Brand Communication

Brand Communication Agency • sharing • ธุรกิจ • แนวคิด • กลยุทธ์ • แบรนด์ • การตลาด • การสื่อสารและประชาสัมพันธ์

Great to share :)
29/06/2024

Great to share :)

Data Research Insight สงขลา ด้วย Social listening ในโปรเจค ังหวัด ในบทความนี้หา Insight มาฝากกันอย่างจัดหนักจัดเต็ม

ทุกวันนี้พฤติกรรมการเสพสื่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เคยสังเกตตัวเองไหมว่าเป็นคนแบบไหน ระหว่างใช้ชีวิตแบบตามเทรนด์ หรือเป็น...
28/06/2024

ทุกวันนี้พฤติกรรมการเสพสื่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เคยสังเกตตัวเองไหมว่าเป็นคนแบบไหน ระหว่างใช้ชีวิตแบบตามเทรนด์ หรือเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตแบบไม่เกาะกระแสอะไรเลย โนสน โนแคร์ ไม่จำเป็นต้องรู้ จนมีคำนิยามเฉพาะตัวของคน 2 ประเภทนี้เกิดขึ้น คือผู้บริโภคกลุ่ม FOMO และ JOMO

FOMO คืออะไร
FOMO มาจากคำว่า Fear of Missing Out แปลว่า ความกลัวที่จะพลาดบางสิ่งบางอย่าง พฤติกรรมพื้นฐานของประชากรโลกในยุคดิจิตอล ที่เสพติดการรับสื่อทางโซเชียล ติดมือถือตลอดเวลา กลัวการตกเทรนด์ ตกข่าว

พฤติกรรมของกลุ่ม FOMO จะติดสมาร์ทโฟน เพื่อนทักมาต้องรีบตอบ อัปเดตชีวิตผ่านโซเชียลอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นธุรกิจที่จะจับกลุ่มคน FOMO ควรวางแผนเข้าถึงด้วยการเอาความเร็วมาช่วยกระตุ้น เช่น ลดราคาเพียงไม่กี่วัน หรือลดเวลาถึงแค่เวลาที่กำหนดเท่านั้น สามารถใช้โฆษณาแบบโหนกระแส หยิบมาสร้างสีสันให้กับการทำสื่อโฆษณาได้

JOMO คืออะไร
JOMO ย่อมาจาก Joy of Missing Out หรือที่แปลว่า ความสุขที่ได้พลาดบางสิ่งบางอย่างไป JOMO เป็นขั้วตรงข้ามของ FOMO เป็นพฤติกรรมถอยห่างจากโซเซียล ไม่ยึดติดว่าสมาร์ทโฟน และไม่รู้สึกผิดเมื่อพลาดตกข่าวไป

พฤติกรรมของกลุ่ม JOMO จะไม่โฟกัสกิจกรรมที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก มักจะมี activity เช่น อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ ออกกำลังกาย กิจกรรมที่ทำคนดียวไม่ต้องพึ่งใคร ซึ่งธุรกิจที่จะเข้าถึงคนเหล่านี้ ต้องมี Content SEO ที่จะนำทางให้ชาว JOMO มายัง Content ของแบรนด์

แล้วคุณล่ะ! มีพฤติกรรมเป็นคนแบบไหน FOMO vs JOMO ?
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




CEO   เยาวราช ต้องสะเทือน ใครใส่สูทเดินเยาราช??! 😂
27/06/2024

CEO เยาวราช ต้องสะเทือน ใครใส่สูทเดินเยาราช??! 😂

ในการทำ Digital Marketing ยุคนี้ เทคนิคที่ช่วยให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผ่านการติดอันดับบนหน้าแรกของ Goog...
27/06/2024

ในการทำ Digital Marketing ยุคนี้ เทคนิคที่ช่วยให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผ่านการติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ก็คือการทำ SEO (Search Engine Optimisation) ซึ่งวิธีที่สามารถทำให้การเขียนคอนเทนต์และการทำ SEO ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า Topic Cluster หรือ "การจับกลุ่มของคอนเทนต์" เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น

Topic Clusters คืออะไร ?
เป็นการจัดกลุ่มคอนเทนต์ ร่วมกับการทำ SEO ควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสการติดอันดับ แบ่งเป็น

- Pillar Content คอนเทนต์หลักที่มีคุณภาพสูง สามารถโน้มน้าวใจให้เกิดความรู้สึกอยากซื้อสินค้า สร้างคอนเทนต์ที่มีแบบแผน เพียง 1 คอนเทนต์
- Cluster Content คอนเทนต์เสริมที่ช่วยสนับสนุนให้ Pillar Content มีความน่าสนใจมากขึ้น ใส่ลิงก์เชื่อมโยงหากัน

ข้อดีของ Topic Clusters
จะช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์มากขึ้น เพราะมี Hyperlink เชื่อมต่อระหว่างคอนเทนต์ไปมา ลดอัตราการเข้ามาที่เว็บไซต์เพียงหน้าเดียวแล้วปิด เพิ่มโอกาสการขาย (Conversion) ได้มากขึ้น เพิ่มความหลากหลายในการทำคอนเทนต์ และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO สามารถเปลี่ยนจากผู้อ่านคอนเทนต์ เป็นลูกค้าได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญยังทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักมากขึ้นได้อีกด้วย
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




ปรับโฉมใหม่ฉลอง 15 ปี “ฟูลมูน ไวน์”
21/06/2024

ปรับโฉมใหม่ฉลอง 15 ปี “ฟูลมูน ไวน์”


บริษัท รอยัล เกทเวย์ จำกัด ทำการ Refreshing ฉลากสินค้า Full Moon Wine ใหม่ !! เพื่อฉลองการครบรอบ 15 ปี “ฟูลมูน ไวน์” เพื่อตอบโจท.....

พฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละ Generation จะมีความแตกต่างกันตามช่วงวัย ซึ่งเป็นความท้าทายของคนทำธุรกิจ ที่จะต้องเข้าใจเพื่อให้...
21/06/2024

พฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละ Generation จะมีความแตกต่างกันตามช่วงวัย ซึ่งเป็นความท้าทายของคนทำธุรกิจ ที่จะต้องเข้าใจเพื่อให้เข้าถึงลูกค้า
โดยการช้อปของ "Gen Baby Boomer" มักจะช้อปออนไลน์แต่ไม่ชอบแชทกับแม่ค้าออนไลน์ - ให้ความสำคัญกับราคา สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ชอบข้อมูลที่ไม่ซ้ำซ้อน
"Gen X" ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อแบรนด์คุณภาพที่ไว้ใจ - มีความจงรักภักดีกับแบรนด์ที่ใช้มายาวนาน ชอบของสมนาคุณและสะสมคะแนน ชอบค้นหาหรือดูรีวิวสินค้าจาก YouTube และตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยโฆษณาบน Facebook มักจะสนใจเครื่องสำอางและสกินแคร์
"Gen Y" ต้องจ่ายแล้วจบยิ่งดี - ให้ความสำคัญกับความจริงใจของแบรนด์ ชอบอัปเดตไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ของตัวเอง ลงบนโซเชียลมีเดีย โดยร้านค้าต้องตอบสนองลูกค้าได้แบบทันใจ ให้บริการที่รวดเร็ว เพราะคน Gen Y ไม่ชอบรอนาน เมื่อไม่พอใจสามารถเปลี่ยนใจได้ทันที
"Gen Z" แบรนด์ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่ PR - เป็นผู้บริโภคออนไลน์ ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ซื้อของจากการดูรีวิว ค่อนข้างให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ เพื่อลงภาพบนโซเชียล
"Gen Alpha" คุณภาพ ความดีงาม ออนไลน์ และออฟไลน์ - เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ใช้บริการ Delivery เป็นหลัก เติบโตมาพร้อมกับ Influencer เน้นของที่มีคุณภาพ
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




ปี 2024 นี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างเริ่มอัปเดตอัลกอริทึม (Algorithm) โดยเฉพาะ Instagram แพลตฟอร์มฮิตของใครหลายๆคน โดย...
20/06/2024

ปี 2024 นี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างเริ่มอัปเดตอัลกอริทึม (Algorithm) โดยเฉพาะ Instagram แพลตฟอร์มฮิตของใครหลายๆคน โดยปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานและให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งครอบคลุมทุกส่วนตั้งแต่หน้าฟีด Reels และ Stories
เนื้อหาจะถูกจำกัดมากขึ้น - Instagram เริ่มจำกัดเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน ทั้งภาพความรุนแรง ภาพวาบหวิว โดยจะถูกค้นเจอได้ยากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับเยาวชน ที่ใช้ Instagram มากเป็นอันดับต้นๆ
เน้นเรื่องการตอบโต้ระหว่างผู้ใช้งาน - โดยจะโฟกัสให้ผู้ใช้งานได้พูดคุยตอบโต้มากขึ้น โดยอัลกอริทึมจะแสดงให้เห็นคอนเทนต์ของแอคเคาท์ที่พูดคุยโต้ตอบด้วยบ่อย ๆ บนหน้าฟีดให้มากขึ้น
ยอดวิวจะนับการดูซ้ำ - เป็นการกระตุ้นให้ครีเอเตอร์สร้างคลิปใหม่ ๆ เพราะใจฟูเมื่อเห็นยอดวิวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ Instagram จึงกำหนดให้มีการนับยอดวิวจากการดูซ้ำไปด้วย
ในส่วน Instagram Algorithm การทำงานในส่วนของ "Stories" จะให้ความสำคัญกับแอคเคาท์ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ใช้งาน รวมถึงความถี่ในการรับชมสตอรี่ ถ้าดูสตอรี่ใครบ่อยๆ ก็จะเห็นบ่อยหรือขึ้นโชว์ในลำดับต้นๆนั่นเอง
"Feed" โดย Instagram จะวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้งานจากประวัติเพื่อให้ตรงกับความสนใจ และ "Reels" จะแนะนำวิดีโอที่คล้ายคลึงกัน จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน ยิ่งกดไลก์ กดแชร์ Reels แบบไหนบ่อยๆก็จะเจอแบบนั้นมากขึ้น
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




18/06/2024



ในยุคนี้เหล่านักการตลาดได้มีมุมมองและวิเคราะห์กันว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคส่วนหนึ่งมาจา...
14/06/2024

ในยุคนี้เหล่านักการตลาดได้มีมุมมองและวิเคราะห์กันว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคส่วนหนึ่งมาจาก "โฆษณา" ที่จะทำให้เกิดปัจจัยทางด้านจิตวิทยา โดยเริ่มจาก
เห็นโฆษณา - ในด้านการตลาดมีคำศัพท์คำหนึ่งที่น่าสนใจก็คือคำว่า Frequency ที่เป็นความถี่การเห็นโฆษณาซ้ำ ในช่วงกรอบเวลาหนึ่ง ที่จะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์และทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด
คลิกที่โฆษณา - เป็น "การจูงใจ" จากการที่ได้เห็นโฆษณาหรือข้อความที่เป็นการเชิญชวน เปรียบเมือนประตูด่านแรกที่จะนำไปสู่การ "คลิก" เช่น ราคาสุดช็อก หั่นครึ่งราคา พร้อมด้วยรูปภาพหรือ Content Video ที่น่าสนใจ รู้ถึงกลุ่มเป้าหมายว่าจะขายสินค้าให้กับใคร
จ่ายเงินซื้อ - เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกค้าจะทำหลังตัดสินใจซื้อสินค้า แต่ในปัจจุบันวิธีการซื้อก็แตกต่างกันไปสิ่งที่สำคัญมากคือ แบรนด์ต้องรู้ว่าลูกค้าจะจ่ายเงินซื้อเพราะอะไร และจะพัฒนาความพึงพอใจของลูกค้าให้ดีขึ้นได้อย่างไร ให้กลายเป็นลูกค้าประจำต่อไป
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




13/06/2024



แน่นอนว่าแรงกดดันที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้านั่นก็คือ ความต้องการ (Need) ดังนั้นกลไกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการต...
13/06/2024

แน่นอนว่าแรงกดดันที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้านั่นก็คือ ความต้องการ (Need) ดังนั้นกลไกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้ไวขึ้นก็คือ "สมอง" 🧠 งานนี้เมื่อเจ้าของแบรนด์ยิ่งคุณรู้พฤติกรรมของลูกค้าและปรับปรุงร้านให้ตอบโจทย์ ก็จะมีโอกาสเพิ่มยอดขาย
ซึ่งการศึกษาการตลาดร่วมกับประสาทวิทยา จึงก่อให้เกิด "Neuromarketing" ที่เจ้าของแบรนด์จะเข้าใจเบื้องหลังการตัดสินใจของมนุษย์ โดยต้องอาศัยสิ่งเร้าที่ส่งผลต่อสมองส่วน Reptilian Brain หรือสมองส่วนสัญชาตญาณให้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสนใจ จดจำได้ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว
ซึ่งสิ่งเร้าที่ส่งผลกับผู้บริโภค คือ

🧠 สิ่งที่จำง่าย - เพราะสมองของมนุษย์ไม่ชอบความซับซ้อน เพราะฉะนั้นคอนเทนต์ที่ดี จะต้องเข้าใจง่าย ลูกค้าจะได้ให้ความสนใจ และจดจำได้มากที่สุด

🧠 สิ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์ - เพราะมนุษย์หลายๆ คนมักจะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจซื้อมากกว่าเหตุผล เพราะฉะนั้นแบรนด์ต้องกระตุ้นอารมณ์ จึงทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วจากการที่ร่างกายหลั่งสารและฮอร์โมนออกมา

🧠 สิ่งเร้าที่เกี่ยวกับตัวเอง - เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์รู้สึกว่ากำลังจะได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดสัญชาตญาณการเอาตัวรอด จึงมักแสดงพฤติกรรมสนใจในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเองก่อนเสมอ จึงทำให้เกิดคอนเทนต์ที่ลูกค้าจะอินไปกับเรื่องราว เพื่อทำให้อยากลองหาซื้อสินค้ามาใช้บ้างนั่นเอง
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom






12/06/2024



UPDATE: ธุรกิจต้องระวัง ‘การใช้จ่าย’ กับ ‘ทัศนคติ’ และต้องสร้างฉากทัศน์ใหม่รับมือความเปลี่ยนแปลงยุค Digital Transformation
ประเทศไทยวันนี้ก้าวสู่ Digital Transformation ที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวหรือเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึง ‘คนทำงาน’ ที่ต้องเติมทักษะเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง
.
แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวในงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 ‘Creative Generation’ บนเวที Business Next Chapter: Secret to define the present and design the future โดยพูดถึงฉากทัศน์ต่อไปของทุกธุรกิจที่ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงว่า “เศรษฐกิจในประเทศไทยน่าเป็นห่วง สิ่งที่คนทำธุรกิจต้องสนใจในวันนี้คือการปรับตัวด้านดิจิทัล”
ความเปลี่ยนแปลงนี้ยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อเราเห็นว่า Generative AI พัฒนาไปถึงระดับสูงที่สามารถเลียนแบบกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ โดยในแง่มุมหนึ่งทำให้ ‘คน’ ทำงานได้ง่าย อย่างเช่นในกรณีของบริษัท Krungsri ที่มีทีม Krungsri AI สำหรับใช้ตอบคำถาม ทำให้ไม่ต้องเพิ่มพนักงานฝ่าย Call Center มาหลายปีติดต่อกันแล้ว เพราะใช้ AI ช่วยตอบ แต่พร้อมกันนี้ บริษัทก็นำคนของตัวเองมาอัปเกรดทักษะให้กลายเป็น Trainer Bot หรือเป็น Prompt Engineer
.
“ทั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจยังคงอยู่ในจุดที่ยังแข่งขันได้ดี ผู้ประกอบการจะต้องโฟกัสงานอย่างใดอย่างหนึ่งแทนที่จะทำหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งจะทำงานได้ดีกว่านี้ แล้วถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ออกไปทำอย่างอื่นได้ ค่อยๆ ทำไป แต่อย่าจับงานหลายงานพร้อมกัน เลยอยากจะเน้นย้ำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ SME หรือ Start-up ควรจะต้องโฟกัสในเรื่องของการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้เต็มที่ และยังต้องให้ความสนใจในพื้นฐานของประเทศ เพราะตอนนี้ไทยก้าวสู่ Digital Transformation ถ้าเรายังไม่ปรับ พื้นฐานไม่แน่น อีกไม่นานประเทศเราจะรั้งท้ายแน่นอน ดังนั้นแล้วผู้ประกอบการจึงต้องทำ ‘Next Chapter’ หรือค้นหาฉากทัศน์ใหม่ให้กับธุรกิจ พร้อมกับการ Reskill พนักงาน เพื่อปรับแนวทางให้กับธุรกิจ” แซมกล่าว
.
นอกจากนี้ สิ่งที่แซมมองว่าต้องระวังเพิ่มเติมในการทำธุรกิจ ณ ตอนนี้คือเรื่องของค่าใช้จ่าย เพราะคนไทยเป็นหนี้เยอะมาก แม้ว่าธุรกิจวางแผนมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังต้องควบคุมให้ดีเพื่อป้องกันการใช้เกินตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังไม่ว่าจะส่วนตัวหรือธุรกิจ ในขณะเดียวกันประเด็นเรื่อง ‘ทัศนคติ’ คืออีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนควรตระหนักไว้ ข้อสำคัญคือต้องเป็นคนที่มีทัศนคติเปิดกว้าง เพื่อให้มองเห็นและเข้าใจปัญหาได้อย่างชัดเจน
.
สุดท้าย แซมฝากแนวคิดให้กับผู้ประกอบการที่คิดจะวางแผนอนาคตให้กับธุรกิจของตัวเองว่า ธุรกิจจะต้องมี 3P คือ
P1 - People เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดในองค์กร ต้องให้ความสำคัญกับคน ให้โอกาสเติบโต เพราะไม่มีใครทำงานคนเดียวได้ ถ้าไม่มีผู้คนรอบข้างที่ดี
P2 - Planet ตรวจสอบและประเมินผลกระทบของการดำเนินงานขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องมองให้ไกลกว่าเดิม เพื่อสังคม เพื่อโลก
P3 - Profit หนึ่งสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจคือการไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว ผู้ประกอบการต้องดูกระแสเงินสดให้ดี ถึงแม้ว่าธุรกิจในช่วงแรกๆ จะต้องเจอกับภาวะกระแสเงินสดติดลบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมาจนเป็นบวกได้ แสดงว่าธุรกิจมาถูกทางแล้ว
“ถ้าผู้ประกอบการทำ 3 อย่างนี้ได้ รับรองว่าธุรกิจ Start-up ก้าวขึ้นไปเป็น Unicorn ได้แน่นอน” แซมกล่าวทิ้งท้าย
.

Thank you for having us!!
11/06/2024

Thank you for having us!!


09/06/2024


หากพูดถึงเทศกาลดนตรีระดับโลกหนึ่งนั้นต้องมีชื่อ ‘Rolling Loud’ เพราะถือเป็นเทศกาลดนตรีชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา จัดมาแล้วกว่า 9 ครั้ง มีสเกลงานขนาดใหญ่ คนเข้าร่วมราวๆ 100,000 คน หรือเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่ามีขนาดพอๆ กับ เทศดาลดนตรีชื่อดัง ‘Coachella’ เลยทีเดียว
ที่น่าสนใจคือ ในปีที่ผ่านมา (ปี 2023) มีผู้ปลุกปั้นให้เกิดเทศกาลดนตรี ‘Rolling Loud Thailand’ ขึ้น ด้วยบัตรราคา 10,000 บาท มีผู้เข้าร่วมราวๆ 100,000 คนเทียบเท่าสเกลงานที่อเมริกา
ทั้งนี้และทั้งนั้น Rolling Loud Thailand ครั้งแรก ลงทุนไป 1,000 ล้านบาท แต่ ‘ขาดทุน’
[ เทศกาลดนตรีระดับโลก ไทยเราก็ทำได้ ]
‘ศิรวัฒน์ เทพเจริญ’ CEO More Money Entertainment เล่าให้ฟังว่า ตัวเองได้บินไปดู Rolling Loud ที่ Miami และมองว่าประเทศไทยเราก็มีศักยภาพในการจะจัดเทศกาลดนตรีระดับโลกเช่นกัน จึงขอดีลมาจัดที่ไทย
โดยโจทย์ที่ผู้จัด Rolling Loud อเมริกาให้มาในตอนนั้นคือ หากอยากจะจัด Rolling Loud Thailand จะต้องมีพื้นที่ที่ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร แต่ต้องไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากเกินไปเช่นกัน และต้องเป็นพื้นที่ที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถไปท่องเที่ยวต่อได้
‘ดร.วาสนา อินทะแสง’ Executive Committee More Money Entertainment เล่าเสริมว่า ในตอนนั้นจึงเลือก ‘พัทยา’ เพราะไม่ไกลกรุงเทพจนเกินไป ผู้เข้าร่วมงานสามารถไปท่องเที่ยวต่อได้
เมื่อ ‘พัทยา’ ถูกเลือกให้เป็น Rolling Loud Thailand แล้วงานทั้งหมดก็เกิดขึ้นที่ ‘Legend Siam’ โดยหลังจากนั้นทางผู้จัดประเทศไทยต้องมาเตรียมตัวในเรื่องอื่นๆ ต่อ
ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของไลน์อัพที่จะต้องดึงศิลปินระดับโลกมาประเทศไทย อาทิ Cardi B, Travis Scott และความปลอดภัยที่ต้องใช้การ์ดจากอเมริกา การปฐมพยาบาลที่ต้องได้รับมาตรฐานเดียวกับอเมริกาเช่นกัน
[ ลูกค้าคือกลุ่มคนพรีเมี่ยม มีกำลังจ่าย ]
โดยกลุ่มลูกค้าหลักของเทศกาลคือ กลุ่มคนพรีเมี่ยม เพราะด้วยบัตรราคา 10,000 บาทขึ้นไป ราคาบัตร VIP ที่ราคา 25,000 บาทขึ้นไป ทำให้ในปีแรกมีผู้เข้าร่วมที่เป็นคนไทยเพียง 20% เท่านั้น ที่เหลือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่บินมา
[ จัดเวทีให้ Travis Scott 45 นาที 15 ล้านบาท ]
ในการจัดเทศกาลเฟสติวัลสเกลระดับโลกให้เกิดขึ้นได้นั้น สอนให้รู้ว่าทุกๆ ส่วนมีความสำคัญ ต้องละเอียดและใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนเวทีของ Travis Scott ที่ใช้เวลานานถึง 45 นาทีและจัดเวทีใหม่ด้วยงบราวๆ 15 ล้านบาท
ที่สำคัญเลยคือ โปรดักชั่นในงานต้องทำถึง ทำเว่อร์ ทำให้ได้มาตรฐานเดียวกับอเมริกา
โดยบทสรุปของเทศกาลดนตรีในปีแรกนั้นเปรียบเสมือนปีแห่ง ‘ประสบการณ์’ เพราะทุกๆ อย่างยังใหม่ แต่สะท้อนได้ว่า ‘ไทย’ เรามีประสิทธิภาพพอที่จะจัดงานเทศกาลดนตรีระดับโลก
[ ปีนี้ Rolling Loud Thailand มาตรฐานระดับโลกเหมือนเดิม แต่ดีกว่าเดิม ]
สำหรับในปีนี้ Rolling Loud Thailand จะจัดขึ้นในวันที่ 22-23 พ.ย. โดยที่สเกลงานยังคงใหญ่และได้รับมาตรฐานเหมือนเดิมอีกทั้งยังพยายามดึงเทคโนโลยีมาช่วยให้งานเทศกาลดำเนินไปได้ดีขึ้น
รวมถึงปีนี้จะสอดแทรก Soft Power ให้ต่างชาติได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้นผ่าน วัฒนธรรม อาหาร รถตุ๊กๆ และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งตอนนี้บัตรรอบแรกขายหมดแล้ว โซน Loud Club มูลค่า 2.5 ล้านบาทก็ขายเกลี้ยงแล้ว รวมถึงคนไทยเข้ามาซื้อบัตรเพิ่มขึ้น 38%
[ 4 ความคาดหวังดันไทยเป็น HUB เทศกาลดนตรี ]
‘ดร.วาสนา อินทะแสง’ เล่าถึง 4 ความคาดหวังหลักของ Rolling Loud Thailand ในปีนี้ไว้ว่า
1.) อยากให้คนทั่วโลกได้รู้ว่าคนไทยก็สามารถจัดเทศกาลดนตรีระดับโลกได้
2.) เทศกาลในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในทุกๆ ภาคอุตสาหกรรม
3.) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อธุรกิจระดับโลกเข้าสู่ไทยมากขึ้น
4.) ทำให้ศิลปินไทยมีชื่อเสียงในสายตาคนทั่วโลก
นอกจากนี้ ทางผู้จัดมุ่งหวังว่าเทศกาล Rolling Loud Thailand จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ประเทศไทยเป็น HUB เทศกาลดนตรีระดับเอเชียได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลทุกภาคส่วนต้องร่วมด้วยช่วยกัน ผลักดันให้ประเทศไทยไปสู่เทศกาลดนตรีระดับเอเชียให้ได้



ทำไมจ่ายด้วยเงินสด เจ็บปวดกว่ารูดบัตรเครดิต ?มีใครเคยรู้สึกหรือไม่ ? ว่าเวลาไปซื้อของแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต ความรู้สึกแต...
07/06/2024

ทำไมจ่ายด้วยเงินสด เจ็บปวดกว่ารูดบัตรเครดิต ?

มีใครเคยรู้สึกหรือไม่ ? ว่าเวลาไปซื้อของแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต ความรู้สึกแตกต่างจากการจ่ายด้วยเงินสด เพราะเวลาต้องควักเงินสดออกจากกระเป๋าทีไร ปวดใจแปล๊บๆ ทุกที ต่างจากการรูดบัตรเครดิตทั้งๆ ที่เป็นเงินมูลค่าเท่ากัน
ในทางเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม มีคำอธิบายเรื่องความรู้สึกเจ็บปวดจากการจ่าย (Pain of Paying) ว่า ความรู้สึกด้านลบ ความเจ็บปวด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ได้แก่
(1) ระยะเวลาที่ต้องชำระเงิน ยิ่งสั้น ยิ่งเจ็บปวด
(2) ประสบการณ์ตอนชำระเงิน ยิ่งชัดเจน ยิ่งเจ็บปวด

ซึ่งการชำระเงินแบบ "เงินสด" จะเจ็บปวดมากที่สุด เพราะทั้งระยะเวลาการชำระเงิน ที่ต้องจ่ายเดี๋ยวนั้น ประกอบกับประสบการณ์ตอนชำระเงินที่ต้องควักเงินออกจากกระเป๋าทันที ต่างจากการจ่ายผ่านบัตรเครดิต ที่มีระยะเวลาการชำระเงินที่ยาวกว่า เพราะนับเป็น "รอบบิล" และตอนนี้สินค้าบางอย่างถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิต อาจมีโปรโมชั่นผ่อนได้ ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการจ่ายออกไปได้ โดยที่ลูกค้าไม่ได้รู้สึกว่าสูญเสียอะไรไป จึงทำให้ในปัจจุบันร้านค้าหลายๆ ร้านมีช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อจ่ายด้วยเงินสด และยังเป็นการกระตุ้นยอดขาย เพราะลูกค้าได้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นนั่นเอง

แล้วคุณล่ะ ชอบจ่ายเงินสด 💸 หรือ บัตรเครดิต 💳 มากกว่ากัน ?
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




BCG Matrix เครื่องมือวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจ ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สิ่งที่สำคัญคือการที่แบรนด์นั้นรู...
06/06/2024

BCG Matrix เครื่องมือวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจ

ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สิ่งที่สำคัญคือการที่แบรนด์นั้นรู้ว่าสินค้าของตัวเองนั้นอยู่ที่ระดับไหนในท้องตลาด เพราะหากรู้จุดยืนก็จะทำให้การใช้กลยุทธ์เข้ามาช่วยส่งเสริมแบรนด์ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในปัจจุบันเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ได้ว่าสินค้าอยู่ที่ระดับไหน คือ "BCG Matrix" ซึ่งสร้างขึ้นโดย Boston Consulting Group ที่จะแสดงความแข็งแกร่งของสินค้า เมื่อเทียบกับของคู่แข่งในอุตสาหกรรม โดยตาราง Framework นี้จะแบ่งออกเป็นสองแกนคือ แกน X (แนวนอน) ตัวชี้วัดส่วนแบ่งตลาด (Market Share) และ แกน Y (แนวตั้ง) ตัวชี้วัดอัตราการเติบโตของตลาด ซึ่งประกอบไปด้วยตาราง 4 ช่อง

⭕ Stars [มุมซ้ายบน] หมายถึง อัตราการเติบโตสูง ส่วนแบ่งการตลาดสูง เป็นดาวเด่น ควรลงทุนในการโปรโมตสินค้าและติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดต่อไป เนื่องจากมีศักยภาพสูง

⭕ Question Marks [มุมขวาบน] หมายถึง อัตราการเติบโตสูง ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ กำไรน้อย ใช้เงินลงทุนสูง แต่มีโอกาสในการเติบโต ต้องเลือกว่าจะลงทุนต่อเพื่อให้กลายเป็น Star หรือจะทิ้งไปเลย

⭕ Cash Cows [มุมซ้ายล่าง] หมายถึง อัตราการเติบโตต่ำ แต่ส่วนแบ่งการตลาดสูง ยังทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ สามารถขายได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มมาก เพราะตลาดนั้นโตช้าและการแข่งขันนั้นไม่สูงเหมือนกลุ่ม Star

⭕ Pet or Dog [มุมขวาล่าง] หมายถึง อัตราการเติบโตต่ำ ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ เมื่อเทียบกับตลาดทั้งหมด ส่วนใหญ่กลุ่มนี้มักจะต้องปรับปรุง ฉะนั้นกลยุทธ์ที่ควรนำมาใช้ คือ การรีแบรนด์ หรือเลิกกิจการทิ้งไปเลย

แม้ว่า BCG Matrix จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่ช่วยในการวิเคราะห์กลยุทธ์ให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ เพิ่มโอกาสในการเติบโตและสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้ แต่ในท้ายที่สุดธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงควรประเมินเป็นประจำ เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทัน แม่นยำมากขึ้น
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom





04/06/2024

Session: How to Do Global Business Locally: เมื่อต้องทำงานระดับโลกในไทย ถอดบทเรียน Rolling Loud Thailand เทศกาลดนตรีฮิปฮอปจากอเมริกา
โดยคุณศิรวัฒน์ เทพเจริญ CEO at More Money Entertainment และ ดร.วาสนา อินทะแสง Executive Committee at More Money Entertainment
🌎 ใครว่าศักยภาพคนไทยไม่เจ๋งพอ หนึ่งในธุรกิจที่แฟน ๆ ต่างรอคอยให้เกิดขึ้น ‘Rolling Loud Thailand’ เทศกาลดนตรีฮิปฮอประดับโลก Session จะชวนพูดคุยเบื้องหลังที่ไม่เคยเผยที่ไหนมาก่อน ใครเป็นแฟนตัวยง หรือสนใจการทำธุรกิจระดับโลก ต้องไม่พลาด!
Session นี้เราจะมาคุยเรื่อง…
👉 การทำงานในระดับ Global มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องเตรียมความพร้อม และแตกต่างจากการทำธุรกิจในประเทศอย่างไร
👉 เจาะลึกแนวคิด และวิธีการทำงานจากผู้จัดงาน Rolling Loud Thailand
👉 อะไรคือโอกาสของการทำธุรกิจสาย Entertainment มี Opportunity เกิดใหม่ และความท้าทายอะไรบ้าง
งาน AP Thailand presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 “Creative Generation” นี่คืองานที่จะพาทุกคนมาปลดล็อกทักษะความคิดสร้างสรรค์ไปด้วยกัน ทั้งในแง่ของการทำธุรกิจ, การพัฒนาตนเอง และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้าง Creative Economy ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
ซื้อบัตรได้ที่: https://bit.ly/3UM5Vv8
🌟 ในราคาเพียง 1,890 บาท
*ราคานี้ยังไม่รวม vat 7%
ราคานี้เหลือบัตรอีกไม่มากแล้ว!
เตรียมพบกันที่ CREATIVE TALK CONFERENCE 2024
📍 วันที่ 7-8 มิถุนายน 2024
📍 BITEC

Brand Communication ขอร่วมเฉลิมฉลอง "Pride Month" 🏳️‍🌈✨ "เดือนแห่งความเท่าเทียม" ความเฟื่องฟูทางด้านสิทธิและวัฒนธรรมของก...
04/06/2024

Brand Communication ขอร่วมเฉลิมฉลอง "Pride Month" 🏳️‍🌈✨ "เดือนแห่งความเท่าเทียม" ความเฟื่องฟูทางด้านสิทธิและวัฒนธรรมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อสนับสนุนและช่วยกันขับเคลื่อนความเท่าเทียมให้กับทุกคน

#โชคดีที่เจอBrandCom








04/06/2024

คลื่นวิทยุ Flex 104.5 เสิร์ฟความสำเร็จปีที่ 3 กับ Flex Aqua Fest 2024 เทศกาลดนตรีสุดชุ่มฉ่ำแห่งปี

.5

 #การตลาดวันละตอน
01/06/2024

#การตลาดวันละตอน

Data Research Insight ระนอง มาทำอะไร กินอะไร เดินทางมาแบบใด ชอบเที่ยวแบบไหน พักผ่อนกันยังไง มากับใคร พักกี่วัน ของฝากยอด...

ตอกย้ำเป็นผู้นำ! "ไทย สพิริท อินดัสทรี" โชว์ศักยภาพพร้อมขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ในงาน THAIFEX - ANUGA ASIA ...
31/05/2024

ตอกย้ำเป็นผู้นำ! "ไทย สพิริท อินดัสทรี" โชว์ศักยภาพพร้อมขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ในงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2024


"บริษัท ไทย สพิริท อินด

DIGITAL MARKETING ทรงพลังSTRATEGY PLAN สุดปังPR - Event ปั้นแบรนด์ให้ดังต้อง Brand Communication เท่านั้น!!We make every...
30/05/2024

DIGITAL MARKETING ทรงพลัง
STRATEGY PLAN สุดปัง
PR - Event ปั้นแบรนด์ให้ดัง
ต้อง Brand Communication เท่านั้น!!
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




โลกกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ดังนั้นการทำตลาดจึงต้องปรับตัวให้ทัน โดยเฉพาะปัจจุบัน ท...
30/05/2024

โลกกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ดังนั้นการทำตลาดจึงต้องปรับตัวให้ทัน โดยเฉพาะปัจจุบัน ที่ว่ากันว่าเป็นโลกของ “Metaverse” ทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกออนไลน์กับออฟไลน์ลดน้อยลง
ผศ. ดร.เอกก์ ภทรธนกุล เล่าบนเวทีในงาน "Digital SME Conference Thailand 2023" ว่า การตลาดยุคต่อไป กำลังเข้าสู่ยุค Marketing 6.0 จะไม่มีเส้นแบ่งระหว่างการซื้อสินค้าออนไลน์หรือออฟไลน์อีกต่อไป เป็นการพัฒนาจาก
📍Marketing 1.0 – Product Centric เน้นสินค้า เชื่อว่า “สินค้าดี ยังไงก็ขายได้”
📍Marketing 2.0 – Customer Centric มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผลิตตามความชอบของลูกค้า
📍Marketing 3.0 – Human Centric ทำธุรกิจโดยมีจริยธรรมและ ตอบแทนสังคม ให้ความสำคัญกับความเป็น “มนุษย์”
📍Marketing 4.0 – Traditional to Digital เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า
📍Marketing 5.0 – Technology for Humanity มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำตลาด (MarTech) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
ต่อจากนี้คนที่มีกำลังซื้อมากที่สุด จะเป็นคน Gen Z และ Gen Alpha โดยมีอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนเป็นเพื่อน โดยไม่มีการแบ่งกิจกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ที่สัมผัสได้จริง เพราะทั้งสองโลกคือโลกเดียวกัน
นอกจากนี้ยังสร้างประสบการณ์ที่เรียกว่า “Immersive” ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีโลกเสมือน มาช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ามากยิ่ง เป็นการนำเทคโนโลยีในยุคใหม่ ๆ เช่น เทคโนโลยี AR, VR มารวมกัน เพื่อผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยยังมีผลสำรวจอีกว่า การทำ “Immersive Marketing” สามารถสร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่ม Brand Loyalty ได้จริง ๆ
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom






#นักการตลาด
#การตลาดใหม่

คลื่นวิทยุ Flex 104.5 เสิร์ฟความสำเร็จปีที่ 3กับ Flex Aqua Fest 2024 เทศกาลดนตรีสุดชุ่มฉ่ำแห่งปี
29/05/2024

คลื่นวิทยุ Flex 104.5 เสิร์ฟความสำเร็จปีที่ 3
กับ Flex Aqua Fest 2024 เทศกาลดนตรีสุดชุ่มฉ่ำแห่งปี



‘รอยัล เกทเวย์’ บุกตลาดน้ำอัดลม ไม่มีน้ำตาล ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘โอเกะ-โอเกะ’
29/05/2024

‘รอยัล เกทเวย์’ บุกตลาดน้ำอัดลม ไม่มีน้ำตาล ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘โอเกะ-โอเกะ’



"โอเกะ-โอเกะ" ผลิตภัณฑ์ใหม่จากรอยัล เกทเวย์ Exclusive Launch กับโลตัส บุกตลาดน้ำอัดลม ‘No Sugar’ ซ่าส์ คาวาอิเดส
บริษัท รอยัล เกทเวย์ ประเทศไทย จำกัด จับมือ Lotus's สร้างสรรค์เครื่องดื่ม “โอเกะ-โอเกะ (OKE OKE)” เครื่องดื่มอัดลม ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี่ สไตล์ญี่ปุ่นเพื่อเป็นเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ ได้ทั้งความซ่า ความอร่อย ดีต่อสุขภาพ ไม่มีนํ้าตาล ไม่มีแคลอรี่ เหมาะสําหรับอากาศประเทศไทย ช่วยให้สดชื่นตลอดวัน และ Connect กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยความสดใสน่ารักสไตล์ญี่ปุ่นของผลิตภัณฑ์
“โอเกะ-โอเกะ (OKE OKE)” มาพร้อมกับกลยุทธ์การวางแผนที่จะรุกทำตลาดอิงกระแส “Healthy Lifestyle is Trend” ด้วยการเป็นเครื่องดื่มไม่มีนํ้าตาล ไม่มีแคลอรี่ ชูสินค้าด้วยภาพลักษณ์ความน่ารัก คาวาอิ กับกลยุทธ์โอกาสทางการขาย Branding & Straight Point ที่สื่อสารผ่าน Packaging เป็นเครื่องดื่มที่ “อร่อยได้ ในสไตล์ญี่ปุ่น”
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย Gen Z และผลิตภัณฑ์ยังได้รับสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ มีทั้งหมด 4 รสชาติความอร่อย Lemon Tea Soda มาพร้อมกลิ่นของใบชาญี่ปุ่น ผสมเลมอน เปรี้ยวอมหวานอย่างลงตัว Lychee Soda กลิ่นหอมลิ้นจี่ กับรสชาติละมุน หวานซ่อนเปรี้ยว Muscat Grape Soda กลิ่นหอมองุ่นมัสแคท หวานฉ่ำ อมเปรี้ยวเล็กน้อย และ Peach Soda กลิ่นหอม หวานละมุน ได้รสชาติพีชแบบเต็มๆ
อีกหนึ่งความ Exclusive สุดๆ ของ OKE OKE คือแบรนด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับศิลปินวัยรุ่นอย่าง NINEW หรือ คุณศุภฤกษ์ บุณยานันต์ สังกัดค่าย “marr (มาร์)” ที่เข้ามารับหน้าที่ Product Co-Creator ร่วมสร้างสรรค์กับแบรนด์ ตั้งแต่การร่วมพัฒนาแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงรสชาติของเครื่องดื่ม ตลอดจนแนวทางการสื่อสารเพื่อ Connect กับกลุ่มเป้าหมาย
ในขณะที่ “คุณพงกานต์ จันทร์กระจ่าง” (ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์และสื่อสารแบรนด์ บริษัท รอยัล เกทเวย์ จำกัดประเทศไทย) เผยว่า “ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบัน Healthy Lifestyle ทําให้คนรุ่นใหม่ หันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น สังเกตได้จากผลิตภัณฑ์หลากหลายออกมาตอบโจทย์กลุ่ม Healthy Lifestyle มากขึ้น รวมไปถึงเทรนด์การดื่มเครื่องดื่มนํ้าผลไม้แบบซ่า แต่ไร้น้ำตาล ไร้แคลอรี่ และอร่อย หากนับเฉพาะตลาดน้ำอัดลมไทยมูลค่าถึง 56,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเทรนด์รักสุขภาพ ทำให้กลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย และคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 30% ในปีที่ผ่านมาในตลาดน้ำอัดลมภาพรวม ผมมั่นใจว่าเครื่องดื่ม โอเกะ-โอเกะ (OKE OKE) จะมัดใจกลุ่ม GenZ ที่เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมพร้อมเปิดรับสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา และสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดจากกลุ่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลได้”
ด้าน NINEW ศิลปินมากความสามารถเจ้าของเพลงฮิตค่าย “marr (มาร์)” เสริมว่า “ผมดีใจและยินดีมากๆ ที่ได้มีส่วนร่วมเข้ามารับหน้าที่ Co-Creator ร่วมสร้างสรรค์กับแบรนด์ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งผมมีความชื่นชอบและถนัดอยู่แล้ว โดยรสชาติของ “โอเกะ-โอเกะ (OKE OKE)” บอกเลยว่าถูกใจมากๆ อร่อยและไม่ทำลายสุขภาพ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น เหมาะกับฤดูร้อน เชื่อว่าทุกคนจะชอบเหมือนผมนะครับ”
สัมผัสความสนุกซ่าส์ คาวาอิเดส อร่อยได้ สไตล์ญี่ปุ่น กับ “โอเกะ-โอเกะ (OKE OKE)” ทั้ง 4 รสชาติ พร้อมวางจำหน่ายแล้วแบบ Exclusive ที่ Lotus’s ทุกสาขาทั่วประเทศ ที่เดียวเท่านั้น!

THE STANDARD LIFE Mardi Craft x Samlor เมื่อคราฟต์เบียร์ไทยเจอกับสตรีทฟู้ดไทย
29/05/2024

THE STANDARD LIFE
Mardi Craft x Samlor เมื่อคราฟต์เบียร์ไทยเจอกับสตรีทฟู้ดไทย


เฉลิมฉลองให้แก่ความสำเร็จตลอดมา ปีนี้ Mardi Craft จับมือกับ Samlor (สามล้อ) ร้านอาหารไทยแนวสตรีทฟู้ดชื่อดังย่านเจริญ.....

24/05/2024

The Next CEO โปรเจกต์ทรงค่า ส่งเสริมอุตสาหกรรม

เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ทำบางอย่างได้ดีขึ้นเมื่อมีความรู้สึกกดดัน ตามกฏของ "Yerkes–Dodson Law" ซึ่งได้มีนักจิตวิทยาชื่อ "...
24/05/2024

เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ทำบางอย่างได้ดีขึ้นเมื่อมีความรู้สึกกดดัน ตามกฏของ "Yerkes–Dodson Law" ซึ่งได้มีนักจิตวิทยาชื่อ "โรเบิร์ต เยิร์กส์" และ "จอห์น ด็อดสัน" ทำงานวิจัยร่วมกัน จนเกิดเป็น "Yerkes–Dodson Law" และกราฟ "Arousal-performance" ออกมา
ซึ่งผลลัพธ์ของระดับแรงกระตุ้นหรือความเครียดที่แตกต่างกัน จะมีผลต่อประสิทธิภาพของการตอบสนองที่สิ่งเร้า โดยระดับของประสิทธิภาพการตอบสนองจะเพิ่มขึ้นตามระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้น นั่นอาจเป็นเหตุผลที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมในช่วง Deadline มักจะทำงานเสร็จทันอยู่เสมอ เพราะเกิดแรงกระตุ้น แรงกดดัน คล้ายกับการทำการตลาด ที่จะมีแรงจูงใจมากเพียงพอในการซื้อซ้ำ จากการได้รับสิ่งเร้า
และประเด็นสำคัญของกฎดังกล่าวคือ ระดับแรงกระตุ้นที่เหมาะสมต่องานแต่ละชนิดมีระดับแตกต่างกัน โดยหากเครียดมากเกินไป จะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เพราะฉะนั้นเราต้องมีแรงกระตุ้นเพื่อให้ทำงานได้อย่างสำเร็จ
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom




การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคนั้น เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ จึงทำให้เกิดเทคนิคการตลาด "Neuromarketing" มาจากคำว่า "Neuro...
23/05/2024

การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคนั้น เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ จึงทำให้เกิดเทคนิคการตลาด "Neuromarketing" มาจากคำว่า "Neuroscience" ที่หมายถึง ประสาทวิทยา
บวกกับคำว่า "Marketing" หรือการตลาด ที่ใช้เรื่องของประสาทวิทยา เข้ามาช่วยทำการวิเคราะห์ ดึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลกับการทำงานของสมอง เป็นเหมือนกับการ "รู้ใจ" ลูกค้าของเรานั่นเอง
หลักการของ Neuromarketing เริ่มจากความเข้าใจในสมองของมนุษย์ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลัก
- Neocortex เรื่องของตรรกะและเหตุผล เป็นส่วนที่ใช้คิด วิเคราะห์
- Limbic Brain เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามสารเคมีที่สมองส่วนนี้ปล่อยออกมาสู่ร่างกาย
- Reptilian Brain สัญชาตญาณการเอาตัวรอดและจิตใต้สำนึก ตอบสนองตามอารมณ์และความรู้สึกเป็นหลัก
โดยหลัก ๆ แล้วการใช้ Neuromarketing จะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ การใช้ภาพจำ ปฏิกิริยาที่ส่งผลต่อคลื่นสมอง ประสาทสัมผัสของมนุษย์ อารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งการใช้ Neuromarketing ในกิจกรรมทางการตลาด ก็มีทั้ง
การใช้ตัวหนังสือ (Font) เพื่อกระตุ้นให้เกิด action - โดยใช้ตัวหนังสือที่อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะจะกระตุ้นให้เกิด action ได้มากกว่า แต่ทั้งนี้การใช้ตัวหนังสือที่ดูซับซ้อน ก็อาจจะทำให้ดูแตกต่าง เกิดการจดจำ ดึงดูดสายตาได้ดี เพียงแต่ไม่ควรซับซ้อนจนอ่านไม่ออก และไม่ควรนำไปใช้กับโลโก้หรือสโลแกน
การออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้า - ตัวหนังสือและภาพบนบรรจุภัณฑ์ ควรเป็นภาพดึงดูดสายตาและรู้สึกว่าภาพดูมีชีวิตชีวา น่าหยิบจับเป็นเจ้าของ
เรียกว่า Neuromarketing สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคได้อย่างมาก เพราะเมื่อใดที่เข้าใจจิตวิทยาและพฤติกรรมผู้บริโภค ก็จะสามารถสร้างแคมเปญที่โดนใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
We make everyone on “TOP” of the newsfeed
กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา
www.brandcom.co.th

#โชคดีที่เจอBrandCom







ที่อยู่

343/347 Prasert-Manukitch Road, Nawamin
Bangkok
10230

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 19:00
อังคาร 10:00 - 19:00
พุธ 10:00 - 19:00
พฤหัสบดี 10:00 - 19:00
ศุกร์ 10:00 - 19:00

เบอร์โทรศัพท์

+66996245454

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Brand Communicationผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Brand Communication:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Brand Communication

Your Branding & Communication Advisor and True Partnership

Email: [email protected]

Line: @brandcommunication

www.brandcom.co.th

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


ครีเอเตอร์ดิจิทัล อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด

คุณอาจจะชอบ