Coffee Traveler Magazine นิตยสาร Coffee Treveler เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ
(38)

🌄“ อะบอโด เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 - 1,400 เมตร ของตำบลท่าก๊อ อำเ...
27/08/2024

🌄“ อะบอโด เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 - 1,400 เมตร ของตำบลท่าก๊อ อำเภอ แม่สรวย แม้จะอยู่ไม่ไกลจากบ้านแม่จันใต้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องกาแฟ แต่การเดินทางเข้ามาที่หมู่บ้านนี้ค่อนข้างยากลำบาก แต่เพราะความยากลำบากนี้เอง ที่ได้รังสรรค์สภาพแวดล้อมของที่นี่ ให้เหมาะสมต่อการเติบโตของกาแฟ จนกลายเป็นแหล่งกาแฟชั้นดีอีกแหล่งหนึ่ง ”🌳✨
🔎สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ
Link : https://www.coffeetravelermagazine.com/post/13th-anniversary-blend-ep5-หมู่บ้านลับบนดอยสูง-บ้านอะบอโด
PACAMARA
#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #กาแฟสเปเชียลตี้ที่ดื่มได้ทุกวัน

“ อะบอโด เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200-1,400 เมตร ของตำบลท่าก๊.....

✨𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 เปิดตัวรถยนต์ที่มีชุดชงกาแฟแบบพกพาท้ายรถ🚗☕✨ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 ได้เปิดตัวรถยนต์กาแฟแบบพกพารูปแ...
26/08/2024

✨𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 เปิดตัวรถยนต์ที่มีชุดชงกาแฟแบบพกพาท้ายรถ🚗☕✨

ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 ได้เปิดตัวรถยนต์กาแฟแบบพกพารูปแบบใหม่ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐤𝐤𝐚 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞-𝐄 รถยนต์ที่มีเคาน์เตอร์บาร์กาแฟอยู่ในห้องเก็บสัมภาระ (หรือที่เรียกกันว่า “ท้ายรถ”)

ผู้ผลิตรถยนต์กลุ่มยานยนต์ Stellantis กล่าวว่ารถยนต์รุ่นนี้ตอบสนองต่อข้อมูลตลาดที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าของรถยนต์ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 ร้อยละ 80 ชอบดื่มกาแฟ โดยร้อยละ 64 ดื่มกาแฟเป็นประจำ และผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 75 มักจะคำนึงถึงสถานที่ดื่มกาแฟเมื่อวางแผนกำหนดจุดชาร์จแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ Coffee-E สามารถวิ่งได้ไกลถึง 252 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หากใช้ Fast Charge จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการชาร์จจาก 0-80% ซึ่งถือเป็น "ระยะเวลาที่เหมาะสำหรับการพักดื่มกาแฟ" ตามที่ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ระบุ

𝐌𝐨𝐤𝐤𝐚 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞-𝐄 เป็นแนวคิดที่ดัดแปลงมาจากรุ่น Mokka Electric รุ่นยอดนิยมของ Vauxhall ที่เหมาะสำหรับผู้คลั่งไคล้กาแฟ Vauxhall ไม่ได้ระบุชื่อผู้ผลิตอุปกรณ์ชงกาแฟอย่างเป็นทางการ แต่ 𝐌𝐨𝐤𝐤𝐚 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞-𝐄 สามารถรองรับวิธีการชงกาแฟหลากหลายวิธี

🌟อุปกรณ์จะประกอบด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซแบบหัวเดียว 1 เครื่อง เครื่องบดกาแฟ 1 เครื่อง และเครื่องชงแคปซูลแบบเสิร์ฟครั้งเดียวสีโครเมียม 1 เครื่อง นอกจากนี้ ยังมีเครื่องอุ่นนมแยกต่างหาก อุปกรณ์เสริมเอสเพรสโซในตัว ได้แก่ กล่องเคาะเครื่องมือ WDT เครื่องชั่ง และ Tamper เครื่องบดกาแฟ โหลใส่ผงกาแฟ และตู้เย็นขนาดเล็กจะอยู่ภายในตู้ที่มีประตูสองบานที่หุ้มด้วย Alcantara พร้อมดีไซน์เย็บด้วยมือและที่จับสแตนเลส โต๊ะแบนสำหรับเตรียมกาแฟสามารถดึงออกมาจากด้านล่างของตู้ได้ ร่มขนาดใหญ่สองคันสำหรับกางเพื่อกันแดดกันฝนจะถูกเก็บไว้ด้านล่าง

นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 ยังร่วมมือกับ Cafeology บริษัทคั่วกาแฟพิเศษของสหราชอาณาจักร เพื่อผลิตกาแฟผสมสูตรพิเศษที่สะท้อนถึงสีสันและจิตวิญญาณของรถยนต์ Mokka

“สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักดื่มกาแฟมากที่สุด โดยจะมีการดื่มกาแฟถึง 95 ล้านแก้วต่อวัน และเจ้าของรถยนต์ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 64% ดื่มอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว ไม่ว่าจะเป็นลาเต้ แฟลตไวท์ คาปูชิโน หรือเอสเพรสโซ Mokka มีเครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมด ในการชงกาแฟที่สมบูรณ์แบบ ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 54kWh ใหม่ของ Mokka ที่จะพาคุณไปที่ไหนก็ตามที่ต้องการ” James Taylor กรรมการผู้จัดการของ Vauxhall กล่าวในงานแถลงข่าวของบริษัท

📍อ่านรายละเอียดของ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥 𝐌𝐨𝐤𝐤𝐚 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞-𝐄 เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของ 𝐕𝐚𝐮𝐱𝐡𝐚𝐥𝐥
https://www.vauxhall.co.uk/electric/mokka-coffe-e.html

เริ่มแล้ว!!! กับงาน  𝗙𝗼𝗼𝗱 & 𝗛𝗼𝘀𝗽𝗶𝘁𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗹𝗮𝗻𝗱 (FHT) 𝟮𝟬𝟮𝟰ร่วมชม และเลือกสรรสินค้า เทคโนโลยี พร้อมเติมองค์ความรู้กับสัม...
21/08/2024

เริ่มแล้ว!!! กับงาน 𝗙𝗼𝗼𝗱 & 𝗛𝗼𝘀𝗽𝗶𝘁𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗹𝗮𝗻𝗱 (FHT) 𝟮𝟬𝟮𝟰

ร่วมชม และเลือกสรรสินค้า เทคโนโลยี พร้อมเติมองค์ความรู้กับสัมมนา เวิร์กชอป กว่า 50+ หัวข้อ ร่วมชมการเเข่งขันสุดตื่นเต้นเร้าใจจากเหล่าคนในวงการ และพบปะกับเหล่าคนในอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร และการบริการทุกรูปแบบ เพื่อสร้างโอกาสและต่อยอดธุรกิจตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

📱 ลงทะเบียนเข้าชมงานฟรี คลิก! https://ers-th.informa-info.com/online/fht24

แล้วพบกันที่งาน 𝗙𝗼𝗼𝗱 & 𝗛𝗼𝘀𝗽𝗶𝘁𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 𝗧𝗵𝗮𝗶𝗹𝗮𝗻𝗱 (FHT) 𝟮𝟬𝟮𝟰
🗓 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม 2567
📍 ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์ฯสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
🕙 10.00-18.00 น.

✨เกอิชาปานา ทำลายสถิติราคาในการประมูล 𝐁𝐞𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐏𝐚𝐧𝐚𝐦𝐚✨สมาคมกาแฟพิเศษแห่งปานามา ได้ประกาศราคาล็อตที่ทำลายสถิติในการประมูลป...
19/08/2024

✨เกอิชาปานา ทำลายสถิติราคาในการประมูล 𝐁𝐞𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐏𝐚𝐧𝐚𝐦𝐚✨

สมาคมกาแฟพิเศษแห่งปานามา ได้ประกาศราคาล็อตที่ทำลายสถิติในการประมูลประจำปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา🌱

✨โดยราคาประมูลที่สูงที่สุดเป็นของ 𝐄𝐥𝐢𝐝𝐚 𝐆𝐞𝐢𝐬𝐡𝐚 𝐍𝐚𝐭𝐮𝐫𝐚𝐥 𝐓𝐨𝐫𝐫𝐞 จาก 𝐋𝐚𝐦𝐚𝐬𝐭𝐮𝐬 𝐅𝐚𝐦𝐢𝐥𝐲 𝐄𝐬𝐭𝐚𝐭𝐞 ในประเภท 𝐆𝐞𝐢𝐬𝐡𝐚 𝐍𝐚𝐭𝐮𝐫𝐚𝐥 ที่ได้ราคาสูงถึง 𝟏𝟎,𝟎𝟏𝟑.𝟎𝟎 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม (𝟒,𝟓𝟒𝟏.𝟖𝟑 ปอนด์ต่อปอนด์) สร้างสถิติโลกใหม่หลังจากได้ราคาประมูลสูงสุด ในการประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ประจำปีของ 𝐁𝐞𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐏𝐚𝐧𝐚𝐦𝐚 (𝐁𝐎𝐏) 𝟐𝟎𝟐𝟒 โดยเกอิชาตัวนี้ ถูกปลูกเหนือระดับน้ำทะเล 1,950 เมตร และหมักในถุงปิดผนึกพิเศษเป็นเวลา 2 วัน ผ่านกระบวนการพิเศษเฉพาะ และตากในห้องมืดที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ทำให้ได้เมล็ดคุณภาพพิเศษที่น่าประทับใจ ถูกซื้อโดยบริษัท Japanese Saza Coffee ในราคารวมถึง 200,260.00 ดอลลาร์

สำหรับล็อตที่ได้ราคาเป็นอันดับสอง เป็นของ 𝐊𝐚𝐢𝐳𝐞𝐧 จาก 𝐅𝐢𝐧𝐜𝐚 𝐋𝐨𝐫𝐚𝐲𝐧𝐞 ใน 𝐁𝐨𝐪𝐮𝐞𝐭𝐞 ได้ราคา 𝟏𝟎,𝟎𝟎𝟐.𝟎𝟎 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลกรัม (𝟒,𝟓𝟑𝟔.𝟖𝟒 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์) ที่มีความโดดเด่นคือความสะอาดหอมหวาน มีกลิ่นดอกไม้แซมสม่ำเสมอ มีกลิ่นส้ม ตะไคร้ และซิตรัสที่น่าประทับใจ ถูกซื้อโดยบริษัท Japanese Saza Coffee ในราคารวม 200,040.00 ดอลลาร์

อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจคือกาแฟในกลุ่มพันธุ์ 𝐁𝐥𝐚𝐜𝐤 𝐌𝐨𝐨𝐧 𝐂𝐨𝐧𝐬𝐭𝐞𝐥𝐥𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧 – 𝐁𝐥𝐚𝐜𝐤 𝐌𝐨𝐨𝐧 𝐅𝐚𝐫𝐦 ของสายพันธุ์ 𝐂𝐡𝐢𝐫𝐨𝐬𝐨 โดยมีราคา 𝟏,𝟔𝟑𝟎.𝟎𝟎 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม (𝟕𝟑𝟗.𝟑𝟔 ดอลลาร์ต่อปอนด์) ซึ่งเป็นกาแฟชนิดแรกที่ไม่ใช่พันธุ์เกอิชาที่สามารถสร้างสถิติได้ราคาที่สูงกว่าเดิมได้ นอกจากนี้ยังสร้างประวัติศาตร์ด้วยสกอร์คัปปิ้ง 𝟗𝟒.𝟏𝟑 คะแนนในงาน 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐓𝐚𝐬𝐭𝐢𝐧𝐠 เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว กาแฟตัวนี้ โดดเด่นด้วยความเข้มข้นของผลไม้ แต่มีกลิ่นดอกไม้ที่แตกต่างจากเกอิชา มีความละเอียดอ่อน และความหวานฉ่ำที่เป็นเอกลักษณ์

กาแฟ 1,000 กิโลกรัม (2,204.62 ปอนด์) ใน 50 ล็อตพิเศษที่ SCAP เสนอในการประมูลนี้ ถูกขายในราคารวมกว่า 1,383,719.00 ดอลลาร์ Hunter Tedman ประธานของ SCAP อธิบายว่าการประมูลนี้ใช้เวลา 11 ชั่วโมง 10 นาที โดยมีราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 1,383.72 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ซึ่งถือเป็นราคาเฉลี่ยต่อกิโลกรัมสูงสุดในประวัติศาสตร์ของการประมูลที่ดำเนินการโดย SCAP และนับเป็นการสร้างสถิติใหม่อีกครั้งสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้

ปานามาแซงหน้าสถิติของตัวเองในปี 2023 ด้วยราคากาแฟสายพันธุ์เกอิชา 10,005 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ทั้งหมดนี้แม้จะมีความยากลำบากในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศในตลาดเอเชียอย่างมาก Wilford Lamastus เจ้าของ Elida Geisha Natural Torre จำนวนมากจาก Lamastus Family Estate เมื่อปิดการประมูลทางออนไลน์เขาแสดงความคิดเห็นว่าเขายินดีเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกับสมาชิกของ SCAP โดยผลการประมูลครั้งนี้ทำลายสถิติหลายรายการ

“การประมูลครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายอีกครั้ง ต้องขอบคุณการทำงานอย่างหนักและความทุ่มเทของผู้ผลิตของเรา ขอบคุณกลุ่มผู้มีความรู้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่คัดเลือกกาแฟที่นำมาประมูล 50 ชนิด และขอบคุณผู้ซื้อจากทั่วโลก การประมูลครั้งนี้ได้รับการจัดการอย่างดีเยี่ยมด้วยความร่วมมือจาก M-Cultivo เราขอขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมงานในปีนี้”

ตามที่ M-Cultivo ผู้เป็นเจ้าภาพงานกล่าวไว้ การประมูลครั้งนี้จะเน้นไปที่ผู้ผลิตกาแฟชั้นนำของอุตสาหกรรม และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของงานในการช่วยให้ผู้ผลิตกาแฟเติบโตทางธุรกิจผ่านการเผยแพร่ในอุตสาหกรรม

𝐃𝐚𝐯𝐢𝐝 𝐏𝐚𝐩𝐚𝐫𝐞𝐥𝐥𝐢 ซีอีโอของ 𝐌-𝐂𝐮𝐥𝐭𝐢𝐯𝐨 กล่าวว่า “การประมูล 𝐁𝐞𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐏𝐚𝐧𝐚𝐦𝐚 ประจำปี 𝟐𝟎𝟐𝟒 ทำลายความคาดหวังในอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษได้สำเร็จ โดยทำให้กาแฟคุณภาพสูงสุดในโลกแตกต่างจากกาแฟทั่วไปที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย 𝐌-𝐂𝐮𝐥𝐭𝐢𝐯𝐨 รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานประมูลกาแฟชั้นนำที่ตอกย้ำกระแสนี้ โดยเน้นย้ำถึงผู้ผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลกที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และมอบรางวัลให้แก่พวกเขาสำหรับคุณภาพอันน่าทึ่ง”

🌟𝐓𝐡𝐞 𝐁𝐞𝐬𝐭 𝐨𝐟 𝐏𝐚𝐧𝐚𝐦𝐚 เป็นการแข่งขันประจำปีสำหรับผู้ปลูกกาแฟพิเศษ ซึ่งจัดโดย 𝐒𝐩𝐞𝐜𝐢𝐚𝐥𝐭𝐲 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 𝐀𝐬𝐬𝐨𝐜𝐢𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧 หากต้องการเข้าร่วมการแข่งขันนี้ ผู้ผลิตจะต้องส่งกาแฟเข้ารับการประเมินโดยคณะกรรมการระดับชาติและนานาชาติ หลังจากขั้นตอนนี้ กาแฟที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะถูกนำไปประมูลในแต่ละปี

📍อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและติดตามข่าวสารการประมูลได้ที่
𝐒𝐩𝐞𝐜𝐢𝐚𝐥𝐭𝐲 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 𝐀𝐬𝐬𝐨𝐜𝐢𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐨𝐟 𝐏𝐚𝐧𝐚𝐦𝐚 (𝐒𝐂𝐀𝐏)
https://scap-panama.com/

✨“ แม่จันใต้ มีความสูง 1,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีสิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการปลูกกาแฟ ผมจึงพยายามปลูกกาแฟใต้ต้นไ...
16/08/2024

✨“ แม่จันใต้ มีความสูง 1,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีสิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการปลูกกาแฟ ผมจึงพยายามปลูกกาแฟใต้ต้นไม้ใหญ่ และจะไม่ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม เพราะที่นี่อยู่ใกล้เขตป่าสงวน กาแฟของผมจึงต้องอยู่กับป่าให้ได้ ” 🌳☕
🔎สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ
Link : https://www.coffeetravelermagazine.com/post/13th-anniversary-blend-ep4-กลิ่นกาแฟ-ณ-แม่จันใต้
PACAMARA
#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #กาแฟสเปเชียลตี้ที่ดื่มได้ทุกวัน

“ แม่จันใต้ มีความสูง 1,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีสิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการปลูกกาแฟ ผมจึงพยายามปลูก...

✨“𝐂𝐨𝐭𝐭𝐢 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞” ร้านกาแฟจากจีน เขย่าตลาดโลก ด้วย 𝟕,𝟎𝟎𝟎 สาขา ใน 𝟐 ปี!!✨นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “𝐂𝐨𝐭𝐭𝐢 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞”  แบรนด์ร...
05/08/2024

✨“𝐂𝐨𝐭𝐭𝐢 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞” ร้านกาแฟจากจีน เขย่าตลาดโลก ด้วย 𝟕,𝟎𝟎𝟎 สาขา ใน 𝟐 ปี!!✨

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “𝐂𝐨𝐭𝐭𝐢 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞” แบรนด์ร้านกาแฟจากจีนที่กำลังมาแรงทั่วโลก รวมถึงในตลาดกาแฟไทย จนสามารถขยายแฟรนไชส์ไปได้มากกว่า 7,000 สาขา ใน 300 เมือง 28 ประเทศทั่วโลก แย่งตลาดลูกค้ากาแฟแบรนด์ดังอย่าง Luckin Coffee และ Starbucks มาได้อย่างรวดเร็ว

🌟𝐂𝐨𝐭𝐭𝐢 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการตีตลาดที่จีน หลังเพียง 2 ปีที่เปิดสาขาแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 ที่ฝูโจว โดยคุณ Lu Zhengyao และคุณ Qian Zhiya อดีตผู้บริหารของ Luckin Coffee ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์ต่างก็เป็นร้านกาแฟสัญชาติจีน นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่คล้ายๆ กัน แต่ที่น่าสนใจ คือ Cotti Coffee หลังจากเปิดมาได้เพียง 2 ปี ก็สามารถขยายสาขาได้มากถึง 7,000 สาขาทั่วโลก ส่วน Luckin Coffee มีสาขาทั้งหมด 18,591 สาขา หลังจากเปิดสาขาแรกที่กรุงปักกิ่งในปี 2017 โดย Cotti Coffee ใช้เวลาเพียง 8 เดือน เปิดร้านได้ถึง 4,000 สาขา ส่วน Luckin Coffee ใช้เวลากว่า 2 ปี ถึงจะได้ 4,000 สาขา นอกจากนี้ Cotti Coffee ยังเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เมืองกาตาร์ ในฐานะผู้สนับสนุนระดับโลกของฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งนี้ได้กลายเป็นหัวข้อที่น่าสนใจว่า Cotti Coffee ใช้กลยุทธ์อะไร ทำไมถึงเติบโตได้รวดเร็ว จนสามารถขยายสาขาได้ถึง 7,000 สาขาทั่วโลก ในเวลาเพียง 2 ปี
👉กลยุทธ์ของ 𝐂𝐨𝐭𝐭𝐢 𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞
1. ขายราคาถูก
จุดเด่นของ Cotti Coffee คืเป็นกาแฟที่ราคาไม่สูง เข้าถึงได้ทุกกลุ่มวัย และมีเมนูให้เลือกเยอะ นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรโมชั่นส่วนลด ขายกาแฟราคาเพียง 8.8 หยวนต่อแก้ว จากปกติราคาอยู่ที่ 18-32 หยวน ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มาก และนั่นจึงทำให้ Luckin Coffee ต้องใช้กลยุทธ์ ออกคูปองส่วนลด 9.9 หยวน เพื่อดึงลูกค้ากลับมาจากกาแฟแบรนด์น้องใหม่อย่าง Cotti Coffee นั่นเอง

2.ทำเลร้าน
มีคนตั้งข้อสังเกตว่า Cotti Coffee มักจะเลือกเปิดทำเลร้านใกล้กับ Luckin Coffee เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งถ้ามองในอีกมุม ก็เหมือนเป็นการท้าชนกับ Luckin Coffee ตรง ๆ คือให้ลูกค้าเลือกเลยว่าจะเข้าร้านไหน ใครให้ราคาดีกว่ากัน นอกจากนี้ รสชาติเครื่องดื่มของ Cotti Coffee ยังคล้ายกับ Luckin Coffee อยู่หลายส่วนอีกด้วย โดยทาง Cotti Coffee ระบุราคาของรายได้ต่อแก้วตั้งไว้ที่ 16 หยวน และยอดขาย 400 ถ้วยต่อวันคือกำไร โดยราคาที่ขายต่อแก้วในปัจจุบัน 9.9 หยวน ในขณะที่ Starbucks ที่ตั้งราคาไว้ราคาประมาณ 30 หยวนต่อแก้ว ถือว่าเป็นกลยุทธ์นี่เรียกง่าย ๆ ว่า “ตัดราคา” กันนั่นเอง

3. ลูกค้าสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าผ่านมือถือ
Cotti Coffee จัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าสั่งซื้อล่วงหน้าผ่านมือถือ เพื่อช่วยให้การจัดการเวลาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการของ Cotti Coffee เพื่อเข้าถึงข้อมูลโปรโมชั่นข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงการสั่งซื้อล่วงหน้า นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถลูกค้ายังสามารถปรับแต่งเครื่องดื่มของตนได้ตามความชอบ โดยเลือกขนาดแก้ว สิ่งเพิ่มเติม และระดับความหวานได้อีกด้วย

4. การร่วมมือกับพันธมิตร
กลยุทธ์นี้จะสร้างระบบการจัดการที่มีการร่วมมือกับพันธมิตร ส่งเสริมจุดแข็งของ Cotti Coffee ในด้านแบรนด์, โซ่อุปทาน, และไอทีอย่างสูงสุด การจัดวางดังกล่าวช่วยให้เกิดนวัตกรรมอย่างครอบคลุมของระบบการดำเนินงานดิจิทัล ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของตนเองได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังได้กำหนดระบบความร่วมมือตลอดชีวิต รับประกันความยั่งยืนของความร่วมมือทางธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีการใช้กลยุทธ์ Economies of scale หรือ การประหยัดต่อขนาด โดยการขยายร้านให้ได้มาก ๆ ทำให้แบรนด์สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบได้ทีละมาก ๆ เพื่อให้ต้นทุนราคาต่อหน่วยถูกลง และมีอำนาจต่อรองซัพพลายเออร์ได้นั่นเอง

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Cotti Coffee เติบโตอย่างรวดเร็ว คือการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเริ่มขยายสาขาในต่างประเทศในปี 2023 ครอบคลุมตลาดในอาเซียน เอเชียตะวันออก อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย กว่า 28 ประเทศทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย Cotti Coffee เปิดสาขาแล้วทั้งหมด 8 สาขา คือ สามย่านมิตรทาวน์ม, สีลมคอมเพล็กซ์, เซ็นทรัลเวิลด์, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, ทรูดิจิทัล พาร์ค, เดอะมอลล์บางกะปิ (อยู่ระหว่างปรับปรุง), เดอะมอลล์บางแค (อยู่ระหว่างปรับปรุง), แฟชั่นไอส์แลนด์ ราคาจำหน่ายกาแฟเริ่มต้นเพียงแก้วละ 55 บาท ปัจจุบัน Cotti Coffee ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกาแฟนมที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นกาแฟชา, กาแฟน้ำนมข้าว และรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์พิเศษของภูมิภาคต่างๆ เช่น กาแฟเวียดนาม, มัทฉะโอ๊ตลาเต้, โกโก้คอตติ, ไลท์ชีมิลค์เฟรปเป้ และสปาร์คลิงโคลด์บริว ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

🌟จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การทำธุรกิจ Cotti Coffee คือ ราคาถูกและขายแฟรนไชส์ ขยายสาขาให้มาก เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการมีจำนวนสาขามาก จะได้ผลพลอยได้ คือจะสามารถซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ในราคาที่ถูกลง ซึ่งกลยุทธ์การขยายสาขานี้ ไม่เพียงแต่ Cotti Coffee แต่แบรนด์จีนหลาย ๆ แบรนด์ก็ใช้วิธีนี้เพื่อขยายธุรกิจเช่นเดียวกัน 🌟

📍ขอบคุณข้อมูลจาก
👉Thai Franchise Center
https://www.thaifranchisecenter.com/document/show.php?docuID=8535
👉Cotti Coffee
https://www.cotti.com/ #/home/index
👉MediaOutReach
https://bit.ly/3yzieTd

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #กาแฟสายพันธุ์ใหม่

✨𝐍𝐞𝐬𝐭𝐥𝐞́ รังสรรค์อาราบิกาสายพันธุ์ใหม่ “𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒” ✨ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้บรรดานัก...
02/08/2024

✨𝐍𝐞𝐬𝐭𝐥𝐞́ รังสรรค์อาราบิกาสายพันธุ์ใหม่ “𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒” ✨

ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทั่วโลกต่างพยายามหาวิธีแก้ไข สำหรับในโลกของกาแฟ การค้นหาสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ทนทานต่อสภาพอากาศและต้านทานโรคต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และอีกหนึ่งแบรนด์ดังที่พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยใช้วิธีดังกล่าว ก็คือ 𝐍𝐞𝐬𝐭𝐥𝐞́ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ ที่เราคุ้นหูกันดี ไม่ว่าจะเป็น Nescafe, Blue Bottle รวมถึงการเป็นพันธมิตรร่วมกับ Starbucks ที่ได้ประกาศว่าพวกเขาได้พัฒนากาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ใหม่ และมีแนวโน้มที่ดีมาก

👉กาแฟสายพันธุ์ใหม่นี้ถูกเรียกว่า “𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒” ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยทีมนักวิทยาศาสตร์การเกษตรและนักปฐพีวิทยาของ 𝐍𝐞𝐬𝐭𝐥𝐞́ ที่ใช้วิธี “ผสมพันธุ์แบบดั้งเดิม" จากกาแฟสายพันธุ์บราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสายพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม และทนทานต่อสภาพอากาศ ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาลักษณะเฉพาะของกาแฟบราซิลไว้ แต่จะมีเมล็ดที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ซึ่งหลังจากทำการทดสอบ 𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒 ร่วมกับกาแฟสายพันธุ์พื้นเมืองใน São Paulo และ Minas Gerais พบว่า 𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒 “ให้ผลผลิตสูงกว่าสายพันธุ์พื้นเมืองของบราซิล 2 สายพันธุ์ที่คนนิยมใช้มากที่สุด”🌱

จากการทดลองนี้ นักวิจัยจึงให้ความเห็น ว่าการเพิ่มผลผลิตของ 𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒 จะสามารถส่งเสริมความยั่งยืนได้ และยังระบุเพิ่มเติมว่า กาแฟที่ให้ผลผลิตสูงจะสามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเพาะปลูกได้ น่าเสียดายที่ตอนนี้ 𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒 ยังถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ 𝐍𝐞𝐬𝐭𝐥𝐞́ เราจึงยังไม่มีโอกาสเห็นกาแฟสายพันธุ์นี้ในชั้นของร้านกาแฟในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม 𝐒𝐭𝐚𝐫 𝟒 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่ช่วยพาอุตสาหกรรมกาแฟก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่อุปทานกาแฟทั่วโลกกำลังดิ้นรนเพื่อตอบสนองความต้องการปริมาณกาแฟเพิ่มขึ้น ในสภาวะที่สภาพอากาศยังคงแปรปรวนในปัจจุบัน

📍ขอบคุณข้อมูลจาก 𝐍𝐞𝐬𝐭𝐥𝐞́
https://www.nestle.com/about/research-development/news/star-4-high-yielding-arabica-coffee-variety

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #กาแฟสายพันธุ์ใหม่

✨ทำไมบรรจุภัณฑ์ “𝐆𝐫𝐞𝐞𝐧 𝐁𝐞𝐚𝐧” ถึงมีความสำคัญมาก?✨ปัญหาด้านโลจิสติกส์ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอุตสาหกรรมกาแฟ อย่างไรก...
31/07/2024

✨ทำไมบรรจุภัณฑ์ “𝐆𝐫𝐞𝐞𝐧 𝐁𝐞𝐚𝐧” ถึงมีความสำคัญมาก?✨

ปัญหาด้านโลจิสติกส์ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอุตสาหกรรมกาแฟ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีหลังจากการระบาดของโควิด19 ได้มีความท้าทายต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายในช่วงเวลาสั้น ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงในเร็ว ๆ นี้ และหนึ่งในปัญหานั้น คือปัญหาความล่าช้าในการจัดส่งเมล็ดกาแฟสาร หรือ Green Bean ที่มักจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ กว่าจะถึงที่หมาย ซึ่งนั่น อาจส่งผลให้เมล็ดกาแฟมีความสดใหม่ลดลง อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนหรือเกิดความเสียหาย จนเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้คั่วกาแฟได้

แม้ปัญหาความล่าช้าจะมาจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์ แต่ในทางกลับกัน ผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นผู้คั่วกาแฟ หรือเกษตรกรที่ต้องการจะส่งเมล็ดกาแฟสาร ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาคุณภาพของกาแฟระหว่างการขนส่งเช่นเดียวกัน ดังนั้น การลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟในระหว่างขนส่งจึงมีบทบาทสำคัญเอย่างมาก

👉“โลจิสติกส์” ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอุตสาหกรรมกาแฟ

เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ซื้อขายกันทั่วโลก กาแฟก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีความผันผวนของราคาอยู่ตลอดเวลาด้วยปัจจัยต่าง ๆ

“สิ่งที่คุณคิดได้ทั้งหมดจะมีผลต่อการขนส่งกาแฟเป็นระยะทางหลายพันหรือหลายสิบไมล์ ตัวอย่างเช่น มรสุมในประเทศต้นทางอาจทำให้พืชเติบโตช้าลงหรือโตเร็วเกินไป พายุในมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิกอาจทำให้การขนส่งล่าช้าหรือแม้กระทั่งสร้างความเสียหายให้กับเรือได้”

Alexander Rogers ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของคลังสินค้า AGC Commodity Store Ltd ในเมือง Romford ประเทศอังกฤษ ได้กล่าวถึงหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาด้านโลจิสติกส์ ในระหว่างการขนส่งกาแฟ โดยเขาเล่าว่าระยะทางทางภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศผู้ผลิตและตลาดผู้บริโภคส่วนใหญ่ย่อมส่งผลให้เกิดความท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้สภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากกาแฟส่วนใหญ่จะถูกขนส่งจากประเทศผู้ผลิตไปยังตลาดโดยใช้เรือบรรทุกสินค้า และมักใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจึงจะถึงโรงคั่ว อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าในการขนส่งนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก และเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ศุลกากร และกฎหมายใหม่ เป็นต้น

👉ความผันผวนของราคาและความท้าทายทางการเมือง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดโรคระบาด ปัญหาด้านโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับภาคส่วนต่าง ๆ ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกาแฟ นอกจากการถูกบังคับให้ปิดกิจการในช่วงล็อกดาวน์แล้ว ผู้ค้ากาแฟยังต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่ง ปัญหาด้านสภาพอากาศ และความท้าทายทางการเมืองซึ่งนำไปสู่ปัญหาคอขวดและห่วงโซ่อุปทาน

สงครามในยูเครนทำให้ราคาอาหารและพลังงานพุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศในช่วงต้นปี 2565 ขณะเดียวกันสงครามอิสราเอล -กาซา ได้ส่งผลให้การขนส่งล่าช้าและต้องเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งหลังจากการโจมตีหลายครั้งในทะเลแดงซึ่งคิดเป็นประมาณ 15% ของการค้าโลก

ตามการอัปเดตตลาดเดือนกรกฎาคม 2024 บริษัท Maersk รายงานว่าบริษัทขนส่งรายใหญ่ส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือไปทางแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ซึ่งทำให้ระยะเวลาการขนส่งเพิ่มขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกเหนือจากปัญหาคอขวดที่ท่าเรือในเอธิโอเปีย ซึ่งทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ในประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ ลดน้อยลง วิกฤตทะเลแดงที่ยังคงดำเนินอยู่ยังส่งผลกระทบต่อเส้นทางการเดินเรือในเอเชียตะวันออก โดยส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตโรบัสตารายใหญ่โดยเฉพาะในเวียดนามและอินโดนีเซีย

นอกเหนือความต้องการที่เพิ่มขึ้นและการขาดแคลนอุปทานอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคม 2024 เรายังเห็นราคากาแฟโรบัสตาพุ่งสูงสุดในรอบ 45 ปีล่าสุดราคากาแฟอาราบิกาก็พุ่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเช่นกัน

👉ความล่าช้าในการจัดส่งส่งผลกระทบต่อ Green Bean อย่างไร?

ผู้ค้ากาแฟต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต่าง ๆ มากมาย แต่ปัญหาความล่าช้าในการขนส่ง อาจเป็นเรื่องท้าทายที่สุดในการจัดการ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องปรับตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ ผู้คั่วและผู้ค้าต้องมั่นใจว่าพวกเขาจะปกป้องกาแฟระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บ ไม่ว่าการจัดส่งจะล่าช้าหรือตรงเวลา เช่นเดียวกับเมล็ดกาแฟคั่ว Green Bean ก็มีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แสงแดด ระดับความชื้น ออกซิเจน อุณหภูมิสูงหรือต่ำ

การสัมผัสกับสภาวะเหล่านี้เป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการควบคุมอาจทำให้รสชาติและกลิ่นของเมล็ดกาแฟลดลง และอาจทำให้คุณภาพลดลงด้วย หากคะแนนกาแฟลดลงระหว่างการขนส่ง ผู้คั่วกาแฟจะไม่ได้รับกาแฟที่มีคุณภาพตามที่จ่ายไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา และยิ่งระยะเวลาในการขนส่งไปถึงปลายทางนานเท่าไร ความเสี่ยงที่จะสูญเสียคุณภาพและความสดใหม่ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และเพื่อรับมือกับปัญหานี้ ปัจจุบันจึงมีผู้คั่วและผู้ค้ากาแฟเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้บรรจุภัณฑ์มากขึ้น ทั้งยังเต็มใจที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อบรรจุภัณฑ์ Green Bean ที่มีคุณภาพ สามารถคงความสดของเมล็ดกาแฟได้นานขึ้น

👉ความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ Green Bean

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความล่าช้าในการจัดส่งกลายเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นผู้คั่วและผู้ค้ากาแฟจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถควบคุมการขนส่งได้ ดังนั้น สิ่งที่พวกเขาควรทำคือการควบคุมตัวสินค้าก่อนที่จะส่ง ดังนั้น การลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่ดีกว่าเพื่อปกป้องเมล็ดกาแฟระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บจึงมีส่วนสำคัญมาก เพื่อรักษาความสดใหม่และคุณสมบัติโดยธรรมชาติของกาแฟเอาไว้

จากการศึกษาที่ประเมินคุณสมบัติทางกายภาพ เคมี และรสสัมผัสของกาแฟอาราบิกา ระหว่างการเก็บรักษาในบรรจุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ พบว่าถุงที่ปิดสนิท (หรือถุงสุญญากาศ) ที่เก็บรักษาในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมสามารถรักษาความสดและคุณภาพได้นานถึง 12 เดือน เช่น ถุง Ecotact ที่เป็นบรรจุภัณฑ์แบบปิดสนิท ทำให้อัตราการส่งผ่านไอน้ำและอัตราการถ่ายโอนออกซิเจนจึงใกล้เคียงศูนย์ ซึ่งช่วยปกป้อง Green Bean จากการเกิดออกซิเดชันและความชื้นได้

👉บรรจุภัณฑ์ช่วยรับมือกับความล่าช้าของการขนส่งได้ดีขึ้นอย่างไร?

ในขณะที่กาแฟกำลังอยู่ระหว่างการขนส่งและจัดเก็บในประเทศส่งออก ผู้คั่วกาแฟจะควบคุมการจัดส่งได้น้อยมาก การลงทุนในบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้รักษาความสดและรสชาติของกาแฟได้ และยังได้กาแฟที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ โดยบรรจุภัณฑ์ จะสามารถปกป้อง Green Bean ระหว่างการจัดเก็บที่ต้นทาง ความล่าช้าที่ท่าเรือ และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ในระหว่างการขนส่ง ยิ่งหากเป็นบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น Ecotact จะสามารถรักษาความสดใหม่ของ Green Bean ได้นานแปดถึง 12 เดือน พร้อมช่วยปกป้องจากความชื้นภายนอก กลิ่น และสิ่งปนเปื้อนได้อย่างเต็มที่โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ

👉การเลือกประเภทของบรรจุภัณฑ์

เช่นเดียวกับกาแฟคั่ว Green Bean ก็มีบรรจุภัณฑ์ให้เลือกหลายแบบ และแต่ละประเภทจะเหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ จึงต้องเลือกให้เหมาะสม เช่น หากต้องการบรรจุไม่เยอะมากและเป็นการขนส่งขนาดเล็ก อาจเลือกใช้ Ecotact Penta Pak ที่ถูกออกแบบมาเป็นรูปห้าเหลี่ยมทำให้สะดวกต่อการใช้งานซ้ำ และสามารถป้องกัน Green Bean จากอุณหภูมิสูงและสารปนเปื้อนได้ สำหรับการขนส่งขนาดใหญ่ ผู้ผลิตและผู้ค้าสามารถใช้ซับตู้คอนเทนเนอร์แบบปิดผนึก Ship Shield ซึ่งสามารถปิดผนึกสุญญากาศหรือล้างด้วยไนโตรเจนได้ภายใน 15 นาที ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้ Ship Shield แทนการใช้ถุงใบเดียว จะสามารถช่วยลดปริมาณพลาสติกได้เกือบ 27 กิโลกรัมอีกด้วย

📍ขอบคุณข้อมูลจาก
Perfect Daily Grind
https://perfectdailygrind.com

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้

✨นักวิจัยเสนอ “โรบัสตา” ในฐานะตัวเลือกที่เหมาะสมในการทดแทน หรือเข้ามาเสริม “อาราบิกา” ในตลาดที่มีอยู่✨กาแฟอาราบิกาทั่วโล...
30/07/2024

✨นักวิจัยเสนอ “โรบัสตา” ในฐานะตัวเลือกที่เหมาะสมในการทดแทน หรือเข้ามาเสริม “อาราบิกา” ในตลาดที่มีอยู่✨

กาแฟอาราบิกาทั่วโลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อรับมือกับปัญหานี้ นักวิจัยในบราซิลจึงเริ่มทำการทดลอง ก่อนจะค้นพบว่าโรบัสตาที่ปลูกในที่สูง อาจจะเป็นสายพันธุ์ที่สามารถทดแทนอาราบิกาได้ 🌱

งานวิจัยนี้ได้ทำขึ้นเพื่อศึกษา “ความสามารถในการปรับตัว” ของกาแฟสายพันธุ์โรบัสตา โดยใช้แหล่งปลูกและระดับความสูงที่แตกต่างกัน เพื่อพิจารณาว่าโรบัสตาจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแต่ละแห่งอย่างไร และแม้ในปัจจุบัน กาแฟอาราบิกาจะยังเป็นที่ต้องการในตลาดสูงกว่าโรบัสตาที่มีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากกว่า อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้เสนอว่าควรพิจารณาโรบัสตา ในฐานะตัวเลือกที่เหมาะสมในการทดแทน หรือเข้ามาเสริมอาราบิกาในตลาดที่มีอยู่ เนื่องจากการแปรปรวนของสภาพอากาศ อาจจะส่งผลให้แหล่งปลูกอาราบิกาลดลงอย่างมากในอนาคต

Felipe Ferrão นักวิทยาศาสตร์ด้านพืชสวนจากมหาวิทยาลัยฟลอริดากล่าวว่า “โดยรวมแล้ว สายพันธุ์โรบัสตา ให้ผลผลิตกาแฟมากกว่าสายพันธุ์อาราบิกา และใช้ปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยและน้ำน้อยกว่า แม้ว่าความต้องการกาแฟโรบัสตาจะไม่ลดลง แต่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราคือการตอบสนองความต้องการด้านคุณภาพและผลผลิต ที่ห่วงโซ่อุปทานกาแฟต้องการ ในแง่นี้ การศึกษาด้านพันธุกรรมและการผสมพันธุ์ จะสามารถมอบความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความหลากหลายและปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น”

Ferrão และทีมนักวิจัยจากฝรั่งเศส (RD2 Vision) และบราซิล (สถาบัน Incaper) ได้ทำการทดลองโรบัสตาในหลายสถานที่เพื่อตอบคำถามว่าสภาพอากาศส่งผลต่อความยืดหยุ่นของลักษณะปรากฏของโรบัสตาอย่างไรบ้าง โดยการศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่าคุณภาพของกาแฟโรบัสตา ได้รับผลกระทบจากระดับความสูงและสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ การศึกษาวิจัยยังเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเพาะพันธุ์ในระดับโมเลกุลเพื่อแก้ปัญหาการดำรงอยู่ของกาแฟในระยะยาวอีกด้วย

👉นักวิจัยกล่าวว่า “โดยรวมแล้ว เราขอเสนอทัศนคติใหม่ ๆ เกี่ยวกับโรบัสตา สายพันธุ์ที่อาจจะกลายเป็นทางเลือกสำหรับพันธุ์พืชที่สามารถตอบสนองต่อสภาพอากาศได้ดี ในสถานการณ์ที่สภาพอากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก”

📍การศึกษาฉบับเต็มถูกตีพิมพ์ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาใน Crop Sciences วารสารของ Crop Sciences Society of America (CCSA) ผู้สนใจสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ :
https://acsess.onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1002/csc2.21298

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้

🌄“ บ้านแม่จันหลวงเป็นพื้นที่ลาดชัน สวนกาแฟ 80% จะอยู่ใต้ร่มเงาไม้ ที่ความสูงประมาณ 1,300 ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1,600 พื้นที่...
29/07/2024

🌄“ บ้านแม่จันหลวงเป็นพื้นที่ลาดชัน สวนกาแฟ 80% จะอยู่ใต้ร่มเงาไม้ ที่ความสูงประมาณ 1,300 ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1,600 พื้นที่โดยรวมส่วนใหญ่ที่ผลิตกาแฟอยู่ในระยะ 4 กิโลเมตร ใน 4 กิโลเมตรนี้ความแตกต่างของเมล็ดกาแฟจะมีความสม่ำเสมอ และผิดเพี้ยนจากกันน้อยมาก ซึ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้กาแฟของเรามีความพิเศษ ”🌳
🔎สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ
Link : https://www.coffeetravelermagazine.com/post/13th-anniversary-blend-ep3-กลุ่มชุมชนกาแฟแม่จันหลวง-แห่งดอยแม่สลองนอก
PACAMARA
#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #กาแฟสเปเชียลตี้ที่ดื่มได้ทุกวัน

“ บ้านแม่จันหลวงเป็นพื้นที่ลาดชัน สวนกาแฟ 80% จะอยู่ใต้ร่มเงาไม้ ที่ความสูงประมาณ 1,300 ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1,600 พื้....

📌จบไปอีกหนึ่ง กับ Coffee Traveler EP.3 "Coffee Traveler With Cuppa Campers" 🌳☕อีเว้นท์สุดพิเศษที่คอกาแฟสายแคมป์ ได้มานัด...
24/07/2024

📌จบไปอีกหนึ่ง กับ Coffee Traveler EP.3 "Coffee Traveler With Cuppa Campers" 🌳☕

อีเว้นท์สุดพิเศษที่คอกาแฟสายแคมป์ ได้มานัดพบ พูดคุยแลกเปลี่ยนท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “𝑆𝑙𝑜𝑤𝑏𝑎𝑟 𝑖𝑛 𝐶𝑖𝑡𝑦 𝐶𝑎𝑚𝑝𝑠𝑖𝑡𝑒” พร้อมลิ้มรสกาแฟจากแหล่งปลูกดี ๆ ดีกรีรางวัลจากทั่วประเทศ! งานนี้เราได้รับเสียงตอบรับจากทั้งคอกาแฟ และสายแคมป์อย่างล้นหลาม เรียกได้ว่า เกินคาดเลยก็ว่าได้😲

💥แต่นี้ยังไม่ใช่ตอนจบ! เตรียมตัวพบกับ EP สุดท้าย ของ Coffee Traveler ที่จะพาคุณไปท่องโลกใบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่จริงใจกว่าเดิม ส่วนจะเป็นคอนเซ็ปต์อะไรนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ👍

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #มันมันศรีนครินทร์

📌𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 ชวนมา 𝗠𝘂𝗻 วันสุดท้าย!🌳☕มาจิบกาแฟหอม ๆ พร้อมช้อปไอเทมตั้งแคมป์เจ๋ง ๆ ได้ที่งาน 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝗘𝗣 𝟯 : 𝗖𝗼...
22/07/2024

📌𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 ชวนมา 𝗠𝘂𝗻 วันสุดท้าย!🌳

☕มาจิบกาแฟหอม ๆ พร้อมช้อปไอเทมตั้งแคมป์เจ๋ง ๆ ได้ที่งาน 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝗘𝗣 𝟯 : 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝗪𝗶𝘁𝗵 𝗖𝘂𝗽𝗽𝗮 𝗖𝗮𝗺𝗽𝗲𝗿𝘀

🤩วันสุดท้ายแล้ว อย่าลืมมาเจอกันนะ

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #มันมันศรีนครินทร์ #คั่วกาแฟ #แคมป์ปิ้ง

🤓𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 𝐫𝐨𝐚𝐬𝐭𝐢𝐧𝐠 𝐰𝐨𝐫𝐤𝐬𝐡𝐨𝐩 𝐛𝐲 𝐒𝐀𝐋𝐎𝐓𝐓𝐎 ✨Salotto Coffee ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี กับกิจกรรม 𝐰𝐨𝐫𝐤𝐬𝐡𝐨𝐩 "เทคนิคการคั่วกาแฟ...
21/07/2024

🤓𝐂𝐨𝐟𝐟𝐞𝐞 𝐫𝐨𝐚𝐬𝐭𝐢𝐧𝐠 𝐰𝐨𝐫𝐤𝐬𝐡𝐨𝐩 𝐛𝐲 𝐒𝐀𝐋𝐎𝐓𝐓𝐎 ✨

Salotto Coffee

ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี กับกิจกรรม 𝐰𝐨𝐫𝐤𝐬𝐡𝐨𝐩 "เทคนิคการคั่วกาแฟที่มีผลต่อรสชาติ" เพื่อเรียนรู้พื้นฐานการคั่ว และการชิม สอนโดย พี่ติ๊ก 𝐒𝐀𝐋𝐎𝐓𝐓𝐎 ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การคั่วมานานก็ว่า 15 ปี

ขอขอบพระคุณ พี่ติ๊ก 𝐒𝐀𝐋𝐎𝐓𝐓𝐎 (คุณอภิชา แย้มเกษร) ที่ให้เกียรติมาแชร์ความรู้ และเทคนิคดี ๆ ใน workshop ในครั้งนี้

☕เรามาชมภาพบรรยากาศการเรียนการสอนในห้องกันเลยดีกว่า ว่าจะสนุกสนาน และน่าสนใจขนาดไหน ไปดูกันเลย🤩

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #มันมันศรีนครินทร์ #คั่วกาแฟ #แคมป์ปิ้ง

☕มากางแคมป์จิบกาแฟกันเถอะ!🌳สัมผัสบรรยากาศดี ๆ กลิ่นกาแฟหอม ๆ พร้อมเก็บไอเทมอุปกรณ์ตั้งแคมป์สุดเจ๋ง ที่งาน 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲...
21/07/2024

☕มากางแคมป์จิบกาแฟกันเถอะ!

🌳สัมผัสบรรยากาศดี ๆ กลิ่นกาแฟหอม ๆ พร้อมเก็บไอเทมอุปกรณ์ตั้งแคมป์สุดเจ๋ง ที่งาน 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝗘𝗣𝟯 : 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗖𝘂𝗽𝗽𝗮 𝗖𝗮𝗺𝗽𝗲𝗿𝘀

📌อย่าพลาดการเดินทางกับ 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 ที่ 𝟭𝘀𝘁 𝗙𝗹., 𝗠𝘂𝗻𝗠𝘂𝗻 𝗦𝗿𝗶𝗻𝗮𝗸𝗮𝗿𝗶𝗻

มาเจอกันนะ อีก 2 วันเท่านั้น!😎

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #มันมันศรีนครินทร์ #คั่วกาแฟ #แคมป์ปิ้ง

📣วันหยุดนี้ ถ้ายังไม่รู้ไปไหน มาเจอกันที่  𝗠𝘂𝗻𝗠𝘂𝗻!✨🤓มาดูภาพบรรยากาศงานวันแรกกันเลย แน่นอนว่านี้เป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น ...
20/07/2024

📣วันหยุดนี้ ถ้ายังไม่รู้ไปไหน มาเจอกันที่ 𝗠𝘂𝗻𝗠𝘂𝗻!✨

🤓มาดูภาพบรรยากาศงานวันแรกกันเลย แน่นอนว่านี้เป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น เพราะไฮไลท์ของเรากำลังจะเริ่มขึ้น!

🌳มาสัมผัสบรรยากาศแคมป์สุดอบอุ่น และจิบกาแฟหอม ๆ ในงาน Coffee Traveler EP3 : 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗖𝘂𝗽𝗽𝗮 𝗖𝗮𝗺𝗽𝗲𝗿𝘀

😎งานยังมีอีก 3 วัน แล้วมาเจอกันนะ🤓

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #มันมันศรีนครินทร์ #คั่วกาแฟ #แคมป์ปิ้ง

🌳“ กาแฟของบ้านผาฮี้ เป็นกาแฟที่ปลูกในป่าบนภูเขาสูง ห่างจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200  - 1,400 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่ง...
17/07/2024

🌳“ กาแฟของบ้านผาฮี้ เป็นกาแฟที่ปลูกในป่าบนภูเขาสูง ห่างจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 - 1,400 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งผลิตอาราบิกาคุณภาพ ที่มีรสชาติโดดเด่น ” ☕
🔎สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ
Link : https://www.coffeetravelermagazine.com/post/13th-anniversary-blend-ep2-ผาฮี้-กาแฟดีกลางหุบเขา
PACAMARA
#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #กาแฟสเปเชียลตี้ที่ดื่มได้ทุกวัน

“ กาแฟของบ้านผาฮี้ เป็นกาแฟที่ปลูกในป่าบนภูเขาสูง ห่างจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 - 1,400 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็.....

📣𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 ชวนมา 𝗠𝘂𝗻 กับ บูธคุณภาพในงาน “𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝗘𝗣𝟯 : 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗖𝘂𝗽𝗽𝗮 𝗖𝗮𝗺𝗽𝗲𝗿𝘀” 🏕☕✨☕สัมผัสกับร้...
13/07/2024

📣𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 ชวนมา 𝗠𝘂𝗻 กับ บูธคุณภาพในงาน “𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝗘𝗣𝟯 : 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝗖𝘂𝗽𝗽𝗮 𝗖𝗮𝗺𝗽𝗲𝗿𝘀” 🏕☕✨

☕สัมผัสกับร้านกาแฟ และร้านขนมคุณภาพ ที่มารวมตัวกัน ภายใต้บรรยากาศของแคมป์ปิ้ง แบบ 𝑆𝑙𝑜𝑤𝑏𝑎𝑟 𝑖𝑛 𝐶𝑖𝑡𝑦 𝐶𝑎𝑚𝑝𝑠𝑖𝑡𝑒 มาร่วมสนุกในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ พร้อมลิ้มรสกาแฟจากแหล่งปลูกต่าง ๆ ทั้งแบบ 𝗦𝗹𝗼𝘄 𝗕𝗮𝗿, 𝗦𝗽𝗲𝗲𝗱 𝗕𝗮𝗿, 𝗡𝗼𝗻 – 𝗰𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 และตบท้ายด้วยการเพิ่มน้ำตาลด้วยของหวานฉ่ำ แสนอร่อย ที่ดูเข้ากัน

🤩งานนี้ อยู่กันยาว ๆ 𝟰 วันเต็ม! ระหว่างวันที่ 𝟭𝟵 - 𝟮𝟮 กรกฎาคม 𝟮𝟱𝟲𝟳 𝟭𝘀𝘁 𝗙𝗹., 𝗠𝘂𝗻𝗠𝘂𝗻 𝗦𝗿𝗶𝗻𝗮𝗸𝗮𝗿𝗶𝗻

จะมีร้านอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย🧐

📌ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸 𝗽𝗮𝗴𝗲 – 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗧𝗿𝗮𝘃𝗲𝗹𝗲𝗿

แล้วเจอกันนะ💥

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้ #มันมันศรีนครินทร์ #คั่วกาแฟ #แคมป์ปิ้ง

✨ตลาดกาแฟไทยคึกคัก มูลค่าพุ่งสูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท!!✨ปัจจุบันพบว่า ธุรกิจกาแฟ กำลังเติบโตขึ้นอย่างมากในเมืองไทย โดยสาเห...
13/07/2024

✨ตลาดกาแฟไทยคึกคัก มูลค่าพุ่งสูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท!!✨

ปัจจุบันพบว่า ธุรกิจกาแฟ กำลังเติบโตขึ้นอย่างมากในเมืองไทย โดยสาเหตุหนึ่ง มาจากการมองเห็นมูลค่ารวมของตลาดกาแฟที่สูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท ของแบรนด์กาแฟต่างชาติ ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงพอจะดึงดูดแบรนด์กาแฟจากทั่วโลกให้เข้ามาโลดแล่นในตลาดนี้ได้ ตัวอย่างแบรนด์กาแฟชื่อดังที่เข้ามา เช่น “Cotti Coffee” ร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จด้วยการขยายสาขากว่า 5,000 สาขาทั่วแผ่นดินจีนในเวลาแค่ 1 ปี นอกจากนี้ยังได้ปรากฏตัวในมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เมืองกาตาร์ ในฐานะเครื่องดื่มกาแฟที่จัดเสิร์ฟให้บรรดานักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่กรุงเทพมหานครในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในปัจจุบัน ตลาดกาแฟต่างชาติในบ้านเรา ยังคงเป็น “สตาร์บัคส์” จากสหรัฐอเมริกา ที่ครองชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนสาขากว่า 464 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ต่างชาติที่เป็นคู่แข่งอีกหลายประเทศ อาทิ “Hollys Coffee” แบรนด์ร้านกาแฟจากประเทศเกาหลีใต้ หรือ “UCC Coffee” แบรนด์ร้านกาแฟจากประเทศญี่ปุ่น ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งนอกจากแบรนด์กาแฟต่างชาติแล้ว แบรนด์กาแฟไทยเองก็มีความคึกคักไม่แพ้กัน อาทิ “คาเฟ่ อเมซอน” ที่มีสาขามากกว่า 4,000 สาขาทั่วประเทศ “อินทนิลคอฟฟี่” ที่มีสาขากว่า 1,000 สาขา หรือ “กาแฟพันธุ์ไทย” ที่วางเป้าจะเปิดสาขาเพิ่มเป็น 1,500 สาขา ภายในปี 2567 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 750 สาขา และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็น “ALL Cafe” ในร้าน 7-Eleven จากบริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) ที่ได้ส่วนแบ่งทางการตลาดไปไม่น้อย

🌟จะเห็นได้ว่า ตลาดกาแฟไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแหล่งปลูกที่สำคัญ และมีศักยภาพมากพอในการแปรรูปกาแฟเพื่อส่งออก ปัจจุบัน เทรนการบริโภคกาแฟได้เข้าไปสู่ประเด็นด้านสุขภาพและความยั่งยืนมากขึ้น ดังนั้น การประกอบธุรกิจทางด้านกาแฟในปัจจุบัน จึงต้องมาควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถพัฒนากาแฟพร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไปพร้อม ๆ กัน และเพราะการเติบโตที่ก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมกาแฟนี้ จึงทำให้ในปัจจุบันมีผู้เล่นมากมายกระโดดเข้ามาในสมรภูมินี้มากขึ้น จนมีการคาดการณ์มูลค่าทางการตลาดของเครื่องดื่มกาแฟไทยในปี 2567 ถึง 6.5 หมื่นล้านบาท และอาจมีแบรนด์ต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยเฉพาะจากประเทศจีน ที่จะตบเท้าเข้ามาสู่ตลาดนี้มากยิ่งขึ้น

📍ขอบคุณข้อมูลจาก
https://bit.ly/3WiEeek

#กาแฟ #ข่าวสารกาแฟ #ข่าวน่าสนใจรอบโลก #ข่าวสารน่ารู้

ที่อยู่

84/5 Inthavaroros Road, Sriphumi, Mueang
Chiang Mai
50200

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00
เสาร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+6652068460

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Coffee Travelerผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Coffee Traveler:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ประเภท


สื่อ อื่นๆใน Chiang Mai

แสดงผลทั้งหมด

คุณอาจจะชอบ