มูลนิธิหมอชาวบ้าน

มูลนิธิหมอชาวบ้าน มูลนิธิหมอชาวบ้าน

มูลนิธิหมอชาวบ้าน เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ดำเนินกิจกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชน มาเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี โดยเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ เว็ปไซค์ การอบรม ในเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพสังคม และสุขภาพทางปัญญา เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในการดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างยั่งยืน

23/01/2025

ผิวใส...ได้สุขภาพดีด้วยตำลึง

ทำอย่างไรไม่ให้ลูกขาดธาตุเหล็กภาวะการขาดธาตุเหล็ก คือ ภาวะที่ธาตุเหล็กในร่างกายไม่เพียงพอในการทำงานของกระบวนการต่างๆ ของ...
23/01/2025

ทำอย่างไรไม่ให้ลูกขาดธาตุเหล็ก
ภาวะการขาดธาตุเหล็ก คือ ภาวะที่ธาตุเหล็กในร่างกายไม่เพียงพอในการทำงานของกระบวนการต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ การพัฒนาของสมอง การสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของเยื่อบุทางเดินอาหาร การทำงานของกล้ามเนื้อ เป็นต้น
การขาดธาตุเหล็กจะส่งผลอย่างไรแก่ลูกได้บ้าง
ผู้ที่ขาดธาตุเหล็กส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ แต่กลุ่มที่ขาดในระดับรุนแรงพบว่ามีอาการซีด เม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็ก อ่อนเพลีย หงุดหงิด หัวใจเต้นเร็ว ความอยากอาหารลดลง บางคนมีพฤติกรรมการรับประทานที่ผิดปกติ เช่น รับประทานน้ำแข็งมาก รับประทานกระดาษ แป้ง ข้าวดิบ มีลิ้นเลี่ยน ลักษณะเล็บผิดปกติ นอกจากนี้ ภาวะขาดธาตุเหล็กยังส่งผลต่อการพัฒนาการของสมองและการเรียนรู้ของเด็กอีกด้วย
ความเสี่ยงในการเกิดภาวะการขาดธาตุเหล็กในเด็กและวัยรุ่น
- ความเสี่ยงในช่วงปริกำเนิดของการตั้งครรภ์ของมารดาจะส่งผลให้ทารกมีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายลดลง ได้แก่ มารดามีภาวะขาดธาตุเหล็ก ภาวะการคลอดก่อนกำหนด ภาวะครรภ์แฝดที่มีภาวะเลือดวิ่งถ่ายเทระหว่างทารกในครรภ์
- ช่วงภาวะที่ร่างกายต้องการธาตุเหล็กที่มากขึ้น ได้แก่ วัยทารก เด็กในวัยเรียน และช่วงวัยรุ่น
- ภาวะการขาดสารอาหาร ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ
- โรคบางอย่างส่งผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็กของลำไส้ เช่น มีประวัติการผ่าตัดกระเพาะอาหารออก หรือลำไส้เล็กส่วนต้นออก ลำไส้เล็กส่วนต้นอักเสบเรื้อรัง โรคที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมในการดูดซึมธาตุเหล็ก
- การมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ผู้ที่มีประจำเดือนมามาก
การป้องกันภาวการณ์ขาดธาตุเหล็ก สามารถป้องกันได้โดย
- เสริมธาตุเหล็กในเด็กกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ในทารกที่คลอดก่อนกำหนดหรือที่มีน้ำหนักตัวน้อยที่ได้รับนมแม่อย่างเดียว การเสริมยาธาตุเหล็กในปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน ตั้งแต่อายุ 1 เดือน จนได้รับอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กเพียงพอ ส่วนในเด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี พิจารณาเสริมธาตุเหล็กเฉพาะในรายที่ไม่ได้รับนมที่มีธาตุเหล็กเสริมหรือได้รับอาหารที่มีธาตุเหล็กน้อย
- เพิ่มอาหารที่มีธาตุเหล็กในเด็กกลุ่มเสี่ยง
- เสริมอาหารที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น วิตามิน ซี
- ป้องกันและรักษาการติดเชื้อพยาธิ
อาหารชนิดไหนบ้างที่มีธาตุเหล็กสูง
อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์เนื้อแดง ตับ เครื่องในสัตว์ เลือด ไข่แดง ผักใบเขียว เช่น ผักขม บรอกโคลี่ ตำลึง ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ

ที่มา : สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย

#พ่อแม่มือใหม่
#หมอชาวบ้าน

สมุนไพรแก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก1. บัวบก ใช้ต้นสด 1 กำมือ ตำให้ละเอียด พอกหรือทาบริเวณที่เป็นบ่อยๆ2. มะพร้าว น้ำมันมะพร้าว...
22/01/2025

สมุนไพรแก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
1. บัวบก ใช้ต้นสด 1 กำมือ ตำให้ละเอียด พอกหรือทาบริเวณที่เป็นบ่อยๆ
2. มะพร้าว น้ำมันมะพร้าว 1 ส่วน ใส่ในภาชนะ คนพร้อมๆ กับเติมน้ำปูนใส 1 ส่วน ทีละน้อยจนเข้ากันดี แล้วใช้ทาบ่อยๆ
3. ว่านหางจระเข้ ใช้วุ้นจากใบทาบ่อยๆ

#สุมนไพรใกล้ตัว
#หมอชาวบ้าน

อย่าทะนงตน คิดว่าเราเป็นคนดี
22/01/2025

อย่าทะนงตน คิดว่าเราเป็นคนดี

22/01/2025

🔴 LIVE จัดการ #แผลร้อนใน หยุดปัญหาในช่องปาก | พุธ 22 ม.ค. 68 เวลา 17.00 น.

1. รศ. พญ.อรวี ฉินทกานันท์ สาขาวิชาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม ภาควิชาสูติศาสตร์- นรีเวชวิทยา
2. ทพ.ภูมิพัฒน์ ลีชนะวานิชพันธุ์ ฝ่ายทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

🚩 #ลัดคิวหมอรามาฯ รายการที่คุณสามารถลัดคิวหมอ ไม่ต้องรอคิว พิมพ์คำถามในโพสต์ หรือ โทรสดในรายการ 📞 0-2354-7105 #โทรนะโทรเลย

🚩 ทุกวันจันทร์-พฤหัส เวลา 17.00 - 18.00 น.

---------
#รามาแชนแนล

ผลไม้ คลายร้อนในช่วงหน้าร้อนอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย แต่เราสามารถคลายร้อนได้ด้วยผักและผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เต็มไป...
22/01/2025

ผลไม้ คลายร้อน
ในช่วงหน้าร้อนอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย แต่เราสามารถคลายร้อนได้ด้วยผักและผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เต็มไปด้วยใยอาหาร และไม่ทำให้อ้วน ซึ่งผักและผลไม้หลายชนิดเป็นที่คุ้นเคยหรือกินกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะร้อนแค่ไหนก็สดชื่นได้ แถมมีประโยชน์อีกด้วย
- แตงกวา ช่วยลดความร้อนและทำให้ร่างกายสดชื่น
- แตงโมและแคนตาลูป มีส่วนประกอบของน้ำสูงถึงร้อยละ 95 สามารถทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเนื่องจากอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีส่วนผสมของน้ำเป็นส่วนประกอบและสารประกอบทางธรรมชาติช่วยลดการอักเสบจากการเผาไหม้ของแสงแดดในหน้าร้อน
- ผักโขม อุดมไปด้วยน้ำ เป็นแหล่งสะสมของแมกนีเซียม หนึ่งในแร่ธาตุที่สูญเสียไปพร้อมกับเหงื่อที่ถูกขับออกมา มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติช่วยปกป้องผิวและสายตาจากการถูกทำลายจากแสงแดด
- มะเขือเทศ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น วิตามินซีสูง ช่วยย่อยอาหารและช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันมะเร็งบางชนิด
- สะระแหน่ เป็นสมุนไพรเย็น ช่วยบรรเทาอาการหวัด ขับเหงื่อ ระบายความร้อน มีสารเมนทอลที่มีมีคุณสมบัติเย็นใช้ในการรักษาอาการอ่อนเพลีย และบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน

#หมอชาวบ้าน

5 อันดับ Soft Skills ที่วัยทำงานต้องมีSoft Skills เป็นทักษะที่ไม่ได้เน้นองค์ความรู้ แต่จะเน้นในเรื่องของความสามารถทางสัง...
22/01/2025

5 อันดับ Soft Skills ที่วัยทำงานต้องมี
Soft Skills เป็นทักษะที่ไม่ได้เน้นองค์ความรู้ แต่จะเน้นในเรื่องของความสามารถทางสังคม เช่น การบริหารจัดการคน การติดต่อสื่อสารกับทีม หรือการมีทัศนคติที่ดี เป็นต้น ซึ่ง Soft Skills นี่แหละ ที่กลายมาเป็นทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการเป็นอันดับต้นๆ ในอนาคต LinkedIn เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางสำหรับการสมัครงานได้เปิดเผย 5 อันดับ Soft Skills ที่วัยทำงานควรจะมี
1. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ทักษะนี้ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับคนทำงานศิลปะเท่านั้น แต่ความคิดสร้างสรรค์สามารถนำไปใช้ได้กับงานทุกสาขาวิชาชีพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผลงาน รวมถึงยังช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของเราได้อีกด้วย
2. ความสามารถในการโน้มน้าวใจ (Persuasion) ทักษะในการสื่อสารสำคัญมาก แม้หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่ทักษะในเชิงฝีมือหลายๆ ด้าน แต่หุ่นยนต์ก็ยังคงไม่สามารถสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจได้แบบมนุษย์ ซึ่งหลายครั้งต้องใช้ไหวพริบ ภาษากาย ที่มากไปกว่าภาษาพูด เพื่อโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อหรือเห็นด้วยกับเรา
3. การทำงานร่วมกัน (Collaboration) ความราบรื่นของทีมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนในทีมมีการทำงานที่สอดคล้องกัน มีทัศนคติที่ไปในทางเดียวกันที่ สำคัญคือคนในทีมต้องมีความเห็นอกเห็นใจและมีน้ำใจให้กับทีม ทักษะนี้จำเป็นอย่างยิ่งเพราะมันจะทำให้งานเกิดความราบรื่น และเกิดปัญหาน้อยลง
4. การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง (Adaptability) โลกยุคใหม่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วในทุกมิติ ทั้งวิถีชีวิต การทำงาน ทัศนคติ ค่านิยมรวมถึงเทคโนโลยีหลายๆ อย่าง ซึ่งการอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วนี้ เราควรจะต้องมีทักษะในการปรับตัวที่ดี เพื่อเราจะได้ตามโลกได้ทัน และเรียนรู้ไปกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
5. การจัดการเวลา (Time Management) วินัยและทักษะการบริหารเวลาเป็นเรื่องที่ไม่เคยตกยุค การจัดการเวลาของตัวเองคือความสำคัญอันดับต้นๆ ในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ คนที่สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและองค์กรได้มากกว่าอย่างแน่นอน

#หมอชาวบ้าน
#ฟรีแลนซ์
#หมอชาวบ้าน

ผัดผักเหลียงผักเหลียง เป็นผักเหนาะชนิดหนึ่งลักษณะใบเรียว ยาว ผิวใบเป็นมันเหลื่อม ดอกสีขาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีมากในจ...
22/01/2025

ผัดผักเหลียง
ผักเหลียง เป็นผักเหนาะชนิดหนึ่งลักษณะใบเรียว ยาว ผิวใบเป็นมันเหลื่อม ดอกสีขาว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีมากในจังหวัดระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และถือว่าเป็นผักประจำถิ่นของจังหวัดระนองเลยทีเดียว ผักเหลียงจะหวานอร่อยต้องเป็นผักเหลียงที่ขึ้นในที่ร่ม หรือหลังฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่เริ่มแตกใบใหม่
ผักเหลียงมีบีตาแคโรทีนสูง นอกจากนี้ ยังมีแคลเซียม และฟอสฟอรัสอีกด้วย ผักเหลียงให้เส้นใยอาหาร ซึ่งจะดูดซับไขมันทำให้ไขมันดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อย จึงทำให้ลดระดับไขมันในเลือดได้ ช่วยในการขับถ่าย ทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ดีขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร ท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่
ส่วนผสม (สำหรับ 2 คน) : ผักเหลียง (เอาแต่ใบอ่อน) 200 กรัม เนื้อหมู 90 กรัม กุ้งกุลาดำ 80 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำปลา 30 กรัม น้ำตาลทราย 5 กรัม กระเทียบบุบ 20 กรัม น้ำมันพืช 40 กรัม
วิธีทำ
1. ล้างผักเหลียงให้สะอาด ผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ (ใช้ได้ทั้งใบไม่ต้องเด็ดก้านทิ้ง)
2. แกะเปลือกกุ้งเหลือส่วนหางไว้ผ่าหลังเอาเส้นดำออก เนื้อหมูหั่นชิ้นบางๆ
3. เจียวกระเทียมพอเหลืองใส่เนื้อหมู กุ้ง ผัดพอสุก
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ใส่ผักเหลียงลงผัด พอผักสลดใส่ไข่ พอไข่สุกยกลง ตักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

#หมอชาวบ้าน

22/01/2025

ปรับชีวิต พิชิตกรดไหลย้อน

ตัดสายสะดือช้าลง เพื่อสุขภาพที่ดีของทารกการตัดสายสะดือหลังคลอด เป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ โดยแต่ก่อนนั้นจะมีการตัดสายสะดือ...
22/01/2025

ตัดสายสะดือช้าลง เพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
การตัดสายสะดือหลังคลอด เป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ โดยแต่ก่อนนั้นจะมีการตัดสายสะดือที่ค่อนข้างรวดเร็ว เพื่อทำคลอดรกที่รวดเร็วตามลำดับ เป็นการช่วยป้องกันการตกเลือดและลดปัจจัยการเสียชีวิตของแม่ แต่ปัจจุบันทางการแพทย์ได้ปรับเปลี่ยนการตัดสายสะดือให้ช้าลงกว่าเดิม เพื่อสุขภาพที่ดีของทารก จากการได้รับเลือดที่มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีหลายประการด้วยกัน
ความสำคัญของการตัดสายสะดือ
สายสะดือเชื่อมระหว่างรกกับสะดือเด็ก ทำหน้าที่เชื่อมโยงการไหลเวียนของเลือดในตัวเด็กและทางรก รวมถึงการส่งผ่านเลือดและสารอาหารต่าง ๆ ในเลือดระหว่างรกกับตัวเด็ก

ความสำคัญของการตักสายสะดือช้าลง
การตัดสายสะดือช้าออกไป 30 วินาทีถึง 3 นาที เด็กจะได้รับเลือดค่อนข้างมากจึงป้องกันภาวะซีดได้ ยิ่งถ้าเป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ย่อมมีภาวะซีดอยู่แล้ว จึงได้ประโยชน์มากขึ้น ทั้งยังทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองและปอดเด็กได้มากขึ้น จึงได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองและปิดมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ช่วยป้องกันเลือดออกในโพรงสมองได้ถึงร้อยละ 55
ปริมาณเลือดที่เด็กได้รับผ่านทางสายสะดือ
- เด็กแรกคลอด เลือดส่งมาจากรกร้อยละ 33 ทำให้เลือดของทางรกเพิ่มเป็นร้อยละ 67
- ใน 1 นาที เลือดลดลงจากรกร้อยละ 20 ทำให้เด็กได้รับเลือดเพิ่มเป็นร้อยละ 80
- ช่วงตัดสายสะดือ หลัง 1 นาที ทารกได้รับเลือดร้อยละ 87
ข้อดีของการตัดสายสะดือช้าลง
- ลดเลือดออกในสมอง
- ลดลำไส้เน่า
- ลดอุบัติการณ์ที่จะต้องให้เลือดหลังคลอด
- ลกภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก
ข้อเสียของการตัดสายสะดือช้าลง
- การที่เลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เด็กเกิดภาวะดีซ่านได้
- เมื่อเกิดภาวะตัวเหลือง ทารกต้องได้รับการส่องไฟ

#พ่อแม่มือใหม่
#หมอชาวบ้าน

สมุนไพรแก้กลาก1.กระเทียม ฝานหัวหรือกลีบกระเทียม แล้วนำมาถูบ่อยๆ จนกว่าจะหาย2.ชุมเห็ดเทศ ใช้ใบสด ดอกสด ขยี้ถูนานๆ และบ่อย...
21/01/2025

สมุนไพรแก้กลาก
1.กระเทียม ฝานหัวหรือกลีบกระเทียม แล้วนำมาถูบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
2.ชุมเห็ดเทศ ใช้ใบสด ดอกสด ขยี้ถูนานๆ และบ่อยครั้ง
3.ทองพันชั่ง ใช้ใบสดหรือรากสดหรือแห้ง โดยใช้ใบ 5-8 ใบ หรือราก 2-3 ราก ตำให้ละเอียด แช่เหล้าหรือแอลกอฮอล์ 7 วัน นำมาทาบริเวณทีเป็นบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
(เครดิตภาพ : คณิศร, ภูอ้อม, puifaikpp)

** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

#สุมนไพรใกล้ตัว
#หมอชาวบ้าน

ไม่ต้องเอาหน้า เอาเกียรติ
21/01/2025

ไม่ต้องเอาหน้า เอาเกียรติ

21/01/2025

🔴 LIVE ระวัง ! เดินผิดปกติ จาก #ภาวะข้อเท้าตก | อังคาร 21 ม.ค.68 เวลา 17.00 น.

1. อ. นพ.ธเนศ แก่นสาร ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว
2. อ. พญ.ทรงสุดา รุ่งใสวัฒนา ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู

🚩 #ลัดคิวหมอรามาฯ รายการที่คุณสามารถลัดคิวหมอ ไม่ต้องรอคิว พิมพ์คำถามในโพสต์ หรือ โทรสดในรายการ 📞 0-2354-7105 #โทรนะโทรเลย

🚩 ทุกวันจันทร์ - พฤหัส เวลา 17.00 - 18.00 น.

---------
#รามาแชนแนล

คุมน้ำหนักอย่างไรไม่ให้กลับมา YOYO Effectการลดน้ำหนักตามความเข้าใจของบางคนคิดว่า แค่การไปนั่งอบซาวน่ามีเหงื่อออกมาน้ำหนั...
21/01/2025

คุมน้ำหนักอย่างไรไม่ให้กลับมา YOYO Effect
การลดน้ำหนักตามความเข้าใจของบางคนคิดว่า แค่การไปนั่งอบซาวน่ามีเหงื่อออกมาน้ำหนักก็ลดลงแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงน้ำในร่างกายที่ขับออกมาไม่ใช่ไขมัน หากคุณดื่มน้ำเกลือแร่กลับเข้าไปน้ำหนักก็หวนคืนมาเช่นเดิม ข้อสังเกตคือน้ำหนักลดลง แต่ไขมันไม่ลดลง และในเวลาต่อมาหากคุณหยุดออกกำลังกาย ไม่คุมอาหารต่อ น้ำหนักคุณจะกระเด้งกลับมาอยู่เท่าเดิมหรือบวกเพิ่มไปอีก 20%
การออกกำลังกายง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยแอโรบิคระดับกลาง เช่น เดินไปเรื่อยๆ หรือซอยเท้า เต้นเบาๆต่อเนื่อง ให้รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย หายใจสบาย พูดได้เป็นประโยค ไม่หอบ เหงื่อซึม ๆ ไม่ต้องหนักมาก เพียงสัปดาห์ละ 150-300 นาที หรือแบ่งเป็นวันละ 30-60 นาทีต่อเนื่อง 5 วัน หยุดพักได้ 2 วัน ก็พอจะทำให้หลอดเลือดเปิด ผิวหนังจะเริ่มเป็นสีแดง รู้สึกคันยิบ ๆ นั่นแสดงว่าไขมันจะขับออกมาตามรูขุมขนแล้ว
ในระหว่างนี้เพื่อการควบคุมน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง ควรรักษาระดับการออกกำลังกายให้อยู่ในระดับปานกลาง (ขณะออกกำลังกายรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย พูดคุยได้จบประโยค) หลังออกกำลังกายให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ ร่างกายจะไม่เรียกร้องความโหยหิวจนเกินไป และแน่นอนว่าขับไขมันได้ดีกว่าออกกำลังกายแบบหนัก (หายใจลำบาก พูดไม่เป็นประโยค)
การลดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ คือ
- กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ
- มื้อเช้ากินเยอะๆแบบจัดหนักครบ 5 หมู่
- มื้อเที่ยงกินจานเดียวบวกผลไม้
- มื้อเย็นสำคัญมาก ๆ ห้ามอดแต่ห้ามเยอะ เลี่ยงแป้งเน้นกินผักกินเนื้อ เช่น คุณจะกินปลาทูน่า ตอน 4 ทุ่มก็ยังได้ แต่เลี่ยงแป้ง ของหวาน ของทอด ของมันถ้าอยากให้จัดไว้มื้อเช้าเล็กน้อยแบบพอให้ได้ลิ้มรส
ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละบุคคล บางคนบอกว่ากินอาหารสุขภาพ ไม่อร่อยจะมีความสุขได้อย่างไร คำตอบคือมีสุขเพราะสุขภาพดี แถมยังลดเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง และโรคอื่นๆ ได้อีกมากมาย ถ้าคุณเปลี่ยนทัศนคติได้สุขภาพดี หุ่นดี และไม่มีโยโย่เอฟเฟ็กต์แน่นอน

#หมอชาวบ้าน

กลั้นปัสสาวะนานเกินไป เสี่ยงอันตรายไม่รู้ตัวกระเพาะปัสสาวะมีหน้าที่ในการกักเก็บและขับถ่ายปัสสาวะในผู้ใหญ่จะมีความจุปัสสา...
21/01/2025

กลั้นปัสสาวะนานเกินไป เสี่ยงอันตรายไม่รู้ตัว
กระเพาะปัสสาวะมีหน้าที่ในการกักเก็บและขับถ่ายปัสสาวะในผู้ใหญ่จะมีความจุปัสสาวะ ประมาณ 400 – 500 มิลลิลิตร การกลั้นปัสสาวะที่นานเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและทำให้เกิดโรคได้ โดยโรคที่อาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะที่นานเกินไป ได้แก่
1. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เชื้อโรคจากภายนอกร่างกายจะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ และทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้ หากมีการกลั้นปัสสาวะไว้นานเกินไป โดยเฉพาะในเพศหญิง กระเพาะปัสสาวะอักเสบจะมีอาการปัสสาวะบ่อย แสบ ขัด หรือพบมีปัสสาวะเป็นเลือดได้
2. กรวยไตอักเสบ มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง หากการติดเชื้อมีความรุนแรง หรือ ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การติดเชื้อจะลุกลามไปที่ไต ทำให้เกิดกรวยไตอักเสบได้ โดยจะมีอาการไข้สูง ปวดเอว ปัสสาวะขุ่น และมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้เพื่อลดความเสี่ยงข้างต้น ควรหลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะที่นานเกินไป

ที่มา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

#หมอชาวบ้าน

ข้าวกล้องต้มทรงเครื่องข้าวกล้องต้มทรงเครื่องให้เส้นใยอาหารที่ดี เป็นแหล่งที่มีวิตามินซีและบีตาแคโรทีน มีไขมันไม่มาก คอเล...
21/01/2025

ข้าวกล้องต้มทรงเครื่อง
ข้าวกล้องต้มทรงเครื่องให้เส้นใยอาหารที่ดี เป็นแหล่งที่มีวิตามินซีและบีตาแคโรทีน มีไขมันไม่มาก คอเลสเตอรอลน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องระวังระดับไขมันในเลือด
ส่วนผสม (สำหรับ 1 คน) : ข้าวเจ้ากล้องสุก 65 กรัม น้ำซุปซี่โครงไก่ 180 กรัม เผือกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าต้มสุก 15 กรัม หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 20 กรัม เนื้อไก่อกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าต้มสุก 30 กรัม แครอตหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าลวก 20 กรัม ซอสปรุง 5 กรัม ซอสหอยนางรม 3 กรัม น้ำตาลทรายแดง 2 กรัม ถั่วแดงต้ม 10 กรัม พริกไทยขาวป่น 0.1 กรัม ผักชี 2 กรัม หอมทั้งต้น 2 กรัม ผักขึ้นฉ่าย 3 กรัม ตังฉ่าย 2 กรัม ข้าวโพดเหลืองต้มแกะเป็นเมล็ด 20 กรัม กระเทียมเจียวกรอบแห้ง 1 กรัม
วิธีทำ :
1. นำน้ำซุปตั้งไฟพอเดือด ใส่หอมใหญ่ที่หั่นแล้ว ใส่พริกไทยป่น ตังฉ่าย ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทราย
2. ใส่ข้าวกล้องสุก ไก่สุก เผือกสุก แครอตสุกข้าวโพดสุก และถั่วแดงต้มเปื่อย ลงไปคนให้ส่วนผสมเข้ากัน โรยหน้าด้วยผักชีขึ้นฉ่าย ต้นหอม และกากกระเทียมเจียวโรยหน้า

#หมอชาวบ้าน

21/01/2025

เคล็ดไม่ลับ...โรคไมเกรน

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อลูกเลือดกำเดาไหลเลือดกำเดาไหลเป็นภาวะที่พบบ่อยในเด็กปกติ มักมีอาการเลือดออกที่ไม่รุนแรง เลือ...
21/01/2025

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อลูกเลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหลเป็นภาวะที่พบบ่อยในเด็กปกติ มักมีอาการเลือดออกที่ไม่รุนแรง เลือดมักหยุดได้เองภายใน 5-10 นาที หลังจากมีการบีบจมูกเบาๆ ซึ่งอาจเกิดจากการแคะ แกะ เกาบริเวณจมูกอย่างแรง จนทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเยื่อบุจมูกแตกง่าย มักพบในช่วงฤดูหนาว หรืออากาศที่แห้ง หรือเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุบริเวณใบหน้า ศีรษะ หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้จมูก เป็นต้น
เลือดกำเดาไหล มักเกิดขึ้นในช่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 2-3 ขวบ ไปจนถึงวัยประถมต้น และมักหายได้เองเมื่ออายุโตขึ้น ส่วนน้อยพบได้ในเด็กบางรายที่มีรูปโครงสร้างจมูกที่ผิดปกติ ทำให้มีเลือดกำเดาไหลได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เลือดกำเกาไหลอาจเป็นอาการของโรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ปกครองควรทราบว่าเมื่อใดที่ลูกน้อยมีเลือดกำเดาไหลมากจนอาจอันตรายและควรพาไปพบแพทย์ หากเลือดกำเดามีลักษณะดังต่อไปนี้ ได้แก่
- มีเลือดกำเดาไหลนาน ร่วมกับที่ผิวหนังมีรอยเลือดออก เช่น มีพรายย้ำ จ้ำเขียว หรือ มีจุดแดงหรือจุดเลือดออกตามตัวร่วมด้วย
- มีเลือดออกตามไรฟัน หรือลิ้นร่วมด้วย
- มีปัสสาวะสีน้ำล้างเนื้อ หรืออุจจาระสีดำคล้ายยางมะตอยหรือปนเลือดร่วมด้วย
- เด็กมีไข้สูงร่วมด้วย
- เด็กมีอาการเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง หรือซีดลง
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากลูกน้อยมีเลือดกำเดาไหล
1.ให้เด็กนั่งตัวเอียงไปข้างหน้า และให้ศีรษะก้มลงเล็กน้อย เพื่อให้เลือดไหลออกทางจมูกแทนที่จะไหลลงคอ ซึ่งอาจทำให้เด็กอาเจียนออกมาเป็นเลือดจากที่กลืนเข้าไป
2.ใช้มือบีบจมูกบริเวณปีกจมูกเบาๆ ในข้างที่มีเลือดกำเดาไหล อย่างน้อย 10 นาที และหากเลือดยังไม่หยุดไหลนานเกิน 30 นาที ให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์
วิธีป้องกันมิให้มีเลือดกำเดาไหลทำได้ง่ายเบื้องต้น
1.ป้องกันมิให้บริเวณเยื้อบุจมูกแห้ง เพื่อไม่ให้คัน ลดการแคะจมูก โดยการใช้น้ำเกลือหยอดจมูก หรือทาปิโตรเลี่ยมเจลลี่เคลือบในรูจมูกก่อนนอน
2.ดูแลอากาศในห้องนอน ไม่ให้แห้งเกินไป
3.การรับประทานผัก ผลไม้ หรือ วิตามินซี เพื่อช่วยให้หลอดเลือดฝอยในจมูกแข็งแรง เลือดกำเดาไหลออกน้อยลง

ที่มา :
1.สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย
2.คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

#พ่อแม่มือใหม่
#หมอชาวบ้าน

ที่อยู่

36/6 ถนนประดิพัทธ์ ซอย 10 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
Bangkok
10400

เบอร์โทรศัพท์

+6626184710

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ มูลนิธิหมอชาวบ้านผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง มูลนิธิหมอชาวบ้าน:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Our Story

มูลนิธิหมอชาวบ้าน เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ดำเนินกิจกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชน มาเป็นเวลากว่า 35 ปี โดยเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ เว็ปไซค์ การอบรม ในเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพสังคม และสุขภาพทางปัญญา เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในการดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างยั่งยืน