ชลบุรีโพสต์ออนไลน์

24/08/2024

สพฉ. รวมพลังกู้ชีพกู้ภัย จิตอาสา ใจเป็นหนึ่งเดียว จัดงานประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติ ในองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ครั้งที่6 ร่วมกับเครือข่ายกว่า 400 องค์กร

วันนี้ (24 ส.ค.67) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกับสมาคมพุทธมามกสว่างประทีปธรรมสถาน ศรีราชา บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
จัดประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติขององค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ "บทบาทกู้ชีพกู้ภัยเพื่อพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินไทยสู่มาตรฐานระดับสากล"

โดยมีเรืออากาศเอก อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ จุนถิระพงศ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรรเทาสาธารณภัย นายธวัชชั
ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางสาวพรรณี ปีติกุลตัง กรรมการผู้จัดการ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
นายวิสิทธิ์ ชวลิตนิติธรรม ผู้แทนเครือข่ายมูลนิธิ เข้าร่วมพิธีเปิด

ในวันนี้ ณ โรงเรียนศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายในงานได้มีการให้นโยบายและแนวทาง บทบาทกู้ชีพกู้ภัยเพื่อพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินไทยสู่มาตรฐานระดับสากล ในเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมถึงการอบรมให้ความรู้ การนำเสนอนวัตกรรมด้านการแพทย์ฉุกเฉิน กิจกรรมภาคสนาม การแข่งขัน EMS Competition การแข่งขันการตอบปัญหาด้านการแพทย์ฉุกเฉิน และที่ขาดไม่ได้คือการมอบรางวัล HERO AWARD เพื่อเป็นการเชิดชูบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นในด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งมีผู้ที่ได้รับรางวัล HERO AWARDที่เป็นป็นผู้มีความกล้าหาญในการช่วยเหลือปฐมพยาลและการช่วยชีวิตคนจนได้รับความปลอดภัยเป็นที่ประจักษ์

ดังนี้ นายพลเสฏฐ์ เลาหรรณวนิช นางสาววิภาวดี ศิริเลิศ นายไพโรจน์ บุญนิ่ม นางศิวะพร กุลสวัสดิ์ นางสาวเทพกานต์ กิจการ พันจ่าโทนิวัฒน์ กังหัน ทันตแพทย์หญิงวิภาวี ปฏิเวทย์ นายเกรียงไกร อภิบาลธรรมกิจ และนายภัทรเดช สงวนความดี

ทั้งนี้การจัดงานประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินฯในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินขององค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อให้มีเวทีระดับชาติสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายกู้ชีพ กู้ภัยขององค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้

24/08/2024

23/08/2024

23/08/2024

พญาไทศรีราชา เปิดบริการ TELECARE 24 ชม. ดูแลสุขภาพออนไลน์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สุขภาพ

พญาไทศรีราชา บันทึกความร่วมมือกับโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน เปิดบริการ TELECARE 24 ชม. ดูแลสุขภาพออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง " เพิ่มความสะดวกสบายในการถึงการการดูแลสุขภาพ ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการดูแล สุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุมและทั่ว

วันนี้ ( 23 ส.ค.) นายแพทย์ ชาญชัย ลี้สมประสงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วีรยะ เภาเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน และผู้อำนวยการสายงานวิจัย นวัตกรรมและความร่วมมือต่างประเทศโรงพยาบาลกลุ่ม PMC และผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดวิจัยและนวัตกรรมเอกชนเครือ รพ.พญาไท-เปาโล นายแพทย์ไกรภพ จารุไพบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานนวัตกรรม-เทคโนโลยีทางการแพทย์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ PMC ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้บริการระบบการแพทย์ทางไกล TELECARE 24 ชม.

นายแพทย์ ชาญชัย กล่าวว่า ในปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการดูแลสุขภาพ ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา จึงขยายเวลาบริการ TELECARE ให้สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ 24 ชม. การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็วและสะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งบริการนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างเดินทาง เพียงแค่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้ทันที

เพื่อให้บริการ TELECARE มีประสิทธิภาพสูงสุด โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลพญาไทพหลโยธิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในเครือพญาไทที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางไกลมายาวนาน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ทั้งในเวลาทำการ และนอกเวลาทำการ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง"

การบริการ TELECARE ของโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ครอบคลุมทั้งการตรวจวินิจฉัย การรักษา การปรึกษา การติดตามอาการป่วยเรื้อรัง การขอใบรับรองแพทย์ และการให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้หลากหลายสาขา เช่น อายุรกรรม สูติ-นรีเวช ศัลยกรรมทั่วไป กุมารเวชกรรม และสาขาอื่นๆ พร้อมด้วยการจัดส่งยาให้ถึงบ้าน

โดยเป้าหมายหลักของโครงการ TELECARE คือการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย ลดระยะเวลาในการเดินทางมาโรงพยาบาล และที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดไม่สะดวกในการเดินทาง สามารถมาใช้ บริการ TELECARE เพื่อดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี โดยโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาล พญาไทพหลโยธิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในเครือพญาไทที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางไกลมาอย่างยาวนาน

ผศ.นพ.วีรยะ เภาเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน กล่าวว่า เพิ่มประสิทธิภาพการบริการด้านสุขภาพของผู้คนในพื้นที่ รพ.ในเครือ พญาไทย ได้นำเทคโนโลยี (Digital Transformation) และนวัตกรรมการบริการเข้ามายกระดับการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม New Age ที่ต้องการความรวดเร็วและบริการที่ตอบสนองเฉพาะบุคคล เช่น แอปพลิเคชัน Health Up ที่ช่วยนัดหมายและติดตามการนัดจากที่บ้าน รวมถึงบริการ Telecare ปรึกษาปัญหาสุขภาพ 24 ชั่วโมง เพิ่มความสะดวกสบายทั้งผู้ใช้บริการและบุคลากรทางการแพทย์

“ให้สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ 24 ชม. การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็วและสะดวกสบาย ซึ่งบริการนี้จะช่วยให้ ผู้ป้วยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างเดินทาง เพียงแค่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ผู้ป่วยสามารถเช้าถึงบริการใด้ทันทีเพื่อให้บริการ TELECARE มีประสิทธิภาพสูงสุด ”

เกรียงไกร - สมจิตร สิงหไพศาล .............. ภาพ-ข่าว

23/08/2024

ท่าเรือแหลมฉบัง มอบทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนแก่เยาวชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีผลการเรียนดี ความประพฤติดี หวังเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ศึกษาจนสำเร็จถึงระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 2 เกือบ 6 แสนบาท

วันนี้ (23 ส.ค.) นางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดพิธีมอบเงินสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนสำหรับเยาวชนในชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง ประจำปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 2 ณ หอบังคับการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี นางสาวนริศรา ทิพยางกรู ปลัดอำเภอศรีราชา นายสุขุม อินแดง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ตัวแทนเทศบาลบางละมุง พร้อมด้วย นางพรทิพา ทวีนุช ผู้อำนวยการกองบริหารงานทั่วไป ท่าเรือแหลมฉบัง คณะผู้บริหาร พนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ผู้แทนชุมชนในพื้นที่รอบท่าเรือแหลมฉบัง และเยาวชนที่ได้รับทุนเข้าร่วมงาน

สำหรับการมอบเงินสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนสำหรับเยาวชนในชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง ประจำปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 2 แล้วให้เยาวชน ทั้งสิ้น 29 คน รวมเป็นเงิน 560,300 โดยครั้งที่ 1 ได้มอบทุนการศึกษาไป เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาจำนวน 18 ทุน เป็นเงิน 363,500 บาท จากงบประมาณด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของท่าเรือแหลมฉบัง

โครงการทุนการศึกษาอย่างยั่งยืนสำหรับเยาวชนในชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบังเป็นโครงการหนึ่งที่ได้กำหนดไว้ในกรอบการดำเนินกิจกรรมด้านสวัสดิการสังคม คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งประกอบด้วยภาคประชาชนและหน่วยงานของรัฐ โดยได้พิจารณาร่วมกันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 โดยมีการสนับสนุน มาแล้วทั้งสิ้น จำนวน 492 ทุน เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาสำหรับเยาวชนที่มีโอกาสเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีสถาบันอุดมศึกษา ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยผ่านการคัดเลือกจากคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง
เกรียงไกร - สมจิตร สิงหไพศาล .......... ภาพ-ข่าว

22/08/2024

สมิติเวช มุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคต ดูแลสุขภาพชาวตะวันออก แบบไร้รอยต่อ เปิดตัว โรงพยาบาลบนฟ้า - บนดิน - โบยบิน

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รพ.สมิติเวช และ รพ.บีเอ็นเอช กล่าวว่า สมิติเวช มุ่งมั่นพัฒนาการบริการทางการแพทย์ สู่ยุคดิจิทัล ขยายฐานดูแลประชาชนในภาคตะวันออก ตอบโจทย์ความต้องการ แก้ Pain Points ของผู้ป่วยในปัจจุบัน และอนาคต เปิดตัว รพ.บนฟ้า - บนดิน - โบยบิน
• รพ.บนฟ้า : แอปพลิเคชัน Tele Smart Care ให้คำปรึกษา วินิจฉัย และรักษาปัญหาสุขภาพเฉพาะบุคคล ผ่านระบบบริการสุขภาพทางไกลโดยแพทย์เฉพาะทาง รวมทั้งนัดหมายแพทย์ จ่ายเงิน จัดส่งยาถึงบ้าน บริการช่องทางด่วนในการตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน ช่วยแก้ปัญหา คนไม่อยากมาโรงพยาบาล ไม่อยากรอนาน เน้นลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตอบโจทย์การเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ที่ผ่านมามีผู้รับบริการสุขภาพทางไกลมากถึง 246,205 ครั้ง ช่วยประหยัดเวลาได้ถึง 80% ลดภาระค่าใช้จ่าย 30% เฝ้าติดตามสุขภาพโดยทีมสหวิชาชีพ ให้คนไข้กว่า 322 คน โดย 99% ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากค่าน้ำตาลสูงหรือต่ำเกินไป
*ในระยะแรก จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00-20.00 น.
• รพ.บนดิน : Smart OPD / Smart IPD คือตัวช่วยของคนไข้ที่มารพ.เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทั้งการดูประวัติการรักษา นัดหมายแพทย์ จ่ายเงิน แจ้งเตือนการกินยา ติดตามสถานะการผ่าตัด ติดตามแผนการรักษา ช่วยแก้ปัญหา เมื่อมา รพ.ไม่อยากรอนาน คลายกังวล สะดวกสบาย เมื่อเข้ามาใช้บริการ
• รพ.โบยบิน : แอปพลิเคชัน Samitivej@Home เป็นการนำบริการของรพ.ไปสู่คนไข้ที่บ้าน เช่น บริการเจาะเลือด บริการล้างแผล เฝ้าไข้ กายภาพบำบัด ดูแลมารดาหลังคลอด ด้วยทีมวิชาชีพของ รพ.ช่วยแก้ปัญหา เมื่อผู้ป่วยไม่สะดวกมารพ. มีผู้ใช้บริการแล้ว 1,200 คน ดูแลสุขภาพคนในชุมชนมากกว่า 20 ชุมชน ช่วยฟื้นฟูความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่า 97% เมื่อทำกายภาพต่อเนื่องที่บ้าน ลดอัตราการกลับมารักษาซ้ำที่รพ.มากกว่า 95% นอกจากนี้ เรายังนำระบบ AI เข้ามาช่วยในการมอนิเตอร์ควบคุมโรคของผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น
พื้นที่ภาคตะวันออกเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ EEC มีโรงงานอุตสาหกรรมก่อตัวขึ้นถึง 2,679 แห่ง มีโรงงานทั้งไทยและต่างชาติใช้บริการระบบแพทย์จากสมิติเวชถึง 280 แห่ง ประกอบกับจุดเด่นของทั้ง รพ.สมิติเวช ศรีราชา และรพ.สมิติเวช ชลบุรี มีแพทย์ ณ ศูนย์อาชีวเวชศาสตร์ Occupational Medicine Center มากที่สุดในรพ.ภาคเอกชนของไทย มีแพทย์ Board Certified in Occupational Medicine ออกตรวจในโรงพยาบาลทุกวัน พยาบาลทุกคนในหน่วยงานผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านอาชีวอนามัยระยะสั้น 60 ชั่วโมง ดูแลสุขภาพคนทำงานในภาคตะวันออกถึง 246,531 คน รวมทั้งดูแลสุขภาพเชิงป้องกันได้ทุกช่วงวัย Total Health Solution อาทิ ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่สำเร็จ 14,384 คน ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ 8,464 คน ด้วยการส่องกล้อง เทคโนโลยี AI จากประเทศญี่ปุ่น รักษาโรคหัวใจเฉียบพลันได้ 98% การผ่าตัดส่องกล้องนรีเวชที่ไม่พบภาวะแทรกซ้อน ช่วยตอบโจทย์การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางสาธารณสุขส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
สิทธิพิเศษ ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน TeleSmartCare และลงทะเบียน รับของรางวัลมากมาย ที่คุณเลือกได้เอง !! ( 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์ จำกัดสิทธิ์ 100 ท่านแรก ใช้สิทธิ์ได้ถึง 31 ตุลาคม 2567)
1. ส่วนลด พบแพทย์ Online มูลค่า 300 บาท
2. ส่วนลด ค่าจัดส่งยา มูลค่า 150 บาท
3. คูปองประเมินความเสี่ยงสุขภาพ 7 ภาวะ จากการถ่ายภาพดูคุณภาพเส้นเลือดในจอประสาทตา ด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ มูลค่า 1,000 บาท
4. คูปองตรวจองค์ประกอบร่างกาย Body Composition มูลค่า 1,000 บาท
5. คูปองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ 1 เข็ม มูลค่า 1,500 บาท

20/08/2024

AIS เปิดผลดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย Thailand Cyber Wellness Index 2024
ชี้คนไทยเกินครึ่งขาดทักษะความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์พร้อมเปิดตัวเครื่องมือเช็กภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ Digital Health Check ครั้งแรกในไทย

AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลชั้นนำของไทยที่มุ่งส่งเสริมการใช้งานที่ถูกต้องปลอดภัยและเหมาะสมให้กับลูกค้าและคนไทย ภายใต้โครงการ AIS อุ่นใจ CYBER เปิด “ผลดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย Thailand Cyber Wellness Index 2024” เป็นปีที่ 2 ตอกย้ำเจตนารมณ์การทำงาน เดินหน้าส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่สามารถนำผลการศึกษาไปต่อยอดเพื่อสร้างความรู้ ทักษะ รวมถึงเส้นทางในการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับคนไทยได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

พร้อมกันนี้ได้พัฒนาเครื่องมือเช็กภูมิคุ้มกันภัยทางไซเบอร์แบบรายบุคคล หรือ Digital Health Check เป็นครั้งแรกในไทยที่ทุกคนสามารถประเมินระดับความสามารถในการรับมือจากภัยไซเบอร์พร้อมศึกษาความรู้จากหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลได้ด้วยตัวเอง มากไปกว่านั้น AIS ยังได้นำเสนอเครื่องมือป้องกันภัยไซเบอร์ด้วยบริการ AIS Secure Net ที่วันนี้ได้เพิ่มการปกป้องที่ครอบคลุมมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองเว็บไซต์อันตรายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้า AIS ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างอุ่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวล และที่สำคัญลูกค้า AIS สามารถใช้บริการ AIS Secure Net ได้ฟรี เป็นระยะเวลา 12 เดือน

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย การป้องกันภัยไซเบอร์กลายเป็นประเด็นที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ทำให้การทำงานของ AIS ในฐานะผู้นำด้านบริการดิจิทัลที่มุ่งส่งเสริมการใช้งานออนไลน์ที่ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยยิ่งทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งในมุมของการสร้างภูมิปัญญาหรือ Wisdom ที่จะนำไปสู่การสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ และในมุมของการใช้ขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีมาส่งมอบเครื่องมือปกป้องภัยไซเบอร์และมิจฉาชีพที่แฝงมากับการใช้งานออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ”

โดยในปีที่ผ่านมา AIS ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และนักวิชาการ ได้เปิดตัวดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย หรือ Thailand Cyber Wellness Index ฉบับแรกของไทยที่ทำให้เห็นถึงระดับทักษะการรับรู้และความเข้าใจการใช้งานดิจิทัลในด้านต่างๆ ที่คนไทยยังคงต้องพัฒนาทักษะความรู้เพื่อรับมือกับภัยไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ ทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหยิบเอาผลการศึกษาของเราไปต่อยอดในการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้ได้ตรงกลุ่มอายุ อาชีพ หรือแม้แต่พื้นที่อย่างสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละหน่วยงาน

สำหรับปีนี้ผลการศึกษาก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า แม้คนไทยจะมีการพัฒนาความเข้าใจในการใช้งานบนโลกดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจนผลในภาพรวมอยู่ในระดับพื้นฐาน แต่ยังมีจุดที่น่ากังวล เพราะคนไทยเกินครึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security and Safety)โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความเสี่ยงต่อภัยที่อาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อการใช้งานของตนเองและองค์กร อาทิ การไม่มีความรู้ความเข้าใจการถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์, การใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน, การใช้ วันเดือนปีเกิด มาตั้งเป็นรหัสผ่านซึ่งง่ายต่อการคาดเดา แม้แต่การไม่ทราบว่าการเข้าเว็บไซต์ที่ปลอดภัยลิงค์ URL ควรจะเป็น HTTPS เป็นต้น

นางสายชล อธิบายเพิ่มเติมว่า “เราจึงทำงานควบคู่กันทั้งการส่งเสริมทักษะความรู้ และพัฒนาเครื่องมือปกป้องการใช้ งานทำให้วันนี้เราพัฒนาเครื่องมือ “Digital Health Check” เพื่อให้คนไทยสามารถวิเคราะห์และประเมินทักษะด้านดิจิทัลของตนเอง พร้อมทั้งแนะนำช่องทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ในการป้องกันภัยไซเบอร์ให้แก่ลูกค้าและคนไทย”

โดยวันนี้ลูกค้าสามารถสมัครใช้งาน AIS Secure Net ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงกด *689*6 # รวมถึงการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย บริการ Secure Net+ Protected by MSIG ชูจุดเด่นปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นไวรัส มัลแวร์ เว็บไซต์ปลอมหลอกลวง พร้อมแถมประกันภัยเพอร์ซัลนัลไซเบอร์ จาก MSIG ที่มอบความคุ้มครอง อาทิ การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และโจรกรรมเงิน หรือการถูกหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ทางออนไลน์ ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานออนไลน์ในโลกไซเบอร์ได้อย่างมั่นใจ ในราคาสุดคุ้มเดือนละ 39 บาทเท่านั้น สมัครง่ายๆ เพียงกด *689*10 # โทรออก

“AIS ยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลของคนไทย พร้อมเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือเพื่อให้คนไทยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาภัยไซเบอร์จากกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงมากับการใช้งาน ทั้งมาตรการยืนยันตัวตน การควบคุมสัญญาณบริเวณรอยต่อชายแดน หรือ การสนับสนุนการทำงานของพี่ๆตำรวจโดยทีมวิศวกร ทั้งหมดเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ AIS เพื่อให้ภัยไซเบอร์หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นางสายชล กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจตรวจเช็กสุขภาวะทางดิจิทัลของตัวเอง ได้ที่ https://digitalhealthcheck.ais.th และสามารถอ่านรายละเอียดผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล Thailand Cyber Wellness Index 2024 ของคนไทย เพิ่มเติมที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/thailands-cyber-wellness-index

# # # # #

18/08/2024

หนุ่มสาวโรงงาน-ชาวบ้านนับพันร่วมใจขนทราย ขนหิน ขึ้นยอดเขา”วัดเขาตะแบก”ผ่านบันไดเกือบ200ขั้นเพื่อนำไปบูรณะวิหารหลวงพ่อโสธรบนยอดเขา
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่วัดเขาตะแบก ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กลุ่มหนุ่มสาวโรงงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี-ระยอง รวมถึงประชาชนในพื้นที่กว่า 1,000 คน ต่างพร้อมใจกันเดินทางมาออกแรงช่วยขนทราย ขนหิน ขนไม้แบบ ขึ้นยอดเขาตะแบก ไปที่วิหารหลวงพ่อโสธรเพื่อบูรณะครั้งยิ่งใหญ่บริเวณรอบวิหารหลวงพ่อโสธร ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่อำเภอศรีราชาและกลุ่มหนุ่มสาวโรงงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี-ระยองนับพันคน มาช่วยกันขนทราย 2 คันรถสิบล้อ หินอีก1 เที่ยวรถ แม่แบบ โดยได้ยืนต่อแถวเรียงรายขึ้นไปตามขั้นบันได 182 ขั้น ก่อนจะช่วยผลัดกันหิ้วทราย ขนหินส่งต่อกันเป็นทอดๆขึ้นไปบนยอดเขาตะแบก ซึ่งเป็นภาพพลังศรัทธาสามัคคีที่น่าประทับใจเป็นอย่างมากซึ่งการขนทราย ขนหินจะเสร็จสิ้นในเวลา15.00น.เป็นอย่างช้าโดยในครั้งนี้ได้มีนายเดชา จันทร์เล็ก ประธานสภาอบจ.ชลบุรีและผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่หมู่4 ตำบลหนองขามมาร่วมในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีผู้มีจิตศรัทธานำอาหารและเครื่องดื่มกว่า15โรงทานมาเปิดเป็นโรงทานให้กับกลุ่มจิตอาสาที่มาช่วยเหลือกิจกรรมขนทราย ขนหิน ขึ้นยอดเขาวัดเขาตะแบกแห่งนี้ ทำให้ในช่วงเช้าวันนี้สภาพจราจรในเส้นทางรอบๆวัดเขาตะแบก มีปริมาณรถหนาแน่น เนื่องจากประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาร่วมกันขนทรายขึ้นยอดเขาตะแบกในครั้งนี้ ขณะที่กลุ่มหนุ่มสาวโรงงานในพื้นที่ชลบุรี-ระยอง เปิดเผยว่ารู้สึกอิ่มบุญ ที่มาช่วยขนทรายขึ้นยอดเขาตะแบก ขณะที่ฝ่ายประชาชนที่มาทำโรงทาน กล่าวว่านำอาหาร เครื่องดื่มมาออกโรงทานให้ประชาชนที่มาช่วยขนทรายขึ้นยอดเขาตะแบก ได้รับประทานกันอย่างเต็มที่อีกด้วย
ชำนาญ ใจเอื้อ (โก๊ะ) ..... ภาพ-ข่าว

17/08/2024

วัดรังษีสุทธาวาส(ไร่กล้วย)เตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลวันมรณกาลครบ 9 ปี หลวงปู่ทอง ปัญญาทีโป สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย ในวันที่25ส.ค.นี้
พระครูมธุรสธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) พร้อมคณะศิษยานุศิษย์พระครูสุทธิคุณรังษี (หลวงพ่อทอง ปญฺญาทีโป) หรือที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกว่า “หลวงพ่อทอง” อดีตเจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) ได้เตรียมจัดงานวันมรณกาลครบ 9 ปี สิริอายุรวม 103 ปี โดยกำหนดการมีดังนี้ ในวันที่22 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00น. อัญเชิญสังขารหลวงปู่ทองจากโลงแก้ว ลงมาให้ลูกศิษย์ปิดทองสรีระสังขาร และในวันที่25สิงหาคม 2567เวลา10.00น.ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายหลวงปู่ทอง ที่บนศาลาที่ตั้งสรีระสังขารของหลวงปู่ทอง
สำหรับพระครูสุทธิคุณรังษี “หลวงปู่ทอง ปญญาทีโป” เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ปีจอ บิดาชื่อ นายสี ก้านบัว มารดาชื่อ นางไผ่ ก้านบัว ท่านเป็นชาวอำเภอพนัสนิคม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 4 ในช่วงชีวิตที่ท่านครองเพศฆราวาสนั้นได้ช่วยบิดามารดาประกอบสัมมาอาชีวะตามประสาสุจริตชนทั่วไป สำหรับพระครูสุทธิคุณรังษี “หลวงปู่ทอง ปญญาทีโป” เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ปีจอ บิดาชื่อ นายสี ก้านบัว มารดาชื่อ นางไผ่ ก้านบัว ท่านเป็นชาวอำเภอพนัสนิคม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 4 ในช่วงชีวิตที่ท่านครองเพศฆราวาสนั้นได้ช่วยบิดามารดาประกอบสัมมาอาชีวะตามประสาสุจริตชนทั่วไป จากนั้นจึงได้เข้าสมัครรับราชการทหารเป็นเวลากว่า 2 ปี ภายหลังที่ท่านใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสมาอย่างโชกโชนแล้ว หลวงปู่ท่านจึงคิดจะบวชเพื่อแสวงหาสัจธรรม และตอบแทนพระคุณบุพการี ท่านจึงตัดสินใจเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2489 ณ พัธสีมา วัดเนินสังข์สกฤษฏาราม ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูเจียม วัดหลวงพรหมาวาส พระกรรมวาจาจารย์ คือพระมหาเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเอียง วัดไร่หลักทอง ได้รับฉายาว่า “ปัญญาทีโป” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจแสงสว่างแห่งดวงประทีป
ย้อนไปเล็กน้อย ในการสร้างวัดไร่กล้วยนั้นครั้งแรกเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2488 ก่อนหลวงปู่ทองบรรพชา 1 พรรษาชาวบ้านได้นิมนต์อาจารย์มานิตย์ (พระ

17/08/2024

โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 Gulf MTP จัดโครงการ “ GULF ห่วงใย ดูแลใส่ใจผู้ป่วยเบาหวาน ” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน

วันที่ 13 สิงหาคม 2567 โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (GMTP) สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด มหาชน (ITD) และบริษัท ที่ปรึกษา PMSC “ GULF ห่วงใย ดูแลใส่ใจผู้ป่วยเบาหวาน” จัดโครงการอบรมหลักสูตรโภชนบำบัดในผู้เป็นเบาหวานที่มีโรคแทรกซ้อนเรื่อง และมอบเครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน 40 ชุด ให้กับ เทศบาลเมืองมาบตาพุด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านพยูน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพลา โดยได้รับเกียรติจาก นายสุเมธ คนทา รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขฯ นายทักษิณ วรรณศิริ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านพยูน สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน นายพิชัย พละเดช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพลาและสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าร่วมรับมอบ และ มีผู้เข้าอบรมจำนวนมาก
นายศุภฤกษ์ โสภณราพงษ์ ผช.ผจก.ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ (GMTP ) ผู้แทนโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ และ ฝึกทักษะเกี่ยวกับการให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาด้านโภชนบำบัดในผู้เป็นเบาหวานที่มีโรคแทรกซ้อนอย่างเข้มข้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้ความรู้โรคเบาหวานมีความรู้สร้างความความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงาน สามารถมีความรู้ความชำนาญ ยกระดับการให้คำแนะนำและคำปรึกษาดำเนินไปอย่างถูกต้องได้ตามมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อกระบวนการทำงานและผลการรักษาผู้เป็นเบาหวานมากยิ่งขึ้น รวมถึงผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นำความรู้ไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

14/08/2024

บริษัท ชิง ต๋า สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ประกอบกิจการผลิต เส้นลวดสตีลคอร์ด เส้นลวด และเส้นลวดเหล็ก เปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA

ที่ ศาลาอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตำบลเขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายฐานธวัช อิงค์อนันต์นาท ปลัดอำเภอศรีราชา เป็นประธานในการเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA จากโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กลวด บริษัทชิงต๋า สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์) จำกัด นาย หู หยง เสียง ผู้จัดการแผนกยูทิลิตี้ บริษัท ชิง ต๋า สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยมีผู้แทนหน่วยงานราชการ นักวิชาการ สื่อมวลชน ผู้นำชุมชน ชาวบ้านตำบลหนองขามเข้ารวมรับฟังในครั้งนี้

นายฐานธวัช อิงค์อนันต์นาท ปลัดอำเภอศรีราชา กล่าวว่า บริษัท ชิง ตำ สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรม โรจนะชลบุรี ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นผู้ประกอบกิจการผลิต เส้นลวดสตีลคอร์ด เส้นลวด และเส้นลวดเหล็ก จากวัตถุดิบเหล็กลวด โดยมีแผนที่จะเปิดประกอบกิจการด้วยกำลังการผลิตรวม 260,000 ตัน/ปี ซึ่งเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ทำการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อชาวบ้านตำบลหนองขาม เพื่อนำข้อกังวลของผู้เข้าร่วมงานต่อการจัดสร้างโรงงานที่อาจจะมีผลกระทบต่อชุมชนไปแก้ไข
นาย หู หยง เลียง ผู้จัดการแผนกยูทิลิตี้ กล่าวว่า ทางบริษัทจะทำตามข้อกฏหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งคัดและจะจัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเพื่อติดตามผลกระทบต่อสิ่งแวดลอมและจะจัดประชุมสิ่งแวดลอมโดยให้ชาวบ้านที่อยู่ในเขตโรงงานได้มีส่วนรวมแสดงความคิดเห็น ปีละ 2 ครั้ง รวมทั้งจะนำชาวชุมชนเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานเพื่อความมั่นใจในการบริหารจัดการในด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงานผลิตเหล็กลวด บริษัทชิงต๋า สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์) จำกัด อีกด้วย

โดยการประชุมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการศึกษาผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการ ติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ในประเด็นต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับปรุง เพิ่มเติมรายงานผลการศึกษา และ มาตรการป้องกัน แก้ไขผลกระทบสิ่งแ

05/08/2024

พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ AIS | Telewiz สาขา สอยดาว โฉมใหม่ บริการลูกค้าแบบครบวงจรเพื่อชีวิตสมาร์ทกว่าใคร จัดเต็มโปรโมชั่นช่วงเปิดร้านตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคดิจิทัล

เปิดให้บริการแล้ว AIS | Telewiz สาขา สอยดาว โฉมใหม่ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าแบบครบวงจร ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านบริการ กับมิติใหม่แห่งการดูแลลูกค้าในยุค 5G กับที่สุดของงานบริการเหนือระดับเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 5G ยกระดับการใช้ชีวิตดิจิทัล พร้อมความบันเทิงแบบครบครัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกเจเนอเรชั่นของลูกค้าอำเภอสอยดาว จันทบุรี

การปรับโฉมครั้งนี้ เป็นการปรับพื้นที่ให้กว้างขึ้นใหญ่ขึ้น มีความทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ พร้อมสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ลูกค้า ได้ทดลองใช้และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลาย ทันสมัย ดีไซน์สวย จากแบรนด์ชั้นนำมากมาย มีพนักงานเอไอเอส คอยให้คำปรึกษา มอบบริการด้วยความเข้าใจ เข้าถึงง่าย และเป็นกันเอง แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพในมาตราฐานงานบริการที่เชื่อมั่นได้

โดยวันนี้เอไอเอส ภาคตะวันออก นำโดย นายสมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน รักษาการหัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคตะวันออก พร้อมด้วย นายเวียงจันทร์ ตันสกุล หัวหน้าแผนกการตลาดและการขาย ภาคตะวันออก พร้อมด้วยทีมงานขาย ลงพื้นที่มอบกระเช้าแสดงความยินดีกับคุณบำรุง มัณฑิกาวิทย์ ผู้รับสิทธิ AIS | Telewiz ที่ได้เปิดศูนย์ให้บริการโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ เพื่อส่งมอบคุณภาพทุกมิติ ทั้งการขายและการบริการให้แก่ชาวสอยดาวได้สัมผัสความเร็วแบบขั้นสุดจาก AIS5G

พิเศษฉลองปรับโฉมใหม่ AIS | Telewiz สาขาสอยดาว จันทบุรี
มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษให้คุณลูกค้าแบบปังๆ
ลดราคา Smart phone สูงสุด 70% ราคาเริ่มต้น 799 บาท และ ผ่อนง่ายได้ทุกรุ่น ใช้บัตรประชาชนใบเดียว อนุมัติไวเพียง 3 นาที

Location : https://maps.app.goo.gl/fDNVmAsAyf8JwypJA

28/07/2024

อำเภอศรีราชาจัดกิจกรรมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

ที่ อาคารศรีราชาประชาคม นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชาเป็นประธาน ถวายธูปเทียนแพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวจากนั้นพระภิกษุสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ประธานในพิธีและผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่นถวายผ้าไตรและจตุปัจจัย เครื่องไทยธรรม จากนั้นกิ่งกาชาดอำเภอศรีราชาได้มอบทุนสนับสนุนโครงการอาหารกลางวัน ให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่ตำบลบางพระ จำนวน 6 โรงเรียน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบหกรอบ 28 กรกฎาคม 2567
จากนั้น ได้ร่วมตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 73 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ผู้นำท้องถิ่น ภาครัฐ เอกชนและประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งในครั้งนี้ ซึ่งปวงชนชาวไทยต่างปิติยินดีและร่วมกันระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน ซึ่งประกอบพระราชกรณียกิจที่ทรงคุณประโยชน์อย่างมากมาย เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของพสกนิกรชาวไทย

สมภพ มะลิลา (ป๊อป) ..................... ภาพ-ข่าว

26/07/2024

ทีมนักเรียนจาก วิทยาลัยอาชีวศึกษา ศรีราชา รังสรรค์ผลงานการปรุง “สลัดฮาวายแซ่บ” และ “น้ำอิตาเลี่ยนโซดาสับปะรด เสริฟคณะกรรมการ ชนะเลิศการแข่งขันปรุงอาหาร Sriracha Chef ในประเภทเยาวชนไปครอง ในงานสับปะรดหวานฉ่ำ ตลาดนัดพืชผลทางการเกษตร สินค้าชุมชน เพื่อเกษตรกรรายย่อย จังหวัดชลบุรี

วันนี้ ( 26 กรกฎาคม 2567) จังหวัดชลบุรี จัดให้มีงานสับปะรดหวานฉ่ำ ตลาดนัดพืชผลทางการเกษตร สินค้าชุมชน เพื่อเกษตรกรรายย่อย จังหวัดชลบุรี ขึ้นในระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม- 4 สิงหาคม 2567 ที่ลานสนามบิน เครือสหพัฒน์ ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยในวันนี้เป็นการแข่งขันการปรุงอาหาร Sriracha Chef ในประเภทเยาวชน โดยมีวัตถุดิบหลักคือ สับปะรดศรีราชา และ ซอสพริกศรีราชา โดยมีทีมนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 5 ทีม ได้แก่ ทีมโรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์ ทีมโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ทีมโรงเรียนดาราสมุทรศรีราชา ทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาศรีราชา และทีมโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรี ซึ่งเมนูอาหารที่ปรุงแต่งขึ้นในวันนี้มีวัตถุดิบหลักเป็น สับปะรดศรีราชา และ ซอสพริกศรีราชา โดยใช้เวลา 45 นาทีในการปรุงอาหาร
ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีม SVC แซ่บจี๊ด ที่นำโดย นางสาวสุชานุช ชูจิตต์ นางสาวธนัญญา เสาวภาพิศากร และนางสาวอรปรียา ศรีพงษ์ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาศรีราชา ที่รังสรรค์เมนู“สลัดฮาวายแซ่บ” และ “น้ำอิตาเลี่ยนโซดาสับปะรด เอาชนะใจคณะกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาทไปครอง โดยเฉือนเอาชนะทีม เซนต์ปอลคอนเทนต์ จากโรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์ ที่รังสรรค์เมนูผัดไทยเนบิวล่า ที่มีกุ้งตัวโตโตมาเสริฟคณะกรรมการไปอย่างเฉียดฉิว ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง ได้แก่ ทีม Born To Be Sriracha จากโรงเรียนดาราสมุทรศรีราชา และรางวัลชมเชยเป็นสองทีมจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาและโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรี
ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งทีมที่ชนะเลิศจะได้ไปเข้าร่วมการแข่งขันในรอบ Champ off the Champ ในวันที่ 31 กรกฏาคมนี้ต่อไป
สุรศักดิ์ ศรีนันทวงศ์ (หนึ่ง) ............. รายงาน

26/07/2024

หนุ่มผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นฯเคราะห์ร้าย เข้าแจ้งความตำรวจแสนสุข ให้ดำเนินคดีเจ้าของสายสื่อสารและผู้ทำสายสื่อสารขาด ปล่อยพาดถนนสายเลี่ยงตลาดหนองมน-ชลบุรี จนทำให้หนุ่มเคราะห์ร้ายขี่จยย.ผ่าน ถูกสายสื่อสารพันคอหวิดดับ..

เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ ( 26 ก.ค.) นายนภัสกร วรกัณห์ อายุ 39 ปี ผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นทิพย์มณีเคเบิ้ลทีวี พัทยา ได้นำหลักฐานใบรับรองทางการแพทย์ และภาพถ่ายสภาพร่างกาย ที่ได้บาดเจ็บจากการถูกสายสื่อสารเกี่ยวลำคอ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน จนทำให้รถเสียหลักล้มอย่างแรง และเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นถนนบายพาสเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี เมื่อช่วงคืนวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้นำหลักฐานการเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสายสื่อสารสุดชุ่ย มารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายนภัสกร ผู้เคราะห์ร้าย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีน้ำเงิน หมายทะเบียน 4 กค 5455 ชลบุรี ออกจากเขตพื้นที่บางแสน เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ศรีราชา โดยใช้เส้นทางบายพาสเลี่ยงเมือง มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี และเมื่อขี่รถมาถึงจุดเกิดเหตุได้ถูกสายสื่อสาร ที่ห้อยลงมาเกี่ยวคอ จนทำให้รถล้มลงและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดหรือเจ้าของสายสื่อสารออกมาแสดงความรับผิดชอบ
นายนภัสกร กล่าวอีกว่า หลังถูกสายสื่อสารพันคอและกระชากร่างตกจากรถจนได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่มีได้มีพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาเข้ามาช่วยแกะสายที่รัดคออยู่ออกเพราะขณะนั้นรู้สึกว่าถูกรัดคอจนแน่นมากและหายใจไม่ออก และยังโชคดีที่สายสื่อสารมีวัสดุหุ้มไว้ไม่เช่นนั้นคอคงขาด จากนั้นเจ้าหน้าที่ กู้ภัยฯ จึงได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาล ขณะเกิดเหตุได้เห็นว่า มีคนงานที่กำลังช่วยกันทำพื้นถนนอยู่ และมีคนงานรายหนึ่งเดินมาบอกว่า สายสื่อสารที่ขาดห้อยลงมา เกิดจากรถบรรทุกที่วิ่งมาเกี่ยวสาย ส่วนเจ้าของสายสื่อสาร น่าจะเป็นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ส่วนการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้สายสื่อสารขาด และเจ้าของสายสื่อสารในวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้เข้ามารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเองนอกจากจะได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายจุดแล้ว ยังต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 คืน เสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท อีกทั้งรถจักรยานยนต์ ยังได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข จะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาตัวผู้มารับผิดชอบต่อไป

26/07/2024

นางทิพากร คําสม ประธาน.บริษัท ทรัพย์ทองเพียร การโยธา จำกัด และ นางสาวจิราภา คำสม หรือ น้องแต้ว พร้อมด้วยครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ร่วมเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่เด็ก และคนพิการ ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดน้องแต้ว ซึ่งในวันนี้ได้นำ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ข้าวหลามหนองมน เครื่องดื่ม และขนมไทย ไปให้ทุกคนได้ชิม

สำหรับสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งอยู่ที่ ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีเนื้อที่ 59 ไร่ ปัจจุบันมีเด็กและผู้ใหญ่ ที่พิการ ทั้งสิ้นจำนวน 361 คน