การกำเนิดผักพื้นบ้านไทย
--------------------------------------------------------------------------------
ประวัติความเป็นมาของพืชผักพื้นบ้านในเมืองไทย
โดยเดชาศิริภัทรกล่าววาพืชผักพื้นบ้านที่พบเห็นโดยทั่วไปนั้นมีทั้งพืชผักที่เป็นของไทยแต่ดั้งเดิมและพืชผักที่นำเข้ามาจาต่าง
ประเทศซึ่งได้นำมาปลูกในประเทศไทยมานานจนปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของไทยได้ดังในตำรับสายเยาวภา,ตำรา
ปรุงอาหารไทยที่มีชื่อเสียง
มากว่า50ปีเขียนโดยมล.ติ๋วชลมารคพิจารย์กล่าวไว้ว่าผักไทยนั้นเดิมมีถึง255ชนิดซึ่ง
แบ่งออกเป็น5หมวดคือ
1.หมวดใบและยอดเช่นยอดโศก,ยอดแต้ว,ใบเปราะ,ใบชะคราม
2.หมวดหัวและรากเช่นเผือก,กลอย,หัวบังเผื่อน,ข่าหลวง,รากสามสิบ
3.หมวดดอกเช่นดอกขจร,ดอกโสน,ดอกมะรุม,ดอกสาหร่าย,หัวปลี,ดอกนุ่น
4.หมวดฝักเช่นฝักเพกา,ฝักมะรุม
5.หมวดผลเช่นมะเขือยาว,มะเขือละโว้,แตงร้าน,ฟักข้าว,มะอึก
ปัจจุบันสำหรับในประเทศไทยกองพฤกษศาสตร์กรมวิชาการเกษตร
ได้ทำการศึกษาและรวบรวมราขชื่อพืชผักพื้นบ้านในแต่ละภาค(ยกเว้นภาคกลาง)พบว่าพืชผักมีมากมายหลายร้อยชนิดโดยได้
จำแนกลักษณะทางอนุกรมวิธานและเก็บตัวอย่างพืชไว้ในพิพิธภัณฑ์พืชและผลการสำรวจปริมาณของพืชผักมาบริโภคกันมาก
ในภาคเหนือมีจำนวน 120 ชนิด,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ130ชนิด,ภาคใต้มีจำนวน158ชนิดพืชผักเหล่านี้ส่วนใหญ่
จะนำยอดอ่อน,ดอก,ผล, เมล็ดใสใช้บริโภค และได้มีการจำแนกพืชผักที่บริโถคเหล่านี้ออกเป็นกลุ่มผักสด,กลุ่มผักสุกโดยการต้ม, นึ่งหรือเผาและกลุ่มผักสุกโดยการแกง,ผัดและการสำรวจพืชผักพื้นเมืองไทยในจังหวัดอุดรธานีโดยเน้นพืชผักที่ขึ้นเอง
ตามธรรมชาติและประชาชนนำมาบริโภคเป็นอาหารพบว่ามีจำนวนถึง 120 ชนิดสามารถนำมาตรวจสอบชื่อวิทยาศาสตร์
ตามวิธีอนุกรมวิธานได้86ชนิดในจำนวนนี้เป็นพืชที่อยู่บนนก73ชนิดในน้ำ13ชนิดและพืชผักเหล่านี้มีการนำมาจำหน่ายในตลาด
50ชนิดที่เหลือนอกจากนั้นจะได้บริโภคก็ต่อเมื่อเข้าไปในป่าการจำแนกตามวิธีรับประทานจะเป็นผักสด52ชนิดทำให้สุกโดยการ
ลวกนึ่งต้ม 42 ชนิด ส่วนใหญ่นิยมรับประทานสดเพราะบริโภคนิสัยเป็นแบบนี้และถือว่าเป็นการประหยัดรายจ่าย
ไม่เสียเวลาปรุงแต่ง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมีพืชผักจำนวน 24 ชนิดที่พบว่ามีสารออกศ่เลตสูง ซึ่งหากรับประทานสด หรือรับประทานสดหรือรับประทานจำนวนมากอาจเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วได้ตัวอย่าง พืชผักเหล่านี้ได้แก่หมากลำ,ผักหม,
ผักกระโดนน้ำ,กระโดนบก,ผักเลนเคด,ผักติ้ว,ผักเม็ก,ผักหวานป่า,ผักอีเลิด,ผักคาด
ผักพื้นบ้าน:แหล่งที่มาความหมายและการจำแนก
1. แหล่งที่มาของพืชผักพื้นบ้าน
(1.1)เทือกเขา,ป่าดง,ป่าละเมาะ,แพะ,ป่าเหล่าเป็นประเภทไม้ป่าส่วนที่คนนำมาบริโภคเป็นผักมักเป็นยอดไม้ลูกไม้หน่อต้นอ่อน
(1.2)ไร่ส่วนเช่นพืชผักที่ขึ้นตามธรรมชาติและพืชผักที่ปลูกแซมตามไร่ข้าวสวนยางเช่นสะตอ,เหมียง,ฟักแฟง,ถั่วต่างๆ
(1.3)ทุกนา,หนอง,คลอกบึงส่วนใหญ่เป็นพืชน้ำที่มักเกิดเองตามธรรมชาติเช่นผักแว่น,ลำเพ็ง,ผักกูด,บอน,สันตะวา,อีฮิน
(1.4)สวนครัวผักริมรั้วได้แก่ผักปรุงรส,ผักกินยอดเช่นสะระแหน่,โหระพา,เซียงดา,ผักฮ้วนหมู,ผักชี,ย่านาง
2. ความหมาย
ผักพื้นบ้านหมายความถึงพรรณพืชผักพื้นบ้านหรือพรรณไม้พื้นเมืองในท้องถิ่นที่ชาวบ้านำมาบริโภคเป็นผักตามวัฒนธรรม
การบริโภคของท้องถิ่นในแหล่งธรรมชาต(ป่าเขา,ป่าละเมาะ,ป่าแพะ,หนองบึง,ริมแม่น้ำ,และธารน้ำ)ส่วนนาไร่หรือชาวบ้าน
นำมาปลูกไว้ใกล้บ้านเพื่อสะดวกในการเก็บมาบริโภคผักพื้นบ้านเหล่านี้อาจมีชื่อเฉพาะตามท้องถิ่นและนำไปประกอบเป็นอาหาร
พื้นเมืองตามกรรมวิธีเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นนอกจากนี้พรรณไม้เหล่านี้ยังถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านยารักษาโรคด้าน
เครื่องใช้ไม้สอยด้านเครื่องแต่งกายและด้านเศรษฐกิจอีกด้วย
3. การจำแนกพืชผักพื้นบ้าน
ในการจำแนกพืชผักพื้นบ้านนั้นหากจะอาศัยตามหลักพฤกษศาสตร์ก็คงจะแบ่งได้ลักษณะหนึ่งแต่จากการศึกษารวบรวมความ
หลากหลายของพืชผักเหล่านี้ที่มีอยู่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคนั้นกลับพบมุมมองที่น่าสใจที่พืชผักเหล่านี้สามารถแบ่งหมวดหมู่
ออกไปได้หลายแบบโดยอาศัยภูมิปัญญาของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการจำแนกพืชผักตามระบบคิดของชาวบ้านร่วมกับ
นักวิชาการสามารถจำแนกออกได้ดังนี้
1.การจำแนกตามลักษณะพืชได้แก่ไม้ยืนต้น(tree)ที่มักใช้ประโยชน์จากยอดผัก,ผล,ดอก,หรือการใช้ใบเพื่อประโยชน์ใช้สอยไม้เลื้อย
หรือไม้เถา(climber)มักใช้ยอดอ่อนมาทำอาหารไม้พุ่ม(Shrub)ม้ลำต้นเล็กๆมักกินยอดอ่อนไม้ล้มลุก(Herb)เป็นพืชที่ไม่มีเนื้อไม้
ลำต้นอ่อนอายุสั้นได้แก่ผักชนิดต่างๆ ที่ใช้กินยอด,ใบ,หัว,หญ้า (Grass) หรือวัชพืชที่นำมาทำอาหารได้เช่น ผักขี้ขวงผักโขม
ผักคราดหัวแหวนเป็นต้น
2. การจำแนกตามแหล่งที่อยู่ได้แก่พืชผักในดง (DeepGreeForest) เช่นหวาย,ตาวพืชผักในป่าละเมาะ (Hillplant) เช่นผักหวานป่า,เห็ด,ไม้ไผ่,พืชผัก ตามทุ่งนา (FieldPlant)เช่นผักบุ้ง,ถั่ว,ผักแว่น,ผักอีฮินพืชผักตามหนองน้ำ(PondPlant)
เช่นผักปุ่มปลา,สันตะวา,ผักแขยง,พืชผักริมห้วยริมแม่น้ำ(CreekPlant)เช่นผักกูด,ลำเพ็ง,ผักกุมน้ำ,ผักหนาม,พืชผักสวนครัว
(GardenningPlant)
3.การจำแนกตามคุณลักษณะ(Properties)หากท่านจะลองสังเกตพืชผักพื้นบ้านในแต่ละท้องที่จะพบว่าชื่ที่ตั้งขี้นมานั้นจะบ่งชี้ถึง
คุณลักษณะของพืชไม่ด้ายใดก็ด้านหนึ่งเช่นรสชาติ:ผักหวาน,เพี้ยฟาน(รสขม เพี้ยฟานหมายถึงน้ำดีของเก้งภาคเหนือ) มะเขือส้ม,มันปู,กลิ่นผักคาวตองหญ้าตดหมา(กระพังโหม)แมงดาต้นหรือทำมัง(ใต้)ตามลักษณะ:เถาคันผักฮ้วนหมู
(กระทุงหมาบ้า):ผักชนิดนี้ดอกจะมีลักษณะคล้ายลำไส้หมูฮ้วน=ลำไส้(เหนือ)ผักหนาม:มีหนามตามลำต้นผักไผ่:ใบคล้ายใบไผ่,
หมากลิ้นฟ้า(เพกา):ฝักคล้ายลิ้นยาวๆบะค้อนก้อม(มะรุม)ผักแข็งคล้ายไม้ค้อนท่อนสั้นๆ(เหนือ)เห็ดหูหนูตามสีสัน:เห็ดแดง, ฟักทอง,ฟักเขียว,กระเจี๊ยบแดงแสดงแหล่งที่มาผักหนอง(กระเฉด)เห็ดฟางมะกอกป่า,กูดหิน,กูดน้ำ,กูดดอยลักษณะใช้ประโยชน์
บะน้ำ(น้ำเต้า)ใช้บรรจุน้ำได้
4.การจำแนกตามบทบาทหน้าทพืชผักพื้นบ้านยังสามารถแบ่งได้ตามบทบาทหรือการแสดงออกฃึ่งคุณค่าโดยแบ่งออกเป็นบทบาท
ด้านอาหารด้านยาสมุนไพรด้านประโยชน์ใช้สอยด้านเศรษฐกิจและด้านประเพณีพิธีกรรมและความเชื่อการจำแนกนี้
ยังอาจมีอีกหลายลักษณะขึ้นอยู่กับว่าจะพิจารณาประเด็นอะไรหากเรามาพิจารณาพิชผักพื้นบ้านโดยไม่ได้มองแต่จะนำมาใช้ประโยชน์
อย่างเดียวแล้วท่านสามารถที่จะศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจกับผู้ที่ใกล้ชิดพืชผักพื้นบ้านได้อีกหลายมุมมองในแต่ละภูมิภาคของเมืองไทย