เปิดทำการกี่โมง?

จันทร์ 09:00 - 21:00 อังคาร 09:00 - 20:00 พุธ 09:00 - 20:00 พฤหัสบดี 09:00 - 20:00 ศุกร์ 09:00 - 21:00

Jenosize Digital Group

Digital Opportunity Creator. We create opportunity and inspiration through digital and creativity. JENOSIZE is digital innovation company. Envision the Future
2.
(1)

We create positive impact through digital innovation - the integration of technology, design, marketing and business. Clients come to us with a variety of challenges
1. Outstanding in the Market
3. Design the Beyond Expectation Experience

13/12/2024

✨ Jenosize ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญ “Thailand Fashion Soft Power” ร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรม, DIPROM, สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA), สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และ EmSphere

🎉 ขอเชิญร่วมงาน “ShowPow” อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นจาก 100 แบรนด์ไทย พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย!

✨ ไฮไลต์ในงาน
👗 Fashion Showcase – สินค้าหมวดแฟชั่น เครื่องประดับ ความงาม และงานฝีมือ
🗣️ Fashion Talks จากผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่น เช่น Trimode Studio และ Termtem Studio
🎶 การแสดงสุดพิเศษ จากศิลปินและดีเจชื่อดัง เช่น Rasmee Isan Soul
📈 💥 Live Commerce Revolution – ก้าวข้ามขีดจำกัดของการค้าปลีก! งานนี้เรารวบรวม KOL ชั้นนำกว่า 200 คน มาร่วมไลฟ์โปรโมตสินค้าแฟชั่นไทย เสริมพลัง Soft Power ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อขยายตลาดแฟชั่นไทยไปสู่สายตาชาวโลก มิติใหม่ของการค้าปลีกและแฟชั่นที่คุณต้องห้ามพลาด! 🚀

📅 19–23 ธันวาคม 2567
📍 The EmSphere | EM Glass ชั้น G

มาร่วมสร้างพลังให้แฟชั่นไทยและขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ของประเทศให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก เจอกันที่งานครับ

22/11/2024

รู้หรือไม่ ? ปัจจุบันโลกของเรามี AI ดมกลิ่นได้แล้ว ! ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Osmo โดยแรกเริ่มเดิมที บริษัทฯ พยายามที่จะใช้เทคโนโลยีในการตรวจจับโรค COVID-19 ผ่านการวิเคราะห์ลมหายใจ กระทั่งพัฒนามาเป็น AI ดมกลิ่นได้

AI ดมกลิ่นใช้เทคโนโลยี "Principal Odor Map" ที่นำ Machine Learning มาวิเคราะห์โครงสร้างโมเลกุลของสารที่มีกลิ่น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาน้ำหอมและเครื่องสำอาง การปรับปรุงรสชาติอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้น

นอกจากนี้ AI ดมกลิ่นยังสามารถช่วยตรวจสอบคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ควบคุมกระบวนการผลิต และตรวจจับมลพิษทางอากาศและสารอันตรายในด้านความปลอดภัยได้อีกด้วย

แม้จะยังมีความท้าทายหลายประการในการพัฒนา แต่ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในอนาคตเราอาจเห็นการใช้งาน AI ดมกลิ่นอย่างแพร่หลาย เช่น แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนที่ตรวจสอบคุณภาพอาหาร หรืออุปกรณ์สวมใส่ที่ติดตามสุขภาพผ่านการวิเคราะห์กลิ่นจากเหงื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในหลายอุตสาหกรรม

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/futurist/ai-smell-recognition

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

18/11/2024

การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมายอย่าง Gen Z และ Millennials วันนี้ เราจึงขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ “PACE Framework” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์สร้างแคมเปญการตลาดบน TikTok ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

PACE Framework ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

1. P - Persona : การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง เช่น พฤติกรรม ความต้องการ และความสนใจ ช่วยให้แบรนด์ออกแบบเนื้อหาที่ตรงใจ

2. A - Assortment : การสร้างความหลากหลายของเนื้อหา เช่น วิดีโอสาธิตสินค้า หรือชาเลนจ์ที่กระตุ้นให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วม โดยเน้นความแปลกใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจ

3. C - Conten t: คุณภาพของเนื้อหาที่ผลิตเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การใช้เทคนิคการถ่ายทำที่น่าสนใจหรือการเลือกเพลงที่เหมาะสม จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้ชมได้

4. E - Empowerment : การสร้างโอกาสให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วม เช่น การจัดแคมเปญที่เชิญชวนให้สร้างเนื้อหาของตนเอง โดยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

การนำ PACE Framework มาใช้กับธุรกิจจะช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าและสร้างเนื้อหาที่ตอบจทย์ได้ แต่อย่าลืมว่าความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่นเป็นกุญแจสำคัญในการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับเทร็นด์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/real-time-marketing/what-is-pace-framework

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

15/11/2024

แนวคิด “Hyper-Personalization” คือ การยกระดับการทำการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของลูกค้า ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการใส่ใจอย่างพิเศษ

การทำ Hyper-Personalization ต้องอาศัยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และ Big Data ที่ช่วยจัดการข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึง IoT ที่เก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

หากสามารถทำ Hyper-Personalization ได้ถูกจุด ธุรกิจก็จะรักษาลูกค้าเอาได้นาน รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางการตลาดและลดการสูญเสียงบประมาณได้อีกด้วย

ตัวอย่างการใช้ Hyper-Personalization ที่เรามักจะเห็นกันบ่อย ๆ เช่น Email Marketing ที่ปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าแต่ละรายอยากเห็ร, Mobile App Marketing ที่แสดงสินค้าและโปรโมชันที่ตรงกับความสนใจ ไปจนถึง E-commerce ที่แนะนำสินค้าตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/understand-people-and-consumer/what-is-hyper-personalization

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

15/11/2024

ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขยะเหล่านี้จำนวนมาก ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว วัฒนธรรมการบริโภคที่นิยมใช้สินค้าทันสมัย อายุการใช้งานสั้นของผลิตภัณฑ์ และการขาดระบบจัดการที่เหมาะสม

E-Waste ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการปล่อยสารพิษที่มีอันตราย เช่น ตะกั่วและปรอทที่ปนเปื้อนในดินและน้ำ นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ เนื่องจากสารดังกล่าวสามารถทำลายระบบประสาทและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

อย่างไรก็ดี ธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบจาก E-Waste ได้ ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน เช่น การใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ การออกแบบให้ซ่อมแซมได้ง่าย หรือการออกนโยบายการรับคืนผลิตภัณฑ์ ตลอดจนารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซัปพลายเออร์ที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี หรือการใช้พลังงานสะอาด ก็ล้วนเป็นทางเลือกที่สำคัญ เพราะไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ยังสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และลดต้นทุนในระยะยาวได้อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/utility-for-our-world/what-is-e-waste

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

14/11/2024

ในยุคการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว MarTech (Marketing Technology) คือสิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค มาดูกันว่า 7 MarTech Trend ที่น่าจับตามองสำหรับปี 2025 มีอะไรบ้าง !

1. Hyper-Personalization through Quantum Computing : การใช้ Quantum Computing เพื่อสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย

2. Augmented Reality (AR) Content Creation Platforms : แพลตฟอร์มสร้างคอนเทนต์ AR ที่จะทำให้การสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น

3. Blockchain-powered Loyalty Programs : ระบบโปรแกรมสะสมแต้มที่โปร่งใสและปลอดภัย

4. AI-driven Predictive Content Optimization : การปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้รับสารแบบเรียลไทม์

5. Voice Commerce Optimization Tools : เครื่องมือปรับแต่ง SEO และวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อผ่านเสียง

6. Neuromarketing Analytics Platforms : การวิเคราะห์ปฏิกิริยาทางสมองที่ช่วยให้เข้าใจรีแอ็กชันของผู้บริโภค

7. Sustainable Marketing Impact Measurement : การวัดผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/transformation-and-technology/martech-trends

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

13/11/2024

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของ GDP และราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น มีหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นในตลาด ได้แก่ Lipstick Effect ซึ่งหมายถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ยังคงซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยขนาดเล็ก แม้ว่าจะต้องประหยัดค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ

แนวคิดนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกโดย Leonard Lauder ประธานบริหารของบริษัท Estée Lauder เมื่อปี 2001 หลังจากเหตุการณ์ 9/11 ที่ยอดขายลิปสติกของแบรนด์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ

Lipstick Effect แสดงให้เห็นว่าผู้คนยังคงต้องการความสุขและความมั่นใจจากการซื้อสินค้าราคาไม่แพง เพราะสามารถช่วยยกระดับอารมณ์และสร้างความรู้สึกที่ดีขึ้นในยามที่ต้องเผชิญกับความเครียด

ส่วนผลกระทบต่อธุรกิจและเศรษฐกิจนั้นชัดเจน กล่าวคือ บริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมความงามและแฟชั่นต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อรองรับความต้องการนี้ โดยการผลิตสินค้าราคาไม่แพงและการขยายตลาดเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคสามารถช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้ แม้เพียงเล็กน้อย

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/experience-the-new-world/what-is-lipstick-effect

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

08/11/2024

ในยุคที่ AI กำลังเป็นที่นิยม OpenAI บริษัทผู้พัฒนา AI Chatbot ตัวดังอย่าง ChatGPT ก็ได้ได้ออกแบบฟีเจอร์ CriticGPT ซึ่งเป็นโมเดลที่ต่อยอดมาจาก GPT-4 เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์โคดที่สร้างโดย ChatGPT ให้มีความแม่นยำมากขึ้น

CriticGPT มีหน้าที่ช่วยระบุข้อผิดพลาดในโคด พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุง โดยใช้ Machine Learning และ Natural Language Processing ในการวิเคราะห์ ทำให้สามารถตรวจจับปัญหาด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการออกแบบได้อย่างเชี่ยวชาญ

CriticGPT มีประโยชน์หลายด้านสำหรับนักพัฒนา ทั้งช่วยประหยัดเวลาในการตรวจสอบโคดจำนวนมาก เพิ่มความปลอดภัยให้กับซอฟต์แวร์โดยระบุช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานด้วยคำแนะนำในการปรับปรุงโคด ตลอดจนลดความผิดพลาดในการเขียนโคดทั้งด้านไวยากรณ์และตรรกะ

อย่างไรก็ตาม CriticGPT ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไม่สามารถให้คำอธิบายแบบละเอียด และยังไม่สามารถแทนที่การตรวจสอบโดยมนุษย์ได้ทั้งหมด

ถึงแม้จะมีข้อจำกัด แต่ CriticGPT ก็ยังถือเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ปรับปรุงคุณภาพของโคดที่สร้างโดย AI ทำให้กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/futurist/what-is-critic-gpt

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

05/11/2024

ปี 2025 นี้ เทคโนโลยีต่าง ๆ กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการค้าปลีกอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และในฐานะผู้ประกอบการ คุณเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้แล้วหรือยัง ?

เชื่อได้เลยว่าในอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า เราจะได้เห็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าในปัจจุบันเข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจค้าปลีก อย่าง AI และ Machine Learning จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ด้วยวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อและความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ และการแบ่งแยกระหว่างโลกออนไลน์กับออฟไลน์ก็จะเลือนหายไป

เมื่อ "Phygital" หรือการผสมผสานระหว่างประสบการณ์ทางกายภาพและดิจิทัลกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ลูกค้าจะสามารถใช้แอปฯ มือถือเพื่อสแกนสินค้าในร้าน ดูข้อมูลเพิ่มเติม และรับส่วนลดพิเศษได้ทันที

ยิ่งไปกว่านั้น ร้านค้าไร้พนักงานจะกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะเราจะมีเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ช่วยลดเวลาในการรอคิวและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ส่วนป้ายโฆษณาดิจิทัลก็จะกลายเป็น "ป้ายอัจฉริยะ" ที่สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้ตามกลุ่มเป้าหมายที่เดินผ่าน ในขณะที่ฉลากราคาอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้ร้านค้าสามารถปรับเปลี่ยนราคาและข้อมูลสินค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

นอกจากนี้ ความยั่งยืนและจริยธรรมในการบริโภคจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ดังนั้น ร้านค้าจะต้องปรับตัวโดยนำเสนอสินค้าที่ผลิตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

สุดท้าย การชอปปิงจะไม่ใช่แค่การซื้อของอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ที่ร้านค้าจะต้องสร้างสรรค์กิจกรรมและบรรยากาศที่ดึงดูดให้ลูกค้าอยากมาเยี่ยมชมด้วยตัวเอง

อ่านเพิ่มเติม: https://www.jenosize.com/th/ideas/real-time-marketing/10-retail-trends

🔵 Driving Digital Opportunity Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

01/11/2024

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมที่เคยถูกมองว่ามีลักษณะการขายแบบอนุรักษ์นิยม เช่น อสังหาริมทรัพย์ ประกันภัย การลงทุน ฯลฯ จะสามารถปรับตัวด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อปิดการขาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้อย่างไร ?

อันดับแรก การใช้ Big Data และ AI จะช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงได้แม่นยำขึ้น ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้ หรือจะใช้เทคโนโลยี VR และ AR เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในการนำเสนอสินค้าก็น่าสนใจไม่น้อย แต่สำหรับสิ่งที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุด และขณะนี้ก็มีธุรกิจบางส่วนนำไปปรับใช้บ้างแล้ว ได้แก่ แชตบอตและระบบ CRM ที่ช่วยยกระดับการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ รวมถึงการใช้ LINE OA ช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นแบบส่วนตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ก็มาพร้อมความท้าทาย ทั้งด้านความปลอดภัยข้อมูล การปรับตัวขององค์กร และการลงทุนที่มีมูลค่าสูง

ดังนั้น ธุรกิจต้องมีวิสัยทัศน์ชัดเจนและวางแผนรอบคอบ เพื่อรับมือกับความท้าทายและใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ที่เทคโนโลยีมอบให้ จะได้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/transformation-and-technology/technology-solutions-for-closing-sales

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

28/10/2024

เพราะโลกการตลาดกำลังก้าวเข้าสู่ยุค Marketing 6.0 ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีอย่างลงตัว และเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดควบคู่กับการรักษาความเป็นมนุษย์ ดังนั้น เราจะมาบอก 5 สิ่งที่นักการตลาดต้องเตรียมพร้อมรับมือ ดังนี้

1. การผสมผสานประสบการณ์ออฟไลน์และออนไลน์ (Phygital Marketing) ผ่าน O2O Customer Data Platform
2. การทำการตลาดสำหรับ Gen Z และ Alpha ที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีดิจิทัล
3. การสร้างประสบการณ์ให้กลายเป็นสินค้าหนึ่งของแบรนด์
4. การพัฒนาจาก Personalized Marketing สู่ Real-time Hyper Personalized Marketing
5. การพัฒนาทั้งทักษะด้านมนุษย์ (Soft Skills) และทักษะด้านเทคโนโลยี (Hard Skills) ควบคู่กัน

ในยุค Marketing 6.0 ความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นักการตลาดจึงต้องพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญคือต้องมีความยืดหยุ่น หมั่นทำความเข้าใจและนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับคุณค่าความเป็นมนุษย์ เพื่อให้สามารถก้าวสู่ความสำเร็จในยุคการตลาดใหม่นี้ได้ไม่ยาก

อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/real-time-marketing/understanding-marketing-6-0

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

25/10/2024

รู้หรือไม่ ? อุตสาหกรรมที่ถูกมองว่าเป็น "ตัวร้าย" ด้านสิ่งแวดล้อมก็สามารถปรับตัวสู่ความยั่งยืนได้เหมือนกัน ! วันนี้ เรามาดูกันว่า 3 อุตสาหกรรมที่ดูเหมือนจะสวนทางกับเทร็นด์ความยั่งยืน จะสามารถพลิกโฉมตัวเองเพื่อตอบรับกระแสรักษ์โลกได้อย่างไรบ้าง

1. อุตสาหกรรมพลาสติก สามารถปรับตัวด้วยการพัฒนาพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้เร็วขึ้น รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลขั้นสูงที่ช่วยให้พลาสติกกลับมาใช้ซ้ำได้โดยไม่เสียคุณภาพ และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ง่ายขึ้น

2. อุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น หันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น เส้นใยธรรมชาติออร์แกนิกและเส้นใยรีไซเคิล พัฒนาเทคนิคการย้อมสีที่ใช้น้ำน้อยลง และส่งเสริมแนวคิดแฟชั่นหมุนเวียนผ่านบริการเช่าเสื้อผ้าและตลาดมือสอง

3. อุตสาหกรรมยานยนต์ มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตลอดจนใช้เชื้อเพลิงทางเลือกอย่างไฮโดรเจนและเชื้อเพลิงชีวภาพ

แม้จะดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ขัดแย้งกับแนวคิดความยั่งยืน แต่ด้วยนวัตกรรมและความมุ่งมั่น พวกเขาก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าการปรับตัวเพื่อรักษ์โลกนั้นเป็นไปได้ แล้วยังเป็นโอกาสที่ดีทางธุรกิจอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/utility-for-our-world/improving-sustainability-in-business

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

21/10/2024

อย่างที่รู้กันว่าเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้ปี 2025 ที่จะถึงนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเทค มาดูกันว่า 8 เทร็นด์สำคัญที่นักธุรกิจและนักการตลาดต้องรู้มีอะไรบ้าง !

1. IoT จะยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ ทำให้ Smart Home และ Smart City เป็นจริง
2. Cookies กำลังจะหายไป เพราะคนให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
3. Cloud และ Edge Computing จะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบ
4. Email Marketing จะกลับมาบูมอีกครั้ง ด้วยการใช้ AI ปรับแต่งเนื้อหา
5. Quantum Computing จะเข้ามาปฏิวัติวงการการเงิน การแพทย์ และการวิจัย
6. พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสีเขียวจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
7. No-Code Technology จะช่วยให้ทุกคนสร้างแอปฯ และระบบอัตโนมัติได้ง่ายขึ้น
8. AI จะตอบสนองและตัดสินใจแทนมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้นในหลายอุตสาหกรรม

แน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้จะทำให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่อย่าลืมเตรียมพร้อมทั้งด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/transformation-and-technology/technology-trends

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

18/10/2024

การขายสินค้าหรือบริการให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ "Cialdini Principle" หรือ "หลักการโน้มน้าวใจ 7 ประการ" โดย Robert Cialdini อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณเข้าใจและโน้มน้าวลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

หลักการทั้ง 7 ข้อประกอบไปด้วย
1. หลักการแลกเปลี่ยน - การให้บางสิ่งแก่ลูกค้าก่อนเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดี
2. หลักการขาดแคลน - การสร้างความรู้สึกว่าสินค้ามีจำนวนจำกัดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ
3. หลักการเป็นผู้เชี่ยวชาญ - การแสดงความเชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
4. หลักความชอบ - การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
5. หลักการพิสูจน์ทางสังคม - การแสดงให้เห็นว่าผู้อื่นยอมรับสินค้าหรือบริการ
6. หลักความสม่ำเสมอ - การชักจูงให้ลูกค้าตัดสินใจทีละน้อย
7. หลักความเป็นเอกภาพ - การสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเดียวกัน

แต่ละหลักการล้วนมีวิธีการนำไปใช้ที่แตกต่างกัน เช่น การแจกตัวอย่างสินค้าฟรี การใช้พรีเซนเตอร์ที่น่าเชื่อถือ หรือการสร้างคอมมิวนิตีของแบรนด์ให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง

หากคุณสามารถนำหลักการเหล่านี้ไปใช้อย่างชาญฉลาดและมีจริยธรรม รับรองว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ได้แน่นอน แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการมุ่งเน้นสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า เพื่อที่พวกเขาจะได้ไว้วางใจในตัวแบรนด์ไปนาน ๆ

อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/understand-people-and-consumer/cialdini-principles-of-persuasion

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

16/10/2024

เคยได้ยินเกี่ยวกับ AI Board กันหรือเปล่า ? ผลวิจัยล่าสุดจาก Gartner เผยว่า 55% ขององค์กรทั่วโลกมีทีมนี้แล้ว !

AI Board คือทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่มีหน้าที่ดูแลการใช้ AI ในองค์กร พวกเขามีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ด้าน AI จัดลำดับความสำคัญของโครงการ ดูแลด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ บริหารความเสี่ยง สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับ AI และประสานงานระหว่างฝ่ายต่าง ๆ

ทีม AI Board มักประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน เช่น Chief AI Officer, Data Scientist, AI Engineer, นักวิเคราะห์ธุรกิจ ที่ปรึกษากฎหมาย และผู้ดูแลด้านจริยธรรม ซึ่งแต่ละคนก็จะมีบทบาทเฉพาะในการขับเคลื่อนการใช้ AI ขององค์กร

การมี AI Board ไม่เพียงช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วย โดยองค์กรที่สามารถผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด ย่อมมีความได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างคุณค่าได้อย่างยั่งยืน

รู้จัก AI Board ให้มากขึ้น อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/futurist/why-your-company-needs-ai-board

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

11/10/2024

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมผู้สูงอายุ และการขาดแคลนทรัพยากร เราได้เห็นการเกิดขึ้นของแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือ “เทร็นด์เศรษฐกิจ 3 สี” ประกอบไปด้วย Green Economy, Silver Economy และ Blue Economy ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทยในการปรับตัวและเติบโตไปพร้อมกับกระแสโลก ดังนี้

1. Green Economy
เศรษฐกิจสีเขียวเป็นแนวคิดที่ผสมผสานการเติบโตทางเศรษฐกิจเข้ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะในภาคพลังงานสะอาด เกษตรอินทรีย์ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานสะอาด การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ และการบริการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจึงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิตก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวให้เติบโต

2. Silver Economy
เศรษฐกิจผู้สูงอายุเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากรสูงอายุ ในประเทศไทย มีโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มนี้ที่หลากหลาย เช่น

บริการดูแลสุขภาพที่บ้าน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุ เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน และการท่องเที่ยวที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มีความน่าสนใจและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

3. Blue Economy
เศรษฐกิจสีน้ำเงินเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยที่มีชายฝั่งทะเลที่ยาวและอุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงินในหลายด้าน เช่น การประมงที่ยั่งยืน การท่องเที่ยวทางทะเล พลังงานทางทะเล และการขนส่งทางทะเล

การพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับทะเล เช่น เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เทคโนโลยีการผลิตพลังงานจากคลื่น และเทคโนโลยีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีน้ำเงินให้เติบโต

ทำความเข้าใจกับเทร็นด์ เศรษฐกิจ 3 สีให้มากขึ้น อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/utility-for-our-world/green-silver-blue-economy

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions
ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึงทุกความต้องการของธุรกิจ

โซลูชันการตลาด ครบ จบ ที่เดียว: https://jenosize.com/th/

09/10/2024

OR คือผู้ดำเนินธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีก ที่คนไทยทุกคนน่าจะเคยเป็นลูกค้ากันมาแล้ว และเพื่อตอบรับกับวิสัยทัศน์ขององค์กรสมัยใหม่ จึงถึงเวลาที่ต้องยกระดับภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับบริบทสังคมปัจจุบัน

▪️ สิ่งที่เราทำ
- Web Design
- Corporate Branding

▪️ ภาพรวม
Jenosize ได้เข้ามาดูแลในส่วนของแผนการปรับภาพลักษณ์ดิจิทัลใหม่ ผ่านการออกแบบเว็บไซต์รวมถึง Digital Corporate Identity ด้วยการผสมผสานความทันสมัยกับการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานไทย เน้นถึงการเข้าถึงข้อมูลที่ง่าย และสื่อสารแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

▪️ ผลลัพธ์
ปรับโฉมเว็บไซต์ธุรกิจที่มีสินทรัพย์กว่า 200,000 ล้านบาท ให้ทันสมัยมากขึ้น

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions

ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึง
ทุกความต้องการของธุรกิจ: https://jenosize.com/th/

08/10/2024

“Gap Model of Service Quality” หรือทฤษฎี 5 ช่องว่าง เป็นเครื่องมือที่นักบริหารการตลาดนิยมนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

Gap Model คือ ทฤษฎีที่ใช้อธิบายความพึงพอใจของลูกค้าต่อการบริการ โดยมีสมมติฐานหลักว่า ลูกค้าจะเปรียบเทียบการบริการที่ได้รับจริงกับการบริการที่คาดหวังไว้

กล่าวคือ หากบริการที่ได้รับมีมาตรฐานสูงกว่าที่คาดหวัง ลูกค้าก็จะประทับใจจนอยากบอกต่อหรือกลับมาซื้อซ้ำ ในขณะเดียวกันหากธุรกิจบริการไม่ดี หรือมาตรฐานต่ำกว่าที่ลูกค้าคาดหวังไว้ พวกเขาก็จะเกิดความไม่ประทับใจ อันจะนำมาซึ่งปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมาได้ เช่น รีวิวเชิงลบบนอินเทอร์เน็ต การบอกต่อแก่คนใกล้ชิดว่าแบรนด์นี้บริการไม่ดี ฯลฯ

Gap Model สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 5 ช่องว่าง ดังนี้

Gap 1 – ช่องว่างระหว่างความคาดหวังของลูกค้ากับการรับรู้ของผู้ให้บริการ
เป็นช่องว่างที่เกิดจากความไม่เข้าใจหรือการรับรู้ที่คลาดเคลื่อนของธุรกิจ กล่าวคือ เราเข้าใจว่าลูกค้าคาดหวังสิ่งนี้ แต่ความจริงแล้ว ลูกค้ากลับคาดหวังอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งปัญหานี้อาจเป็นผลมาจากการขาดการสำรวจตลาดหรือการศึกษาความต้องการของลูกค้าที่ยังไม่มากพอ

Gap 2 - ช่องว่างระหว่างการรับรู้ของผู้ให้บริการกับมาตรฐานการให้บริการ
เกิดจากการที่ธุรกิจไม่สามารถกำหนดมาตรฐานการให้บริการที่สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าได้ แม้ว่าจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจความคาดหวังนั้น ๆ ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านทรัพยากร หรือการขาดการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง

Gap 3 - ช่องว่างระหว่างมาตรฐานการให้บริการกับการปฏิบัติจริงของพนักงาน
เกิดจากการที่พนักงานไม่สามารถให้บริการลูกค้าตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ได้ ทั้งที่มาตรฐานนั้นอาจจะสอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้า โดยสาเหตุอาจมาจากปัญหาด้านการอบรม การจูงใจพนักงาน หรือการขาดการควบคุมคุณภาพการให้บริการอย่างเหมาะสม

Gap 4 - ช่องว่างระหว่างการให้บริการกับการสื่อสารภายนอกองค์กร
เป็นช่องว่างที่เกิดจากความไม่สอดคล้องกันระหว่างการบริการที่ลูกค้าได้รับกับสิ่งที่องค์กรได้สื่อสารไปยังลูกค้า ผ่านการโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้ามีความคาดหวังที่สูงเกินไป พอมาอุดหนุนจริง ๆ กลับพบว่าไม่ได้เป็นอย่างที่แบรนด์สื่อสารเอาไว้ จึงเกิดความผิดหวัง

Gap 5 – ช่องว่างระหว่างบริการที่ลูกค้าได้รับกับความคาดหวังของลูกค้า
เป็นช่องว่างสุดท้ายที่เกิดจากผลรวมของช่องว่างทั้ง 4 ประเภทข้างต้น และเป็นช่องว่างที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นตัวกำหนดระดับความพึงพอใจของลูกค้า กล่าวคือ หากมาตรฐานการบริการที่ลูกค้าได้รับต่ำกว่าสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง พวกเขาก็จะรู้สึกแย่ ในขณะที่ถ้าระดับการบริการสูงกว่าที่คาดหวัง พวกเขาก็จะประทับใจ

น่าจะเห็นภาพกันบ้างแล้วว่า Gap Model คืออะไรและเกิดจากสาเหตุอะไร เรามาดูกันว่าจะสามารถปิดช่องว่างเหล่านั้นอย่างไรได้บ้าง !

เจาะลึกรายละเอียด Gap Model อ่านเพิ่มเติม: https://jenosize.com/th/ideas/understand-people-and-consumer/what-is-gap-model

🔵 Driving Digital Success Through All-in-One Solutions

ขับเคลื่อนความสำเร็จ ด้วยโซลูชันที่เข้าถึง
ทุกความต้องการของธุรกิจ: https://jenosize.com/th/

ที่อยู่

Changwattana
Nonthaburi
11120

เวลาทำการ

จันทร์	09:00 - 21:00
อังคาร	09:00 - 20:00
พุธ	09:00 - 20:00
พฤหัสบดี	09:00 - 20:00
ศุกร์	09:00 - 21:00

เบอร์โทรศัพท์

+66899224153

เว็บไซต์

https://www.jenosize.com/

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Jenosize Digital Groupผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Jenosize Digital Group:

ชื่อ:

ที่อยู่อีเมล์:

ข้อความ:

ทางลัด

แชร์

ประเภท

ครีเอเตอร์ดิจิทัล

Our Story

We are a technology & marketing consulting group providing full-suite business solutions.

Our vision is to be the happiest company in the world which results our culture to care every staffs, fun and sincere environment, open-mind and be yourself, support your career goal in the way you love and personalize roadmap to boost your ability

“เจโนไซส์” เป็นทั้งบริษัท Technology & Marketing Consulting และ Integrated Marketing Agency และเราสร้าง Startup Technology Product ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มี passion ในการทำงานที่สนุก ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ร่วมกันสร้างงานเจ๋งๆ เปี่ยมด้วยคุณภาพออกมา ทำให้เราเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้ารายใหญ่ๆ มีงานน่าสนใจและสนุกมาท้าทายความสามารถของทีมตลอดเวลา ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเรามีทั้งรัฐบาล และ แบรนด์ดังในประเทศ ท้าทายด้วยธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงวิทยาศาสตร์, CAT, JASPAL , Malee, 7-11, King Power , Bangkok Insurance , Paysbuy ฯลฯ

เราเชื่อว่าการทำงาน คือเวลาครึ่งชีวิตของคุณ ดังนั้นเราจึงมุ่งหวังให้คุณได้ทำงานที่รักอย่างมีความสุข และสนุกในทุกๆวัน กับเพื่อนร่วมงานที่ดี ในบรรยากาศที่อบอุ่น