FBZ FinCommerce FBZ FinCommerce is a social marketing platform & content creator to support brand partners in the area of contents on multiple channels.

Our team comprises of expertise in acquisition marketing, branding, influencers , KOLs , PR and Event activities

28/10/2024
Mindset การวางแผนการเงินแบบมือใหม่ในวัย 30เริ่มต้นตอนวัย 30 ปี  วางแผนการเงินยังไงให้มีเงินเกษียณให้ตัวเองได้ ถ้าพูดถึงเ...
01/10/2024

Mindset การวางแผนการเงินแบบมือใหม่ในวัย 30

เริ่มต้นตอนวัย 30 ปี วางแผนการเงินยังไงให้มีเงินเกษียณให้ตัวเองได้

ถ้าพูดถึงเรื่องช่วงเวลาการลงทุนที่ดีที่สุด คำตอบจากนักลงทุนหลายๆ คนก็คงจะบอกว่าลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย
จะได้เปรียบสุดเรื่องระยะเวลา เพราะทำให้ได้ประโยชน์จากพลังของดอกเบี้ยทบต้นได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนวัย 30+ ขึ้นไป ถึงแม้เราจะเริ่มต้นช้า ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีเงินล้านไม่ได้

ปัจจุบันเรามีข้อมูลและคลังความรู้เรื่องการเงินและการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์โควิด 19
ที่ได้เปลี่ยนชีวิตใครหลายๆคน และมอบบทเรียนทางการเงินกับคนไทยเป็นอย่างมาก จึงทำให้เราตระหนักและเข้าใจการเก็บออม มีการแบ่งเงินเก็บฉุกเฉินสำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันเพิ่มขึ้น

เราเห็นความสำคัญของคำว่า “วางแผนการเงินเพื่อเกษียณ” เพิ่มมากขึ้น เพราะด้วยการเก็บเงินก้อนใหญ่สำหรับบั้นปลายจะต้องมีตัวแปร ในแง่ของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และมีความเพิ่มขึ้นว่าหากวางแผนและมือทำก็สามารถทำสำเร็จได้ และหลายคนที่เริ่มต้นเก็บเงินตั้งแต่อายุน้อยๆ ก็ได้มีอิสรภาพทางการเงินก่อนเป้าหมายได้อีกด้วย

วันนี้ชวนมาเริ่มต้นกับ Mindset และเป้าหมายทางการเงินของทุกๆคนกันก่อนเลย

1. มีเงินน้อยก็เกษียณได้
มีเงินไม่เยอะ ก็ทยอยเก็บอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างวินัยให้มีเงินก้อน หลังจากที่เราทยอยเก็บออมทุกๆเดือน โดยแบ่งเก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉินแล้ว ( แนะนำเงินเก็บฉุกเฉินควรเพียงพอต่อ Fix cost ในแต่ละเดือน เก็บไว้อย่างน้อย 6-12 เดือน Fix cost คือค่าใช้จ่ายจำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่นับการช้อปปิ้งและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว
ตัวอย่าง หากค่าใช้จ่ายจำเป็นอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท ก็ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉินอยู่ที่ 120,000 - 240,000 บาท ) จึงค่อยๆทยอยศึกษาเรื่องการลงทุนและนำไปแบ่งลงทุนในรูปแบบความเสี่ยงที่แต่ละบุคคลรับได้

2. ออมก่อนใช้เสมอ
เงินเดือน-เงินออม = ค่าใช้จ่าย
หลายๆคนยังเคยชินกับการที่เราจะหักเงินไปใช้จ่ายหรือใช้เพื่อปิดหนี้ต่างๆของตัวเองก่อนเลย แต่อยากแนะนำว่าจริงๆแล้วทางที่ดี่ เมื่อเราได้รับรายได้มาในทุกๆครั้ง ควรจะหักเงินออมก่อนเลยเป็นอันดับแรก ปกติจะแนะนำเก็บออมเริ่มต้นที่ 10% ของรายรับ หากท่านใดสามารถหักได้มากกว่า 10% ก็ปรับเพิ่มตามความเหมาะสมได้เลยเป็น 15% , 20 % แล้วจึงค่อยนำเงินที่เหลือจากการเก็บออมไปบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจำเป็นหมวดอื่นๆของตัวเอง
เท่านี้เราก็จะไม่ลืม หรือพลาดการเก็บออมในทุกๆเดือนของตัวเองกันอย่างแน่นอน

3. เขียนเป้าหมายในการออมของตัวเองให้ชัดเจน
ในบางทีที่เราตั้งใจจะทำอะไร หากเริ่มต้นแบบขาดเป้าหมาย ในตอนเริ่มต้นตอนแรกก็มักจะยังดีอยู่ แต่พอหลังจากนั้นเราอาจจะไม่จดจ่อกับเป้าหมายและหลงลืมไปกับสิ่งอื่นๆที่เรามองว่าเป็นความสุขระหว่างทางไปก่อน ซึ่งสิ่งนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เราไปถึงเป้าหมายเกษียณก็เป็นได้ เราจึงจะต้องเขียนเป้าหมายในการเก็บออม หรือเป้าหมายความฝันของตัวเองให้ชัดเจน เช่น อยากเก็บเงิน 1 ล้านบาทแรกให้ได้ภายใน 5 ปี โดยจะต้องเป็นเป้าหมายที่ตัวเราเองอยากได้ และตั้งใจทำจริงๆ จะต้องไม่ใช่เป้าหมายของคนอื่นที่เราได้ยินมา เพราะเราจะไม่อินมากพอ
โดยอาจจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นได้เช่นกัน เก็บเงินที่ละแสน จากแสนไปเป็นล้านก็ได้

เพราะการมี Mindset แบบคนสำเร็จ จะช่วยนำพาให้เราสำเร็จและไปถึงเป้าหมายได้

‘SkillLane’ ธุรกิจการศึกษาดาวเด่น สตาร์ทอัปแรกของไทยในตลาดหุ้น“เพราะการเรียนรู้ไม่มีขีดจำกัด” SkillLane ก้าวขึ้นมาเป็นผู...
24/09/2024

‘SkillLane’ ธุรกิจการศึกษาดาวเด่น
สตาร์ทอัปแรกของไทยในตลาดหุ้น

“เพราะการเรียนรู้ไม่มีขีดจำกัด” SkillLane ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้าน EdTech ของไทย และกำลังจะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์รายแรกที่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไทย
ใครที่ติดตามข่าวแวดวงการเงินการลงทุนคงจะเคยเห็นข่าวการยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้น IPO ของ SkillLane แพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์แรกในไทยที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดหุ้น จากจุดเริ่มต้นในปี 2557 SkillLane ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนถึงวันที่ 18 กันยายน 2567 ที่บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 15 ล้านหุ้น คิดเป็น 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของอุตสาหกรรม EdTech ไทย แต่อะไรทำให้ SkillLane น่าจับตามองขนาดนี้? เราจะไปแกะโมเดลธุรกิจของ SkillLane พร้อมๆ กัน
อย่างแรกคือ “ความครอบคลุมของบริการ” ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญ SkillLane ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่การให้บริการคอร์สเรียนทั่วไป แต่ยังขยายไปสู่การให้บริการองค์กรและแม้กระทั่งหลักสูตรปริญญาออนไลน์ นี่คือการตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือโครงสร้างรายได้ของบริษัท ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สร้างรายได้ถึง 68% ขณะที่อีก 31% มาจากธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายในแหล่งที่มาของรายได้
ตัวเลขผลประกอบการก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ในปี 2566 SkillLane มีรายได้สูงถึง 237 ล้านบาท และกำไร 31 ล้านบาท และยังคงรักษาแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งแรกของปี 2567 มีรายได้แล้วถึง 157 ล้านบาท และกำไร 18 ล้านบาท
แล้ว SkillLane จะนำเงินจาก IPO ไปทำอะไร? พวกเขาวางแผนที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยี AI ขยายธุรกิจให้คำปรึกษาด้านนวัตกรรมการศึกษา และเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนหมุนเวียน เพื่อวางรากฐานสำหรับการเติบโตในระยะยาว
ในแง่ของความน่าเชื่อถือ SkillLane ได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นคุณต๊อบ เถ้าแก่น้อย หรือคุณเคน นครินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการอิสระ และเมื่อ SkillLane เข้าสู่ตลาดภายใต้ชื่อย่อ "SKILL" นักลงทุนจะได้เห็นหุ้นที่มีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตที่น่าตื่นเต้น
การก้าวสู่ตลาดหุ้นของ SkillLane ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จของบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเติบโตของอุตสาหกรรม EdTech ในประเทศไทย เป็นการเปิดประตูให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมในการปฏิวัติวงการการศึกษา
ในยุคที่การเรียนรู้ตลอดชีวิตกลายเป็นสิ่งจำเป็น SkillLane ที่ใช้สโลแกนว่า "เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา" นั้น กำลังอยู่ในจุดที่ถูกที่ถูกเวลา พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในด้านการศึกษาออนไลน์ ซึ่งในอนาคตเราก็คงต้องมาจับตามองกันว่า การก้าวสู่ตลาดหุ้นครั้งนี้ จะพา SkillLane และวงการ EdTech ไทยไปไกลแค่ไหน ในโลกที่การเรียนรู้ไม่มีวันหยุดนิ่ง
บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
อ้างอิง
https://www.set.or.th/th/listing/ipo/upcoming-ipo/mai
https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=648675&lang=th&fbclid=IwY2xjawFaKeRleHRuA2FlbQIxMAABHeQPXJXJc0zktpOnpDm5NtcyrLobvsp0xOguYXEGH5lRbpRNop3YfHW_Qg_aem_HicWa01TotgEHlrjocoTRQ

หลายคนเข้าใจผิดว่า จะต้องเก็บเงินให้ได้เยอะๆ ก่อน แล้วค่อยวางแผนการเงิน หรือ เรื่องวางแผนการเงินมันเป็นเรื่องของคนรวยนะท...
06/06/2024

หลายคนเข้าใจผิดว่า จะต้องเก็บเงินให้ได้เยอะๆ ก่อน แล้วค่อยวางแผนการเงิน หรือ เรื่องวางแผนการเงินมันเป็นเรื่องของคนรวยนะ
ทั้งที่ความจริงแล้ว ยิ่งเรามีเงินน้อย ก็ยิ่งต้องคิดเรื่องการวางแผนการเงินให้รัดกุม ชัดเจน และเริ่มต้นออมเงินอย่างมีวินัย💰💸

พอเงินเดือนออกทีไรตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเงินให้ได้
แต่พอเผลอใช้เงินก่อนแบ่งออม
เงินก็หมดไม่เหลือเก็บสักเดือน ! 🥲

วันนี้จะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 3 สูตรบริหารเงิน ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งจะช่วยให้เราจัดสรรเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเก็บเงินได้แบบอยู่หมัดด้วย! 🧐

✅ 1. สูตร 50/30/20
สูตรบริหารเงิน 50/30/20 แบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% ของรายได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน/คอนโด ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าเลี้ยงดูบุตร ฯลฯ
ค่าใช้จ่ายสำหรับความบันเทิง 30% ของรายได้ เช่น การท่องเที่ยว รับประทานอาหารนอกบ้าน ช้อปปิ้ง ฯลฯ
เก็บออมหรือชำระหนี้ 20% ของรายได้

🌟 ตัวอย่างเช่น นส กุ้กไก่ มีเงินเดือน เท่ากับ 35,000 บาท หากใช้สูตรบริหารเงิน 50/30/20 จะแบ่งออกได้เป็น ค่าใช้จ่ายจำเป็น 17,500 บาท ค่าใช้จ่ายสำหรับความบันเทิง 10,500 บาท และเก็บออมหรือชำระหนี้ 7,000 บาท

✅ 2. สูตร 80/20
สูตรบริหารเงิน 80/20 แบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 80% ของรายได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน/คอนโด ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ช้อปปิ้ง ค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว ฯลฯ
เก็บออมหรือชำระหนี้ 20% ของรายได้
สำหรับใครที่ไม่อยากแยกค่าใช้จ่ายจำเป็นและค่าใช้จ่ายสำหรับความบันเทิงให้ยุ่งยาก สามารถปรับใช้สูตร 80/20 แทนสูตร 50/30/20 ได้

🌟 ตัวอย่างเช่น นส กุ้กไก่ มีเงินเดือน เท่ากับ 35,000 บาท หากใช้สูตรบริหารเงิน 80/20 จะแบ่งออกได้เป็น ค่าใช้จ่าย 28,000 บาท และเก็บออมหรือชำระหนี้ 7,000 บาท

✅ 3. สูตร 50/15/5
สูตรบริหารเงิน 50/15/5 แบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% ของรายได้ เช่น ค่าเช่าบ้าน/คอนโด ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าเลี้ยงดูบุตร ฯลฯ
ออมหรือลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ 15% ของรายได้
เก็บออมเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน 5% ของรายได้
สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว โดยแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาออมหรือลงทุนเพื่อการเกษียณอายุด้วย หลายคนอ่านแล้วอาจจะสงสัยว่า 50/15/5 บวกกันก็ไม่ครบ 100% นี่หน่า อีก 30% หายไปไหน? คำตอบคืออีก 30% ที่เหลือมีไว้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เราสามารถจัดสรรมันได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่ายสำหรับความบันเทิงต่าง ๆ ท่องเที่ยว ชอปปิง ดูหนัง และ เป็นต้น

🌟 ตัวอย่างเช่น นส กุ้กไก่ มีเงินเดือน เท่ากับ 35,000 บาท หากใช้สูตรบริหารเงิน 50/15/5 จะแบ่งออกได้เป็น ค่าใช้จ่ายจำเป็น 17,500 บาท ออมหรือลงทุนเพื่อการเกษียณ 5,250 บาท เก็บออมเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน 1,750 บาท และอีก 30% หรือ 10,500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

#เรื่องเงินง่ายๆกับTFCFincommerce

🇹🇭พบกันพรุ่งนี้ กับการประกัยรถยนต์ ที่ไม่ผูกติดกับทะเบียนรถ ชอบคันไหนขับคันนั้น สลับขับได้ทุกๆเวลา จ่ายเบี้ยราคาเดียว
06/09/2023

🇹🇭พบกันพรุ่งนี้ กับการประกัยรถยนต์ ที่ไม่ผูกติดกับทะเบียนรถ ชอบคันไหนขับคันนั้น สลับขับได้ทุกๆเวลา จ่ายเบี้ยราคาเดียว

วันนี้เรามาแนะนำ นายหน้าประกันวืนาศภัย Fatberry Thailand สนใจทักได้เลยค่ะ บริการดีมากๆๆ ราคาเหมาะสม มีเจ้าหน้าที่ให้คำปร...
13/08/2023

วันนี้เรามาแนะนำ นายหน้าประกันวืนาศภัย Fatberry Thailand สนใจทักได้เลยค่ะ บริการดีมากๆๆ ราคาเหมาะสม มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาตลอดค่ะ

พร้อมบริการประกันวินาศภัยทุกประเภท พร้อมๆกับ บริษัท ประกันวินาศภัย ชั้นนำ 17 แห่ง

🇹🇭😍ข่าวดี ใช้คะแนนแลกส่วนลดค่าเครื่อง 12-18% ด้วยบัตรเครดิต KTCเว็ปเดียวของ Apple ที่จัดเต็มทั้งแลกคะแนน และผ่อนสูงสุด 1...
29/07/2023

🇹🇭😍ข่าวดี ใช้คะแนนแลกส่วนลดค่าเครื่อง 12-18% ด้วยบัตรเครดิต KTC
เว็ปเดียวของ Apple ที่จัดเต็มทั้งแลกคะแนน และผ่อนสูงสุด 10 เดือน ฟรีดอกเบี่ย ทุกรายการ
กด เลย ที่ KTC Apple Rewards store

https://ktc.applerewardsstore.com/?lang=th

พิเศษ สมาชิกบัตรเครดิต กรุงศรี บัตรเคทีซี ช้อปApple พร้อมรับโปรสุดคุ้มแบ่งจ่าย iPhone, iPad MacBook MacPro , watch และอี...
10/07/2023

พิเศษ สมาชิกบัตรเครดิต กรุงศรี บัตรเคทีซี ช้อปApple พร้อมรับโปรสุดคุ้มแบ่งจ่าย iPhone, iPad MacBook MacPro , watch และอีกมากมาย 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ที่ Krungsri Apple Rewards Store https://ksc.applerewardsstore.com/

https://ktc.applerewardsstore.com/?lang=th

ระยะเวลาโปรโมชั่น 15 พ.ค. 66 – 31 ธ.ค. 67
😍🇹🇭ที่สำคัญคือ เอาคะแนนสะสมมาแลกได้จุๆ เต็มที่เท่าที่มีเลย

09/07/2023

🇹🇭😍วันนี้ สาวกApple รับสิทธิ ใช้ คะแนนสะสม บัตรเครดิต Krungsri สามารถแลกคะแนนสะสมเป็นส่วนลด เพื่อช้อปสินค้า Apple Online ได้จาก เว็ป KSC.Apple Rewards Store พร้อมรับสิทธิต่อไปนี้
✔️โปรแกรมผ่อนชำระ O% นาน 10 เดือน
✔️คะแนนสะสมแลก ได้แบบโปรคุ้มๆ สูงสุด 500,000 คะแนนเลย
สินค้ารับประกัน ส่งตรงจาก Apple Thailand
✔️กดลิงค์นี้เพื่อช้อปคุ้มๆ

https://ksc.applerewardsstore.com/?lang=th

สอบถามได้ทีี ARS Care : 089-615226
Line@TFCFincommerce

09/07/2023

🇹🇭😍เปิดให้ สั่งซื้อกันตั้งแต่วันนี้ สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต KTC ทุกประเภทบัตร
✔️ผ่อนสูงสุด 10 งวด 0%
✔️ใช้คะแนนสะสมแลกได้เท่าที่ต้องการ
✔️จัดส่งฟรี ถึงบ้าน รับประกันสินค้าตามเงื่อนไขของ Apple Thailand
สิทธิพิเศษนี้ เฉพาะสมาชิกบัตรเคคดิต เท่านั้น
เงื่อนไข : ทำรายการบนเว็ปนี้เท่านั้น
ให้บริการโดย OneEmpower ผู้ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple ในการบริหารและให้บริการบน Platform AppleRewards store แต่ผู้เดียว
ภายใต้ความร่วมมือกับบัตรเครดิต KTC
😍สนใตคลิกเข้าชมสินค้าได้ตามลิงค์นี่

https://ktc.applerewardsstore.com/?lang=th

ที่อยู่

2nd F, 2034/28 Italthai Tower , New Petchburi Road, Huaykwang
Bangkok
10310

เบอร์โทรศัพท์

+66957311538

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ FBZ FinCommerceผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง FBZ FinCommerce:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Our Story

Whereyouwant is the regional leading social & lifestyle community network

Head Quarter:

11th Fl Italthai Tower New, Petchburi Road, Bang Kapi, Huaykwang Bangkok 10310

Contact Us:

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


ครีเอเตอร์ดิจิทัล อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด