FinSpace เพราะเราเชื่อว่าชีวิตที่ดี เริ่มจากการมีสถานะทางการเงินที่ดี

13/01/2025

รวมบัญชีเงินฝากประจำ "ปลอดภาษี" ให้ดอกเบี้ยสู๊ง 💵 เหมาะกับการเริ่มต้น "ออมเงิน" เพื่อเป้าหมายระยะสั้น และฝึกวินัยการออมไปในตัว 😍

11/01/2025

สติดีมากครับ น่าเอาไปบอกต่อให้คนที่บ้านฟัง จะได้ระวังกันเยอะๆ 👏🏻

11/01/2025

ขอคนละ 1 ข้อ! คำสอนเรื่องเงินจากพ่อแม่ที่จำตั้งแต่เด็กจนโต?

10/01/2025

⏳ ถ้าย้อนเวลากลับไปสอน 'เรื่องเงิน' ให้ตัวเองตอนเด็กได้
จะบอกอะไร?

เงินเดือนไม่ปรับ แต่ค่าใช้จ่ายขยับเอาๆ แนะนำให้นิ่งไว้ แล้วกดเข้า Jobsdb
10/01/2025

เงินเดือนไม่ปรับ แต่ค่าใช้จ่ายขยับเอาๆ แนะนำให้นิ่งไว้ แล้วกดเข้า Jobsdb

  x FINNOMENA l “หุ้นกู้” เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอและช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอ...
10/01/2025

x FINNOMENA l “หุ้นกู้” เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอและช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน แต่ก่อนตัดสินใจลงทุนหุ้นกู้ เคยสงสัยกันไหมว่า “ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคืออะไร?”

บทความนี้ Finnomena จะพาคุณไปรู้จักกับ “Credit Rating” ว่ามันคืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการลงทุนหุ้นกู้ เพื่อให้คุณสามารถเลือกลงทุนหุ้นกู้ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงได้

อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) คืออะไร?
อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) คือการประเมินความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agencies) ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในประเทศไทย สถาบันจัดอันดับเครดิตมี 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) บอกอะไร?
อันดับความน่าเชื่อถือบ่งบอกได้ว่าผู้ออกหุ้นกู้มีความสามารถในการชำระหนี้มากน้อยเพียงใด ยิ่งหุ้นกู้มีอันดับเครดิตสูง ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ก็ยิ่งต่ำ ทั้งนี้เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนหุ้นกู้นั้น ๆ

เกณฑ์การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating)
1. ลักษณะของบริษัทที่ออกหุ้น
2. ผลประกอบการของบริษัทที่ออกหุ้นกู้
3. การมีหลักทรัพย์ค้ำประกันของบริษัทที่ออกหุ้นกู้
4. ข้อตกลงและสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม
5. ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของตราสารหนี้
1. Investment Grade
เป็นหุ้นกู้กลุ่มที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับน่าลงทุน โดยมีอันดับเครดิตตั้งแต่ AAA คืออันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด AA+ AA AA- A+ A A- BBB+ BBB ไปจนถึง BBB- เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำถึงปานกลาง

2. Non-Investment Grade หรือ Speculative Grade
เป็นหุ้นกู้กลุ่มที่ลงทุนเพื่อเก็งกำไร มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูงกว่ากลุ่ม Investment Grade แต่ก็จ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าเช่นกัน โดยมีอันดับเครดิตตั้งแต่ BB+ ลงมา เรียงจาก BB+ BB BB- B+ B B- CCC+ CCC CC C โดย C มีความเสี่ยงที่สูงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข และต่ำสุดคือ D เป็นหุ้นกู้ที่อยู่ในสถานะผิดนัดชำระหนี้ ไม่สามารถจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามเงื่อนไข

3. Unrated Bond
เป็นหุ้นกู้กลุ่มที่ไม่มีการจัดอันดับเครดิต เนื่องจากเป็นหุ้นกู้ที่ไม่ได้ส่งไปจัดอันดับ หรือเป็นหุ้นกู้ที่ขอให้จัดอันดับแล้วแต่ไม่ได้รับการพิจารณา หุ้นกู้กลุ่มนี้มักจ่ายดอกเบี้ยให้สูงกว่ากลุ่มอื่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน

แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating Outlook) คืออะไร?
แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือช่วยบอกได้ว่าอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้นมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ โดยวิเคราะห์จากบริษัทที่ออกหุ้นกู้นั้น ๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโดยรวม แบ่งได้เป็น 4 ระดับ ดังนี้

1. Positive = มุมมองเป็นบวก = Credit Rating อาจปรับขึ้นได้
2. Stable = มุมมองคงที่ = Credit Rating อาจไม่เปลี่ยนแปลง
3. Negative = มุมมองเป็นลบ = Credit Rating อาจปรับลงได้
4. Developing = มุมมองไม่แน่นอน = Credit Rating อาจปรับในทิศทางใดก็ได้

กล่าวโดยสรุป อันดับความน่าเชื่อถือ หรือ Credit Rating เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการวิเคราะห์บริษัทที่ออกหุ้นกู้ว่ามีโอกาสหรือความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้มากน้อยเพียงใด เพื่อใช้ในประกอบการตัดสินใจก่อนลงทุนหุ้นกู้ ทั้งนี้อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะเศรษฐกิจและพื้นฐานของบริษัทนั้น ๆ ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามข้อมูลข่าวสารเสมอ และเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้

------------------------------------------
ติดตาม เพิ่มเติมได้ที่
Instagram : https://bit.ly/3N3Yc5X
TikTok : https://bit.ly/3pAovpq
x : https://bit.ly/3Cp68Ll
Blockdit : https://bit.ly/3VM3HJr
Website : http://bit.ly/2lxvlhY

09/01/2025

ถ้าหากต้องย้ายงาน 🥲
อะไรคือปัจจัยในการเลือกงานที่ใหม่ครับ ถ้าไม่นับเรื่องเงิน ?

 #เก็บเงิน101 l วางแผนดีมีเงินใช้ตามหลัก S.M.A.R.T เพื่อเป้าหมายที่สำเร็จได้จริงหลักการ S.M.A.R.T เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วย...
09/01/2025

#เก็บเงิน101 l วางแผนดีมีเงินใช้ตามหลัก S.M.A.R.T เพื่อเป้าหมายที่สำเร็จได้จริง

หลักการ S.M.A.R.T เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยจัดการเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักนี้เน้นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งช่วยให้เรามีแนวทางและแรงผลักดันในการออมเงินหรือใช้จ่ายอย่างมีวินัย

💡 S.M.A.R.T ตัวย่อแต่ละตัว หมายถึงอะไร ?

S: Specific (ต้องชัดเจน ไม่คลุมเครือ)
- การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น แทนที่จะบอกว่า "อยากมีเงินเก็บ" เราควรระบุว่า "อยากเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ" การตั้งเป้าหมายแบบนี้จะทำให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนในการเก็บเงิน

M: Measurable (วัดผลได้ เป็นตัวเลข)
- เป้าหมายที่ดีต้องวัดผลได้ เช่น การกำหนดตัวเลขที่ชัดเจนว่าเราจะเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ ?

A: Achievable (รู้ว่าต้องทำแบบไหน)
- เป้าหมายต้องเป็นไปได้ และมีวิธีการที่จะไปถึง ยกตัวอย่างเช่น อยากเก็บเงินไปเที่ยว เราก็ควรมีแผนที่บอกได้ว่าต้องออมเดือนละเท่าไหร่ นำไปลงทุนที่ไหน เป็นต้น

R: Realistic (อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง)
- การตั้งเป้าหมายต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เช่น ออมเงิน 10-20% ของรายได้ เพื่อไม่ให้เป้าหมายสูงเกินไปจนรู้สึกท้อ และไม่ลำบากเงินส่วนอื่น ๆ

T: Time Bound (กำหนดระยะเวลา)
- เป้าหมายต้องมีกรอบเวลาชัดเจน เช่น จะเก็บเงินให้ได้ 50,000 บาทภายใน 10 เดือน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เรามีความพยายามต่อเนื่อง

#ออมเงิน
------------------------------------------
ติดตาม เพิ่มเติมได้ที่
Instagram : https://bit.ly/3N3Yc5X
TikTok : https://bit.ly/3pAovpq
x : https://bit.ly/3Cp68Ll
Blockdit : https://bit.ly/3VM3HJr
Website : http://bit.ly/2lxvlhY

08/01/2025

สูตร "ออมเงิน" หวังผลระยะยาว
◾ ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% 🏡🍛🚗
◾ วางแผนเกษียณ 15% 📈👨‍🦳💵
◾ เงินสำรองฉุกเฉิน 5% 💰🚑😰
◾ ค่าใช้จ่ายตามใจ 30% 🤩🏖️🎉

07/01/2025

ถ้าหากซื้อสินค้าหรือบริการ "Easy E-Receipt 2.0" สูงสุด 50,000 บาท ได้เงินภาษีคืนสูงสุดเท่าไหร่ ?
✅ กรณีซื้อครบ 10,000 บาท
- ฐานภาษี 5% ได้คืนสูงสุด 500 บาท
- ฐานภาษี 10% ได้คืนสูงสุด 1,000 บาท
- ฐานภาษี 15% ได้คืนสูงสุด 1,500 บาท
- ฐานภาษี 20% ได้คืนสูงสุด 2,000 บาท
- ฐานภาษี 25% ได้คืนสูงสุด 2,500 บาท
- ฐานภาษี 30% ได้คืนสูงสุด 3,000 บาท
- ฐานภาษี 35% ได้คืนสูงสุด 3,500 บาท
✅ กรณีซื้อครบ 20,000 บาท
- ฐานภาษี 5% ได้คืนสูงสุด 1,000 บาท
- ฐานภาษี 10% ได้คืนสูงสุด 2,000 บาท
- ฐานภาษี 15% ได้คืนสูงสุด 3,000 บาท
- ฐานภาษี 20% ได้คืนสูงสุด 4,000 บาท
- ฐานภาษี 25% ได้คืนสูงสุด 5,000 บาท
- ฐานภาษี 30% ได้คืนสูงสุด 6,000 บาท
- ฐานภาษี 35% ได้คืนสูงสุด 7,000 บาท
✅ กรณีซื้อครบ 30,000 บาท
- ฐานภาษี 5% ได้คืนสูงสุด 1,500 บาท
- ฐานภาษี 10% ได้คืนสูงสุด 3,000 บาท
- ฐานภาษี 15% ได้คืนสูงสุด 4,500 บาท
- ฐานภาษี 20% ได้คืนสูงสุด 6,000 บาท
- ฐานภาษี 25% ได้คืนสูงสุด 7,500 บาท
- ฐานภาษี 30% ได้คืนสูงสุด 9,000 บาท
- ฐานภาษี 35% ได้คืนสูงสุด 10,500 บาท
✅ กรณีซื้อครบ 40,000 บาท
- ฐานภาษี 5% ได้คืนสูงสุด 2,000 บาท
- ฐานภาษี 10% ได้คืนสูงสุด 4,000 บาท
- ฐานภาษี 15% ได้คืนสูงสุด 6,000 บาท
- ฐานภาษี 20% ได้คืนสูงสุด 8,000 บาท
- ฐานภาษี 25% ได้คืนสูงสุด 10,000 บาท
- ฐานภาษี 30% ได้คืนสูงสุด 12,000 บาท
- ฐานภาษี 35% ได้คืนสูงสุด 14,000 บาท
✅ กรณีซื้อครบ 50,000 บาท
- ฐานภาษี 5% ได้คืนสูงสุด 2,500 บาท
- ฐานภาษี 10% ได้คืนสูงสุด 5,000 บาท
- ฐานภาษี 15% ได้คืนสูงสุด 7,500 บาท
- ฐานภาษี 20% ได้คืนสูงสุด 10,000 บาท
- ฐานภาษี 25% ได้คืนสูงสุด 12,500 บาท
- ฐานภาษี 30% ได้คืนสูงสุด 15,000 บาท
- ฐานภาษี 35% ได้คืนสูงสุด 17,500 บาท
**รายได้สุทธิต่อปีไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับยกเว้นภาษี ไม่จำเป็นต้องซื้อ**

#ลดหย่อนภาษี #เงินทองของใกล้ตัว

 #เงินทองของใกล้ตัว | สรุปจบในหน้าเดียว Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีปี 68 สูงสุด 50,000 บาท มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?นับถอย...
07/01/2025

#เงินทองของใกล้ตัว | สรุปจบในหน้าเดียว Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีปี 68 สูงสุด 50,000 บาท มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?

นับถอยหลัง 10 วัน สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในปี 2568 “Easy E-Receipt 2.0” โดยให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท จากการซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ที่มี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt

โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

✅ #ส่วนที่1 ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท
- ซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการจด VAT โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน
- ซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบที่ไม่ได้จด VAT โดยต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน

✅ #ส่วนที่2 ลดหย่อนได้ไม่เกิน 20,000 บาท
- ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)
- ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากวิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
- ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

❌ ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่ไม่เข้าร่วมโครงการ
- ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่าซื้อยาสูบ
- ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (รถจักรยานยนต์รวมถึงรถจักรยานที่ติดเครื่องยนต์) และค่าซื้อเรือ
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาของมาตรการ
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และค่าที่พักโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม

📆 ระยะเวลาของโครงการ
เริ่ม 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568 (มีเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง)

🧐 หากไม่แน่ใจว่าสินค้าหรือบริการอันไหนเข้าร่วมไม่เข้าร่วมบ้างให้สังเกตสัญลักษณ์ที่อยู่ในรูปก่อนซื้อ

📢 สิ่งที่ขาดไม่ได้ e-Tax Invoice และ e-Receipt ต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี อากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการครับ

ที่มา:https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/news/2567thai/news5_2568.pdf

------------------------------------------
ติดตาม เพิ่มเติมได้ที่
Instagram : https://bit.ly/3N3Yc5X
TikTok : https://bit.ly/3pAovpq
x : https://bit.ly/3Cp68Ll
Blockdit : https://bit.ly/3VM3HJr
Website : http://bit.ly/2lxvlhY

 #ลงทุนกัน l สไตล์การลงทุน DCA หรือ Lump Sum แบบไหนเหมาะกับเรา ?DCA คือ การลงทุนแบบสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน โด...
06/01/2025

#ลงทุนกัน l สไตล์การลงทุน DCA หรือ Lump Sum แบบไหนเหมาะกับเรา ?

DCA คือ การลงทุนแบบสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน โดยกำหนดความถี่ เช่น ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ข้อดีคือ ได้ฝึกวินัยการลงทุน ได้ถัวเฉลี่ยต้นทุน ได้กระจายความเสี่ยง และตัดอารมณ์ในการลงทุนออกไป ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับ มนุษย์เงินเดือน นักลงทุนมือใหม่ หรือนักลงทุนที่มีทุนไม่สูง

Lump Sum คือ การลงทุนเงินก้อนแบบครั้งเดียว ข้อดีคือ หากเราจับจังหวะถูกก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ มีเงินลงทุนก้อนใหญ่ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.finspace.co/dca-lumpsum/

Credit รูปจาก Squid Game 2

06/01/2025

คลิกเดียวรู้เรื่อง !
ใช้ Digital My Tax ดึงข้อมูลรายได้และค่าลดหย่อนปีภาษี 67 🧐 ตัวอย่างเช่น อยากดู Easy E-Receipt ปี 67 ว่าเราซื้ออะไรไปบ้าง

06/01/2025

หากถูกบริษัทหักภาษี ณ ที่จ่าย ในระหว่างปีนั้นๆ พอคำนวณภาษีออกมาแล้ว ถ้า "เงินที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย" มากกว่า "เงินภาษีที่ต้องจ่ายจริง" เราจะได้เงินส่วนเกินนี้คืน

03/01/2025

รู้ไหม ? หุ้นตัวไหนอยู่เบื้องหลังโครงการสำคัญบนทำเลทอง ใจกลางกรุงเทพ !

#ตลาดหลักทรัพย์ #หุ้น #หุ้นบริษัทจดทะเบียน #หุ้นใกล้ตัว #สถานที่ #ทำเลทอง #ใจกลางกรุงเทพ

 #เก็บเงิน101 l เริ่มต้นปีใหม่ด้วยนิสัยการเงินที่ดี ผ่านการออมเงิน 20% จากรายได้ทุกเดือน เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ทรงพลัง เพื่อ...
02/01/2025

#เก็บเงิน101 l เริ่มต้นปีใหม่ด้วยนิสัยการเงินที่ดี ผ่านการออมเงิน 20% จากรายได้ทุกเดือน เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ทรงพลัง เพื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะซื้อบ้าน วางแผนเกษียณ หรือสร้างความมั่นคงให้ชีวิต

ทำไมการออมถึงสำคัญ ?
ออมเงินอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่เมื่อเราออมอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้เราภาคภูมิใจในตัวเอง เพราะ ทุกก้าวเล็ก ๆ ในวันนี้ คือการสร้างรากฐานเพื่อวันพรุ่งนี้

#บอกต่อเคล็ดลับ จากตารางจะเห็นได้ว่า ถ้าเราสามารถออมเงินในสัดส่วนที่มากขึ้น จะทำให้เราใช้เวลาน้อยลงในการบรรลุเป้าหมาย และการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก เช่น กองทุนรวมและหุ้น จะช่วยเร่งให้เงินเติบโตได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง

------------------------------------------
ติดตาม เพิ่มเติมได้ที่
Instagram : https://bit.ly/3N3Yc5X
TikTok : https://bit.ly/3pAovpq
x : https://bit.ly/3Cp68Ll
Blockdit : https://bit.ly/3VM3HJr
Website : http://bit.ly/2lxvlhY

ที่อยู่

Finnomena
Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ FinSpaceผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง FinSpace:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Our Story

FINANCE (การเงินการลงทุน) + Space (ช่องว่าง)

จากการเห็นช่องว่างระหว่างคนอยากลงทุนและคนที่ลงทุนแล้ว ซึ่งการทำ Content ในปัจจุบันยังมีความต่างของระดับความยากง่ายอยู่ ทำให้หลายคนที่อยากเริ่มต้นลงทุนถอดใจไปก่อนเพราะอ่านบทความทางด้านการเงินไม่เข้าใจ

ซึ่ง FinSpace ได้เห็นความสำคัญในจุดนี้ เราจึงหยิบจุดแข็งในการย่อย Content ของกูรูในเครือและ กองบก. ของเรามาร่วมกันทำ Special Content ที่ทำให้เรื่องการเงินสนุกและน่าสนใจมากขึ้นผ่านการนำเสนอในหลากหลายรูปแบบให้เข้าถึงบุคคลทั่วไป รวมถึงนักลงทุนมือใหม่และมือเก๋า นอกจากเรื่องการลงทุนแล้วเรายังมี Lifestyle Content ที่จะเป็นแรงบันดาลใจ และช่วยยกระดับชีวิต เพิ่มความรู้ของผู้อ่านได้อีกด้วย เพราะเราเชื่อว่าการมีสถานะการเงินที่ดีจะนำมาซึ่งชีวิตที่ดีขึ้น เพราะ

“เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ แต่เกือบทุกอย่างซื้อได้ด้วยเงิน”