Ka-Ban news สำนักข่าวออนไลน์เชิงสร้างสรรค์ โดยมีเนื้อหาเรื่องในประเทศครบถ้วนทุกประเด็นของข่าวสาร

สนธิ นำมวลชน ร้อง นายกฯ ยกเลิก MOU44 ครบ 15 วันจะทวงถาม อุบวันรวมพลลงถนน ลั่นออกมาสู้ก็ต้องชนะเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ ...
09/12/2024

สนธิ นำมวลชน ร้อง นายกฯ ยกเลิก MOU44 ครบ 15 วันจะทวงถาม อุบวันรวมพลลงถนน ลั่นออกมาสู้ก็ต้องชนะ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดรวมตัวมวลชนเพื่อลงชื่อแนบท้ายคำร้อง และยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ในช่วงเช้าวันนี้ มีมวลชนทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา อดีตทนายกปปส. , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าร่วม

จากนั้น เวลา 09.38 น. นายสนธิ ได้เดินทางมาถึงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ โดยใช้เวลาหารือ 20 นาที ก่อนนายสนธิจะออกมาแถลงข่าว พร้อมนำสไลด์แผนที่ แสดงภาพ ส.ค.ส. พ.ศ.2547 ซึ่งเป็นภาพแผนที่ตามพระบรมราชโองการประกาศเส้นทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทยพ.ศ. 2516 มาแสดง

นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นตัวแทนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกหยุดการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป ตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ค.ศ. 1985 และกฎหมายอื่นๆ ซึ่งยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและยังไม่มีพระบรมราชโองการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตราหนึ่งและมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ปฏิบัติตามข้อเสนอภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ

โดยข้อเรียกร้อง ได้แก่ ข้อ 1. ขอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตยของไทย และแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีป ซึ่งเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ข้อ 2. ขอให้นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณามีมติให้ส่งMOU 2544 และJC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตราหนึ่งและมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่ ข้อ 3. และหากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าMOU 2544 และJC 2544 ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้ยกเลิกการเจรจา ตามMOU 2544 และ JC 2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาทันที ข้อ 4. แต่หากศาลวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ขอให้ครม. จัดให้มีการเจรจากับกัมพูชา เพื่อยกเลิกMOU 2544 และJC 2544 ทันที โดยให้เจรจากันใหม่ภายใต้การกำหนดขอบเขตเฉพาะพื้นที่พัฒนาร่วมบนพื้นฐานโดยใช้หลักการของ เส้นมัธยะ

ข้อ5. ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค หรือ JTC ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้อง และข้อ 6. ให้จัดเวทีสาธารณะแก่ประชาชนเรื่องMOU 254 และJC 2544 โดยให้ความรู้ความเข้าใจที่เป็นกลาง เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณากลับภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ครม.ได้พิจารณา

นายสนธิ กล่าวว่า มีคำถามว่าเอ็มโอยู 2544 เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบคือเกิดขึ้นเพราะนายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนายกรัญมนตรีในตอนนั้นจับมือกับนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อร่างเอ็มโอยู 2544 ลากเส้นของตัวเองเข้ามากินในพื้นที่ของคนไทย และคนร่างเอ็มโอยู 2544 คือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ ถามว่าทำไมถึงกล้าพอที่จะร่าง เหตุผลเพราะนายสุรเกียรติ์ต้องการให้นายทักษิณส่งเสริมให้ตัวเองเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติในตอนนั้น

นายสนธิ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่เรามีนายกฯทับซ้อน ตนกล้าพูดว่าเอ็มโอยู 2544 เป็นเอ็มโอยูขายชาติ ตนให้เวลารัฐบาลชุดนี้ 15 วัน หลังจากนั้นจะมาติดตามผล ซึ่งขั้นตอนต่อไปตนจะร้องเรียนต่อสภาผู้แทนราษฎร และจะส่งเอกสารให้สส. สว.ทุกคนยืนยันสิทธิ์ของประเทศไทย หากสส. สว. คนไหนลงมติเห็นชอบเอ็มโอยู 2544 จะถือว่าอยู่ในขบวนการร่วมกันขายชาติเช่นกัน หากอนาคตความจริงปรากฏ จะทำให้ สส. สว.ที่ยกมือก็จะติดคุกติดตารางในฐานะขายชาติ นอกจากนี้ ตนจะยื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงการต่างประเทศ เพราะต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศ ข้าราชการโดยเฉพาะกรมสนธิสัญญาได้รับทราบว่าถ้าท่านไม่ปกป้องอาณาเขตไทยร่างสัญญาใหม่แล้วตกลงทำตาม ท่านก็คือข้าราชการขายชาติเช่นกัน

“นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทำอะไรครั้งนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะลูกเดียว พวกแกนนำเก่าๆพากันพูดว่าไม่มีมวลชนแล้ว วันนี้ผมไม่ได้ปลุกระดมพ่อแม่พี่น้อง แต่ว่ามากันด้วยใจ ถ้าถึงเวลาที่จะต้องลงถนนกันก็จะมามากกว่านี้เป็นพันเท่า ถ้าอะไรที่เป็นของเราแล้วมาเอาไปก็ต้องเจอกัน บางคนพูดถึงเรื่องเก่าว่าประเทศไม่เดินหน้าเพราะการประท้วง และผมเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ผมถามกลับว่าที่ประท้วงในปี 2548 เราประท้วงใคร และเรื่องอะไร ใช้เวลา 18 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ให้นายทักษิณสารภาพผิด และบรรจุลงในราชกิจจานุเบกษาว่าได้คดโกงประเทศชาติอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอมาตั้ง 18 ปี “ นายสนธิ กล่าว

นายสนธิ กล่าวว่า ขอถามถึงนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ตนและพวกทำผิดตรงไหนที่ไม่ยอมส่งดินแดนของเรา ให้กับกัมพูชาเพียงเพราะนายกฯทับซ้อนบางคนมีข้อตกลงกัน จะแบ่งผลประโยชน์กันห้าสิบห้าสิบ

#กะบาล #ข่าว

"ณัฐวุฒิ" กล่าวถึงการสื่อสารทางการเมืองของ "นายกฯ แพทองธาร" ในประเด็นดราม่าเรื่องสามีเป็นคนใต้ไม่ได้เป็นจุดเปราะบางจนทำใ...
09/12/2024

"ณัฐวุฒิ" กล่าวถึงการสื่อสารทางการเมืองของ "นายกฯ แพทองธาร" ในประเด็นดราม่าเรื่องสามีเป็นคนใต้ไม่ได้เป็นจุดเปราะบางจนทำให้รัฐบาลต้องสั่นคลอน

"ผมเห็นจุดเปราะบางในสังคมว่า มันมาถึงจุดที่ถ้าไม่ใช่ฝ่ายที่ตัวเองนิยม เรื่องเล็กจะถูกขยายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหม่อาจถูกอธิบายเป็นเรื่องเก่า เรื่องดีอาจจะเป็นเรื่องที่ชี้ภาพเป็นเรื่องร้าย"

กรณีนายกฯ มีครอบครัวเป็นคนภาคใต้ เป็นส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ยาว ท่านพูดถึงมาตรการการแก้ไขปัญหา พูดถึงสาเหตุต้องจัดประชุม ครม.สัญจร ที่ภาคเหนือ แล้วมีบางตอนพยายามเชื่อมโยงตัวเองกับพี่้น้องชาวใต้ ให้เกิดความรู้สึกไม่ได้ห่างไกลกันเท่านั้นเอง สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนว่า การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสังคมไทย มันยังเป็นไปอย่างเข้มข้น และรัฐบาลก็ต้องเผชิญคลื่นลมกันแบบนี้ไปตลอดทาง ดังนั้นเป็นเรื่องที่ ก็ต้องอดทน

ชี้ไร้สัญญาณม็อบใหญ่กดดัน
สถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่ม “สนธิ ลิ้มทองกุล” ที่จะมายื่นหนังสือในวันที่ 9 ธ.ค. 2567 ถึงนายกรัฐมนตรีให้ชี้แจง “เอ็มโอยู 44” เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชานั้น “ณัฐวุฒิ” อ่านเกมของอดีตผู้นำม็อบเสื้อเหลืองว่า ยังไม่เห็นสัญญาณของม็อบใหญ่ เพราะการชุมนุมขนาดใหญ่ได้จะต้องมีองค์ประกอบอยู่ 3 ประการ ข้อแรกต้องมีพรรคการเมืองอย่างน้อย 1พรรคร่วมขบวนด้วย ข้อสอง มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ มาผนึกกำลังกัน

ข้อสาม จะต้องมีความเคลื่อนไหวของคนการเมือง หรือคนที่มีเครือข่ายมีพลังทางการเมือง นั่งพูดคุยปรึกษาวางแผนเตรียมการ มีถึงขั้นติดต่อเครื่องเสียง ติดต่อเวที จัดเตรียมระบบเทคนิคขยายผลการชุมนุมมออกไปสู่สาธารณะ

“ผมถึงบอกว่ายังไม่มีสัญญาณ จะเกิดม็อบใหญ่ แต่มันคนละความหมายกับการไปพูดจาด้อยค่า วิถีของนักต่อสู้ เราจะให้เกียรติกัน แม้จะยืนกันคนละฝ่าย จะไม่ปรามาสท้าทายกัน ดังนั้น ผมเห็นว่าคุณสนธิ มีศักยภาพมีความสามารถในการเคลื่อนไหวของท่าน”

"ณัฐวุฒิ” ระบุว่า ประเด็นชาตินิยม มวลชนฝ่ายอนุรักษนิยมมักนำมาใช้กดดัน โจมตีหรือขับไล่รัฐบาล ซึ่งเคยใช้ได้ผลมาแล้วอย่างเช่น กรณีเขาพระวิหาร ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ทั้งนี้ ประเด็นเอ็มโอยู 44 ไม่ได้นำไปสู่การเสียดินแดนแต่อย่างใด

ที่ปรึกษาของนายกฯ ยกตัวอย่างกรณีไทยกับมาเลเซีย เคยพิพาทกันพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลตั้งแต่ปี 2515 เจรจาเรื่อยมาจนปี 2522 จนได้ข้อยุติให้เรียกพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็น “พื้นที่พัฒนาร่วม” และจัดตั้งองค์กรร่วมกันสองประเทศ กระทั่งนำก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้เมื่อปี 2548 ใช้เวลา 33 ปีถึงยุติด้วยการหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ

เช่นเดียวกัน “ณัฐวุฒิ” มองพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา สามารถหาข้อยุติที่ยอมรับกันได้ทั้งสองฝ่าย แล้วนำทรัพยากรปิโตรเลียมขึ้นมาใช้ร่วมกัน ซึ่งพื้นที่ทับซ้อนมีทรัพยากรปิโตรเลียมมููลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านล้านบาท

ถามถึงการได้สัมผัสใกล้ชิดกับ “นายกฯ แพทองธาร” ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนมาเป็นนายกฯ จะเป็นหุ่นเชิดของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ “ณัฐวุฒิ” ยืนยันว่า “ผมเชื่อ 100% ว่าท่านนายกฯ แพทองธาร เป็นตัวของตัวเองและเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ณ เวลาปัจจุบัน”

“คนเป็นผู้นำประเทศจะไม่ฟังใครเลยก็ไม่ใช่ คนแบบทักษิณ ชินวัตร มีมากนักหรอในประเทศไทย ผมเชื่อว่านายกฯ ทักษิณเป็นคนระดับโลก แล้วคนแบบนี้ ถ้าหากรัฐบาลดึงศักยภาพบางประการมาใช้ เป็นประโยชน์กับประชาชน”

มั่นใจกระแสเสื้อแดงไม่ลดลง
ส่วนกระแสคนเสื้อแดงในปัจจุบันยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ “ณัฐวุฒิ” ย้ำว่า “ผมว่าไม่น้อยนะ มันไม่มีขบวนการทางการเมืองไหนที่เป็นการรวมตัวของประชาชนแล้วจะเป็นหนึ่งเดียว สัจจะนิรันดร์ตลอดกาล เพราะว่าการเมืองเป็นพลวัต มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา คนเสื้อแดงไม่ได้อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์นี้ ส่วนจะไปอยู่พรรคไหนเท่าไรอย่างไร รอบทพิสูจน์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การเลือกตั้ง หรือวาระที่ประชาชนจะได้แสดงการตัดสินใจในระบบประชาธิปไตย”

“คนเสื้อแดง วันนี้ยังใส่เสื้อแดงอยู่ก็เป็นไปได้ ถอดเสื้อแดงไปใส่เสื้อสีอื่นก็เป็นไปได้ หรือวันหนึ่งอาจจะกลับมาเป็นคนเสื้อแดง สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอีกทีหนึ่ง ผมก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก” ณัฐวุฒิ ตอบถึงคนเสื้อแดงบางส่วนเปลี่ยนใจไปสวมเสื้อสีส้ม

ชำแหละการเมืองสามก๊ก
ส่วนการปราศรัยของ "ทักษิณ" ที่ จ.อุดรธานี ประกาศชัด "พรรคเพื่อไทย" ต้องการ สส. 200 ที่นั่ง แสดงว่ามีพันธมิตรทางการเมืองแล้วหรือไม่ "ณัฐวุฒิ" ระบุว่า ภูมิทัศน์ทางการเมือง วันนี้ มันเปลี่ยน เหมือนสิ่งที่ผมอธิบายว่าเป็นการเมืองแบบสามก๊ก ที่เป็นการอธิบายรูปการณ์ของมวลชน"

การเมือง “สามก๊ก” ฉบับ “สุภาพบุรุษไพร่” ก๊กหนึ่ง เป็นของพรรคเพื่อไทย ก๊กหนึ่งเป็นพลังของพรรคประชาชน และอีกก๊ก เรียกว่าพลังฝ่ายอนุรักษนิยม ที่ยังไม่ปรากฎพรรคการเมืองใดเป็นตัวแทนอย่างชัดเจน ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ตัวแทนพลังของฝ่ายอนุรักษนิยม

“พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่พยายามจะปฏิรูปประเทศตามแนวทางของตัวเอง ฝ่ายอนุรักษนิยมก็มีวิถีของเขา และเห็นอยู่ว่าเขาก็ปฏิเสธการนำของพรรคเพื่อไทย อย่างชัดเจนเปิดเผยในรูปการณ์การเคลื่อนไหวมวลชน”

“ผลสำรวจสำนักโพล คะแนนนิยมทางการเมืองของประชาชน มักจะมีชื่อคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ติดโผอยู่เสมอ ผมว่าก้อนนั้น คือก้อนของก๊กอนุรักษนิยม แม้ว่าไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เลือก แต่เขาก็ถือว่าพรรคการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ สังกัด ณ เวลานั้น คือตัวแทนพวกเขา แต่พอถึงการเลือกตั้งรอบหน้า เราก็ไม่แน่ใจว่า จะเกิดพรรคการเมืองไหน ชักธงนี้ขึ้นมา เพราะว่าพรรคการเมืองอื่นๆ เขาก็มองเห็นโอกาสและพื้นที่ว่างตรงนี้เช่นเดียวกัน”

“สามก๊กแบบนี้ ปฏิสัมพันธ์ก็มีทั้งเผชิญหน้าและประสานประโยชน์ ประสานพลังกัน บางเรื่อง ก๊กหนึ่งเคลื่อนไหวเผชิญหน้ากับอีกก๊ก กลายเป็นโอกาสของก๊กที่เหลือ บางเรื่อง ก๊กหนึ่ง ขยับตัว อีกก๊กหนึ่งเขาไปสมทบด้วยเพราะเห็นประโยชน์ทางการเมืองร่วมกันในวาระนั้นๆ และมันจะเข้าสู่สภาพเช่นนี้ไปถึงการเลือกตั้งรอบต่อไป”

ไม่ฟันธง “เพื่อไทย” 200 เสียง
“ณัฐวุฒิ” ถอดรหัสตัวเลข 200 เสียงของ “พรรคเพื่อไทย” ว่า การเลือกตั้งใหญ่ในปี 2570 ผลเลือกตั้งครั้งหน้าจะเกิดรัฐบาลที่นำโดยก๊กหนึ่งต้องจับมืออีกก๊กหนึ่ง ส่วนอีกก๊กจะเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีก๊กใดเป็นรัฐบาลเด็ดขาดเพียงลำพัง ภายใต้เงื่อนไขบริบททางการเมือง ณ ปัจจุบัน

“ผมก็ว่าวันนี้ก๊กพรรคเพื่อไทยกับก๊กอนุรักษนิยม เขาตอบง่ายอย่างน้อยจะตอบว่า ต้องรอฟังเสียงประชาชนก่อน และคงจะเริ่มนับหนึ่งจากพรรคที่ร่วมรัฐบาลกันอยู่ เขาจำเป็นต้องตอบแบบนี้ เพราะถ้าไปตอบแบบอื่น รัฐบาลแตกครับ”

คำว่า “อำมาตย์” กับ “ประชาธิปไตย” เวลานี้ยังคงมีอยู่ในแง่ของขบวนการ ซึ่ง “ณัฐวุฒิ” ยังเชื่อว่า อำนาจอิทธิพลที่ส่งผลกระทบทางการเมือง มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วน “การเมืองสามก๊ก” จะสามารถนิยามเป็นเฉดสีทางการเมือง “แดง-ส้ม-น้ำเงิน” ได้หรือไม่ “ณัฐวุฒิ” บอกว่าแล้วแต่คนจะอธิบาย

“พรรคภูมิใจไทย” สามารถขึ้นมาชิงการนำในก๊กอนุรักษนิยมนี้ได้หรือยัง “ณัฐวุฒิ” ระบุว่า “ผมยังเห็นไม่ชัด ผมว่าหลายๆ พรรคก็คงพยายามจะแสดงตรงนั้นอยู่ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีสิทธิคิด เพราะนั่นคือที่เดิมของเขา นั่นคือบทบาทเดิมของเขาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค เขายืนอยู่ตรงนั้น ถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีสิทธิคิดไหม ก็มี เพราะวันนี้อย่าลืมเขาคือพรรคการเมืองที่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากที่สุดในฝั่งอนุรักษนิยมเดิม”

“ภูมิใจไทยมีสิทธิคิด เพราะภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าเดินไปเรื่อยๆ จะยิ่งชัด ว่ามันเป็นลักษณะสามก๊ก รูปการณ์ทางมวลชนที่ผมพูด”

อดีตแกนนำคนเสื้อแดงผู้นี้ผ่านการต่อสู้นอกสภาฯ เคยติดคุก ผ่านการเป็นเสนาบดี ผ่านนาทีเห็นการรัฐประหารโดยตรง “ณัฐวุฒิ” ขอเก็บความทรงจำระหว่างการต่อสู้ในอดีต

“ขึ้นชื่อมิตรภาพ กับเพื่อนมิตร กับพี่น้อง ผมไม่เคยขัดแย้ง ไปราวีกับใคร ถ้าคนเคยร่วมสู้ ร่วมเป็นร่วมตายกันมา แล้ววันหนึ่งจะเห็นไม่ตรงกัน ผมคิดว่าเราเลือกจะเก็บวันเวลา ที่ได้เคยเคียงข้างกัน เคยต่อสู้ด้วยกันเอาไว้ ดีกว่าจะทำให้เกิด วันเวลาใหม่ที่เผชิญหน้าหรือฟาดฟันกัน”

“ณัฐวุฒิ” พูดถึงเพื่อนร่วมรบมิตรเคยรักบนถนนการต่อสู้ของม็อบเสื้อแดงว่า “ผมเชื่อว่ามิตรภาพไม่มีเส้นแบ่งเรื่องพรรคการเมือง เรื่องฝ่ายหรือเรื่องสีเสื้อ”

"เยี่ยมใต้" ขายข้าวไม่ขายเพื่อน
"ณัฐวุฒิ" ใช้เวลาช่วงยุติบทบาทการเมืองก่อนหน้านี้ เปิดร้านอาหารเยี่ยมใต้ ที่ จ.นนทบุรี และขณะนี้มี 2 สาขา (สาขาปากเกร็ด จ.นนทบุรี และสาขา เดอะคริสตัลชัยพฤกษ์) กำลังหาพื้นที่ทำสาขาที่ 3 ซึ่งเขาบอกว่า อยากได้ทำเลในใจกลางเมืองหลวง ทั้งซอยอารีย์ ย่านทองหล่อ หรือสาทร แต่จนถึงนาทีนี้ก็ยังคงใช้ความพยายามในการหาทำเลแห่งใหม่อยู่

ถามว่า ร้านร้านเยี่ยมใต้ไม่ปิดกั้นขั้วการเมืองใช่หรือไม่ "ณัฐวุฒิ" ตอบว่า "ไม่เคยอยู่แล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน ถ้าใครติดตามร้านเยี่ยมใต้ก็จะพบว่ามีบุคคลการเมืองจากทุกขั้วทุกสายทุกพรรค เป็นลูกค้า แล้วผมก็ต้อนรับทุกคนด้วยอัธยาศัยไมตรี เพราะว่า ผมทำหน้าที่ให้บริการ แล้วลูกค้าที่ร้านเป็นหน้าที่ ที่ผมต้องให้เกียรติเขา ผมเดินเข้าร้าน ผมไหว้ลูกค้าทุกโต๊ะ ไม่ว่าจะมาในสถานะใด ถ้าคนเยอะก็จะเก็บจานเอง เช็ดโต๊ะเอง เก็บแก้วเอง นี่เป็นเรื่องปกติ"

"ถ้าหากเป็นคนการเมืองไม่ว่าจะขั้วไหน พรรคไหนมา ผมก็นั่งพูดคุยกับเขาได้ เคยมีกรณีที่พูดกันไปมา คนที่มาด้วยกันเริ่มกะพริบตาถี่ๆ ใส่คนที่กำลังพูด แปลความภาษากายว่าอย่าพูดเยอะ ไอ้เต้นนั่งอยู่ คนละพวกกันทำนองนี้ ผมก็เลยบอกว่า นี่ท่าน สส.อย่ากังวล ที่นี่ ท่านจะพูดอะไรกัน ปรึกษากันพูดเลย"

"ผมบอกว่า ผมขายข้าวไม่เคยขายเพื่อน เพราะฉะนั้น ท่านพูดอะไรไปไม่มีทางออกจากปากผม ไม่มีทางออกไปจากร้านนี้ เพราะว่าเป็นหน้าที่ที่ผมต้องดูแลลูกค้าของผม" นี่คือสัจจะของสุภาพบุรุษไพร่

#กะบาล #ข่าว

เบลล่า บริจาค 1 ล้าน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ บุ๋ม ปนัดดา ลงพื้นที่เองดูความเสียหายกับตา ขอบคุณนางเอกไม่ทอดทิ้ง...
09/12/2024

เบลล่า บริจาค 1 ล้าน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ บุ๋ม ปนัดดา ลงพื้นที่เองดูความเสียหายกับตา ขอบคุณนางเอกไม่ทอดทิ้งประชาชน

เป็นนางเอกคนสวยใจบุญ เบลล่า ราณี แคมเปน ที่ชอบทำบุญช่วยเหลือผู้อื่นเป็นประจำ ล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้โพสต์ข้อความว่า เบลล่า ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท ผ่านมูลนิธิองค์กรทำดี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

โดย บุ๋ม ได้โพสต์ขอบคุณ เบลล่า แทนพี่น้องชาวใต้ในครั้งนี้ว่า “และก็เป็นอีกครั้งที่น้องเบลล่า ราณี ได้บริจาคผ่านมูลนิธิองค์กรทำดี จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวใต้ โดยน้องแจ้งว่า อยากให้พี่บุ๋มส่งมอบให้โรงพยาบาลหนองจิก จ.ปัตตานี 500,000 บาท เพราะเห็นใจโรงพยาบาลและคนในพื้นที่ น้องทั้งสวย น่ารัก มีเมตตา ถึงได้ครองตำแหน่งขวัญใจคนไทยมาตลอด เพราะคุณงามความดีของน้อง ขอบคุณแทนชาวบ้านนะคะ ตอนนี้พี่บุ๋มมาถึงปัตตานีเรียบร้อยแล้ว”

ทั้งนี้ บุ๋ม ปนัดดา ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ด้วยตัวเอง เพื่อนำเงินไปมอบให้กับ โรงพยาบาลหนองจิก พร้อมเขียนข้อความว่า “ขอขอบคุณ ‘น้องเบลล่า’ ที่บริจาคผ่านมูลนิธิองค์กรทำดี หนึ่งล้านบาท โดยแจ้งความจำนงไว้ว่าอยากร่วมช่วยเหลือโรงพยาบาลหนองจิก จังหวัดปัตตานี 500,000 บาท และนี่คือเหตุผลที่บุ๋มจะต้องเดินทางมาดูด้วยตาตัวเองว่าโรงพยาบาลเสียหายมากน้อยแค่ไหน? และจากจุดเริ่มต้นของน้องเบลล่า เราจะช่วยกันระดมทุนกันต่อไปอีก เพราะเท่าที่เห็นกับตา โรงพยาบาลเสียหายเยอะมาก ขอบคุณน้องเบลล่าที่ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ขอให้หนูมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่รักของประชาชนตลอดไป”

#กะบาล #ข่าว

เมืองจันท์ พร้อมแล้ว! จัดศึกกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 วันที่ 9-20 ธ.ค.นี้นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ...
09/12/2024

เมืองจันท์ พร้อมแล้ว! จัดศึกกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 วันที่ 9-20 ธ.ค.นี้

นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์ ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กกท., คณะผู้บริหารจังหวัดจันทบุรี ร่วมด้วยที่ห้องประชุม แกรนด์ บอลรูม โรงแรมมณีจันท์ รีสอร์ท จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม

นายปรีชา ลาลุน กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2567 โดยมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน 19,646 คน แบ่งเป็น นักกีฬาชาย จำนวน 8,604 คน นักกีฬาหญิง จำนวน 6,897 คน และเจ้าหน้าที่ จำนวน 4,145 คน ชิงเหรียญรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 765 เหรียญ ใน 54 ชนิดกีฬา และ 5 กีฬาสาธิต ได้แก่

1.กรีฑา 2.ว่ายน้ำ 3.กอล์ฟ 4.กาบัดดี้ 5.กีฬาทางอากาศ 6.กระดานยืนพาย 7.คาราเต้ 8.คริกเก็ต 9.คูราช 10.จักรยาน 11.จานร่อน 12.เจ็ตสกี 13.ชักกะเย่อ 14.ซอฟท์บอล 15.ตะกร้อ 16.เทคบอล 17.เทควันโด 18. เทนนิส 19.เทเบิลเทนนิส 20.เนตบอล 21.บริดจ์ 22.บาสเก็ตบอล 23.บิลเลียด 24.แบดมินตัน 25.เปตอง 26.ปันจักสีลัต 27.เพาะกาย 28.ฟันดาบ 29.ฟุตบอล 30.มวยปล้ำ

31.มวยสากลสมัครเล่น 32.ยกน้ำหนัก 33. ยิงธนู 34.ยิงปืน 35.ยิมนาสติก 36.ยูยิตสู 37.ยูโด 38.เรือพาย 39.โรลเลอร์สกี 40.รักบี้ฟุตบอล 41.เรือใบ 42.ลอนโบวล์ส 43.ลีลาศ 44.วอลเลย์บอล 45.วู้ดบอล 46.วูซู 47.หมากล้อม 48.หมากรุกสากล 49.อีสปอร์ต 50.เอ็กซ์ตรีม 51.ฮอกกี้ 52.แฮนด์บอล 53.มวยไทยสมัครเล่น 54.หมากรุกไทย, กีฬาสาธิต ได้แก่ 1.เกทบอล 2.คอร์ฟบอล 3.เชียร์ 4.ดำน้ำฟินสวิมมิ่ง 5.โววีนัม

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรี พร้อมแล้วในการต้อนรับคณะนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ จาก 77 จังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน “จันท์เกมส์” โดยที่พักนักกีฬา ได้มีการจัดสถานที่พักตามชนิดกีฬาและใกล้สนามแข่งขันมากที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ในส่วนของการขนส่งภายในจังหวัด ได้จัดวางระบบการขนส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ โดยจัดรถรับส่ง จากที่พักถึงสนามแข่งขันฯ โดยสามารถจองรถรับส่งล่วงหน้าได้ 1 วัน ผ่าน 3 ช่องทาง โดยจองผ่านระบบ QR Cord, ผ่านเว็บไซต์ “จันท์เกมส์” และ จองผ่านทาง LINE (กรณีฉุกเฉิน)

นอกจากนี้ จังหวัดจันทบุรี ยังได้จัดเตรียมด้านการแพทย์และอนามัย ไว้ดูแลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ตลอดการแข่งขัน กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรสายด่วนได้ที่ 1669 และในส่วนของการรักษาความปลอดภัย จังหวัดจันทบุรีก็ได้มีการวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านการจราจร ให้แก่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ รวมถึงประจำที่พักนักกีฬา ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” จัดขึ้นในวันจันท์ที่ 9 ธันวาคมนี้ เวลา 18.00-20.00 น. ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด และมีการแสดง 4 ชุด ประกอบด้วย การแสดงชุดที่ 1 Soft Power of Chan, การแสดงซุดที่ 2 Power Together in Harmony for Chanthaburi, การแสดงชุดที่ 3 The Rabbit Hero และ การแสดงซุตที่ 4 Celebration of the Glory และมี อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนก์ 2022 ร่วมแสดง

ทั้งนี้ สามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ ได้ตลอดทุกวันจนจบการแข่งขัน ผ่านทางทีวีดิจิทัลช่อง T Sports 7 และสื่อออนไลน์ผ่านทาง Facebook Fanpage T Sports 7, Youtube T Sports 7 และ Application T Sports 7

#กะบาล #ข่าว

สนาม อบจ.อุบลราชธานี ต่างจาก อบจ.อุดรฯ เป็นมากกว่าศึกแดง-ส้ม เพราะค่ายแป้งมันลงสนาม มีสภาพไม่ต่างสงครามบ้านใหญ่ โค้งสุดท...
09/12/2024

สนาม อบจ.อุบลราชธานี ต่างจาก อบจ.อุดรฯ เป็นมากกว่าศึกแดง-ส้ม เพราะค่ายแป้งมันลงสนาม มีสภาพไม่ต่างสงครามบ้านใหญ่

โค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี กำลังเข้มข้น เมื่อทัพหลวงของพรรคประชาชน เตรียมลงพื้นที่ เช่นเดียวกับทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ภายในอาคารศูนย์ประชุม ม.อุบลราชธานี

ทุกสภากาแฟเมืองพระวอพระตา ต่างพูดถึงผู้สมัครอยู่ 2 เบอร์คือ เบอร์ 1 “กานต์ กัลป์ตินันท์” สวมเสื้อพรรคเพื่อไทย และ เบอร์ 3 “จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล” ลงในนามผู้สมัครอิสระ

นี่คือสงครามตัวแทนระหว่าง “เกรียง กัลป์ตินันท์” กับค่ายแป้งมันอุบลฯ นำทัพโดย “เสี่ยบู๊” สมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล สามีของ “มาดามกบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล

ค่ายสีน้ำเงินไม่เกี่ยว
อย่างที่กล่าวมาข้างต้น มันเป็นสงครามตัวแทนของขั้วเกรียง-ขั้วแป้งมันอุบลฯ โดยทั้งสองขั้วต่างก็มีกองหนุนมาจาก “บ้านใหญ่” จากหลายตระกูลการเมือง

หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า สมรภูมินายก อบจ.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย กับ “มาดามกบ” ที่มีพรรคภูมิใจไทย สนับสนุน ก็ต้องบอกว่า ศึกนี้ ค่ายสีน้ำเงินไม่เกี่ยว

เมื่อส่องกล้องมองลึกลงไปในสนามท้องถิ่นก็พบว่า การที่ สส.ต่างพรรคช่วยกานต์และมาดามกบ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค

อย่างพ่อใหญ่เมืองพิบูลมังสาหาร อิสสระ สมชัย และลูกสาว แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลฯ พรรคภูมิใจไทย เปิดหน้าหาเสียงช่วย กานต์ กัลป์ตินันท์ เต็มตัว

เนื่องจากอิสสระ มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเกรียง กัลป์ตินันท์ มายาวนาน และเมื่อการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ ปี 2563 อิสสระก็ช่วยเสี่ยกานต์

ขณะที่ 2 สส.อุบลฯ พรรคภูมิใจไทยคือ สุทธิชัย จรูญเนตร ลูกเขยอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ บ้านใหญ่ตระการพืชผล และตวงทิพย์ จินตะเวช ลูกสาวตุ่น จินตะเวช บ้านใหญ่เดชอุดม ก็หนุนตระกูลหวังศุภกิจโกศลสุดตัว

สรุปว่า สส.อุบลฯ ค่ายสีน้ำเงิน 3 คน แยกเป็น 1 คนหนุนเสี่ยกานต์ และอีก 2 คน หนุนมาดามกบ

ขุมกำลังรบกัลป์ตินันท์
“เสี่ยเบี้ยว” เกรียง กัลป์ตินันท์ ในฐานะพี่ชายของกานต์ และแกนนำเพื่อไทยอุบลฯ ต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรีบารมีตัวเอง จึงระดม สส.อุบลฯ จากเพื่อไทย 4 คน ภูมิใจไทย 1 คน และประชาธิปัตย์ 1 คน พร้อมกับอดีต สส.สายสีแดง มาช่วยสานฝันดันน้องชายเข้าป้าย

ขุมกำลังรบของเสี่ยกานต์ แยกตามรายเขตเลือกตั้งทั้ง 11 เขตได้ดังนี้

เขตเลือกตั้งที่ 1 (อ.เมืองอุบลฯ) “เสี่ยบอมบ์” วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลฯ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเสี่ยเกรียง

เขตเลือกตั้งที่ 2 (อ.เขื่องใน) วุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลฯ พรรค ปชป. และวิฑูรย์ นามบุตร อดีต สส.อุบลฯ

เขตเลือกตั้งที่ 3 (อ.ม่วงสามสิบ) ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลฯ

เขตเลือกตั้งที่ 4 (อ.วารินชำราบ) “เปิ้ล” กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลฯ ผู้แทนสาวฐานเสียงแน่น

เขตเลือกตั้งที่ 5 (อ.ตระการพืชผล) รัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ อดีต สส.อุบลฯ 2 สมัย

เขตเลือกตั้งที่ 6 (อ.เขมราฐ) ธัญธารีย์ สันตพันธุ์ สส.อุบลฯ ลูกหลานบ้านใหญ่ ส.เขมราฐ

เขตเลือกตั้งที่ 7 (อ.ศรีเมืองใหม่) สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบล ทายาทเสี่ยกุ่ย

เขตเลือกตั้งที่ 8 (อ.พิบูลมังสาหาร) แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลฯ พรรคภูมิใจไทย และอิสสระ สมชัย อดีต สส.อุบลฯ

เขตเลือกตั้งที่ 9 (อ.บุณฑริก) ประภูศักดิ์ จินตะเวช อดีต สส.อุบลฯ

เขตเลือกตั้งที่ 10 (อ.น้ำยืน) สมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลฯ 3 สมัย

เขตเลือกตั้งที่ 11 (อ.เดชอุดม) เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ อดีต สส.อุบลฯ

ขุมกำลังรบแป้งมัน
ก่อนเปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “มาดามกบ” ได้เจรจากับบ้านใหญ่ขั้วตรงข้ามเกรียงทุกซุ้ม ทั้งโภคกุลกานนท์, ฟองงาม, จินตะเวช, นิลเปรม,ศรีธัญรัตน์, ตันติวณิชชานนท์ และโควสุรัตน์ เพื่อเป็นพันธมิตรในการสู้ศึกครั้งนี้

ขุมกำลังรบมาดามกบ มี สส.อุบลฯ 5 คน แยกเป็นพรรคไทรวมพลัง 2 คน พรรคภูมิใจไทย 2 คน และพรรคไทยสร้างไทย 1 คน

โดยประจำการตามเขตเลือกตั้งดังนี้

เขตเลือกตั้งที่ 1 (อ.เมือง) อดุลย์ นิลเปรม อดีตผู้สมัคร สส.อุบลฯ พรรคไทยสร้างไทย และเต็มบุญ ศรีธัญรัตน์ อดีตผู้สมัคร สส.อุบลฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ

เขตเลือกตั้งที่ 2 (อ.เขื่องใน) ณรงค์ชัย วีระกุล อดีตผู้สมัคร สส.อุบลฯพรรคเพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 3 (อ.ม่วงสามสิบ) พิมพกาญจน์ พลสมัคร สส.อุบลฯ พรรคไทรวมพลัง

เขตเลือกตั้งที่ 4 (อ.วารินชำราบ) สุพล ฟองงาม อดีต สส.อุบลฯ และอดีต รมช.มหาดไทย ปัจจุบัน สังกัดพรรคภูมิใจไทย

เขตเลือกตั้งที่ 5 (อ.ตระการพืชผล) สุทธิชัย จรูญเนตร สส.อุบลฯ พรรคภูมิใจไทย

เขตเลือกตั้งที่ 6 (อ.เขมราฐ) เครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่น สังกัดบ้านใหญ่ ส.เขมราฐ

เขตเลือกตั้งที่ 7 (อ.ศรีเมืองใหม่) “ตี๋เล็ก” เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ลูกชาย อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต สส.อุบลฯ 8 สมัย ซึ่งสมัยที่แล้ว ตี๋เล็กลงชิงนายก อบจ. พ่ายเสี่ยกานต์แบบได้ลุ้น

เขตเลือกตั้งที่ 8 (อ.พิบูลมังสาหาร) เครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่น พรรคไทรวมพลัง

เขตเลือกตั้งที่ 9 (อ.บุณฑริก) รำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลฯ พรรคไทยสร้างไทย

เขตเลือกตั้งที่ 10 (อ.น้ำยืน) สมศักดิ์ บุญประชม สส.อุบลฯ พรรคไทรวมพลัง

เขตเลือกตั้งที่ 11 (อ.เดชอุดม) ตวงทิพย์ จินตะเวช สส.อุบลฯ พรรคภูมิใจไทย และเป็นทายาทบ้านใหญ่ตระกูลจินตะเวช

ศึกนายก อบจ.อุบลฯส่งท้ายปีนี้ กูรูการเมืองฟันธงว่า ปัจจัยชี้ขาดชัยชนะในโค้งสุดท้ายคือ “กระสุน” ไม่ใช่ “กระแส” ไม่ว่าจะเป็นกระแสทักษิณ หรือกระแสสีส้ม

#กะบาล #ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งบุกตรวจค้นจับกุมผับดังพัทยา แบบไม่ทันตั้งตัว เจอนักเที่ยวฉี่สีม่วงเกินครึ่งร้อย ยาเสพติดเก...
08/12/2024

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งบุกตรวจค้นจับกุมผับดังพัทยา แบบไม่ทันตั้งตัว เจอนักเที่ยวฉี่สีม่วงเกินครึ่งร้อย ยาเสพติดเกลื่อนพื้น หัวหน้าชุดจับ เตรียมเสนอผู้ว่าฯ สั่งปิดตามขั้นตอน

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2567 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งการให้ ว่าที่ร้อยตรี ชลธิศ เลยานนท์ ปลัดป้องกันจังหวัดชลบุรี, จ่าเอกพิทยา ก่อแก้ว ปลัดอำเภอบางละมุง รักษาการตำแหน่งนายอำเภอบางละมุง, พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังทั้งเจ้าหน้าที่กรมการปกครองชลบุรี และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย บุกเข้าทำการตรวจสอบ ร้าน อิเลฟเว่น ผับ พัทยา (11 ELEVEN PUB PATTAYA) ตั้งอยู่ริมถนนพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สืบเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าเป็นแหล่งมั่วสุม และมีการใช้สารเสพติด

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการเข้าตรวจสอบ พบนักท่องเที่ยวประมาณ 200 คน กำลังเต้นตามจังหวะดนตรี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันอย่างสนุกสนาน จึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทั้งหมด ปิดเพลงเปิดไฟ ก่อนจะจัดระเบียบนักเที่ยว รวมทั้งพนักงานของร้าน มายืนกองรวมกันแบบไม่ทันได้ตั้งตัว และมีการแยกผู้ชายและผู้หญิงเพื่อตรวจบัตรประจำตัวประชาชน เบื้องต้นไม่พบกลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ แต่จากการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายของนักท่องเที่ยว พบว่ามีปัสสาวะสีม่วงทั้งหมด 54 ราย เป็นผู้ชาย 40 ราย ผู้หญิง 14 ราย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมการปกครองและตำรวจ ได้ทำการปูพรมตรวจค้นภายในร้าน พบว่ามีวัตถุคล้ายยาเสพติด (ยาเค) บรรจุอยู่ในซองใสแบบปิดซิป ถูกทิ้งตกอยู่ด้านหลังโซฟา และตามถังขยะใต้โต๊ะ และซองใสแบบซิปมีคราบสีขาวตกอยู่อีกเป็นจำนวนหนึ่ง จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังบุกเข้าไปจับกุมภายในห้องวีไอพีของร้านมีกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายผู้หญิง กำลังมั่วสุม ดื่มเหล้า ร้องเพลงตามจังหวะดนตรี เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไป พบยาเสพติดชนิดเม็ด เป็นยาอี 4 เม็ด และวัตถุคล้ายยาเสพติดประเภทยาเคตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นควบคุมตัวนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วงจำนวน 54 ราย ส่งตรวจคัดแยกสารในร่างกาย หากพบว่ามีสารเสพติดก็จะต้องส่งไปบำบัดตามขั้นตอน อีกทั้งมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่รับเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแลของผับดังกล่าว ฐานความผิด เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด, ปล่อยปละละเลยให้มียาเสพติดในสถานบริการ จากนั้นส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้หัวหน้าชุดจับกุม เตรียมทำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อสั่งปิดสถานบริการดังกล่าวต่อไป

#กะบาล #ข่าว

"ป.เอกรุ่นเจ้าสัว 12 " เชิญคุณกร ทัพพะรังสี บรรยายหัวข้อ '50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน' เน้นย้ำความสำคัญทางการทูตและมิตรภาพที่ย...
08/12/2024

"ป.เอกรุ่นเจ้าสัว 12 " เชิญคุณกร ทัพพะรังสี บรรยายหัวข้อ '50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน' เน้นย้ำความสำคัญทางการทูตและมิตรภาพที่ยั่งยืน

วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ อาคารสปอร์ต คอมเพล็กซ์ ชั้น 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยนักศึกษาปริญญาเอก รุ่นเจ้าสัว 12 ในวาระครบรอบ 50 ปี สัมพันธ์ทางการทูต พ.ศ. 2568" โดยได้รับเกียรติจาก ท่านกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากร โดยมี รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ

การบรรยายครั้งนี้จะมุ่งเน้นถึงพัฒนาการและบทเรียนสำคัญตลอด 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน พร้อมเจาะลึกถึงบทบาทของทั้งสองประเทศในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะบทบาทสำคัญของประเทศไทยในฐานะประตูสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนทางด้านบทบาทของการศึกษาในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน ท่านได้ให้มุมมองในฐานะนักการเมืองเกี่ยวกับนโยบายที่สนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาที่มั่นคง นอกจากนี้ การบรรยายยังได้สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้าร่วมงานให้มองเห็นถึงความสำคัญของมิตรภาพระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนชัดเจนยิ่งขึ้น และแนวทางความร่วมมือในอนาคตที่มีศักยภาพสูงสำหรับประชาคมโลก "50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน" นับเป็นโอกาสสำคัญในการเฉลิมฉลองมิตรภาพอันยั่งยืนระหว่างไทยและจีน พร้อมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ก้าวสู่ยุคใหม่ที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

สำหรับนักศึกษาปริญญาเอกรุ่นเจ้าสัว 12 ประกอบด้วยนักธุรกิจ นักการเมือง นักการศึกษา และอีกหลากหลายอาชีพ ที่ได้ร่วมเรียนด้วยกัน อาทิ คุณเยาวเรศ ชินวัตร ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพัฒนาวิชาชีพสตรี เป็นต้นโดยเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป นักวิชาการ และนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

#กะบาล #ข่าว

วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เปิดรับสมัครผู้เข้ารับการอบรม วปอ.บอ. รุ่นที่ 2 #วปอ.บอรุ่น2
06/12/2024

วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
เปิดรับสมัครผู้เข้ารับการอบรม วปอ.บอ. รุ่นที่ 2
#วปอ.บอรุ่น2

วิทยาลัยป้องกันรอาณาจักร เปิดรับสมัคร ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห...

หนุ่ม กรรชัย เดือด! ถามกลับ ทนายฟิล์ม รัฐภูมิ ผมไม่เสียหายตรงไหน? ลั่นไม่อโหสิ-ให้อภัยหลังจากที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ห...
06/12/2024

หนุ่ม กรรชัย เดือด! ถามกลับ ทนายฟิล์ม รัฐภูมิ ผมไม่เสียหายตรงไหน? ลั่นไม่อโหสิ-ให้อภัย

หลังจากที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ศิลปินดัง พร้อม นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.สถาปน์ ปัญญาพยัคฆ์ รอง ผกก.2 บก.ป.เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท จากกรณีคลิปเสียงร่วมกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เรียกรับเงินจากบอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาทพิธีกรรายการทีวีดัง “หนุ่ม กรรชัย”

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม หนุ่ม กรรชัย กล่าวตอนหนึ่งในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ หลังจากที่ทนายประมาณให้สัมภาษณ์นั้น ว่า “ใครเป็นน้องผมครับอาจารย์ ฟิล์ม รัฐภูมิ ไม่ใช่น้องผม เป็นแค่คนรู้จัก และไม่ได้คุ้นเคย ไม่ได้สนิท อาจารย์จะมาขี้ตู่ พูดแบบนี้กับผมไม่ได้นะ ผมเคารพนับถืออาจารย์ แต่เวลาไปพูดกับสื่อ สื่ออาจจะเข้าใจผิด ว่ากรรชัย สนิทกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ”

“ไม่มีความคุ้นเคยกันด้วย ถ้าจะคุ้นเคย อย่าง นาย ณภัทร บิวกิ้น โอ๊ต ปราโมทย์ วิน เมธวิน เนี่ยคนคุ้นเคยผม ฟิล์ม รัฐภูมิ เคยคุ้นเคยกับผมตอนไหน เคยเล่นละครด้วยกัน และก็แยกย้ายกันไป ต่างคนต่างทำมาหากิน ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน วันดีคืนดีติดต่อผมมา ติดต่อบอสพอลมา หรือพี่มีผู้เสียหายมาแบบนี้พี่จะทำไม ก็คุยได้ เรียกคุ้นเคยตรงไหน?”

“ผมไม่ได้เป็นคนใจกว้างขนาดที่จะต้องมาอโหสิ ให้อภัย ผมไม่ใช่พระ และที่สำคัญที่บอกว่า ผมไม่เสียหายตรงไหน ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท งั้นผมยืมชื่ออาจารย์แล้วบอกว่า ‘ผมติดต่ออาจารย์ไว้แล้ว อาจารย์เรียก 20 ล้านบาทเดี๋ยวเขาทำคดีให้’ ทั้งที่ อาจารย์ไม่รู้เรื่องเลย อาจารย์รับได้หรือไม่? ผมจะไม่เสียตรงไหน ผมคิดไม่ออกเลย ด้วยความเคารพอาจารย์นะ แต่ต้องฟังผมบ้าง แต่ผมว่ามันไม่เหมาะที่พูดถึงผม โดยที่ไม่ฟังผมเลย”

“จะให้ผมไม่โกรธได้ยังไง เอาชื่อผมไปอ้างว่า กรรชัยเรียกรับ 20 ล้าน แลกกับการไปออกโหนกระแส แล้วเดี๋ยวจะหาทางลงให้ มันชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไง คำพูดนั้นยังชัดเจน และก้องในหูผมตลอดเวลา ถ้าวันนั้นผมไม่ได้เอาคลิปนี้ไปเปิด ถ้าปล่อยให้คลิปนี้ถูกตัด ถูกซอย แล้วคู่กรณีผมบางคนเอาไปเปิดแล้วย้อนว่า กรรชัยร่วมด้วย ผมจะเป็นอย่างไร หรือต้องรอให้ถึงตรงนั้นก่อน ถึงจะเรียกว่าผมเป็น “ผู้เสียหาย” มันไม่ถูกต้องการเอาชื่อคนไปแอบอ้าง แล้วผมไม่เสียหายตรงไหน ลูกสาวผมยังรู้เลย”

#กะบาล #ข่าว

น้อมรำลึกในหลวง ร.9 นายกฯนำคณะรัฐมนตรี ถวายพานพุ่มสักการะ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ประชาชนพร้อมใจใส่เสื้อเหลืองเดินทางเข้...
05/12/2024

น้อมรำลึกในหลวง ร.9 นายกฯนำคณะรัฐมนตรี ถวายพานพุ่มสักการะ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ประชาชนพร้อมใจใส่เสื้อเหลืองเดินทางเข้าร่วม

วันที่ 5 ธ.ค. 67 ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิตน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2567 โดยมีคณะรัฐมนตรีและคู่สมรสเข้าร่วม

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน พรรคการเมือง และองค์กรต่างๆ เช่น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร , สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา องค์กรอิสระ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ เป็นต้น

เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสมาถึง ได้เข้าประจำที่ด้านหน้าอนุสาวรีย์ฯ จากนั้นถวายความเคารพและวางพานพุ่มดอกไม้จำนวน 2 พาน ในนามนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ขณะที่คู่สมรสนายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ ในนามคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกันทั้งคณะ และเดินทางกลับ

โดยบรรยากาศเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ร.9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ในวันนี้มีพสกนิกรพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ ร.9 ซึ่งสำนักพระราชวังดำเนินการจัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะเป็นประจำทุกปี มีประชาชน พร้อมใจกันเดินทางมายังอุทยานเฉลิมพระเกียรติร.9 อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางมาตลอดทั้งวัน โดยมีจุดรับส่งประชาชนตั้งแต่บริเวณทางเข้า มายังบริเวณกองอำนวยการ และ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9

ในส่วนของการอำนวยความสะดวก มีจุดบริการดอกไม้พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีการจัดเต็นท์ปฐมพยาบาล บริการน้ำดื่ม จุดบริการห้องน้ำ ให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาพระราชทาน คอยให้คำแนะนำและดูแลรักษาความสะอาดภายในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเปิดพื้นที่ไปจนถึงเวลา 12.00 น.

จากนั้นจะปิดพื้นที่เพื่อเตรียมรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตมายังอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ในเวลา 17.00 น. และจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายราชสักการอีกครั้ง

นอกจากนั้นในเวลา 18.00 น. จะมีการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “ในดวงใจนิรันดร์” วันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. 2567 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้วย

#กะบาล #ข่าว

ที่อยู่

14/66
Nonthaburi
11130

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Ka-Ban newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์