01/09/2024
เพราะโลกมันเปลี่ยน มันไม่มีช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลัง แต่มันเดินไปด้วยกันทั้งคู่แบบพึ่งพากัน บทบาทเท่ากัน... 🗨 เวลาเปลี่ยน mind set การใช้ชีวิตร่วมกันก็ต้องเปลี่ยน!!
"Here is my hot take. It's just really rational take. If you want a traditional wife, then be a traditional man. And I'm talking about obviously heterosexual relationships here. Not ask for stay at home wifey privileges. If you don't have stay at home wifey money, you want me clean the kitchen? I'm happy to clean the kitchen if I get to wake up at 10.00AM, I get to clean the kitchen, I get to lounge by the pool when you come home at night. Like, Sure, No problem. But if I'm waking up at the crack of dawn with you, we're both going to our two very demanding jobs and then coming home. Don't ask me for anything you are not willing to do."
- Vivian Tu : Your Rich BFF สัมภาษณ์ใน Leveling Up with Eric Siu
1) Vivian Tu อดีตเทรดเดอร์สาว สู่การเป็น Content Creator รายได้หลักล้านบนโซเชียล ในอายุ 27 ปี เธอให้มุมมองเกี่ยวกับเรื่องบทบาทหน้าที่ของสามีและภรรยาไว้ได้ดีมาก และสะท้อนความจริงบางอย่างของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ออกจากกรอบ traditional wife ตามความเชื่อของบทบาททางเพศ ในมิติใหม่ได้ชัดเจนที่สุด
2) สังคมในมิติใหม่ ภรรยาช่วยสามีหาเงินเข้าบ้านกันหมด เพราะเศรษฐกิจไม่ดีพอจะให้สามีแบกรับการหาเงินคนเดียวลำพัง และเผลอๆ บางบ้าน ภรรยาคือเสาหลักเสียด้วยซ้ำ เพราะทำงานโคตรเก่ง และรายได้เยอะกว่าสามีมาก หาเงินได้เก่ง และหาได้มาก เป็นที่พึ่งพิงของครอบครัว
3) จะพูดไม่ได้เลยว่า ให้ใครหยุดทำงานมาเลี้ยงลูกเป็น primary job อันเดียวของชีวิต ในเศรษฐกิจที่ตึงเครียดเรื่องการใช้เงินที่ต้องมีมากพอจะดูแลหาเลี้ยงให้ครอบครัวอยู่รอด หรือสุขสบาย ดังนั้น หน้าที่งานประจำ หรือการทำงานนอกบ้านในยุคนี้จำเป็นต้องทำทั้งคู่ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และความถนัด/ การใช้ชีวิตของผู้หญิงยุคนี้ ก็ไม่ใช่การอยู่บ้านทำกับข้าว ทำงานบ้านด้วย ยุคสมัยเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยนแปลง ก็ใช้ชีวิตตามที่แต่ละคนมีความสุข ปรับตัว และอยู่ร่วมกัน ด้วยการเคารพ lifestyle กันและกัน ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่นมากขึ้น
4) ถ้ามองมุมของบทบาททางเพศในอดีต ว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้าน อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว เพราะถ้าผู้หญิงก็ออกไปทำงานเช่นกัน แล้วเธอต้องทำงานบ้านลำพัง ก็เท่ากับเธอคนเดียวควง 2 jobs คือทั้งนอกบ้าน ฉันก็ทำ ส่วนในบ้าน ฉันก็ลุยคนเดียว มันหนักมากเกินไป และไม่ fair เลยกับภาระที่ได้รับ
5) สิ่งที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับคนทั้งคู่ที่ออกนอกบ้านไปทำงานบ้านมาเหน็ดเหนื่อย ต้องมีหน้าที่ช่วยกันแบ่งเบาภาระงานบ้านแบบหาร 2 แชร์ทุกข์สุขให้กันและกันได้ ใครถนัดอะไรทำอะไรได้ ก็ทำไป ช่วยคนละไม้คนละมือ โดยที่ไม่ควรนอนกระดิกเท้าเฉยๆ แล้วอ้างว่าตัวเองเหนื่อยกับการทำงานนอกบ้าน เพราะงานในบ้าน มันต้องการแรงงาน และการใช้แรงหลายอย่างผู้ชายทำได้ดี ต้องช่วย ไม่ใช่ปฏิเสธ
6) ถ้าเป็นกรณีของคนที่มีเงินมากพอจะอยู่สุขสบาย แบบทำงานบ้านคนเดียวได้ ก็คือวิถีชีวิตแบบภรรยาที่มีสามีเลี้ยง เป็นแม่บ้าน full-time ให้ได้แน่นอน เพราะไม่มี job อื่นมาเบียดบังเวลา สามารถบริหารจัดการชีวิตได้เต็มที่ และถ้ารวยมาก จะจ้างแม่บ้านเพิ่มเติมก็ยังมีศักยภาพจะทำ แบบนั้นคือชีวิตสามีเลี้ยงดูได้จริงๆ แบบนี้จะให้ภรรยาทำงานบ้านได้เต็มที่ ก็ดูสมเหตุสมผล
7) พอโลกมันเปลี่ยนมันไม่มีช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลัง แต่มันเดินไปด้วยกันทั้งคู่แบบพึ่งพากัน บทบาทเท่ากัน ต้องเข้าใจว่า "เงิน" เป็นปัจจัยสำคัญของครอบครัว ที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำ มันไม่ได้แบ่งแยกแล้วว่าใครต้องรับภาระใดลำพัง การทลายกรอบทางเพศ ควรเป็นเรื่องปกติมากๆ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกเสียเกียรติว่าการเป็นผู้ชายต้องถูกยกให้อยู่ใน status บางอย่างที่สูงกว่า และจงเข้าใจเสียใหม่ว่า งานบ้านไม่ใช่ของต่ำ ทำไปด้วยกัน ไม่ต้องเกี่ยงคือ การทำบ้านให้เป็นบ้าน สร้างครอบครัวให้น่าอยู่ไปด้วยกัน
8 ) แต่เอาเข้าจริงๆ ครอบครัวที่ไม่ elite มากพอ ที่สามีจะเลี้ยงดูภรรยา ด้วยการทำงานลำพัง ก็อย่าฝืนเลย เพราะรายได้ทางเดียว แบกคนทั้งบ้าน จะยิ่งทำร้ายสุขภาพกาย และสุขภาพจิต เป็นความเครียดของตัวเอง ที่แบกรับในสิ่งที่หนักมากเกินกว่าที่ตนเองจะถือไหวเพียงลำพัง ยิ่งไปสร้างบรรยากาศความตึงเครียดในบ้าน ไม่ไหวก็อย่าฝืน เราอยู่ในยุคที่มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ เพราะข้าวของแพงขึ้นขนาดนี้ อย่าให้ใครต้องออกจากงานมาทำงานบ้านอย่างเดียว ถ้ายังไม่พร้อม ช่วยกันหาเงินดูจะไปรอดกว่าด้วย
9) สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ถ้าขนาดแค่งานบ้าน ยังอยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อมจะช่วยกันได้ แล้วถ้ามีลูก ภรรยาตั้งครรภ์ บ้านจะยิ่งพังขนาดไหน นั่นหมายความว่า คู่ชีวิตยังไม่พร้อมเป็นพ่อแม่คนจริงๆ เพราะไม่สามารถสร้างครอบครัวที่มีคุณภาพมากพอได้ ถ้ายิ่งมีลูก ยิ่งมีปัญหาหนักแน่นอน เพราะไม่พร้อมจะช่วยกันให้ครอบครัวเดินหน้าด้วยความสุข แบ่งเบาภาระและความทุกข์ ก็แสดงว่า ต้องเริ่มที่อยู่แบบสองคนให้รอดก่อน ถึงจะเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูกได้
10) ถ้าต้องการอะไรจากใคร เราเป็นคนคนนั้นได้รึยัง ก่อนไปเรียกร้องจากคนอื่น เราเป็นผู้รับ ที่พร้อมจะเป็นผู้ให้บ้างไหม? การที่ไม่แลกเปลี่ยนอะไรเลย แต่จะรอรับความสุขจากอีกฝ่าย ไม่มีใครอยู่ด้วยได้ในความสัมพันธ์ที่เห็นแก่ตัว และเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน ให้เกียรติกัน และไม่ลืมว่าสิ่งที่เราต้องการ คนอื่นก็ต้องการจากเรา เราต้องถามตัวเองด้วยเช่นกัน ว่าเราดีพอจะได้รับสิ่งดีๆจากคนอื่นแล้วหรือไม่?
"ถ้าอยากได้คนที่ดีในชีวิต ลองเป็นคนที่ดีให้ใครสักคนให้ได้ก่อน ที่เหมาะจะได้รับสิ่งดีๆนั้นในชีวิตด้วย"
คงตรงกับที่ Angelina Jolie เคยกล่าวไว้ครับ
"ถ้าผู้ชายอยากให้ผู้หญิงเป็นนางฟ้า คุณต้องสร้างสวรรค์ให้เธอก่อน เพราะนางฟ้าไม่อยู่ในนรกหรอกนะ"
#ตุ๊ดส์review
