12/08/2024
ปารีส 2024 🇫🇷 เป็นโอลิมปิกที่มีวาไรตี้ และดูมีชีวิตที่สุดในหลากหลายแง่มุม🎉🔥
#ยิ้มสยาม #โอลิมปิก2024 #ทีมชาติไทย #นักกีฬาไทย #โปรแกรมโอลิมปิก #โปรแกรมกีฬาโอลิมปิก2024 #โอลิมปิก #โอลิมปิกเกมส์
ต้องยอมรับจริงๆ ว่าโอลิมปิกครั้งนี้ สนุกมากเหลือเกิน
ในสนามก็ลุ้นระทึก ส่วนนอกสนามก็มีดราม่าไม่หยุด ตลอด 17 วัน มีเรื่องให้เราได้ตื่นเต้นกันตลอดเวลา
โอลิมปิกเกมส์ คือจุดสูงสุดของมหกรรมกีฬาในโลกใบนี้ เพราะทุกชาติมีส่วนร่วมทั้งหมด คุณไม่จำเป็นต้องได้เหรียญ แต่การได้มาร่วมแข่ง ได้ถูกเรียกว่าเป็น Olympian ก็ถือเป็นความภูมิใจแล้ว
สำหรับประเทศไทยของเรา โอลิมปิกครั้งนี้ มีเรื่องให้จดจำหลายอย่างมาก เช่น
- การคว้าเหรียญทองของพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ทำให้เธอได้กลายเป็น GOAT ของวงการเทควันโด้โลก
- การคว้าเหรียญเงินของกุลวุฒิ วิทิตศานต์ นับหนึ่งให้วงการแบดมินตันไทย ปลดล็อก 32 ปี ที่ไร้เหรียญได้เสียที
- การคว้าเหรียญทองแดงของจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง กับไฟต์สุดมันส์เอาชนะตุรกี ในรอบ 8 คนสุดท้าย และดราม่าที่เธอถูกพ่วงเข้าไปเรื่องอิมาน เคลิฟ
- การคว้า 3 เหรียญของทีมยกน้ำหนัก คัมแบ็กจากการโดนแบนปั๊บก็ประกาศความยิ่งใหญ่ทันที และเราสามารถลุ้นถึงเหรียญทองได้เลยในโอลิมปิกครั้งต่อไป
- การเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของทีมปิงปองหญิงไทย เอาชนะเจ้าภาพฝรั่งเศสได้ ในรอบ 16 ทีม ทั้งๆ ที่โดนแมตช์พอยต์ไปแล้วยังโกงตายมาได้
- การทะลุถึงรอบเซมิไฟนอล ในการแข่งวิ่ง 100 เมตรของ บิว-ภูริพล บุญสอน เป็นคนเอเชียที่ไม่มีเลือดเนื้อแอฟริกันเพียงคนเดียวในปี 2024 ที่เข้าถึงรอบนี้ได้
- การแจ้งเกิดของน้องเอสที เด็กสาววัย 12 ปี จากกีฬาสเกตบอร์ด นักกีฬาอายุน้อยที่สุดตลอดกาลที่คว้าโควต้าโอลิมปิกให้ประเทศไทย
หลายต่อหลายเรื่อง ที่สร้างความสุข และความตื่นเต้นให้กับคนไทย ตลอดสองสัปดาห์ของโอลิมปิกเกมส์
คือจะคว้าเหรียญได้หรือไม่ นั่นก็ประเด็นหนึ่ง แต่สิ่งที่เราเห็นคือนักกีฬาไทยทั้ง 51 คน ได้ทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่มากๆ
ขอบคุณสำหรับความตั้งใจนะครับ คนไทยรับรู้ได้ ว่าคุณพยายามจนสุดความสามารถแล้วจริงๆ
ในมิติเรื่องกีฬานั้น การได้ 6 เหรียญของเราในโอลิมปิกที่ปารีส ทำให้ประเทศไทย แซงอินโดนีเซีย กลายเป็นชาติที่ได้เหรียญรวมในโอลิมปิก สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียนแล้ว
ด้วยจำนวน 41 เหรียญ (11 ทอง, 11 เงิน, 19 ทองแดง) โดยอินโดนีเซีย ตอนนี้มี 40 เหรียญ (10 ทอง, 14 เงิน, 16 ทองแดง) ต่างกันอยู่ 1 เหรียญ
ส่วนตัว ผมคิดว่าเหรียญโอลิมปิก คือเครื่องยืนยัน ว่าใครคือของจริงในอาเซียนครับ ไม่ใช่ "ซีเกมส์" ที่เต็มไปด้วยกีฬาพื้นบ้าน
ดูอย่างเวียดนาม เจ้าเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน แต่พอมาโอลิมปิกได้ 0 เหรียญ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าซีเกมส์มันชี้วัดอะไรไม่ได้จริงๆ
ดังนั้น อย่าเอาซีเกมส์ มาเป็นเกณฑ์ว่า กีฬาไทยดีขึ้นหรือแย่ลง ไปร่วมแข่งอย่างเต็มที่ก็พอ แต่ถ้าไม่ได้เจ้าเหรียญทอง ก็ไม่ได้แปลว่าโลกจะสลายครับ
จากเหรียญรวม 41 เหรียญ ทำให้ตอนนี้เรายืนหนึ่งในอาเซียน แต่จะแผ่วไม่ได้เด็ดขาด เพราะอินโดนีเซียตามมาแบบประชิดเลย หวังว่าในลอสแองเจลิส 2028 เราจะยังยืนหนึ่งในอาเซียนได้ต่อไปอีกครับผม
ในพิธีปิดของโอลิมปิก ไฮไลท์ที่คนจับตาดูมี 2 อย่าง อย่างแรกคือ โชว์ของเจ้าภาพครั้งต่อไป ที่จะต้องแสดงให้โลกได้เห็นว่า คุณมีอะไรมาขาย ในโอลิมปิกคราวหน้า
และอย่างที่สองคือ การดับคบเพลิง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าทุกอย่างได้จบลงอย่างเป็นทางการ
เรื่องการโชว์ของเจ้าภาพครั้งถัดไปนั้น ที่ริโอ 2016 ประเทศญี่ปุ่นเคยสร้างความตื่นตะลึง ด้วยการเอาชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี โผล่มากลางสนามมาราคาน่า ด้วยวิธีการออกมาจากท่อของมาริโอ เป็นการโชว์ซอฟต์พาวเวอร์ของญี่ปุ่นได้อย่างน่ารักมาก
ผู้คนจึงจับตาดู ว่าเมืองลอสแองเจลิส เจ้าภาพปี 2024 จะโชว์อะไรเจ๋งๆ ให้เราเห็น ในพิธีปิดที่ปารีสรอบนี้
สิ่งที่ลอสแองเจลิส ที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีเหนือใครแน่ๆ คือ "พลังแห่งฮอลลีวู้ด" นี่คือนครดาราอันดับหนึ่งของโลก
สตูดิโอภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ ที่เรียกว่า "บิ๊กไฟว์" ได้แก่ ยูนิเวอร์แซล, พาราเมาต์, วอร์เนอร์ บราเธอร์ส, วอลต์ ดิสนีย์ และ โซนี่ พิคเจอร์ส ล้วนตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียทั้งสิ้น
นั่นทำให้ ผู้จัดโอลิมปิกของลอสแองเจลิส ส่ง ทอม ครูซ นักแสดงชื่อดัง โหนสลิงลงมาจากด้านบนของสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในธีมของมิสชั่น อิมพอสสิเบิ้ล
ทอม ครูซ ปัจจุบันอายุ 62 ปี แต่ยังคงเล่นภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง เขาเป็นนักแสดงที่เล่นจริง แสดงจริง ไม่ใช้สตั๊นท์ ซึ่งในพิธีปิดโอลิมปิก เขาก็โชว์การห้อยตัวลงมาจากหลังคาสนามได้อย่างสวยงามมาก
ทอม ครูซ วิ่งมารับธงโอลิมปิกจากคาเรน เบส นายกเทศมนตรีของลอสแองเจลิส แล้วควบธงซิ่งมอเตอร์ไซค์ออกจากสนาม ไปขึ้นเครื่องบิน
จากนั้นฉากก็ตัดไปที่ลอสแองเจลิส ทอม ครูซ สกายไดฟ์ลงมา แล้ววิ่งไปที่ป้ายโลโก้ Hollywood Sign ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาซานต้าโมนิก้า ก่อนจะเปลี่ยน ตัวอักษร OO ในป้าย ให้กลายเป็น วงแหวน 5 ห่วง สัญลักษณ์โอลิมปิกแทน
จากนั้น ทอม ครูซ ส่งธงโอลิมปิกต่อให้ เคท คอร์ตนีย์ นักปั่นจักรยานเสือภูเขา ปั่นลงมาจากเทือกเขาซานต้าโมนิก้า
โดยจักรยานเสือภูเขานั้น กลายมาเป็นกีฬา ในยุค 1970s โดยมีต้นกำเนิดที่แคลิฟอร์เนียนั่นเอง นี่ก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของรัฐนี้อีกหนึ่งอย่าง
เคท คอร์ตนีย์ ปั่นเข้ามาถึงสนาม แอลเอ เมโมเรียล โคลิเซียม ซึ่งเป็นสังเวียนจัดโอลิมปิกมาแล้ว 2 ครั้ง (1932, 1984) ก่อนจะส่งธงต่อให้ไมเคิล จอห์นสัน นักวิ่งระยะสั้นเจ้าของ 4 เหรียญทองโอลิมปิก รับไม้ต่อ
จอห์นสันวิ่งเอาธงโอลิมปิก มาส่งต่อให้แจ๊กเกอร์ อีตัน นักสเกตบอร์ด ไถต่อมาเรื่อยๆ จนถึง "เวนิซ บีช" หาดชื่อดังของลอสแองเจลิส
สเกตบอร์ด ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแคลิฟอร์เนีย บ้านเกิดของสเกตบอร์ดก็อยู่ที่รัฐนี้ นักสเกตบอร์ดในตำนานโทนี่ ฮอว์ก ก็เป็นคนแคลิฟอร์เนีย ดังนั้นก็เลยไม่แปลกที่จะเอามาร่วมอยู่ในโชว์พิธีปิดด้วย
แจ๊กเกอร์ อีตันเดินทางมาถึงเวนิซ บีช สถานที่ Iconic ของเมือง และนำไปสู่อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของลอสแองเจลิส นั่นคือ "ดนตรี"
โดยเริ่มจากเรด ฮอต ชิลลี่ เปปเปอร์ เล่นสองเพลง คือ By the Way กับ Can't Stop
สมาชิกทั้ง 4 คนของเรด ฮอต ชิลลี่ เปปเปอร์ ไม่มีใครเกิดที่แคลิฟอร์เนียก็จริง แต่วงนี้ถูกฟอร์มขึ้น จากนักร้องนำแอนโธนี่ คีดิส กับ มือเบส เฟลีย ซึ่งเป็นเพื่อนกันที่โรงเรียนมัธยมแฟร์เท็กซ์ ในลอสแองเจลิส
เมื่อเรด ฮอตเล่นจบ ก็โยนต่อให้ บิลลี่ ไอลิช ร้องเพลงชื่อ Birds of a feather ซึ่งบิลลี่ เกิดและโตที่ลอสแองเจลิสเลย เป็นไอคอนอีกคนของเมืองนี้
ร็อคไปแล้ว ป๊อปไปแล้ว ก่อนจะปิดท้ายด้วยฮิปฮอป โดย Snoop Dogg และ Dr.Dre ร้องเพลง Drop it like it's hot และ The Next Episode
Snoop Dogg กับ Dr.Dre เป็นแรพเปอร์ฝั่งเวสต์โคสต์ ที่เป็นคนลอสแองเจลิสทั้งคู่ นี่ก็เป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของแอลเอได้เป็นอย่างดี
ผมแอบชอบ ที่เพลงสุดท้ายที่เขาเลือกใช้ คือ The Next Episode (บทต่อไป) เหมือนจะพูดถึงว่าโอลิมปิกที่ปารีสจบแล้ว บทต่อไปก็ได้เวลาของลอสแองเจลิสแล้ว
ในช่วงประมาณครึ่งชั่วโมง ที่แอลเอปล่อยโชว์พิธีปิด ผมรู้สึกชอบนะครับ คิดว่าก็มีเสน่ห์ดี
คือพวกเขารู้ตัว ว่าไม่ได้มีวัฒนธรรมหลายร้อยปีแบบปารีส ไม่มีพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ หรือ มหาวิหารนอตเตรอดาม แต่ก็ไม่เป็นไร แอลเอก็มีความน่าสนใจของตัวเองมากมาย
ทั้ง ฮอลลีวู้ด, จักรยานเสือภูเขา, สเกตบอร์ด และนักดนตรีระดับโลก ก็เป็นการเอาจุดแข็งที่ตัวเองมี มาโชว์ให้โลกเห็น
หลังจากหมดช่วงโชว์ของแอลเอ ก็เข้ามาสู่ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของพิธีปิด นั่นคือ "การดับไฟโอลิมปิก"
โดยพิธีการช่วงนี้ เริ่มโดย เลอง มาร์กชองด์ นักว่ายน้ำชาวฝรั่งเศส วัย 22 ปี เป็นคนนำตะเกียงไฟ จากสวนตุยเลอรี่ มาที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์
เลอง มาร์กชองด์ คือสัญลักษณ์แห่งโลกกีฬาคนต่อไป หลังจากหมดยุคของ ยูเซน โบลต์ และ ไมเคิล เฟลป์ส ก็จะเป็นมาร์กชองด์คนนี้แหละ ที่จะเข้ามาสร้างความตื่นตะลึงในโอลิมปิกเกมส์
มาร์กชองด์ ทำไป 4 เหรียญทองในโอลิมปิกครั้งนี้ ด้วยการทำลายสถิติโอลิมปิกทั้ง 4 รายการ และก็ยังเป็นนักกีฬาที่ทำเหรียญทองได้มากที่สุดในปารีส 2024 อีกด้วย
มาร์กชองด์เดินนำตะเกียงไฟ ขึ้นมาสู่เวที โดยบนเวทีมีนักกีฬา 6 คน จาก 6 ทวีปรออยู่แล้ว โดย 6 คนดังกล่าวประกอบด้วย
เท็ดดี้ ไรเนอร์ - นักยูโดฝรั่งเศส (ตัวแทนยุโรป)
มิเชน โลเปซ - นักมวยปล้ำคิวบา (ตัวแทนอเมริกาเหนือ กลาง ใต้)
ซุน ยิงฉา - นักปิงปองจีน (ตัวแทนเอเชีย)
เอลิอูด คิปโชเก้ - นักวิ่งเคนย่า (ตัวแทนแอฟริกา)
เอ็มมา แม็คคีอน - นักว่ายน้ำออสเตรเลีย (ตัวแทนโอเชียเนีย)
ซินดี้ เอ็นกัมบ้า - ตัวแทนจากทีมผู้ลี้ภัย
จากนั้นโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้กล่าวสรุปตอนจบว่า "เหล่าเยาวชนทั่วทั้งโลก เจอกันอีกครั้งในอีก 4 ปีข้างหน้าที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เราจะมาฉลองการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 34 ร่วมกัน"
สำหรับขั้นตอนการดับไฟนั้น เป็นโมเมนต์ที่เรียบง่ายที่สุด และคงไม่มีอะไรจะเรียบไปกว่านี้แล้ว นั่นคือ ให้นักกีฬาทั้ง 6 คนตัวแทนจากทุกทวีป, มาร์กชองด์ และ โทมัส บาค ช่วยกัน "เป่าไฟในตะเกียง" ด้วยลมจากปากตัวเอง
แล้วไฟโอลิมปิกก็ดับลงง่ายๆ แบบนั้นเอง
คือนี่เป็นลูกเล่นที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดดีๆ ก็เหนือชั้นอยู่ คือทำให้เห็นว่า ถ้าหากคนทั่วโลกร่วมแรงร่วมใจกันทำอะไรสักอย่าง มันสามารถลุล่วงได้ง่ายนิดเดียว
ไฟโอลิมปิกดับลง และนั่นหมายถึงโอลิมปิกครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส ปิดฉากลงเรียบร้อย ด้วยความสุข และความประทับใจ
เอาจริงๆ ก็ไม่แปลกใจนัก ที่สื่อต่างประเทศหลายเจ้า ยกย่องว่านี่่คือ The Best Olympics Ever หรือ โอลิมปิกที่ดีที่สุดตลอดกาล
เรื่องพิธีเปิด - พิธีปิด ความชอบของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการจัดแข่งกีฬาล่ะก็ ในครั้งนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก
ขณะที่บ้านเมืองก็สวยงาม สนามแข่งขันอลังการ ใครจะไปคิดว่าคุณจะเอาสถานที่ท่องเที่ยวอย่างกร็องด์ปาเลส์ มาใช้แข่งเทควันโด้ และ พระราชวังแวร์ซายล์ มาใช้แข่งขี่ม้า
นอกจากนั้น ฝรั่งเศส อาจเป็นชาติแรกในรอบหลายปีที่ทำกำไร จากการแข่งโอลิมปิกอีกด้วย
ที่ริโอ 2016 ขาดทุนยับ ที่โตเกียว 2020 ก็ขาดทุนยับ แต่ฝรั่งเศสคราวนี้ แทบไม่ได้ใช้เงินสร้างสนามแห่งใหม่เลย พวกเขาเอาสถานที่ท่องเที่ยวบ้าง หอประชุมบ้าง มาปรับเป็นสนามแข่งเฉพาะกิจแค่จบอีเวนต์ คือลดต้นทุนส่วนก่อสร้างไปได้มาก
การจัดการภายในดี ความปลอดภัยเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง นักกีฬามีความสุข ส่วนแฟนๆ ที่ไปเชียร์ก็แฮปปี้ มีรายงานว่าโอลิมปิกครั้งนี้ มีคนขอแต่งงานมากที่สุดถ้าเทียบกับโอลิมปิกทุกๆ ครั้งด้วย
ดราม่าใดๆ ก็มีบ้าง แต่ก็ไม่เยอะถึงขนาดเป็นเฮดไลน์ใหญ่ โดยรวมถือว่าจัดแข่งได้ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว
และการที่ปารีส 2024 ตั้งบาร์เอาไว้สูงลิ่วแบบนี้ ทำให้เจ้าภาพ ชาติต่อไปจากนี้ ทั้งแอลเอ 2028 และ บริสเบน 2032 ต้องไล่ตามมาตรฐานนี้กันเหนื่อยเลยทีเดียว
----------------------
ทิ้งท้ายโพสต์นี้ ด้วยคำขอบคุณของผมเองนะครับ
ในช่วงโอลิมปิกที่ปารีส ด้วยความตื่นเต้นของการแข่งขัน ผมเองก็เลยพยายามมากๆ ที่จะงานเขียนทุกโพสต์ ออกมาดีที่สุด ผิดพลาดน้อยที่สุด เพื่อให้คุณผู้อ่านได้สนุกและได้ความรู้เกี่ยวกับกีฬาประเภทต่างๆ ครับ
ดีใจนะครับ ที่มีคนอ่านบทความเยอะมากเลย หลายๆ โพสต์คนแชร์เป็นหมื่น และบางโพสต์ก็ถูกนำไปอ่านออกรายการทางโทรทัศน์ด้วย ปลื้มใจมากๆ ครับ
สิ่งที่ผมรู้สึกคือ ในยุคที่คลิปสั้นกำลังครองโลก แต่จริงๆ แล้ว ก็ยังมีคนรักการอ่านมากมายขนาดนี้เลยเนอะ สำหรับนักเขียนคนหนึ่ง มันก็น่าดีใจครับผม
ขอบคุณสำหรับทุกคำชื่นชมที่มอบให้นะครับ ผมขอรับไว้ด้วยใจจริงๆ
ส่วนคำแนะนำใดๆ ผมจะรับมา เพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่านี้อีกครับ
ในอนาคตถ้าหากมีเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา คิดถึงวิเคราะห์บอลจริงจังได้เลยครับ ผมอยู่ตรงนี้เสมอนะครับ ไม่หายไปไหนแน่นอน