Bangkok wealth & biz

Bangkok wealth & biz ข่าวสารด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การลงทุน วาไรตี้ นำเสนอทั้งเว็บไซต์ และนิตยสารรายเดือน
(1)

SJWD พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินไม่เกิน 4,200 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4.04%บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJW...
02/09/2024

SJWD พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินไม่เกิน 4,200 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4.04%

บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินไม่เกิน 4,200 ล้านบาท เคาะอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.04% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2567 นี้ ชูอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ที่ BBB+(tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจหรือเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้หรือหนี้จากการออกตราสารหนี้ และ ชำระคืนหนี้อื่น พร้อมชูศักยภาพธุรกิจและผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปีนี้แข็งแกร่ง

ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2567 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.04% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จำนวนไม่เกิน 4,200,000 หน่วย มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 4,200 ล้านบาท

หุ้นกู้ดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB+(tha) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบัน จองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปหรือผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น) ระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2567 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้สำหรับการเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน 6 ราย ได้แก่ (1) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (2) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (3) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (4) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (5) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ (6) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด และธนาคาร เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมีธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้สำหรับการเสนอขายเฉพาะต่อผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SJWD กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำไปขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้และชำระเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาแผนงานขยายการลงทุนทั้งการลงทุนขยายธุรกิจในปัจจุบันและพิจารณาโอกาสขยายธุรกิจด้วยวิธี M&A เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,130.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) 678.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยจากรายได้ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ และธุรกิจขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ ที่เติบโตได้ดีในไตรมาส 2 ปี 2567 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น และมีกำไรพิเศษหลังหักค่าใช้จ่ายจากการเข้าซื้อหุ้นบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมซึ่งประเมินโดยผู้ประเมินอิสระหลังหักค่าใช้จ่ายพิเศษในไตรมาส 2 ปี 2567

ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ SJWD สามารถสอบถามผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 ต่อ 869 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
(2) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-777-6784 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น SCB EASY ได้ด้วย)
(3) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-285-1555
(4) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น DIME ได้ด้วย)
(5) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-820-0100
(6) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
(7) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 1428 กด #4 (กรณีผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)

* ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
** ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
*** ซึ่งรวมถึงธนาคาร เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
https://wealthnbiz.com/iWPgI
#สำนักข่าวwealth_and_biz
#หุ้นกู้ + #ผู้ลงทุนทั่วไป #ผู้ลงทุนสถาบัน #ขยายธุรกิจ

มูลนิธิเป๊ปซี่โค ร่วมส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารผ่านเทศกาลศิลปวัฒนธรรมมอบเงินสนับสนุนโครงการ “Little Chef Course” ในงานสี...
02/09/2024

มูลนิธิเป๊ปซี่โค ร่วมส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารผ่านเทศกาลศิลปวัฒนธรรม
มอบเงินสนับสนุนโครงการ “Little Chef Course” ในงานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11
นำเยาวชนสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ ส่งเสริมความยั่งยืนสู่วัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่น
ในเทศกาลต้อนรับลมหนาวครั้งสำคัญของจังหวัดเชียงราย

เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบ “เลย์” ร่วมจัดกิจกรรมอาสาสมัคร “One Smile At A Time-Give Together” และมูลนิธิเป๊ปซี่โค มอบเงินบริจาคจำนวน 19,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 690,000 บาท) แก่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อใช้ในโครงการ “Little Chef Course” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11” จะจัดขึ้น ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 – 26 มกราคม 2568 การสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Pep+ (PepsiCo Positive) ของเป๊ปซี่โค เพื่อส่งเสริมความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและความมั่นคงด้านอาหารเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้คน

นายสุดิปโต โมซุมดา กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหารอินโดจีน บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของความมั่นคงทางอาหารของไทย เราจึงมุ่งส่งเสริมระบบการผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านการสนับสนุนโครงการเกษตรยั่งยืนซึ่งเน้นการใช้วัตถุดิบหลักภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนงานสีสันแห่งดอยตุงซึ่งเป็นเทศกาลด้านศิลปวัฒนธรรมครั้งสำคัญ จึงสอดคล้องกับพันธกิจหลักของเราอย่างยิ่ง เนื่องจากวัฒนธรรมด้านอาหารถือเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่เชื่อมโยงสู่วิถีชีวิตที่ผาสุกและยั่งยืน โดยเฉพาะโครงการ Little Chef Course ซึ่งมุ่งเน้นการปลูกฝังเยาวชนให้แสวงหาวัตถุดิบที่มีอยู่ตามธรรมชาติในพื้นที่ เพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารอย่างมีเอกลักษณ์และเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว ผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อปและการวางแผนกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างพื้นฐานการทำงานอย่างมีระบบ นับเป็นการปลูกฝังแนวคิดความมั่นคงทางอาหารในหมู่เยาวชนที่เป็น ‘ต้นน้ำ’ ในมิติทางสังคมได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อร่วมสร้างสรรค์อนาคตแห่งอุตสาหกรรมอาหารที่มีศักยภาพทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศต่อไป”

มร.ฮาทิม คานน์ ผู้อำนวยการอาวุโส มูลนิธิเป๊ปซี่โค ยังกล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "ความมั่นคงทางอาหารเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องการแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมกับแต่ละชุมชน ตลอดระยะที่ผ่านมา มูลนิธิเป๊ปซี่โค ทำงานร่วมกับเครือข่ายของเราทั่วโลกเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความมั่นคงทางอาหารผ่านวิธีการต่างๆ รวมถึงโครงการอาสาสมัครของพนักงาน ‘Give Together’ ซึ่งเปลี่ยนชั่วโมงอาสาสมัครของพนักงานให้เป็นเงินทุนที่สนับสนุนการทำงานขององค์กรการกุศลในแต่ละประเทศ เรามุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในชุมชนเพื่อนำไปสู่ผลกระทบที่ยั่งยืนในสังคมของเราในประเทศไทยและทั่วโลกอีกด้วย"

สำหรับโครงการ “Little Chef Course” อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ จ. เชียงราย ของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ มุ่งปลูกฝังจิตสำนึกของยาวชนให้ตระหนักถึงอัตลักษณ์ด้านวัฒนธรรม ความมั่นคงทางอาหาร และความสำคัญของการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมเพื่อรักษาแหล่งอาหารที่ยั่งยืนของชุมชน ผ่านการดำเนินงานหลัก 3 ขั้นตอน ได้แก่ EXPLORE – การค้นหาแหล่งวัตถุดิบในท้องถิ่น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้านอาหาร EXPERT – การฝึกฝนและเวิร์กช็อปกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประยุกต์องค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริง และ EXPERIENCE – การสัมผัสประสบการณ์การทำงาน ผ่านการออกร้านในงานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11

มูลนิธิเป๊ปซี่โคในประเทศไทย มูลนิธิเป๊ปซี่โค เป็นหน่วยงานที่ทำงานด้านการทำประโยชน์สาธารณะและสังคมของบริษัทเป๊ปซี่โค เรามีพันธกิจที่จะสนับสนุนการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเจริญก้าวหน้า โดยเน้นการส่งเสริมองค์ประกอบที่จำเป็นเพื่อระบบอาหารที่ยั่งยืน มูลนิธิเป๊ปซี่ทำงานร่วมกับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ชุมชนได้รับการเข้าถึงความมั่นคงทางอาหาร การเข้าถึงน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภค และเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมให้กับชุมชนที่เราอาศัยและทำงานอยู่ รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจ องค์กรท้องถิ่น องค์กรนานาชาติ และพนักงานของเรา เพื่อส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงกว้างเกี่ยวกับขอบข่ายของปัญหาที่มีความสำคัญของประเทศ ตลอดจนปัญหาในระดับโลกเช่นเดียวกัน สามารถเรียนข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pepsicofoundation.com

เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มุ่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่มูลค่า ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการทำเกษตรที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนแก่กลุ่มเกษตรกรของประเทศ การใช้กระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้โรงงานที่ดำเนินงานตามแนวคิด ESG ไปจนถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่อกระบวนการรีไซเคิล รวมไปถึงแง่มุมอื่น ๆ อีกมากมาย การร่วมสนับสนุนงานสีสันแห่งดอยตุง ถือเป็นการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารผ่านมิติทางสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแง่มุมที่เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าด้านเทคโนโลยีการผลิต เพื่อร่วมพัฒนาห่วงโซ่มูลค่าของอุตสาหกรรมอาหารควบคู่ไปกับการส่งเสริมอัตลักษณ์ของชุนชมต่าง ๆ ในประเทศอย่างยั่งยืน

https://wealthnbiz.com/OuY3r

#สำนักข่าวwealth_and_biz #เป๊ปซี่โคประเทศไทย #เกษตร #มูลนิธิเป๊ปซี่โค

”ซินเจนทา ประเทศไทย” รับรางวัลส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน ประจำปี 2567ซินเจนทา ประเทศไทย นำโดย นางสาววรรณภร วัฒนาเกษ...
02/09/2024

”ซินเจนทา ประเทศไทย” รับรางวัลส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน ประจำปี 2567

ซินเจนทา ประเทศไทย นำโดย นางสาววรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด รับมอบ ‘รางวัลส่งเสริมภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน’ ประจำปี 2567 จากสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจาก นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ (กลาง) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติในการมอบรางวัล และนายอนันต์ นิลมานนท์ (ซ้าย) นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งรางวัลนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของซินเจนทาในการยกระดับการเกษตรอย่างยั่งยืนในประเทศไทย พร้อมทั้งสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรไทย ให้ทำการเกษตรอย่างปลอดภัยครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพ รวมถึงสร้างความมั่นคงทางอาชีพ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยพิธีมอบจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ณ โรงแรมคิงปาร์ค อเวนิว กรุงเทพฯ

https://wealthnbiz.com/IaJkG

#สำนักข่าวwealth_and_biz #ซินเจนทาประเทศไทย #การเกษตร

มาม่า” รับรางวัล The Most Powerful Brands of Thailand 2024 “มาม่า” ครองแชมป์แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทรงพลังและอยู่ใน...
02/09/2024

มาม่า” รับรางวัล The Most Powerful Brands of Thailand 2024

“มาม่า” ครองแชมป์แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทรงพลังและอยู่ในใจผู้บริโภคคนไทยมาอย่างยาวนาน ล่าสุดคว้ารางวัล “The Most Powerful Brands of Thailand 2024” แบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดของประเทศไทยประจำปี 2024 หมวดผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จัดโดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาสินี จารุภูมิ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบรนด์มาม่า กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจของมาม่า ที่ได้รับรางวัล “The Most Powerful Brands of Thailand 2024” แบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดของประเทศไทยประจำปี 2024 และถือเป็นความสำเร็จของทีมงานในองค์กรทุกคน ตอกย้ำแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทรงพลังและครองใจผู้บริโภคคนไทยมาอย่างยาวนาน สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและไว้วางใจในแบรนด์ของผู้บริโภค โดย “มาม่า” ยังคงไม่หยุดนิ่งในการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ นำนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาช่วยเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าและรสชาติที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ตามความต้องการที่หลากหลาย ซึ่งรางวัลดังกล่าวจัดโดย ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ภาสินี กล่าว

สำหรับรางวัล “The Most Powerful Brands of Thailand 2024” ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาวิจัยแบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดของประเทศไทยประจำปี 2024 ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุก 2 ปี โดยประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ ความตระหนักในแบรนด์ ความชื่นชอบในแบรนด์ การใช้ผลิตภัณฑ์ และภาพลักษณ์ เป็นการวิเคราะห์ความสำเร็จของแบรนด์ทั้งในแง่ Market Share, Mind Share และ Heart Share อย่างครบถ้วน โดยผ่านการเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคจำนวนมากกว่า 24,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ ซึ่งผลจากการวิจัยดังกล่าวพบว่าแบรนด์ “มาม่า” ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่ทรงพลังที่สุด ในหมวดผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยในปีนี้มีแบรนด์ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว รวม 29 รางวัล

https://wealthnbiz.com/JYJ6v

#สำนักข่าวwealth_and_biz #มาม่า #บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

Culture Camp Connect ปลุกพลังผู้นำการเปลี่ยนแปลง ร่วมสร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างยั่งยืนบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ...
02/09/2024

Culture Camp Connect ปลุกพลังผู้นำการเปลี่ยนแปลง ร่วมสร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างยั่งยืน

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ นำทีมชาวเงินติดล้อจัดกิจกรรม “Culture Camp Connect” เชิญชวนผู้ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร หรือ TIDLOR Culture Camp และบุคคลที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร มาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และแบ่งปันประสบการณ์การสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรของตนเองกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรมองค์กรไปด้วยกัน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 คน ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณอำพนชาย์ แสงไตรรัตน์นุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซูซุมหานคร จำกัด และ คุณรินธาร เจริญรูป ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์การสร้างวัฒนธรรมองค์กร โดยเน้นถึงบทบาทของ Change Agent หรือผู้นำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ขับเคลื่อนที่ช่วยให้องค์กรเติบโตและพัฒนาไปพร้อมๆ กับรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างยั่งยืน ณ สำนักงานใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้หลักสูตร TIDLOR Culture Wow และ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ TIDLOR Academy จัดขึ้นสำหรับบุคคลและบริษัทภายนอกที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป สำหรับหลักสูตร TIDLOR Culture Camp ครั้งถัดไป จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2567 ผู้สนใจออกแบบค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรผ่านเวิร์กชอปที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy

https://wealthnbiz.com/u6IDa

#สำนักข่าวwealth_and_biz #เงินติดล้อ #ศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ #สินเชื่อ

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.80-34.30 พักฐานรอตัวเลขจ้างงาน  กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา...
02/09/2024

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.80-34.30 พักฐานรอตัวเลขจ้างงาน


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.80-34.30 บาท/ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.93 ต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.88-34.12 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือนครั้งใหม่ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงแรกดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังตลาดรับข่าวประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ส่งสัญญาณใกล้ลดดอกเบี้ยอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นหลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด โดยจีดีพีในไตรมาสสองเติบโต 3.0% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนจาก 2.8% ที่เคยรายงานในครั้งแรกและเร่งตัวจาก 1.4% ในไตรมาสแรก ทางด้านเงินยูโรอ่อนค่าลงขณะที่อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีและสเปนที่ชะลอลงสนับสนุนการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 1,179 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 1,937 ล้านบาท ส่วนในเดือนส.ค.เงินบาทแข็งค่ามากถึง 4.9%

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ว่า นักลงทุนจะติดตามตัวเลขดัชนีภาคบริการและการจ้างงานเดือนส.ค.ของสหรัฐฯซึ่งจะส่งผลต่อการคาดการณ์ขนาดการลดดอกเบี้ยของเฟดหลังเงินเฟ้อ PCE ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ขณะที่สัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่าในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. มีโอกาสราว 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp และคาดว่ามีโอกาส 31% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 50bp จากระดับ 5.25-5.50% อนึ่ง เรามองว่าในระยะสั้นเงินบาทเข้าสู่ช่วงพักฐานชั่วคราวหลังจากแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดสะท้อนความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของเฟดไปมากแล้ว ส่วนราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มความผันผวนให้กับค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนส.ค.รวมถึงโผครม.เศรษฐกิจ ทางด้านผู้ว่าการธปท.ระบุว่าค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และราคาทองที่สูงขึ้น ขณะที่ธปท.ติดตามความเคลื่อนไหวของเงินบาทอยู่ตลอด นอกจากนี้ ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไม่เท่าเทียม ส่วนดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ในระดับต่ำที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะที่ในเดือนก.ค.ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 0.3 พันล้านดอลลาร์

https://wealthnbiz.com/pOrW4

#สำนักข่าวwealth_and_biz #เงินเฟ้อ #เศรษฐกิจ #ค่าเงินบาท #เงินบาท #ดอกเบี้ย #เฟด #ทอง #ดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน The Cooler Earth ที่ประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้รูปแบบงาน TCE จั...
02/09/2024

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน The Cooler Earth ที่ประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้รูปแบบงาน TCE จัดแบบซีรี่ส์ ล่าสุดมาในธีม “เคล็ด(ไม่)ลับ…โอกาสปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียว” ซึ่งเปิดให้องค์กรต่าง ๆ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม จุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียวในแง่มุมต่างๆ ทั้งในภาพเล็ก และภาพใหญ่ โดยมีผู้บรรยาย และผู้ร่วมเสวนาจากหน่วยงานภาครัฐ นักธุรกิจ นักกฎหมาย ธนาคาร ได้แก่ ฐนิตา ศิริทรัพย์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ภัทรเสฎฐ หนุนภักดี Team Lead LinkedIn ประจำประเทศไทย ดร.เหมือนจิต แจ่มศิลป์ Sustainability Specialist โกวิท อดิเรกสมบัติ Partner และนราวิชญ์ รุจานันท์ Associate จาก Baker McKenzie ธนบูรณ์ สมบูรณ์ Founder & CEO จาก Creative Move Co., Ltd. จิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด โดยมี พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ เจสัน ลี หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวเปิดงาน งานจัดขึ้น ที่ รร.SO/ Bangkok เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา

CIMB Thai จัดงาน “เคล็ด (ไม่) ลับ…โอกาสปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียว” ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน

​ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน The Cooler Earth ที่ประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้รูปแบบงาน TCE จัดแบบซีรี่ส์ ล่าสุดมาในธีม “เคล็ด(ไม่)ลับ…โอกาสปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียว” เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเปิดให้องค์กรต่าง ๆ และ ประชาชนทั่วไปเข้าร่วม จุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียวในแง่มุมต่างๆ ทั้งในภาพเล็ก และภาพใหญ่ โดยมีผู้บรรยาย และผู้ร่วมเสวนาจากหน่วยงานภาครัฐ นักธุรกิจ นักกฎหมาย ธนาคาร ได้แก่ BOI, LinkedIn, Baker McKenzie, Greenery, Circular และ CIMB Thai

เริ่มต้นสัมมนา โดย ฐนิตา ศิริทรัพย์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) บรรยายหัวข้อ “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว: โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมอัจฉริยะและยั่งยืน” โดยให้ความรู้เกี่ยวกับ BCG โมเดล (Bio Economy ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ, Circular Economy ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน, Green Economy ระบบเศรษฐกิจสีเขียว) ที่เรียกได้ว่ามีโอกาสอีกมากมายสำหรับแต่ละด้านภายใต้ 3 ระบบเศรษฐกิจนี้ เช่น ด้านอาหารและการเกษตร (Food & Agriculture) ด้านสุขภาพและการแพทย์ (Health & Medicine) รวมไปถึงด้านวัสดุและพลังงาน (Material & Energy) และ BOI มีบทบาทส่งเสริมการลงทุน “Go Green” ทั้งในภาคพลังงานเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานสะอาด ผ่านการร่วมผลักดันกลไกจัดหาพลังงานสะอาด (Utility Green Tariff) ซึ่งเป็นจุดแข็งใหม่สำหรับการดึงดูดการลงทุน กลไกสำคัญในการนำไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2593 และ 2608 ตามลำดับ สำหรับภาคอุตสาหกรรมได้มีมาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ Smart & Sustainable Business Industry และภาคการขนส่งสำหรับการส่งเสริมรถยนต์ EV แบบครบวงจร

​ถัดมาเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจมาก นั่นคือ “งานสีเขียว (Green Job) เพื่ออนาคต” บรรยายโดย ภัทรเสฎฐ หนุนภักดี Team Lead LinkedIn ประจำประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันตลาดแรงงานมีความต้องการจ้างงานด้าน Green Job เติบโตสวนทางกับเศรษฐกิจ เห็นได้จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น มากกว่า 22.4% โดยเฉพาะคนเก่งที่มีทักษะความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Green Talent) ที่มีความต้องการเติบโตขึ้น 5.4% ขณะที่เมื่อพิจารณาองค์กรทั่วโลกพบว่า มีเพียง 1 ใน 8 คน ที่มีทักษะด้านความยั่งยืน (Green Skill) จึงแนะนำองค์กรพัฒนาทักษะด้านนี้ให้พนักงาน ยกตัวอย่าง อาชีพนักบัญชี เดิมไม่เกี่ยวข้อง แต่อนาคตอันใกล้ จะเป็นกลุ่มแรกที่ต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ใหม่ๆ รวมไปถึงงานประเภทอื่นๆ อีกด้วย

​ภายในงานยังมีการเสวนาหัวข้อ “การวางรากฐานสำหรับธุรกิจที่ยั่งยืนผ่าน Ecosystem ของกฎหมายที่แข็งแกร่ง” โดยผู้ร่วมเสวนาจาก Baker McKenzie ดร.เหมือนจิต แจ่มศิลป์ Sustainability Specialist โกวิท อดิเรกสมบัติ Partner และนราวิชญ์ รุจานันท์ Associate พร้อมด้วยผู้ดำเนินการเสวนา เจสัน ลี หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย โดยให้ความรู้ความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างกฎหมาย และความยั่งยืน เรื่องของเทรนด์ และโอกาสต่างๆ ทั้งในภูมิทัศน์ของประเทศไทยเอง รวมไปถึงอาเซียน

​ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งการเสวนาที่เรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจ และจุดประกายให้ใครหลายๆคนจากมุมมองเจ้าของธุรกิจ คือการเสวนาในหัวข้อ “ธุรกิจสีเขียวบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ” โดยมีผู้ร่วมเสวนาอย่าง ธนบูรณ์ สมบูรณ์ Founder & CEO ของ Creative Move Co., Ltd. หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Greenery ซึ่งเป็นทั้งแพลตฟอร์ม ที่รวบรวมข้อมูลความรู้ แนวคิด สร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกับโลกรอบตัว รวมไปถึง Greenery Water น้ำดื่มกระป๋องอะลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% และผู้ร่วมเสวนาอีกท่านในแวดวงอุตสาหกรรมสิ่งทออย่าง จิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด (SC Grand) และได้แตกไลน์แบรนด์รักษ์โลกอย่าง Circular ขึ้นมา ซึ่งเป็นการนำของเสียจากอุตสาหกรรมสิ่งทอมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยมีทั้งการนำมาแปรสภาพเป็นผ้าหลากสี และ เสื้อผ้าใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าที่ยั่งยืน ซึ่งทั้งสองท่านได้ร่วมแชร์แนวคิด จุดเริ่มต้น แรงบันดาลใจ และแผนในอนาคต สำหรับการเสวนาดังกล่าว โดยมี พิมพ์ณดา ศุภศรีกุลโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายความยั่งยืน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ

​ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีทั้งภายในองค์กรเอง และการพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืนให้กับหลายๆ ภาคส่วน ซึ่งทางธนาคารฯ ตั้งใจให้งานนี้เป็นการแบ่งปันข้อมูลความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกๆท่านที่เข้าร่วมงานเพื่อปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน

#สำนักข่าวwealth_and_biz #ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย #ธุรกิจสีเขียวบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลังพันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำจัดแคมเปญ “ผ่อนชิล รับเงินคืนฉ่ำ ๆ” เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลังพั...
02/09/2024

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลังพันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ
จัดแคมเปญ “ผ่อนชิล รับเงินคืนฉ่ำ ๆ”

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลังพันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ จัดแคมเปญ ผ่อนชิล รับเงินคืนฉ่ำ ๆ โปรโมชันผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ตอบโจทย์ความต้องการ และเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าในการชำระเบี้ยประกันภัย

​นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้งผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ นวัตกรรม และเครือข่ายพันธมิตรที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ การใช้ชีวิต ล่าสุด บริษัทฯ ได้ผนึกกำลังพันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ ประกอบด้วย บัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ บัตรเครดิตยูโอบี และบัตรเครดิต KTC จัดโปรโมชันสุดพิเศษ เพื่อตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต ให้สะดวกสบายและปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงิน โดยมีโปรโมชันให้เลือก ดังนี้

โปรโมชันผ่อนชิล ผ่อน 0% นาน 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ และชำระค่าเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตแบบรายปีเท่านั้น ยอดชำระเบี้ยประกันภัยรวมตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป/กรมธรรม์/เซลล์สลิปผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ทุกประเภท หรือบัตรเครดิตยูโอบี โปรโมชันผ่อน 0% นาน 4 เดือน สำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ชำระค่าเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตแบบรายปีเท่านั้น ยอดชำระเบี้ยประกันภัยรวมตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป/กรมธรรม์/เซลล์ สลิป ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย หรือบัตรเครดิตเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ทุกประเภท หรือโปรโมชันผ่อนสั้น ๆ 0% นาน 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่และชำระด้วยบัตรเครดิตแบบรายปีเท่านั้น ยอดชำระเบี้ยประกันภัยรวมตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป/กรมธรรม์/เซลล์สลิปผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตเครือ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ทุกประเภท บัตรเครดิตยูโอบี และบัตรเครดิต KTC ที่มียอดชำระเบี้ยประกันภัย 10,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์และต่อเซลส์สลิป

ทั้งนี้จะต้องเป็นแบบประกันภัยที่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตได้ ยกเว้นแบบประกันชีวิตชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว หรือชำระเบี้ยประกันภัยต่ำกว่า 5 ปี, แบบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA), แบบประกันชีวิตควบการลงทุนทั้งแบบยูนิต ลิงค์ (Unit-Linked) และแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) การชำระเบี้ยประกันภัยนั้นต้องเป็นเบี้ยประกันภัยปีแรกและชำระแบบรายปี โดยแนบสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพหรือโรคร้ายแรงแบบใดก็ได้ รวมถึงกรมธรรม์แบบบำนาญสามารถชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตได้ โดยไม่จำเป็นต้องแนบสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพและโรคร้ายแรง สำหรับการซื้อประกันภัยใหม่ในทุกช่องทางการขายของบริษัท ยกเว้น การขายผ่านธนาคารกสิกรไทย โปรดตรวจสอบ โปรโมชันการชำระผ่านบัตรเครดิตเพิ่มเติมที่สาขาธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ

สิทธิพิเศษ...สำหรับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ แบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) รับสิทธิผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน เมื่อเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตแบบรายปี ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย และมียอดชำระเบี้ยประกันภัยรวมตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป (เบี้ยประกันภัยหลักรวมเงินออมเพิ่มเติม) ต่อกรมธรรม์และต่อเซลล์สลิป หรือโปรโมชันผ่อนสั้นๆ 0% นาน 3 เดือน เมื่อเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตแบบรายปี ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย และมียอดชำระเบี้ยประกันภัยรวมตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป (เบี้ยประกันภัยหลักรวมเงินออมเพิ่มเติม) ต่อกรมธรรม์และต่อเซลล์สลิป

และสำหรับลูกค้าต่ออายุกรมธรรม์ รับสิทธิผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ 0% นาน 3 เดือน ช่องทางแอปพลิเคชัน MTL Click ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย และบัตรเครดิตเครือ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ทุกประเภท โดยมียอดชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์และ ต่อเซลล์สลิป และทุกโหมดการชำระเบี้ยประกันภัย โดยโปรโมชันผ่อนชำระ 0% ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ สามารถใช้โปรโมชันได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2567 นี้

และยังมีโปรโมชันสุดคุ้ม รับเงินคืนฉ่ำ ๆ สำหรับการชำระผ่านบัตรเครดิต KTC รับเครดิต เงินคืนสูงสุด 13% และสิทธิพิเศษ 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1% (รับสิทธิ์ทันทีโดยไม่ต้องแลกคะแนน) เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยปีแรกและเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ สำหรับทุกโหมดชำระเบี้ยประกันภัย เฉพาะการชำระเบี้ยประกันภัยเต็มจำนวนเท่านั้น สำหรับแบบประกันภัยที่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตได้ ยกเว้นแบบประกันชีวิตควบการลงทุน Unit-linked และต่อที่ 2 คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แลกรับเครดิตเงินคืน 12% หรือ 120 บาทเมื่อชําระค่าเบี้ยประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิต ทั้งเบี้ยประกันภัยปีแรกและ/หรือเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ โปรโมชันเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2567

สำหรับการชำระผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย เมื่อแบ่งจ่ายรายเดือนผ่าน KBank Smart Pay 0% นาน 6 เดือน สำหรับลูกค้าซื้อกรมธรรม์ใหม่แบบรายปีเท่านั้น รับคะแนน K Point เพิ่มสูงสุด 50,000 คะแนน เมื่อมียอดชำระเบี้ยประกันภัยรวมตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์และต่อเซลล์สลิป ลงทะเบียนทุกครั้งก่อนทำรายการ
และโปรโมชันแลกคะแนน K Point รับเครดิตเงินคืน 10% สำหรับยอดชำระเต็มจำนวนหรือแบ่งจ่าย ผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย โปรโมชันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2567

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.muangthai.co.th/th/campaign/promotion

หมายเหตุ
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
-โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
-ลูกค้าธนาคาร UOB ที่ถือบัตรเครดิตภายใต้แบรนด์ Citi สามารถเข้าร่วมโปรโมชันนี้ได้
-ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี

https://wealthnbiz.com/XIXqT

#สำนักข่าวwealth_and_biz #เมืองไทยประกันชีวิต #ดอกเบี้ย #ธนาคาร #เศรษฐกิจ #ประกันชีวิต #บัตรเครดิต #ผ่อนชิลรับเงินคืนฉ่ำๆ

BEMแจ้งเบี่ยงจราจรช่องซ้ายสุดและไหล่ทางด่านยมราช วันที่ 3-7 ก.ย.67 บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BE...
02/09/2024

BEMแจ้งเบี่ยงจราจรช่องซ้ายสุดและไหล่ทางด่านยมราช วันที่ 3-7 ก.ย.67

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประชาสัมพันธ์แจ้งเบี่ยงการจราจรทางพิเศษศรีรัช ด่านยมราช มุ่งหน้าบางโคล่ ช่องทางซ้ายรวมถึงไหล่ทาง เนื่องจากมีความจำเป็นต้องปิดช่องเก็บค่าผ่านทางที่ 6 ชั่วคราว เพื่อตัดแต่งต้นไม้ที่ยื่นล้ำเข้ามาในทางพิเศษเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้ทาง
ตั้งแต่วันที่ 3 - 7 กันยายน 2567 เวลา 09:00 – 16:00 น.

ทั้งนี้ สามารถเดินทางผ่านด่านยมราช มุ่งหน้าบางโคล่ได้ตามปกติในช่องทางขวา โดย BEM ขอความร่วมมือผู้ใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวโปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง สังเกตป้ายเตือนจราจร ป้ายไฟ ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรที่ได้จัดไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ ผู้ใช้บริการทางพิเศษสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ควบคุมทางพิเศษ โทร. 02 664 6400

https://wealthnbiz.com/ojZ8X

#สำนักข่าวwealth_and_biz #แจ้งเบี่ยงจราจร #ป้ายเตือนจราจร #ป้ายไฟ

SC Asset พร้อมเสิร์ฟโปรโมชัน “โอ้มากะ ศูนย์” คอร์สโปรโมชั่นความคุ้มใหญ่ประจำปี กับแคมเปญ SC Day 7-8 ก.ย.นี้คัดสรรบ้านแปล...
02/09/2024

SC Asset พร้อมเสิร์ฟโปรโมชัน “โอ้มากะ ศูนย์” คอร์สโปรโมชั่นความคุ้มใหญ่ประจำปี กับแคมเปญ SC Day 7-8 ก.ย.นี้คัดสรรบ้านแปลงพิเศษเสิร์ฟให้ถึงมือ กว่า 70 โครงการ บนทำเลทั่วกรุงเทพ

บมจ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC ผู้นำอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง และ มีนวัตกรรม เดินหน้าปลุกตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 3 ส่งแคมเปญ SC Day พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษ “โอ้มากะ ศูนย์” คอร์สโปรโมชั่นสุดคุ้มประจำปี พร้อมคัดสรรบ้านแปลงพิเศษ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ระดับพรีเมี่ยม กว่า 70 โครงการ บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ มาให้จับจอง ราคา เริ่ม 2.59 - 100 ล้าน 7-8 กันยายน 67 นี้

พบ 3 คอร์สโปรโมชันเด็ดที่คุณต้องร้อง โอ้ ได้แก่ #คอร์สแรก เปิดต่อมความคุ้ม เรียกน้ำย่อยด้วย คอร์สจอง 0 บาท* ต่อกันด้วย #เมนคอร์ส รับความคุ้มแบบจุใจ ค่าใช้จ่ายวันโอน 0 บาท* และ ปิดท้ายความฟินให้แบบยาวๆ ด้วยคอร์ส ของดอกเบี้ย 0%*

พร้อมอิ่มอร่อย ฟิน 3 ต่อ* ได้แก่ ต่อที่ 1 แวะปั๊บรับเลย Major Popcorn Supersize ขนาด 355 oz. 1 ถัง, ต่อที่ 2 เมื่อจองรับเลย Major VIP Cinema Movie Voucher และ Major Popcorn Voucher Combo Set ปิดท้ายด้วย ต่อที่ 3 เมื่อโอนฯ ได้ Major VIP Cinema Movie Voucher พร้อม Major Popcorn Voucher Combo Set ฟรี 1 ปี (*จำนวนจำกัด)

นอกจากนี้ ยังแวะไปช้อปต่อได้อีกที่ งาน “SC Asset Mart” ลดยกมาร์ตอย่างยิ่งใหญ่ ที่ Central Eastville ณ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 โซน Indoor พบบ้านราคาดี ยูนิตปังอีกครั้ง! ที่มีให้เลือกหยิบใส่ตระกร้า ทั้งบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม HOT DEAL พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ถือเป็นความพิเศษสุดที่ SC นำมามอบให้สำหรับลูกค้าที่กำลังพิจารณาตัดสินใจซื้อบ้าน ด้วยเงื่อนไข ที่ดีที่สุดแห่งปี ตั้งแต่วันนี้ - 4 ก.ย. 67 นี้

https://wealthnbiz.com/gsuYQ

#สำนักข่าวwealth_and_biz #คอนโด #บ้าน #ทาวเฮ้าส์ #โอ้มากะศูนย์ #ที่อยู่อาศัย #อสังหาริมทรัพย์

SME D Bank ขึ้นเหนือเยี่ยมให้กำลังใจลูกค้าประสบอุทกภัย กุมมือเดินเคียงข้างพาเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบนายพิชิต...
02/09/2024

SME D Bank ขึ้นเหนือเยี่ยมให้กำลังใจลูกค้าประสบอุทกภัย กุมมือเดินเคียงข้างพาเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบ

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่ภาคเหนือ เข้าตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมพาเข้าถึงความช่วยเหลือตามแนวทางเหมาะสมที่ธนาคารมีไว้รองรับอยู่แล้ว ผ่านมาตรการ “พัก-ลด-ขยาย-ปรับ-เติม” ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าใช้จ่าย และสามารถฟื้นฟูกิจการได้ในเร็ววัน ทั้งนี้ ธนาคารขอส่งความปรารถนาดีไปยังผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยธนาคารพร้อมกุมมือเดินเคียงข้าง คอยช่วยเหลือตลอดไป ณ จ.แพร่ และ จ.น่าน เมื่อเร็ว ๆนี้

https://wealthnbiz.com/RLkic

#สำนักข่าวwealth_and_biz #อุทกภัย #น้ำท่วม #ธพว

ที่อยู่

77/30 หมู่ 2 ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด
Pak Kret
11120

เบอร์โทรศัพท์

+66868808901

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Bangkok wealth & bizผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Bangkok wealth & biz:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์


บริษัทด้านสื่อ/ข่าวสาร อื่นๆใน Pak Kret

แสดงผลทั้งหมด

คุณอาจจะชอบ