02/04/2024
5 ระยะต้องรู้อยู่ในเล่มกรมธรรม์📝
1. ระยะเวลาของสัญญาประกันภัย
ระยะเวลาของสัญญาประกันภัย จะระบุเป็นช่วงเวลาของวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง จนถึงวันครบกำหนดสัญญาประกันภัย
2. ระยะเวลาเอาประกันภัย
ระยะเวลาเอาประกันภัย หมายถึง ระยะเวลาของความคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพตามที่ระบุในกรมธรรม์ฉบับนั้นๆ เช่น ระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี แปลว่ากรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับนี้มีผลคุ้มครอง 1 ปี หากเกิดเหตุการ์ณไม่คาดคิดในช่วงระยะเวลา 1 ปีนี้ บริษัทประกันจะจ่ายเงินผลประโยชน์ตามที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ ส่วนจะได้จำนวนเท่าไรขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่ซื้อไว้
3.ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
ระยะเวลาที่ต้องชำระเบี้ยประกันภัย ต้องจ่ายทั้งหมดกี่ปีขึ้นอยู่กับแบบประกันที่ลูกค้าเลือก เพื่อความคุ้มครองที่ต่อเนื่องและสภาพคล่องทางการเงินที่ดี ควรเลือกระยะเวลาและรูปแบบการชำระเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถที่ตั้งไว้
4. ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period)
ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง คือ ระยะเวลาที่ลูกค้าจะไม่ได้สามารถเรียกร้องสินไหมตามกรมธรรม์ กรณีเจ็บปวยในระยะเวลาดังกล่าว โดยจะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนในกรมธรรม์ เพื่อป้องกันการเรียกร้องสินไหมจากโรคหรืออาการที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย เนื่องจากการประกันชีวิตจะมีเงื่อนไขไม่คุ้มครองสภาพที่เป็นมาก่อนเอาประกันภัย
⏳ ประกันสุขภาพ จะมีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 30 วัน และ 120 วัน
- 30 วัน ❌ ยังไม่คุ้มครอง โรคทั่วไป เช่น ไข้หวัด ท้องเสีย
- 120 วัน ❌ยังไม่คุ้มครอง โรคร้ายแรง เช่น ไส้เลื่อนทุกชนิด ต้อเนื้อหรือต้อกระจก การตัดทอนซิลหรืออดินอยด์ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น
ทั้งนี้ในแต่ละสัญญาเพิ่มเติมที่ซื้ออาจมีการระบุโรคในระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองแตกต่างกันไป
แต่หากเป็นการรักษาจากอุบัติเหตุสามารถเรียกร้องสินไหมได้ตั้งแต่กรมธรรม์เริ่มมีผลความคุ้มครอง
⏳ ประกันโรคร้ายแรงจะมีระยะเวลารอคอยของโรคที่ได้รับความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป
ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 60 วัน
เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคตับวาย โรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองของแต่ละโรคร้ายแรงจะขึ้นอยู่กับสัญญาเพิ่มเติมที่ลูกค้าซื้อ กรุณาศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของแต่ละสัญญาเพิ่มเติม
5. ระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย (Grace Period)
ระยะเวลาที่บริษัทประกันจะผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยให้ โดยจะมีเวลา 31 วัน นับจากวันที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัย เช่น ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยวันที่ 5 มกราคม 2567 ลูกค้าสามารถชำระเบี้ยประกันภัยได้ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 โดยในช่วงระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยลูกค้ายังคงได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์อยู่ แต่หากมีการเคลมในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยต้องชำระเบี้ยประกันภัยแก่บริษัทให้ครบถ้วนก่อนบริษัทจึงจะพิจารณาจ่ายสินไหมตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ให้แก่ผู้เอาประกันภัย
หากไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยในระยะเวลาผ่อนผันอาจทำให้กรมธรรม์สิ้นสุดความคุ้มครองได้
จะประกันสุขภาพหรือประกันโรคร้ายแรง ก็คุ้มครองตอบโจทย์ให้กับทุกคน
ไม่ว่าจะเป็น โรคเล็กน้อย โรคร้าย โรคระบาด หรืออุบัติเหตุ มีทั้งประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงไว้ก็มั่นใจ ใช้ชีวิตได้ชิล ๆ
หมายเหตุ
- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองรวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
- การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
#ศัพท์ประกันน่ารู้ #5ระยะต้องรู้