สวท.พังงา กรมประชาสัมพันธ์

สวท.พังงา กรมประชาสัมพันธ์ F.M. 100 MHz "วิทยุแห่งประเทศไทย ให้ความรู้คู่ความสุข

วันที่ 19 กรกฎาคม 2519 สถานีวิทยุกระจายแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา ออกอากาศส่งกระจายเสียงอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกด้วยระบบ เอ.เอ็ม ความถี่ 1341 กิโลเฮริซ์ โดยใช้อาคารศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่าปรับปรุงเป็นห้องส่งใช้ออกอากาศเผยแพร่ข้อมูล

ส่วนเครื่องส่งเป็นเครื่องที่กองช่างกรมประชาสัมพันธ์ จัดสร้างขึ้นเองขนาดกำลังส่ง10 กิโลวัตต์ เนื่องจากยังไม่ได้รับงบประมาณจนกระทั่งปี 2524 จึงได้รับการจัดสรรงบป

ระมาณ ในการก่อสร้างอาคาร สำนักงานและบ้านพัก พร้อมทั้งย้ายมาอยู่ ณ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ เลขที่ 2 ถนนเทศบาลบำรุง ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม2526 เนื่องจากเครื่องส่งระบบ เอ. เอ็ม. ของ สวท.พังงา เป็นเครื่องส่งที่กองช่างกรมประชาสัมพันธ์ จัดสร้างขึ้นเองกอปรกับใช้งานมานานถึง 26 ปีเศษ ประสิทธิภาพของเครื่องส่งจึงลดน้อยด้อยลงตามกาลเวลา อุปกรณ์ต่าง ๆ หมดอายุการใช้งานจนไม่สามารถซ่อมแซมเพื่อใช้งานได้อีกต่อไป จึงเป็นที่น่ายินดีที่ในปีงบประมาณ 2545 กรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดสรร งบประมาณจัดซื้อเครื่องส่ง เอ.เอ็ม เครื่องใหม่ขนาด 10 กิโลวัตต์ ให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบตลอดจนปรับปรุงห้องเครื่องส่ง ระบบการส่ง และอุปกรณ์ห้องส่งใหม่ทั้งหมด ดำเนินการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยและเริ่มส่งกระจายเสียงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2545 เป็นต้นมา

สำหรับระบบ เอฟ.เอ็ม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 โดยผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา ( นางสาวนิ่มนวล เขียวหวาน ) ได้ขออนุมัติอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ในขณะนั้น ( นายชั้น พูลสมบัติ ) ขอนำเครื่องส่งเก่าจากสถานีวิทยุกระจายแห่งประเทศไทย จังหวัดชุมพร ซึงใช้งาน มานานถึง 30 ปีเศษ ปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ จนสามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่ง และถือฤกษ์ออกอากาศส่งกระจายเสียงด้วยความถี่ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 100 มกกะเฮริซ์ เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2539 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล และถือเป็นกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีกาญจนาภิเษก แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดพังงา เป็นภูเขาล้อมรอบ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการส่งกระจายเสียงเป็นอย่างมากเพราะรัศมีในการส่งกระจายเสียงไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ กอรป์กับประสิทธิภาพของเครื่องส่งก็ไม่สมบูรณ์ ร้อยเปอร์เซ็น จึงได้พิจารณาย้ายเครื่องส่งขึ้นไปติดตั้งบนเขาช้าง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1000 ฟิต ทำให้รัศมีการส่งกระจายเสียงครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นเครื่องส่งเก่าที่ใช้งานมานานถึง 30 ปีเศษอุปกรณ์ต่าง ๆ หมดอายุการใช้งานแล้ว เครื่องจึงขัดข้องบ่อยครั้งมากการส่งกระจายเสียงไม่เป็นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการประชาสัมพันธ์งานโครงการและนโยบายต่าง ๆของรัฐบาลเป็นอย่างมาก จึงได้รับอนุมัติจากรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ฝ่ายปฏิบัติการ ( นายสมพงษ์ วิสุทธิ์แพทย์ ตำแหน่งในขณะนั้น ) ให้นำเครื่องส่ง เอฟ.เอ็มจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดจันทบุรี ( ใช้งานมาแล้ว 7 ปี ) มาติดตั้งใช้งานที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักส่งเสริมและพัฒนางานเทคนิคกรมประชาสัมพันธ์ได้นำมาติดตั้งและใช้งานตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2541

10/11/2024

“รายงานสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน รายวัน
จาก ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน”
www.thairsc.com
ผู้ประสบภัยจากรถจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายจากประกันภัย พ.ร.บ.
แจ้งเหตุทันทีที่ บริษัทกลางฯ โทร.1791 ตลอด 24 ชั่วโมง
#มีรถต้องมีพรบ #พรบมอไซค์ต้องบริษัทกลาง #เกิดเหตุจากรถแจ้งทันทีที่1791 #พรบออนไลน์ #กลางประกันภัย #พรบรถจยย #รถมอไซค์ #พรบมอไซค์ใครทำหล่น #สวมหมวกเพื่อคนที่รักคุณ

อัพเดทสถานการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ ---------🎯ขณะนี้มีพายุที่ก่อตัวและตั้งชื่อทั้...
10/11/2024

อัพเดทสถานการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้
---------
🎯ขณะนี้มีพายุที่ก่อตัวและตั้งชื่อทั้งหมด 3 ลูก คือ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีพายุไต้ฝุ่น "YINXING" กำลังเปลี่ยนทิศทางและจะอ่อนกำลังลงตามลำดับเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม อาจทำให้มีเมฆเพิ่มขึ้นด้านตะวันออกขอภาคอีสาน และในมหาสมุทรแปซิฟิกมีพายุโซนร้อน "TORAJI" (ลูกที่ 23) และ พายุโซนร้อน "MAN-YI"(ลูกที่ 24) โดยปกติความถี่ของการก่อตัวของพายุเดือนพฤศจิกายน จะมีไม่มากนัก แนวโน้มของพายุทั้ง3 ลูก ยังไม่มีผลกระทบกับสภาพอากาศของประเทศไทย เนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมเป็นระลอก ๆ แต่ยังต้องเฝ้าติดตามเป็นระยะๆ

🪷🪷🪷พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกระแสพระราชดำรัส แก่ บุคลากรทางการแพทย์ 🪷🪷🪷เมื่อวันที่ ๙ พฤ...
10/11/2024

🪷🪷🪷พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
กระแสพระราชดำรัส แก่
บุคลากรทางการแพทย์ 🪷🪷🪷

เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เนื่องในโอกาสเข้าอบรมหลักสูตรพระราชทาน
โครงการ ธรรมนาวา “วัง”
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
ณ หอประชุมกองทัพบก กรุงเทพมหานคร

'การกอด'🥰💞 ให้กำลังใจคนอื่นเราสามารถให้กำลังใจตัวเองได้เช่นกันโดยนึกถึงเรื่องดีดีที่มีที่เคยทำ  พลังของการกอดยิ่งใหญ่เสม...
10/11/2024

'การกอด'🥰💞 ให้กำลังใจคนอื่นเราสามารถให้กำลังใจตัวเองได้เช่นกันโดยนึกถึงเรื่องดีดีที่มีที่เคยทำ

พลังของการกอดยิ่งใหญ่เสมอและเป็นวิธีง่ายๆ ที่แสดงออกกันทางภาษากายที่รู้สึกได้ถึงความห่วงใย ความรัก ความอบอุ่นที่มีให้ และเป็นหนึ่งรูปแบบการสื่อสารในเวลาที่เราไม่สามารถหาคำใดๆมาบรรยายความรู้สึกได้

#อึดฮึดสู้
#พลังการกอด #ความสุข
#กรมสุขภาพจิต
#ทีมสุขภาพจิต

รัฐบาลเปิดแคมเปญ ‘สุขท้าลอง 72 สไตล์’ กระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปี 2567 ตั้งเป้าปี 2568 โกยรายได้ท่องเที่ยวโตร้อยละ...
10/11/2024

รัฐบาลเปิดแคมเปญ ‘สุขท้าลอง 72 สไตล์’ กระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปี 2567 ตั้งเป้าปี 2568 โกยรายได้ท่องเที่ยวโตร้อยละ 7.5
(9 พ.ย. 67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายของปี 2567 ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ "สุขท้าลอง 72 สไตล์" พร้อมจัดทำ E-book รวบรวมกิจกรรม 5 MUST DO สร้างจุดขายมุมมองใหม่กับเส้นทางท่องเที่ยว 72 เส้นทาง 72 สไตล์ จากแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย เพื่อให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวผ่านแนวคิด 5 Must Do in Thailand ให้ไปทำ ไปดู ไปกิน ไปเห็นด้วยตัวเองอย่างแท้จริง พร้อมเชิญ 5 KOLs ตัวท็อปในแต่ละวงการมาร่วมทำ Travel Vlog นำเสนอ 5 เส้นทางท่องเที่ยวตามสไตล์ของตนเอง เพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยวไทยในช่วงปลายปี เพิ่มแรงส่งให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องไปถึงปี 2568 ซึ่งเป็นปีแห่งความท้าทายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมุ่งเน้นการส่งเสริม “เสน่ห์ไทย” และ “เมืองน่าเที่ยว” เป็นจุดขายสำคัญ เพื่อกระตุ้นความต้องการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตร้อยละ 7.5 (*KOLs ย่อมาจาก Key Opinion Leaders หมายถึง “ผู้นำทางความคิด” เป็นบุคคลที่มีความถนัดและเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งจนมีคนให้ความเคารพและเชื่อถือและมีอิทธิต่อความคิดของผู้ติดตาม)เชิญชวนนักท่องเที่ยวสร้างประสบการณ์ใหม่ ผ่าน 5 Must Do in Thailand ที่คัดสรรค์จากเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของเมืองไทย
โดย E-book สุขท้าลอง 72 สไตล์ ได้คัดสรรค์เอกลักษณ์ต่าง ๆ ของเมืองไทย นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่สร้างจุดขายมุมมองใหม่ 72 เส้นทาง 72 สไตล์ จากเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศไทย พร้อมเช็คลิสต์ 5 สิ่งที่ต้อง "ลอง" ในแต่ละเส้นทางตามแนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND ประกอบด้วย 1. พบเมนูเด็ดต้องลองชิม (Must Taste) 2. กิจกรรมต้องลองลุย (Must Try) 3. ไอเทมอาร์ตๆ ต้องลองช้อป (Must Buy) 4. วิวสวยต้องลองหา (Must Seek) 5. ไลฟ์สไตล์แบบโลคอล ต้องลองชม (Must See) ทั่วไทย 5 ภูมิภาค ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางช่วงไฮซีซั่นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 เพิ่มความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดปี เพิ่มการใช้จ่ายกระจายตัวสู่จังหวัดต่าง ๆ อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ทุกเมืองในประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยว รวมถึงส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนของเมืองน่าเที่ยวจะเพิ่มพลังให้เป็นเมืองที่น่าไปเที่ยวไปเยือนมากยิ่งขึ้น
เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยดึงกลยุทธ์ City Marketing พัฒนาเมืองต่าง ๆ ให้เติบโตเข้าใกล้ความเป็นเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว ค้นหาจุดขาย พลิกมุมมอง บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยของแต่ละพื้นที่ หมุนเวียนกันไปจากเมืองสู่เมือง จากภาคสู่ภาค เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็น High Season ตลอดทั้งปี
รัฐบาลจะส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็น 1 ใน 8 เสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) ให้ประชาชน
มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยใน ปี 2568 รัฐบาลจะส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง เดินหน้าพลิกฟื้นศักยภาพท่องเที่ยวไทยทั้งระบบ ด้วยการชู “เสน่ห์ไทย” และ “เมืองน่าเที่ยว” เป็นจุดขายสำคัญ ดึงดูดตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าผลักดันการเติบโตรายได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 7.5%
ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง คาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 39 ล้านคน เดินทางท่องเที่ยวในไทย สะท้อนถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่จะเป็นพลังผลักดันให้เศรษฐกิจไทย สังคมไทย และคนไทยเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน นำประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางทาง
การท่องเที่ยวระดับโลก
รมว.ท่องเที่ยวฯ มุ่งปรับมาตรการเดินทาง ยกเสน่ห์ไทยและ Hidden Gems มัดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก
(5 พ.ย. 67) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศจุดพลังการท่องเที่ยวไทย ปี 2568 ด้วย Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ภายใต้ IGNITE Thailand’s Tourism โดยมุ่งยกระดับมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) และเผยแพร่เสน่ห์ไทย ผสานกับแนวคิด 5 Must Do in Thailand เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ตามเป้าหมายสูงสุดที่ 39 ล้านคน ด้วยสุดยอดอีเวนต์และสิทธิประโยชน์แก่นักท่องเที่ยว เชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาสัมผัสคุณค่าและความหมายของการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเกิดเป็นความประทับใจ
จนไม่อาจลืมเลือน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย สู่เป้าหมายรายได้สูงสุดที่ 3.4 ล้านล้านบาท ด้วย 4 หัวใจหลัก ดังนี้
มุ่งสู่การเป็นผู้นำการท่องเที่ยวระดับโลก โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว (Ease of Traveling) ทั้งการปรับมาตรการวีซ่า และส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางภายในภูมิภาค ให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายและราบรื่นไร้รอยต่อ
ผ่านนโยบาย "6 ประเทศ 1 จุดหมาย"
ประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางที่มีอัตลักษณ์และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ Hidden Gem Cities เมืองน่าเที่ยวที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร อาทิ จังหวัดน่าน แพร่ สกลนคร สร้างประสบการณ์ความหลากหลายในการเดินทางท่องเที่ยว
เผยแพร่ทุนทางวัฒนธรรมเป็นเสน่ห์ (Soft Power) แต่ละท้องถิ่น ในแง่มุมของการอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณี ศิลปะ และหัตถกรรมไทย
ขยายผลด้วยแนวคิด 5 Must Do in Thailand ได้แก่ Must Taste Must Try Must Buy
Must See Must Seek เพื่อให้ได้สัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทยที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ
รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดันประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และศูนย์กลางของอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลก
โดยใน ปี 2568 รัฐบาลจะส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง เดินหน้าพลิกฟื้นศักยภาพท่องเที่ยวไทยทั้งระบบ พาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผลักดันให้เศรษฐกิจไทย สังคมไทย และคนไทยเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน นำประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวระดับโลก นอกจากนี้ยังมุ่งผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลก ผ่านสุดยอดอีเวนต์ เทศกาลและงานประเพณีตลอดทั้งปี อาทิ Amazing Thailand Countdown 2025
งาน MotoGP ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และงานสงกรานต์อันโด่งดังในเดือนเมษายน เพื่อยกระดับกิจกรรมในประเทศไทยสู่ Global Event ที่คนทั่วโลกรอคอยและต้องการเดินทางมาเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงในประเทศไทยด้วยตัวเอง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งย้ำถึงความสำคัญของ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และการสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ๆ พร้อมร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
#สุขท้าลอง72สไตล์ #กรุงเทพฯอันดับที่1ของ10จุดหมายปลายทางที่ได้รับการจองเที่ยวบินมากที่สุดแห่งปี2568 #ท่องเที่ยวไทย #เสน่ห์ไทย #เมืองน่าเที่ยว #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด ตรวจกำลังพล-ตอกย้ำเป็นของไทย แจง MOU44 เป็นกลไกรักษาผลประโยชน์คนไทย(9 พ.ย. 67) นายภูมิ...
10/11/2024

ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด ตรวจกำลังพล-ตอกย้ำเป็นของไทย แจง MOU44 เป็นกลไกรักษาผลประโยชน์คนไทย
(9 พ.ย. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดน ที่ อ.เกาะกูด จ.ตราด และให้กำลังใจหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด กองทัพเรือ และดูแลทุกข์สุขกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูดที่อยู่เฝ้าชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเกาะกูด โดยย้ำว่า การเดินทางลงพื้นที่เพื่อยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย มีหน่วยงานราชการ ประชาชนในพื้นที่ และกำลังพลของกองทัพเรือที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดของคนบางกลุ่มในประเทศที่รู้สึกว่ามีปัญหา MOU44 ที่กัมพูชาลากเส้นมาและมีแนวเกาะกูดอยู่ตรงนั้นด้วย ถือเป็นการประกาศอ้างไหล่ทวีปขยายอาณาเขตตัวเองออกไปในปี 2515 ต่อมาในปี 2516 ไทยได้ประกาศไหล่ทวีปเส้นเขตแดนของเราเช่นกัน ทำให้มีเส้นทับซ้อนที่ต้องเจรจากัน โดยยึดกฎหมายระหว่างประเทศทางทะเล
แต่ขอยืนยันได้ว่าพื้นที่ตรงนี้ยังเป็นของไทยและกัมพูชาไม่เคยพูดเรื่องนี้และยอมรับโดยปริยาย
“ในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ขอย้ำพื้นที่นี้เป็นอธิปไตยของไทย มีกองทัพเรือรับผิดชอบทั้งบนบกและทะเล การลงพื้นที่เนื่องจากมีความไม่เข้าใจ MOU44 และพื้นที่เกาะกูด หากมองไปรอบ ๆ จะเห็นได้ว่าเกาะกูดมีธงชาติไทยอยู่บริเวณรอบ ๆ รวมถึงกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ใช้ป้องกันประเทศ อีกทั้งความสัมพันธ์ตามแนวชายแดนทางผู้บังคับหน่วยระดับสูงของไทย-กัมพูชาไปมาหาสู่กัน ผลัดกันมาเยี่ยมเยือน และร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้มีอะไรวิกฤติหรือน่ากังวล ยืนยันว่าที่นี่มีความสงบสุข มั่นคงปลอดภัย”
เดินหน้าแต่งตั้ง JTC ตามกรอบเวลาเดิม
สำหรับความคืบหน้าการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค หรือ Joint Technical Committee: JTC นั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดไว้แล้วว่าน่าจะไม่เกิน 2 สัปดาห์จะสามารถจัดตั้งได้ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ ก็คงต้องพิจารณาตรงนี้ให้เหมาะสมซึ่งดำเนินการอยู่แล้วโดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ นำคณะกรรมการมาทบทวนเพื่อเสนอให้ ครม. พิจารณาอีกครั้ง ส่วนใหญ่ตามโครงสร้างเดิมจะให้ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธานคณะกรรมการ และประกอบไปด้วยตัวแทน กระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง รวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการอีก 2 ชุด ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดสรรพื้นที่ทางทะเล หรือคณะกรรมการที่จะเจรจาในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพในการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.
ความพยายามของรัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการชี้แจงข้อเท็จจริงครั้งนี้ จะช่วยลดความสับสนลงไปได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกุข่าว เป็นการพูดที่เลื่อนลอยโดยไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริง
การหยิบยกขึ้นมาเพื่อใช้สร้างประเด็นทางการเมือง เกาะกูดเป็นของไทยมาตลอดอย่างชัดเจน
รัฐบาลต่าง ๆ พยายามสนับสนุนให้มี MOU44 ได้ดำเนินการต่อไป เพราะถือว่าเป็นกลไกและเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ที่สุดในการจะเจรจาเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ทางทะเล
จึงจะต้องใช้ MOU44 มาเจรจากันในเรื่องที่ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน
ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ที่สุดคืออยู่บนความพึงพอใจของ 2 ประเทศ ประเทศไทยยืนยันว่าจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยและรักษาทุก ๆ อย่างที่คิดว่าจะอำนวยประโยชน์ให้กับคนไทยให้ได้มากที่สุด
ผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน เมื่อการเมืองบิดเบือน MOU44
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า การจุดประเด็นทางการเมืองเรื่อง MOU44 ในช่วงนี้ได้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยในหลายมิติ ทั้งการทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ การเจรจาระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด รวมทั้งการบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น
บันทึกความเข้าใจ MOU44 คือบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ซึ่งได้มีการเจรจาต่อเนื่องมาทุกรัฐบาล รวมถึงในสมัยที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าคณะเจรจา การหยิบยกประเด็นนี้มาเสนอที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งทำลายรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ การที่จะมาประกาศตัวเองว่ารักชาติแต่กลับจุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อล้มโต๊ะการเจรจาที่ดำเนินต่อเนื่องมาทุกรัฐบาล รวมทั้งกระบวนการเจรจาที่ตนเองเคยมีส่วนร่วม ถามว่าคุณรักชาติจริงหรือ?
การเจรจาระหว่างประเทศในประเด็นเขตแดนและผลประโยชน์ร่วม จำเป็นต้องอาศัยบรรยากาศที่เอื้ออำนวย ข้อมูลทางวิชาการ และความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างคู่เจรจา
การสร้างความขัดแย้งหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง จึงเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการเจรจาโดยตรง
“ผมได้รับฟังข้อมูลและคำแนะนำจากผู้รู้จริง และนักวิชาการหลายท่านเกี่ยวกับ MOU44 มีคำแนะนำที่น่าสนใจสำหรับพรรคการเมือง หรือผู้ที่มีความเห็นต่างกับรัฐบาลว่าหากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเจรจา ควรนำเสนอผ่านช่องทางที่เหมาะสม เช่น ส่งให้คณะกรรมการเจรจาโดยตรงไม่ใช่สร้างความสับสนผ่านสื่อสาธารณะ”
ติงอย่าทำแค่การเมือง ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ
แต่ก่อนที่โต๊ะเจรจาระหว่างประเทศจะเกิดขึ้น วันนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีของการจุดประเด็นเรื่องนี้ คือ ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะกูด
จากรายงานข่าวของสื่อต่าง ๆ มีข้อมูลที่ตรงกันว่าช่วงเดือน ต.ค. - พ.ย. 67 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะกูดที่มีความคึกคักอย่างมาก แต่เมื่อมีกระแสข่าวดังกล่าว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยยกเลิกการจองห้องพัก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย
วันนี้ได้มาที่เกาะกูด เพื่อมาดูสถานที่จริงและมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายราชการและผู้นำท้องถิ่น ขอให้ความมั่นใจว่าเกาะกูด จ.ตราด ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามและ
น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ด้วยหาดทรายและน้ำทะเลใสสีมรกตจนได้ชื่อว่าเป็น“อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว เกาะกูดยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกคลองเจ้า ที่มีพระปรมาภิไธยของรัชกาลที่ 6 สลักไว้บนก้อนหินเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
“ผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสร้างความสับสน และหันมาร่วมกันสร้างความมั่นใจให้กับประเทศ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะกูดด้วยกัน โดยยืนยันว่าเกาะกูดยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและปลอดภัยของประเทศไทย และมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ การสร้างความขัดแย้งจากข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงครั้งนี้ เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการเมืองที่ขาดความรับผิดชอบ สามารถสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของชาติได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ผมคิดว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองวันนี้ทุกฝ่ายควรใช้เหตุผลและหันมาร่วมมือกันปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ มากกว่าการมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว”
#ภูมิธรรมลงพื้นที่เกาะกูดตรวจกำลังพลตอกย้ำเป็นของไทยแจงMOU44เป็นกลไกรักษาผลประโยชน์คนไทย #กระทรวงกลาโหม #กระทรวงการต่างประเทศ #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 พ.ย. 67 เวลา 7.00 น.1.สภาพอากาศวันนี้ : สภาพอากาศวันนี้ : ความกดอากาศสูงหรือมว...
10/11/2024

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 พ.ย. 67 เวลา 7.00 น.

1.สภาพอากาศวันนี้ : สภาพอากาศวันนี้ : ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
พายุไต้ฝุ่น “หยินซิ่ง” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 11–12 พ.ย. 67 คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 82% ของความจุเก็บกัก (66,090 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 72% (41,891 ล้าน ลบ.ม.) เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 3 แห่ง ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : น้ำพุง จุฬาภรณ์ และลำตะคอง

3. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

4. พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก/ดินถล่ม : พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ในช่วง
1-3 วัน บริเวณ ภาคใต้ ได้แก่ จ.พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล และปัตตานี

5. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 67 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทและกลั่นกรองแผนงานและโครงการด้านทรัพยากรน้ำ ในเขตลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก ครั้งที่ 3/2567 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง เพื่อรับทราบความก้าวหน้าและผลการดำเนินงาน ดังนี้1) ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 4/2567 2) ความก้าวหน้าโครงการศึกษาจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก ปรับปรุงช่วงที่ 1 (2566-2580) 3) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2568 ของลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออกที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ 4)โครงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของคณะกรรมการลุ่มน้ำปี พ.ศ. 2567 และ 5) การจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2569 (เพิ่มเติม)
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา ดังนี้
1) ให้ความเห็น "โครงการคลองระบายน้ำคลองทับมา - คลองกะแมง อ.บ้านค่าย และ อ.เมืองระยอง จังหวัดระยอง
2) พิจารณากลั่นกรองแผนงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ของลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก
3) หลักเกณฑ์และแนวทางการจัดทำข้อเสนอแผนงานภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568

6. การให้ความช่วยเหลือ : กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน และการส่งเสริมความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยขุดเจาะสำรวจพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร

10/11/2024

ภาพเรดาร์ตรวจอากาศภูเก็ต
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา 07.30 น.
#ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #กรมอุตุนิยมวิทยา
#ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก

📣ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ณ 07:00 น สรุปดัง...
10/11/2024

📣ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ
ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ณ 07:00 น สรุปดังนี้
ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร จ.น่าน จ.พิจิตร จ.สิงห์บุรี จ.สระบุรี จ.กาญจนบุรี จ.หนองคาย จ.นครพนม จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี และ จ. นครราชสีมา
>ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 6.2 - 48.3 มคก./ลบ.ม.
>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 21.3 - 54.4 มคก./ลบ.ม.
>ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 20.1 - 42.9 มคก./ลบ.ม.
>ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 9.0 - 29.3 มคก./ลบ.ม.
>ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 4.1 - 8.6 มคก./ลบ.ม.
>กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. เกินค่ามาตรฐาน 45 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 24.3 - 53.4 มคก./ลบ.ม.

คำแนะนำทางสุขภาพ🏥🩺
-> ประชาชนทั่วไป : ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง
-> ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์

โดยท่านสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK

พยากรณ์อากาศประจำวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567ตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง  06.00 น. วันพรุ่งนี้ #กรมอุตุนิยมวิทยา  ...
09/11/2024

พยากรณ์อากาศประจำวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567
ตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

#กรมอุตุนิยมวิทยา #พยากรณ์อากาศ #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง พายุ “หยินซิ่ง”ฉบับที่ 9  (270/2567)  ____________ #กรมอุตุนิยมวิทยา  #พยากรณ์อากาศ  #ดิจิท...
09/11/2024

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
เรื่อง พายุ “หยินซิ่ง”
ฉบับที่ 9 (270/2567)
____________

#กรมอุตุนิยมวิทยา #พยากรณ์อากาศ #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อัพเดทสถานการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ ในบริเวณดังกล่าวขณะนี้มีพายุที่ก่อตัวและตั้งช...
09/11/2024

อัพเดทสถานการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ ในบริเวณดังกล่าวขณะนี้มีพายุที่ก่อตัวและตั้งชื่อทั้งหมด 3 ลูก คือ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีพายุไต้ฝุ่น "YINXING" และในมหาสมุทรแปซิฟิกมีพายุโซนร้อน "TORAJI" (ลูกที่ 23) และ พายุโซนร้อน "MAN-YI"(ลูกที่ 24) โดยปกติความถี่ของการก่อตัวของพายุเดือนพฤศจิกายน จะมีไม่มากนัก แต่ปีนี้มีความผิดปกติ ปรากฎการณ์ของลานีญา อาจจะผลต่อกระแสลมค้าที่ยังแรงกว่าปกติ อย่างไรก็ตามแนวโน้มของพายุ ยังไม่มีผลกระทบกับสภาพอากาศของประเทศไทย เนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมเป็นระลอก ๆ ยังต้องติดตาม

🌅 SHIRT 🌅 Turtle Run, Run on the Beachท้องทะเล หาดทราย และเต่าทะเล14 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น.วิ่งชมพระอาทิตย์ตกที่หาดท...
09/11/2024

🌅 SHIRT 🌅 Turtle Run, Run on the Beach
ท้องทะเล หาดทราย และเต่าทะเล

14 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น.
วิ่งชมพระอาทิตย์ตกที่หาดท้ายเหมืองกันนะ

❤️เปิดรับสมัครราคาพิเศษ 250 บาท❤️
11 พฤศจิกายน 2567 นี้นะจ๊ะ

09/11/2024
กราฟิกพยากรณ์อากาศรายภาคพร้อมแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ออกข่า...
09/11/2024

กราฟิกพยากรณ์อากาศรายภาคพร้อมแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ออกข่าวเวลา 17.00 น.

⚠️ ระวังหลอกซ้ำหลอกซ้อน มิจฉาชีพชัวร์ 100% ❗️หลอกให้ 📱 ทักแชท แอดไลน์ 💸 แล้วจะช่วยตามเงินที่โดนโกงคืนมาได้⛔️ อย่าเชื่อ อ...
09/11/2024

⚠️ ระวังหลอกซ้ำหลอกซ้อน มิจฉาชีพชัวร์ 100% ❗️

หลอกให้ 📱 ทักแชท แอดไลน์ 💸 แล้วจะช่วยตามเงินที่โดนโกงคืนมาได้

⛔️ อย่าเชื่อ อย่ากด อย่าโอน

📞 ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อ AOC โทร 1441

ที่อยู่

เลขที่ 2 ถนนเทศบาลบำรุง ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมือง
Phangnga
82000

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 16:30
อังคาร 08:30 - 16:30
พุธ 08:30 - 16:30
พฤหัสบดี 08:30 - 16:30
ศุกร์ 08:30 - 16:30

เบอร์โทรศัพท์

+6676460660

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สวท.พังงา กรมประชาสัมพันธ์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง สวท.พังงา กรมประชาสัมพันธ์:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Our Story

วันที่ 19 กรกฎาคม 2519 สถานีวิทยุกระจายแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา ออกอากาศส่งกระจายเสียงอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกด้วยระบบ เอ.เอ็ม ความถี่ 1341 กิโลเฮริซ์ โดยใช้อาคารศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่าปรับปรุงเป็นห้องส่งใช้ออกอากาศเผยแพร่ข้อมูล ส่วนเครื่องส่งเป็นเครื่องที่กองช่างกรมประชาสัมพันธ์ จัดสร้างขึ้นเองขนาดกำลังส่ง10 กิโลวัตต์ เนื่องจากยังไม่ได้รับงบประมาณจนกระทั่งปี 2524 จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณ ในการก่อสร้างอาคาร สำนักงานและบ้านพัก พร้อมทั้งย้ายมาอยู่ ณ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ เลขที่ 2 ถนนเทศบาลบำรุง ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม2526 เนื่องจากเครื่องส่งระบบ เอ. เอ็ม. ของ สวท.พังงา เป็นเครื่องส่งที่กองช่างกรมประชาสัมพันธ์ จัดสร้างขึ้นเองกอปรกับใช้งานมานานถึง 26 ปีเศษ ประสิทธิภาพของเครื่องส่งจึงลดน้อยด้อยลงตามกาลเวลา อุปกรณ์ต่าง ๆ หมดอายุการใช้งานจนไม่สามารถซ่อมแซมเพื่อใช้งานได้อีกต่อไป จึงเป็นที่น่ายินดีที่ในปีงบประมาณ 2545 กรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดสรร งบประมาณจัดซื้อเครื่องส่ง เอ.เอ็ม เครื่องใหม่ขนาด 10 กิโลวัตต์ ให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบตลอดจนปรับปรุงห้องเครื่องส่ง ระบบการส่ง และอุปกรณ์ห้องส่งใหม่ทั้งหมด ดำเนินการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยและเริ่มส่งกระจายเสียงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2545 เป็นต้นมา สำหรับระบบ เอฟ.เอ็ม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 โดยผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา ( นางสาวนิ่มนวล เขียวหวาน ) ได้ขออนุมัติอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ในขณะนั้น ( นายชั้น พูลสมบัติ ) ขอนำเครื่องส่งเก่าจากสถานีวิทยุกระจายแห่งประเทศไทย จังหวัดชุมพร ซึงใช้งาน มานานถึง 30 ปีเศษ ปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ จนสามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่ง และถือฤกษ์ออกอากาศส่งกระจายเสียงด้วยความถี่ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 100 มกกะเฮริซ์ เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2539 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล และถือเป็นกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีกาญจนาภิเษก แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดพังงา เป็นภูเขาล้อมรอบ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการส่งกระจายเสียงเป็นอย่างมากเพราะรัศมีในการส่งกระจายเสียงไม่สามารถครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ กอรป์กับประสิทธิภาพของเครื่องส่งก็ไม่สมบูรณ์ ร้อยเปอร์เซ็น จึงได้พิจารณาย้ายเครื่องส่งขึ้นไปติดตั้งบนเขาช้าง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1000 ฟิต ทำให้รัศมีการส่งกระจายเสียงครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นเครื่องส่งเก่าที่ใช้งานมานานถึง 30 ปีเศษอุปกรณ์ต่าง ๆ หมดอายุการใช้งานแล้ว เครื่องจึงขัดข้องบ่อยครั้งมากการส่งกระจายเสียงไม่เป็นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการประชาสัมพันธ์งานโครงการและนโยบายต่าง ๆของรัฐบาลเป็นอย่างมาก จึงได้รับอนุมัติจากรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ฝ่ายปฏิบัติการ ( นายสมพงษ์ วิสุทธิ์แพทย์ ตำแหน่งในขณะนั้น ) ให้นำเครื่องส่ง เอฟ.เอ็มจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดจันทบุรี ( ใช้งานมาแล้ว 7 ปี ) มาติดตั้งใช้งานที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพังงา โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักส่งเสริมและพัฒนางานเทคนิคกรมประชาสัมพันธ์ได้นำมาติดตั้งและใช้งานตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2541

ปี พ.ศ. 2551 ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจากกรมประชาสัมพันธ์ จัดซื้อเครื่องส่งพร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ ปรับปรุงห้องส่งพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ห้องส่งใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้ใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน