โจโฉ ดีชั่ว ตัวก็รู้ แต่ยังทำอยู่เพื่ออะไร? เป็นศูนย์กลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างสร้างสรรค์ ครอบคลุมทุกพื้นที่
(13)

ขอพระกลับคืน "ถ้ำจอมพล"สจ.เขตอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ขอนำพระพุทธรูปโบราณคืนถ้ำจอมพล เพื่อเตรียมจัดพิธีสมโภช 130 ปี เส...
26/08/2024

ขอพระกลับคืน "ถ้ำจอมพล"
สจ.เขตอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ขอนำพระพุทธรูปโบราณคืนถ้ำจอมพล เพื่อเตรียมจัดพิธีสมโภช 130 ปี เสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ 5 อย่างยิ่งใหญ่
นายมนตรี ใช่รุ่งเรือง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขตอำเภอจอมบึง จ.ราชบุรี เปิดเผยกรณีที่มีพระพุทธรูปโบราณปางลีลา ที่อดีตเคยประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำจอมพล อ.จอบบึง แล้วได้ถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมืองราชบุรี เมื่อหลายปีก่อน ด้วยเหตุผลกลัวพระจะหาย จึงได้ถูกย้ายออกเพื่อความปลอดภัยนั้น ด้วยวันเวลาผ่านไปการดูแลพื้นที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องการขอนำพระพุทธรูปโบราณที่เคยประดิษฐานไว้ในถ้ำจอมพลเมื่อหลายสิบปีก่อนกลับมาประดิษฐานไว้ที่เดิม เพื่อให้ประชาชนทั่วไปจะได้เตรียมจัดพิธีสมโภช 130 ปี เสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ 5 อย่างยิ่งใหญ่
เมื่อพูดถึงพระในถ้ำจอมพล ตามประวัตินั้นมีพระอยู่องค์หนึ่งปางสุโขทัย เป็นแนวคิดที่เกิดจากภาพ ๆ หนึ่งที่ผมเองได้ไปคุยกับอาจารย์สุรินทร์ เหลือลมัย ข้าราชการบำนาญ เพื่ออยากจะพัฒนาถ้ำจอมพล หลังจากที่ตนเองเคยวิ่งเล่นสมัยยังเด็กๆ สมัยก่อนจะเรียกสวนรุกขชาติ เสาร์ อาทิตย์จะมีร้านค้านำของมาวางขายมากมาย ได้พักผ่อนหย่อนใจจากอากาศที่ร่มเย็น
แต่ตอนหลังมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมสิ่งเหล่านี้จึงหายไป เคยคิดว่าจะทำอย่างไรให้กลับมาอีกครั้งได้ เลยไปตามเรื่องราวว่ามีประวัติอย่างไรบ้าง และได้มีโอกาสได้พูดคุยกับนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา สมัยที่ท่านยังดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ราชบุรีอยู่ ท่านว่าดีเพราะเป็นของที่เคยอยู่คู่กับชุมชนมาก่อน และยังส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย จึงลองไปค้นประวัติที่ผ่านมาคืออย่างไรกับสิ่งที่ประชาชนชาวจอมบึงเคารพนับถือ
แต่ก่อนจะมีพระพุทธไสยาสน์ มีวัดจอมบึง เป็นผู้ดูแลมีการกราบไหว้กัน และมารู้ประวัติทีหลังว่ามีพระพุทธรูปอีกองค์ซึ่งเก่าแก่มากซึ่งไปตามจากภาพ ๆ หนึ่งที่เห็นมาได้ประมาณ 70 ปีแล้ว เป็นพระปางสุโขทัย อาจารย์สุรินทร์ ได้ให้รูปนี้มาไว้ และขอลองไปสืบค้นดูให้ว่ายังอยู่มั๊ย สมัยก่อนเป็นป่ารกชัฏทางกรมศิลปากรมีแนวคิดว่าน่าจะเอาไปเก็บไว้ที่ปลอดภัย เพราะกลัวถูกขโมยไป ก็เลยเป็นที่มาของการนำพระมาประดิษฐานไว้ที่วัดมหาธาตุวรวิหารพระอารามหลวงจนถึงทุกวันนี้ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ทำเรื่องนี้
ต่อมาได้มีโอกาสพูดคุยกับเลขานายก อบจ.ซึ่งบอกว่า มีความสนิทสนมและรู้จักกับท่านเจ้าคุณวัดมหาธาตุดี จึงอธิษฐานว่าถ้าท่านอยากกลับไปขอให้ตนเองได้เห็นพระองค์นี้ด้วยเถิด เมื่อเข้าไปในโบสถ์หันหน้าเข้าไปจะอยู่ฝั่งซ้ายมือลักษณะเหลืองทองอร่ามทั้งองค์ หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนท่านบวชเณรพระองค์นี้ได้อยู่ในโบสถ์เก่าเป็นพระเนื้อไม้ต้องเอามาซ่อมอีก จึงมาทำให้สวยงาม ทั้งโบสถ์มีพระองค์นี้เก่าที่สุดเพราะอยู่นานแล้ว เราก็นึกว่าภาพ ๆ นี้ได้บอกไว้ว่าท่านคงอยากกลับถ้ำจอมพลแล้ว จึงดลบันดาลให้มาพบเจอได้ เพราะเวลาตั้ง 70 ปีแล้ว ก็เพิ่งมาเห็นครั้งนี้ เชื่อว่าชาวจอมบึงหลายคนคงไม่รู้เรื่องราวที่ถูกเปิดเผยออกมา แล้วเป็นที่มาของการติดตาม คำถามผมอยากนำกลับคืนไป อย่างน้อยจะได้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจอมบึง
อีกทั้งถ้ำจอมพลแห่งนี้ ยังมีความสวยงาม โดยยังได้รับพระราชทานนามว่า ถ้ำจอมพล จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสต้นและได้ทรงลงพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่หน้าถ้ำแห่งนี้ด้วย ราชวงศ์จักรีแทบทุกพระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินมาที่นี่ ถ้าหากพวกเราได้มีโอกาสทำอะไรที่เป็นการเฉลิมฉลองจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน เพราะประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง วันนี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้สื่อมวลชนช่วยกันพิสูจน์ความจริง ถ้าใช่ก็ควรเอากลับมาอยู่ที่เดิม แต่ถ้าไม่ใช่ก็ว่ากันไป มองว่าถ้านำกลับมาแล้วทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบจะดูแลความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
ทราบว่าทางมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง โดยคณะกรรมการ คสม. เตรียมจัดงานสมโภชเสด็จประพาสต้นครบ 130 ปี ในปี 2568 และเตรียมหาแนวทางขอนำพระพุทธรูปเก่าโบราณองค์นี้กลับคืนสู่ถ้ำจอมพลนี้ได้ก็จะดีไม่น้อย
#ถ้ำจอมพล #ราชบุรี #มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง

คนท้องกินฟรี! "ร้านก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวปาก เรือทอง" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวผู้กองเล้ง" เมืองลับแล อดีตนายทหารยศ ร.อ.ศิริศักดิ์ มาด...
25/08/2024

คนท้องกินฟรี! "ร้านก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวปาก เรือทอง" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวผู้กองเล้ง" เมืองลับแล
อดีตนายทหารยศ ร.อ.ศิริศักดิ์ มาดีกุล หรือ ผู้กองเล้ง วัย 50 ปี เลือกชีวิตหลังลาออกจากราชการ ปรับบริเวณหน้าบ้านเปิด "ร้านก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวปาก เรือทอง" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวผู้กองเล้ง" เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ กลายเป็นร้านลับลับ อยู่ในซอย 25 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้รับความสนใจจากลูกค้า ไม่เพียงการสร้างรูปแบบการตกแต่งร้านที่ผสมผสานระหว่างเรือนไม้เก่ากับต้นไม้นานาพันธุ์เท่านั้น ภายในร้านยังปลอดโปรง อากาศถ่ายเทสะดวก สะอาด น่านั่ง โดยเฉพาะในส่วนของครัว หรือห้องเครื่องนั้นแยกออกอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อการปรุงอาหารไม่รบกวนลูกค้า
ทันทีที่เปิดหม้อน้ำซุป ร.อ.ศิริศักดิ์ เจ้าของร้าน ที่ทำหน้าที่พ่อครัว มือระวิง อยู่กับการจัดทำเมนูที่ลูกค้าออร์เดอร์ทั้งที่นั่งทานที่ร้าน และไรเดอร์ที่มารอ โดยมีภรรยารับออร์เดอร์ บริการเสิร์ฟทุกอย่างลงตัว
ร.อ.ศิริศักดิ์ มาดีกุล หรือ ผู้กองเล้ง กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจอยากทำในสิ่งที่รักและชอบ ก่อนที่สังขารจะล่วงโรย จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวปาก เรือทอง มาได้ประมาณ 1 ปี ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ โดยปรับพื้นที่หน้าบ้านเปิดร้านในแนววินเทจ ที่ตัวเองชื่นชอบสะสมไว้ ขับกล่อมด้วยเพลงฮิตยุค 80, 90 หรือจะจัดว่า เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือทองคาเฟ่ก็ได้เช่นกัน เพราะมีมุมให้ได้ถ่ายรูปมากมาย แต่เน้นแนวของเก่า สำหรับผู้ปกครองที่มีเด็กๆ มาด้วย ทางร้านก็มีมุมของเล่น การ์ตูนให้เด็กด้วยเช่นกัน
ด้านรสชาติของก๋วยเตี๋ยวและเมนูต่างๆ ของร้าน ก็เด็ดไม่แพ้ใคร มีให้เลือกรับประทานหลากหลาย แบบครบจบที่เดียว
ก่อนเปิดร้าน ทดลองทำ ปรุง ชิม พร้อมๆ กับการเตรียมความพร้อมของร้าน จนได้น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ เครื่องตุ๋นยาสมุนไพรจีนจัดแบบเต็มเครื่องครบทุกชนิด อบเชย โป๊ยกั้ก กลิ่นเครื่องเทศหอม และน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวไทย ต้มยำ ต้มจืด ที่กลมกล่อม เข้มขน กลิ่นหอม วิธีการลวกเส้นให้นุ่มพอดี ลวกผักให้สุกแต่กรอบ โดยเฉพาะน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็นสูตรที่คิดค้นเอง การคัดสรรหมู เนื้อวัว
ส่วนของเอ็นแก้ว ที่ใช้เวลาตุ๋นนานกว่า 3 ชั่วโมง พริกป่น ถั่วลิสง กระเทียม คั่วและเจียวเอง เลือกใช้เตาฟืนแทนแก็ส ทำเอง จะได้สดใหม่ เพิ่มความหอม ยิ่งตุ๋นเนื้อ ใช้เวลานาน ที่สำคัญลดต้นทุนไปในตัวด้วย ส่งผลให้ราคาก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเริ่มต้นผู้ใหญ่ชามละ 40 บาท หากสั่งของเด็กชามละ 25 บาท ทุกครั้งจะบอกลูกค้าเสมอว่า สั่งแค่คนละชามก่อน รับรองอิ่มแน่นอน เพราะให้เยอะมาก
เมื่อเข้าในร้านอ่านเมนูก่อนสั่งมีทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือหมูตุ๋น เนื้อตุ๋น เอ็นแก้ว หมูหมัก หมูสด ต้มยำมะนาวสดในสวนมีให้เลือกทุกเส้น นอกจากนี้ยังมีหมูสะเต๊ะเตาถ่านนุ่มและหอม ยำกากหมูรสจัดจ้าน ลวกจิ้มหมูและเนื้อเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟุ๊ดและน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเฉพาะทางร้าน ข้าวกระเพรา และส้มตำ เฉาก๊วย เครื่องดื่มเย็น ระบุราคาชัดเจน เด็ก 25 บาท ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 และ 50 บาท
รายการเมนูที่ติดไว้ว่า "ฟรี" วงกลมเน้น ผัดสด น้ำ น้ำแข็งฟรี และ "คนท้องทานฟรี" เด็กเล็กเส้นพร้อมน้ำซุปฟรี ตั้งแต่เปิดร้าน
"เป็นคนตั้งใจที่อยากให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ทานก๋วยเตี๋ยวฟรีตลอดอายุครรภ์แบบไม่อั้น อยากให้แม่และลูกในท้องรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ มีความสุขเมื่อได้ทานของอร่อย เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ทำแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน พบว่ามีคุณแม่ตั้งครรภ์แวะเวียนมารับประทานอย่างต่อเนื่อง" ร.อ.ศิริศักดิ์ มาดีกุล หรือ ผู้กองเล้ง กล่าว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวปาก เรือทอง หรือก๋วยเตี๋ยวผู้กองเล้ง เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ มีรสชาติเช่นไรอยากให้มาลองพิสูจน์ ครบจบที่เดียว คงความคลาสสิค อร่อยไม่ต้องปรุง ร้านในสวนร่มรื่นเย็นสบายไม่ร้อน พร้อมต้อนรับท่านลูกค้า เป็นบุคคล เป็นครอบครัว และเป็นหมู่คณะ หญิงตั้งครรภ์ทานก๋วยเตี๋ยวฟรี (ตั้งแต่เปิดร้าน) ตั้งเวลา 09.00 น.-16.00 น.ร้านหยุดทุกวันพุธของสัปดาห์ ร้านตั้งอยู่ที่หนองพระแล ซ.25 ตรงข้ามหนองพระแลจะมีป้ายบอกทาง โทร 084-0575040, 096-6744845 ร้านหยุดทุกวันพุธของสัปดาห์
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน
#อุตรดิตถ์ #ร้านก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยวปากเรือทอง #ก๋วยเตี๋ยวผู้กองเล้ง #เมืองลับแล

25/08/2024

คลิป “เฉาก๊วย” ดังกระฉ่อน
นักท่องเที่ยวดูข่าวได้เดินทางมาหา #เฉาก๊วย
สุนัขเพศผู้สีดำที่เวลาหิวก็จะเดินมาหาพ่อค้าแม่ค้าเพื่อขอเงินไปซื้อขนมกิน

เอฟซีเจ้าเฉาก๊วย ดูข่าวทางทีวีได้เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมาหาเฉาก๊วยสุนัขเพศผู้สีดำอายุ 4 ปีที่ได้ตามแม่ค้าที่เป็นเจ้าของมาขายสินค้าในตลาดชุมชนวัดหลวงพ่อปากแดง และเวลาหิวอาหารก็จะเดินไปหาพ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่เป็นประจำเพื่อขอเงินไปซื้อขนมกิน

ที่วัดหลวงพ่อปากแดง ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปทำข่าวที่วัดหลวงพ่อปากแดง ได้พบคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายกำลังนำเงินแบงค์ 20 บาทให้กับสุนัขสีดำตัวอ้วนเพศผู้ชื่อเฉาก๊วยเพื่อนำไปซื้อขนมปังกินแต่เจ้าเฉาก๊วยได้คาบแบงค์แล้วต้องชะงักเนื่องจากมีสุนัขอีกหนึ่งตัวรอดักอยู่ด้านหน้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่มาวางแผงขายในตลาดชุมชนวัดหลวงพ่อปากแดง ได้เดินมากันไว้และพาเจ้าเฉาก๊วยและคนที่ให้เงินเดินพาเจ้าเฉาก๊วยไปที่ร้านค้าภายในวัดหลวงพ่อปากแดง เพื่อซื้อขนมปังหลังจากกินอิ่มแล้วก็จะมานอนอยู่ใต้ร้านค้าแผงลอตเตอรี่ของพ่อค้าแม่ค้าอยู่เป็นประจำ

นักท่องเที่ยวคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย ได้เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้ดูข่าวทางทีวีที่ออกข่าวหลายช่องเห็นเฉาก๊วยคาบแบงค์ไปซื้อขนมปังจึงเกิดความชื่นชอบเจ้าเฉาก๊วยตัวนี้และวันนี้ได้ตั้งใจมากราบไหว้หลวงพ่อปากแดงและตั้งใจมาพบเจ้าเฉาก๊วย พอเดินเข้ามาตรงแผงขายลอตเตอรี่เห็นเจ้าเฉาก๊วยเดินอยู่จึงได้เรียกและนำแบงค์ 20 บาทให้เจ้าเฉาก๊วยเพื่อนำไปซื้อขนมปังกิน โดยการมาในครั้งนี้ตั้งใจมาหาเจ้าเฉาก๊วยเนื่องจากชื่นชอบมากๆ

แม่ค้าขายลอตเตอรี่ได้เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เฉาก๊วยออกข่าวได้มีนักท่องเที่ยวนำเงินมาให้คาบไปซื้อขนมปังกินอยู่เป็นประจำ

ทีมข่าวนครนายก
สมบัติ เนินใหม่
รัชชานนท์ เนินใหม่
#นครนายก #หลวงพ่อปากแดง

สิ้นแล้วหลวงปู่ 5 แผ่นดิน ”หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม” พระเกจิดังล้านนา สิริอายุ 103 ปี 83 พรรษา วันที่ 25 สค.67 ผู้สื่อข่าว...
25/08/2024

สิ้นแล้วหลวงปู่ 5 แผ่นดิน ”หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม” พระเกจิดังล้านนา สิริอายุ 103 ปี 83 พรรษา

วันที่ 25 สค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระเดชพระคุณพระราชมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 พระเกจิดังแห่งล้านนา 5 แผ่นดินล้านนา อายุ 103 ปี 83 พรรษา ได้มรณภาพแล้วเมื่อเช้าวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 07-08 น. ภายในกุฏิวัดบุญเกิด ต.บุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

2 วันก่อนหลวงปู่จะมรณภาพ ได้ออกมายืนหน้ากุฏิดูน้ำท่วมภายในบริเวณวัดพร้อมกับกล่าวว่า “คณะศรัทธาชาวบ้านคงเดือนร้อนกันหนักมากปีนี้ น้ำมานักขนาดน้อ ขอให้น้ำลดไวไว ขอพรบารมีพระเจ้า 28 พระองค์วัดบุญเกิดให้ทุกท่านปลอดภัยจากภัยพิบัติครั้งนี้ทุกท่านเทอญ”

หลังหลวงปู่ก้ำ มรณภาพปล้ว ทางวัดบุญเกิด ศิษยานุศิษย์ได้จัดเตรียมสถานที่ วันเวลา ทำพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพพระคุณพระราชมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม) อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (26 สค.67)

สำหรับ พระเดชพระคุณหลวงปู่พระราชมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม) อายุ 103 ปี 83 พรรษา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดบุญเกิด วันที่ 19 กันยายน 2464 และเป็นพระสงฆ์ รูปหนึ่งที่มีอายุเกิน 100 ปี อยู่ถึง 5 แผ่นดิน และเป็นเกจิดังของล้านนา และทางลูกศิษย์ลูกหาได้จัดเตรียมจัดงานพิธี อายุวัฒนมงคลครบรอบ 103 ปี 83 พรรษา วันที่ 13 ก.ย 2567 ก็ได้มรณภาพก่อน

พระราชมงคลวิสุทธิ์ มีนามเดิมว่า ก้ำ ธรรมขันธ์ เกิดเมื่อ ปีระกา วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2464 (สมัยรัชกาลที่ 6) ที่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 4 ตำบลดอกคำใต้ อำเภอพะเยา จังหวัดเชียงราย โยมบิดาชื่อ นายเฮือน ธรรมขันธ์ โยมมารดา ชื่อ นางเย็น ธรรมขันธ์

บรรพชาเป็นสามเณร ปีวอก วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ณ วัดดอนเหล็ก ตำบลดอกคำใต้ อำเภอพะเยา จังหวัดเชียงราย โดยมีเจ้าอธิการแก้ว กาวิชโย วัดดอนเหล็ก เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ปีมะโรง วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2484 ณ วัดดอนเหล็ก ตำบลดอกคำใต้ อำเภอพะเยา จังหวัดเชียงราย และเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านเกิด จนถึงปัจจุบัน

“เฉาก๊วย” ดังกระฉ่อนนักท่องเที่ยวดูข่าวได้เดินทางมาหา  #เฉาก๊วยสุนัขเพศผู้สีดำที่เวลาหิวก็จะเดินมาหาพ่อค้าแม่ค้าเพื่อขอเ...
25/08/2024

“เฉาก๊วย” ดังกระฉ่อน
นักท่องเที่ยวดูข่าวได้เดินทางมาหา #เฉาก๊วย
สุนัขเพศผู้สีดำที่เวลาหิวก็จะเดินมาหาพ่อค้าแม่ค้าเพื่อขอเงินไปซื้อขนมกิน

เอฟซีเจ้าเฉาก๊วย ดูข่าวทางทีวีได้เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมาหาเฉาก๊วยสุนัขเพศผู้สีดำอายุ 4 ปีที่ได้ตามแม่ค้าที่เป็นเจ้าของมาขายสินค้าในตลาดชุมชนวัดหลวงพ่อปากแดง และเวลาหิวอาหารก็จะเดินไปหาพ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่เป็นประจำเพื่อขอเงินไปซื้อขนมกิน

ที่วัดหลวงพ่อปากแดง ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปทำข่าวที่วัดหลวงพ่อปากแดง ได้พบคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายกำลังนำเงินแบงค์ 20 บาทให้กับสุนัขสีดำตัวอ้วนเพศผู้ชื่อเฉาก๊วยเพื่อนำไปซื้อขนมปังกินแต่เจ้าเฉาก๊วยได้คาบแบงค์แล้วต้องชะงักเนื่องจากมีสุนัขอีกหนึ่งตัวรอดักอยู่ด้านหน้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่มาวางแผงขายในตลาดชุมชนวัดหลวงพ่อปากแดง ได้เดินมากันไว้และพาเจ้าเฉาก๊วยและคนที่ให้เงินเดินพาเจ้าเฉาก๊วยไปที่ร้านค้าภายในวัดหลวงพ่อปากแดง เพื่อซื้อขนมปังหลังจากกินอิ่มแล้วก็จะมานอนอยู่ใต้ร้านค้าแผงลอตเตอรี่ของพ่อค้าแม่ค้าอยู่เป็นประจำ

นักท่องเที่ยวคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย ได้เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้ดูข่าวทางทีวีที่ออกข่าวหลายช่องเห็นเฉาก๊วยคาบแบงค์ไปซื้อขนมปังจึงเกิดความชื่นชอบเจ้าเฉาก๊วยตัวนี้และวันนี้ได้ตั้งใจมากราบไหว้หลวงพ่อปากแดงและตั้งใจมาพบเจ้าเฉาก๊วย พอเดินเข้ามาตรงแผงขายลอตเตอรี่เห็นเจ้าเฉาก๊วยเดินอยู่จึงได้เรียกและนำแบงค์ 20 บาทให้เจ้าเฉาก๊วยเพื่อนำไปซื้อขนมปังกิน โดยการมาในครั้งนี้ตั้งใจมาหาเจ้าเฉาก๊วยเนื่องจากชื่นชอบมากๆ

แม่ค้าขายลอตเตอรี่ได้เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เฉาก๊วยออกข่าวได้มีนักท่องเที่ยวนำเงินมาให้คาบไปซื้อขนมปังกินอยู่เป็นประจำ

ทีมข่าวนครนายก
สมบัติ เนินใหม่
รัชชานนท์ เนินใหม่
#นครนายก #หลวงพ่อปากแดง

25/08/2024

คลิป สุดฮา!! แข่งขันลากกาบหมากประเพณีกินข้าวห่อชาวกะเหรี่ยง
ส.ส.ราชบุรีตีเกราะเคาะไม้ เปิดงานประเพณีกินข้าวห่อชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีกิจกรรมสร้างความฮือฮาสนุกสนานมากมาย เช่น แข่งขันวิ่งโง แข่งขันลากกาบหมาก เพื่อเชื่อมความรักความสามัคคีแก่ชาวกะเหรี่ยงในชุมชน
วันนี้ (25 ส.ค. 67) บรรยากาศจัดงานประเพณีกินข้าวห่อ หรืออั้งหมี่ถ่อง ที่บริเวณสนามทุ่งกระต่าย หมู่ที่ 2 บ้านท่ามะขาม ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งใช้เป็นศูนย์การจัดกิจกรรมประเพณีกินข้าวห่อของชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงโบว์ หรือ โพล่ง ปีนี้มีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก โดยได้รับเกียรติจากนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นายชนันต์ อินทรักษ์ นายอำเภอสวนผึ้ง นายพุด แย้มพรหม นายก อบต.ตะนาวศรี นายภัทรพงศ์ วงศ์กิจเกษม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ผู้นำชุมชนชาวบ้านร่วมกันจัดขึ้น ในช่วงเดือน 9 ของทุกปีอยู่ในราวเดือนสิงหาคม
ส่วนใหญ่ชาวกะเหรี่ยงในแถบภูมิภาคตะวันตกในเขตราชบุรี จะทยอยกันจัดงานประเพณีกินข้าวห่อเวียนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตลอดทั้งเดือน ในภาษากะเหรี่ยง เรียกว่า “อั้งหมี่ถ่อง” ชาวกะเหรี่ยงจะเรียกประเพณีนี้ว่า “ไค่จุ้งหล่าค่อก” ไค่จุ้งแปลว่าผูกแขนหรือผูกข้อมือ หล่า แปลว่าเดือนหรือ ขวัญ ค่อกแปลว่าเลข 9 โดยรวมมีความหมายว่า “พิธีสู่ขวัญเดือนเก้า” การผูกข้อมือ เปรียบเสมือนการผูกขวัญ หรือ เรียกขวัญนั่นเอง ประเพณีอั้งหมี่ถ่อง หรือ ประเพณีกินข้าวห่อ ใช้เวลาประกอบพิธี 2-3 วันโดย 2 วันแรก เป็นการเตรียมข้าวห่อ จากนั้นจะทำพิธีเรียกขวัญและผูกขวัญ ซึ่งจะทำ 2 ครั้ง คือ เรียกขวัญในตอนเย็นก่อนกินข้าวห่อ 1 ครั้ง และตอนเช้าก่อนทำพิธีกินข้าวห่อ 1 ครั้ง
ปีนี้ทางชุมชนยังมีกิจกรรม มีการแสดงฟ้อนรำกะเหรี่ยงกระทบไม้ การละเล่นกีฬาพื้นบ้านมากมาย เช่น การแข่งขันวิ่งโง การแข่งขันวิ่งกาบหมาก การแข่งขันฟุตบอลชายหาด การแข่งขันกินข้าวห่อ การแข่งขันวิ่ง 3 ขา การแข่งขันปีนเสาน้ำมัน โดยปีนี้ ส.ส.ราชบุรีได้ตีเกราะเคาะไม้เป็นสัญลักษณ์ในการเปิดงานประเพณีอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเปิดการแข่งขันวิ่งโง ชาย และหญิง ระยะทางไปและกลับประมาณ 5 กิโลเมตร โดยโง เป็นเครื่องจักสานทำจากไม้ไผ่ ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งของชาวกะเหรี่ยงที่เวลาไปจะหาพืชผัก พืชไร่ จะต้องนำติดตัวไปตลอด แต่วันนี้สิ่งเหล่านี้เริ่มที่จะหดหายไป จึงได้นำดอกไม้มาเสียบไว้ในโงเพื่ออยากให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่นต่อไป
อีกทั้งการแข่งขันวิ่งกาบหมาก ซึ่งถือเป็นกิจกรรมในครอบครัวที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ พี่ น้อง คู่รัก หนุ่มสาว โดยใช้กาบหมากที่มีอยู่ในท้องถิ่น นำกาบหมากลักษณะเป็นทางยาว โดยให้ฝ่ายชายเป็นคนถือด้านก้าน ส่วนฝ่ายหญิงจะนั่งที่กาบด้านล่าง มีกติกาว่า คู่ไหนลากกาบหมากถึงเส้นชัยก่อน โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ตกจากกาบหมาก คู่นั้นเป็นฝ่ายชนะ ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ได้นำภรรยาตัวเองร่วมแข่งขัน ซึ่งต้องใช้ความแข็งแรงและพลังแขนมากในการที่จะลากจูงฝ่ายหญิงให้ไปถึงเส้นชัย ส่วนฝ่ายหญิงก็จะต้องทรงตัวให้มั่นคงไม่ให้หลุดจากกาบหมากที่เหยียบอยู่เล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหลุดออกก็จะเป็นฝ่ายแพ้
เมื่อกรรมการให้สัญญาณทุกคู่ก็ใช้พลังแขนลากจูงคู่ของตัวเองไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล เอียงซ้าย เอียงขวา บางคู่ก็ช้าเพราะมีน้ำหนักเยอะ บางคู่ก็หลุดออกจากกาบหมาก ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้เยาวชนและประชาชนเกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอันดีงาม และยังเป็นการเชื่อมความรักความสามัคคีต่อคนในชุมชนพื้นที่อีกด้วย
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

สุดฮา แข่งขันลากกาบหมากประเพณีกินข้าวห่อชาวกะเหรี่ยง ส.ส.ราชบุรีตีเกราะเคาะไม้ เปิดงานประเพณีกินข้าวห่อชาวไทยเชื้อสายกะเ...
25/08/2024

สุดฮา แข่งขันลากกาบหมากประเพณีกินข้าวห่อชาวกะเหรี่ยง
ส.ส.ราชบุรีตีเกราะเคาะไม้ เปิดงานประเพณีกินข้าวห่อชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีกิจกรรมสร้างความฮือฮาสนุกสนานมากมาย เช่น แข่งขันวิ่งโง แข่งขันลากกาบหมาก เพื่อเชื่อมความรักความสามัคคีแก่ชาวกะเหรี่ยงในชุมชน
วันนี้ ( 25 ส.ค. 67 ) บรรยากาศจัดงานประเพณีกินข้าวห่อ หรือ อั้งหมี่ถ่อง ที่บริเวณสนามทุ่งกระต่าย หมู่ที่ 2 บ้านท่ามะขาม ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งใช้เป็นศูนย์การจัดกิจกรรมประเพณีกินข้าวห่อของชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงโบว์ หรือ โพล่ง ปีนี้มีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก โดยได้รับเกียรติจากนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นายชนันต์ อินทรักษ์ นายอำเภอสวนผึ้ง นายพุด แย้มพรหม นายก อบต.ตะนาวศรี นายภัทรพงศ์ วงศ์กิจเกษม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ผู้นำชุมชนชาวบ้านร่วมกันจัดขึ้น ในช่วงเดือน 9 ของทุกปีอยู่ในราวเดือนสิงหาคม
ส่วนใหญ่ชาวกะเหรี่ยงในแถบภูมิภาคตะวันตกในเขตราชบุรี จะทยอยกันจัดงานประเพณีกินข้าวห่อเวียนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตลอดทั้งเดือน ในภาษากะเหรี่ยง เรียกว่า “อั้งหมี่ถ่อง ” ชาวกะเหรี่ยงจะเรียกประเพณีนี้ว่า “ไค่จุ้งหล่าค่อก” ไค่จุ้งแปลว่าผูกแขนหรือผูกข้อมือ หล่า แปลว่าเดือนหรือ ขวัญ ค่อกแปลว่าเลข 9 โดยรวมมีความหมายว่า “พิธีสู่ขวัญเดือนเก้า” การผูกข้อมือ เปรียบเสมือนการผูกขวัญ หรือ เรียกขวัญนั่นเอง ประเพณีอั้งหมี่ถ่อง หรือ ประเพณีกินข้าวห่อ ใช้เวลาประกอบพิธี 2-3 วันโดย 2 วันแรก เป็นการเตรียมข้าวห่อ จากนั้นจะทำพิธีเรียกขวัญและผูกขวัญ ซึ่งจะทำ 2 ครั้ง คือ เรียกขวัญในตอนเย็นก่อนกินข้าวห่อ 1 ครั้ง และตอนเช้าก่อนทำพิธีกินข้าวห่อ 1 ครั้ง
ปีนี้ทางชุมชนยังมีกิจกรรม มีการแสดงฟ้อนรำกะเหรี่ยงกระทบไม้ การละเล่นกีฬาพื้นบ้านมากมาย เช่น การแข่งขันวิ่งโง การแข่งขันวิ่งกาบหมาก การแข่งขันฟุตบอลชายหาด การแข่งขันกินข้าวห่อ การแข่งขันวิ่ง 3 ขา การแข่งขันปีนเสาน้ำมัน โดยปีนี้ ส.ส.ราชบุรีได้ตีเกราะเคาะไม้เป็นสัญลักษณ์ในการเปิดงานประเพณีอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเปิดการแข่งขันวิ่งโง ชาย และหญิง ระยะทางไปและกลับประมาณ 5 กิโลเมตร โดยโง เป็นเครื่องจักสานทำจากไม้ไผ่ ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งของชาวกะเหรี่ยงที่เวลาไปจะหาพืชผัก พืชไร่ จะต้องนำติดตัวไปตลอด แต่วันนี้สิ่งเหล่านี้เริ่มที่จะหดหายไป จึงได้นำดอกไม้มาเสียบไว้ในโงเพื่ออยากให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่นต่อไป
อีกทั้งการแข่งขันวิ่งกาบหมาก ซึ่งถือเป็นกิจกรรมในครอบครัวที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ พี่ น้อง คู่รัก หนุ่มสาว โดยใช้กาบหมากที่มีอยู่ในท้องถิ่น นำกาบหมากลักษณะเป็นทางยาว โดยให้ฝ่ายชายเป็นคนถือด้านก้าน ส่วนฝ่ายหญิงจะนั่งที่กาบด้านล่าง มีกติกาว่า คู่ไหนลากกาบหมากถึงเส้นชัยก่อน โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ตกจากกาบหมาก คู่นั้นเป็นฝ่ายชนะ ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ได้นำภรรยาตัวเองร่วมแข่งขัน ซึ่งต้องใช้ความแข็งแรงและพลังแขนมากในการที่จะลากจูงฝ่ายหญิงให้ไปถึงเส้นชัย ส่วนฝ่ายหญิงก็จะต้องทรงตัวให้มั่นคงไม่ให้หลุดจากกาบหมากที่เหยียบอยู่เล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหลุดออกก็จะเป็นฝ่ายแพ้
เมื่อกรรมการให้สัญญาณทุกคู่ก็ใช้พลังแขนลากจูงคู่ของตัวเองไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล เอียงซ้าย เอียงขวา บางคู่ก็ช้าเพราะมีน้ำหนักเยอะ บางคู่ก็หลุดออกจากกาบหมาก ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้เยาวชนและประชาชนเกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอันดีงาม และยังเป็นการเชื่อมความรักความสามัคคีต่อคนในชุมชนพื้นที่อีกด้วย
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

มาเลเซียเริ่มส่งออก 'ทุเรียนสด' สู่จีนล็อตแรก 40 ตันอาร์เธอร์ โจเซฟ กูรัป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงทาง...
25/08/2024

มาเลเซียเริ่มส่งออก 'ทุเรียนสด' สู่จีนล็อตแรก 40 ตัน
อาร์เธอร์ โจเซฟ กูรัป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงทางอาหารของมาเลเซีย เปิดเผยว่ามาเลเซียได้เริ่มต้นส่งออกทุเรียนสดสู่จีนแล้ว โดยมีกำหนดจัดส่งทุเรียนสด จำนวน 40 ตัน แบบแบ่ง 3 ระยะ ตั้งแต่วันเสาร์ (24 ส.ค.) เป็นต้นมา
กูรัป ซึ่งร่วมพิธีส่งออกทุเรียนสดสู่จีนที่คลังสินค้าของท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่าการจัดส่งทุเรียนสดชุดแรกอยู่ที่ 15 ตัน ชุดสองอยู่ที่ 10 ตัน ซึ่งจะจัดส่งวันอาทิตย์ (25 ส.ค.) และจำนวนที่เหลือเป็นชุดสาม
ด้าน แอนโทนี ลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย กล่าวว่าทุเรียนสดถูกขนส่งผ่านเที่ยวบินสินค้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเจิ้งโจว ซินเจิ้ง ในเมืองเจิ้งโจวของมณฑลเหอหนาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าแห่งสำคัญของจีน
ลกอธิบายว่าเมื่อทุเรียนสดถูกขนส่งถึงท่าอากาศยานนานาชาติเจิ้งโจว ซินเจิ้ง เครือข่ายโลจิสติกส์รอบด้านที่ครอบคลุมรถไฟ รถบรรทุก และวิธีการขนส่งอื่นๆ จะจัดส่งทุเรียนสดไปทั่วจีนภายใน 24 ชั่วโมง เข้าถึงเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของทุเรียนมาเลเซีย
ทั้งนี้ มาเลเซียเริ่มต้นส่งออกทุเรียนแช่แข็งทั้งลูกสู่จีนในปี 2019
(แฟ้มภาพซินหัว : ทุเรียนหนามดำที่สวนทุเรียนในรัฐปาหังของมาเลเซีย วันที่ 21 พ.ย. 2021)

ที่มา #ซินหัว

พึ่งมหาดไทยไม่ได้"ผู้ใหญ่บ้านหญิง"หันมาพึ่ง"ศาลปู่ตา"ขอจงบันดาลให้เทศบาลแก้ปีเกิดให้ #อำเภอห้วยราช ผู้ใหญ่บ้านหญิงตำบลห้...
25/08/2024

พึ่งมหาดไทยไม่ได้"ผู้ใหญ่บ้านหญิง"หันมาพึ่ง"ศาลปู่ตา"ขอจงบันดาลให้เทศบาลแก้ปีเกิดให้

#อำเภอห้วยราช ผู้ใหญ่บ้านหญิงตำบลห้วยราชา ที่ยื่นเรื่องขอแก้ปีเกิดให้ตัวเองนาน 15 ปีไม่ผ่าน ทั้งที่มีทั้งหลักฐานและพยานชัดเจนแต่กลับถูกเทศบาลบ่ายเบี่ยง ส่งเรื่องไปให้จังหวัดตีความ สุดท้ายคณะกรรมการจังหวัดแจ้งกลับมาว่าไม่ผ่าน เผยเป็นเกมการเมืองในพื้นที่ที่มีการวางตัวผู้ที่จะมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยไว้แล้ว หลังจากเกษียณกันยายนนี้ จึงต้องตีหน้ามึนไม่แก้ ไม่เปลี่ยน ระบุบุรีรัมย์เป็นบ้าน รมว.มหาดไทย อยากให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ผ่านศาลปู่ตาประจำหมู่บ้าน

กรณีนางสายพิน นุกรรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนของเทศบาลตำบลห้วยราชา อ.ห้วยราช ว่ามีพฤติกรรมเหมือนจะกลั่นแกล้ง กรณีที่ตัวเองไปขอเปลี่ยนปีเกิดจากหลักฐานใหม่ที่ปรากฎเกิดปี 2507 ให้ตรงกับความเป็นจริงคือเกิดปี 2509 ตั้งแต่ปี 2552 หรือประมาณ 15 ปีที่ผ่านมา ครั้งนั้นเพิ่งได้รับเลือกมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่ให้ไปหาใบแจ้งเกิดตัวจริงมา ซึ่งตนหาไม่ได้เพราะพ่อแม่ย้ายบ้าน และพยายามเรื่อยมาโดยเจ้าหน้าที่ยังยืนยันคำเดิมคือต้องหาใบแจ้งเกิดตัวจริงมา

จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมามีอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนมาแนะนำให้ไปหาหลักฐานจากโรงเรียนที่เรียนและทะเบียนบ้านเก่าของที่ว่าการอำเภอ ปรากฏว่าหลักฐานทั้งการเข้าโรงเรียน และทะเบียนบ้านเก่าระบุชัดว่าผู้ใหญ่บ้านเกิดปี 2509 คือยังเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอีก 2 ปี

แต่ฝ่ายทะเบียนเทศบาลห้วยราชา บอกว่าหลักฐานไม่พอจะต้องมีพยานบุคคลอีก 7 ปากมายืนยัน ผู้ใหญ่บ้านได้เอาทั้งเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกัน พี่น้องสายเลือดอีก 4 คน รวม 7 ปากตามที่เจ้าหน้าที่ต้องการ แต่ทางเทศบาลกลับส่งเรื่องไปให้จังหวัดตีความ สุดท้ายคณะกรรมการจังหวัดแจ้งกลับมาว่าไม่ผ่านเพราะพยานให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า "ไม่ทราบ ไม่ทราบ" ซึ่งผู้ใหญ่โต้กลับว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะ 4 ใน 3 ปากที่เป็นพยานเป็นพี่น้องในสายเลือดจะอ้างว่าไม่รู้เป็นไปไม่ได้

ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค.67) นางสายพิน นุกรรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ที่จะเกษียณอายุจากการเป็นผู้ใหญ่บ้านปลายเดือนกันยายนนี้หากนับเอาหลักฐานปัจจุบันได้เดินทางไปพร้อมกับชาวบ้านนำเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้ศาลปู่ตาประจำหมู่บ้านเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดำรงธรรมให้กับผู้ใหญ่บ้าน

นางสายพิน กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวได้ชวนกันมาขอศาลจากหลวงปู่อุดม ซึ่งเป็นศาลปู่ตาประจำหมู่บ้านที่ชาวบ้านนับถือ ชาวบ้านอยากให้มาเพราะอยากจะขอความเป็นธรรมจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เล่าให้ศาลปู่ตาฟังว่าที่เราเดินเรื่องมามีทั้งพยานและหลักฐานทำไมถึงทำไม่ได้เป็นเพราะเหตุผลใด

"แต่รู้สึกหดหู่ใจหลังทราบข่าวมาว่าสาเหตุที่เทศบาลไม่ยอมแก้ไข เพราะมีนักการเมืองในพื้นที่ได้มีการวางตัวผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนใหม่มาแทนเราที่จะหมดวาระในปีนี้ไว้แล้วและเป็นการวางตัวที่มีอำนาจ เพราะเข้าแทรกแซงการทำงานของผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่ 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราทำงานด้วยความลำบาก ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่เราไปขอเปลี่ยนปีเกิดให้ถูกต้องไม่ได้" นางสายพิน กล่าว

พร้อมกล่าวต่ออีกว่า นอกจากจะร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยแล้วยังอยากจะร้องขอหน่วยงานเบื้องบนโดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์เป็นบ้านของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีระกูล ซึ่งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยของชาวบุรีรัมย์ อยากให้มารักษาระเบียบของทางราชการไว้

"เพราะหากปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไป เชื่อว่าระบบการปกครองจะบิดเบี้ยว ผู้มีอำนาจจะเข้ามาครอบงำราชการ ลามไปครอบงำประชาชน แม้แต่เราซึ่งผู้ใหญ่บ้านยังช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วหลังจากนี้ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร โดยเฉพาะกรณีนี้เรามองแล้วเหมือนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะไปแก้คำให้การของพยานอย่างหน้าไม่อาจ จากถูกให้เป็นผิด" ผู้ใหญ่สายพิน กล่าว

ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน
#ห้วยราช #บุรีรัมย์ #ผู้ใหญ่บ้าน

ย้ายหนุ่มสลักพระเข้าห้องพิเศษ หลังถูกช้างป่าทำร้ายสาหัส พบปอดยังมีเลือดออก  ความคืบหน้ากรณีนายชิงชัย แสนคำ อายุ 35 ปี ตำ...
25/08/2024

ย้ายหนุ่มสลักพระเข้าห้องพิเศษ หลังถูกช้างป่าทำร้ายสาหัส พบปอดยังมีเลือดออก

ความคืบหน้ากรณีนายชิงชัย แสนคำ อายุ 35 ปี ตำแหน่งบุคคลภายนอกช่วยปฏิบัติงาน ประจำหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ละมุ่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ถูกช้างป่าทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ซี่โครงหัก 8 ซี่ ปอดบวมช้ำ อาการสาหัส ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนาย เชน แสนคำ อายุ 58 ปี และนาง สมจิตร์ แสนคำ อายุ59 พ่อกับแม่ ชาว ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี คอยเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค.67) นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะแพทย์ได้ย้ายนายชิงชัย แสนคำ ออกจากหอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุ อาคารกาญจนาพิเษก (กจ) ชั้น 1 มาพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพิเศษ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น น.ส.กฤษณา แก้วปลั่ง ผู้อำนวยการองค์การแพนเทอรา (Panthera) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ รวมทั้งผู้แทนกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล WWF และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาญจนบุรี เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมกล่าวอวยพรให้นายชิงชัย แสนคำ หรือชิว กลับมาแข็งแรงโดยเร็วอีกด้วย ซึ่งนายชิงชัย รู้สึกมีกำลังใจเป็นอย่างมาก

จากการเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2567 จนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2567 ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่ามีลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดสืบเนื่องจากซี่โครงที่หัก จึงยังคงทำให้มีเลือดไหลออกทางปอดด้านขวาอยู่ แต่สามารถกินอาหารได้และพูดคุยได้ปกติ ซึ่งต้องขอขอบคุณคณะแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาทุกท่านที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี โดยอาการของนายชิงชัย ตนได้รายงานไปยังนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)ทราบเป็นระยะๆ

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี
#ช้างป่า #เขตป่าสลักพระ #กาญจนบุรี

25/08/2024

แม่ค้ากล้วยทอดเผยยังขายราคาเดิมแต่ลดปริมาณลง
กล้วยน้ำว้ามีราคาแพงขึ้น แม่ค้ายังขายกล้วยทอดราคาเท่าเดิม แต่ลดปริมาณขายน้อนชิ้นลงเล็กน้อย ขณะที่ราคามันเทศได้ขยับเพิ่มขึ้นตามมา สาเหตุเพราะเกษตรกรปลูกแล้วมันไม่ค่อนมีหัว
จากสถานการณ์ราคากล้วยน้ำว้าแทบทุกพื้นที่ ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดปัญหาต้นกล้วยล้มตายจากเหตุภัยแล้ง พายุพัด อีกทั้งยังมีภาวะน้ำท่วมตามมา ส่งผลให้พ่อค้า แม่ค้า ต้องปาดเหงื่อกับราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ขยับขึ้นสูงจนน่ากลัว
จากการสอบถามแม่ค้าขายกล้วยทอดในพื้นที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้กล้วยน้ำว้าแพงมากกว่าทุกปี ที่เคยซื้อกล้วยมาทอดขาย มีการคัดไซส์ขนาด ตั้งแต่หวีขนาดเล็กราคา 35 – 40 บาท ขนาดกลาง 40 – 45 บาท ไล่ไปจนถึงหวีขนาดใหญ่ที่มีราคาหวีละ 60 บาท แม่ค้าบางคนขอเลือกหวีขนาดเล็ก และขนาดกลางแทนขนาดใหญ่ เพราะสู้ราคาหวีใหญ่ที่มีราคาแพงไม่ไหว โดยกล้วย 1 ลูกเมื่อปอกเปลือกใช้มีดผ่าทอดได้ 3 ชิ้นจะหนาพอดีไม่บางจนเกินไป ช่วงนี้จะใช้ลูกขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง เพื่อขายแทนขนาดใหญ่ที่มีราคาแพง แม่ค้ากล้วยทอดก็ต้องปรับเปลี่ยนหันมาใช้เทคนิคการขายไม่เหมือนกัน เช่น บ้างร้านขายอยู่ 6 ชิ้น 10 บาท บางร้านก็จะใช้กล้วยหลายขนาดนำมาขายรวมกัน บางร้านขายใช้ชิ้นใหญ่แต่จะปรับราคาเพิ่มขึ้น บางร้านก็ขายชิ้นขนาดเล็กทั้งหมดขายจำนวนเท่าเดิม และบางรายชิ้นใหญ่ลดจำนวนชื้อลง
นางรุจิรัตน์ เกษมธนวันน์ อายุ 62 ปี แม่ค้าขายกล้วยทอด บริเวณข้างถนนสายจอมบึง – เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กล่าวว่า ถ้าถามถึงต้นทุนช่วงนี้สูงมาก เพราะราคากล้วยน้ำว้าตอนนี้ลูกไม่ค่อยสวยอยู่ที่ 35 – 45 บาทต่อหวี แต่ถ้าไม่ซื้อก็ไม่มีกล้วยทอดขายลูกค้า ได้กำไรเล็กน้อย สมัยก่อนตามบ้านเราเคยซื้อมาหวีละ 15 บาท - 20 บาท ลูกใหญ่สวยมาก แต่ตอนนี้หวีละ 40 บาท ยังไม่สวยเท่าราคาหวีละ 20 บาทเลย แต่ถ้าใหญ่สวย ๆ ตอนนี้ราคาหวีละ 50 - 60 บาท
ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นราคากล้วยทอด จากเมื่อก่อนขาย 12 - 13 ชิ้น 20 บาท แต่มาตอนนี้ขอลดลงเหลือ 10 ชิ้น 20 บาท คือไม่เพิ่มราคาขาย แต่ลดปริมาณชิ้นลงมา ถ้าวันไหนกล้วยแพงมาก ก็ไม่ซื้อมาทอดขาย ถ้าลูกค้ามาสอบถามก็แนะนำให้ซื้ออย่างอื่นแทน เช่น กล้วยข้าวเม่าทอด ขนมอีตุ่ย ไข่นกกระทา มันทิพย์หรือ มันย่าง ส่วนมันทอดก็ราคาแพงขึ้นตามมาอีก จากที่เมื่อก่อนเคยซื้อมาถุงละ 10 กก.ราคา 150 บาท มาตอนนี้ขึ้นราคาถุงละ 280 บาท เพิ่มขึ้นถุงละ 130 บาท ส่วนน้ำมันที่ใช้ทอดกล้วยก็ราคาสูงขึ้นด้วย ยังมีปัจจัยอื่น เช่น มะพร้าว แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล ที่ยังจ่อปรับราคา
ขณะที่มันเทศที่นำมาทอด จะปรับขึ้นไล่มาติด ๆ กับกล้วยน้ำว้า สอบถามแม่ค้าที่ขายมันเทศบอกว่า แต่ก่อนราชบุรีเคยปลูกมันเทศได้ เช่น ที่ อ.สวนผึ้ง และพื้นที่ใกล้เคียงที่ปลูกมันเทศขาย บอกว่า ตอนนี้ปลูกมันเทศไม่ค่อยออกหัว จึงได้เปลี่ยนมาปลูกอ้อยแทน ส่วนมันเทศที่นำมานี้ได้ซื้อมาจากโคราช จึงทำให้ราคามันเทศตอนนี้ปรับราคาแพงขึ้นมากับกล้วยทอดด้วย
นางรุจิรัตน์ บอกอีกว่า ที่ร้านทอดกล้วยได้ทุกวัน มีให้เลือกมากมายหลายอย่าง ตั้งแต่ กล้วยทอด มันทอด ทั้งมันเทศสีม่วง สีส้ม ขนมอีตุ่ย ไข่นกกระทา กล้วยข้าวเม่า ขนมมันทิพย์ย่าง ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเย็นขายทุกวัน อยู่ริมถนนสายทาง ทางเข้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 ประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
พันธุ์ - จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี
#สวนผึ้ง #ราชบุรี #กล้วยทอด

ชุดกู้ภัยยุติการค้นหาผู้สูญหายเหตุดินโคลนภูเก็ตถล่มยอดดับพุ่ง 13 ราย วันนี้ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 15.20 น.ภายหลังปฏิบัติก...
24/08/2024

ชุดกู้ภัยยุติการค้นหาผู้สูญหายเหตุดินโคลนภูเก็ตถล่มยอดดับพุ่ง 13 ราย

วันนี้ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 15.20 น.ภายหลังปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายเหตุดินโคลถล่มตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ของเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้(24 ส.ค.67) นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งยุติการค้นหาร่างผู้สูญหายแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ได้เจอร่างผู้สูญหายแล้วทั้ง 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ K9 ร่วมในการค้นหากว่า 2 วัน ทำให้เจอร่างผู้สูญหายทั้งหมด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิต รวม 13 ราย และมีครัวเรือนได้รับผลกระทบ 209 ครัวเรือน รวม 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน
นายอภิเชษฐ์ ยิ้มอ่อน หัวหน้าชุดกู้ชีพ กู้ภัย มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เล่าว่า อุปสรรคสำหรับการค้นหาร่างของผู้ที่สูญหายเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากมีดินโคลนถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนและมีวัตถุขนาดใหญ่ทำให้ต้องใช้เครื่องจักรในการขุดค้นหา ซึ่งเป้าหมายในวันนี้มีการค้นหาร่างของผู้ที่สูญหายจำนวน 3 ราย ภายหลังปฏิบัติการกว่า 2 วัน สามารถเจอร่างผู้สูญหายทั้งหมดได้แล้ว รู้สึกเหนื่อยแต่ก็ดีใจที่สามารถส่งร่างผู้สูญหายให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการเน้นย้ำการให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งการตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวบุคคล และประสานกงสุลในพื้นที่ สำหรับประเทศที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการในขั้นต่อไป ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และในส่วนที่มีการระบุว่าต้นต่อน่าจะเกิดจากบริเวณใกล้กับจุดก่อสร้าง ลานจอดรถ และห้องน้ำของพระใหญ่ ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ทางจังหวัดจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ชอลคุณภาพข่าวภูเก็ต
https://www.naewna.com/local/824658

หนุ่มเซเว่นขับ จยย.ไปส่งของลูกค้าถูกรถบรรทุกแกลบชนเสียชีวิต วันที่ 24 ส.ค.67 พ.ต.ต.อำนาจ นิ่มนวล ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางหลว...
24/08/2024

หนุ่มเซเว่นขับ จยย.ไปส่งของลูกค้าถูกรถบรรทุกแกลบชนเสียชีวิต
วันที่ 24 ส.ค.67 พ.ต.ต.อำนาจ นิ่มนวล ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางหลวง ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีรถบรรทุก 10 ล้อชนรถจักรยานยนต์ แล้วพุ่งข้ามเลนส์ไปชนกับรถที่อยู่บนถนนอีกหลายคันและมีผู้เสียชีวิต 1 รายบนถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้วมุ่งหน้าปทุมธานีหมู่ที่ 1 ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูรถกู้ชีพเทศบาลคูขวางที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกแกลบเผา ยี่ห้อ Isuzu ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา สภาพพุ่งข้ามเลนส์มาชนกับรถ อีกหลายคันทำให้ด้านหน้า ได้รับความเสียหาย ทราบชื่อคนขับนายสุเนตร อายุ 30 ปีชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ได้รับบาดเจ็บ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ Honda Wave 110 i สีดำเทา ทะเบียน สกลนคร สภาพรถจักรยานยนต์เสียหายยับเยินด้านหลังพบกล่องใส่สินค้าของเซเว่นอีเลฟเว่น ติดกันพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายโชคณรงค์ อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร สภาพถูกรถทับศีรษะแตกคาหมวกกันน็อค ใส่เสื้อ พนักงานส่งของเซเว่นอีเลฟเว่น และยังพบกระเป๋าใส่ของและมีของกระจัดกระจาย
จากการสอบถามนายสุเนตร คนขับรถสิบล้อบรรทุกแกลบดำ กล่าวว่าตนรับแกลบดำมาจากย่านนครปฐมจะไปส่งที่ย่านบางปะอินขณะมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นสามแยก และเป็นช่วงไฟเขียวตนจึงขับเพื่อจะผ่านไปขณะขับมาได้ครึ่งแยกก็เป็นไฟส้ม จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์ ขับออกมาทางด้านขวามือ ตนจึงเบรกไม่ทันชนไปอย่างแรงและรถเสียหลักข้ามเลนส์ไปชนรถที่กำลังจอดติดไฟแดง ได้รับความเสียหายอีกกว่า 10 คันทำให้ประชาชนที่ขับรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถามเพื่อนที่ทำงานเซเว่นฯด้วยกันกล่าวว่า ผู้ตายจะเข้า 07.00 น.เช้าและออก 21.00 น และเซเว่นฯ ตั้งอยู่ตรงสามแยกที่เกิดเหตุขณะนั้นผู้ตายได้นำของไปส่งลูกค้ามาทราบอีกทีก็เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
คลิกอ่าน https://www.naewna.com/local/824614/preview
#อาชญากรรม #อุบัติเหตุ #ร้านสะดวกซื้อ #ปทุมธานี #เซเว่นฯ

ที่อยู่

Bangkok
10700

เบอร์โทรศัพท์

+66936562882

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โจโฉผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง โจโฉ:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

“โจโฉ”

มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย กดติดตาม #โจโฉ

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


Bangkok บริษัท สื่ออื่นๆ

แสดงผลทั้งหมด