Auto-Bike Motorsport

Auto-Bike Motorsport ข่าวสารแวดวงยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ มอเตอร์สปอร์ตและสาระน่ารู้ต่าง ๆ

ปอร์เช่ (Porsche) และ ฟราวเชอร์ (Frauscher) เปิดตัวเรือสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นใหม่อีกครั้งปอร์เช่ (Porsche) มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้...
25/12/2024

ปอร์เช่ (Porsche) และ ฟราวเชอร์ (Frauscher) เปิดตัวเรือสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นใหม่อีกครั้ง

ปอร์เช่ (Porsche) มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการขับเคลื่อนยานยนต์อย่างยั่งยืน ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในวงการรถแข่งและรถยนต์บนถนนเท่านั้น โดยร่วมมือกับ ฟราวเชอร์ ชิปยาร์ด (Frauscher Shipyard) ผู้ผลิตเรือสปอร์ตอันมีชื่อเสียงจากออสเตรียกับบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตนี้ได้พัฒนาเรือไฟฟ้าที่มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างความประทับใจบนพื้นน้ำด้วย ปอร์เช่ อี-เพอร์ฟอร์มมานซ์ (Porsche E-Performance) อันเป็นเอกลักษณ์ – ซึ่งตอนนี้มีให้เลือกใน 2 เวอร์ชันที่แตกต่างกัน ในขณะที่รถสปอร์ตปอร์เช่ (Porsche) 2 ประตูมีจำหน่ายในรูปแบบทั้งคูเป้และคอนเวอร์ทิเบิลรวมถึงตัวเลือกอื่นๆ ดังนั้น ฟราวเชอร์ (Frauscher) ก็มีให้เลือกระหว่าง Runabout และ Air หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ระหว่างดาดฟ้าหน้าปิด ลุคคลาสสิก ห้องโดยสารใต้หัวเรือ หรือเป็นแบบพวงมาลัยกลางลำเรือและที่นั่งเล่นอยู่บนหัวเรือก็มีมาให้เป็นตัวเลือก หลังจากที่ eFantom รุ่นเปิดตัวได้รับการยกย่องให้เป็นเรือไฟฟ้าที่ดีที่สุดในเดือนพฤศจิกายน 2024 จากรางวัล Best of Boats Award อันทรงเกียรติ ตอนนี้เวอร์ชัน Frauscher x Porsche 850 Fantom ก็พร้อมวางจำหน่ายแล้วใน First Edition ด้วยจำนวนเพียง 25 คัน

ชวนสายกรีนสตาร์ทรถไฟฟ้ารับลมหนาว กับ 5 ทริคก่อนออกทริปขึ้นเหนือหน้าหนาวปลายปีนี้ ใครยังไม่มีแพลนสตาร์ทรถออกไปเที่ยว เกรท...
25/12/2024

ชวนสายกรีนสตาร์ทรถไฟฟ้ารับลมหนาว กับ 5 ทริคก่อนออกทริปขึ้นเหนือ

หน้าหนาวปลายปีนี้ ใครยังไม่มีแพลนสตาร์ทรถออกไปเที่ยว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอชวนคนไทยออกไปเที่ยวไทยด้วยกัน ตามรอย 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เตรียมตัวออกเที่ยวแบบคุ้มหลายต่อ ทั้งโปรโมชันเด็ดสุดคุ้มผ่านแคมเปญ “สุขทันที ปลายปีเที่ยวไทย” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับสินค้าและบริการท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการมากกว่า 200 ราย พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 45% และความคุ้มอีกด้านผ่านการเลือกใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่จะช่วยเติมเต็มเส้นทางความสุขเพื่อคนสายกรีนด้วยมลพิษที่เป็นศูนย์ รวมถึงช่วยประหยัดค่าพลังงานงาน เปลี่ยนค่าน้ำมันให้เป็นค่าอาหารมื้อหรู หรือจะแวะคาเฟ่ฮอปปิ้งได้หลายที่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนยุคใหม่ ก่อนออกเดินทางรับลมหนาวพร้อมวิวที่แวดล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติตระการตา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอแนะนำ 5 วิธี เตรียมตัวก่อนออกทริปกับรถยนต์ไฟฟ้าคู่ใจ ช่วยให้ทุกทริปราบรื่น ไร้อุปสรรค ปลอดภัยในทุกที่นั่ง

ทริคที่ 1: เช็กให้ชัวร์ ดูให้ครบ กับ 5 จุดเช็คลิสต์สำคัญก่อนออกทริป

ก่อนสตาร์ทรถออกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ต้องเช็กให้ชัวร์ กับ 5 สิ่งสำคัญ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพราะ well begun is half done แค่เริ่มต้นดีก็ถือว่าทริปนี้สำเร็จไปแล้วครึ่งทาง

- แบตเตอรี่:หัวใจสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ฉะนั้นก่อนออกทริปควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้ดี สิ่งที่ควรระวัง คือ ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% บ่อยครั้ง เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวกว่ากำหนด และไม่ควรชาร์จเร็ว (DC Fast Charging) บ่อยเกินไป เนื่องจากการชาร์จเร็วจะใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติ ทำให้ความร้อนสะสมในแบตเตอรี่ ผลลัพธ์คือแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพไวไม่ต่างจากการทิ้งให้แบตเหลือน้อยกว่า 20% รวมถึงไม่ควรจอดรถยนต์ไฟฟ้าไว้กลางแจ้งบ่อย เพราะแสงแดดที่ร้อนจัดจะทำให้แบตเตอรี่ได้รับความร้อนสูง ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลงตามมาด้วย หากไม่แน่ใจในสภาพการทำงานของแบตเตอรี่ แนะนำให้นำรถไฟฟ้าเข้าศูนย์เพื่อเช็กสภาพความพร้อมของแบตเตอรี่ก่อนออกเดินทาง

- ยางรถยนต์:ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ยางรถยนต์เป็นสิ่งแรกที่ได้สัมผัสกับพื้นถนนในทุกสภาพเส้นทาง จะทางเรียบ ขรุขระ หรือน้ำนอง ควรเช็กลมยางรถยนต์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเล็ก ควรเติมลมยางประมาณ 25-30 PSI สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI และสำหรับรถกระบะที่เน้นการท่องเที่ยว ผจญภัย ไม่เน้นการบรรทุกของที่มีน้ำหนักเยอะ ควรเติมลมยางประมาณ 35-40 PSI การเติมลมยางตามที่แนะนำนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ เพื่อการออกทริปที่เป็นไปอย่างสนุกและราบรื่น

- เบรก:ก่อนออกเดินทางทริปยาวหรือโรดทริป ควรวางแผนนำรถเข้าศูนย์ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าทำงานได้เป็นปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบเบรก การมีระบบเบรกที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือหากสังเกตว่าการแตะเบรกขณะขับขี่ดูให้ผลลัพธ์แปลกไปจากทุกครั้ง ควรนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปเช็กสภาพเบรกที่ศูนย์บริการรถ เพราะหากสภาพเบรกลดลง อาจเพราะเกิดความเสียหายได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น ระบบเบรกเกิดการสึกหรอ หรือลูกสูบเบรกมีปัญหา

- แอร์:หากเครื่องปรับอากาศทำงานได้ไม่เป็นปกติ อาจจะทำให้การเดินทางมีอุปสรรคโดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถในระยะทางไกล และอาจทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเกิดความเมื่อยล้าขณะเดินทางและเสียสมาธิในการขับขี่ ฉะนั้นควรเช็กแอร์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง และควรวอร์มรถยนต์ไฟฟ้าก่อนเดินทางไกล เพื่อเช็กและเพื่อเป็นการเลี่ยงปัญหาดังกล่าว

- สัญญาณไฟ:ในการเดินทางที่ตะโกนบอกผู้ขับขี่คันอื่น ๆ บนท้องถนนไม่ได้ ไฟหน้าและไฟท้ายจึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งสัญญาณแทนคำพูด เช่น การเลี้ยวซ้าย-ขวา การตบไฟให้สัญญาณ หรือแม้แต่สัญญาณไฟฉุกเฉินหากเกิดปัญหาขึ้นกระทันหัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาขณะออกทริปเดินทาง จำเป็นต้องเช็กไฟต่าง ๆ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉินให้ดี เพื่อให้ทุกเส้นทางการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้ปัญหาขณะขับขี่

ทริคที่ 2: จำกัดความเร็วขณะขึ้น–ลงเขา และไม่บรรทุกของหนักขึ้นดอย

ความเร็วที่เหมาะสมสำหรับการขึ้น-ลงภูเขา ในการขับรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นภูเขาควรมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการขับรถยนต์ไฟฟ้าลงภูเขาควรมีความเร็วอยู่ประมาณที่ 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่ค่อนข้างปลอดภัยและช่วยให้เบรกไม่ทำงานหนักจนเกินไปรวมถึงเว้นระยะจากคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิด ทั้งนี้ สำหรับน้ำหนักของสัมภาระในการบรรทุกของเพื่อออกทริปในเส้นทางดังกล่าวควรพิจารณาตามความเหมาะสมของรถแต่ละรุ่นเพื่อไม่ให้หนักเกินไป เพราะน้ำหนักที่เยอะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการเร่งของเครื่องยนต์

ทริคที่ 3: หมั่นสังเกตแผงหน้าปัดแจ้งเตือนขณะขับขี่

สิ่งที่อันตรายไม่ต่างจากการละสายตาบนท้องถนนขณะขับขี่ คือ การละสายตาและละความสนใจจากสัญญาณต่าง ๆ ที่ขึ้นมาบนแผงหน้าปัดรถ โดยปกติสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ขึ้นมาจะมีสีอยู่ 3 ระดับ ได้แก่ สีเขียว สีส้มหรือสีเหลือง และสีแดง คล้ายสัญญาณไฟจราจร แต่ละสีบ่งบอกถึงความเร่งด่วนในแต่ละระดับ ซึ่งสีเขียวหมายถึงปลอดภัย สีส้มหรือสีเหลืองหมายถึงเริ่มไม่ปลอดภัย และสีแดงหมายถึงอันตรายนอกเหนือจากสีแล้วผู้ขับขี่ควรรู้ควายหมายของสัญลักษณ์ที่จำเป็น เช่น สัญลักษณ์พร้อมขับขี่ สัญลักษณ์การปิดประตูรถไม่สนิท สัญลักษณ์แจ้งเตือนแรงดันลมยาง และสัญลักษณ์แจ้งเตือนความจุแบตเตอรี่ การสังเกตสัญลักษณ์เหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางพักผ่อนวันหยุดนี้ปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง

ทริคที่ 4: ทุกการเบรกเหมือนได้แลกพ้อยท์ ได้พลังงานกลับคืนด้วยระบบ Regenerative Breaking

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะมีระบบเบรก 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเบรกธรรมดา และระบบเบรก Regenerative Breaking โดยผู้ใช้งานสามารถประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ เพียงเลือกใช้ระบบ Regenerative Breaking โดยสังเกตสัญลักษณ์ของระบบเบรกนี้จากแผงหน้าปัดได้ ซึ่งระบบเบรกนี้เป็นการเหยียบเบรกที่สร้างพลังงานจลน์ และการเบรกนั้นจะถูกส่งกลับไปเป็นพลังงานที่แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าทำให้ทุกแรงที่เหยียบไปไม่เสียเปล่าอีกทั้งยังสามารถกู้คืนพลังงานได้มากถึง 70% ที่เกิดจากกระบวนการเบรก ช่วยยืดอายุชิ้นส่วนเบรกรถยนต์ เมื่อออกทริปในเส้นทางภูเขาสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับระบบเบรก Regenerative Breaking คือ การไม่ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% แต่ควรชาร์จให้อยู่ประมาณที่ 80-90% เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทริคที่ 5: วางแผนให้ดี ปักหมุดสถานีชาร์จรอไว้เลย

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าการวางแผนที่ดี คือ การดูสถานีชาร์จไว้ล่วงหน้า ในทุก ๆ การเดินทางควรตรวจสอบจุดชาร์จให้ชัดเจน และจองสถานีชาร์จไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถจองสถานีชาร์จได้ง่าย ๆ ในแอปพลิเคชัน GWM THAILAND เมื่อโหลดแอปฯ เรียบร้อยแล้วสามารถทำการจองได้ ดังนี้

- เข้าแอปพลิเคชัน GWM THAILAND
- เลือกเมนู ‘รีโมท’ จากนั้นเลือก ‘แผนที่จุดชาร์จ’
- ค้นหาที่อยู่ที่ต้องการไปใช้บริการ
- กด ‘จอง’ไอคอนที่สองด้านล่างซ้ายมือ

โดยในแอปพลิเคชันนี้สามารถชำระได้ทั้งแบบเติมเงินและผ่านบัตรเครดิต ทำให้ลดการยุ่งยากในการออกทริป ประหยัดเวลาในการเดินทาง

ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไปรับลมหนาว จะไปคนเดียว หรือยกแก๊งค์ก็สนุก ปลอดภัย ประหยัด และรักษ์โลก กับรถไฟฟ้าคู่ใจในวันหยุดยาวปีใหม่นี้ หากใครยังไม่มีแพลนไปไหน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชวนออกมาทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถไปสัมผัสและทดลองขับได้ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และโปรโมชัน Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 41 ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเลือกรับดีลพิเศษและสิทธิประโยชน์อีกมากมายเพื่อฉลองปลายปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ www.gwm.co.th หรือสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM Contact Center 02-668-8888

ฮอนด้าและนิสสัน ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพิจารณาการรวมธุรกิจ สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์บริษัท ฮอนด้า ...
25/12/2024

ฮอนด้าและนิสสัน ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพิจารณาการรวมธุรกิจ สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์

บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเริ่มหารือและพิจารณาการรวมธุรกิจระหว่างสองบริษัทผ่านการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่การสร้างสังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอนและสังคมปลอดอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมลงนามกับฮอนด้าและนิสสัน โดยตั้งเป้าที่จะพิจารณาและสรุปผลการเข้าร่วมหรือการมีส่วนร่วมในการรวมธุรกิจระหว่างฮอนด้าและนิสสัน ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2568

ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ฮอนด้าและนิสสันได้ลงนามใน MOU เกี่ยวกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์สำหรับด้านเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะและเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งสองบริษัทได้มีการหารือเพื่อความร่วมมือในหลายด้าน และในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทได้ลงนามใน MOU เพิ่มเติมเพื่อขยายกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์

การรวมธุรกิจนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันระดับโลกและเพื่อให้ทั้งสองบริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจมากขึ้นให้กับลูกค้าทั่วโลก และหากการรวมธุรกิจนี้สามารถเป็นจริงได้ทั้งสองบริษัทจะสามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายด้าน เช่น องค์ความรู้ ทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยี เพื่อสร้างความร่วมมือในเชิงลึก เพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และพัฒนาการสร้างคุณค่าของบริษัทในระยะกลางไปจนถึงระยะยาว

นอกจากนี้ การรวมธุรกิจนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในฐานะ “บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อนระดับโลก” โดยการรวมธุรกิจของฮอนด้า ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า (Power Products) เข้ากับธุรกิจรถยนต์ของนิสสัน จะช่วยสร้างความน่าสนใจให้แก่แบรนด์ เพื่อให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมที่น่าสนใจ และบริการที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้าทั่วโลก

ตามข้อตกลงระหว่างฮอนด้าและนิสสันในการเริ่มพิจารณาการรวมธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมลงนามกับฮอนด้าและนิสสัน โดยตั้งเป้าที่จะพิจารณาและสรุปผลการเข้าร่วมหรือการมีส่วนร่วมในการรวมธุรกิจระหว่างฮอนด้าและนิสสัน ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2568

นายโทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้าและนิสสันเริ่มพูดคุยและหารือกันตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อชี้แจงความเป็นไปได้ของการรวมธุรกิจภายในสิ้นเดือนมกราคม 2568 สอดคล้องกับการพิจารณาของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งยิ่งใหญ่ของรอบศตวรรษนี้ เราคาดหวังว่า การรวมทรัพยากรและจุดแข็งของฮอนด้าและนิสสันเข้าด้วยกัน ทั้งเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ได้พัฒนาขึ้นมา จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ด้านการขับเคลื่อนในระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามิตซูบิชิ มอเตอร์สร่วมมือกับเรา การผนึกกำลังทั้ง 3 บริษัท จะช่วยให้เราสามารถก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำในการสร้างคุณค่าใหม่ทางด้านการขับเคลื่อนและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมผ่านการรวมธุรกิจได้”

นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “วันนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการร่วมมือทางธุรกิจ ที่จะมีส่วนในการกำหนดอนาคตของเรา การที่ทั้งสองบริษัทได้ผนึกกำลังกันในครั้งนี้ จะนำไปสู่การสร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ที่สร้างคุณค่าได้มากยิ่งขึ้น โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอันเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละบริษัท เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างและหลากหลายของลูกค้าที่ไม่มีบริษัทใดสามารถทำได้เพียงลำพัง”

นายทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ในยุคของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ เราจะศึกษารูปแบบความร่วมมืออย่างดีที่สุดเพื่อให้เกิดประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดการหารือระหว่างฮอนด้าและนิสสันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันได้ก้าวหน้าไปมาก และเราได้ตัดสินใจเข้าร่วมในกรอบความร่วมมือนี้เชื่อว่าเราจะสามารถค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ได้ในหลากหลายมิติ”

ทั้งนี้ รายละเอียดของการรวมธุรกิจเพื่อสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ คาดว่าจะสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ในช่วงกลางปี 2568

BMW Z1เป็นรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์รถยนต์เปิดประทุนซีรีส์ Z ของ BMW (รถยนต์เปิดประทุน 2 ที่นั่ง) และผลิตในจำนวนจำกัดตั้งแต่ป...
25/12/2024

BMW Z1เป็นรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์รถยนต์เปิดประทุนซีรีส์ Z ของ BMW (รถยนต์เปิดประทุน 2 ที่นั่ง) และผลิตในจำนวนจำกัดตั้งแต่ปี 1989 ถึงปี 1991

BMW Z1 รถคลาสสิคสะสมหายาก สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นทางด้านการออกแบบของ BMW Z1 ก็คือประตูที่เปิดแบบ Vertical Sliding ซึ่งหายากในรถทั่วไป เมื่อต้องการจะเข้าไปนั่งในรถ ก็กดปุ่มที่บริเวณข้างรถ จากนั้นทั้งบานกระจกและบานประตูจะเลื่อนหายลงไป เวลาปิด ก็เลื่อนกลับเข้าที่เดิม กลไกการทำงานของประตูนั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Z1 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแผงตัวถังพลาสติกและประตูเลื่อนแนวตั้งที่เลื่อนลงมาที่ธรณีประตู นับเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นแรกๆ ของ BMW ที่ใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ ข้อมูลจำเพาะระบบส่งกำลังเพียงอย่างเดียวคือเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร และเกียร์ธรรมดา 5 สปีดจากรุ่นE30 325i

ประตูมีความพิเศษตรงที่พับเก็บในแนวตั้ง แทนที่จะเป็นแบบดั้งเดิมซึ่งพับออกด้านนอกหรือด้านบน (รถยนต์คันแรกที่มีประตูพับเก็บคือKaiser Darrin ปี 1954 แม้ว่าประตู Kaiser Darrin เหล่านั้นจะเลื่อนไปข้างหน้าแต่ไม่พับลง) ตัวถังที่มีธรณีประตูสูงช่วยป้องกันการชนโดยไม่ขึ้นกับประตู และสามารถขับ Z1 ได้ (แม้ว่าอาจจะไม่ถูกกฎหมายในบางประเทศ) โดยที่ประตูต่ำลง

หน้าต่างสามารถเปิดปิดได้โดยไม่ขึ้นกับประตู แต่หน้าต่างจะเลื่อนกลับโดยอัตโนมัติหากปิดประตูลง ทั้งหน้าต่างและประตูขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านสายพานยางแบบมีฟัน และสามารถเคลื่อนย้ายด้วยมือในกรณีฉุกเฉินได้

ออกผจญภัยท่องเที่ยวไร้ขีดจำกัดไปกับ ไทรอัมพ์ Scrambler 400 X พร้อมลุยทุกสภาพถนน ณ เลห์ ลาดักห์ ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย...
23/12/2024

ออกผจญภัยท่องเที่ยวไร้ขีดจำกัดไปกับ ไทรอัมพ์ Scrambler 400 X พร้อมลุยทุกสภาพถนน ณ เลห์ ลาดักห์ ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย

หากใครที่ชื่นชอบการเดินทางขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางธรรมชาติด้วยแล้ว เชื่อว่าต้องมี เลห์ ลาดักห์ (Leh Ladakh) ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นหนึ่งในลิสต์หรืออีกเส้นทางที่เหล่าชาวไบค์เกอร์ตัวจริงอยากไปเยือนสักครั้ง

เพราะตลอดการเดินทางทุกคนจะได้สัมผัสสภาพภูมิประเทศอันแสนท้าทายหลากหลายรูปแบบ แต่ก็มาพร้อมวิวธรรมชาติอันแสนงดงามที่ชวนให้รู้สึกหลงใหลเหมือนกับสองหนุ่มไบค์เกอร์ชาวไทย คุณอาร์ม-พงศธร เลิศทัศนวนิช และคุณสัก-สัจจะ งามเกลี้ยง ที่ได้ออกทริปขับขี่รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ Scrambler 400 X เพื่อเดินทางไปยังดินแดนที่มีชื่อว่า Zanskar ของเลห์ ลาดักห์ อีกหนึ่งเส้นทางใหม่ที่รอให้ไบค์เกอร์ทั้งหลายได้ออกไปผจญภัย

สำหรับเส้นทางขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวในเลห์ ลาดักห์ แน่นอนว่าต้องพบกับสภาพภูมิประเทศที่สุดท้าทาย ที่ไม่ได้มีแค่ทางเรียบ แต่ยังต้องเผชิญกับเส้นทางบนถนนที่เต็มไปด้วยทราย หิน ดิน กรวด ฝุ่นหนา รวมถึงพายุหิมะ แต่ทริปนี้ไทรอัมพ์ Scrambler 400 X ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นรถจักรยานยนต์คู่หูนักผจญภัยอย่างแท้จริงด้วยสเปคระดับแนวหน้าที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขี่ ทั้งเครื่องยนต์ 400 ซีซี สูบเดี่ยวโฉมใหม่ ส่งพละกำลังและแรงบิดได้อย่างมีชีวิตชีวาและตอบสนองได้ทันใจในทุกเส้นทาง ผสานระบบกันสะเทือนคุณภาพสูงที่มีระยะยุบตัว 150 มม. และคาลิปเปอร์แบบเรเดียลสี่สูบ ช่วยให้การบังคับแม่นยำ คล่องตัว และใช้งานง่าย อีกทั้งตำแหน่งการขับขี่ที่สง่าผ่าเผย พร้อมแฮนด์ทรงกว้าง ผสมผสานเข้ากับโครงรถเฉพาะตัว ทั้งหมดนี้ส่งมอบความคล่องตัวที่ควบคุมง่าย และความสนุกทุกการขับขี่ทั้งบนท้องถนนและบนทางวิบากได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นพาหนะสำคัญที่ทำให้ทั้งสองคนสามารถไปถึงจุดหมายได้สำเร็จลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นการไปเช็คอิน Gonbo Rangjon หรือภูเขาแห่งเทพเจ้า หนึ่งในสถานที่ที่ยัง Unseen สำหรับคนไทยรวมถึงการเช็คอินบนถนนที่สูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน มีชื่อว่า “UMLING LA” ที่มีระดับความสูง 5,799 เมตร เรียกได้ว่าสูงกว่า Eeverest Base Camp ของภูเขา Everest อีกด้วย

โดย คุณอาร์ม–พงศธร เลิศทัศนวนิช ได้เผยถึงความประทับใจที่มีต่อไทรอัมพ์ Scrambler 400 X ในการออกทริปครั้งนี้ว่า “วันแรกของการเดินทางพิชิต Zanskar พวกเราได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน รวมระยะเวลากว่า 16 ชั่วโมง บนเส้นทางที่ค่อนข้างท้าทายที่มีทั้งก้อนหิน ฝุ่นหนา ผาชัน และเหวลึก แต่ก็ขับขี่มาได้อย่างราบรื่น Scrambler 400 X ได้แสดงให้เห็นถึงพละกําลังของตัวรถ โดยเฉพาะการเผาผลาญของเครื่องยนต์ขนาด 400 ซีซี ที่ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสถานกาณณ์ ไม่ว่าจะเป็น ในสภาพอากาศที่มีออกซิเจนเบาบางก็ยังแสดงให้เห็นถึงความเร็วของรถที่ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วทันใจ หรือต้องเจอสภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก ๆ ก็ยังสตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้ในครั้งแรกทันทีตลอดจนตัวรถที่ต้องประสบอุบัติเหตุล้มค่อนข้างรุนแรง แต่รถตัวก็ยังขับขี่ได้อย่างปกติ ไม่มีปัญหาใด ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมความคุ้มค่ารอบด้าน ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการเดินทางได้ดีมาก”

ในขณะที่ คุณสัก–สัจจะ งามเกลี้ยง ได้เล่าถึงความรู้สึกและความประทับใจที่มีต่อการขี่ไทรอัมพ์ Scrambler 400 X ในครั้งนี้ด้วยเช่นกันว่า “ต้องบอกว่า Scrambler 400 X คือตัวแทนของความสนุกอย่างแท้จริง เพราะตัวผู้ขับขี่จะรู้สึกถึงความลงตัวตั้งแต่ครั้งแรกที่ขึ้นขี่ แม้ตัวรถจะดูสูงแต่ด้วยช่วงกลางรถที่เพรียวบาง เพราะถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ผู้ขี่สามารถขึ้นลงรถได้สะดวกและควบคุมได้ง่าย เช่นตนเองที่ไม่ได้สูงมากแต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อได้ลองคร่อมแล้วกลับขับขี่ได้อย่างสนุกและมั่นใจตลอดการเดินทาง อีกทั้งการได้มาออกทริปกับเพื่อน พี่ น้อง กลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบในการขับขี่รถจักรยานยนต์เหมือนกันด้วยแล้ว ถือเป็นมิตรภาพที่ดี ยิ่งทำให้ตนเองรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางครั้งใหม่ ๆ อยู่เสมออีกด้วย”

“เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22” คาราวานรถโบราณ เส้นทางแห่งมิตรภาพไร้กาลเวลาสมาคมรถโบราณฯ โรงแรมดุสิตธ...
23/12/2024

“เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22” คาราวานรถโบราณ เส้นทางแห่งมิตรภาพไร้กาลเวลา

สมาคมรถโบราณฯ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน ททท. จัดคาราวานรถโบราณ และรถคลาสสิคกว่า 50 คัน ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ – เพชรบุรี – หัวหิน เมื่อ 20 – 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ปีนี้สมาคมฯ จัดงาน“เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22” ภายใต้แนวคิด “มิตรภาพไร้กาลเวลา – Timeless Friendship” โดยร่วมกับ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และได้รับการสนับสนุนอย่างดีเช่นเคยจาก หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”

พิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน กล่าวเสริมว่า “โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อำเภอชะอำ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เราพร้อมสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน งานนี้ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ชาวเพชรบุรี หัวหิน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเฝ้ารอคอยโรงแรมของเรามีพื้นที่ที่เหมาะสม และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมรองรับ ทั้งขบวนพาเหรด และกิจกรรมภายในงานอย่างเต็มที่”

คาราวานประกอบด้วย รถโบราณ และรถคลาสสิคกว่า 50 คัน นำโดย Mercedes-Benz 190SL ปี 1958, BMW 503 Coupe ปี 1956, Jaguar XK120 ปี 1949 ฯลฯ โดยออกเดินทางเช้าวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 จาก พิพิธภัณฑ์คนรักรถ AUTO RENDEZVOUS MUSEUM – BANGKOK ถนนประชาอุทิศ กรุงเทพฯ

จุดหมายแรกคือ ไปมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนโรงเรียนวัดถ้ำรงค์ จังหวัดเพชรบุรี ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหารครัวเปลญวน ซึ่งสนับสนุนโดยหอการค้าจังหวัดเพชรบุรี จากนั้นไปเยี่ยมชมโครงการทุ่งนา-ป่าตาล และสวนตาลลุงถนอม อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี แหล่งเรียนรู้อาชีพทำตาลโตนดครบวงจร และไปชิมน้ำกระแช่ชุมชน ถ้ำรงค์เพชรบุรี ก่อนมุ่งสู่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จัดงานสังสรรค์พูดคุยกับเจ้าของรถโบราณในหัวข้อ “นี่แหละรถคันรัก” ณ Lagoon Lawn

วันที่สองเดินทางไป สถานีรถไฟหัวหิน มอบทุนการศึกษาให้นักเรียนโรงเรียนเทศบาลหัวหิน แล้วเคลื่อนขบวนไป สนามกอล์ฟสวนสนประดิพัทธ์ รับประทานอาหารกลางวันที่ Seapine Club House จากนั้นกลับโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ช่วงค่ำ สมาชิกแต่งตัวย้อนยุค ’70 ร่วมงาน วินเทจคาร์กาลาดินเนอร์ พร้อมลีลาศกับวงดนตรี Sensation ณ ห้องรอยัล ดุสิต แกรนด์บอลรูม

ผู้ชื่นชอบรถโบราณ ที่พลาดชมคาราวานเมื่อวันที่ 20-22 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา สามารถติดตามภาพ และเรื่องราวประทับใจในงาน “เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่ 22” ย้อนหลังได้ที่ Facebook.com/VintageCarClub

เชียร์​ให้กระหึ่มที่สนาม!!! บัตรชม ThaiGP2025 ซื้อ 1 ได้ถึง 2 ประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกสุดจึ้ง-เตรียมกดให้ทัน!!  เ...
23/12/2024

เชียร์​ให้กระหึ่มที่สนาม!!! บัตรชม ThaiGP2025 ซื้อ 1 ได้ถึง 2 ประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกสุดจึ้ง-เตรียมกดให้ทัน!!

เคาะราคาบัตร! ซื้อบัตรโมโตจีพี ได้ชมฟรี Pre-Season Test กับปีแห่งความยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยเตรียมรับบทเจ้าภาพ โมโตจีพี รายการ PT Grand Prix of Thailand 2025 ทั้งการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล (Pre-Season Test) และ การแข่งขัน (Main Race) สนามที่ 1 ของฤดูกาลที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดฝ่ายจัดฯ ประกาศราคาบัตรสุดพิเศษ กับความสนุกแบบจัดเต็มทั้งในและนอกสนาม เปิดจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลก 9 ม.ค.ศกหน้า ผ่านช่องทางออนไลน์ ร่วมส่งเสียงเชียร์นักบิดคนโปรด แสดงพลังเชียร์นักบิดสายเลือดไทย “ก้อง-สมเกียรติ”ที่ลงแข่งขันในรุ่นพรีเมียร์คลาสครั้งแรกในประวิติศาสตร์ ประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกบนผืนแผ่นดินไทยที่แฟนตัวจริงต้องห้ามพลาด

การจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี สนามประเทศไทย” รายการ PT Grand Prix of Thailand 2025 ความภาคภูมิใจของคนไทยในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ซีรีส์ศึกสองล้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีผู้ติดตามชมมากที่สุดของโลก ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพปีที่ 6

ล่าสุดได้มีการเผยจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะเจ้าภาพหลักฝ่ายจัดการแข่งขันว่า คณะทำงานได้กำหนดราคาจำหน่าย “บัตรเข้าชม โมโตจีพี สนามประเทศไทย 2025” ดังนี้

▪️ สิทธิพิเศษสำหรับ “บัตรชมโมโตจีพี” สุดคุ้ม 2 ต่อ ได้ชม “Pre-Season Test” ฟรี โดยราคาบัตร Main Race สนามที่ 1 ของฤดูกาล วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นบัตรชมงานแบบ 3 วัน แบ่งเป็น

1.แกรนด์ สแตนด์ (Grand Stand) 5,000 บาท (เห็นทุกโค้งทั่วสนาม)

2.ไรเดอร์ สแตนด์ (Rider Stand) 3,000 บาท สำหรับกองเชียร์นักแข่ง 3 คน ได้แก่ มาร์เกซ สแตนด์, กวาร์ตาราโร สแตนด์, จันทรา สแตนด์ สำหรับแฟน ก้อง-สมเกียรติ จันทรา (พร้อมของที่ระลึก ลิขสิทธิ์แท้จากนักบิดคนโปรด)

3. แบรนด์ สแตนด์ (Brand Stand ) 2,000 บาท สำหรับกองเชียร์จากค่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำ ประกอบด้วย Honda, YAMAHA และ DUCATI (พร้อมสิทธิ์ลุ้นชิงโชคของรางวัลจากผู้สนับสนุน)

4. ไซด์สแตนด์ 2,000 บาท (ราคาสบายกระเป๋า)

▪️ ส่วนผู้ชมที่ต้องการซื้อเฉพาะบัตรชม Pre-Season Test ทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล วันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาจำหน่ายบัตร แบ่งเป็น บัตร Grand Stand ราคา 500 บาทต่อวัน หรือเหมา 2 วัน 900 บาท, บัตร VIP 5,000 บาท ต่อวัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสถิติการเปิดจำหน่ายบัตร “โมโตจีพี สนามประเทศไทย” ได้สร้างปรากฎการณ์และสถิติที่น่าสนใจอย่างมากในแต่ละปี โดยในครั้งนี้ก็มีกระแสเสียงเรียกร้องจากแฟนความเร็วในส่วนการเปิดจองบัตรแข่งขันในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

กกท.และคณะทำงาน ร่วมกับ “allticket” จึงได้กำหนดวันจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการทั่วโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2568 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซด์ allticket และในประเทศไทย ยังสามารถจับจองผ่าน Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ

คณะทำงานฯได้เตรียมการระบบต่างๆ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้แฟนๆ ที่จะจองบัตรในวัน เวลาดังกล่าวอย่างดีที่สุด โดยในปี 2024 ที่ผ่านมา หลังเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน ประเภทแกรนด์ สแตนด์ Sold Out ด้วยเวลา 03.12 นาที โดยในปี 2025 นี้

คาดการณ์ว่า ด้วยความพิเศษของ “บัตรชมโมโตจีพี” ที่สุดคุ้มถึง 2 ต่อ ได้ชม “Pre-Season Test” ฟรี รวมทั้งปรากฎการณ์แห่งการร่วมใจเชียร์นักบิดไทย จะทำให้บัตรชมการแข่งขันสนามประเทศไทย ประสบความสำเร็จในแง่ยอดจัดจำหน่ายสูงสุด เต็มทุกสแตนด์ที่นั่งอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างสถิติใหม่ขึ้นได้อีกครั้งแน่นอน

ราคาจำหน่ายบัตรในประเทศไทย จัดว่าถูกและคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากทุกภาคส่วนจัดเต็มมหกรรมความสนุก-ความบันเทิงทั้งในและนอกสนาม คอนเสิร์ต มวย ช้อป ชิม ศิลปวัฒนธรรม ด้วยเสน่ห์แบบไทยไทย ประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกบนผืนแผ่นดินไทยที่แฟนตัวจริงต้องห้ามพลาด


🇹🇭

Land Cruiser Mini ขายในไทยคาดว่าปังแน่!!Land Cruiser SUV Mini สร้างบนพื้นฐานของ Hilux CHAMP มีขนาดเล็กกว่า Fortuner มิติ...
22/12/2024

Land Cruiser Mini ขายในไทยคาดว่าปังแน่!!

Land Cruiser SUV Mini สร้างบนพื้นฐานของ Hilux CHAMP มีขนาดเล็กกว่า Fortuner มิติใกล้เคียง Corolla Cross ขนาดตัวถังภายนอกของ MINI Land Cruiser จะมีความกระทัดรัดกว่า Fortuner มิติตัวรถโดยประมาณ ยาว 4,410 มิลลิเมตร (ไม่รวมล้ออะไหล่ห้อยท้าย) กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สูง 1,870 มิลลิเมตร และมีความยาวฐานล้อ 2,580 มิลลิเมตร

ด้านขุมพลังขับเคลื่อน มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ เบนซิน 2.7 ลิตร 166 แรงม้า และดีเซล 2.8 ลิตร Turbo 204 แรงม้า ซึ่งยกมาจาก Hilux Champ นอกจากนี้อาจมีขุมพลังไฟฟ้า EV ให้เลือกด้วยเช่นกัน

ตามรายงานจากสื่อญี่ปุ่น Land Cruiser SUV ขนาด Mini จะเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 คาดราคาไม่เกิน 4 ล้านเยน หรือประมาณ 960,000 บาท ถ้ามาจำหน่ายไทยรวมภาษีต่าง ๆ คาคว่าราคาขายจะอยู่ในช่วง 1.19-1.29 ล้าน แต่ติดปัญหาด้านขั้นตอนการพัฒนาบางประการเลยทำให้กำหนดการเผยโฉมถูกเลื่อนออกไปก่อน..คาดว่าต้นปีหน้าเราคงมีความชัดเจนมากขึ้น



Automobili Lamborghini และตำรวจอิตาลี: 20 ปีแห่งความร่วมมือเพื่อให้บริการแก่ประเทศAutomobili Lamborghini และ “Polizia di...
21/12/2024

Automobili Lamborghini และตำรวจอิตาลี: 20 ปีแห่งความร่วมมือเพื่อให้บริการแก่ประเทศ

Automobili Lamborghini และ “Polizia di Stato” ของอิตาลีกำลังเฉลิมฉลองความร่วมมืออันน่าประทับใจและเสียสละเพื่อส่วนรวมครบรอบ 20 ปี ซึ่งเริ่มต้นในปี 2004 ด้วยการส่งมอบ Lamborghini Gallardo นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความร่วมมือนี้ทำให้ตำรวจอิตาลีได้รับประโยชน์จากยานยนต์สมรรถนะสูงหลายรุ่นซึ่งใช้เป็นเครื่องมืออันมีค่าในการลาดตระเวนและบริการตอบสนองทางการแพทย์ฉุกเฉิน โดยยานยนต์เหล่านี้ได้ปฏิบัติภารกิจขนส่งอวัยวะกว่า 200 ครั้งทั่วอิตาลี ซึ่งมีส่วนช่วยช่วยชีวิตในหลายกรณี นอกจากนี้ รถยนต์เหล่านี้ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนมากกว่า 1,500 ครั้งเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการขับขี่ที่ปลอดภัย

The Snowball – Automobili Lamborghini เฉลิมฉลองคริสต์มาสปี 2024 ด้วยข้อความแห่งความเข้มแข็งและการคืนดีAutomobili Lamborg...
21/12/2024

The Snowball – Automobili Lamborghini เฉลิมฉลองคริสต์มาสปี 2024 ด้วยข้อความแห่งความเข้มแข็งและการคืนดี

Automobili Lamborghini สานต่อประเพณีคริสต์มาสอันเป็นที่รักด้วย “The Snowball” วิดีโอสุดประทับใจที่เผยให้เห็นว่าการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงกระแสของเหตุการณ์และปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ของมนุษย์ได้อย่างไร

เรื่องราวนี้เล่าถึงเจ้าของ Lamborghini ที่ขณะขับรถ Revuelto[1] กลับบ้านเกิดในช่วงวันหยุด ได้เผชิญหน้ากับบุคคลในอดีตของเขา ซึ่งเป็นคนที่เมื่อครั้งยังเป็นชายหนุ่ม มักล้อเลียนและดูถูกเขาอยู่เสมอ ในทางกลับกัน ตัวเอกได้ตอบสนองด้วยการแสดงความเห็นอกเห็นใจซึ่งนำไปสู่การคืนดีจากใจจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าความกล้าหาญและความเมตตาสามารถเอาชนะความแตกแยกที่ลึกซึ้งที่สุดได้

“The Snowball” ถ่ายทอดภารกิจ “Driving Humans Beyond” ของ Lamborghini ได้อย่างสวยงาม โดยผสมผสานเวทมนตร์แห่งคริสต์มาสเข้ากับข้อความอันทรงพลังเกี่ยวกับผลกระทบของการตัดสินใจของเรา แสดงให้เห็นว่าการกระทำที่เรียบง่ายแต่มีความหมายสามารถกำหนดความสัมพันธ์ใหม่และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดอนาคตที่สดใสขึ้นได้อย่างไรด้วยเรื่องราวสากลเกี่ยวกับอารมณ์ ตัวละคร และวิสัยทัศน์นี้ Automobili Lamborghini เฉลิมฉลองคริสต์มาสปี 2024 โดยเน้นให้เห็นว่าบางครั้งการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถกลายเป็นการกระทำที่กล้าหาญอย่างยิ่งได้

“โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ชวนธุรกิจชุมชน “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้” ส่งหนังโฆษณาออนไลน์สุดกวน จุดประกายความสำเร็จ ต่อยอดจาก...
21/12/2024

“โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ชวนธุรกิจชุมชน “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้” ส่งหนังโฆษณาออนไลน์สุดกวน จุดประกายความสำเร็จ ต่อยอดจากองค์ความรู้ของโตโยต้า เพื่อพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ส่งแคมเปญ “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้” ชวนผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนทั่วประเทศ ร่วมพัฒนาธุรกิจ วางรากฐานการจัดการภายในด้วยนวัตกรรมทางความคิดจากองค์ความรู้ของโตโยต้า นำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์สุดกวน ชุด “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้ ธุรกิจยั่งยืนได้ กับ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” สามารถรับชมได้แล้ววันนี้

ภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ชิ้นล่าสุดจาก โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ชุด “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้ ธุรกิจยั่งยืนได้ กับ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” เล่าผ่านผู้ประกอบการธุรกิจทุเรียนทอดแห่งหนึ่ง ซึ่งเฝ้าฝันถึงผลกำไรที่ไม่เคยมี หลังเปิดกิจการมานานกว่า 10 ปี หลักในการทำธุรกิจมาจากบรรพบุรุษที่สอนให้ “มองการณ์ไกล” แต่ในความเป็นจริงโรงงานทุเรียนทอด ไม่เคยรู้ถึงต้นเหตุของปัญหาใกล้ตัวที่ทำให้ไม่มีผลกำไรเลย เช่น ระบบการจัดการธุรกิจของตนเองที่ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ขณะที่เจ้าของโรงงานทุเรียนทอดมองไปไกลถึงทางช้างเผือก เซ็นเซแห่งระบบการผลิตแบบ โตโยต้าก็ปรากฏตัว และมอบแนวคิดการแก้ปัญหาจากเรื่องใกล้ตัว จัดระบบการผลิต ตามแนวคิด KAIZEN (ไคเซ็น) คือการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางความคิดจากองค์ความรู้ของโตโยต้า ซึ่งโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ นำมาเป็นพื้นฐานตั้งต้น โดยผู้ประกอบการสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ง่าย พัฒนาให้ธุรกิจเกิดผลกำไร และเติบโตอย่างยั่งยืน

แนวคิดเบื้องหลังของการสร้างภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ชิ้นนี้ เกิดจากที่มาว่าธุรกิจส่วนใหญ่ที่อยากเติบโตไปได้ไกล สร้างผลกำไรที่มั่นคง มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากกว่าภายใน คิดทำแต่สิ่งใหม่ จนลืมนึกถึงการปรับปรุงแก้ไขสิ่งเก่าหรือปัญหาที่อยู่ภายในกระบวนการดำเนินธุรกิจของตนเอง ซึ่งแท้จริงแล้วรากฐานสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้ไกลอย่างยั่งยืนคือการมองให้เห็นปัญหาที่อยู่ใกล้และปรับปรุงพัฒนาระบบการจัดภายในให้มีประสิทธิภาพ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ จึงได้เกิดแนวคิดในการนำนวัตกรรมทางความคิดจากองค์ความรู้ของโตโยต้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาประยุกต์ใช้ ถ่ายทอดสู่ธุรกิจชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ อันจะเป็นการพัฒนารากฐานด้านเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง และเชิญชวนให้ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนเข้าร่วมเรียนรู้องค์ความรู้ดังกล่าว ตามแนวคิด “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้ ธุรกิจยั่งยืนได้ กับ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์”

ผู้ประกอบการที่กำลังประสบปัญหาด้านประสิทธิผลการผลิต การสต็อกสินค้า ต้นทุนจม การควบคุมคุณภาพของสินค้า รวมไปถึงการส่งมอบงานล่าช้า หรือผู้สนใจต้องการให้โตโยต้าช่วยศึกษาปัญหา แนะนำการแก้ไขตามวิธีการของโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ สามารถติดตามได้ที่ https://bit.ly/4eWMuXr พร้อมติดตามภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์สุดกวน ชุด “มองให้ไกล แก้ให้ใกล้ธุรกิจยั่งยืนได้กับโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์”ได้ทาง https://youtu.be/yuCF4CWWxPM?si=-WKofUz2Q9DcHLYk

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการฯ ได้ทาง

เฟซบุ๊คhttps://www.facebook.com/toyotasocialinnovation/
Tiktok@tsithailand https://www.tiktok.com/
เว็บไซต์ https://www.toyota.co.th/tsi/

#มองให้ไกลแก้ให้ใกล้ #โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์

โตโยต้า ส่งมอบศาลาอเนกประสงค์พลังงานแสงอาทิตย์ ต่อยอดโครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ เชื่อมโยงแหล่งท่องเท...
21/12/2024

โตโยต้า ส่งมอบศาลาอเนกประสงค์พลังงานแสงอาทิตย์ ต่อยอดโครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชนตะเคียนเตี้ยและชุมชนหนอง

นายสิริวิทย์ ปรีชาศุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนองค์กร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งมอบศาลาอเนกประสงค์พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมจักรยานไฟฟ้า ให้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลตะเคียนเตี้ย และชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลหนองปลาไหล เพื่อต่อยอด “โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” เชื่อมต่อการเดินทางจากพัทยาสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้ โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ณ เมืองพัทยา ที่โตโยต้าได้ร่วมมือกับพันธมิตร สร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ส่งเสริมเป้าหมาย “สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน” ภายใต้แนวทาง Multi Pathway เพื่อให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวได้ทดลองใช้งานในทุกรูปแบบการเดินทาง ประกอบด้วย การเดินทางระยะสั้น (Last mile) ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นซีพลัส พอด (C+Pod) การเดินทางระยะกลาง (Inter City) ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) การเดินทางระยะไกล (Long Distance) ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) รุ่นโตโยต้า มิไร ในรูปแบบรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา และ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ (Fixed Route) โดยการดัดแปลงรถกระบะไฟฟ้า Hilux Revo-e สำหรับทดลองให้บริการในรูปแบบรถสองแถว

ในการนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ตลอดจนเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจากเมืองพัทยาสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน โตโยต้าจึงได้ต่อยอดโครงการฯ ผ่านความร่วมมือกับตำบลตะเคียนเตี้ย และตำบลหนองปลาไหล ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพ ในบริเวณ อ.หนองปลาไหล จ.ชลบุรี อันมีความโดดเด่นในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่ส่งเสริมวิถีชีวิตชุมชน อาทิ การท่องเที่ยวสวนมะพร้าวตามแบบวิถีไทย การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

โตโยต้าได้มอบศาลาอเนกประสงค์ ที่ติดตั้งสถานีชาร์จจักรยานไฟฟ้า โดยใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ ในบริเวณชุมชนตะเคียนเตี้ย 1 จุด และบริเวณชุมชนหนองปลาไหล 1 จุด พร้อมส่งมอบจักรยานไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวก แก่นักท่องเที่ยว โดยเป็นการนำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการดำเนินโครงการ “ชุมชนสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” ซึ่งได้เคยส่งมอบศาลาอเนกประสงค์ แก่ชุมชนต้นแบบในจังหวัด ระยอง พิษณุโลก และลำพูน มาปรับใช้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดจนเศรษฐกิจของชุมชนตะเคียนเตี้ย และชุมชนหนองปลาไหล อันจะเป็นการเพิ่มความสุขแก่คนในชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

ช่องทางติดต่อเพื่อเข้าเยี่ยมชม

วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลตะเคียนเตี้ยเบอร์ 098-412-1712
ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลหนองปลาไหลเบอร์ 086-827-0768

ที่อยู่

บ้านกล้วยไทรน้อย
Nonthaburi
11110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66895193555

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Auto-Bike Motorsportผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Auto-Bike Motorsport:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์