ข่าวเมืองชล

ข่าวเมืองชล ข่าวเมืองชล ช่องทางการรับรู้ข่าวสารรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ใน จ.ชลบุรี

“เสรีพิศุทธ์”ติดดิน ลงพื้นที่ รับฟังปัญหาชาวชุมชนแปลง 9 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี        เมื่อเวลา 11.00  น. วันท...
16/12/2024

“เสรีพิศุทธ์”ติดดิน ลงพื้นที่ รับฟังปัญหาชาวชุมชนแปลง 9 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2567 “วีรบุรุษนาแก” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้สพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย นายจำเนียร กีทีปกูล นายก อบต.เขาไม้แก้ว นายปิยะพงษ์ สงค์สุข ว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาพูดคุย รับฟังปัญหา ของชาวชุมชนแปลง9 และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่ชาวชุมชนแปลง 9 ได้มีไฟฟ้าใช้
นายสมบูรณ์ แก้วมะวงค์ กรรมการหมู่บ้านชุมชนแปลง9 กล่าวว่า ในชุมชนมีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 110 หลังคาเรือน ซึ่งทุกหลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ต้องอาศัยพ่วงไฟฟ้ามาจากหมู่บ้านทุ่งสระแก้วที่อยู่ใกล้เคียง ส่งผลให้ประสบปัญหาไฟไม่พอใช้ ไฟตก ตลอดเวลาเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเสียหาย แม้แต่ยามหุงข้าวยังหุงไม่สุก ชาวบ้านพยายามเข้าไปติดต่อขอไฟฟ้าจากหน่วยงานราชการมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งชาวบ้านนำเรื่องไปปรึกษานางอำไพ สงค์สุข ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในพื้นที่ และได้รับการช่วยเหลือทั้งด้านการติดต่อประสานงานและได้งบประมาณมาติดตั้งหม้อแปลงเพื่อให้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้ในที่สุด
นางอำไพ สงค์สุข กล่าวว่า เมื่อได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากชาวชุมชนแปลง9 จึงได้นำเรื่องเข้าไปปรึกษายังศูนย์ประสานงานพรรคเสรีรวมไทยประจำจังหวัดชลบุรี พร้อมกับได้ข้อสรุปว่าความเดือดร้อนของประชาชนเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข จึงไฟทำการขอติดตั้งหม้อแปลงไฟ้ฟ้าขนาด 250 KVA ในพื้นที่ของผู้ใหญ่ใจดีที่ให้ความอนุเคราะห์ที่ดิน แล้วกระจายไฟให้กับชาวบ้านได้ใช้อย่างเพียงพอ และไม่ประสบปัญหาไฟตก ไฟไม่พอใช้อีก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หัวกล่าวว่า ”ไม่อยากจะเชื่อว่าพื้นที่ชุมชนแปลง9 ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯเพียงใช้เวชาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องขอชื่นชมบุคลากรของพรรคเสรีรวมไทยที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน และเร่งทำการช่วยเหลือแก้ไข ขอให้ทุกคนได้ทำหย้าที่ช่วยเหลือประชาชนเช่นนี้ต่อไป“

ผู้กำกับบ่อวินสั่งเชือดลักลอบตีไก่วันพระได้เซียนพนันกว่า 40 คน พร้อมของกลาง #ศรีราชา  #ชลบุรีเมื่อเวลา13.00น.ของวันที่ 1...
15/12/2024

ผู้กำกับบ่อวินสั่งเชือดลักลอบตีไก่วันพระได้เซียนพนันกว่า 40 คน พร้อมของกลาง
#ศรีราชา #ชลบุรี
เมื่อเวลา13.00น.ของวันที่ 15 ธันวาคม พ.ต.อ.ดรัณภพ สระทองอยู่ ผกก.สภ.บ่อวิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพรรณ ใจหาญ สวป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปิดล้อมป่ามันในพื้นที่หมู่3 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนมีการลักลอบเล่นการพนันไก่ชน ทางเจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเข้าปฏิบัติการครั้งนี้สามารถควบคุมตัวเซียนพนันไก่ชนทั้งชายหญิงรวมกันกว่า40 ราย จับได้ก็เอาไปรวมกันไว้ในสังเวียนแทนไก่ ส่วนไก่ชนยึดได้ 3 ตัว ของกลาง ได้แก่ สังเวียนสำหรับตีไก่ นาฬิกาจับเวลาแบบดิจิทัล และสุ่มไก่อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับภารกิจครั้งนี้ เริ่มต้นจาก พ.ต.อ.ดรัณภพ สระทองอยู่ ผกก.สภ.บ่อวิน ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีการลักลอบเล่นการพนันไก่ชนและมีนักพนันเข้ามามั่วสุมเป็นจำนวนมาก จึงได้วางแผนแบ่งกำลังแฝงตัวเข้าไปเป็นเซียนพนันไก่ชน และวางกำลังปิดล้อมทางเข้าออกไว้ จนสามารถรวบตัวเหล่าเซียนไก่ที่มาเล่นการพนันในบ่อนนี้ได้เป็นจำนวนมาก

15/12/2024

บ้านป่าเมืองเถื่ิอน ผู้ต้องหาที่ร้องเรียน ผกก,พนักงานสอบสวน โรงพักสายป่าชลบุรี ถูกตามล่า ต้องเผ่นหนีอำนาจมืด หลังร้องเรียน ผบ.ตร.ว่าถูกแจ้งข้อกล่าวร้ายแรงเกินความจริง แยกสำนวนหลายคดี จนเจรตำรวจส่งเรื่อง ผบก.ชลบุรี
ตั้งกรรมการ สืบสวนข้อเท็จริง

 #ชลบุรี 4 เยาวชนหญิง ดิ้นรนเอาชีวิตรอด หลังพ่อติดยาครอบครัวมีปัญหา หนีออกจากบ้านเจอคนใจบุญคิดว่าจะช่วยที่แท้หวังล่วงละเ...
15/12/2024

#ชลบุรี 4 เยาวชนหญิง ดิ้นรนเอาชีวิตรอด หลังพ่อติดยาครอบครัวมีปัญหา หนีออกจากบ้านเจอคนใจบุญคิดว่าจะช่วยที่แท้หวังล่วงละเมิด เดินเท้าแบบไม่มีจุดหมาย เผยอยากอยู่บ้านเมตตา

4 พี่น้องเยาวชนดิ้นรนเอาชีวิตรอด หลังพ่อติดยาครอบครัวมีปัญหา พี่ต้องพาน้องหนีออกจากบ้านเจอคนใจบุญคิดว่าจะช่วยที่แท้หวังข่มขืน ต้องเดินเท้าแบบไม่มีจุดหมายเผยอยากอยู่บ้านเมตตา
ที่ สภ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองใหญ่กำลังลงบันทึกประจำวันของเด็กหญิงทั้ง4คนเป็นเยาวชน ที่จะยินยอมไปอยู่สถานสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัวชลบุรีของเยาวชนหญิงทั้ง 4 คนก่อนชมรมพยัคฆ์บูรพาจะสนับสนุนรถไปส่งเป็นการช่วยเหลือและป้องกันอันตรายกับเด็กทั้ง4คนจากการสอบถามเด็กหญิงเอ(นามสมมุติ)1ใน4 เล่าว่าตัวเองกับพี่เป็นคนชัยนาทพ่อติดยาแล้วชอบทำร้ายร่างกายจึงพากันออกจากบ้านและมีคนช่วยเหลือให้ไปอยู่บ้านไม่นานก็มีพฤติกรรมชอบลวนลามและพยายามจะข่มขืนจึงตัดสินใจพากันนั่งรถมาลงหมอชิตแล้วต่อรถมาหนองใหญ่เพื่อมาอาศัยกับเพื่อนแต่ทางพ่อแม่เพื่อนไม่ให้พักจึงพากันเดินตามทางโบกรถไปเรื่อยๆจนมาพบตำรวจ ให้การช่วยเหลือก่อนประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวชลบุรีให้รับทั้ง 4 ไปดูแลก่อนจะมืดเพื้อป้องกันอันตราย
ทางด้านร้อยตำรวจเอกวัลลภ ทัศนาธนพงษ์ร้อยเวร 20สายตรวจรถยนต์เล่าว่าขณะออกตรวจพบเด็กทั้ง 4 ยืนอยู่ริมถนนจึงจอดรถสอบถามก่อนพามาที่ สภ.หนองใหญ่และเบื้องต้นได้ประสานไปยังทาง พม.ชลบุรี และบ้านพักเมตตาสำหรับเด็กและครอบครัว เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือเด็กเยาวชนทั้งสี่คนนี้เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือและปลอดภัย โชคดีเด็กทั้งสี่ยังไม่ได้รับอันตรายเพราะ ยังเดินตามถนนที่พบเจอตำรวจเค้าให้ความช่วยเหลือไม่งั้นอาจจะถูกหลอกหรือถูกลักพาตัวไปทำอันตรายแน่นอน

ภาพ/ข่าว วิศาล แสงเจริญ ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

🚨สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำเตือน‼️📌 ตำรวจอายัดเงินเองได้ ไม่ต้องโอนมาให้ตรวจสอบ หากมีตำรวจวิดีโอคอลให้โอนเงิน มิจฉาชีพแน่...
15/12/2024

🚨สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำเตือน‼️

📌 ตำรวจอายัดเงินเองได้ ไม่ต้องโอนมาให้ตรวจสอบ หากมีตำรวจวิดีโอคอลให้โอนเงิน มิจฉาชีพแน่นอน ⚠️

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับรูปแบบของอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลอกลวงให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวว่าถูกดำเนินคดี และให้โอนเงินมาให้ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอย้ำเตือนพี่น้องประชาชน ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ มีอำนาจตามกฎหมายในการยึด อายัด ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิด เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิด โดยไม่ต้องให้เจ้าของทรัพย์สินโอนทรัพย์สินดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่
หากพี่น้องประชาชนพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้วิธีการวิดีโอคอลหาท่าน เพื่อโน้มน้าวหรือข่มขู่ให้ท่านโอนเงิน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หรือบางครั้งอาจข่มขู่ถึงขั้นให้ถอดเสื้อผ้า ถ่ายคลิปวิดีโอ ขอให้พี่น้องประชาชนนึกไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน
พบเห็นการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599
และถ้าท่านตกเป็นเหยื่อ หรือได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน 1441 ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง​​​​​​​​​​​​​​​​

#ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
#เตือนภัยมิจฉาชีพ #เตือนภัยออนไลน์
#สํานักงานตํารวจแห่งชาติ

หวิดดับ ! สาวโรงงาน ขี่จยย. เกี่ยวรถบรรทุกล้มศีรษะฟาดพื้นสาหัสกู้ภัยโร่ช่วยชีวิต #ศรีราชา  #ชลบุรีเมื่อเวลา16.00น.(14ธ.ค...
14/12/2024

หวิดดับ ! สาวโรงงาน ขี่จยย. เกี่ยวรถบรรทุกล้มศีรษะฟาดพื้นสาหัสกู้ภัยโร่ช่วยชีวิต
#ศรีราชา #ชลบุรี
เมื่อเวลา16.00น.(14ธ.ค.2567)ร.ต.ท.หญิง ขนิษฐ์ สัตบุษ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้ง จากหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชาว่ามีรถจยย.เฉี่ยวชนกับรถยนต์บรรทุกสี่ล้อใหญ่ล้มฟาดพื้นถนนอาการสาหัสที่หน้าโรงงานเกาสุ ถนนสายสี่แยกต้นโพธิ์-นิคมปิ่นทอง1 หมู่1 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา ให้ไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุหลังรับแจ้งจึงประสานอาสากู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชาออกไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุอาสากู้ภัยพบร่างของ นางสาวอุไร (ขอสงวนนามสกุล)อายุ36ปีพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นถนนสวมชุดโรงงานที่ศีรษะมีบาดแผลฉกรรจน์เลือดไหลไม่หยุด ไม่มีสติ ปลุกไม่ตื่น จึงช่วยกันปฐมพยาบาล พร้อมทั้งให้อ๊อกซิเจน พร้อมทั้งประสานทีมกู้ชีพลั่นทมให้ส่งทีมแพทย์พยาบาลมารับตัวเนื่องจากอาการสาหัส ในที่เกิดเหตุพบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่าสกู๊ปปี้ไอ สีขาว-แดง ล้มคว่ำอยู่กลางถนน และใกล้กันพบรถบรรทุกสี่ล้อใหญ่ ยี่ห้ออีซุซุหัวสีขาว จอดอยู่ โดยด้านหลังรถบรรทุกเหล็กเส้นอยู่
โดยรถบรรทุกมุ่งหน้าไปทางนิคมปิ่นทอง1 ส่วนผู้บาดเจ็บมุ่งหน้ามาจากทางนิคมปิ่นทอง1 โดยทางหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชาได้ทำการCPRช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ หลังจากทางกู้ชีพลั่นทมนำทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชามาถึงก็รีบนำเครื่องกระตุ้นลงมาช่วยเหลือและนำร่างผู้บาดเจ็บส่งทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ตามสิทธิการรักษา
โดยนายณรงค์ฤทธิ์(ขอสงวนนามสกุล) อายุ23ปี คนขับรถบรรทุกสี่ล้อใหญ่ให้การว่ากำลังขับรถจะไปส่งเหล็กเส้นใกล้เคียงปิ่นทอง1 ผู้บาดเจ็บขี่รถจยย.มาอีกเลนและขี่รถจยย.กินเลนมาเกี่ยวข้างรถบรรทุกที่ต้นขับมาจนรถจยย.ล้มหัวฟาดพื้นดังกล่าว แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อขอเวลาตรวจสอบกล้องวงจรปิดช่วงใกล้เคียงเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

14/12/2024

ผู้การชลบุรี ตั้ง “รองหมู“ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจเรตำรวจ มีหนังสือลับ
ให้ตั้งกรรมการสอบ ผกก.คนดัง และสารวัตร(สอบสวน) โรงพักสายป่าจ.ชลบุรี กลั่นแกล้ง ตั้งข้อกล่าวหาเกินความจริง แยกสำนวนให้เป็นหลายคดี

อาละวาด ! กลุ่มโจ๋อาละวาด เบิ้ลเครื่อง จยย. ใส่วัยรุ่น ก่อนตามไล่แทงทั่วร่างกายสาหัส "แม่" วอน ตำรวจเร่งติดตามคนร้าย #ชล...
14/12/2024

อาละวาด ! กลุ่มโจ๋อาละวาด เบิ้ลเครื่อง จยย. ใส่วัยรุ่น ก่อนตามไล่แทงทั่วร่างกายสาหัส "แม่" วอน ตำรวจเร่งติดตามคนร้าย
#ชลบุรี #สัตหีบ

เมื่อเวลา 03.30 น. ของวันที่ 14 ธ.ค.67 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานได้รับแจ้งมีบุคคลโดนอาวุธมีด แทง ตามร่างกายอาการสาหัส บริเวณหน้าบ้าน กม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
โดย พบนาย วิมล อายุ 23 ปีโดนแทงจำนวน 3 แผล ทั่วร่างกาย บริเวณ แขนซ้าย 1 แผล เอว 1 แผล หลัง 1 แผล ด้วยเหล็กขูดชาร์ป อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือจากการสอบถามคนเจ็บ เล่าว่า ตนกำลังขี่ จยย.กลับบ้าน มาตามทางถนน 332 แยกเจ-เกษมพล ขาเข้าพลูตาหลวง ใกล้เคียง สำนักงานเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคน จยย.หลายคัน ประมาณ 3-4 คน ขี่ จยย.มาก่อนจะเร่งเครื่องเบิ้ลใส่ตน และปาดหน้า จยย.ให้จอด ก่อนจะลงมาทำร้าย ตนจึงต่อสู้ป้องกันตัว ด้วยมือและเท้า ก่อนจะมีเพื่อนพวกนั้นตามมา และเข้าทำร้ายทำร้ายด้วยอาวุธมีดลักษณะคล้ายเหล็กขูดชาร์ป ก่อนจะมีรถผ่านมาจึงทำให้วัยรุ่นกลุ่มนั้นวงแตกหลบหนีไป ตนจึงได้รีบ ขี่ จยย มาที่บ้านพัก กม.7 ต.พลูตาหลวง และขอความช่วยเหลือ หน่วยกู้ภัยพาตน ส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้น ร.ต.อ. ฐานิต ที่ภักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งความ พร้อมรายงาน พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สภ.สัตหีบ รับทราบ ก่อนได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ ไล่ล่าวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมาดำเนินคดีอย่าเร่งด่วนเพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏกมายล่าสุด วันนี้ 14 ธ.ค.67 ร.ต.อ. ฐานิต ที่ภักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พร้อมชุดสืบสวน จะได้ไป สอบสวน นาย วิมล อายุ 23 ปี ผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม ยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งตอนนี้ยังนอนรักษาตัว ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสาเหตุการลงมือแทง และ รูปพรรณสัณฐาน และ ยานพาหนะ ของกลุ่มวัยรุ่น ที่ก่อเหตุ ร่วมถึงจุดเกิดเหตุที่แน่ชัด พร้อมเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตลอดแนวเส้นทางคนเจ็บและที่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป เพื่อจะได้ติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนเพื่อดำเนินตดีตามกฎหมาย เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏกมาย
ด้าน นางสมมาตร อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ผู้บาดเจ็บกล่าวว่า เมื่อวานแฟนสาวลูกชายโทรมาบอกประมาณ ตี 2 ว่าลูกชายถูกแทง ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้ลูกชายไม่เคยมีเรื่องกับใคร ลูกชายเป็นช่างซ่อมรถ จยย. ทุกวันก็ออกไปทำงานตามปกติ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และลูกชายยังเป็นคนหาเงินเข้าบ้าน ถือว่า เป็นเสาหลักของบ้าน

ใกล้หวยออก คนแห่ขอโชค ท้าวเวสสุวรรณทรงราหู (ท่านทองล้น) วัดเขาช่องลม จากงวดวันที่ 1ธ.ค. มีผู้ถูกรางวัลที่1 จำนวน2ราย 18 ...
14/12/2024

ใกล้หวยออก คนแห่ขอโชค ท้าวเวสสุวรรณทรงราหู (ท่านทองล้น) วัดเขาช่องลม จากงวดวันที่ 1ธ.ค. มีผู้ถูกรางวัลที่1 จำนวน2ราย 18 ล้านบาท
#ศรีราชา #ชลบุรี

ปิดเมืองล่า!! ฝรั่งร่างยักษ์ ก่อเหตุชิงทรัพย์กลางเมืองพัทยา ตำรวจตามรวบได้ 1 ยังปากแข็ง อ้างเป็นไบโพล่า "ความจำสั้น"กล้อ...
14/12/2024

ปิดเมืองล่า!! ฝรั่งร่างยักษ์ ก่อเหตุชิงทรัพย์กลางเมืองพัทยา ตำรวจตามรวบได้ 1 ยังปากแข็ง อ้างเป็นไบโพล่า "ความจำสั้น"

กล้องวงจรปิด จับภาพนาทีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ถึง 2 ครั้งช่วงเวลา 5 วัน โดยรายแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เวลา 22.00 น. นายมาซิยาร์ เดซฟูลี ( Mr. Maziyar dezfooli ) อายุ 33 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน ถูกคนร้าย 1 คน รูปร่างสูงใหญ่ ลักษณะคล้ายคนต่างชาติคุมไอ้โม่ง เดินมาจากทางด้านหลังแล้วกระชากสร้อยคอทองคำ มูลค่าเกือบ 200,000 บาท แล้วหลบหนีวิ่งไป โดยผู้เสียหายพยามวิ่งไล่ล่าติดตาม แต่ตามไปไม่ทัน เหตุเกิดบริเวณซอยบัวขาวพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ถัดมาอีก 5 วัน วันที่ 12 ธ.ค.67 เวลา 00.05 น.กล้องวงจรปิด บริเวณถนนพัทยาใต้สาย 2 หน้าปากซอยมารีน หมู่ 10 ต.หนงปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จับภาพนาทีคนร้าย ซึ่งลักษณะของคนร้าย คล้ายกันกับรายนี้ แต่รอบนี้มากัน 2 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีน้ำเงิน ในการก่อเหตุ และคุมไอ้โม่งปิดบังใบหน้าทั้ง 2 คน ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้าง นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทราบชื่อว่า เมอร์ลิน เมซัค ดีฮานาปาลาน ( Mr. Merlin meshak Dhanapalan ) 42 ปี ชาวอินเดีย โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ได้สาวหมัดต่อยผู้เสียหายหลายครั้ง ก่อนจะกระชากสร้อยคอ แต่จังหวะนั้น รถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุเกิดเสียหลักล้ม จนคนขี่ต้องทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ววิ่ง ปล่อยให้เพื่อนคนร้ายประคองรถจักรยานยนต์ตั้งขึ้นแล้วขี่หลบหนีไป โดยผู้เสียหายพยายามวิ่งติดตาม แต่ก็ตามไม่ทัน ซึ่งในรายนี้ คนร้ายได้สร้อยคอทองคำของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียไป 1 เส้น มูลค่า 200,000 บาท
ภายหลังเกิดเหตุผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส. ระดมทีมสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวและเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจาก เป็นคดีทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยเบื้องต้น ทีมสืบสวนได้ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิดกว่า 40 ตัว ทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุรวมถึงเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี แต่จากการวิเคราะห์และประเมิน เชื่อว่าคนร้ายไม่ใช่คนไทย น่าจะเป็นชาวต่างชาติทวีปยุโรป เพราะรูปร่างลักษณะเป็นคนสูงใหญ่
ล่าสุดในวันนี้ เวลา 18.00 น. ( 13 ธันวาคม 67 ) พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังชุดสืบสวน พร้อมกับ ศาลจังหวัดพัทยาที่ 712/2567 ลง 13 ธค.2567 “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการทำความผิดหรือพาซับนั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับ อันตรายแก่กายหรือจิตใจ” เข้าทำการจับกุม นายจอร์แดน เอซรา( Mr. Jordan Ezra ) อายุ 31 ปี ชาวอังกฤษ ได้ที่ห้องพักในพื้นที่ ม.2 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 1 ในผู้ก่อเหตุ จากนั้นมีการตรวจค้นห้องพักเพื่อหาหลักฐาน ในการมัดตัว ก่อนจะคุมตัวกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.ชลบุรี สภ.เมืองพัทยา
จากการตรวจสอบประวัติในเบื้องต้น พบว่า นายจอร์แดน เอซรา เข้ามาในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว ( ถือวีซ่า 60 วัน ) แต่จากการสอบปากคำ นายจอร์แดน เอซรา ยังให้การปฏิเสธตลอดเวลา โดยอ้างว่าตัวเองเป็นโรคไบโพล่า และ ความจำสั้น จำอะไรไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจมั่นใจสามารถดำเนินคดีกับชาวต่างชาติรายนี้ได้ พร้อมทั้งเร่งติดตามจากกลุ่มคนอีกหนึ่งคนที่กำลังหลบหนีอยู่ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

ผู้ใหญ่ใจดี กลุ่มพี่&เพื่อน “รมต.เฮ้ง”ไม่ทอดทิ้งน้อง “เติมฝันนร.หญิง ไปแข่งขันคอมพิวเตอร์หุ่นยนต์ เกาหลีใต้”      ผู้สื่...
14/12/2024

ผู้ใหญ่ใจดี กลุ่มพี่&เพื่อน “รมต.เฮ้ง”ไม่ทอดทิ้งน้อง “เติมฝันนร.หญิง ไปแข่งขันคอมพิวเตอร์หุ่นยนต์ เกาหลีใต้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “กลุ่มพี่&เพื่อนรมต.เฮ้ง” โดยนายประชา เตรัตน์ อดีต ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พลตำรวจตรีบัณฑิต คุณประจักร์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ “รมต.เฮ้ง”นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมกันสมทบทุน มอบเงิน ช่วยเหลือ 30,000 บาท เพื่อให้ น.ส. ฐนิตินันท์ เหล่ามานะชัย อายุ18 ปี นักเรียนโรงเรียนชลกัญญานุกูล (ชลหญิง) ชั้นม.6 ได้ใช้เป็นทุนค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปแข่งขันคอมพิวเตอร์หุ่นยนต์ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งการเดินทางไปแข่งขันจะต้องใช้เงินเงินทุนเป็นจำนวน 60,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายและค่าเดินทาง โดยทางโรงเรียนชลหญิง ได้สนับสนุนเงินจำนวน 30,000 บาท ในส่วนที่เหลืออีก 30,000 บาททางผู้ปกครองน.ส.ฐนิตนันท์ จะต้องหาเงินสนับสนุนในการเดินทางไปแข่งขันเอง
น.ส.ชลิดา รัตนแสงไทย อายุ56 ปี คุณแม่ของ น.ส.ฐนิตนันท์ กล่าวว่า ”ตนเองได้ประกอบอาชีพค้าขายส้มโอ โดยได้เช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 123 / 9 ถนนข้าวหลาม ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ค้าขายส้มโอเลี้ยงดูลูก เนื่องจากสามีตนเองได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ต้องหาเงินคนเดียวจึงทำให้ขาดสภาพคล่องในการที่จะหาค่าใช้จ่ายสนับสนุนบุตรสาวไปแข่งขันคอมพิวเตอร์หุ่นยนต์ที่ประเทศเกาหลีใต้ พอดี ผู้การบัณฑิต คุณจักร์ มาทานก๋วยเตี๋ยวที่ติดกับร้านตนเอง และแวะมาซื้อส้มโอ ที่ตนเองและบุตรสาวกำลังช่วยกันขายส้มโอ ก็มาพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ตนเองจึงเล่าเรื่องลูกสาวให้ฟัง ท่านผู้การ จึงได้ไปแจ้ง กลุ่มเพื่อนและนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ให้ทราบ บอกว่าจะช่วยเหลือบุตรสาว ในเรื่องเงินทุนให้ได้ไปแข่งขันตามความฝันของ น.ส.ฐนิตนันท์ที่ใฝ่ฝันไว้ เป็นการสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนและจังหวัดชลบุรี น.ส.ชลิดา คุณแม่ของ น.ส.ฐนิตนันท์ ยังได้กล่าว ขอบคุณ ผู้ใหญ่ใจดี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นายประชา เตรัตน์ พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์
และผู้ที่ร่วมสมทบทุนช่วยให้น้องฐนิตนันท์ ได้ไปแข่งขันคอมพิวเตอร์หุ่นยนต์ที่ประเทศเกาหลีใต้“

NEWS////ราชนาวีเปิดบ้านรับ ทีมรักบี้จากเกาหลี ในการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลกระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์ ****ที่สนามกีฬาราชนา...
13/12/2024

NEWS////ราชนาวีเปิดบ้านรับ ทีมรักบี้จากเกาหลี ในการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลกระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์

****ที่สนามกีฬาราชนาวี กม.5 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดให้มีการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอล ประเภท 15คน กระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่าง ทีมรักบี้ฟุตบอลราชนาวี (กองทัพเรือ) กับ ทีมรักบี้ฟุตบอล Korean Armed Forces Athletic Cops (KAFAC) โดยมี พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน อดีต รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะ ประธานชมรมรักบี้ฟุตบอลราชนาวี ร่วมให้การต้อนรับ

****สำหรับ การแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอล กระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่าง ทีมรักบี้ฟุตบอลราชนาวี (กองทัพเรือ) กับ รักบี้ฟุตบอล Korean Armed Forces Athletic Cops (KAFAC) ในครั้งนี้นั้น ทาง ชมรมรักบี้ฟุตบอลราชนาวี ได้เชิญทีม รักบี้ฟุตบอล Korean Armed Forces Athletic Cops (KAFAC) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะในการเล่นกีฬารักบี้ฟุตบอล เพิ่มพูนประสบการณ์ในระดับสากล ให้แก่นักกีฬาของกองทัพเรือ อันสอดคล้องกับนโยบายหลัก ของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปี 2567 อักทั้งยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารของทร.และผู้บริหารกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี โดยใช้กีฬารักบี้ฟุตบอล เป็นสื่อกลาง จัดการแข่งขันแบบเหย้า เยือน โดยทัพนักกีฬารักบี้ฟุตบอลราชนาวี จะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างห้วงเดือน มีนาคม 68 ณ สาธารณรัฐเกาหลี

ตม.ชลบุรี เปิดปฏิบัติการล้างอาถรรพ์ศุกร์ 13 บุกค้นรังแรงงานเมียนมา แฝงตัวทำงานผิดกฎหมาย สนองนโยบาย ผบ.ตร. พร้อมเร่งเดินห...
13/12/2024

ตม.ชลบุรี เปิดปฏิบัติการล้างอาถรรพ์ศุกร์ 13 บุกค้นรังแรงงานเมียนมา แฝงตัวทำงานผิดกฎหมาย สนองนโยบาย ผบ.ตร. พร้อมเร่งเดินหน้ากวาดล้างอย่างเข้มข้น

13 ธันวาคม 2567 - พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี นำกำลังชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองพัทยา เปิดปฏิบัติการล้างอาถรรพ์ศุกร์ 13 เข้าปิดล้อมตรวจค้นโฟร์แมนเฮ้าส์ ซอยกรมที่ดิน พัทยาใต้ จ.ชลบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมแหล่งพักพิงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
จากการกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นห้องพักมากกว่า 100 ห้อง สูงทั้งหมด 4 ชั้น พบแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากนอนพักอาศัยอยู่ จึงเชิญตัวลงรวมกันที่ลานจอดรถของห้องพัก เพื่อตรวจสอบหนังสือเดินทาง วีซ่า รวมไปถึงเอกสารใบอนุญาตทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถนำมาแสดงได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดบรรทุกขึ้นรถโดยสารสองแถว และรถเจ้าหน้าที่รวม 9 คัน มายังด่าน ตม.พัทยาตรวจสอบหาบุคคลหลบหนีเข้าเมืองพัทยา ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ยอมแจ้งที่พักของคนต่างด้าว รวมถึงบุคคลตามหมายจับไทยและหมายจับอินเตอร์โพล
พ.ต.อ.นภัสพงษ์ เผยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ สแกนพื้นที่เสี่ยง แหล่งมั่วสุ่มโดยเฉพาะชาวต่างชาติแฝงตัวมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว แต่แอบลักลอบทำงานผิดกฏหมาย อย่างไรก็ตาม ตม.ชลบุรี จะเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นต่อไป

อนันต์ กิ่งสร/อนุกูล กระจ่างแจ้ง ชลบุรี

บิ๊กแรก นำคอมมานโด ลุย เด็ดปีก มังกรเทาดำ ค้นรังจีน ระดับสั่งการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเงินเหยื่อ เสียหายหลักพันล้าน เมื่...
13/12/2024

บิ๊กแรก นำคอมมานโด ลุย เด็ดปีก มังกรเทาดำ ค้นรังจีน ระดับสั่งการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเงินเหยื่อ เสียหายหลักพันล้าน

เมื่อเวลา 06.00 น. ( 13 ธันวาคม 2567 ) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภาค.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลังคอมมานโดบูรพา 491 ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 2 และ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. กว่า 50 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา 316/2567 เข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 78/258 ภายในหมู่บ้าน สยามรอยัลวิว หมู่ 10 ( ซอยเขาตาโล ) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังทำการทราบว่าเป็นที่พักของตัวการสำคัญ ระดับสั่งการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์

จากการตรวจสอบ ในเบื้องต้น บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ลักษณะบ้านเป็นบ้านหรูมูลค่าประมาณ 60-70 ล้านบาท มีรั้วรอบขอบชิดแนวกำแพงค่อนข้างสูง และ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน ตำรวจมีการเรียกคนที่อยู่ ปรากฏว่ามีชายชาวจีน ออกมาเปิดประตูให้ ตำรวจจึงมีการอ่านหมายค้นให้ฟัง ก่อนจะเข้าไปทำการตรวจค้นในบ้าน ยังพบว่าภายในบ้านมีรถตู้หรู ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และ เลกซัส สีขาว 1 คัน จอดอยู่ ภายในบ้าน

สำหรับการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่อง เป็นการขยายผลต่อเนื่องมาจาก การจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 คน ในพื้นที่อำเภอศรีราชา ช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ตั้งฐานหลอกลวงเหยื่อหลายรูปแบบ โดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด โดยแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ทั้งการอ้างตัวเป็นตำรวจไซเบอร์หรือทนายความที่สามารถช่วยเหลือด้านคดี ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงและทำให้ได้เงินที่ถูกหลอกไปกลับคืนมา หรือเป็นการหลอกเหยื่อซ้ำเติม และยังหลอกลวงในรูปแบบโรแมนซ์สแกม หรือหลอกให้รัก จะมีสคริปต์การพูดหลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดพบว่ามีการสนทนากับเหยื่อในแอปพลิเคชันเมสเซ็นเจอร์ เฟซบุ๊กและไลน์ออฟฟิเชียลเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมากรวมถึงมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการจับกุมของตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 ในครั้งนั้น มีสืบสวนขยายผลยังทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ มีหัวหน้ากลุ่มเป็นชาวจีน 2 คน โดยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรู เขตพื้นที่เมืองพัทยา จึงมีการสืบสวนสอบสวนจนทราบแหล่งที่พัก ก่อนจะขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายค้น และบุกเข้าทำการตรวจสอบดังกล่าว

ส่วนการตรวจค้นในครั้งนี้ ยังพบบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา 2 หมาย ( 707,708 ) ฐานกระทำความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปฟอกเงินและร่วมกันเงิน คือ นายฉีเว่ย ยี้ อายุ 59 ปี และ นางหงฉง หยู อายุ 55 ปี อยู่ภายในบ้าน ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม ส่วนตัวการใหญ่ในเรื่องนี้ คือ นายเต่า ยี้ อายุ 35 ปี เป็นระดับหัวหน้าสั่งการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รวมถึงเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า การบุกตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในครั้งนี้ เป็นการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริม เปิดออฟฟิศในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 1 ราย และมีการขยายผลและตรวจสอบเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มเติม โดยยึดทรัพย์ได้รวมมูลค่ารวม 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ ยังเปิดเผยต่ออีกว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. ให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากทลายจับกุมแก๊งมังกรเทาดำ ที่ลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ชลบุรี และขยายผลยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน 2.กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี,ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3.กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 20 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 15 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม

จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายนี้แปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลคริปโทเคอเรนซี(Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่าง ๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการ ซึ่งเป็นชาวจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงประกอบกิจการในนามบริษัทนอมินี โดยใช้บริษัทนอมินีที่เปิดขึ้นมาซื้อ และถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง. ) ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย รรท. ผบช.ภ.2 กล่าว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 12 13 ธันวาคม 2567 ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำ เพิ่มเติม 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย คนจีน 1 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญดังนี้ 1. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตรว. ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท , 2. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตรว. ม.10 ต.หนองหรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท ,
3. รถยนต์ LEXUS สีขาว มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
, 4. รถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท ,
5. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท
และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งหมดมูลค่ากว่า 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย และ เมืองพัทยา หากเข้ามาท่องเที่ยวเรายินดีต้อนรับ แต่หากเข้ามาแล้วมาแฝงตัวกระทำผิดกฎหมายหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนและนักท่องเที่ยวจนได้รับความเสียหาย เราเจอกันแน่นอนพวกคุณจะต้องไม่มีแผ่นดินอยู่

อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

“ส.ส.ชลบุรี”เอาจริง จับคนจีนแย่งอาชีพคนไทย คุมงานก่อสร้างในนิคมอมตะบ้านบึง ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ส่งตร.ดำเนินคดี   เมื่อเวล...
12/12/2024

“ส.ส.ชลบุรี”เอาจริง จับคนจีนแย่งอาชีพคนไทย คุมงานก่อสร้างในนิคมอมตะบ้านบึง ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ส่งตร.ดำเนินคดี
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 12 ธ.ค.2567 นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ส.ส.ชลบุรี เขต.4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีแรงงานชาวจีน จำนวนมาก ได้ลักลอบมา ทำงานในเขตพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมบ้านบึง ตั้งอยู่ ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จึงประสานไปทางแรงงานจังหวัดชลบุรี เพื่อมาตรวจสอบ พบชาวจีนกำลังคุมงานก่อสร้าง บริเวณสถานที่ก่อสร้างโรงงาน หมู่ 10 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงประสานไปยังร.ต.อ.นิธิภัทร แดงเครือ รอง สว.(สส.)สภ.บ้านบึง ร.ต.ท.ชาญชัย รินทร รอง สว.(ป.)สภ.บ้าน บึง นายมานิตย์ อาชีพเจริญพร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นายวิรัช
กังวานเลิศปัญญา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 นายกำพล เสือชม สมาชิกอบต.หนองอิรุณ มาร่วมทำการจับกุมแรงงานผิดกฎหมาย คือ 1.นายฟงเว่ย อายุ 32 ปี สัญชาติจีน
2.นายหยางตุง อายุ 32 ปี สัญชาติ จีน
3.นายติ้งหงเนี้ย อายุ 29 ปีสัญชาติ จีน
4.นายดีเหวียงโก อายุ 48 ปี สัญชาติ จีน
5.นายเฉินปิง อายุ 36 ปี สัญชาติ จีน
6.นายโซโพทู อายุ 29 ปี สัญชาติ พม่า สารภาพว่าไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงแจ้งให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่า มีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้
ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้น อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความ หรือผู้ที่จะเป็นทนายความ มีสิทธิแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมที่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวก
สส.จิรวุฒิ กล่าวว่า เมื่อกลับจากประชุมสภาฯ เวลาประมาณ 16.30 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีแรงงานชาวจีนและชาวพม่าจำนวนมาก ได้ลักลอบเข้ามาทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมบ้านบึง โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวนมาก ของบริษัทชิงเจียน อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด บริเวณสถานที่ก่อสร้ง หมู่ 10 ต.
หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จว.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มผู้ถูกจับกุมและที่หลบหนี กำลังทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดจับกุม ควบคุมตัว สอบถามผ่านล่าม ทราบว่าผู้ถูกจับกุมเป็นชาวจีนและชาวเมียนมา ได้ขอดูเอกสารประจำตัว(พาสปอร์ต)และใบอนุญาตทำงาน แต่ผู้ถูกจับไม่สามารถนำใบอนุญาตทำงานมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดจับกุม จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าการกระทำของผู้ถูกจับ นั้นเป็นความผิดฐาน "เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวจีนและชาวเมียนมา) ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ผู้ถูกจับฯ รับทราบ เข้าใจข้อกล่าวหาโดยผ่านล่าม จึงนำตัวผู้ถูกจับฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายจิรวุฒิกล่าวอีกว่า คนจีนที่เข้ามาเมืองไทยสามารถทำงานได้เพียงแค่ขับรถโฟล์คลิฟท์ เท่านั้น แต่นี่มาทำงานเป็นวิศวกรคุมงาน
ถามถึงใบอนุญาตก็ไม่มี ก็เลยต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทุกวันนี้คนไทยตกงานไม่มีงานทำ สาเหตุเป็นเพราะถูกกลุ่มทุนจีนที่มาลงทุนในเมืองไทย แล้วเอาแรงงานจีนแอบเข้ามา แล้วมาแย่งงานคนไทยทำงาน เรื่องนี้ผมยอมไม่ได้ ทุกวันนี้แม้แต่ห้องส้วม แรงงานคนจีนก็ทำกันเอง ไม่มีแรงงานไทยได้ทำเลย ปล่อยให้เป็นแบบนี้ประเทศชาติจะอยู่ได้ยังไง ก็คงจะต้องนำเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ถามในสภาฯ เพื่อหาทางแก้ไขให้คนไทยได้มีงานทำไม่ใช่ปล่อยให้คนจีนมาแย่งงานคนไทยทุกนิคมอุตสาหกรรมฯเหมือนทุกวันนี้ มีประชาชนร้องมาว่า เขตนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่ อ.บ่อทอง อ.หนองใหญ่ ก็มีกลุ่มแรงงานจีนมาแย่งงานคนไทยทำ ผมก็จะประสานกับแรงงานจังหวัดเพื่อไปตรวจสอบพร้อมดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป

12/12/2024

สืบจังหวัดชลบุรี ร่วม สืบพัทยา จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนเช่าหรูใช้เมืองไทยเป็นฐานหลอกเหยื่อ

“ทำดี มีรางวัล” ผู้การชลบุรี มอบประกาศเกียรติคุณ 2 ตำรวจสัตหีบ ใช้ภาษามือเกลี้ยกล่อมสาวใบ้คิดจะฆ่าตัวตาย ชื่นชมปฏิบัติหน...
12/12/2024

“ทำดี มีรางวัล” ผู้การชลบุรี มอบประกาศเกียรติคุณ 2 ตำรวจสัตหีบ ใช้ภาษามือเกลี้ยกล่อมสาวใบ้คิดจะฆ่าตัวตาย ชื่นชมปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง

วันนี้ 12 ธ.ค.67 ที่ห้องประชุม สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมามอบรางวัล
“ทำดี มีรางวัล” ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ส.ต.อ. วิวัฒน์ คำศรี ผบ.หมู่(ป.) สภ.สัตหีบ และ ส.ต.ท. จักรี คำภิมูล ผบ.หมู่(ป.) สภ.สัตหีบ โดยมี พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วยคณะนายตำรวจ กำลังพล สภ.สัตหีบ ร่วมในพิธี

จาก เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 04.30 น. ในขณะที่ ส.ต.อ. วิวัฒน์ คำศรี และ ส.ต.ท. จักรี คำภิมูล กำลังปฏิบัติหน้าที่สานตรวจอยู่ ได้รับแจ้งมีบุคคลพยายามฆ่าตัวตายโดยใช้มีดปาดคอและพยายามจะกระโดดให้รถชน บริเวณปากซอยยางงาม อ.สัตหีบ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว

และมาทราบว่าเป็นผู้พิการทางการได้ยิน ตำรวจทั้ง 2 นาย พยายามเกลี้ยกล่อมโดยใช้ภาษามือจนสำเร็จโดย ผู้สื่อข่าวและประชาชนผู้พบเห็นเหตุการณ์ได้บันทึกวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนถูกส่งต่อเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ได้รับกระแสความชื่นชมในวงกว้าง

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม สมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ตำรวจด้วยกันและสังคมสืบไป พร้อมขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ส่งเสริมข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพี่น้องประชาชนลักษณะเช่นนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป

กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP)  #ชลบุรี นำแรงงานกว่าพันคนรวมตัวหน้าสถานฑูตเกาหลี วอน จี้ UJV จ่ายเงินค้...
12/12/2024

กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP) #ชลบุรี นำแรงงานกว่าพันคนรวมตัวหน้าสถานฑูตเกาหลี วอน จี้ UJV จ่ายเงินค้างค่าแรงกว่า 6,000 ล้านบาทในโครงการโรงกลั่นน้ำมันไทย

ที่อยู่

Pattaya

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ข่าวเมืองชลผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ