Man Utd แม่นยูติ

Man Utd แม่นยูติ เชียร์ทุกทีม ตามทุกเซียน

เป็นจังได๋ เพื่อน
14/04/2024

เป็นจังได๋ เพื่อน

24/09/2023

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 1,500 นัด ตลอด 27 ปี ที่เป็นผู้จัดการทีม แต่มีเพียง 3 นัดเท่านั้น ที่เขาไม่ได้คุมทีมข้างสนาม

ครั้งแรก เกิดขึ้นเพราะต้องไปร่วมงานแต่งงานของลูกชาย ส่วนครั้งที่ 2 ต้องไปร่วมงานศพของน้องชายภรรยา ส่วนครั้งที่ 3 เฟอร์กี้ขอลาเพื่อไปดูฟอร์มดาบิด เด เกอา ด้วยตาตัวเอง

ย้อนกลับไป ช่วงต้นฤดูกาล 2010-11 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารมือหนึ่งของทีมปีศาจแดง ณ ขณะนั้น ประกาศว่า นี่คือซีซั่นสุดท้ายของเขาในฟุตบอลอาชีพ เขาอายุ 40 ปีแล้ว ได้เวลาที่จะแขวนถุงมือ เพื่อไปทำงานด้านอื่นต่อไป

นั่นทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเวลาราวๆ 1 ปี ในการตามล่าหานายทวารมือหนึ่งคนใหม่

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนที่ใช้ผู้รักษาประตูคนไหน ก็จะใช้ยาวๆ ไม่อยากเปลี่ยนบ่อยๆ คือช่วงที่ใช้งานปีเตอร์ ชไมเคิล 8 ปี แล้วกว่าจะหาเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เจอ ก็ลองผิดลองถูกนายทวารไปหลายคน ซึ่งการที่ได้ผู้รักษาประตูไม่คลิกกับทีม ส่งผลให้เกมรับมีปัญหามาก และไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งในระดับยุโรปได้ในหลายเกม

แนวคิดของเฟอร์กี้ที่บอกย้ำมาตลอดก็คือ ผู้รักษาประตูที่ดี จะทำให้ทีมมั่นคงขึ้น และจะช่วยเพิ่มแต้มในลีกอย่างน้อย 10 คะแนนในแต่ละซีซั่น

หลังจาก ฟาน เดอ ซาร์ ต้องการแขวนสตั๊ด เฟอร์กี้จึงจำเป็นต้องมีตัวตายตัวแทน ทำให้เขากับเอริค สตีล โค้ชผู้รักษาประตูทำการ scout นายทวารทั่วยุโรป และเล็งไปที่นายทวารสามคน ได้แก่ มานูเอล นอยเออร์ (ชาลเก้) , มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก (อาแจ๊กซ์) และ ดาบิด เด เกอา (แอตเลติโก้ มาดริด)

คนที่เอริค สตีล ต้องการตัวมากๆ คือ เด เกอา เพราะนักเตะอายุยังน้อย (19 ปี) สามารถพัฒนาได้อีก และพร้อมจะยืนระยะได้อีกหลายปีกับทีมปีศาจแดง โดยสตีลเอาคลิปคลิปวีดีโอไฮไลท์ 3 นาที ของเด เกอา ให้เซอร์อเล็กซ์ดู แต่แค่นั้นยังไม่พอ เฟอร์กี้จำเป็นต้องดูด้วยตาตัวเอง

วันพุธที่ 22 กันยายน 2010 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลีกคัพรอบ 3 ไปเยือนสคันธอร์ป ทีมจากระดับแชมเปี้ยนชิพ

ปรากฏว่าเกมนั้น เฟอร์กี้ให้ไมค์ ฟีแลน ผู้ช่วยผู้จัดการทีม เป็นคนคุมทัพข้างสนาม ส่วนเขาบินไปสเปน เพื่อดูเกมลาลีกา ระหว่างบาเลนเซีย กับ แอตเลติโก้ มาดริด ที่แข่งขันในวันเดียวกัน

หน้าฉาก ที่สื่อมวลชนเข้าใจก็คือ เฟอร์กี้บินไปดูฟอร์มของบาเลนเซีย คู่แข่งที่จะเจอกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม อีก 7 วันข้างหน้า (29 กันยายน 2010)

แต่เอาจริงๆ นี่เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะเฟอร์กี้ ไม่เคยปล่อยให้ผู้ช่วยคุมทีม แล้วไปดูฟอร์มของคู่แข่งด้วยตาตัวเองมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เขาทำแบบนั้น

ผู้คนเพิ่งมารู้เหตุผลจริงๆ ในภายหลังว่า การบินไปสเปนครั้งนั้น เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไปดูฟอร์มบาเลนเซียก็ใช่ แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญกว่า คือการดูฟอร์มของเด เกอา ด้วยตาตัวเอง ว่านี่เกมที่เจอคู่แข่งแข็งๆ แบบบาเลนเซีย เด เกอา จะมีผลงานเป็นอย่างไร

ในเกมบาเลนเซีย กับ แอตเลติโก้ มาดริด จบด้วยสกอร์ 1-1 เกมนั้นบาเลนเซียได้โอกาสยิง 17 ครั้ง เข้ากรอบ 4 แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ 1 ลูกเท่านั้น ผลงานของเด เกอา อยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่เฟอร์กี้ เดินหน้าผลักดันในการซื้อตัวมาร่วมทัพ ทันทีที่ฟาน เดอร์ ซาร์ แขวนสตั๊ดไปแล้ว

นั่นคือครั้งที่ 3 และ ครั้งสุดท้ายของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จากทั้งหมด 1,500 เกม ที่ไม่ได้คุมทีมปีศาจแดงข้างสนาม ดังนั้นจะเห็นว่า เขาให้คุณค่ากับดีลของเด เกอา มากขนาดนั้น

ณ เวลานั้น เด เกอา ยังไม่เคยลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ เขาเป็นมือ 4 ของทีมชาติ เป็นรองอีเกร์ กาซียาส, เปเป้ เรน่า และ บิคตอร์ บัลเดส แต่ก็ถือว่า มีประสบการณ์มากพอกับวัยแค่ 19 ปี เขาได้แชมป์ยูโรป้าลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ มาแล้ว คือเส้นทางพร้อมก้าวไปสู่ทีมใหญ่แน่ๆ

หลังจบฤดูกาล 2010-11 แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจซื้อเด เกอา จริงๆ ด้วยค่าตัว 18.9 ล้านปอนด์ เป็นผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานั้น

เฟอร์กูสันกล่าวถึงเด เกอา ว่า "เขายังหนุ่ม มีความรวดเร็วมาก เยือกเย็น และพร้อมที่จะเป็นตัวแทนของฟาน เดอร์ ซาร์ คือเราต้องการผู้รักษาประตูที่มีคุณภาพคล้ายๆ เอ็ดวิน นั่นคือความนิ่ง และจัดระเบียบกองหลังได้ดี ดาบิด เด เกอา มีคุณสมบัติแบบนั้นอยู่"

ตอนที่เด เกอา เซ็นสัญญาเรียบร้อย เขามีอายุ 20 ปีแล้ว และได้ลงเล่นในเกมลาลีกา ทั้งหมด 84 นัด มีประสบการณ์ระดับหนึ่ง แต่การกระโดดมาเล่นให้ทีมใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น ความกดดันมันคนละเรื่อง

ฤดูกาลแรกกับทีมปีศาจแดง (2011-12) ของเด เกอา เริ่มต้นขึ้น และเริ่มต้นแบบไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อเขาเล่นพลาด 2 ช็อตในเกมคอมมิวนิตี้ชิลด์ กับแมนฯ ซิตี้ เริ่มจากไม่ยอมออกมาตัดบอล จนโดนโจเลียน เลสคอตต์ โหม่งเข้า ตามด้วยรับลูกยิงไกล 30 หลาของเอดิน เชโก้ไม่ได้ เขาทำทีมเสียประตู 2 ลูก

เสียงวิจารณ์ดังสนั่นทันที ว่าค่าตัวระดับนี้ แต่เล่นได้แค่นี้ สงสัยแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องหาตัวแทนฟาน เดอร์ ซาร์คนใหม่แล้วล่ะมั้ง

แต่สิ่งที่เฟอร์กูสันทำ คือปกป้องเด เกอา "ทุกครั้ง" ที่โดนวิจารณ์

หลังทำพลาดเสียสองลูกในคอมมิวนิตี้ชิลด์ เฟอร์กูสันอธิบายในลูกแรกที่โดนเลสคอตต์โหม่งว่า "ในจังหวะฟรีคิกแบบนั้น ถ้ากองหลังยืนตำแหน่งไม่ดี ผู้รักษาประตูก็ไม่มีโอกาสเลย ถ้าเขากระโดดออกมาตัดบอลสุ่มสี่สุ่มห้า แล้วโดนยิงเข้า ก็จะดูกลายเป็นคนโง่อยู่ดี ไปดูโจ ฮาร์ท ของฝั่งแมนฯ ซิตี้สิ ก็เสียประตูคล้ายๆ กัน ทำไมไม่ไปด่าทางนั้นบ้าง"

"เด เกอา โอเคดี เขาจะได้ลงเล่นนัดเปิดฤดูกาลอย่างแน่นอน นั่นคือเหตุผลที่เราจ่ายเงิน 18 ล้านปอนด์เพื่อเอาเขามาอยู่ด้วย"

จากนั้นเกมแรกในพรีเมียร์ลีก ที่เจอกับเวสต์บรอมวิช เด เกอาก็ออกลูกเหวออีก แม้แมนฯ ยูไนเต็ดจะชนะได้ก็ตาม แต่เขาก็โดนวิจารณ์ตามเคย

เฟอร์กี้ ปกป้องเด เกอา อีกครั้งบอกว่า "ผมไม่มีข้อสงสัยเลยว่านักเตะคนนี้มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม หน้าที่ของเราคือต้องเข้าใจพรสวรรค์นั้น และทำให้แน่ใจว่าเขาจะก้าวไปเป็นนายทวารระดับท็อปได้ ซึ่งเขาจะไปถึงจุดนั้นได้ ก็ต้องมีประสบการณ์มากๆ กับลีกที่ใช้พละกำลังแบบฟุตบอลอังกฤษเสียก่อน"

"ฟุตบอลอังกฤษไม่เหมือนสเปน เขาต้องรับมือกับลูกครอสบ่อยขึ้น และต้องใช้พละกำลังปะทะคู่แข่งมากขึ้น เขาต้องปรับตัวทีละนิด และเราจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดเส้นทาง"

เด เกอา ลงเล่นไป 3 นัดแรก จากนั้นเกมที่ 4 ต้องไปเยือนโบลตัน วันเดอเรอส์ ที่รีบ็อก สเตเดี้ยม ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า โบลตันมีนักเตะพวกเควิน เดวีส์ ที่เล่นบอลหนัก กระแทกกับโกล์คู่แข่งด้วยพลัง เฟอร์กูสันออกมาดักทางไว้ก่อนเลยว่า "ดาบิด ควรได้รับการปกป้องจากกรรมการมากกว่านี้ ฟุตบอลลีกของเราควรปกป้องผู้รักษาประตูให้ดีกว่านั้นอีก"

ในช่วงแรกสื่อมวลชนสับเด เกอา เละ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ใช้คำว่า "เด เกอา พบว่าชีวิตในพรีเมียร์ลีก ปรับตัวยากเหลือเกิน" นี่เป็นช่วงที่หนักหนาสาหัสมากของนายทวารวัย 20 ปี

แต่เฟอร์กูสันไม่ลดราวาศอก ใครด่าเด เกอา เขาด่ากลับ เฟอร์กี้บอกว่า "ดูเหมือนผู้คนจะคอยสาปแช่งให้เด็กคนนี้ล้มเหลวให้ได้ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำแบบนั้นไปทำไม"

"มันแปลกพิลึกนะ จะบอกว่าคุณเล่นงานเขา เพราะเขาอายุน้อย ผมว่าไม่เกี่ยว ตอนปีเตอร์ เช็กมาเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยอายุไล่ๆ กัน สื่อมวลชนยังไม่เห็นเล่นงานเขาแบบนี้เลย ผมจะบอกให้ เด เกอา ไม่เคยหวั่นไหวหน้าปากประตู เขาเป็นคนนิ่งมาก และเล่นได้ดีสม่ำเสมอ"

ไม่ว่าใครจะว่ายังไง เขาปกป้องลูกทีมอย่างสุดความสามารถ นี่เป็นคนที่เขาไป scout มาเอง ถึงขั้นลางานไปดูฟอร์ม ดังนั้นเขารู้ว่าเด็กคนนี้มีของ และพร้อมเป็นตัวจริงได้ สิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องทำ คือซัพพอร์ทนักเตะให้สุดทาง ถ้าคุณเชื่อว่าเขาคือของจริง

หลังจากโดนด่า โดนสับ มาเยอะในช่วงแรก เด เกอา ก็พัฒนาขึ้นจริงๆ เขาเข้าใจระบบฟุตบอลอังกฤษมากขึ้น เล่นได้พลาดน้อยลง

จุดเด่นที่มี เช่น Shot-Stopping ยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม การเซฟลูกฟรีคิกของฆวน มาต้า ในเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอเชลซี 3-3 ถือเป็นหนึ่งในการเซฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลนั้น

ส่วนจุดอ่อน เช่น เรื่องรูปร่าง และบอดี้ ของเด เกอา ที่ผอมบางเกินไป ถูกปรับให้แกร่งขึ้น เฟิร์มขึ้น มีการเล่นยิมอย่างหนัก เพื่อให้เขาสามารถรับมือกับแรงปะทะในฟุตบอลอังกฤษได้

รวมถึงเรื่องภาษา ที่ตอนแรกเด เกอา พูดอังกฤษไม่ได้เลย บทสัมภาษณ์แรกสุดกับสโมสรเป็นสแปนิชล้วนๆ แต่เขาก็ใช้เวลาเข้าเรียนภาษาอย่างจริงจัง เพื่อการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม คือถ้าคุณคุยกับกองหลังไม่รู้เรื่อง จะจัดระเบียบกันได้อย่างไร จุดนี้เด เกอา ก็ดีขึ้น

การทำงานอย่างใกล้ชิดกับเซอร์อเล็กซ์ และ เอริค สตีล ทำให้เด เกอา เก่งขึ้นเรื่อยๆ ช่วงปลายฤดูกาล เว็บไซต์บลีชเชอร์รีพอร์ท เขียนสดุดี เด เกอาว่า "นี่คือสตาร์ที่มีอนาคตอันยิ่งใหญ่ และจะเป็นกระดูกสันหลังของสโมสรไปอีกนานหลายปี"

จากแรกๆ ที่สื่อมวลชนสับเละ ว่าเป็นการซื้อที่ล้มเหลว แต่พอเด เกอา เล่นดี เสียงด่าเปลี่ยนเป็นเสียงชื่นชมแทน

ซีซั่นแรก เด เกอา ช่วยแมนฯ ยูไนเต็ดได้อันดับ 2 ในลีก แต่พอในซีซั่นที่สอง (2012-13) เขาพาทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้าย ที่แมนฯยูไนเต็ดทำได้ จนถึงวันนี้ด้วย

ในเวลาต่อมาอีกพักใหญ่ วันที่เด เกอา ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนายทวารที่เก่งที่สุดในโลก และสร้างผลงานเหลือเชื่อหลายอย่าง เช่น เซฟ 14 ครั้งในเกมเดียว (กับอาร์เซน่อล ในปี 2017) เฟอร์กูสันได้เล่าถึงเคล็ดลับในการ เปลี่ยนแปลง จากคนที่โดนด่า ให้เป็นนายทวารเวิลด์คลาสว่า

"ดาบิดแสดงให้เห็นว่าเขาคือนายทวารคุณภาพ เพราะเขาโดนวิจารณ์อย่างหนักมาก และหลายๆ คำวิจารณ์ก็ไม่แฟร์ด้วย"

"แต่สิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของเราทำได้ดีเสมอมา คือการพัฒนาคน ดาบิดย้ายมาอยู่กับเราตอนที่เขายังเด็กมาก ไม่เข้าใจพรีเมียร์ลีก และไม่สามารถพูดอังกฤษได้ แถมร่างกายก็อยู่ในช่วงกำลังพัฒนาอีกต่างหาก"

"อย่างไรก็ตาม มันเหมือนเด็กแรกเกิดทุกคนนั่นแหละ ที่ต้องลองลุกขึ้น เพื่อเดินก้าวแรก พอเขาก้าวก็จะหกล้ม แต่เขาก็จะลุกขึ้นเพื่อก้าวใหม่ แล้วก็จะหกล้มอีก จากนั้นก็ลุกอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกแบบนั้น"

"และตอนนี้เด็กคนนั้น สามารถเดินได้อย่างแข็งแรงแล้ว"

หลักคิดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันนั้นเรียบง่ายคือ ใช้คนไม่พึงสงสัย ถ้าสงสัยไม่ต้องใช้

ความหมายคือ ถ้าหากไม่ไว้ใจใคร ไม่เชื่อว่าเก่งพอ ก็จะไม่ส่งลงสนามตั้งแต่แรก แต่ถ้าหากเชื่อใจใครสักคนแล้ว คุณต้องมั่นใจในฝีมือของเขาเสมอ และจะปกป้องทุกทางจนกว่านักเตะจะยืนหยัดได้ สามารถเปล่งประกายอย่างที่ควรจะเป็น

เฟอร์กูสัน ยอมลางานไปดูเด เกอา และยอมจ่ายเงินสถิติผู้รักษาประตูของฟุตบอลอังกฤษซื้อตัวมาร่วมทีม แสดงว่าเขามั่นใจในเด็กคนนี้จริงๆ คนอื่นจะแซะ จะว่า จะแขวะว่าไม่เก่งจริงยังไงเขาไม่สน และท้ายที่สุด เด เกอา ก็ก้าวไปสู่การเป็นสตาร์อย่างที่เฟอร์กี้หวังไว้จริงๆ

โดยสรุปแล้ว เราจะเห็นว่าสังคมฟุตบอลยุคปัจจุบันที่โลกออนไลน์เคลื่อนไหวเร็วมาก ถ้าคุณเล่นพลาดหนึ่งครั้ง ต้องเจอคำด่าทอ และคำขับไล่มากมาย การตัดสินใจจึงอยู่ที่ผู้จัดการทีม ที่จะวางตัวอย่างไร จะเชื่อใจนักเตะของตัวเองแค่ไหน

ถ้าหากเพชรเม็ดงามอย่างเด เกอา ยังไม่สามารถส่องประกายได้ตั้งแต่วันแรก นักเตะคนอื่นๆ ก็อาจต้องใช้เวลาในการเจียระไนเช่นเดียวกัน



-------------------

ทุกคนคงทราบดีนะครับว่าตอนนี้ เกม Fifa Mobile จะรีแบรนด์ เป็น FC Mobile ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป ดังนั้นทาง EA Sports ผู้ผลิตเกม จึงมีกิจกรรมชื่อ Founders (ผู้ร่วมก่อตั้ง) ขึ้นมา เพื่อให้ของขวัญที่ระลึกกับแฟนๆ เกม Fifa Mobile ก่อนที่จะรีแบรนด์ย้ายชื่อใหม่ครับ

คนที่เล่นเกม Fifa Mobile ไปร่วมกันเป็น Founders กันได้เลยนะครับ ยิ่งคนมาร่วมสมัครเท่าไหร่ ของรางวัลยิ่งดีเท่านั้นครับผม ไปร่วมสมัครกันได้แล้ว วันนี้จนถึง 25 กันยายนนะครับ

แล้วอย่าลืมใครอยากสัมผัสความสนุกในเกมฟุตบอลมือถือ ไปโหลด Fifa Mobile มาเล่น ณ ตอนนี้ได้เลย ทั้ง App Store และ Play Store ได้เลยยย

ซ้อมกับทีมนี้ไปก่อน
15/09/2023

ซ้อมกับทีมนี้ไปก่อน

บักแหล่สิไปอีหลีตี้
22/08/2023

บักแหล่สิไปอีหลีตี้

#ลาก่อนน้องรัก
"ผมอยากจะเริ่มต้นพูดในเรื่องที่ว่า ผมเข้าใจดีว่าผู้คนคงตัดสินผมจากสิ่งที่พวกเขาเห็นและได้ยินมาบนโซเชียลมีเดีย และผู้คนจะคิดไปในด้านที่ไม่ดี"

"ผมถูกเลี้ยงดูมาให้รับรู้ว่าการใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายในความสัมพันธ์ใดๆก็ตามนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ผมไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมถูกกล่าวหา และผมก็พ้นความผิดในช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามผมยอมรับทั้งหมดว่าผมได้ทำผิดในเรื่องความสัมพันธ์ดังกล่าวนั้น และผมก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อการทำให้เกิดสถานการณ์ซึ่งนำพาไปสู่การโพสต์สิ่งนั้นในโซเชียลมีเดีย ผมกำลังเรียนรู้ถึงความรับผิดชอบในการจะเป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลอาชีพที่ดี และผมโฟกัสกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในฐานะการเป็นพ่อ รวมถึงการเป็นคู่ชีวิตที่ดีด้วย"

"การตัดสินใจในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานระหว่างสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, ครอบครัวของผม และตัวผมเอง การตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราทุกๆคนก็คือการที่ผมจะดำเนินอาชีพนักฟุตบอลต่อไปในที่อื่นที่ไม่ใช่โอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งการมีอยู่ของตัวผมจะไม่เป็นการรบกวนสโมสร ผมอยากจะขอบคุณการสนับสนุนของสโมสรนับตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 7 ขวบ ยูไนเต็ดจะเป็นส่วนหนึ่งของผมเสมอ"

"ผมอยากขอบคุณครอบครัว และคนที่ผมรักมากๆทุกๆคนสำหรับแรงสนับสนุน สำหรับผมในตอนนี้มันคือการตอบแทนความไว้วางใจที่คนรอบข้างของผมมีให้ ผมอยากจะเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือการจะเป็นพ่อที่ดี เป็นคนที่ดียิ่งขึ้นไป และใช้ความสามารถของผมไปในเรื่องที่ดีๆทั้งในและนอกสนาม"

-เมสัน กรีนวู้ด-

ข้างบนนี้คือการออกมาแถลงผ่านข้อความของเมสัน กรีนวู้ด ถึงทางออกในปัญหาของเขาว่า ในที่สุดแล้วหลังจากผ่านการหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดคำตอบก็ออกมาเป็นการที่จะต้องแยกทางจากกันเพื่อให้ทุกอย่างสามารถเดินหน้าไปได้

ในส่วนของการแถลงอย่างเป็นทางการของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ออกมาแล้วเช่นกัน ดัง full statement ข้างล่างนี้บนหน้าเว็บไซต์ของสโมสร

-------------------------------------

: Manchester United ได้ข้อสรุปการสอบสวนภายในเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของ Mason Greenwood

กระบวนการของเราเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 หลังจากข้อกล่าวหาทั้งหมดถูกถอนฟ้อง เราได้คำนึงถึงความปรารถนา สิทธิ และมุมมองของเหยื่อที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับมาตรฐานและค่านิยมของสโมสร ทั้งยังพยายามรวบรวมข้อมูลแวดล้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เราต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังบนความละเอียดอ่อนนี้เพื่อให้ได้หลักฐานต่างๆที่ไม่ได้ปรากฏตามสาธารณะ รวมถึงจากผู้มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับคดีนี้

จากหลักฐานที่ทางเรามีอยู่ เราได้ข้อสรุปว่าเนื้อหาที่ปรากฏออกมาบนออนไลน์นั้นไม่ได้แสดงคำตอบในภาพรวมที่สมบูรณ์ และเมสันไม่ได้กระทำความผิดในส่วนที่เขาถูกตั้งข้อหาในเบื้องต้น และเป็นไปตามที่เมสันได้ออกมาพูดต่อสาธารณะในวันนี้ว่าเขาทำผิดพลาดและมันเป็นสิ่งที่เขาจะต้องรับผิดชอบ

ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้รวมถึงเมสันต่างก็รับรู้ถึงความยากลำบากในการจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในอาชีพของเขาที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ดังนั้นจึงมีการตกลงร่วมกันว่า มันอาจจะดีที่สุดสำหรับเขาที่จะย้ายออกจากโอลด์แทรฟฟอร์ด และตอนนี้เราจะจัดการเรื่องนี้กับเมสันให้เรียบร้อย

-สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด-

--------------------------------------

บุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกับกระบวนการสอบสวนและจัดการในเรื่องนี้ คือ CEO ของสโมสร ริชาร์ด อาร์โนลด์ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกให้ทุกคนได้อ่านกันถึงเรื่องของเมสัน กรีนวู้ดเช่นกันดังนี้ :

- ขณะนี้เราได้ข้อสรุปและออกประกาศผลของการสอบสวนในคดีเมสัน กรีนวู้ดแล้ว ผมอยากชี้แจงแบบตรงไปตรงมาและโปร่งใสเกี่ยวกับกระบวนการและเหตุผลในการตัดสินใจของเรา

เรื่องนี้เป็นการสอบสวนทางวินัยระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ตามปกติแล้วจะไม่ปรากฏสู่สายตาของสาธารณะ ด้วยลักษณะของข้อกล่าวหาที่เปิดเผยขึ้นมาและประวัติส่วนตัวของเมสัน นี่อาจจะไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ แต่ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องปฏิบัติบนกระบวนการที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงความคิดเห็นจากสื่อจนกว่าจะตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายเท่าที่จะทำได้

เมื่อปรากฏทั้งภาพและฟุตเทจเสียง ในช่วงเดือนมกราคมปี 2022 ผมรู้สึกช็อคและกังวลต่อเหยื่อ ทั้งสวัสดิภาพของเธอ ความต้องการ และมุมมอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแนวทางการปฏิบัติของสโมสรตั้งแต่เกิดเรื่องเป็นต้นมา ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับมาตรฐานและค่านิยมของสโมสรบนพื้นฐานเดียวกัน

ถึงเราจะสรุปได้ทันทีว่าเมสันจะต้องถูกพักงานระหว่างรอสอบสวน แต่เราก็ไม่ลืมในหน้าที่ของการดูแลเขาและความสำคัญในการที่จะต้องใช้หลักฐานทั้งหมดเป็นส่วนสำคัญของการตัดสินใจ จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องของตำรวจและอัยการสูงสุด เมื่อเกิดการถอนข้อกล่าวหาเกิดขึ้น สโมสรก็จะหารือกับเมสัน และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องในคดีนี้

การสืบสวนสอบสวนของเราพยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างข้อเท็จจริงอย่างถูกบริบทขึ้นมา มันไม่ใช่กระบวนการที่รวดเร็วหรือตรงไปตรงมาด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเคารพในสิทธิและความต้องการของเหยื่อ

นอกจากนี้ทางสโมสรยังมีอำนาจที่จำกัดมากในการตรวจสอบ ซึ่งนั่นแปลว่าเราต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคคลที่สาม

เรื่องของไทม์มิ่งในเรื่องนี้เกิดขึ้นจากความต้องการของตัวผมที่จะลดผลกระทบของการสอบส่วนต่อทีมของเราทั้งชายและหญิง รวมถึงนักเตะทีมชาติอังกฤษชุดผู้หญิงของเราด้วย มันอาจจะใช้เวลาเยอะขึ้น แต่ก็มีทางเลือกอื่นๆขึ้นมาที่จะประนีประนอมกระบวนการนี้ได้ หรืออาจจะหยุดลงในทันที

ถึงทางเราจะไม่สามารถเข้าถึงหลักฐานบางอย่างได้ ด้วยเหตุผลที่เราเคารพและเข้าใจดี แต่หลักฐานที่เรารวบรวม ทำให้เราสรุปได้ว่า เมสันไม่ได้กระทำการตามที่เขาถูกตั้งข้อหา ซึ่งผมก็ถูกจำกัดสิทธิ์ในสิ่งที่พูดได้ ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย รวมถึงสิทธิ์ที่จะไม่เปิดเผยตัวตนของเหยื่อที่ถูกกล่าวหา แต่ผมสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้ให้แก่คุณได้ ซึ่งเราควรให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความซับซ้อนในคดีนี้

- เหยื่อขอให้ตำรวจยุติการสอบสวนในเดือนเมษายน 2565
- เราได้รับคำอธิบายเพิ่มเติมขึ้นมาจาก เสียงที่ถูกอัดเอาไว้ เป็นข้อความที่ตัดมาสั้นๆจากตัวเต็มที่ยาวกว่า และจากภาพที่เปิดเผยทางออนไลน์
- ครอบครัวของเหยื่อมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ และได้รับโอกาสในการตรวจสอบเรื่องราว และแก้ไขข้อเท็จจริงที่เราพบ

เมื่อสัปดาห์ก่อนสื่อต่างๆรายงานว่า เราได้ตัดสินจะให้เมสันกลับมาเข้าร่วมอีกครั้ง ซึ่งองค์ประกอบของแผนงานดังกล่าวรั่วไหลไปถึงพวกเขา ซึ่งการกลับสู่สังคมอีกครั้งเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่เราพิจารณาและวางแผนเอาไว้

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีการพิจารณาและวางคำตอบผลลัพธ์ไว้หลายๆอย่าง มุมมองของผมก็พัฒนาไปตามกระบวนที่เราทำอยู่ ซึ่งการตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับตัวผม ที่ได้นำปัจจัยต่างๆ มุมมองต่างๆมาพิจารณาจนกว่าจะถึงขั้นตอนสุดท้าย

ถึงผมจะพอใจที่เมสันไม่ได้กระทำการตามที่เขาถูกตั้งข้อหา แต่เมสันก็ยอมรับว่าเขาทำพลาดซึ่งต้องรับผิดชอบ ผมยังนึกถึงความท้าทายที่เมสันจะต้องเผชิญหน้ากับการเดินทางในอาชีพใหม่อีกครั้ง และเลี้ยงลูกร่วมกับคู่ชีวิตของเขาท่ามกลางการโดนจับจ้องในแสงไฟของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

นอกจากนี้ กรณีนี้ก่อให้เกิดความคิดเห็นที่รุนแรงเกิดขึ้นมามากมาย เป็นความรับผิดชอบของผมที่จะต้องหลีกเลี่ยงและลดสิ่งรบกวนต่างๆที่จะกระทบต่อความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันภายในสโมสรให้ได้มากที่สุด

ถึงเราจะตัดสินใจแล้วว่าเมสันจะพยายามดำเนินอาชีพนักฟุตบอลของเขาต่อไปโดยแยกทางจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่นั่นไม่ได้เป็นสัญญาณว่าเรื่องนี้จะจบลง สโมสรยังคงให้ความสนับสนุนทั้งเหยื่อและตัวเมสันเพื่อช่วยให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้งอย่างดีในชีวิต

ขอบคุณสำหรับแรงสนับสนุนที่ดีเสมอมา

-Richard Arnold-

--------------------------------------
--------------------------------------

#มุมมอง

ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง ผมค่อนข้างเศร้ามากเมื่อเรื่องนี้ได้บทสรุปออกมาแบบนี้ และแทบจะเขียนอะไรออกมาเป็นความรู้สึกไม่ไหวเลย เพราะไม่คิดว่าบทสรุปมันจะจบด้วยคำตอบที่ออกมาในด้านที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดแบบนี้ คือการที่ต้องแยกทางกันไปเลย มันเหมือนความหวังที่เราตั้งใจรอมานาน พังลงในวันนี้เช่นกัน

ในเรื่องของ "มุมมอง" ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่แล้วแต่ความคิดของมนุษย์แต่ละคนเป็นปัจเจก เราไม่สามารถไปล่วงเกินความเห็นของใครได้ และความเห็นของผมก็ไม่มีค่าใดๆต่อเรื่องนี้เช่นกัน นอกจากจะมาเขียนแบ่งปันให้เพื่อนๆบนหน้าเพจได้อ่าน

และความเห็นของผม หรือใครก็ตาม ไม่ควรที่จะมีสิทธิ์ไปพิพากษา Mason Greenwood ซะด้วยซ้ำ คนที่มีสิทธิ์ตัดสินคือ "กระบวนการยุติธรรม" ของสังคมเท่านั้น

ผู้เขียนในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ที่ในชีวิตนี้จะไม่มีทางทำร้ายผู้หญิงแน่นอน และต่อต้านผู้ชายเลวๆที่ทำเรื่องแบบนี้ลงได้อย่างไร ทั้งๆที่ตัวเองเกิดมาร่างกายแข็งแรงกว่าเขา และได้เปรียบผู้หญิงในหลายๆด้าน ผมต่อต้านและไม่ยอมรับเรื่องนี้แบบเต็มตัวเช่นกัน ในวันที่เกิดเรื่องขึ้นมาเราก็ประณามในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่

แต่ก็ต้องแยกกัน ระหว่างการกระทำ กับ "ความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น" มุมมองส่วนตัวของผู้เขียนก็มองว่า ถ้าเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่าเคลียร์ตัวเอง รับผิดชอบหมดแล้วเช่นกัน เหมือนคนที่ทำผิดและได้รับโทษตามที่สมควรแล้ว ถ้าเขาชดใช้หมดสำหรับผมก็ถือว่าหมด เช่นเดียวกับการเข้าสู่กระบวนการตรงนี้ ถ้ากฎหมายได้บทสรุปแล้ว สำหรับผมก็คือจบเหมือนกัน

โดยพฤตินัยแล้วเรื่องนี้มันควรเสร็จสิ้นที่จุดนี้ ยิ่งกับฝ่ายผู้เสียหายที่ต้องการระงับเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงแรกๆของคดีแล้วด้วยซ้ำ (April 2565) เคลียร์กันได้ กลับมาสร้างครอบครัวด้วยกัน เหยื่อไม่ให้ความร่วมมันในการจะทำคดีนี้ต่อไป พวกเขาสองคนต้องการจะเดินหน้าไปด้วยกันต่อจนมีทายาทด้วยกันแล้วด้วยซ้ำ เราเป็นแค่คนนอกจะมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินกับเรื่องนี้ ดังนั้นกระบวนการทางกฎหมายก็จบลงแค่นั้นเหมือนกัน

ทุกอย่างก็ควรจะจบตามการตัดสินใจของเหยื่อด้วย ในยามที่แฟนบอลบางคนยังตามโจมตีเรื่องนี้ไม่หยุดว่ามันผิดจริง ใช่ ภาพหลักฐานมันปรากฎ แต่ถ้าเข้าสู่กระบวนการอย่างถูกต้องแล้ว มันก็ควรจะสิ้นสุดกันแค่ตรงนั้นด้วย ไม่ใช่โฟกัสแต่ภาพที่ออกมาแค่อย่างเดียว เหมือนที่บางกลุ่มพยายามทำกันอยู่จนถึงตอนนี้

----------------------------

การที่ผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะผิดในข้อใด เรื่องใดมากน้อยแค่ไหนก็ตาม การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถือเป็นการรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาตามระบบระเบียบมาตรฐานที่สังคมวางไว้เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากพอๆกับการทำผิดที่เกิดขึ้น ถ้าคุณทำแล้วคุณรับผิดชอบไปตามระเบียบขั้นตอน หากเรียบร้อยแล้วเราก็ถือว่าจบเช่นกัน

ซึ่งเมสันก็ใช้เวลาอยู่กับการสอบสวนหลักฐานต่างๆเป็นปีจนกระทั่งคดีความยุติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในทางกฎหมายเมสัน กรีนวู้ดถือว่าไม่มีความผิดใดๆอีกต่อไปแล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องมลทินใดๆเพราะนั่นเป็นเรื่องของมุมมองความรู้สึกของคนอื่นๆ จะพ้นหรือไม่พ้นมลทินไม่ใช่พอยท์สำคัญของเรื่องนี้เลย เพราะในทางกฎหมายมันเรียบร้อยแล้ว เขาก็ควรที่จะได้รับสิทธิ์ในการอยู่ในสังคมไม่ต่างกับคนอื่นๆเช่นกัน

แต่ในโลกความเป็นจริงมันไม่ใช่ดินแดนยูโทเปียที่ถูกอย่างจะดำเนินเป็นเส้นตรงแล้วทุกอย่างจะจบแบบไม่มีปัญหา เพราะมุมมองความเห็นของมนุษย์ไม่เหมือนกัน

ปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ มันไม่ได้จบแค่เรื่องที่ว่า "กฎหมายตัดสินแล้วถือว่าทุกอย่างเรียบร้อย" ตามมุมมองของคนแบบผู้เขียนมอง เพราะบริบททางสังคมมันซับซ้อนกว่านั้น ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์ที่จะสโมสรจะต้องโดนโจมตีอีกมากมาย โดยที่คนเหล่านั้นไม่สนใจหรอกครับว่า เมสันจะทำผิดจริงหรือเปล่า หรือเขาจะไม่ผิดเลย

แต่คนตัดสินไปแล้วว่าเขาผิด และไม่มีการเห็นอกเห็นใจใดๆทั้งสิ้น สำหรับคนที่เป็นศัตรูซึ่งต้องการทำร้ายสโมสร หรือจากคนที่ต่อต้านและไม่ยอมรับการกลับมาของเมสัน กรีนวู้ด แม้ว่าเขาจะไม่ได้กระทำผิดตามที่คนเหล่านั้นเข้าใจก็ตาม

ในเนื้อหาการแถลงของสโมสร และจดหมายเปิดผนึกของริชาร์ด รวมถึงคำพูดจากเมสันเอง ทุกฝ่ายยืนยันตรงกันว่าเขาไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหาที่ได้รับ เรื่องนี้ชัดเจนในด้านเหตุและผลที่สโมสรเปิดเผยออกมาเป็น official ขนาดนี้ แต่ก็อย่างที่บอกกันว่ามันยังไม่พ้นมลทินแบบเต็มที่ จากหลักฐานต่างๆที่ปรากฏออกมาให้คนเห็น

พอมันไม่สามารถเคลียร์ได้ 100% จากมุมมองเรื่องมลทิน ทุกอย่างจึงส่งผลต่อมาให้เรื่องนี้ไม่สามารถเคลียร์จบได้โดยเร็ว อย่างที่แฟนบอลต้องการ บางคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยืดเยื้อเรื่องกรีนวู้ดขนาดนี้ และก็ด่าสโมสรกันอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย หรือความยากลำบากในการตัดสินใจของคดีนี้ซึ่งละเอียดอ่อนมากในการจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง

แนวต้านต่างๆมันมีอยู่ และมันจะตามไปทุกๆที่ที่เมสันไป

คำพูดนี้เป็นคีย์เวิร์ดมากๆที่ต้นสังกัด และเมสันเอง ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่า เขาจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพต่อไป แต่ไปอยู่ที่อื่นที่จะไม่ "กระทบ" กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเรื่องนี้

เพื่อไม่ให้สโมสรเสียหาย เพื่อลดแสงไฟที่จับจ้องระหว่างตัวเขากับสโมสรใหญ่แห่งนี้ ให้เมสันไปเริ่มต้นชีวิตในchapterใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะกับที่ไหนก็ตาม

------------------------------------

มันอาจจะเป็นตอนจบที่ไม่ถูกใจเราจริงๆ แต่วิธีนี้คงจะเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุดสำหรับแฟนบอลที่รอ แต่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวของเมสัน กรีนวู้ด, ภรรยาของเขา และลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมาก็ได้

ในมุมแฟนบอล ผู้เขียนเสียใจ เสียดายที่สุดที่พรสวรรค์เม็ดงามคนนี้จะต้องออกไปจากสโมสรของเรา

ในมุมของตัวเขา และครอบครัว มันอาจจะดีกว่าก็ได้ ที่จะทำให้เขาได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติให้มากที่สุดอีกครั้ง โดยไร้แรงกดดันใดๆ น่าเสียดายที่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นในระหว่างที่อยู่บนยี่ห้อของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถ้าเมสันเป็นนักเตะสโมสรอื่น เรื่องอาจจะเบาเสียงกันมากกว่านี้ พ้นกระบวนการยุติธรรมเสร็จดีไม่ดีกลับมาลงเล่นต่อเลยก็ยังได้ ถ้ามันเกิดขึ้นที่สโมสรอื่นๆ

แต่นี่คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทีมระดับยูไนเต็ด ทางเลือกมันมีไม่ได้เยอะถ้าจะให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุดจริงๆ

ริชาร์ด อาร์โนลด์ พูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้แอบมีความหวังว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้จบลง (Although we have decided that Mason will seek to rebuild his career away from Manchester United, that does not signal the end of this matter.) สโมสรไม่เคยคิดจะทิ้งน้องเลยจนถึงเส้นทางสุดท้าย พยายามอย่างดีที่สุดโดยคำนึงถึงรอบด้านแล้ว แต่ด้วยการตกลงร่วมกันจากทั้งสองฝ่ายก็เชื่อว่าคงจะสิ้นสุดกันแค่นี้จริงๆ จากการแถลงร่วมกัน และจากข้อความของกรีนวู้ดที่ออกมาพูดด้วยตัวเอง ที่เหลือคงเป็นการจัดการให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปได้ ยูไนเต็ดก็อาจจะช่วยในการหาสโมสรให้เมสันไปค้าแข้งต่อก็ไปในอนาคต

มันคงจะเป็นสิ่งที่ตัดสินใจร่วมกันออกมาแล้วจริงๆว่า "ทางนี้" คงเป็นคำตอบที่จะทำให้ทุกอย่างมันเดินหน้าต่อไปได้ทั้งคู่ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นการเดินหน้าไปพร้อมๆกันเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดก็ตาม

ให้มันเป็นเรื่องราวและบทเรียนสำคัญในชีวิตเอ็งแล้วกันน้องชาย สักวันนึงเมื่อย้อนกลับมามอง ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมามันไม่มีคำว่าไร้ค่าหรอก ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี

อยากบอกว่าน้องไม่ใช่คนเดียวที่ทำผิดเป็น ทุกคนบนโลกนี้ต่อให้เป็นพวกคนปิดใจที่ชี้นิ้วด่าจนถึงตอนนี้ หรือคนที่เปิดใจให้อภัยและสนับสนุน พวกเขา "ทุกคน" ก็เคยทำผิดกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่มีใครบนโลกนี้ดีเลิศ100% โดยไม่เคยทำผิด หรือไม่เคยทำพลาดเลยทั้งนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา และไม่เกี่ยวกับช่วงอายุซะด้วยซ้ำ จะอายุเยอะ อายุน้อย ทำผิดพลาดกันได้หมดไม่ใช่ว่าเพราะความเป็นเด็กวัยรุ่นอย่างเดียว

ผ่านมันไปให้ได้ และขอให้ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กับการเล่นฟุตบอลที่รัก นั่นคือสิ่งสำคัญมากที่สุดอีกสิ่งหนึ่งรองจากครอบครัวจริงๆ ถึงจะไม่ได้อยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแล้วก็ไม่เป็นไร แต่อยากเห็นฝีเท้า อยากเห็นการยิงแบบนั้นอีกครั้ง

หาสโมสรใหม่ให้ได้ แล้วสู้กับการโดนโจมตีให้ถึงที่สุดเพื่อจะกลับมาเตะฟุตบอลอีกครั้ง ใครไม่เข้าใจเราคงไปเปลี่ยนความเห็นของเขาไม่ได้หรอก แต่เราจงทำในสิ่งที่เราตั้งใจก็พอ

บนโลกนี้ความเห็นของคนอื่นมันไม่สำคัญเท่าความรู้สึกของตัวเราเองในเรื่องนั้นหรอก สนใจแค่ตัวเองและคนที่เรารักก็พอแล้ว โลกนี้มันมีแค่นี้แหละ นี่คือคำพูดของคนอายุจะ 40 ที่อยากบอกเด็กรุ่นน้องอายุ 20 ต้นๆคนนึงที่ยังต้องเจอเรื่องราวอะไรอีกมากมาย ทั้งความสมหวังที่จะกลับมาอีกครั้ง และความล้มเหลวที่ยังต้องเจอซ้ำอีกเยอะ

เดินหน้าต่อไปให้ได้ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ขอให้ได้เตะฟุตบอลอีกครั้งก็พอ แล้วเดี๋ยวพวกพี่จะตามไปดู ตอนนี้เหลือแค่ความคาดหวังแล้วว่า จะมีสโมสรไหนสักที่ที่ใจดีกับเขา และให้ "โอกาสที่สอง" กับเมสันอีกครั้ง

ถึงจะเสียใจมากที่ไม่ได้เดินทางไปด้วยกันอีกแล้ว แต่พี่ว่าการได้เตะบอลสำคัญกว่า ขอให้มีที่ไหนดีๆสักที่ เป็นบ้านหลังใหม่ที่เขาตัดสินใจจะรับน้องไปอยู่ด้วยกันนะ

ไม่อยากเขียนอะไรแล้ว มันเสียใจจริงๆ จะคิดถึงตลอดไป ลูกยิง "ใบมีดโกนแห่งเทพ" ที่เฉียบคมและทรงพลังสุดๆอย่างที่พี่ไม่เคยเห็นจากนักเตะดาวรุ่งคนไหน จะติดอยู่ในใจและความทรงจำในการดูบอลของพี่ตลอดไปเหมือนกัน

ลาก่อนน้องรัก Mason Greenwood

#ศาลาผี

22/08/2023

ยอมตกงาน พนักงานหญิง ที่ทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางกลุ่มกำลังพิจารณา ลาออก ในกรณีที่ เมสัน กรีนวู้ด กลับมาสู่ทีม โดยพวกเธอให้เหตุผลว่า ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนเเรง กลัวเสียภาพลักษณ์ที่ดีงามของสโมสร เเต่ก็มีหลายกลุ่มไม่เห็นด้วยกับความคิดของพวกเธอ เนื่องจากคดีความของ เมสัน กรีนวู้ด จบลงเเล้ว เขาเป็นบริสุทธิ์ เเละด้าน นักเตะ กับ ภรรยา ก็ยังรักกันดี รวมถึงมีลูกด้วยกันอย่าง อบอุ่น สื่อ The Athletic รายงาน

22/08/2023

พอดี คุณ Krischenath Phanratanamongkol แฟนเพจขาประจำ เขียนถึงของกรณี เมสัน กรีนวู้ด ไว้ได้ดีมาก อยากให้หลายๆท่านได้อ่านจริงๆ เลยขออนุญาตนำมาแชร์ตรงนี้ เพื่อตกผลึกความคิดและเปิดมุมมองถึงผลกระทบในหลายๆด้านครับ

———————————————————-

สุดท้ายมันคืออัตตา สิ่งที่คนพวกนี้ต้องการคือแค่สนองความยึดมั่นถือมั่นของตัวเอง จนลืมไปว่าตอนนี้ Greenwood อายุแค่ 21 (และตอนเกิดเหตุอายุแค่ 19) และสิ่งที่พวกเค้าต้องการ ไม่เพียงแค่ทำลายอนาคตเยาวชนคนหนึ่ง แต่ยังรวมไปถึงการทำลายครอบครัว ของเด็กน้อยคนหนึ่งที่เพิ่งลืมตามาดูโลก และตัดอนาคตเด็กคนนี้ในระยะยาว

หากเลือกไม่ให้ Greenwood ได้ไปต่อกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงแค่เป็นห่วงภาพลักษณ์สโมสรเพียงอย่างเดียว ผลก็คือ Greenwood คงจะต้องเดินทางไปเตะต่างประเทศ และเป็นไปได้ว่า ลูกและแฟน อาจจะไม่เดินทางไปด้วย ผลก็คือครอบครัวต้องอยู่ห่างกัน

การที่ต้องไปเตะต่างประเทศหากไม่ได้รับโอกาส ไม่แน่ด้วยว่า Greenwood จะมีปัญหาด้านการปรับตัวหรือไม่ และจะมีสมาธิกับฟุตบอลหรือไม่ เมื่อต้องห่างจากครอบครัวที่ยังเล็ก และทารกจะเป็นอย่างไร เมื่อต้องถูกพรากจากบิดา และแฟนต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

การไม่ได้ไปต่อกับแมนยูไนเต็ด ย่อมหมายถึงค่าแรงที่จะต้องลดลงอย่างมาก และย่อมมีผลต่อคุณภาพชีวิต คุณภาพการศึกษาของเด็กในระยะยาว การให้โอกาส Greenwood ก็เป็นการให้โอกาสเด็กทารกคนนี้เช่นกัน

แน่นอนว่าผมเองก็ไม่เห็นด้วย กับ Domestic Violence แต่อย่าลืมว่า Greenwood อายุเพียงแค่ 19 ในตอนที่เกิดเหตุ ไม่ใช่ลุงแก่อายุ 50 ที่ทำร้ายภรรยามาทั้งชีวิต ผมคิดว่า Greenwood น่าจะเรียนรู้และได้รับโอกาส อนึ่งภาพที่ออกมารุนแรงจริง แต่เราก็ไม่ได้ทราบเหตุการณ์ทั้ง 2 ด้าน เด็กทั้ง 2 คนอาจจะมี abusive & toxic relationship ต่อกันทั้ง 2 ฝ่ายในตอนนั้นก็เป็นได้

แน่นอนว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการข่มขืนเช่นกัน และในคลิปเสียงฟังดูเหมือนว่า Greenwood พยายามจะมี s*x กับแฟนโดยที่เธอไม่เต็มใจ แต่ในมุมหนึ่ง ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า เค้าคือแฟนกัน และในตอนที่คลิปออกมานั่น เธอกำลังโกรธเค้าอยู่ (ซึ่งตอนนี้ก็ดีกัน และอะไรๆกันจนมีลูกออกมาแล้ว) จึงไม่ยินยอม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดในพื้นที่ส่วนตัว เราไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าเป็นอย่างไร อีกอย่าง Greenwood ไม่ได้ตระเวนไล่ข่มขืนคนแปลกหน้า ตามที่สาธารณะ ตามผับอย่างในกรณี Dani Alves การกล่าวหาราวกับว่าเค้าเป็น Ra**st ทั้งที่ไม่มีการ prosecution อันนี้มันก็เกินไป

สังคมควรเลิก cancel culture และปล่อยให้ครอบครัวนี้และทารกตัวน้อยได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ซักที

————————————————————————-

18/08/2023

ปี 2003 ลีโอเนล สคาโลนี่ กับ เดวิด เบ็คแฮม​ ได้ปะทะคารมกันจนหวิดบานปลาย ถ้าไม่มีการห้ามปราม​ชนิดสุดตัวจาก โรแบร์​โต้​ คาร์ลอส

ปี 2023 ทั้งคู่ถ่ายรูปคู่กันตามประสาคนในวงการที่โตๆ กันแล้วด้วยความเป็นมืออาชีพ​ และ ทั้งคู่ต่างก็กำลังอยู่ในฐานะเจ้านายของ ลีโอ เมสซี่

สคาโลนี่ คือคนที่มีส่วนพาเมสซี่คว้าแชมป์​โลกในฐานะกุนซือ​ทีมชาติ

เบ็คแฮม​ คือคนที่กำลังจะพาเมสซี่เป็นผู้เล่นที่คว้าแชมป์​แซงหน้า ดานี่ อัลเวส ด้วยแชมป์​ครั้งที่ 44 ในชีวิต​ ในฐานะ​เจ้าของทีม

นี่คือเสน่ห์​ของฟุตบอล​ของจริง

🛎️🛎️ การันตี 100% แอดไลน์ : 🛎️🛎️

17/08/2023

แฟนบอล ไบร์ทตัน คนหนึ่งสักรูป คาโอรุ มิโตมะ ที่บริเวณขาของตัวเองทั้งๆ ที่ มิโตมะ เพิ่งย้ายมาเล่นให้ ไบร์ทตัน อย่างจริงๆ จังเมื่อซีซั่นที่แล้ว ...!!!!

ได้รับการยอมรับแบบเต็มรูปแบบ ♥️♥️♥️

--------------------

(ในรูปมีรอยสักของ ปาสกาล กรอสส์)
สำหรับ ปาสกาล กรอสส์ ลงเล่นให้ ไบร์ทตัน ซีซั่นนี้เป็นซีซั่นที่ 5

ทำไมไม่ตะโกนใส่หูมึงบ้าง ต้องเรียนรู้ว่าทุกคนนั้นอาจผิดพลาดได้
06/08/2023

ทำไมไม่ตะโกนใส่หูมึงบ้าง ต้องเรียนรู้ว่าทุกคนนั้นอาจผิดพลาดได้

สู่ยอดนักเตะกองหน้า
04/08/2023

สู่ยอดนักเตะกองหน้า

ผมไม่สนว่าใครจะมาตะโกนใส่ ผมเป็นกองหลังระดับโลกนะ ไม่สนใจอยู่แล้ว
04/08/2023

ผมไม่สนว่าใครจะมาตะโกนใส่ ผมเป็นกองหลังระดับโลกนะ ไม่สนใจอยู่แล้ว

20/07/2023

🔴ฟาน เดอ เบ็คยิงอย่างงาม! ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค สวมบทซูเปอร์ซับลงมากดประตูชัยจากลูกวอลเลย์งามหยด พา แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือน โอลิมปิก ลียง ในเกมอุ่นเครื่องที่แดนวิสกี้ ขณะที่ จอห์นนี่ อีแวนส์ ได้กลับมาสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" อีกครั้งลงสำรองในครึ่งหลัง ก่อนที่นัดหน้าลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก มีคิวดวล อาร์เซน่อล ที่สหรัฐฯ
เช็กผลบอลสด: www.siamsport.co.th/result

คนเชียร์แมนฯยูมีแต่คนหน้าตาดีๆ
20/07/2023

คนเชียร์แมนฯยูมีแต่คนหน้าตาดีๆ

ที่อยู่

ฉลองกรุง 33
Bangkok
10520

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Man Utd แม่นยูติผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์


ครีเอเตอร์ดิจิทัล อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด