Wut - The Story Better

Wut - The Story Better ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ

04/01/2025
02/01/2025

เพราะการเทรดคือเกมยาว

01/01/2025

5 หลักการพัฒนาตนเองแห่งปี 2025 จากสุดยอดหนังสือและคัมภีร์ทรงพลัง
มัดรวมแนวคิดจากหนังสือสมัยใหม่อย่าง Start with WHY, Give and Take, Grit , Atomic Habits
และคัมภีร์โบราณ Corpus Hermeticum + The Way of Hermes + The Kybalion
===================
1.
Start with WHY ของ Simon Sinek: จุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จ คือการเข้าใจแก่นแท้ของ 'ทำไม'
- The Golden Circle คือแผนที่ที่จะพาเราไปพบกับแก่นแท้ของตัวตน ผ่านวงสามชั้นที่สอดคล้องกับการทำงานของจิตใจ - WHY (จุดมุ่งหมายและความเชื่อที่ขับเคลื่อนชีวิต), HOW (วิธีการที่จะทำให้ความเชื่อนั้นเป็นจริง), และ WHAT (การกระทำและผลลัพธ์ที่จับต้องได้)
- โครงสร้างนี้สะท้อนการทำงานของสมองมนุษย์อย่างลึกซึ้ง
- Limbic Brain - ส่วนที่ควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจเชิงสัญชาตญาณ - ตอบสนองต่อ WHY โดยตรง มันคือที่มาของความรู้สึก "ถูกต้อง" ที่เรามักอธิบายไม่ได้
- ในขณะที่ Neocortex รับผิดชอบการวิเคราะห์เหตุผลและจัดการกับ WHAT
- การค้นหา WHY ไม่ใช่การท่องจำวิสัยทัศน์หรือเป้าหมาย แต่เป็นการเดินทางย้อนกลับไปหาแรงบันดาลใจดั้งเดิม - สิ่งที่ทำให้หัวใจเต้นแรง สิ่งที่ทำให้ลุกขึ้นมาในยามที่ล้มลง มันคือความเชื่อที่ลึกซึ้งกว่าความสำเร็จหรือเงินทอง เป็นเหตุผลที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
- เมื่อ WHY ชัดเจน การตัดสินใจทุกอย่างจะง่ายขึ้น เพราะเรามีเข็มทิศนำทาง
- แต่ความท้าทายคือการรักษา WHY ให้สดใหม่ท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิต โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเผชิญกับความกดดัน การปฏิเสธ หรือความล้มเหลว นี่คือจุดที่คนส่วนใหญ่หลงทาง ปล่อยให้แรงกดดันภายนอกพรากพวกเขาไปจาก WHY ที่แท้จริง
- WHY ที่ชัดเจนแต่ขาดทักษะและวิธีการ (HOW) ที่เหมาะสมจะกลายเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ
- HOW ที่แข็งแกร่งแต่ขาด WHY ที่ทรงพลัง จะทำให้เราหลงทางในรายละเอียดและสูญเสียแรงบันดาลใจ
- ความสมดุลระหว่าง WHY และ HOW คือกุญแจสู่การเติบโตที่ยั่งยืน เราต้องพัฒนาทั้งสองด้านไปพร้อมกัน
================================
2.
Give and Take ของ Adam Grant: พลังแห่งการให้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลง
- ในเส้นทางการพัฒนาตน มนุษย์แต่ละคนมีรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน
- Givers ผู้ที่มักให้มากกว่ารับ
- Matchers ผู้ที่ยึดหลักความเท่าเทียม
- และ Takers ผู้ที่มองหาประโยชน์ส่วนตน
- สิ่งที่น่าสนใจคือ Givers มักจะอยู่ที่จุดสุดขั้ว ประสบความสำเร็จอย่างงดงามหรือล้มเหลวยับเยิน
- ความแตกต่างระหว่าง Successful Givers และ Unsuccessful Givers อยู่ที่กลยุทธ์การให้
- Successful Givers ใช้แนวคิด Otherish Giving = การให้ที่คำนึงถึงความยั่งยืน พวกเขาเข้าใจว่าการดูแลตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการทำให้เราสามารถช่วยผู้อื่นได้ในระยะยาว
- ตรงข้ามกับ Selfless Giving ที่มักนำไปสู่ความหมดไฟและการสูญเสียตัวตน
- การให้ที่ชาญฉลาดไม่ได้หมายถึงการคาดหวังผลตอบแทนโดยตรง แต่เป็นการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน เหมือนการหว่านเมล็ดพันธุ์ลงในดินที่อุดมสมบูรณ์
- Givers ที่ประสบความสำเร็จมักมีความสามารถพิเศษในการมองเห็นศักยภาพของผู้อื่น พวกเขาลงทุนในการพัฒนาคนรอบข้าง สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของความไว้วางใจ
- ทักษะสำคัญของ Successful Givers คือความสามารถในการอ่านคน พวกเขารู้จักแยกแยะระหว่าง Takers ที่แฝงตัว กับผู้ที่จริงใจ
- มีการศึกษาที่น่าสนใจพบว่า Givers มีความแม่นยำในการประเมินความจริงใจของผู้อื่นสูงกว่าคนทั่วไป อาจเป็นเพราะประสบการณ์ในการให้ทำให้พวกเขาไวต่อสัญญาณทางสังคมมากขึ้น
==========================
3.
Grit ของ Angela Duckworth: พลังแห่งความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันตาย
- Grit ไม่ใช่แค่ความพยายาม แต่เป็นการผสานระหว่างความหลงใหลและความอดทนที่ยืนยาว หัวใจของ Grit คือความสามารถในการรักษาเป้าหมายระยะยาวไว้ แม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคหรือความล้มเหลว มันคือการมองข้ามความพึงพอใจชั่วคราวเพื่อไล่ตามสิ่งที่มีความหมายกว่า
- องค์ประกอบสำคัญของ Grit มีสี่ประการ
1. Interest ความสนใจที่ลึกซึ้ง
2. Practice การฝึกฝนอย่างมีเป้าหมาย
3. Purpose จุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง
4. Hope ความหวังที่ไม่มีวันมอดดับ
- แต่ละองค์ประกอบนี้ไม่ใช่พรสวรรค์ที่ติดตัวมา แต่เป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้
- Interest เริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์แห่งความอยากรู้ ไม่มีใครเกิดมาพร้อมความหลงใหล แต่มันเติบโตผ่านการสำรวจ ทดลอง และค้นพบ ที่สำคัญคือต้องให้เวลากับมันเติบโต ไม่คาดหวังว่าจะเจอความหลงใหลแบบฟ้าผ่า การค้นพบความสนใจที่แท้จริงต้องการทั้งความอดทนและการเปิดใจ
- Deep Practice คือการฝึกฝนที่มุ่งเน้นการพัฒนา ไม่ใช่แค่ทำซ้ำๆ แต่เป็นการท้าทายขีดจำกัด มุ่งแก้ไขจุดอ่อน และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด มันต่างจาก Flow ที่ราบรื่นและสบาย Deep Practice มักไม่สนุก แต่สร้างความก้าวหน้าที่แท้จริง ต้องการทั้งความมุ่งมั่นและความกล้าที่จะเผชิญกับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง
- Purpose เชื่อมโยงความพยายามของเรากับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ทำให้การต่อสู้มีความหมาย ไม่ใช่แค่ความสำเร็จส่วนตัว แต่เป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นและสังคม Purpose ที่ชัดเจนช่วยให้เราผ่านพ้น Valley of Despair - ช่วงเวลาที่ความพยายามดูเหมือนไร้ผล เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นมีความหมายมากกว่าความสำเร็จหรือความล้มเหลวชั่วคราว
- Hope ในบริบทของ Grit ไม่ใช่การคาดหวังว่าทุกอย่างจะดีเอง แต่เป็นความเชื่อว่าการกระทำของเรามีผล เป็น Growth Mindset ที่มองว่าความสามารถไม่ใช่สิ่งตายตัว แต่พัฒนาได้ผ่านความพยายาม Hope ทำให้เรามองความล้มเหลวเป็นข้อมูลป้อนกลับ ไม่ใช่การตัดสินคุณค่าของตัวเอง
============================
4.
Atomic Habits ของ James Clear: การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ
- การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดจากการปฏิวัติครั้งใหญ่ แต่มาจากการสะสมการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ทีละ 1% ทุกวัน เหมือนดอกเบี้ยทบต้นของการพัฒนาตัวเอง
- การเติบโต 1% ต่อวันเป็นเวลาหนึ่งปีจะส่งผลให้เราดีขึ้น 37.8 เท่า ในขณะที่การถดถอย 1% ต่อวันจะทำให้เหลือเพียง 0.03 เท่าของจุดเริ่มต้น
- นิสัยคือระบบอัตโนมัติที่สมองสร้างขึ้นเพื่อประหยัดพลังงาน มันทำงานผ่านวงจร Cue (สัญญาณ), Craving (ความอยาก), Response (การตอบสนอง), และ Reward (รางวัล) เมื่อเข้าใจวงจรนี้ เราสามารถออกแบบสภาพแวดล้อมให้พฤติกรรมที่ต้องการกลายเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด
- กฎสี่ข้อในการสร้างนิสัย
1 ทำให้ชัดเจน (Obvious)
2 น่าดึงดูด (Attractive)
3 ง่าย (Easy)
4 น่าพึงพอใจ (Satisfying)
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป็นการออกแบบระบบที่ทำให้พฤติกรรมที่ดีเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
- Identity-Based Habits คือหัวใจของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน แทนที่จะมุ่งเน้นที่เป้าหมาย เราควรเริ่มจากการเปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับตัวเอง ทุกครั้งที่เราทำพฤติกรรมใดซ้ำๆ เราไม่ได้แค่สร้างนิสัย แต่กำลังสร้างหลักฐานใหม่ว่าเราเป็นคนแบบไหน การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องสอดคล้องกับตัวตนที่เราต้องการจะเป็น
- Valley of Disappointment เป็นช่วงที่ท้าทายที่สุด เมื่อเราทำทุกอย่างถูกต้องแต่ยังไม่เห็นผล คนส่วนใหญ่ล้มเลิกในช่วงนี้
- แต่หากผ่านพ้นไปได้ จะเข้าสู่ Phase of Breakthrough ที่ผลลัพธ์ทบทวีอย่างก้าวกระโดด เหมือนการสร้างบ้าน - ต้องวางรากฐานให้แข็งแรงก่อนจึงจะเห็นโครงสร้างที่ผุดขึ้นมา
===========================
5.
คัมภีร์โบราณ: ปัญญาสากลแห่งจักรวาล
สามคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดนี้
1. Corpus Hermeticum

2. The Way of Hermes

3. The Kybalion
5.1 Corpus Hermeticum
- เป็นคัมภีร์โบราณที่รวบรวมปัญญาความรู้ของอียิปต์และกรีกโบราณ ถูกเขียนในรูปแบบบทสนทนาระหว่างเฮอร์เมส ทริสเมจิสตัส กับศิษย์ของท่าน นำเสนอความจริงพื้นฐานของจักรวาลและมนุษย์ผ่านบทสนทนา 17 บท
- บทแรก Poimandres เป็นหัวใจสำคัญที่สุด อธิบายการกำเนิดจักรวาลและธรรมชาติของมนุษย์ โดยเริ่มจากความว่างเปล่าและความมืด สู่การปรากฏของแสงสว่างแห่งปัญญา (Nous) จากนั้นจึงเกิดธาตุทั้งสี่และการสร้างสรรพสิ่ง มนุษย์ถูกสร้างให้มีธรรมชาติสองด้าน - ร่างกายที่เป็นวัตถุและจิตวิญญาณที่เป็นประกายจากพระเจ้า
- บทต่อๆ มาอธิบายถึงโครงสร้างของจักรวาลที่แบ่งเป็นระดับชั้น ตั้งแต่พระเจ้าสูงสุดลงมาถึงโลกวัตถุ แต่ละระดับมีกฎและพลังงานเฉพาะ แต่เชื่อมโยงกันด้วยหลักการสากล มนุษย์อยู่ในตำแหน่งพิเศษที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งโลกวัตถุและโลกจิตวิญญาณ
- คัมภีร์เน้นย้ำว่าการพ้นทุกข์เกิดจากความรู้และการตระหนักรู้ (Gnosis) ไม่ใช่แค่ความเชื่อหรือศรัทธา มนุษย์ต้องเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของตน ปล่อยวางจากสิ่งลวงทางโลก และพัฒนาจิตวิญญาณผ่านการภาวนาและการปฏิบัติ
- หลักการสำคัญในคัมภีร์ประกอบด้วย:
1. ทุกสิ่งมาจากหนึ่งเดียว (The One)
2. จักรวาลเป็นทั้งจิตและสสาร
3. มนุษย์มีศักยภาพในการยกระดับจิตวิญญาณ
4. การเข้าถึงความจริงต้องอาศัยทั้งเหตุผลและญาณทัศนะ
5. ความรู้นำไปสู่การหลุดพ้น
Corpus Hermeticum มีอิทธิพลอย่างมากต่อปรัชญาตะวันตก โดยเฉพาะในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ และยังคงเป็นรากฐานของการศึกษาปรัชญาเชิงจิตวิญญาณจนถึงปัจจุบัน
5.2 The Way of Hermes - แนวทางปฏิบัติแห่งปรัชญาเฮอร์เมติก
- The Way of Hermes ไม่ใช่เพียงคู่มือการปฏิบัติ แต่เป็นแผนที่ที่จะนำพาผู้แสวงหาไปสู่การเข้าถึงความจริงสูงสุด โดยผสานความรู้จากคัมภีร์โบราณเข้ากับการปฏิบัติในชีวิตจริง แบ่งการเดินทางนี้เป็น 3 ระดับที่ลึกซึ้งและเชื่อมโยงกัน
- ระดับแรกคือการเข้าใจทฤษฎีจักรวาล ไม่ใช่แค่การท่องจำโครงสร้างของสรรพสิ่ง แต่เป็นการซึมซับความจริงที่ว่าทุกอย่างเชื่อมโยงกันในระบอบอันสมบูรณ์ จักรวาลไม่ใช่เพียงที่ว่างที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่เป็นร่างกายอันมีชีวิตของจิตสากล การเคลื่อนไหวของดวงดาวสะท้อนจังหวะการเต้นของหัวใจจักรวาล และในหัวใจของมนุษย์ทุกคนก็มีประกายของดวงดาวเหล่านั้น
- ระดับที่สองพาเราดำดิ่งสู่จิตวิทยาลึกลับ ที่เผยให้เห็นว่าจิตใจมนุษย์ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในกะโหลก แต่เชื่อมต่อกับพลังลึกลับของจักรวาล ความคิดและอารมณ์ไม่ใช่เพียงปฏิกิริยาเคมีในสมอง แต่เป็นคลื่นพลังงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงรอบตัว การเข้าใจกลไกของจิตจึงเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่
- ระดับที่สามคือการปฏิบัติศักดิ์สิทธิ์ ที่หลอมรวมความเข้าใจทั้งหมดเข้ากับชีวิตประจำวัน ผ่านการภาวนา พิธีกรรม และการใช้สัญลักษณ์ที่ทรงพลัง ไม่ใช่เพียงการทำตามขั้นตอน แต่เป็นการแปรเปลี่ยนตัวตนทั้งหมดให้สอดคล้องกับกฎสากล เหมือนการปรับเครื่องรับวิทยุให้จูนเข้ากับความถี่ของจักรวาล
- The Way of Hermes สอนว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งในระดับความคิด จิตใจ และการกระทำ เหมือนนักเล่นแร่แปรธาตุที่ต้องเปลี่ยนทั้งสสารและจิตวิญญาณไปพร้อมกัน ความรู้ที่ไม่นำไปสู่การปฏิบัติก็เป็นเพียงความฝัน และการปฏิบัติที่ไม่มีรากฐานของความเข้าใจก็เป็นเพียงการเดินในความมืด
5.3 The Kybalion – หลักการเฮอร์เมติก 7 ประการ
- หลักการเฮอร์เมติกเป็นกฎพื้นฐานที่ควบคุมการทำงานของจักรวาลและจิตใจมนุษย์ ผ่านหลักการ 7 ประการที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง

- การเข้าใจหลักการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เราเข้าใจโลกรอบตัว แต่ยังช่วยให้เราสามารถใช้กฎธรรมชาติเหล่านี้ในการพัฒนาตนเอง
- Mentalism - หลักการแรกและสำคัญที่สุด กล่าวว่าทุกสิ่งในจักรวาลล้วนเป็นปรากฏการณ์ทางจิต จิตคือที่มาของทุกสิ่ง และความคิดคือเครื่องมือในการสร้างความจริง หลักการนี้ไม่ได้ปฏิเสธความมีอยู่ของวัตถุ แต่ชี้ให้เห็นว่าสสารทั้งหมดเป็นผลผลิตของจิตสากล การเข้าใจหลักการนี้ช่วยให้เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงในระดับความคิด
- Correspondence - "ดังเบื้องบน ฉันใด เบื้องล่างก็ฉันนั้น" หลักการนี้แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างระดับต่างๆ ของความเป็นจริง ตั้งแต่จุลภาคถึงมหภาค จากอะตอมถึงกาแล็กซี่ จากจิตใจถึงจักรวาล ความเข้าใจในหลักการนี้ช่วยให้เราเห็นว่าการเรียนรู้ในระดับหนึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับอีกระดับหนึ่ง
- Vibration อธิบายว่าทุกสิ่งในจักรวาลอยู่ในสภาวะเคลื่อนไหวและสั่นสะเทือนตลอดเวลา ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่ง แม้แต่สสารที่ดูเหมือนไม่เคลื่อนไหวก็กำลังสั่นในระดับโมเลกุล ความแตกต่างระหว่างสสาร พลังงาน ความคิด และจิตวิญญาณ อยู่ที่อัตราการสั่นสะเทือน การยกระดับความถี่ของตัวเองจึงเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาจิตวิญญาณ
- Polarity แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งมีขั้วตรงข้าม เป็นสเปกตรัมของความเป็นจริงเดียวกัน ร้อน-เย็น มืด-สว่าง รัก-เกลียด ล้วนเป็นระดับที่แตกต่างกันของสิ่งเดียวกัน ความเข้าใจนี้ช่วยให้เรามองเห็นความเป็นหนึ่งเดียวเบื้องหลังความขัดแย้ง และสามารถใช้กฎการแปรสภาพ (Transmutation) เพื่อเปลี่ยนขั้วลบให้เป็นบวกได้
- Rhythm - กฎแห่งจังหวะที่ควบคุมทุกสรรพสิ่ง แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างดำเนินไปในลักษณะของการแกว่งตัวไปมาระหว่างขั้วตรงข้าม เหมือนลูกตุ้มนาฬิกาที่เคลื่อนจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอย่างสม่ำเสมอ ชีวิต อารมณ์ และจักรวาลล้วนเต้นตามจังหวะนี้ ความเข้าใจในหลักการนี้ช่วยให้เราเข้าใจวัฏจักรของชีวิตและสามารถทำนายรูปแบบการเปลี่ยนแปลงได้
- Cause and Effect - กฎแห่งเหตุและผลที่ไม่มีข้อยกเว้น ทุกการกระทำ ทุกเหตุการณ์ ทุกสภาวะล้วนเป็นผลของเหตุที่มาก่อน และจะกลายเป็นเหตุของผลที่ตามมา ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แม้เราอาจไม่เห็นความเชื่อมโยง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎนี้ การเข้าใจหลักการนี้ทำให้เรารู้ว่าเราสามารถสร้างผลที่ต้องการได้ด้วยการจัดการกับเหตุอย่างชาญฉลาด
- Gender - หลักการสุดท้ายที่อธิบายว่าทุกสิ่งมีทั้งพลังชายและหญิงในตัว ไม่ได้หมายถึงเพศทางกายภาพ แต่เป็นหลักการของการสร้างสรรค์ที่ต้องการทั้งสองพลังนี้ พลังชาย (Masculine) แสดงถึงการกระทำ การริเริ่ม การนำ ในขณะที่พลังหญิง (Feminine) แสดงถึงการรับ การบ่มเพาะ การสร้างสรรค์ ความสมดุลระหว่างสองพลังนี้คือกุญแจสู่การพัฒนาที่สมบูรณ์
==============================
จาก WHY ที่ทรงพลังของ Simon Sinek ที่เตือนให้เราไม่หลงลืมแก่นแท้ของตัวตน
สู่พลังแห่งการให้ของ Adam Grant ที่สอนว่าความสำเร็จที่แท้จริงเกิดจากการสร้างคุณค่าให้ผู้อื่น
ต่อด้วย Grit ของ Angela Duckworth ที่เผยให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์ แต่มาจากความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ
เชื่อมต่อด้วย Atomic Habits ของ James Clear ที่ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ
และปิดท้ายด้วยปัญญาอันลุ่มลึกจากคัมภีร์โบราณที่เตือนใจว่า ทุกสิ่งในจักรวาลล้วนเชื่อมโยงกัน และการพัฒนาตนที่แท้จริงต้องเกิดขึ้นทั้งในระดับจิตใจและการกระทำ
เส้นทางแห่งการพัฒนาตนเองนั้น
ไม่ใช่การวิ่งแข่งบนถนนของคนอื่น แต่เป็นการก้าวเดินอย่างมั่นคงบนจังหวะของตัวเอง
ดั่งต้นไม้ที่ไม่เคยเร่งรีบจะผลิดอก ไม่เคยรีบร้อนจะแผ่กิ่ง แต่เติบโตอย่างสง่างามตามจังหวะของธรรมชาติ
ความสำเร็จ
ไม่ได้อยู่ที่การไปถึงยอดเขา แต่อยู่ที่เราได้กลายเป็นนักปีนเขาที่แกร่งกล้าขึ้น
ไม่ได้วัดกันที่ระยะทาง แต่วัดที่รอยเท้าแห่งคุณค่าที่เราได้ประทับไว้บนเส้นทางนั้น
============================
[ สวัสดีปีใหม่ 2568 ครับ ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามเพจทุกท่านครับ ]
Pond Apiwat Atichat แอดมินเพจ Success Strategies กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ
https://www.facebook.com/pond.atichat

31/12/2024

สวัสดี 31 ธันวาคม 2567 .. ❤️

เข้าสู่วันสุดท้ายของปีนี้แล้ว บิวขอมาแชร์สิ่งที่ตกผลึกได้จากการเป็นเทรดเดอร์ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ติดตามทุกๆท่านนะคะ 🫶🏻

1. อาชีพเทรดเดอร์เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการตกผลึก กว่าจะเป็นหมอได้ยังต้องใช้เวลาหลายปี เทรดเดอร์ที่สำเร็จแบบยั่งยืนก็เช่นกัน

2. ทุกเทคนิคดีหมด เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินเทคนิคของใครว่าดีหรือไม่ดี ทำกำไรได้=จบ

3. พาร์ทที่ยากที่สุดของการเทรด คือ การต่อสู้กับอารมณ์หมาป่าของตัวเอง ยิ่งเทรดจะยิ่งเจอสันดานดิบลึกๆของตัวเอง

4. หมาป่าไม่มีวันหายไป วันนี้อาจเอาชนะมันได้แล้ว แต่มันก็สามารถกลับมาได้อีก จงมีสติ ! รู้ เท่าทัน และจับอารมณ์ตัวเองให้ทันอยู่ตลอด

5. พอร์ตแตกครั้งที่ 1 คือการเรียนรู้ แต่ถ้ายังมีครั้ง 2 3 4 อีก แปลว่าไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย

6. อย่าเพิ่งรีบรวย จงโฟกัสที่กระบวรการ ถ้าวิธีการมันใช่ เดี๋ยวเงินก็ตามมาเอง

7. การฝึกฝน และ การมีวินัยเท่านั้น ที่จะพาเราไปถึงปลายทางที่สวยงามได้

8. Money Management is KEY ! พอร์ตจะโตได้ต้อง MM .. จงใช้ความเสี่ยงให้เท่ากันทุกไม้ !!

9. เทคนิคที่ดี ต้องมาคู่กับ Mindset ที่ดีด้วย

10. ต่อให้เทคนิคดีมากแค่ไหน ถ้าขาดการควบคุมอารมณ์ ขาดการยับยั้งชั่งใจในตัวเอง เงินที่มีก็หมดได้เหมือนกัน

11. พอร์ตติดลบ แต่เทคนิคดี เดี๋ยวก็เทรดกลับมาเป็นบวกได้ แต่ถ้าพอร์ตหมดไป เพราะ ความขาดสติ มันจะไม่เหลืออะไรให้แก้อีกเลย

12. YOU GET WHAT YOU DID ! ทำอะไรก็ได้แบบนั้น ไม่มีวินัยในการเทรดยังไง ผลลัพธ์ก็จะได้อย่างนั้น ถ้าอยากเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องทำแบบที่คนสำเร็จทำ

13. จดบันทึกการเทรดทุกไม้ พร้อมบันทึกอารมณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ! เพื่อจะได้รู้ว่าที่เทรดเสียนั้นเพราะเทคนิค หรือ อารมณ์กันแน่

14. พาตัวเองออกไปข้างนอกบ้าง อย่าอยู่แต่หน้าคอม ออกไปปรับสเตรทอารมณ์บ้าง เมื่ออารมณ์ดี การเทรดจะยิ่งดี

15. ไม่มีเทคนิคไหนที่ winrate 100% จงหาเทคนิคที่วินเรทมากกว่า50% แต่ reward ที่ได้ต้องมากกว่า 1 (เสีย 1 บาท แต่ชนะต้องได้ 2 หรือ 3 บาท)

16. หาเทคนิคที่เข้ากับจริตของตัวเองให้เจอ แล้วชีวิตจะมีความสุข

17. อย่าเชื่อโลกโซเชียลมาก ไม้ที่ชนะใครๆก็อวด ไม้ที่แพ้ใครก็เงียบ !

18. คนที่เก่งไม่ใช่คนที่ทำอะไรก็สำเร็จ คนเก่งคือคนที่เติบโต เรียนรู้ได้จากข้อผิดพลาดนั้นตังหาก !

19. อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใคร แต่จงโฟกัสแค่ในลู่ทางของตัวเองเท่านั้น !

20. เชื่อมั่นในแผนของตัวเอง ฝึกมาแบบไหน ทำแบบนั้น อย่าให้คำพูดของคนอื่นทำให้เราไขว้เขว

21. อย่าตามซิกใคร อย่าฝากใครเทรด เงินเราจงรับผิดชอบตัวเอง 100%

22. ยิ่งเห็นภาพที่เกิดซ้ำๆมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดความมั่นใจในการถือออเดอร์ ! ไป Backtest ซะ !!

23. จงทำตามระบบเทรดอย่างเคร่งครัด ! เซ้นท์ไม่สามารถประเมินข้อผิดพลาดได้ ระบบที่ชัดเจนตังหากที่นำมาประเมินข้อผิดพลาดและพัฒนาต่อยอดได้

24. แบ่งเวลาไปออกกำลังกายบ้าง สมาธิ วินัย ความอดทน อารมณ์ และจิตใจ สร้างได้จากการออกกำลัยกาย

25. อย่าเอาเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตมาเทรด ยิ่งเงินร้อนมากเท่าไหร่ จิตใจก็จะร้อนรุ่มมากเท่านั้น

26. อย่าเข้าตลาดด้วยความโลภ เพราะความโลภสร้างความชิบหายมานักต่อนัก

27. จงลงทุนกับความรู้ เพราะความไม่รู้แพงกว่าเสมอ

28. อย่าเพิ่งรีบเติมพอร์ตใหญ่ ! แต่จงเริ่มจากพอร์ตที่พอดีกับหัวใจที่แพ้แล้วจะไม่รู้สึกพังทะลาย แล้วค่อยๆขยายพอร์ตขึ้นไปตามขนาดของหัวใจ

29. เสตรทไม่ดี จิตใจไม่ได้ .. ไม่เทรด ! เพราะอามรมณ์ไม่นิ่ง มักมีผลต่อการตัดสินใจ

**** 30. หาเป้าหมายในการเป็นเทรดเดอร์ของตัวเองให้เจอ เมื่อเป้าหมายมันชัดเจนมากพอ .. จนหัวใจบอกว่า ใช่ ! ฉันจะเอา !! .. คำว่าวินัยมันจะมาเอง 🫶🏻


สุดท้ายนี้ ..

ขอขอบพระคุณพี่ๆทุกๆท่านที่ติดตามกันมาโดยตลอด หวังว่าสิ่งที่บิวตกผลึกได้ทั้ง 30 ข้อนี้ จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่มีประโยชน์ให้กับใครสักคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ .. ☺️❤️

และ ..

พี่ๆอย่าลืมขอบคุณ และ ชื่นชมตัวเองในทุกๆเรื่องที่ผ่านมากันด้วยน๊าาาา 🫶🏻

กำลังใจจากใครก็ไม่อบอุ่นหัวใจ เท่ากับการบอกรักและโอบกอดจากตัวเราเอง .. เชื่อสิ ! เมื่อเราสามารถเติมหัวใจของเราจนเต็มได้ จะกี่เรื่องราวที่เข้ามา ก็พร้อมลุยอยู่แล้ววววววววว 🔥

Happy New Year kaaa 🎂🎈🎉🥳

26/12/2024
22/12/2024

เวลาคือสิ่งเดียวที่คุณใช้จ่ายไป
โดยไม่มีวันรู้ยอดคงเหลือ

ดังนั้นจงใช้มัน "อย่างฉลาด"

---

ร่วมเดินทางไปกับเรา 🔹

22/12/2024

Follow WIN your MIND for more💙

22/12/2024

8 สูตรน้ำจิ้ม พร้อมรับปาร์ตี้ กินปีนี้อร่อยถึงปีหน้า!!! 🍲🥗🥢

จัดมาให้แบบเต็มๆ กับสูตรน้ำจิ้มสำหรับปาร์ตี้ 🎉🎊 จะกินกับสุกี้ ชาบู หมูกระทะ หรือซีฟู้ดปิ้งย่างก็ได้หมด ตอบโจทย์สายกินที่ชอบอยู่บ้าน 🤩😍 หรือจะทำใส่กระปุกไปกินนอกบ้านก็ได้เหมือนกัน บอกเลยว่าทั้ง 8 สูตรนี้มันเริ่ดมันปัง 🥓🥢 กินปีนี้อร่อยถึงปีหน้าแน่นอน!!

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 1
ส่วนผสม
พริกขี้หนูสวนสีเขียว สีแดง 4 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสีแดง 20 เม็ด
กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง
กระเทียมดองแกะกลีบ 1/4 ถ้วยตวง
รากผักชี 10 ราก
น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 12 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา

วิธีทำ
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะ

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 2 (พริกเขียว)
ส่วนผสม
พริกขี้หนูสีเขียว 20 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 1/4 ถ้วยตวง
กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 5 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะ

น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ถั่วตัด
ส่วนผสม
รากผักชี 4 ราก
กระเทียมไทยปอกเปลือก 10 กลีบ
พริกขี้หนูสีเขียว สีแดง 30 เม็ด
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา
ถั่วตัด 80 กรัม

วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกขี้หนูพอแหลก
2. ใส่ถั่วตัดลงโขลกพอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย คนพอเข้ากัน ตักใส่ภาชนะ

น้ำจิ้มซีฟู้ดไข่เค็ม
ส่วนผสม
พริกขี้หนูสวนสีเขียว สีแดง 1/4 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูสีแดง 20 เม็ด
กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง
กระเทียมดองแกะกลีบ 1/4 ถ้วยตวง
รากผักชี 10 ราก
น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ 1/4 ช้อนชา
ไข่แดงเค็ม 2 ฟอง

วิธีทำ
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้ละเอียด เทใส่ภาชนะ

น้ำจิ้มงา
ส่วนผสม
งาขาวคั่วบดละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำจิ้มพอนสึ 2 ช้อนโต๊ะ
มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 2 ช้อนชา
กระเทียมสับ ต้นหอมซอย

วิธีทำ
- ผสมงาขาวคั่ว น้ำจิ้มพอนสึ มิโซะ น้ำมันพืช น้ำมันงา น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย เติมกระเทียมและต้นหอมตามชอบ

น้ำจิ้มแจ่ว
ส่วนผสม
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 2 ช้อนชา
ข้าวคั่ว
ผักชีฝรั่ง ต้นหอมซอยสำหรับโรย

วิธีทำ
1. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย คนพอเข้ากัน
2. ใส่พริกป่น คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถ้วย โรยข้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง ต้นหอม

น้ำจิ้มสุกี้
ส่วนผสม
พริกขี้หนูสีแดง 15 กรัม
กระเทียมจีน 15 กรัม
พริกชี้ฟ้าสีแดงนำเมล็ดออกหั่นหยาบ 20 กรัม
กระเทียมดอง 2 หัว
เต้าหู้ยี้สีแดง 2 ก้อน
ซอสมะเขือเทศ 70 กรัม
ซอสพริก 80 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
น้ำกระเทียมดอง 1/4 ถ้วยตวง
น้ำเต้าหู้ยี้ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 50 กรัม
น้ำเปล่า 100 กรัม
ซอยหอยนางรม 40 กรัม
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 1/2 ช้อนชา
งาขาวคั่วสำหรับโรย
มะนาวผ่าซีก ผักชี พริกสดสีเขียวสับ กระเทียมสับ

วิธีทำ
1. ผสมซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดอง น้ำเต้าหู้ยี้ น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า ซอสหอยนางรม และเกลือป่น คนให้เข้ากัน
2. ใส่พริกขี้หนู กระเทียม พริกชี้ฟ้า กระเทียมดอง เต้าหู้ยี้ และส่วนผสมข้อที่ 1 ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด
3. เทส่วนผสมที่ได้ใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดมีลักษณะข้น ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท ใส่น้ำมันงา คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว จัดเสิร์ฟพร้อมมะนาว ผักชี พริกสด และกระเทียม

น้ำจิ้มหมูกระทะ
ส่วนผสม
พริกขี้หนูสีแดง 15 กรัม
กระเทียมจีน 20 กรัม
กระเทียมดอง 2 หัว
ซอสพริก 150 กรัม
น้ำส้มสายชู 50 กรัม
น้ำเปล่า 60 กรัม
น้ำตาลทราย 80 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
งาขาวคั่วสำหรับโรย
มะนาวผ่าซีก ผักชี พริกสดสีเขียว กระเทียมสับ

วิธีทำ
1. ผสมซอสพริก น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า น้ำตาลทราย น้ำปลา เกลือป่น คนให้เข้ากัน
2. ใส่พริกขี้หนู กระเทียม กระเทียมดอง และส่วนผสมข้อที่ 1 ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด
3. เทส่วนผสมที่ได้ใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดมีลักษณะข้น ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท เติมน้ำมันงา คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว จัดเสิร์ฟพร้อมมะนาว ผักชี พริกสดและกระเทียม

#น้ำจิ้ม #สูตรน้ำจิ้ม #แจกสูตรน้ำจิ้ม #น้ำจิ้มซีฟู้ด #ปีใหม่

ที่อยู่

อุบลราชธานี
Ubon Ratchathani
34000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Wut - The Story Betterผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Wut - The Story Better:

แชร์