15/06/2024
กว่าจะออกมาเป็น ‘เลย์’ หนึ่งถุงให้เราได้กิน ‘มันฝรั่ง’ แต่ละลูกต้องผ่านขั้นตอนทั้ง ‘การปลูก การแปรรูป การผลิต การขนส่ง’ ซึ่งแน่ๆเลยคือแต่ละขั้นตอนปล่อยมลพิษหมด และด้วยขนาดอุตสาหกรรมการผลิตอย่าง Pepsico คงไม่ต้องพูดถึงปริมาณที่โลกต้องรับไป
แต่ Pepsico ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ‘เลย์’ ขนมมันฝรั่งยอดฮิตของชาวไทย ก็ไม่ได้นิ่งเฉยต่อสิ่งนี้ และยังเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ในทางที่แย่ลงอีกด้วย จึงพยายามปรับบทบาทในการส่งเสริมการทำเกษตรยั่งยืน หรือกลยุทธ์เชิงบวกอย่าง ‘PepsiCo Positive (pep+)’
“วิสัยทัศน์ของเรา คือ การสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก pep+ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมคุณค่าให้ห่วงโซ่อุปทานทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ” นายสุดิปโต โมซุมดา กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหารอินโดจีน เป๊ปซี่โค ประเทศไทย กล่าวระหว่างการให้สัมภาษ
pep+ มี 3 แกนหลัก ได้แก่ การเกษตรเชิงบวก, ทางเลือกเชิงบวก และ ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก ทั้ง 3 แกนนี้จะทำงานสอดประสานกันเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน
เริ่มตั้งแต่ฝั่งของการเกษตรเชิงบวก ที่มีการปรับปรุงคุณภาพดินกว่า 18 ล้านไร่ ได้อย่างสมดุลย์ 100% ลดการใช้น้ำในระบบทั้งฝั่งการเกษตร และฝั่งโรงงานการผลิตได้ถึง 15% ซึ่งมันจะนำไปสู่การลดการปล่อย GHG อย่างน้อย 3 ล้านตันภายในปี 2573
ฝั่งของทางเลือกเชิงบวก ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งสูตรลดน้ำตาล ลดโซเดียม เพื่อเพิ่มทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพให้ผู้บริโภค
สุดท้ายกับห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก ที่มีแนวทางในการหมุนเวียนวัตถุดิบ พลังงาน และบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ โดยตอนนี้โรงงานทั้ง 2 แห่งได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ 100% ลดการใช้น้ำได้ 15% และดึงบรรจุภัณฑ์กลับมารีไซเคิลได้ 10% และทุกสัดส่วนกำลังจะต้องเพิ่มขึ้นในอนาคต
นี้อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดี เมื่อภาคธุรกิจรายใหญ่อย่าง Pepsico หันมาสนใจเรื่องความยั่งยืน เรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถ้าถามว่ามันเพียงพอไหมในตอนนี้ ก็อาจจะยัง แต่การได้เริ่มทำ ก็ช่วยเพิ่มความหวังให้กันไม่น้อย
#มันฝรั่ง #เกษตรกร