวร์ลากยาว ‘เหนือ-อีสาน-ใต้‘ 25 พ.ย. - 9 ธ.ค.นี้ ประเดิม ครม.สัญจรนัดแรก จ.หนองบัวฯ 'อิ๊งค์‘ ลงพื้นที่ดูแก้จนด้วย ก่อนไปต่อสัมมนาใหญ่ ‘เพื่อไทย’ ปิดท้ายเมืองกาญฯ แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง

‘นายกฯเศรษฐา’ วางคิวแน่น ออนทัวร์ลากยาว ‘เหนือ-อีสาน-ใต้‘ 25 พ.ย. - 9 ธ.ค.นี้ ประเดิม ครม.สัญจรนัดแรก จ.หนองบัวฯ ’อุ...

รถไฟฟ้า 20.-บาทตลอดสายฯ , ความจริงขาดทุนเพิ่มขึ้นเพียงวันละ 500,000.- , รัฐบาลฯ ต้องไปต่อ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประ...
24/11/2023

รถไฟฟ้า 20.-บาทตลอดสายฯ , ความจริงขาดทุนเพิ่มขึ้นเพียงวันละ 500,000.- , รัฐบาลฯ ต้องไปต่อ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน

รถไฟฟ้า 20.-บาทตลอดสายฯ , ความจริงขาดทุนเพิ่มขึ้นเพียงวันละ 500,000.- , รัฐบาลฯ ต้องไปต่อ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ก....

24/11/2023

: ​'Fast Fashion' #แฟชั่น ฉาบฉวยสร้าง ขยะมหาศาล ภาระของโลกที่แทบไร้หนทาง 'กำจัด'
เสื้อผ้า 'Fast Fashion' หลายหมื่นตันถูกนำมาทิ้งในทะเลทรายทางตอนเหนือของชิลีในแต่ละปี กลายเป็นกองภูเขาขยะเสื้อผ้ามหาศาลที่บางชิ้นอาจต้องใช้เวลาสลายอย่างต่ำ 200 ปี
กองขยะของเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งมองเห็นมาจากนอกโลกโดยการถ่ายของภาพถ่ายดาวเทียมและเป็นขนาดกองภูเขาขยะเสื้อผ้าที่ใหญ่ขึ้นแทบจะใหญ่กว่าขนาดเมืองที่อยู่ติดกัน
ผลิตเสื้อผ้าสร้างขยะจำนวนมหาศาลทั่วโลกราว 92 ล้านตันต่อปี แถมยังเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดน้ำเสีย 20% ของโลก และน้พเสียถูกปล่อยสู่ธรรมชาติโดยไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกต้อง …นี่แหละ คืออีกหนึ่งหายนะที่เรากำลังเผชิญ
รายการ THE WORLD | 'ชนโลก' กับ ‘โจ้ ชลวิศว์’
เรื่อง : ชลวิศว์ วงศ์ศรีวอ
ภาพ : ฉัตรดนัย ทิพยวรรณ์
ตัดต่อ : ยศพนธ์ เกิดวิบูลย์
ับโจ้ชลวิศว์
#ชนโลกกับโจ้ชลวิศว์
Fashion
#ขยะ

'ภูมิธรรม' เผย คณะอรหันต์ทำประชามติ จ่อให้สภาถกแก้ประชามติ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
24/11/2023

'ภูมิธรรม' เผย คณะอรหันต์ทำประชามติ จ่อให้สภาถกแก้ประชามติ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

“ก้าวไกล” น้อมรับข้อวิจารณ์ แต่งตั้งญาติเป็นผู้ช่วย สส. พร้อมทบทวนหารือวางมาตรฐานใหม่
24/11/2023

“ก้าวไกล” น้อมรับข้อวิจารณ์ แต่งตั้งญาติเป็นผู้ช่วย สส. พร้อมทบทวนหารือวางมาตรฐานใหม่

“ก้าวไกล” น้อมรับข้อวิจารณ์ แต่งตั้งญาติเป็นผู้ช่วย สส. พร้อมทบทวนหารือวางมาตรฐาน

24/11/2023

LIVE! (24พ.ย.66) ธนาธรมีทั้ง Vision/Passion ไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบ ควรได้เล่น

'นพดล' เชื่อนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ จะเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้คนไทยนับล้าน นายกฯและรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่วันที่ 24 พ.ย. 2566 ...
24/11/2023

'นพดล' เชื่อนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ จะเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้คนไทยนับล้าน นายกฯและรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่

วันที่ 24 พ.ย. 2566 นพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการถกเถียงว่าซอฟท์ พาวเวอร์คืออะไรกันแน่และตั้งคำถามว่ารัฐบาลรู้เรื่องนี้ดีหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่ารัฐบาลและผู้รับผิดชอบนโยบายพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ส่วนความเห็นเชิงด้อยค่าก็คงปัดผ่าน ส่วนตัวเชื่อว่าคนรับผิดชอบรู้ว่าตนทำอะไรอยู่และเข้าใจนโยบายซอฟท์ พาวเวอร์ และเราจะมัวไปเถียงกันทำไมในเรื่องกระพี้ว่าคำนิยามเป็นอย่างไร แต่ควรดูที่แก่นสาระว่านโยบายนี้จะสร้างคุณค่าจากต้นทุนและศักยภาพในเรื่องต่างๆเช่น คุณค่า วัฒนธรรม อัตลักษณ์ ศิลปะ อาหาร กีฬา ความนิยม ศักยภาพ ดนตรี ฯลฯ ของคนไทยเพื่อสร้างคุณค่า มูลค่า โอกาสและความสามารถในการแข่งขันให้คนไทยได้อย่างไร

นพดล กล่าวต่อว่างานส่วนที่ยากไม่ใช่การหาคำนิยามของซอฟท์พาวเวอร์ แต่เป็นการแปลเปลี่ยนและลงมือเอาแผนไปปฏิบัติ ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาล รวมทั้งผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น คณะกรรมการที่มีคุณแพทองธารเป็นประธานมีความสามารถที่จะผลักดันนโยบายนี้ให้สำเร็จ มีเจตจำนงทางการเมือง(political will) และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายนี้เพื่อสร้างรายได้ให้คนไทยนับล้านคนอย่างก้าวกระโดด สร้างโอกาสให้คนไทยนับล้านครอบครัว และที่สำคัญจะเป็นการสร้างขีดความสามารถให้ประเทศในเวทีโลกอีกด้วย

“นโยบายซอฟท์พาวเวอร์ถ้าสำเร็จจะช่วยให้ไทยออกจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง คำพูดด้อยค่าไม่สามารถลดทอนสิ่งที่มีคุณค่าในตัวได้ ตนเอาใจช่วยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบผลักดันนโยบายนี้ให้สำเร็จเพื่อคนไทย ใครมีข้อคิดที่สร้างสรรค์สามารถเสนอไปที่คณะกรรมการซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติที่คุณแพทองธาร ชินวัตรเป็นประธานได้“ นพดลกล่าว

24/11/2023

ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566

- ป.ป.ช.เผย “เศรษฐา” ขอขยายเวลายื่นบัญชี ครบ 4 ธ.ค.
- รวยขึ้น2ล้าน? ‘ตู่‘ นั่งนายกฯ9ปี มีทรัพย์สินรวม 130 ล.
- นายกฯ พร้อมแจงกมธ.ตำรวจ – ป.ป.ช.จ่อสอบต่อ

🎯พรรคก้าวไกล ติดตามคดี 'ทนายเคน' อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส. แพร่ โดนรถเฉี่ยวชนเสียชีวิตณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และ...
24/11/2023

🎯พรรคก้าวไกล ติดตามคดี 'ทนายเคน' อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส. แพร่ โดนรถเฉี่ยวชนเสียชีวิต

ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าหลังลงพื้นที่ จ.แพร่ ติดตามกรณีติรานนท์ เวียงธรรม หรือทนายเคน อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ เขต 1 ประสบเหตุโดนรถเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต ก่อนวันเปิดรับสมัคร สส. ไม่กี่วัน โดยครอบครัวและทางพรรคมีข้อสงสัยว่าอาจมีการวางแผนตั้งใจชน เพื่อประโยชน์ทางการเมือง คดีผ่านมา 8 เดือน ตำรวจเพิ่งสรุปสำนวนเห็นควรงดสอบสวนส่งอัยการ แต่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ เตรียมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.แพร่ เพื่อให้สอบเพิ่ม ให้ทุกข้อสงสัยได้รับการพิสูจน์ คืนความเป็นธรรมให้ “ทนายเคน”

โดยณัฐวุฒิฯ พร้อมครอบครัวทนายเคน และคณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.แพร่ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทนง ผาเพียว รองผู้กำกับการ (สอบสวน) และ พ.ต.ต.ชาติสยาม แจ่มรัตนโสภิณ พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ที่ สภ.สูงเม่น ได้รับคำชี้แจงว่าคดีนี้ ตำรวจสอบปากคำพยานบุคคลไปกว่า 20 ปาก พร้อมส่งหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานการใช้โทรศัพท์ของบุคคลในบริเวณเกิดเหตุ สีที่ติดอยู่กับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ และผลการชันสูตรศพให้กับทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นกลับมา เชื่อได้ว่าเป็นเหตุที่มีคู่กรณีในการเฉี่ยวชนจริง แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่าเป็นรถคันใดและบุคคลใดเป็นคนขับ โดยได้ตั้งข้อหาความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันที” แต่ในเมื่อยังหาตัวคนกระทำผิดไม่ได้และระยะเวลาผ่านมาพอสมควร ในชั้นนี้จึงได้เสนอผู้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาเห็นชอบ โดยสรุปสำนวนเห็นควรงดสอบสวนไว้ก่อนตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 140 (1) วรรคสอง และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ จ.แพร่ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา

หลังจากนั้น ณัฐวุฒิ พร้อมด้วยครอบครัวทนายเคน ได้เข้าพบตัวแทนพนักงานอัยการ จ.แพร่ เพื่อสอบถามความคืบหน้าและคำแนะนำทางกฏหมาย โดยณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากที่ได้รับคำชี้แจงจากตำรวจ ยังมีข้อมูลหลายประการที่ยังไม่ได้สอบ ทั้งพยานบุคคลสองคนที่ขับรถตามทนายเคนมา และอยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์มากที่สุด และปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่ทราบว่าบุคคลสองคนดังกล่าวคือใคร รถยนต์ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นรถกระบะยี่ห้อหนึ่ง ที่ตำรวจเองก็สอบรถต้องสงสัยไปหลายคัน แต่ยังไม่เจอคันที่อาจถูกใช้ก่อเหตุ ข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์ว่ามีเบอร์ของใครปรากฏในเวลาและสถานที่ขณะเกิดเหตุบ้าง กล้องวงจรปิดในถนนเส้นอื่นๆ ที่ใกล้เคียง รวมถึงมีบุคคลแปลกหน้าที่ปรากฏตัวในบริเวณร้านค้าของครอบครัวทนายเคนหลังเกิดเหตุ ซึ่งสร้างความกลัวให้กับครอบครัวหลายครั้ง ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ได้ปรากฏในสำนวน และคงยากที่จะได้มา อย่างเช่นภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะเหตุการณ์ผ่านมาหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เราเองยังมีความหวัง เพราะทางอัยการแจ้งว่าได้ส่งสำนวนกลับไปให้ทางตำรวจสอบสวนเพิ่ม

ทั้งนี้เพื่อให้ทุกข้อสงสัยได้รับการพิสูจน์ ทางพรรคก้าวไกล ครอบครัวทนายเคน และคณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.แพร่ จะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดแพร่และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่มีความกระจ่างชัด หรือในประเด็นที่เห็นว่าทางตำรวจยังไม่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนั้น


“ทางพรรคมิได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่เกิดเหตุ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น และชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง และกำชับให้ติดตามคดีจนถึงที่สุด โดยหากท่านใดมีข้อมูลหรือพยานหลักฐานใดๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ สามารถแจ้งกลับทีมงานของพรรคในพื้นที่ จ.แพร่ ได้ โดยทางพรรคมิได้มองว่าเรื่องนี้อาจมีเหตุจูงใจมาจากทางการเมืองอย่างเดียว และเห็นถึงความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ แต่เมื่อยังมีข้อสงสัย เราเองก็อยากทำความจริงให้กระจ่าง คืนความเป็นธรรมให้กับผู้สูญเสียให้มากที่สุด และเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่นๆ ที่อาจมีข้อเท็จจริงที่ใกล้เคียงกัน” ณัฐวุฒิกล่าวในที่สุด

โดย “ทนายเคน” หรือ ติรานนท์ เวียงธรรม เป็นอดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ เขต 1 เป็นคน อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นทนายที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนจนได้รับสมญาว่า “ทนายคนจน” หลังจากได้รับการเปิดตัวเป็นผู้สมัคร สส. ได้ลงพื้นที่หาเสียงมาโดยตลอด และในคืนเกิดเหตุวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ไปร่วมงานประจำปีที่วัดพระหลวง ด้วยรถจักรยานยนต์และกำลังเดินทางกลับที่พรรค แต่มาประสบเหตุที่ถนนบริเวณหน้าสุสานต้นผึ้ง หมู่ 8 ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ ผู้มาประสบเหตุพบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ และทนายเคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.แพร่ โดยจนปัจจุบันยังไม่อาจพิสูจน์ได้ชัดว่าเกิดอุบัติเหตุเองหรือมีรถเฉี่ยวชน และหากเป็นกรณีเฉี่ยวชนเป็นอุบัติเหตุหรือด้วยความตั้งใจ เป็นคำถามที่ยังคาใจครอบครัวและพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวมาจนถึงปัจจุบัน

24/11/2023

#รสทิพย์ไตย EP.17 คุยกับ “เดียร์” ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.เพื่อไทย ในฐานะประธานคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาสถานบันเทิงฯ

ไม่เกี่ยวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ตร.'วรวัจน์' เผยที่ประชุมวันนั้นพูดเรื่องหนี้ ยาบ้า‘วรวัจน์’ ยืนยัน ‘นายกรัฐมนตรี’ พูด...
24/11/2023

ไม่เกี่ยวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ตร.
'วรวัจน์' เผยที่ประชุมวันนั้นพูดเรื่องหนี้ ยาบ้า
‘วรวัจน์’ ยืนยัน ‘นายกรัฐมนตรี’ พูดกับ สส. เพื่อไทย ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ-ยาเสพติด จัดการแก๊งหมวกกันน็อก ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
วันที่ 24 พ.ย. 2566 วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยถึงความสมหวัง-ผิดหวังในเรื่องตำรวจว่า ข้อเท็จจริงคือ ในการประชุม สส.ทุกๆ สัปดาห์ หลังจากที่มี พ.ร.บ.ตำรวจ นายกฯ ประกาศชัดเจนในที่ประชุมว่า การโยกย้ายแต่งตั้งอะไรก็แล้วแต่
ทุกคนไม่ต้องเสียเวลาฝากที่นายกฯ เลย เพราะตอนนี้ ท่านไม่มีอำนาจในส่วนนี้แล้ว ซึ่งสมาชิกทุกคนก็รับรู้กันทั้งหมดแล้ว ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้น ต้องเล่าก่อนกว่า สส.อีสาน นำเรื่องร้องเรียนไปแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีถึงปัญหากลุ่มหมวกกันน็อก และหนี้นอกระบบกำลังคุกคามพี่น้องประชาชนอย่างหนัก
ซึ่งตั้งแต่ยุคไทยรักไทยมีการนำเอาผู้กำกับและนายอำเภอมาดึงเอาลูกหนี้ และเจ้าหนี้มาคุยกัน ทำให้แก้ไขปัญหาได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับโจทย์ไป นอกจากนี้ยังมีเรื่องยาเสพติด ที่เป็นอีกปัญหาสำคัญอีกด้วย และพี่น้องประชาชนกังวลอย่างมากว่าอาจเป็นภัยต่อลูกหลาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับว่าจะนำเรื่องนี้ไปดำเนินการ จนถึงวันประชุม สส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจึงนำเรื่องเหล่านี้มาเล่าให้ฟังว่าได้ไปดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว และจะมีการเรียกประชุมใหญ่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อเนื่องต่อไป ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง บางคน บางพื้นที่ก็สมหวัง บางคน บางพื้นที่ก็ผิดหวัง
“ผมย้ำนะครับ ว่าเรื่องที่นายกฯพูดนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นายกฯจะมาเล่าเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้งตำรวจต่อหน้าสื่อ ทั้งที่ท่านก็เห็นว่ามีสื่อกำลังถ่ายภาพอยู่เต็มไปหมด เราพูดคุยกันถึงการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่มีการเสนอให้ตำรวจเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา รวมไปถึงปัญหายาเสพติดที่จะต้องเร่งรัดการแก้ไขครับ” วรวัจน์ กล่าว

❗️‘พวงเพ็ชร’ กำชับหน่วยงานรัฐ ห้ามบังคับเรี่ยไรเกลื่อน หวั่นกระทบประชาชน ชี้ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้วันที่ 24 พ.ย.66 เวลา ...
24/11/2023

❗️‘พวงเพ็ชร’ กำชับหน่วยงานรัฐ ห้ามบังคับเรี่ยไรเกลื่อน หวั่นกระทบประชาชน ชี้ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้

วันที่ 24 พ.ย.66 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 108 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ (กคร.) โดยคณะกรรมการ กคร. เข้าร่วม

โดยที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เคยได้มีการเรี่ยไรตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2566 จำนวน 11 เรื่อง และร่วมพิจารณากิจกรรมที่เสนอขออนุมัติ จำนวน 12 กิจกรรม โดยส่วนมากเป็นการขออนุมัติจัดโครงการทอดกฐิน และการแข่งขันกีฬา เช่น กอล์ฟ และโบว์ลิ่ง การกุศล ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ และเสนอให้มีการ แจ้งหน่วยงานรัฐให้ทราบแนวทางการปฏิบัติ ในการนำกิจกรรมเสนอต่อ กคร.

พวงเพ็ชร กล่าวว่า หน่วยงานรัฐที่ต้องการจะดำเนินกิจกรรมในลักษณะของการเรี่ยไรเงินจากผู้ใดก็ตาม ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ โดยกิจกรรมดังกล่าวต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนส่วนรวม ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่เรี่ยไรโดยการเจาะจงหรือบังคับใจ

ทั้งนี้ หากหน่วยงานใดสนใจจัดกิจกรรมโดยการเรี่ยไรต้องยื่นกิจกรรมต่อคณะกรรมการฯ พิจารณาก่อนดำเนินกิจกรรม 60 วัน และต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานรวมถึงงบประมาณทันทีหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมภายใน 30 วัน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของคณะกรรมการว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ

นายกฯ หารือประเด็นนโยบายด้านการวิจัยกับประธานทีดีอาร์ไอและคณะ ย้ำยินดีรับฟังข้อเสนอแนะทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่างอย่างสร้...
24/11/2023

นายกฯ หารือประเด็นนโยบายด้านการวิจัยกับประธานทีดีอาร์ไอและคณะ ย้ำยินดีรับฟังข้อเสนอแนะทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

วันที่ 24 พ.ย. 66 เวลา 11.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำคณะผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เข้าพบ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือประเด็นนโยบายด้านการวิจัย โดยมีนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมในการหารือ

โดย ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ทำงานอย่างหนัก เดินสายไปทั่วโลกทำให้ประเทศไทยกลับสู่เวทีโลก ในฐานะที่ทีดีอาร์ไอทำการวิจัยเชิงนโยบาย โดยในบางเรื่องมีองค์ความรู้และข้อแนะนำที่อาจจะเป็นประโยชน์กับทางรัฐบาล จึงขอนำเสนอ 4 เรื่องต่อรัฐบาล ได้แก่ 1. การปฏิรูปกฎระเบียบภาครัฐ 2. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 3. ประเทศไทยควรจะเข้าเป็นสมาชิกขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD 4. ยุโรปจะเก็บภาษีคาร์บอนนำเข้าจากสินค้าของประเทศต่าง ๆ ซึ่งกลไกทางกฎหมายของประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม ดังนั้นจะต้องเตรียมการ ทั้งนี้ หากรัฐบาลเห็นว่ามีเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ ทีดีอาร์ไอมีความยินดีที่จะทำงานศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอด้านการวิจัยจากประธานทีดีอาร์ไอ โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ชัดเจน เข้าใจดีว่าบางเรื่องทีดีอาร์ไอก็เห็นด้วย บางเรื่องก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล โดยในการดำเนินการใดๆ ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีรับฟังข้อเสนอแนะทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ เพราะถือว่าเป็นการติเพื่อก่อ ซึ่งขอขอบคุณสำหรับข้อเสนอด้านการวิจัยจากทีดีอาร์ไอในวันนี้ โดยจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรายละเอียดไปพิจารณา เพื่อหาแนวทางความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อไป

เอกสารรายละเอียดงบประมาณ 2567 ถูกถอดจาก 'ชั้นความลับ' เพราะครม.ได้อนุมัติกรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ 21 พ.ย.2566 หลังจ...
24/11/2023

เอกสารรายละเอียดงบประมาณ 2567 ถูกถอดจาก 'ชั้นความลับ' เพราะครม.ได้อนุมัติกรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ 21 พ.ย.2566 หลังจากนี้สำนักงบฯ ต้องนำไปทำเป็นร่าง พ.ร.บ. จัดรับฟังความคิดเห็นแล้เข้าสู่ ครม.อีกครั้ง ก่อนเข้าสู่สภาผู้แทนฯ อีก 3 วาระ ผ่านชั้นวุฒิสภา แล้วจึงทูลเกล้าฯ คาดกว่าการเบิกจ่ายจะทำได้ในเดือน พ.ค. ล่าช้าไป 7 เดือน เพราะจัดตั้งรัฐบาลได้ช้า รายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้

📌ภาพรวม สรุปตัวเลขกลมๆ

◾ วงเงินทั้งหมด 3,480,000 ล้านบาท
◾ เพิ่มจากปีก่อน 2.95 แสนล้าน (+9.26%)
◾ เป็นรายจ่ายประจำแล้ว 2 ใน 3
◾ งบลงทุนมีอยู่ 715,000 ล้านบาท
◾ การเบิกจ่ายล่าช้าประมาณ 6-7 เดือน เพราะจัดตั้งรัฐบาลช้า
◾ งบบุคลกรสูงถึง 230,000 ล้านบาท
◾ งบกลาง 600,000 ล้านบาท
◾ กว่าครึ่งของงบกลาง คือ บำเหน็จบำนาญข้าราชการ
◾ งบส่วนราชการในพระองค์ 8,400 ล้าน (ลดลงจากปีก่อน 1.55%)
◾ งบท้องถิ่น (อปท.) 346,000 ล้าน คิดเป็น 29.06% ของรายได้สุทธิรัฐบาล เพิ่มจากปีก่อนถึง 33,958.7 ล้านบาท หรือประมาณ 10%

📌งบทั้งหมดแบ่งเป็นประเภทอะไรบ้าง

◾ งบกลาง 603,265 ล้าน (17.34%)
◾ งบหน่วยรับงบประมาณ 1,173,063 ล้าน (33.71%)
◾ งบบูรณาการ 215,630 ล้าน (6.2%)
◾ งบบุคลากร 785,958 ล้าน (22.58%)
◾ งบทุนหมุนเวียน 237,343 ล้าน (6.82%)
◾ งบชำระหนี้ภาครัฐ 346,380 ล้าน (9.95%)
◾ งบชดใช้เงินคงคลัง 118,361 ล้าน (3.4%)

📌10 อันดับ หน่วยงาน 'งบเพิ่ม'

+30.08% กระทรวงดิจิทัลฯ (งบรวม 2,042 ล้าน)
+19.23% กระทรวงการต่างประเทศ (งบรวม 1,453 ล้าน)
+17.53% องค์กรอิสระและอัยการ (งบรวม 1,779 ล้าน)
+17.11% องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (งบรวม 14,797 ล้าน)
+14.76% ทุนหมุนเวียน (งบบรวม 30,523 ล้าน)
+14.73% กระทรวงการคลัง (42,000 ล้าน)
+13.50% กระทรวงแรงงาน (7,332 ล้าน)
+ 9.12% กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ (2,777 ล้าน)
+ 8.84% กระทรวงสาธารณสุข (13,462 ล้าน)
+ 8.57% กระทรวงมหาดไทย (27,882 ล้าน)

📌 ‘งบกลาง’ มีอะไรบ้าง

งบกลาง ปี 2567 จำนวน 603,265 ล้านบาท (เพิ่มจากปีก่อน 12,795 ล้านบาท)

◾ 800 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายการเสด็จพระราชดำเนินและต้อนรับประมุขต่างประเทศ

◾ 4,000 ล้านบาท
ชดใช้เงินทดรองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน

◾ 2,500 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายโครงการพระราชดำริ

◾ 76,000 ล้านบาท
ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานของรัฐ

◾ 800 ล้านบาท
เงินชดเชยค่างานก่อสร้าง 800 ล้านบาท

◾ 4,520 ล้านบาท
เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ

◾ 329,430 ล้านบาท
เงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ

◾ 11,000 ล้านบาท
เงินเลื่อนเงินเดือนและปรับวุฒิข้าราชการ

◾ 440 ล้านบาท
เงินสมทบของลูกจ้างประจำ

◾ 78,775 ล้านบาท
เงินสำรอง เงินสมทบ เงินชดเชยของข้าราชการ

◾ 95,000 ล้านบาท
เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ที่มา : ร่าง (เบื้องต้น) ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เปิดรับฟังความคิดเห็น 21 พ.ย.-5 ธ.ค.2566

สถิติ 'งบกลาง' ย้อนหลัง 10 ปี
ปี 2557 343,000 ล้านบาท
ปี 2558 384,000 ล้านบาท
ปี 2559 477,000 ล้านบาท
ปี 2560 461,000 ล้านบาท
ปี 2561 430,000 ล้านบาท
ปี 2562 472,000 ล้านบาท
ปี 2563 610,000 ล้านบาท
ปี 2564 615,000 ล้านบาท
ปี 2565 587,000 ล้านบาท
ปี 2566 590,000 ล้านบาท

*มีการปรับตัวเลขท้ายให้เป็นจำนวนเต็ม
*ที่มา : สำนักงบประมาณของรัฐสภา (PBO)

📌ไทม์ไลน์ งบปี’67 ล่าช้า 6-7 เดือน

7 ต.ค.-10 พ.ย.66 สำนักงบประมาณทำกรอบงบประมาณนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)

14 พ.ย.66 ครม.เห็นชอบพร้อมแนวทางการปรับปรุงรายละเอียด

15 - 17 พ.ย.66 สำนักงบประมาณปรับปรุงรายละเอียด

21 พ.ย.66 ครม.เห็นชอบและให้สำนักงบประมาณไปรับฟังความคิดเห็น

22 - 28 พ.ย.66 สำนักงบประมาณ รับฟังความคิดเห็นการจัดทำงบประมาณ

12 ธ.ค.66 ครม.รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นและพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

3 ม.ค. - 4 ม.ค.67 สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาวาระ 1

3 เม.ย.- 4 เม.ย.67 สภาผู้แทนราษฎร พิจารณา วาระที่ 2 - 3

9 เม.ย. - 10 เม.ย.67 วุฒิสภา พิจารณา

17 เม.ย.67 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ที่มา : เอกสารรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่สำนักงานประมาณนำเสนอครม.เมื่อ 21 พ.ย.2566

ฮามาสจ่อปล่อยตัวประกันไทย 23 ชีวิต สื่ออิสราเอลรายงานมีอิหร่านช่วยเจรจาสำนักข่าว The Times of Israel รายงานว่า ตัวประกัน...
24/11/2023

ฮามาสจ่อปล่อยตัวประกันไทย 23 ชีวิต สื่ออิสราเอลรายงานมีอิหร่านช่วยเจรจา

สำนักข่าว The Times of Israel รายงานว่า ตัวประกันชาวไทยราว 20 ชีวิต ที่เชื่อว่าถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปในฉนวนกาซา อาจได้รับการปล่อยตัวนอกรอบข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกัน ที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮามาส

สื่ออิสราเอลรายงานว่า รัฐบาลไทยพยายามจัดการเจรจานอกรอบ เพื่อหาหนทางการส่งตัวพลเมืองไทยบางส่วนที่เชื่อว่าถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปกลับประเทศ ระหว่างการโจมตีของฮามาสในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล เมื่อช่วงวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 ราย รวมทั้งคนงานไทยจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ มีรายงานว่าพลเรือนประมาณ 240 ราย ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปในวันเดียวกัน

เมื่อช่วงวันศุกร์ (24 พ.ย.) กลุ่มฮามาสมีกำหนดปล่อยตัวประกันผู้หญิงและเด็ก 13 คน เพื่อแลกกับชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำอิสราเอล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพักรบเป็นเวลา 4 วัน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าฮามาสจะทำการปล่อยตัวประกันราว 50 คน และในขณะที่อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ราว 150 คน

จากรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 พ.ย.) ของ Al-Araby Al-Jadeed เว็บไซต์ข่าวกลุ่มอาหรับในกรุงลอนดอน ซึ่งอ้างแหล่งข่าวในอียิปต์ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่า กลุ่มฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกันชาวไทย 23 คน ภายหลังการเจรจาของอิหร่านระหว่างกลุ่มฮามาสกับรัฐบาลไทย

ทั้งนี้ รายงานระบุว่าอิหร่านได้แจ้งรายละเอียดแก่ไทย เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของผู้ลักพาตัวชาวไทยที่จะได้รับการปล่อยตัวแล้ว โดยรัฐบาลไทยเชื่อว่า มีพลเมืองไทย 26 คนถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มฮามาสตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา

ข้อตกลงการปล่อยตัวประกันชาวไทยดังกล่าว แยกออกจากข้อตกลงพักรบชั่วคราวระหว่างอิสราเอลและฮามาส ที่มีกาตาร์เป็นรัฐตัวกลางในการเจรจา ซึ่งได้มีผลใช้บังคับไปแล้วนับตั้งแต่วันศุกร์ เวลา 07.00 น. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22 พ.ย.) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวว่า เขาหวังว่าการพักรบชั่วคราวจะช่วยให้ตัวประกันชาวไทยสามารถเดินทางออกจากฉนวนกาซาได้อย่างปลอดภัย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกคนหนึ่งของทีมเจรจาการปล่อยตัวตัวประกันชาวไทยกล่าวว่า รัฐบาลไทยได้รับการรับรองจากกลุ่มฮามาสว่า ชาวไทย 25 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้น “ปลอดภัย” และจะได้รับการปล่อยตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ก่อนหน้านี้หลังจากกลุ่มฮามาสเข้าโจมตีอิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้ว คนงานชาวไทยหลายหมื่นในอิสราเอล หลายคน ซึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมใกล้ชายแดนฉนวนกาซา ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการยิงปะทะกันระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองกำลังอิสราเอล ทั้งนี้ ตามข้อมูลของรัฐบาลไทย มีชาวไทยอย่างน้อย 32 คนถูกสังหารในการสังหารหมู่ของฮามาส

อ่านบนเว็บไซต์: https://www.voicetv.co.th/read/7FdKYntYA

ที่มา:

https://www.timesofisrael.com/report-hamas-set-to-release-23-thai-hostages-in-side-deal-brokered-by-iran/?fbclid=IwAR11uxrLdNtYS8mT-gzyo4KWa2KEDyNnKDHRrPGgTTsbRNOsUgOpga0wUy0

'โรม' เผยยังไม่ได้คุย 'สส.จันทบุรี' ปมแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย สส. มองเป็นโอกาสตรวจสอบทั้งสภา รับพรรคใหญ่ขึ้น สังคมคาดหวั...
24/11/2023

'โรม' เผยยังไม่ได้คุย 'สส.จันทบุรี' ปมแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย สส. มองเป็นโอกาสตรวจสอบทั้งสภา รับพรรคใหญ่ขึ้น สังคมคาดหวัง โดนโจมตีมากขึ้น แต่พร้อมรับการตรวจสอบ ชี้ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วพยายามสร้างมาตรฐานใหม่ หากผิดจริงไม่เคยปกป้อง

วันที่ 24 พ.ย. 2566 รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีเสียงวิพาษณ์วิจารณ์กรณีที่ ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี พรรคก้าวไกล แต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย สส. ว่าเรื่องนี้งยังไม่ได้คุย ญาณธิชา แต่เมื่อมีประเด็น ก็ยืนยันในส่วนของพรรคก้าวไกลไม่อยู่เฉย ที่ผ่านมาก็พิสูจน์มาพอสมควรว่าหากมีประเด็นที่เป็นปัญหา พรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะทำให้ถูก ยอมรับว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่พยายามสร้างมาตรฐานใหม่กับการเมือง

ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเราอาจเจอปัญหา ความท้ายทายที่เกิดขึ้นในพรรค แต่สิ่งที่พรรคพยายามสร้างมาตรฐานมาโดยตลอดคือใครก็ตามที่ทำผิด ถ้าผิดจริงเราไม่เคยปกป้อง ตนคิดว่านี่คือเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นถ้ามีเรื่องไม่ถูกต้องเราก็พร้อมจะแก้ไข พร้อมที่จะทำให้ดีขึ้น ตั้งแต่เรื่องเมาแล้วขับ เรายอมรับพรรคใหญ่ขึ้น อาจเจอจุดที่เป็นปัญหาอยู่บ้าง แต่สุดท้าย สส.คนนั้นก็แสดงสปิริตด้วยการลาออก เราเจอความท้ายทายในประเด็นเรื่องทางเพศ สังคมก็เห็นว่าพรรคก้าวไกลตัดสินใจกันอย่างไร เราไม่เคยอยู่เคียงข้าง ปกป้องผู้กระทำผิดถ้าเขาผิดจริงแต่เราอาจจะขอเวลาในการตรวจสอบ พิจารณา

รังสิมันต์ ระบุด้วยว่า เรื่องการตั้งคู่สมรส ก็เป็นโอกาสดี ที่จะต้องเปิดเผยกันทั้งหมดว่า สส. ในสภา มีใครบ้างตั้งคู่สมรส มาทำงาน เป็นโอกาสดีที่จะใช้ในการตรวจสอบว่านักการเมือง พร้อมน้ำว่าก่าวไกลพิสูจน์มาแล้วหลายครั้งว่าไม่ปกป้องคนทำผิด

ส่วนเป็นการสะท้อนว่าพรรคโตเร็ว อุดมการณ์กับวิธีการไม่ไปด้วยกันหรือไม่นั้น รังสิมันต์มองว่าไม่ใช่เรื่องการเติบโตของพรรค แต่เป็นเรื่องที่สังคมคาดหวัง ซึ่งต้องน้อมรับ เป็นกระจกที่สะท้อนกลับมา สิ่งที่เราต้องทำคือปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมยืนยันในวิกฤติก็มีโอกาส พรรคจะเข้มแข็งหรือไม่ก็ต้องเจอความท้ายทาย เจอวิกฤต และเราพยายามสร้างมาตรฐานใหม่ และหวังว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร

พร้อมรับว่าเมื่อมีเรื่องเหล่านี้เข้ามา พรรคก็โดนโจมตีเรื่อยๆ เราอยู่ในการเมืองยุคใหม่ ที่ฝ่ายค้านโดนตรวจสอบมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่นักการเมืองทุกคนได้รับการตรวจสอบ เพราะรับเงินจากภาษีของประชาชน ส่วนที่โดนโจมตีก็ต้องรับไป แต่ในส่วนที่พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลก็เป็นส่วนที่เราเรียกร้องสังคมให้ช่วยกันตรวจสอบ

ป.ป.ช. จ่อสอบหลักฐานปม 'เศรษฐา' ถูกร้องฝากตำรวจ ชี้หากฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงคาดโทษพ้นตำแหน่ง ยันไม่หนักใจ เหตุสอบนายกฯ มา...
24/11/2023

ป.ป.ช. จ่อสอบหลักฐานปม 'เศรษฐา' ถูกร้องฝากตำรวจ ชี้หากฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงคาดโทษพ้นตำแหน่ง ยันไม่หนักใจ เหตุสอบนายกฯ มาแล้วหลายสมัย

วันที่ 24 พ.ย. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เข้ายื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ในการใช้อำนาจของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในกรณีการฝากตำแหน่งผู้กำกับ

ภูเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏตามสื่อว่า เข้าเงื่อนไขความผิดตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และทาง ป.ป.ช. มีกรอบเวลาดำเนินการอยู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สาธารณะให้ความสนใจ ก็จะจัดลำดับขึ้นมาดำเนินการ

ส่วนคลิปข่าวที่นายกฯ พูดในที่ประชุม สส.เพื่อไทย สามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่นั้น ภูเทพ กล่าวว่า ต้องรวบรวม ทั้งที่ปรากฎตามสื่อ ผู้หวังดีส่งให้ หรือ ข้อมูลที่ ศรีสุวรรณ ส่งมาให้วันนี้ ก็จะนำมาประกอบทั้งหมด แต่ก็อยู่ภายใต้การดำเนินการของ ป.ป.ช. และเราก็สามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

สำหรับบทลงโทษสูงสุดกรณี สส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ภูเทพ กล่าวว่ามี 2 ส่วน ถ้าเป็นเรื่องฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมร้ายแรงก็จะเป็นการพ้นจากตำแหน่ง และถูกตัดสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการแทรกแซงข้าราชการฝ่ายประจำที่มีการแต่งตั้งก็ถือว่าเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการก็ต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขใด

ในส่วนของพยานหลักฐานที่สามารถบ่งชี้ความผิดได้ ภูเทพ กล่าวย้ำว่า เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่ต้องดำเนินการ ว่าเรื่องที่ปรากฏออกมาตามสื่อมีที่มาที่ไปอย่างไร และต้องสอบสวนย้อนไป รวมถึงขอข้อมูลไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในเรื่องการแต่งตั้งระดับผู้กำกับก็ได้ ต้องหาข้อเท็จจริงทั้งหมด 360 องศา ไม่ได้รับฟังแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ส่วน ป.ป.ช. จะมีความรู้สึกกดดันหรือหนักใจหรือไม่เนื่องจากต้องสอบบุคคลสำคัญซึ่งเป็นถึงนายกฯ ภูเทพ กล่าวว่า มันเป็นงานประจำของ ป.ป.ช.อยู่แล้วทำมาตั้งแต่ปี 2542 ตรวจสอบนายกฯ มาตั้งหลายคน รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ ก็เป็นงานปกติของ ป.ป.ช.

อ่านที่ https://www.voicetv.co.th/read/rLVSvaGLC

'สมศักดิ์' เอาจริง! ลุยแก้จนจังหวัดชายแดนใต้ กพต.ไฟเขียว แผนบูรณาการขจัดความยากจน 4 ปี พบตัวเลขผู้มีรายได้น้อย 1 แสนคน จ...
24/11/2023

'สมศักดิ์' เอาจริง! ลุยแก้จนจังหวัดชายแดนใต้ กพต.ไฟเขียว แผนบูรณาการขจัดความยากจน 4 ปี พบตัวเลขผู้มีรายได้น้อย 1 แสนคน จ่อนำร่องสร้างอาชีพ 3 หมื่นคน โชว์ส่งเสริม 'ปลูกทุเรียน-เลี้ยงโค-ไก่-แพะ-ปูทะเล' ยัน ปี 2570 ช่วยครบหมด ชี้ เลี้ยงวัว ช่วยแก้จนได้ หลังนำร่องประสบความสำเร็จ มีลูกวัวเกือบเท่าตัว

วันที่ 24 พ.ย. 2566 สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ได้ให้ความเห็นชอบ”กรอบแนวทางการบูรณาการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชายแดนใต้ ระยะ 4 ปี 2567-2570“ แล้ว เพราะจากข้อมูลที่ตนได้มอบหมายให้ไปสำรวจความยากจนในพื้นที่ พบว่า มีครัวเรือนยากจนถึง 52,117 ครัวเรือน เป็นจำนวนคนกว่า 107,356 คน ดังนั้น จะมีการช่วยแก้ปัญหานำร่องก่อนจำนวน 14,500 ครัวเรือน เป็นจำนวนคนกว่า 30,000 คน และจะมีการดำเนินการช่วยเหลือทั้งหมดในปี 2570

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจครัวเรือนยากจน ที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือด้านอาชีพและพัฒนาทักษะด้านต่างๆ โดยพบว่า อันดับแรกคือ รับจ้างทั่วไปนอกภาคการเกษตร จำนวน 10,136 คน อันดับสอง รับจ้างภาคการเกษตร จำนวน 4,603 คน แบ่งเป็น พืชเกษตร จำนวน 3,770 คน ประมง 316 คน และปศุสัตว์ 517 คน ส่วนอันดับสามคือ ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า ช่างเสริมสวย จำนวน 3,843 คน นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบ กลุ่มครัวเรือนเป้าหมายว่างงานอีกจำนวน 3,675 คน และพบกลุ่มเปราะบาง ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในปัจจัยพื้นฐาน อาทิ บ้านทรุดโทรม ไม่มีห้องส้วมสะอาด ไม่มีประปา ไม่มีไฟฟ้า จำนวน 38,875 คน

สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการบูรณาการขจัดความยากจนในปีนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเน้นการช่วยเหลือในการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้มีรายได้ เช่น ส่งเสริมการประกอบอาชีพด้านการเกษตร โดยให้ปลูกทุเรียนคุณภาพ และมังคุด จำนวน 250 ครัวเรือน ปลูกพืชระยะสั้นและพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ว่างเปล่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,850 ครัวเรือน ปลูกพืชพลังงานและพืชอาหารสัตว์ จำนวน 400 ครัวเรือน ขณะที่ ด้านปศุสัตว์ สร้างอาชีพด้วยการเลี้ยงโค ไก่ แพะ จำนวน 800 ครัวเรือน และด้านประมง สร้างอาชีพด้วยการเลี้ยงปูทะเล และประมงพื้นบ้าน จำนวน 500 ครัวเรือน รวมถึงพัฒนาทักษะฝีมือ เพื่อประกอบอาชีพตามถนัด เช่น การทำอาหาร มัคคุเทศน์ ท่องเที่ยวชุมชน จำนวน 1,060 ครัวเรือน และจัดส่งไปทำงานในโรงงานทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 430 คน

“การแก้ปัญหาความยากจน ผมพยายามผลักดันมาโดยตลอด เพราะเข้าใจความเดือดร้อนเป็นอย่างดี จึงได้เสนอโครงการโคล้านตัว เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้น พยายามพูดให้คนในเมืองเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ จนถูกมองไม่ดี แต่ผมก็ไม่ท้อ จึงหาเอกชนมาช่วยกันส่งเสริมอาชีพ โดยนำร่องเลี้ยงโค 200 ครอบครัว ให้ครอบครัวละ 2 ตัว ซึ่งผ่านมา 4 ปี กลายเป็นมีโคครอบครัวละ 10 ตัวแล้ว จากนั้น ก็ได้นำร่องเลี้ยงโค ผ่านกองทุนหมู่บ้านฯ จำนวน 1,000 ครอบครัว ได้วัว 2,000 ตัว ผ่านมา 1 ปี 2 เดือน โคมีลูกแล้ว 1,900 ตัว โดยจะเห็นได้ว่า โครงการนำร่องประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทำตัวชี้วัดได้อย่างชัดเจน เพราะโคออกลูกทุกปี ดังนั้น ผมจะเดินหน้าผลักดันการส่งเสริมเลี้ยงโคในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป รวมถึงจะส่งเสริมการเลี้ยงปูไข่ด้วย เพราะมีราคาสูงเช่นกัน โดยปูไข่ 2 ตัว จะหนัก 1 กิโลกรัม ซึ่งมีราคากิโลกรัมละ 600 บาท โดยจะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่สูงขึ้น และจะสามารถช่วยแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ได้” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

'โรม' แจง 'ชัยธวัช' พบ 'พุทธอิสระ' ขอเสียงหนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หวังทุกฝ่ายช่วยถอนฟืนจากกองไฟ ชี้วันนี้สังคมไทยเดินหน้าแ...
24/11/2023

'โรม' แจง 'ชัยธวัช' พบ 'พุทธอิสระ' ขอเสียงหนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หวังทุกฝ่ายช่วยถอนฟืนจากกองไฟ ชี้วันนี้สังคมไทยเดินหน้าแล้ว

วันที่ 24 พ.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา และ ชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมผู้ติตตามส่วนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบกับ สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ 'พุทธอิสระ' อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และอดีตแนวร่วมคณะกรรมการประชาชน เพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

โดยได้พูดคุยกันเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อขอหารือ และสอบถามความเห็น รวมถึงขอเสียงสนับสนุนในกรณีที่พรรคก้าวไกลได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิด อันเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง (ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับก้าวไกล) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่สภาผู้แทนราษฏรกำลังรับฟังความคิดเห็นประชาชน มีข้อเท็จจริงอย่างไร

“ถามคุณชัยธวัชได้ไหม หรือถามทางโฆษกพรรคได้ไหมครับ ผมเองอาจจะไม่ได้ดูในรายละเอียดข้อเท็จจริง อันไหนที่ตอบได้ก็จะตอบ” รังสิมันต์ ตอบข้อซักถามดังกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า มองอย่างไรในฐานะที่เป็นผู้เรียกร้องประชาธิปไตยมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษา การที่พรรคก้าวไกลขอเสียงสนับสนุนจากขั้วตรงข้ามทางการเมือง รังสิมันต์ กล่าวว่า ตอบได้แค่กว้างๆ ตนเองก็มีส่วนพอสมควรในการทำ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับก้าวไกล แน่นอนว่าเราอยากให้ร่างนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เราคงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสนับสนุน ตั้งแต่ในชั้นสภาฯ ตนเองก็ต้องพยายามหาหนทางในการคุยกับทุกพรรคว่า ให้ช่วยกันเถอะ อย่างน้อยร่างนี้ ก็เป็นการถอนฟืนออกจากกองไฟ ทำให้สังคมเดินต่อได้ เช่นกันเมื่อเข้าสู่ชั้นของวุฒิสภา จะให้ตนไม่ไปคุยกับ สว. บอก สว.ว่าอย่าไปโหวตเลย ก็คงเป็นไปไม่ได้ ต้องพูดต้องคุยเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้นำไปสู่การผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุด

เพราะฉะนั้น ในการที่จะรณรงค์ทางความคิด เพื่อให้สังคมทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกก้อน ช่วยกันสนับสนุนร่างนี้ ก็มีความจำเป็นอยู่แล้ว วันนี้เราไม่ได้เป็นเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ สว.ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ถามว่าถ้าเราอยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงข้อกฎหมายต่อสังคม เราก็ต้องไปให้การศึกษา ไปเปลี่ยนแปลงความคิดเขา ไปทำให้เขาทุกฝ่ายได้เห็น

“วันนี้ถ้าสังคมไทยจะเดินหน้า คุณต้องนิรโทษกรรม คุณจะปล่อยให้เด็ก เยาวชน ที่ถูกดำเนินคดี ไม่ว่าจะ ม.112, ม.116 ต่อไปเรื่อยๆ หรอ” รังสิมันต์ กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า บางคนก็บอกว่าเราทำให้กับตัวเองหรือเปล่า กระบวนการนี้ใครที่มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ จะไม่เข้าร่วมกระบวนการนิรโทษกรรมก็ได้ เราเปิดช่องให้ขนาดนี้แล้ว ดังนั้น เราก็หวังว่าจุดมุ่งหมายสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือการทำให้สังคมไทยมาเริ่มต้นกันใหม่

อ่านที่ https://www.voicetv.co.th/read/QV7UOYwmy

รมช.คมนาคม กำชับ กรมเจ้าท่า ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการเข้มดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ประเพณีลอยกระทงทุกภาคทั่วไทย ...
24/11/2023

รมช.คมนาคม กำชับ กรมเจ้าท่า ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการเข้มดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ประเพณีลอยกระทงทุกภาคทั่วไทย เน้นความร่วมมืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลอยกระทงทำจากวัสดุธรรมชาติ ลดปริมาณขยะ

วันที่ 24 พ.ย. 2566 มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้รับนโยบายจาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม สนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลด้านความปลอดภัยแก่ประชาชน นักท่องเที่ยว ในช่วงประเพณีวันลอยกระทง ในทุกภาค ของประเทศไทย พร้อมกำชับมอบหมายให้ หน่วยงานในสังกัดกรมเจ้าท่า ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า เป็นหน่วยหลักในการบัญชาการ กรมเจ้าท่า ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 50 ศูนย์ ประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในพื้นที่รับผิดชอบ ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเรือตรวจการณ์ ออกปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยและควบคุมการจราจรทางน้ำ ในพื้นที่รับผิดชอบกรุงเทพมหานคร และส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัด เน้นการดูแลอำนวยความสะดวกบริการประชาชน นักท่องเที่ยว รวมถึงการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ในงานประเพณีลอยกระทง ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน นักท่องเที่ยว ภายใต้ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุข ของประชาชน” และ “ราชรถยิ้ม” เพิ่มความมั่นใจแก่ประชาชน นักท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ระดมเจ้าหน้าที่ จัดเรือตรวจการณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จัดงานลอยกระทง ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือ โป๊ะเทียบเรือ เจ้าของเรือและผู้ควบคุมเรือ ปฏิบัติตามประกาศกรมเจ้าท่าโดยเคร่งครัด รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย บริการช่วยเหลือด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ตลอดการจัดงาน ไปจนถึงการประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลอำนวยความสะดวกสร้างความปลอดภัยด้านการคมนาคม ตามเส้นทางต่างๆ เนื่องจากเป็นงานประเพณีสำคัญ คาดว่าจะมีประชาชน นักท่องเที่ยว ออกมาท่องเที่ยว ร่วมงานประเพณีกันคึกคักมากกว่าทุกปี โดย กระทรวงคมนาคม จึงต้องเพิ่มมาตรการดูแลร่วมกับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐเอกชน ทุกหน่วยงาน

ทั้งนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ใส่ใจเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษ ลดปริมาณขยะ ในแหล่งน้ำลำคลอง ด้วยการลอยกระทงจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย และไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม ฝากประชาชน นักท่องเที่ยว มั่นใจความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ของกระทรวงคมนาคม หากมีเหตุด่วน หรือต้องการขอรับการช่วยเหลือเหตุฉุกเฉิน ในช่วงงานประเพณีลอยกระทง สามารถโทรติดต่อสายด่วน กรมเจ้าท่า 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัย ทุกพื้นที่

ที่อยู่

197 BBD Building (Viphavadi), Viphavadi Rangsit Road Samsennai
Bangkok
10400

เบอร์โทรศัพท์

+6626506000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Voice TVผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์


บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด