มูลนิธิหมอชาวบ้าน

มูลนิธิหมอชาวบ้าน มูลนิธิหมอชาวบ้าน

มูลนิธิหมอชาวบ้าน เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ดำเนินกิจกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชน มาเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี โดยเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ เว็ปไซค์ การอบรม ในเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพสังคม และสุขภาพทางปัญญา เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในการดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างยั่งยืน

15/02/2025

"การรักตัวเอง สำคัญอย่างไร?" �

เคยสงสัยไหมว่าการรักตัวเองช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้อย่างไร? มาร่วมค้นหาคำตอบ พร้อมเทคนิคเติมพลังใจและสร้างความสุขจากภายในไปด้วยกัน! ��

เสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 08.00 น.

PODCAST จิตวิทยาสติ ร่วมมือกับหมอชาวบ้าน : EP.86 การรักตัวเอง สำคัญอย่างไร

� ความรักมีกี่แบบ
� ความรักตนเองสำคัญอย่างไร
� ทำอย่างไรให้เราสามารถรักตัวเองได้
� จิตวิทยาสติ ช่วยให้เรารักตัวเองเพิ่มขึ้นได้อย่างไร

รับชมได้ทาง ��
Youtube : จิตวิทยาสติ (Mindfulness Psychology)

Pag Facebook : เพจสร้างสุขด้วยสติในองค์กร และดูรายละเอียดการอบรมได้ที่
https://web.facebook.com/profile.php?id=100041946251566

YouTube : จิตวิทยาสติ
https://www.youtube.com/live/GOvNJop3KAQ?si=HIXOJIBe_pm-Yg2F

Pag Facebook : มูลนิธิหมอชาวบ้าน
https://www.facebook.com/folkdoctorthailand

เราจัดอบรมจิตวิทยาสติแบบ online และ onsite ทุกเดือน
หัวข้อการอบรมเดือนนี้

Online : 22-02-68 การฝึกสติเพื่อสร้างสมดุลชีวิตและการทำงาน

หางนกยูงฝรั่ง : ต้นเปลวเพลิงหางนกยูงฝรั่งเป็นพืชผลัดใบ ฝรั่งเรียกว่าต้นเปลวเพลิง (The Flame Tree) ผลัดใบในฤดูร้อนช่วงเดื...
15/02/2025

หางนกยูงฝรั่ง : ต้นเปลวเพลิง
หางนกยูงฝรั่งเป็นพืชผลัดใบ ฝรั่งเรียกว่าต้นเปลวเพลิง (The Flame Tree) ผลัดใบในฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน ออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม บานสะพรั่งสดใสงดงาม ความจริงหางนกยูงฝรั่งประกอบด้วยสี 2 สี คือสีแดงและสีเหลือง ส่วนใหญ่จะมี 2 สีนี้อยู่ด้วยกันจึงเห็นเป็นสีแสด ดอกใดที่สีเหลืองมาก กว่าก็เป็นสีแสดออกเหลือง ดอกใดสีแดงมากกว่าก็เป็นสีแสดออกแดง แต่ก็มีหางนกยูงบางต้นออกดอกสีแดงแท้ๆ และบางต้นออกดอกสีเหลืองบริสุทธิ์ ซึ่งหาได้ยาก เมล็ดอ่อนของหางนกยูงฝรั่งนำมากินสดๆ ได้ แต่เมล็ดแก่ต้องนำมาทำให้สุกเสียก่อนจึงจะใช้กินได้ เพราะเมล็ดแก่ดิบมีสารบางชนิดที่เป็นพิษ

(เครดิตภาพ : treeofthai, Meow on Mars, plantname, shoot-around, นกตัวเล็ก)

#หมอชาวบ้าน

คำพ่อสอน
14/02/2025

คำพ่อสอน

ธรรมะเพื่อชีวิต
14/02/2025

ธรรมะเพื่อชีวิต

คู่ชีวิต
14/02/2025

คู่ชีวิต

14/02/2025

🔴 LIVE #โรคดัง หลังข่าว
โดย รศ. นพ.จักรพงษ์ บรูมินเหนทร์ สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์
💙 #พบหมอรามาฯ ปลดล็อกทุกคำถาม เคลียร์ชัดทุกคำตอบเรื่องสุขภาพ

💙 ทุกวันศุกร์ 17.00-18.00 น.

#รามาแชนแนล
#โรคดังหลังข่าว

แพ้อาหาร เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามจากกรณีที่มีแชร์เรื่องราวเตือนภัย เกี่ยวกับการแพ้กุ้ง ซึ่งผู้แชร์มีอาการแพ้อย่างรุน...
14/02/2025

แพ้อาหาร เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
จากกรณีที่มีแชร์เรื่องราวเตือนภัย เกี่ยวกับการแพ้กุ้ง ซึ่งผู้แชร์มีอาการแพ้อย่างรุนแรงนั้น พบว่า “อาหาร” เป็นสาเหตุของอาการแพ้ที่พบได้บ่อย โดยกลไกของระบบภูมิต้านทานจะแสดงปฏิกิริยาไม่ต้อนรับออกมา ผ่านอาการแสดงต่างๆ เช่น เกิดอาการชาที่ลิ้น บวม ร้อน หรือเป็นลมพิษหลังจากได้รับอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง
รู้ได้อย่างไรว่าแพ้
อาการคันรอบปาก ปากบวมเจ่อ มีผื่นลมพิษตามร่างกาย ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดเยื่อบุทางเดินหายใจบวม แน่นหน้าอก หายใจติดขัด ความดันต่ำ และถึงแก่ชีวิตได้ อาการแพ้เหล่านี้อาจเกิดแบบเฉียบพลันภายใน 2-3 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หรือเกิดอย่างช้าๆ ภายใน 1-2 ชั่วโมง หลังจากรับประทานอาหารหรือยา เป็นการแพ้ที่ร่างกายแสดงปฏิกิริยาจากหลายระบบของร่างกาย ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่
- อาการแพ้ที่แสดงออกทางผิวหนัง ที่ชัดที่สุดคือเป็นลมพิษ โดยจะรู้สึกคันๆ ที่ผิวหนัง และจะมีอาการบวม ผิวหนังนูนขึ้นมาเป็นแผ่นๆ และรู้สึกแสบร้อน ซึ่งไม่ใช่การอักเสบ แต่เป็นการแพ้อาหาร
- อาการแพ้ที่แสดงออกทางระบบทางเดินอาหาร เริ่มตั้งแต่ปาก คอ ลงไปถึงกระเพาะ และลำไส้ โดยจะมีอาการปากบวม น้ำลายไหลตลอดเวลา รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน และบางรายมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
- อาการแพ้ที่แสดงออกทางระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการไอมากจนหอบ และถ้าหอบมากๆ ก็จะมีอาการตัวเขียวอาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้
เคยรับประทานอาหารชนิดนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำไมเพิ่งเกิดอาการแพ้ กรณีเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยอาจเกิดจาก
1.สุขภาพของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป
2.การรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นประจำ เพราะร่างกายเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันที่มีต่อสารที่รับเข้ามา
3.อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดอาการคล้ายกับการแพ้อาหารมาก จนทำให้เข้าใจผิด
การป้องกันและการรักษาที่ถูกวิธี
การรักษาในปัจจุบันเป็นการรักษาตามอาการ ถ้ามีอาการแพ้ทางผิวหนัง ก็กินยาแก้แพ้ ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ก็คือ ยาคลอร์เฟนิรามีนขององค์การเภสัชกรรม ซึ่งกินเพียง 1 เม็ด อาการแพ้ก็จะดีขึ้น แต่ถ้ารู้สึกคันมากหรือเป็นลมพิษ ก็ใช้คาลาไมน์โลชั่นทาให้ทั่ว หรือถ้าอาการรุนแรงถึงขนาดหอบมากๆ เป็นหอบหืด ท้องเสีย หรืออาเจียน ก็ต้องรีบไปรักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยด่วน

ทั้งนี้ วิธีป้องกันที่สุดสำหรับผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการแพ้หลังรับประทานอาหารและยา คือ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นปัจจัยกระตุ้น ควรเตรียมยาแก้แพ้ไว้ในกรณีฉุกเฉิน เพราะหากมีอาการรุนแรงจะต้องรีบกินยาทันทีหรือหากไม่แน่ใจควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง

ที่มา : กรมการแพทย์

#หมอชาวบ้าน

พูดไม่รู้เรื่อง กล้ามเนื้ออ่อนแรง สัญญาณเตือนโรคโมยาโมยาโรคโมยาโมยา เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบไม่บ่อย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก...
14/02/2025

พูดไม่รู้เรื่อง กล้ามเนื้ออ่อนแรง สัญญาณเตือนโรคโมยาโมยา
โรคโมยาโมยา เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบไม่บ่อย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนไม่รู้จักโรคนี้ โดยผู้ป่วยจะมีอาการแสดงที่ผิดปกติไปจากเดิม คือ พูดไม่รู้เรื่อง แขนขาอ่อนแรง เหตุที่ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติให้เห็นเกิดจากเส้นเลือดใหญ่ที่เลี้ยงสมองส่วนด้านหน้าและด้านข้างทั้งสองข้างเกิดการตีบตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ ร่างกายมีการปรับตัวสร้างเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ไปเลี้ยงสมองแทน เส้นเลือดฝอยดังกล่าวดูเหมือนกลุ่มควันจากการเอ็กซเรย์หลอดเลือดสมอง และเป็นโรคที่รายงานครั้งแรกรวมถึงพบบ่อยในชาวญี่ปุ่น จึงเรียกโรคนี้ว่าโมยาโมยา ซึ่งแปลว่า “กลุ่มควัน” ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง
สาเหตุของโรคโมยาโมยา
โรคโมยาโมยาพบบ่อยในชาวญี่ปุ่น เกาหลี ในประเทศไทยพบได้ไม่บ่อย ส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ ผู้ป่วยบางกลุ่มจะมีความเสี่ยงของโรคโมยาโมยาสูงกว่าคนทั่วไป ได้แก่ คนที่มีโรคทางความผิดปกติของพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม ท้าวแสนปม ธาลัสซีเมีย หรือในคนที่เคยรับการฉายแสงที่สมอง เป็นต้น
อาการของโรคโมยาโมยา
ส่วนใหญ่เป็นอาการของสมองขาดเลือด สมองทั้งส่วนด้านหน้าและด้านข้างเกี่ยวข้องกับการทำงานหลายอย่าง ผู้ป่วยจึงมีอาการได้หลายหลาย และอาการอาจจะเกิดเป็นพักๆ โดยเฉพาะเวลาที่มีการหายใจแรงๆ เช่น หอบเหนื่อยจากการออกกำลัง เป็นต้น อาการที่พบได้แก่
- สมองขาดเลือดชั่วคราว ยังไม่ถึงกับสมองตาย ทำให้มีอาการต่าง ๆ อยู่ชั่วขณะ สามารถกลับคืนเป็นปกติได้ในเวลาไม่เกินหนึ่งวัน
- สมองขาดเลือดรุนแรงจนเกิดภาวะสมองตาย เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อาจมีอาการอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ได้
- ปวดหัวรุนแรงจากมีเลือดออกในสมอง
- อาการชัก
วิธีสังเกตโรคโมยาโมยา
วิธีการสังเกตว่าเป็นโรคโมยาโมยาหรือไม่ ต้องดูจุดเด่นของโรค คือ อาการอาจเกิดขึ้นกับสมองทั้งสองข้าง โดยอาจแสดงอาการไม่พร้อมกัน เช่น แขนขาซีกซ้ายอ่อนแรงบ้าง แขนขาซีกขวาอ่อนแรงบ้างสลับกันไปมา อย่างไรก็ตามต้องยืนยันด้วยการตรวจเอกซเรย์ดูเส้นเลือดสมอง
การรักษา
การรักษาที่มีประสิทธิภาพคือการผ่าตัดเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น เราไม่สามารถแก้ไขบริเวณที่เส้นเลือดสมองใหญ่ตีบตันได้ แต่เราสามารถผ่าตัดทำทางให้มีเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพิ่มมากขึ้น และเพียงพอกับที่สมองต้องการ จึงช่วยป้องกันการเกิดอาการต่างๆที่สำคัญได้แก่ อ่อนแรงเป็นๆหายๆ ปวดศีรษะ เป็นต้น ร่วมกับการรับประทานยากลุ่มแอสไพริน การรักษาดังกล่าวจะช่วยลดการเกิดภาวะสมองขาดเลือด และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

ที่มา : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

#หมอชาวบ้าน

น้ำฝางฝางเป็นสมุนไพรที่คนไทยใช้มาช้านาน เป็นยาบำรุงโลหิตสำหรับสตรี ขับประจำเดือน แก้ร้อนใน ช่วยลดความร้อนในร่างกาย แก้กร...
14/02/2025

น้ำฝาง
ฝางเป็นสมุนไพรที่คนไทยใช้มาช้านาน เป็นยาบำรุงโลหิตสำหรับสตรี ขับประจำเดือน แก้ร้อนใน ช่วยลดความร้อนในร่างกาย แก้กระหายน้ำ แก้อาการเลือดออกภายในอวัยวะต่างๆ ฝางมีสารสำคัญหลายชนิดทมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย น้ำสมุนไพรฝาง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงร่ายกาย บำรุงโลหิต
ส่วนประกอบ : แก่นไม้ฝาง 1-2 ชิ้น ดอกมะลิ 10 ดอก น้ำสะอาด 1 ลิตร
วิธีทำ : นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟ ใส่แก่นไม้ฝางลงต้มจนเดือด จะได้น้ำสีชมพูอมส้ม จากนั้นใส่ดอกมะลิลงไปเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม ยกลงจากเตา กรองเอากากออก ทิ้งไว้ให้เย็น เวลาดื่มสามารถเติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลได้ตามชอบ เสริ์ฟพร้อมน้ำแข็งก็เย็นชื่นใจ หรือถ้าชอบดื่มชาก็ชงเป็นชาดื่มร้อนๆ ก็ได้ ทั้งนี้ สามารถใช้สมุนไพรอื่นๆ เพื่อแต่งกลิ่นแทนดอกมะลิได้ เช่น ใบเตย

(เครดิตภาพ : สาวสวนแตง (จาปาตี), chronus, thaihof)

#หมอชาวบ้าน

บ้านปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ
14/02/2025

บ้านปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ

บ้านคือสถานที่ๆ ควรให้ความอบอุ่นและปลอดภัยสำหรับผู้อาศัยไม่ว่าจะเพศและวัยใดก็ตาม แต่สำหรับผู้สูงอายุแ....

สิทธิต้องรู้ เมื่อมนุษย์เงินเดือน จะมีลูกผู้หญิงในโลกการทำงาน เมื่อได้สถานะเป็น “ว่าที่คุณแม่” หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ต้อง...
14/02/2025

สิทธิต้องรู้ เมื่อมนุษย์เงินเดือน จะมีลูก
ผู้หญิงในโลกการทำงาน เมื่อได้สถานะเป็น “ว่าที่คุณแม่” หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ต้องรู้คือ สิทธิที่กฎหมายให้ความคุ้มครองว่ามีอะไรบ้าง เพราะเมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ นอกจากแจ้งข่าวดีกับทางครอบครัวแล้ว ต้องแจ้งให้ที่ทำงานรู้ด้วยจะได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน หรือตำแหน่งหน้าที่ให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ เพราะถ้าทำงานไปเครียดไป อาจจะส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านร่างกายและจิตใจของลูกไม่มากก็น้อย ยิ่งคุณแม่เครียดมาก ๆ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการไหลเวียนของโลหิต จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง เลือดไปเลี้ยงมดลูกไม่พอส่งผลให้ตัวอ่อนในครรภ์ไม่สามารถพัฒนาการได้อย่างเหมาะสม
สิทธิการทำงาน ท้องต้องรู้ ว่าที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการทำงานที่จะมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ซึ่งกฎหมายให้ความคุ้มครอง ได้แก่
- ห้ามนายจ้างให้พนักงานตั้งครรภ์ทำงานในเวลา 22.00 – 06.00 น. ยกเว้นตำแหน่งผู้บริหาร งานวิชาการ ธุรการ การเงิน หรือบัญชี ให้ทำงานล่วงเวลาในวันทำงานได้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากพนักงาน
- ห้ามสั่งทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด
- ห้ามทำงานเหล่านี้ เช่น งานเกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องยนต์ที่มีความสั่นสะเทือน งานขับเคลื่อนหรือติดไปกับยานพาหนะ งานก่อสร้างที่ต้องทำใต้ดิน ใต้น้ำ เป็นต้น
- ไม่ทำงานที่ต้องยก แบก หาม ลาก หรือเข็นของหนักเกิน 15 กิโลกรัม รวมทั้งงานที่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ บิดเอี้ยวลำตัว สัมผัสสารเคมี สัมผัสเสียงดัง งานที่ทำในเรือ
- พนักงานมีครรภ์ มีสิทธิขอให้นายจ้างเปลี่ยนงานในหน้าที่เดิมชั่วคราวก่อนหรือหลังคลอดได้ กรณีที่มีใบรับรองแพทย์ แผนปัจจุบันชั้นหนึ่ง (ใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลของทางราชการ) มาแสดงว่าไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมได้
- นายจ้างไม่มีสิทธิให้พนักงานหญิงลาออกจากงานเพราะตั้งครรภ์
สิทธิการลาคลอด และทำหมัน
เวลาผ่านไปจนใกล้จะได้เจอกับเจ้าตัวน้อยแล้ว คุณผู้หญิงเตรียมตัวหยุดยาว ๆ ได้เลย เพราะจะได้สิทธิลาคลอดก่อนและหลังคลอด รวมถึงการลาเพื่อไปตรวจครรภ์ก่อนคลอดได้ ครรภ์หนึ่งไม่เกิน 98 วัน โดยบริษัทจะต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้ที่ลาคลอดเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน 45 วัน
เมื่อคลอดแล้ว ถ้าต้องการจะทำหมันก็มีสิทธิลาเพื่อทำหมันได้ตามระยะเวลาที่แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งกำหนดและออกใบรับรองโดยได้รับค่าจ้าง
หลังคลอดกลับมา ถ้าหากคุณแม่ไม่สามารถทำงานในหน้าที่เดิมต่อไปได้ ก็มีสิทธิขอให้นายจ้างพิจารณาเปลี่ยนงานที่เหมาะสมให้ชั่วคราวก่อนหรือหลังคลอดได้ โดยมีใบรับรองแพทย์มายืนยันด้วย

#พ่อแม่มือใหม่
#หมอชาวบ้าน

ขจร : บำรุงปอด หัวใจชื่ออื่นๆ : ดอกสลิด ผักขิก ผักสลิดคาเลา สลิดป่า ผักสลิด กะจอน ขะจอน ฯลฯ ขจรเป็นพืชปลูกง่ายโดยการใช้เ...
13/02/2025

ขจร : บำรุงปอด หัวใจ
ชื่ออื่นๆ : ดอกสลิด ผักขิก ผักสลิดคาเลา สลิดป่า ผักสลิด กะจอน ขะจอน ฯลฯ ขจรเป็นพืชปลูกง่ายโดยการใช้เมล็ด ใช้กิ่งชำ หรือแยกราก ขึ้นได้ดีในดินทุกสภาพ ดอกขจรกินได้ มีรสอร่อย นิยมเอาดอกขจรมาทำแกงจืด หรือต้มกับกะทิกินต่างผัก ดอก ยอด ใบอ่อนใช้แกงผักรวม ดอกและผลอ่อนใช้ต้มลวกกินกับน้ำพริกได้
สรรพคุณ : ราก ทำให้อาเจียน ถอนพิษเบื่อเมา ดับพิษ ทำให้รู้รสอาหาร ขณะที่ยอดอ่อน ผลอ่อนขจร ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงตับ ปอด แก้เสมหะเป็นพิษ ส่วนดอกขจร มีรสเย็น กลิ่นหอม ช่วยบำรุงปอด บำรุงหัวใจ บำรุงสายตา บำรุงตับ บำรุงโลหิต แก้เสมหะ บำรุงฮอร์โมนของสตรี แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ

(เครดิตภาพ : swin, ปลายแป้นพิมพ์)

** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

#สุมนไพรใกล้ตัว
#หมอชาวบ้าน

หาเนื้อคู่...ดูจากอะไร
13/02/2025

หาเนื้อคู่...ดูจากอะไร

13/02/2025

🔴 LIVE หยุด ! พฤติกรรมเสี่ยง #เอ็นอักเสบเรื้อรัง | พฤหัสบดีที่ 13 ก.พ. 68 เวลา 17.00 น.

1. อ. นพ.อัครวิทย์ พูลสมบัติ สาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์
2. รศ. นพ.สรวุฒิ ธรรมยงค์กิจ ศัลยกรรมกระดูกและข้อ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์

🚩 #ลัดคิวหมอรามาฯ รายการที่คุณสามารถลัดคิวหมอ ไม่ต้องรอคิว พิมพ์คำถามในโพสต์ หรือ โทรสดในรายการ 📞 0-2354-7105 #โทรนะโทรเลย

🚩 ทุกวันจันทร์-พฤหัส เวลา 17.00 - 18.00 น.

---------
#รามาแชนแนล

วิ่ง 30 นาที ร่างกายได้อะไรบ้างการวิ่งอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพนั้น อาจต้องวิ่งติดต่อกันเป็น เวลา 30 นาที หรือ 1-2 ...
13/02/2025

วิ่ง 30 นาที ร่างกายได้อะไรบ้าง
การวิ่งอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพนั้น อาจต้องวิ่งติดต่อกันเป็น เวลา 30 นาที หรือ 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น โดยไม่ต้องหยุด และทุกครั้งที่วิ่งเรียกเหงื่อ เซลล์ในร่างกายจะเริ่มทำงานและก่อให้เกิดปฏิกิริยาห่วงโซ่ ยิ่งวิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจ เปรียบเสมือนร่างกายได้รับการฟื้นฟูมากขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่ร่างกายจะได้รับเมื่อวิ่งอย่างน้อย 30 นาที
1.เริ่มออกวิ่ง กล้ามเนื้อจะเริ่มผลิตอะดีซีนไตรฟอสเฟต (ATP) เป็นโมเลกุลที่ให้พลังงานสูงแก่เซลล์ ซึ่งเราได้รับจากการสลายอาหาร
2.ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ใน 90 วินาทีแรก เพราะเซลล์ในร่างกายจะย่อยสลายไกลโคเจน หรือ กลูโคสรูปแบบหนึ่งที่ร่างกายสะสมไว้ตามกล้ามเนื้อ และดึงกลูโคสจากเม็ดเลือดมาใช้ผลิต ATP จึงเป็นเหตุผลว่าการออกกำลังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
3.ใน 2-3 นาทีถัดมา หัวใจเต้นเร็วขึ้น สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อต่างๆ ยกเว้นอวัยวะส่วนที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายในขณะนั้น ช่วงนี้จะหายใจหอบถี่เพราะเซลล์กล้ามเนื้อพยายามดึงออกซิเจนเข้าร่างกายเพื่อเผาผลาญกลูโคส ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญแคลอรี่และไขมัน ส่วนเกินที่สะสมเอาไว้ (นักวิ่งจะเผาผลาญได้ 100 แคลอรี่ต่อระยะทาง 1.6 กิโลเมตร) การเผาผลาญที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น เพื่อลดความร้อน ระบบหมุนเวียนเลือดจะเปลี่ยนเส้นทางไปที่ผิวหนังแทน ใบหน้าจึงมีเลือดฝาด ต่อมเหงื่อเริ่มผลิตความชื้น เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป
4.รู้สึกสดชื่นขึ้น และแข็งแกร่งใน 10 นาที (หากคุณฟิตจริง) ถ้ากล้ามเนื้อและแหล่งผลิต ATP ในร่างกายยังคงมีเพียงพอ และดึงออกซิเจนมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเผาผลาญไขมันและกลูโคสได้ด้วยแต่ถ้าคุณไม่ได้ออกกำลังกายมานาน ATP จะไม่สูงขึ้นเท่าที่ร่างกายต้องการ คุณจะเริ่มหายใจไม่ออก หรือดึงออกซิเจนมาใช้ไม่ทัน กรดแลคติกก็หลั่งไปทั่วร่างจนคุณล้าแทบก้าวขาไม่ออก
5.เมื่อหยุดวิ่งหลัง 30 นาที ให้วิ่งช้าลงจนกลายเป็นการเดิน การใช้พลังงานจะลดต่ำ อัตราการหายใจเริ่มกลับสู่ปกติ สมองถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนโดพามีน ซึ่งเป็นสารที่สร้างความเบิกบานใจ ถึงตอนนี้แม้คุณจะอยากกินของหวานบ้างก็ไม่มีปัญหา เพราะร่างกายได้สร้างแหล่งไว้เก็บไกลโคเจนเรียบร้อยแล้ว แคลอรีส่วนเกินจึงไม่ถูกเก็บไว้ในรูปไขมัน

ที่มา : สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์

#หมอชาวบ้าน

ล้างจมูกติดต่อกันทุกวันเป็นอันตรายหรือไม่ปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองและมลภาวะอากาศ ทำให้หลายคนเริ่มสนใจการดูแลตัวเองด้วยการล...
13/02/2025

ล้างจมูกติดต่อกันทุกวันเป็นอันตรายหรือไม่
ปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองและมลภาวะอากาศ ทำให้หลายคนเริ่มสนใจการดูแลตัวเองด้วยการล้างจมูกเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกหรือสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูกออกด้วยน้ำเกลือ แต่การล้างจมูกนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ เราไปเรียนรู้วิธีล้างจมูกเพื่อการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องกัน
ข้อดีของการล้างจมูก
- ช่วยชำระสิ่งสกปรก มลพิษหรือสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในโพรงจมูก โดยเฉพาะสิ่งแปลกปลอมที่รวมตัวเป็นน้ำมูกข้นเหนียวที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง
- ลดอาการคัดจมูก ภูมิแพ้ น้ำมูกไหล คันจมูก หรือจาม
- ลดปัจจัยกระตุ้นและความรุนแรงของโรค เช่น ลดจำนวนเชื้อโรคที่อยู่ในจมูกหรือโพรงไซนัส ลดหรือระบายหนองจากโพรงไซนัสซึ่งทำให้กลุ่มผู้ป่วยไซนัสอักเสบมีอาการดีขึ้น
- ช่วยทำให้เยื่อบุจมูกมีความชุ่มชื้น บรรเทาการระคายเคืองและลดการอักเสบภายในโพรงจมูก
- การล้างจมูกก่อนใช้ยาพ่นทางจมูกหรือยาหยอดจมูกทำให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุโพรงจมูกได้ดี เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ยามากขึ้น
ควรเริ่มล้างจมูกเมื่อใด
เริ่มล้างจมูกได้เมื่อมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกข้นเหนียว เริ่มมีอาการของไซนัสอักเสบ (เช่น มีเสมหะในลำคอหรือรู้สึกมีกลิ่นเหม็นภายในจมูก) หายใจเอาฝุ่นควัน หรือสูดดมมลพิษหรือสารก่อภูมิแพ้เข้าไป หรือผู้ที่ต้องใช้ยาพ่นหรือยาหยอดจมูก ก็สามารถล้างจมูกก่อนใช้ยาดังกล่าวได้
ใครบ้างที่สามารถล้างจมูก
- การล้างจมูกสามารถทำได้ในกลุ่มบุคคลทั่วไปและกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคทางจมูกและระบบทางเดินหายใจ โดยสามารถล้างจมูกได้เมื่อมีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
- ไม่แนะนำการล้างจมูกในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางระบบประสาทหรือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อเนื่องจากอาจเกิดการสำลักได้
คำแนะนำในการล้างจมูก
- โดยทั่วไปแนะนำให้ล้างจมูกวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน หรือมากกว่านั้นกรณีที่มีอาการทางจมูก เช่น มีน้ำมูกมาก คัดจมูก หรือช่วงเวลาก่อนใช้ยาพ่นหรือยาหยอดจมูก
- ควรเลือกสารละลายสำหรับล้างจมูกให้เหมาะสม ซึ่งแนะนำให้ใช้น้ำเกลือปราศจากเชื้อ ความเข้มข้น 0.9% ของเกลือโซเดียมคลอไรด์ .
การล้างจมูกติดต่อกันเป็นประจำเป็นอันตรายหรือไม่
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ล้างจมูกติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากมีการศึกษาบ่งชี้ว่าการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือติดต่อกันทุกวันในผู้ที่มีโรคโพรงจมูกไซนัสอักเสบเป็นระยะเวลานานกว่า 12 เดือน ทำให้การเกิดโรคโพรงจมูกไซนัสอักเสบซ้ำเพิ่มขึ้นถึง 60% ซึ่งคาดว่าเกิดจากการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นเวลานานอาจรบกวนหรือลดระบบป้องกันทางภูมิคุ้มกันที่สะสมในน้ำมูกหรือเมือกที่ปกป้องโพรงจมูกได้

ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

#หมอชาวบ้าน

น้ำขิงสรรพคุณ : บรรเทาอาการท้องอืด จุก แน่นท้อง แก้อาเจียน ขับลม ทำให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันการเมารถ เมาเรือวิธีทำ : ใช้ข...
13/02/2025

น้ำขิง
สรรพคุณ : บรรเทาอาการท้องอืด จุก แน่นท้อง แก้อาเจียน ขับลม ทำให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันการเมารถ เมาเรือ

วิธีทำ : ใช้ขิงสดหรือแห้ง 300 กรัม ต้มกับน้ำ 2 ลิตร เติมน้ำตาลกรวด 200 กรัม ต้มนาน 5 นาที เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น นำผ้าขาวบางมากรองแล้วแช่ตู้เย็นเก็บไว้เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรบำรุงสุขภาพ

#หมอชาวบ้าน

ออกกำลังกายด้วยผ้าขาวม้า
13/02/2025

ออกกำลังกายด้วยผ้าขาวม้า

ออกกำลังกายด้วยผ้าขาวม้าใน 5 นาทีประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วยผ้าขาวม้ามีดังนี้ทำให้หลอดเลือดฝอย ขยายเ.....

ที่อยู่

36/6 ถนนประดิพัทธ์ ซอย 10 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
Bangkok
10400

เบอร์โทรศัพท์

+6626184710

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ มูลนิธิหมอชาวบ้านผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง มูลนิธิหมอชาวบ้าน:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Our Story

มูลนิธิหมอชาวบ้าน เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ดำเนินกิจกรรมในการสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชน มาเป็นเวลากว่า 35 ปี โดยเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ เว็ปไซค์ การอบรม ในเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพสังคม และสุขภาพทางปัญญา เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในการดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างยั่งยืน