Synergy E - Online Media Solution

Synergy E  - Online Media Solution Synergy E is media solution company that focuses on premium publishers, impactful ad size and placem
(2)

Synergy E is media solution company that focuses on premium publishers, impactful ad size and placement, customizable media package with fast service.

20/06/2024

นักการตลาดเคยสงสัยไหมว่า การทำ Influencer Marketing ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้คอนเทนต์แบบไหน? โปรโมตบนแพลตฟอร์มอะไร? 🤔
Motive Influence ได้ไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำการตลาดอินฟลูเอนเซอร์อยากมาแชร์ให้กับนักการตลาดและแบรนด์ไปพร้อมกัน แบบสรุปรวบรัดอ่านจบเข้าใจหลักการทำ Influencer Marketing ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทันที
ผลสำรวจจากนักการตลาดที่ทำแคมเปญอินฟลูฯ บอกว่าประเภทคอนเทนต์ที่สร้างผลลัพธ์ในการทำ Influencer Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 👇
✅ 57% คลิปวิดีโอ
✅ 20.6% รูปภาพ
✅ 10% สตอรี่
✅ 7.2% ไลฟ์สด
ซึ่งข้อมูลด้านบนสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของคนไทย 🤳 ที่ชอบดูคลิปวิดีโอยาวมากขึ้น 👀 เห็นได้จากนิสัยการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของคนไทย
แพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานนานที่สุด คือ 👇
✅ คนไทยใช้งาน YouTube 41 ชั่วโมง 28 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน TikTok 38 ชั่วโมง 16 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน Facebook 24 ชั่วโมง 2 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน LINE 9 ชั่วโมง 52 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน Instagram 7 ชั่วโมง 39 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน Facebook Messenger 7 ชั่วโมง 35 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน Whatsapp 4 ชั่วโมง 30 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน Twitter(X) 3 ชั่วโมง 4 นาที/เดือน
✅ คนไทยใช้งาน Pinterest 2 ชั่วโมง 3 นาที/เดือน
จะเห็นว่าคอนเทนต์ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค คือ คอนเทนต์วิดีโอ ซึ่งก็ตรงกับลักษณะนิสัยของคนไทยชอบดูคลิป โดยมีการใช้งาน YouTube, TikTok นานที่สุด รองลงมาคือ Facebook ซึ่งก็เป็นแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายของคอนเทนต์เช่นกัน หนึ่งใน Content ที่หลากหลายของเฟสบุ๊กมีวิดีโอ, Reels
สำหรับนักการตลาด หรือแบรนด์ที่กำลังวางแผนทำ Influencer Marketing แล้วไม่รู้ว่าจะทำคอนเทนต์แบบไหน? ลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับแผนการตลาดได้นะ หากสนใจอยากทำแคมเปญการตลาดอินฟลูฯ กับเรา ติดต่อได้ที่ 👉 https://bit.ly/3wuHvMZ

#การตลาดออนไลน์ #การตลาดอินฟลูเอนเซอร์

03/05/2024

Seeding Marketing หนึ่งในรูปแบบของ Influencer Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ทรงพลังในการสร้าง awareness ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า ควบคุมงบประมาณได้ ทำให้นักการตลาดและแบรนด์นิยมแนวทางการตลาดนี้✨
Motive Influence ขอยกตัวอย่างแคมเปญ Seeding Product ของ Partner ที่ไว้วางใจ 🥰 ใช้บริการ "แพ็กเกจประหยัดสุดคุ้ม Motive Box" เพื่อกระจายคอนเทนต์จำนวนไปยังกลุ่มเป้าหมาย 🗣 กับแคมเปญ Smooth E - Smooth Leep and Smooth GABA ได้รับ engagement rate ที่น่าพึงพอใจ
อ่าน Case Study เพิ่มเติมได้ที่ 👉 https://bit.ly/49ZAYbg
หากคุณต้องการครีเอทแคมเปญให้ได้ประสิทธิภาพตรงกลุ่มแบบเดียวกับ Smooth E
ติดต่อเราที่ 👉 https://bit.ly/3wuHvMZ

17/11/2023

Motive Influence ให้ความสำคัญกับการตอบโจทย์ทางการตลาดของ Marketer ซึ่งมักเป็นโจทย์ที่ท้าทาย หลายๆ ครั้งไม่สามารถสรรหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงโจทย์ได้ เราจึงให้ความสำคัญกับฐานข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์
เราจึงทุ่มทรัพยากรและเวลาในการรวบรวมข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์ให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการตอบโจทย์ยากๆ เหล่านั้น ปัจจุบัน Motive Influence ถือว่าเป็น Influencer Agency ในไทยที่มีฐานข้อมูลใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยฐานข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์กว่า 600,000 คน ✨ เมื่อเดือนตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา นอกจากจำนวนแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับคุณภาพเช่นกัน โดยเราใช้ AI&Automation ช่วยในการคัดกรอง 👀 ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด
ทำไม Motive Influence ถึงมีฐานข้อมูลใหญ่ขนาดนี้?
ปัจจุบันนี้ Influencer Marketing ถือว่าเป็นแนวทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดผ่านอินฟลูฯ หรือ KOL แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายจะติดตาม Influencer ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกับตัวเอง และ 70% ของวัยรุ่น หรือ Gen Z เชื่อคำแนะนำของคนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์ที่ตัวเองติดตามมากกว่าโฆษณาทั่วไป
จะเห็นว่า Influencer Marketing เป็นการทำการตลาดโดยใช้ตัวบุคคลเป็นสื่อ 🤳 ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการผลิตสื่อที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ติดตาม ทำให้ยิ่งมีฐานข้อมูลมากเท่าไหร่ การเลือกอินฟลูฯ ให้เหมาะกับแคมเปญยาก ๆ หรือตรงกับเป้าหมายของแคมเปญมากขึ้น Motive Influence จึงได้รวบรวมอินฟลูเอนเซอร์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จนกลายมาเป็นฐานข้อมูลของอินฟลูฯ ที่มีคุณภาพ 600,000 รายการ
รู้จัก Motive Influence ให้มากขึ้นที่บทความ 👉 https://bit.ly/49DisXt
หากคุณมองหาโอกาสทางธุรกิจด้วยเทคนิคการตลาดที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า Influencer Marketing ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์มากที่สุดภายในงบจำกัด ด้วยอินฟลูฯ ใหม่ ๆ ไม่ช้ำกับแบรนด์ Motive Influence พร้อมที่จะนำความเชี่ยวชาญและระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมามอบความคุ้มค่าให้กับคุณ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่ 👇
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

15/11/2023

อีกหนึ่งแคมเปญที่ Motive Influence เป็นตัวกลางในการส่งต่อแรงบันดาลใจของนมถุง Sunshine Dairy - Banana Caramel ไปยังผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมเข้ามาคอมเมนต์มากมาย
อ่าน Case Study เพิ่มเติมได้ที่ 👉 https://bit.ly/3Mwgu15
หากคุณต้องการครีเอทแคมเปญให้ได้ประสิทธิภาพตรงกลุ่มแบบเดียวกับน้ำดื่ม Sunshine Dairy ติดต่อเราที่ 👇
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

10/11/2023

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ดึง Traffic ให้แบรนด์ได้มากที่สุดของไตรมาสที่ 3 คือ?
สรุปข้อมูลจาก DIGITAL 2023 OCTOBER GLOBAL REPORT
ว่าแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานทั่วโลกนิยมมากที่สุด ได้แก่ Facebook รองลงมาคือ Youtube ซึ่งเรามักจะเห็นแบรนด์ต่าง ๆ ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวในการทำการตลาดอยู่บ้าง
ในส่วนของ TikTok โซเชียลมีเดียที่มาแรงและผู้บริโภคให้เวลากับแพลตฟอร์มเป็นส่วนใหญ่ กลับไม่ติดอันดับ top 5 🤔 อาจเป็นเพราะว่า TikTok เน้นให้ผู้ใช้งานใช้งานจบครบใน platform ตัวเอง และยังมีปัจจัยจากการถูกแบนในบางพื้นที่ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯลฯ
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า ผู้บริโภคมีพฤติกรรมเสพสื่อต่างกันมาก ๆ แถมความสนใจยังเปลี่ยนแปลงเร็วอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ชอบไถฟีดไปเรื่อย ๆ เจอคอนเทนต์ไหนที่น่าสนใจก็หยุดดูเพียงแค่ไม่กี่วินาที ก่อนจะกลับมาไถฟีดต่อ
ดังนั้นการทำให้ลูกค้ามีความสนใจอยากคลิกลิงก์ หรือกดหน้าเว็บของเราในแต่ละครั้งถือว่าทำได้ยาก การเลือกแพลตฟอร์มเพื่อกระตุ้น Traffic จึงเป็นสิ่งจำเป็น เหมือนประโยคที่ว่า อยู่ที่ถูกที่ถูกเวลา
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ดึง Traffic ให้แบรนด์ได้มากที่สุดของไตรมาสที่ 3 ได้แก่
✅ Facebook สร้าง Traffic ให้แบรนด์ 65.24%
✅ Instagram สร้าง Traffic ให้แบรนด์ 13.31%
✅ X(Twitter) สร้าง Traffic ให้แบรนด์ 8.75%
✅ Pinterest สร้าง Traffic ให้แบรนด์ 7.28%
✅ Youtube สร้าง Traffic ให้แบรนด์ 4.00%
แบรนด์และนักการตลาดอาจจะนำข้อมูลนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับกลยุทธ์การตลาดของตัวเอง โดยเฉพาะการเลือกสื่อโซเชียลมีเดียที่สร้าง Traffic ที่มีประสิทธิภาพให้แบรนด์
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

มาแล้วๆ Influencer Marketing Trends 2024
08/11/2023

มาแล้วๆ Influencer Marketing Trends 2024

5 เทรนด์ Influencer Marketing ปี 2024 ที่แบรนด์ต้องเตรียมรับมือ
จะมีเทรนด์อะไรบ้าง จะได้ไม่พลาดโอกาสเติบโตทางธุรกิจ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 👉 https://bit.ly/3u2JqqX
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจสร้างแคมเปญเพื่อกระตุ้นธุรกิจให้เติบโตผ่าน Influencer Marketing กับเรา ติดต่อได้ที่ 👇
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

#จ้างอินฟลูเอนเซอร์

06/11/2023

🖤 Black Friday มหกรรมลดราคาครั้งใหญ่ประจำปี กำลังจะมาถึง!! จะทำอย่างไรให้แบรนด์มี Conversion มาหาคำตอบไปพร้อมกันที่
บทความนี้ 👉 https://bit.ly/3seHmvo
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจสร้างแคมเปญเพื่อกระตุ้นธุรกิจให้เติบโตผ่าน Influencer Marketing กับเรา ติดต่อได้ที่ 👇
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

#จ้างอินฟลูเอนเซอร์ #วันคนโสด #แคมเปญ11.11

02/11/2023
31/10/2023

ยุคที่ Influencer Agency มีให้เลือกมากมาย ทำไม Motive Influence ถึงมอบความคุ้มค่าให้แก่แบรนด์ที่สุด กับ 7 เหตุผลที่ต้องเลือก Motive Influence ช่วยคุณทำ Influencer Marketing
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ 👉 https://bit.ly/3Ml17Ze
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจสร้างแคมเปญเพื่อกระตุ้นธุรกิจให้เติบโตผ่าน Influencer Marketing กับเรา ติดต่อได้ที่ 👇
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

#จ้างอินฟลูเอนเซอร์

30/10/2023

ทุกครั้งที่เล่นโซเชียล ทุกคนเลือกกดเข้าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไหนบ่อยสุด? 🤔 แน่นอนว่า TikTok ต้องเป็นคำตอบส่วนใหญ่ของใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่รวมสิ่งบันเทิงเอาไว้มากมาย กระแสไวรัล หรือข่าวสารต่าง ๆ ก็มักหยิบคลิปวิดีโอใน TikTok ขึ้นมาพูดคุย
ทำให้เราคุ้นชินกับการใช้งาน TikTok แทนแพลตฟอร์ม Facebook ที่มีมานาน ไปอย่างไม่รู้ตัว จนบางครั้งมีความรู้สึกว่าคนใช้งาน Facebook ลดลง ⏬
แต่ล่าสุด Meta ได้เผยตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook เมื่อ Quarter 3 2023 ที่ผ่านมาว่า มีผู้ใช้งานต่อวัน (DAUs) 2.08 พันล้านคน เติบโตขึ้น 5% เทียบ YOY และผู้ใช้งานต่อเดือน (MAUs) 3.05 พันล้านคน เติบโตขึ้น 3% เทียบ YOY
Facebook ยังเป็น social media อันดับหนึ่งมีผู้ใช้มากที่สุด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากมาย จุดประสงค์ในการใช้งานแตกต่าง การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้นั้น ต้องอาศัยการตลาดที่งตอบโจทย์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยโดยตรงอย่าง Influencer Marketing
หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการสร้าง Awareness หรือสร้าง Conversion ด้วยแนวทางการตลาดที่ตอบโจทย์ต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่าง Influencer Marketing เรา Motive Influence พร้อมที่จะนำความเชี่ยวชาญและระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมามอบความคุ้มค่าให้กับคุณ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่ 👇
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

25/10/2023

TikTok Live เวลาไหนดี ?
วันนี้ Motive Influence ได้รวบรวมช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการไลฟ์สดบน TikTok ไว้ในบทความนี้แล้ว
มาอ่านไปพร้อมกันเลย 👉 https://bit.ly/471vaNl
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

#เวลาไลฟ์tiktok #ไลฟ์เวลาไหนดี

24/10/2023

เคยโพสต์ Facebook เวลาเดิมแต่ทำไมยอดการมองเห็นน้อยลง? เพราะอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มนี้ปรับเปลี่ยนบ่อยมาก ๆ จนตามแทบไม่ทัน 🤣
วันนี้ Motive Influence ขอมาอัปเดตเวลาโพสต์ที่เหมาะสมบน Facebook ว่าต้องลงช่วงไหนดีสุด
อ่านบทความเพิ่มเติม 👉 https://bit.ly/46Wh6Vy
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

#โพสต์เวลาไหนดี #เวลาโพสต์Facebook #เวลาโพสต์2023

24/10/2023

ทำแบรนด์ว่ายากแล้ว! เวลาโพสต์ให้ผู้บริโภคมองเห็นเยอะ ๆ ยากยิ่งกว่า มาดูกันว่าช่วงเวลาที่เหมาะโพสต์ Facebook สำหรับธุรกิจแบบไหน โพสต์เวลาไหนบ้าง?
อ่านบทความเพิ่มเติม 👉 https://bit.ly/46Wh6Vy
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

#โพสต์เวลาไหนดี #เวลาโพสต์ธุกิจ #เวลาโพสต์2023

20/10/2023

ทำคอนเทนต์แทบทรุด! แต่ทำไมกระแสตอบรับไม่ดี ยอดลดลงเรื่อย ๆ
เพราะคุณกำลังสร้างคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่หรือเปล่า? 🤔
มาเช็คไปพร้อมกันดีกว่า ว่ารูปแบบคอนเทนต์ไหนเหมาะกับแพลตฟอร์มอะไร
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ 👉 https://bit.ly/3ERTQMg
อย่าลืมกดติดตามเพจ Motive Influence ไว้เพื่อตามอัปเดตความรู้และเทรนด์ Influencer Marketing ดีๆ
สนใจร่วมงานกับเรา ติดต่อได้ที่ 👇

Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

21/07/2023

KOL คืออะไร สำคัญยังไง กับการตลาดยุคนี้?
ในยุคที่ผู้คนต่างใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดียแบบนี้ ความสำเร็จของธุรกิจจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างอิทธิพลบนโลกออนไลน์เพื่อเข้าถึงและโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด แต่การที่แบรนด์จะขึ้นมามีอิทธิพลบนแพลตฟอร์มที่มีการแข่งขันสูงอาจเป็นไปได้ยากหากเราไม่มีพื้นที่ตั้งต้นเพียงพอที่จะใช้สื่อสารกับกลุ่มคนที่เราต้องการ นักการตลาดยุคใหม่จึงหันมาจับมือทำแคมเปญกับ KOL หรือ Key Opinion Leader มากขึ้นเรื่อย ๆ จน KOL Marketing กลายเป็นอีกกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ได้ผลลัพธ์อย่างคุ้มค่าที่สุดวิธีหนึ่ง
KOL เป็นใคร และการทำแคมเปญร่วมกับ KOL สามารถทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นได้มากขนาดไหน Motive Influence จะพาคุณไปรู้จักพวกเขากัน
Key Opinion Leader (KOL) คืออะไร?
Key Opinion Leader คือ บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จนกลายเป็นผู้นำทางความคิดของคนในสังคมเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ ซึ่ง KOL อาจทำอาชีพใดก็ได้ เช่น นักธุรกิจ นักการเมือง นักกีฬา แพทย์ อาจารย์ ดารานักแสดง หรือ Influencer
ความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะเจาะจงทำให้ KOL เป็นที่สนใจของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก เราจะเห็นได้ว่าเมื่อ KOL พูดถึงเรื่องไหน จะมีเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียมากมายมาถอดคำพูด ตีความ และเขียนบทวิเคราะห์เต็มไปหมด เช่น เมื่อ Warren Buffett ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเงิน การลงทุน หรือการทำธุรกิจ คนในสังคมก็จะพากันเรียนรู้หรือแม้กระทั่งนำแนวทางของเขาไปทำตาม
KOL สำคัญกับการตลาดของแบรนด์อย่างไร?
ทำให้ชื่อแบรนด์ติดตลาด
การที่แบรนด์จะทำให้คนที่ไม่รู้จักแบรนด์เลยมาจำแบรนด์ได้ไม่ใช้เรื่องง่าย เพราะสิ่งที่มักเกิดขึ้น คือ คนเห็นโฆษณาของแบรนด์แบบผ่าน ๆ และเพียงไม่นาน บางครั้งไม่กี่ชั่วโมง ก็ลืมเกี่ยวกับคอนเทนต์ของแบรนด์ไปเสียแล้ว
แต่การทำ KOL Marketing จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เนื่องจากคำพูดและความคิดเห็นของ KOL ได้รับความสนใจจากคนในสังคมอยู่แล้ว หาก KOL พูดถึงแบรนด์ไหนเป็นพิเศษ ผู้คนก็จะตั้งใจไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ด้วยตัวเอง ถือเป็นการทำความรู้จักแบรนด์แบบ Active ไม่ใช่ Passive อย่างการดูคอนเทนต์ผ่าน ๆ นอกจากนี้ ความคิดเห็นจาก KOL ยังส่งผลให้เกิดการพูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแบรนด์ในวงกว้าง ซึ่งนี่สามารถเปลี่ยนจากแบรนด์ที่ไม่มีใครรู้จัก ให้กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นกระแสติดตลาดได้เลยทีเดียว
ดึงความสนใจของคนที่ไม่ได้สนใจสินค้ามาก่อน
ความเชี่ยวชาญของ KOL สามารถช่วยให้แบรนด์มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ใครหลายคนที่ไม่ได้ต้องการมีผิวขาวกระจ่างใสอาจไม่เคยคิดจะใช้ครีมกันแดดมาก่อน แต่หลังจากได้ฟังหมอผิวหนังพูดถึงความสำคัญของการปกป้องผิวจากรังสี UV อาจหันมาสนใจกลายเป็นคนที่ทาครีมกันแดดทุกวันเลยก็ได้ ซึ่งนี่ก็จะมีส่วนช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างรายได้จากสินค้าได้มากขึ้น
ทำให้คนที่กำลังลังเล ตัดสินใจซื้อสินค้า
ข้อมูลจาก Baymard พบว่า อัตรา Cart Abandonment หรือคนที่ตัดสินใจ Add สินค้าในตะกร้า แต่สุดท้ายก็ไม่ซื้อนั้นสูงเกือบ 70% ซึ่งนี่อาจเป็นเพราะลูกค้าคนนั้นกำลังเปรียบเทียบสินค้าของเรา กับสินค้าที่ใกล้เคียงกันของแบรนด์อื่น หรือกำลังชั่งใจเรื่องราคาว่าจะซื้อดีหรือไม่
ในที่นี้ KOL อาจช่วยเข้ามามีส่วนช่วยได้ เพราะการที่ KOL ซึ่งมีคุณวุฒิและประสบการณ์ที่คนในสังคมเชื่อถือออกตัวสนับสนุนหรือพูดถึงแบรนด์ จะทำให้แบรนด์ได้รับความน่าเชื่อถือ ผู้คนมองว่าแบรนด์มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เมื่อถึงเวลาต้องเลือกสินค้าที่ใกล้เคียงกัน คนก็มีแนวโน้มที่จะเลือกแบรนด์ของเราที่มี KOL การันตีมากกว่านั่นเอง
ต้องการร่วมงานหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการหา Key Opinion Leader ที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเชิงดิจิทัลของ Motive Influence ได้ที่
Website : www.motiveinfluence.com/brands
Line : https://lin.ee/vomJXW2

12/07/2023

Influencer Marketing ช่วยผลักดัน Social Commerce ได้อย่างไร

92% ของนักการตลาดเชื่อว่า Influencer Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ และ 89% ของนักการตลาดที่ทำแคมเปญ Influencer Marketing อยู่แล้ว ตั้งใจจะเพิ่มงบประมาณการลงทุนกับ Influencer ขึ้นไปอีกในปี 2023
เราจะเห็นว่า Influencer Marketing กลายเป็นหัวใจของการตลาดในยุคปัจจุบันที่ธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจด้าน Social Commerce (ธุรกิจที่มีการขายสินค้าและบริการผ่านโซเชียลมีเดีย) ต่างให้ความสนใจ
แล้ว Influencer มีอิทธิพลต่อยอดขายของแบรนด์ได้ขนาดไหน การทำแคมเปญร่วมกับ Influencer จะตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการทำ Social Commerce ได้อย่างไรบ้าง วันนี้ Motive Influence รวบรวมแง่มุมสำคัญที่น่าสนใจมาให้แล้ว
Influencer Marketing ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อสินค้าจริง ๆ
ก่อนจะไปถึงการซื้อสินค้าบนโซเชียลมีเดียได้นั้น ก้าวเริ่มต้นที่แบรนด์จะต้องทำคือการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า และบริการ ให้กลุ่มเป้าหมายเห็นคอนเทนต์ของแบรนด์จนเกิดความสนใจขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในปัจจุบัน คือ มีแบรนด์จำนวนมากบนโซเชียลมีเดียที่ต้องการสิ่งเดียวกัน ซึ่งนำไปสู่การแข่งกันสร้างและแย่งพื้นที่คอนเทนต์กันอยู่เสมอ ทำให้เป็นเรื่องยากที่คนจะเห็นคอนเทนต์ของแบรนด์เรา ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาต่อแคมเปญ คือ คนที่เห็นคอนเทนต์ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์จริง ๆ คอนเทนต์นั้นจึงไม่ก่อให้เกิด Conversion หรือการซื้อสินค้า ส่งผลให้แบรนด์ต้องเสียงบประมาณการโฆษณาและการตลาดโดยไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ทั้งหมดนี้จึงเป็นจุดที่ Influencer เข้ามามีอิทธิพลอย่างมาก เพราะ Influencer มีกลุ่มคนที่คอยติดตามคอนเทนต์ของพวกเขาอยู่แล้ว หรือเรียกได้ว่าพวกเขามีพื้นที่บนโลกโซเชียลมีเดียที่สามารถทำให้คนเห็นคอนเทนต์ที่เราต้องการได้ และเราสามารถเลือกร่วมงานกับ Influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นกลุ่มคนที่ตรงกับเป้าหมายของแบรนด์โดยเฉพาะ เพื่อให้เราได้สื่อสารข้อมูลที่จะทำให้คนเหล่านั้นตัดสินใจซื้อสินค้าได้โดยตรง ซึ่งนี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มยอดขายนั่นเอง
Social Proof ของ Influencer ทำให้คนอยากซื้อสินค้าของแบรนด์
ตามหลักจิตวิทยาการโน้มน้าว คนมักจะทำในสิ่งที่มี Social Proof หรือ ทำตามสิ่งที่มีคนอื่นทำหรือสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดี ซึ่ง Social Proof สามารถมาจาก 6 ทาง
1. ผู้เชี่ยวชาญ
2. ดารา คนดัง
3. เพื่อน
4. ผู้ที่เคยใช้สินค้าจริง
5. สิ่งที่คนกลุ่มใหญ่บอก
6. สถาบันที่รับรองมาตรฐาน
Influencer ถือเป็นบุคคลที่มี Social Proof เป็นอย่างมาก เพราะผู้ติดตามมักจะมอง Influencer เป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ในเรื่องนั้น ๆ (เช่น คนจะมอง Beauty Blogger เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงาม) นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดตามของ Influencer ยังทำให้เขาเป็นเหมือน “ดารา คนดัง” ทำให้คนรู้สึกว่าถ้าอยากจะมีชีวิตแบบเขา ควรจะใช้สินค้าตามเขา แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง Influencer ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Follower มาก ๆ ก็ให้ความรู้สึกว่าพวกเขาเหมือน “เพื่อน” อีกคนหนึ่งเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ทำให้การทำ Influencer Marketing โปรโมต รีวิวสินค้า หรือทำคอนเทนต์แสดงว่า Influencer ใช้สินค้าของแบรนด์ จะสามารถกระตุ้นให้คนอยากซื้อสินค้าของแบรนด์ได้มากเลยทีเดียว
การจ้าง Influencer ในระยะยาว จะช่วยสร้าง Loyal Customer ให้กับแบรนด์ได้
แบรนด์ไหนต่างก็ต้องการให้คนรู้จักและใช้สินค้าของแบรนด์มากขึ้น โดยใช้งบประมาณให้น้อยที่สุด ซึ่งนี่จะเกิดขึ้นได้หากเรามี Loyal Customer หรือ ลูกค้าตัวยงของแบรนด์ที่พร้อมจะแนะนำแบรนด์ให้คนรอบตัวใช้ต่อ
Influencer Marketing ในระยะยาวสามารถตอบโจทย์จุดนี้ได้ เพราะการที่ Influencer ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับแบรนด์และ Engage กับ Follower ในโพสต์เหล่านั้นอยู่เรื่อย ๆ จะเป็นการค่อย ๆ สร้าง Community ของลูกค้าที่อยากแชร์ประสบการณ์ ความคิดเห็น และความประทับใจที่มีต่อแบรนด์ ผ่านการคอมเมนต์หรือแม้แต่การโพสต์คอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าในโซเชียลมีเดียของตัวเอง กลายเป็นการโปรโมตแบรนด์ผ่าน Word-of-Mouth ทำให้คนใกล้ตัวของกลุ่มคนเหล่านั้นรู้จักและสนใจจะใช้สินค้าของแบรนด์มากขึ้น โดยที่แบรนด์ไม่ต้องจ่ายค่าการตลาดเพิ่ม
Influencer Marketing สามารถช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เป็น Social Proof ที่ทำให้คนอยากซื้อสินค้าตาม และช่วยด้านการตลาดของแบรนด์ในระยะยาว นี่จึงทำให้การตามหา Influencer ที่ Align กับ Product และภาพลักษณ์ของแบรนด์ เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ Social Commerce ของเรา
สำหรับ Motive Influence เรามีฐานข้อมูล Influencer มากที่สุดในประเทศ 550,000 รายการ พร้อมเทคโนโลยี A.I. ที่ช่วยให้การค้นหา Influencer ที่ตรงกับแมสเสจของแคมเปญ และกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ที่สุด หากคุณต้องการเริ่มต้นทำแคมเปญ Influencer Marketing เพื่อบูสต์ผลลัพธ์ของ Social Commerce สามารถติดต่อเราได้ที่แถบข้อมูลด้านล่าง
Website : www.motiveinfluence.com
Line : https://lin.ee/vomJXW2

12/07/2023

เบื้องหลังกลยุทธ์ Micro Influencer ขายของยังไง ให้เหมือนไม่ได้ขาย?
Micro Influencer หมายถึง บุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบการรีวิวสินค้าหรือชอบเขียนบล็อกของตัวเอง พวกเขามักจะมีความเชี่ยวชาญเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ อาจจะเป็นในด้านแฟชั่น อาหาร การออกกำลังกาย ท่องเที่ยว หรืออื่น ๆ และอยากแชร์เรื่องราวให้คนอื่นรับรู้ (Natural Sharer) เพราะความรู้ลึกรู้จริงทำให้พวกเขามีความน่าเชื่อถือ และได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ติดตามของพวกเขาค่อนข้างมาก
จากข้อมูลการวิจัยการตลาดออนไลน์ของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) พูดถึง Micro Influencer ว่า พวกเขามีอิทธิพลในการโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้มากกว่าการตลาดแบบเก่า พวกเขามีความจริงใจในการรีวิวเนื้อหา มีความเป็นธรรมชาติ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย มีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตัวเองถนัด (Expert) และมีวิธีการโปรโมตผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย รู้ว่าผู้ชมของตัวเองชอบอะไร จึงสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจได้ไม่ยาก ส่งผลให้เกิดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ได้มากกว่า
วันนี้ Motive Influence จะมาเผยเบื้องหลัง Micro Influencer กับการโพสต์รีวิว ขายของยังไง ให้เหมือนไม่ได้ขาย? เหตุใดอินฟลูเอนเซอร์ประเภทนี้ถึงเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคหรือผู้ติดตามได้ทรงพลังที่สุด
1. ความน่าไว้วางใจ (Trustworthiness) เป็นความไว้วางใจในบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้รวมไปถึงความน่าเชื่อถือ และความสามารถที่กลุ่มเป้าหมายยึดถือเป็นแบบอย่างความไว้วางใจ (Trustworthiness) เป็นมิติแรกของความน่าเชื่อถือ (Credibility) ของผู้นำเสนอสินค้า ซึ่งเกิดจากการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง และความน่าเชื่อในตัวของผู้นำเสนอสินค้าหรืออินฟลูเอนเซอร์
Micro Influencer ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างกระแสบอกต่อในกลุ่มผู้บริโภค ควรเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือและมีอำนาจชักจูงใจให้ผู้บริโภคคล้อยตามในด้านทัศนคติและพฤติกรรม นอกเหนือจากตัวอินฟลูเอนเซอร์เองแล้ว ความเด่นชัด และความแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นอินฟลูเอนเซอร์ต้องมีความน่าเชื่อถือ และที่สามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายยึดถือเป็นแบบอย่าง
จากการวิจัยทางการตลาดของ Trust Barometer กล่าวว่า ผู้บริโภค 63% หรือผู้บริโภคเกือบ 2 ใน 3 บอกว่า พวกเขาเชื่อ Micro Influencer มากกว่าโฆษณาสินค้าของแบรนด์ เพราะโฆษณาทำให้รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ดังนั้นหากแบรนด์อยากสร้างความไว้ใจอาจต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ซึ่งการใช้ Micro Influencer ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมมากเช่นกัน
2. ความเชี่ยวชาญ (Expertise) คือความชำนาญและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของบุคคลนั้น ๆ ความเชี่ยวชาญของความน่าเชื่อถือ (Credibility) ของอินฟลูเอนเซอร์ผู้นำเสนอสินค้า ได้แก่ ความรู้ ประสบการณ์ และทักษะที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาหรือสินค้าชิ้นนั้น อินฟลูเอนเซอร์จะถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) เมื่อพวกเขานำเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความรู้ ประสบการณ์ และทักษะที่มี ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเชื่อในสิ่งเหล่านั้นและนำไปสู่ความชื่นชอบในตัวอินฟลูเอนเซอร์
3. ความดึงดูดใจ (Attractiveness) คือความน่าสนใจและความโดดเด่น จากรูปร่าง หน้าตา บุคลิกภาพของอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งความดึงดูดใจสามารถแบบออกได้เป็นความดึงดูดใจ ทางกายภาพ (Physical Attractiveness) คือการมีรูปร่าง หน้าตาที่น่าดึงดูดใจของผู้นำเสนอสินค้า
รวมไปถึงทั้งด้านทักษะ ความสามารถ การมีบุคลิกภาพที่ดี การใช้ความดึงดูดใจในการนำเสนอสินค้าจะช่วยเพิ่มระดับความโน้มน้าวใจและทำให้ผู้บริโภคเกิดทัศนคติในเชิงบวกกับอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้นำเสนอสินค้าได้ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้า ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจ ชื่นชอบมากกว่าการใช้สื่อสารด้วยคำพูด การใช้เสน่ห์ดึงดูของอินฟลูเอนเซอร์สามารถช่วยโน้มน้าวให้ผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วมกับสินค้าที่ถูกนำเสนอโดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลในการตัดสินใจมาก การใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความน่าดึงดูดใจนั้นจะช่วยตอบโจทย์ ให้ผู้บริโภคเกิดความตั้งใจซื้อผลิตภัณฑ์
4. ความเคารพและชื่นชม (Respect) คือความเคารพที่กลุ่มเป้าหมายมีต่อความสำเร็จของอินฟลูเอนเซอร์บุคคลนั้น ๆ ทำให้เกิดความชื่นชมและนำมาเป็นต้นแบบ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของตนเอง ซึ่งความเคารพนั้นมักเกิดจากผู้บริโภคนิยมชมชอบความคิด ความสามารถพิเศษ หรือ การแสดงความคิดเห็นในสิ่งต่าง ๆ ของอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้เกิดความชื่นชมและนำมาเป็นต้นแบบ
5. ความเหมือนกับกลุ่มเป้าหมาย (Similarity) คือความคล้ายคลึงระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับกลุ่มผู้ติดตาม เช่น บุคลิกลักษณะ วิถีชีวิต อายุ เพศ เชื้อชาติ ดังจะเห็นได้จาก เครื่องดื่มบำรุงกำลัง คาราบาวแดง นำแอ๊ดคาราบาว มาเป็นตัวแทนในการเชื่อมโยงตราสินค้ากับกลุ่มเป้าหมายของสินค้า เป็นต้น การแสดงให้เห็นถึงระดับของผู้นำเสนอสินค้าที่มีความคล้ายคลึงกับผู้บริโภคในแง่ของลักษณะความสัมพันธ์ในการนำเสนอสินค้า ทั้งทางด้านบุคลิกภาพและพื้นฐานการดำเนินชีวิต เช่นอายุเพศ เชื้อชาติระดับทางสังคม ฯลฯ
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกใช้ Micro Influencer ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ การเลือกคนให้ตรงกับจุดประสงค์ เลือกคนที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจของคุณ ด้วยฐานข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์ 555,000 รายการ ของ Motive Influence จะช่วยให้คุณได้เจออินฟลูเอนเซอร์คนใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจของคุณให้ดียิ่งขึ้น สามารถติดต่อ Motive Influence ได้ที่แถบข้อมูลด้านล่างนี้
Website : www.motiveinfluence.com
Line : https://lin.ee/vomJXW2

11/07/2023

Threads คืออะไร ต่างกับ Twitter ยังไง?
หลังจากที่ Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ประกาศเปิดตัว ‘Threads’ แอปฯ ใหม่ที่ทำงานคล้าย Twitter ซึ่งพร้อมให้โหลดแล้ว วันนี้ Motive Influence ขอพาไปรู้จักเจ้า Threads กัน ว่าแอปฯ ใหม่แกะกล่องของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กจะดีหรือแตกต่างกับแอปนกฟ้าเจ้าของตลาดอย่าง Twitter ยังไงบ้าง
Threads คือแอปฯ ที่เน้นการสนทนา ตั้งสเตตัส และพิมพ์ข้อความต่าง ๆ ของ Instagram โดยจะเชื่อมโยงบัญชีผู้ติดต่อที่เรามีอยู่บน Instagram และจะมีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายกับ Twitter เช่น การรีโพสต์ การถูกใจ รีพลาย และการอนุญาตให้ผู้ใช้งานจำกัดได้ว่าใครสามารถตอบกลับโพสต์ของเราได้ นอกจากนี้ยังสามารถแปะลิงก์ลง Threads และมี thumbnails ขึ้นมาได้ด้วย ซึ่งจะเหมาะกับสื่อหรือสำนักข่าว หรือคนที่อยากจะแชร์ลิงก์น่าสนใจ
retweet = repost
tweets = threads
Threads ทำงานโดยการเชื่อมบัญชีของผู้ใช้กับ Instagram โดยตรงนั่นหมายความว่า คนที่จะใช้งาน Threads จำเป็นต้องมีบัญชีบน Instagram ก่อน
สิ่งที่ต่างกับ Twitter
แม้รูปแบบการใช้งานและหน้าตาจะละหม้ายคล้าย Twitter แต่สิ่งที่ทั้งคู่ต่างกันก็คือ ตอนนี้ Threads ยังไม่เปิดให้มี direct message ระหว่างบัญชี อีกทั้งยังไม่สามารถกดเซฟภาพได้ (แต่คาดว่าจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ทั้งสองนี้ในเวลาต่อมา)
โพสต์ใน Threads สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้ 500 ตัวอักษร และ อัปโหลดวิดีโอความยาว 5 นาทีได้ (Twitter โพสต์วิดีโอได้ไม่เกิน 10 นาที และโพสต์ข้อความได้ 280 ตัวอักษร แต่หากผู้ใช้มีบัญชี Twitter Blue ก็จะเพิ่มเป็น 4,000 ตัวอักษร โพสต์คลิปความยาว 1 ชั่วโมงได้
ด้วยความที่เป็นแอปฯ ย่อยของ Instagram ก็มีข้อดีอย่างมากนั่นก็คือ Threads สามารถแชร์โพสต์ไปที่สตอรี่ไอจีของคุณได้ อีกทั้งยังสามารถรีโพสต์ไปที่ Instagram ของคุณได้เช่นกัน
การเปิดตัว Threads ของพี่มาร์กในวันนี้ ไม่ต่างกับการท้าชนกับ Twitter โดยตรง เพราะก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ เจ้าของ Twitter ได้ออกมาประกาศว่า จะจำกัดการมองเห็นของผู้ใช้งานที่ไม่ได้สมัครใช้บริการ Twitter Blue ซึ่งเป็นบริการที่ผู้ใช้งานต้องจ่ายค่าธรรมเนียม โดยผู้ที่ไม่ได้สมัครบริการดังกล่าว จะถูกจำกัดให้เห็นทวิตได้แค่ประมาณ 600 ทวิตต่อวัน แม้ต่อมาจะเพิ่มให้เป็น 1,000 ทวิตต่อวัน แต่ก็ยังสร้างความพอใจให้กับผู้ใช้งานจำนวนมาก
ล่าสุดมีคนสมัคร Threads มากกว่า 10 ล้านบัญชีแล้ว ต้องรอดูว่า 24 ชั่วโมงแรกจะมีคนเข้ามาสมัครแอปฯ นี้เท่าไหร่

30/05/2023

TikTok vs Instagram แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับการตลาดแบบไหน?
โซเชียลมีเดียยอดนิยมในปัจจุบันมีอยู่หลายแพลตฟอร์ม โดยแต่ละแพลตฟอร์มก็มี Algorithm และกลุ่มผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมแตกต่างกันไป หากแบรนด์ของเราต้องการจะทำการตลาดให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด เราควรจะ;วางแผนการตลาดสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มอย่างไร วันนี้ Motive Influence นำข้อมูลความแตกต่างระหว่าง TikTok และ Instagram มาให้ทุกคนกันแล้ว
การ Target กลุ่มเป้าหมาย
แคมเปญการตลาดบน TikTok และ Instagram ของเราอาจสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
สำหรับ TikTok ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักเป็นวัยรุ่นหรือคน Gen Z โดยข้อมูลในเดือนเมษายน 2023 พบว่า ผู้ใช้งาน 38.9% อายุระหว่าง 18-24 ปี ซึ่งไม่ได้มีงบประมาณทางการเงินมาก และมักสนใจสินค้าราคาประหยัด หากเราต้องการโปรโมตสินค้า เราจึงอาจเลือกสินค้าที่ Range ราคาไม่สูงนัก และสามารถโปรโมตโปรโมชันที่น่าสนใจสำหรับนักศึกษาหรือเหล่า First Jobber โดยเฉพาะ
ในขณะที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่บน Instagram จะเป็นคนอายุระหว่าง 25-34 ปี และผู้ใช้งานโดยรวมของแพลตฟอร์มมีช่วง Range อายุที่มากกว่า TikTok รวมถึงมีการเปิดรับสินค้าช่วงราคาที่สูงกว่า TikTok การทำการตลาดบน Instagram จึงเหมาะกับแคมเปญที่ต้องการ Target กลุ่มคนในหลายช่วงวัย และโปรโมตสินค้าที่อาจพรีเมียมกว่า TikTok
สไตล์และคุณภาพของคอนเทนต์
ตัวแพลตฟอร์ม TikTok เองส่งเสริมให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำวิดีโอง่าย ๆ ทั้งถ่าย ตัดต่อ ใส่เพลง ใส่ Effect ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ผู้ใช้งาน TikTok จึงไม่ได้คาดหวังในการเห็นคอนเทนต์แบบ High-Production ที่ต้องภาพสวยงามคมชัด หรือมีการตัดต่อ Transition อะไรมาก คอนเทนต์ที่เวิร์คจึงเป็นคอนเทนต์แบบ Raw ดูธรรมชาติ และเน้นไปที่การสร้าง ที่เป็น challenge รวมถึงการเลือกเพลง และการเลือก Effect ตามเทรนด์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงมากกว่า
ในขณะที่ผู้ใช้งาน Instagram มักให้ความสำคัญกับ Aesthetic เช่น องค์ประกอบของภาพสวยงาม หรือภาพใน Account คุมโทน จำนวนคอนเทนต์ที่ลง Instagram อาจจะไม่จำเป็นต้องมากเท่า TikTok แต่เน้นที่ Production คุณภาพนั่นเอง
Organic Content
ผู้ใช้งาน TikTok มักจะเสพคอนเทนต์จากหน้า For You กันเป็นส่วนใหญ่ (คอนเทนต์ที่เราไม่ได้ Follow แต่อาจจะสนใจ) และ Algorithm ของ TikTok ก็ไม่ได้จำกัดว่าคอนเทนต์ที่แนะนำในหน้านี้จะเป็นคอนเทนต์จาก Account ดัง ๆ เท่านั้น แต่เปิดการมองเห็นให้กับคอนเทนต์จาก Account เล็ก ๆ เช่นกัน ทำให้แบรนด์ที่อาจไม่ได้มีฐาน Follower มาก่อนสามารถมีโอกาสสร้าง Organic Content (คอนเทนต์แบบไม่เสียค่าโฆษณา) ให้ไวรัล และ Reach กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้มาก
ในส่วนของ Instagram คนมักจะเสพคอนเทนต์จากหน้า Feed หรือ Stories ของตนเอง ซึ่งจะมาจาก Account ที่พวกเขา Follow อยู่แล้ว การจะ Reach กลุ่มเป้าหมายได้ จึงอาจต้องใช้ Sponsored Content (คอนเทนต์ที่จ่ายค่าโฆษณา) เข้าช่วย และถึง Instagram จะมีฟังก์ชัน Explore ที่คนสามารถใช้หาคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้ แต่ Algorithm จะไม่ได้ช่วยส่งเสริมหรือแสดงคอนเทนต์จาก Account ใหม่ ๆ มากเท่า TikTok การใช้ Organic Content จึงมักเป็นไปเพื่อ Retargeting ไปยังลูกค้าเดิมที่เคยแสดงความสนใจหรือเคยซื้อสินค้ามาก่อนมากกว่าการตามหาลูกค้าใหม่
Sponsored Content
TikTok และ Instagram มีรูปแบบคอนเทนต์โฆษณาที่แบรนด์สามารถทำได้แตกต่างกันในหลายส่วน
บน TikTok นอกจาก Standard in-feed ads แล้ว (วิดีโอโฆษณาทั่วไปที่ขึ้นมาแทรกระหว่างเราเลื่อนผ่านวิดีโอต่าง ๆ) ยังมี TikTok takeover โฆษณาที่บังคับให้ผู้ใช้งานดูตอนเข้าใช้แอป TikTok และ โฆษณาแบบ Branded hashtag challenge ที่เป็นการใช้ ของแบรนด์ให้คนหันมาสร้างคอนเทนต์ในแบบที่แบรนด์ต้องการ เป็นการทำให้เกิดกระแสหรือเทรนด์ที่ช่วยสร้าง Brand Awarenss ได้ดี
ทางด้าน Instagram เราสามารถเลือก Placement ของ Sponsored Content ได้หลายแบบ ทั้งแบบหน้า Feed ที่มีทั้ง Format ทั้งรูปภาพเดี่ยว ๆ รูปภาพแบบ Carousel ที่เป็นแคตาล็อกให้คนสามารถเลื่อนดูสินค้าได้หลายรูป วิดีโอ หรือเราจะเลือก Placement อื่นอย่างเช่น Stories หรือ Explore ก็ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามถ้าเทียบ Sponsored Content ที่รูปแบบคล้ายกันอย่าง Standard in-feed ads ของ TikTok และ Reel ads ของ Instagram การสำรวจพบว่าค่าโฆษณาบน Instagram Reels จะคุ้มค่ากว่าของ TikTok
Cost per click (จำนวนเงินที่ต้องจ่ายเมื่อมีคนคลิกโฆษณา 1 ครั้ง)
TikTok: 1,236 บาท
Instagram: 972 บาท
Cost per mille (จำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อให้มีคนเห็นคอนเทนต์ 1,000 ครั้ง)
TikTok: 171 บาท
Instagram: 57 บาท
TikTok และ Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับการทำ Marketing ทั้งคู่ เพียงแต่ทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้มีความแตกต่างที่ทำให้ต้องวางกลยุทธ์ในการทำแคมเปญที่แตกต่างกัน หากคุณสนใจทำ Marketing บนโซเชียลมีเดีย Motive Influence พร้อมให้คำปรึกษา

ที่อยู่

Thaniya Building 26th FL #C Silom Road
Bangkok
10500

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Synergy E - Online Media Solutionผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


เอเจนซี่ด้านสื่อ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด