Auto-Bike Mania ข่าวสารแวดวงยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ แล?
(1)

ฮอนด้า เอาใจแฟนคลับสายสปอร์ตต้อนรับปี 2567 เปิดจองสิทธิ์ “ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์” ครั้งใหม่ วันที่ 25 ม.ค. นี้ เริ่มเวลา...
24/01/2024

ฮอนด้า เอาใจแฟนคลับสายสปอร์ตต้อนรับปี 2567 เปิดจองสิทธิ์ “ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์” ครั้งใหม่ วันที่ 25 ม.ค. นี้ เริ่มเวลา 10:00 น. ผ่านเว็บไซต์ฮอนด้า

จากกระแสตอบรับที่ดีของแฟนๆ ฮอนด้าที่มีต่อ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ (Civic Type R) ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ต วันนี้ ฮอนด้าเอาใจแฟนคลับสายสปอร์ต ด้วยการประกาศเปิดรับจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ครั้งใหม่ อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 เริ่มเวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง www.honda.co.th โดย ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ ที่เปิดจองครั้งใหม่นี้ จะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป

ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ (Civic Type R) ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตที่ได้รับการออกแบบอย่างเหนือระดับ
ทั้งภายนอกและภายใน สะท้อนความสปอร์ตโดดเด่นเฉพาะตัวในทุกเส้นทาง และสะท้อนตัวตนได้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่สนุกสุดเร้าใจกับขุมพลังเทอร์โบ แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ได้รับการพัฒนามาสำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ โดยเฉพาะ มอบกำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ ครบครัน พร้อมจำหน่ายในราคา 3,990,000 บาท โดยมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก)

ลูกค้าที่สนใจสามารถสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.honda.co.th/civictyper

ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า TOU สำหรับใช้ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านช่วงปีที่ผ่านมารถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างรถยนต์ EV ได้รับความสน...
24/01/2024

ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า TOU สำหรับใช้ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

ช่วงปีที่ผ่านมารถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างรถยนต์ EV ได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเราจะเห็นได้จากยอดขายของแต่ละค่ายที่ส่งโปรดักส์ใหม่ ๆ ออกมาอย่างไม่ขาดสายกันเลยที่เดียว ก็เพราะด้วยสถานการณ์ของราคาน้ำมันที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย แถมยังเพิ่มขึ้นเป็นรายวันอีกต่างหาก คนเลยหันมาให้ความสนใจรถยนต์ EV กันมากขึ้น! แต่เรื่องสถานีชาร์ตไฟก็ยังเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยในด้านจำนวนสถานี หรือระยะเวลาที่ใช้ชาร์ตไฟแต่ละครั้ง! อันนี้ก็ค่อย ๆ แก้ไขกันไป ไม่ว่าจะในส่วนของเอกชน หรือทางภาครัฐเองก็ตาม
สำหรับสาระน่ารู้ที่จะนำมาฝากกันในวันนี้! จะเป็นการที่เราจะต้องชาร์ตไฟรถยนต์ EV ของเราเมื่อกลับมาถึงบ้านนั้นเอง เข้าเรื่องกันเลย คือเราจะใช้มิเตอร์ร่วมกันตัวบ้านเราไม่ได้นั้นเอง เราจะต้องดำเนินการไปขอมิเตอร์ไฟเพิ่มจากการไฟฟ้าที่เรียกว่า “มิเตอร์ TOU” นั้นเอง! เลยนำข้อมูลและขั้นตอนจากผู้ใช้ Facebook ท่านหนึ่งที่ไปดำเนินการขอติดตั้งมาฝากกันครับ เริ่มจาก.....

1. ไปที่ไฟฟ้าพื้นที่ เพื่อขอหม้อ TOU เอกสารที่จะต้องติดตัวไปมี บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน, ถ้าบ้านยังผ่อนอยู่หรือซื้อต่อคนอื่นมาต้องมีสัญญาซื้อขายไปด้วย, และบิลค่าไฟฟ้าเดือนไหนก็ได้ หรือมีแอพจ่ายค่าไฟก็ไม่ต้องใช้บิล
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาขอหม้อ TOU 30/100 1 เฟส เพื่อชาร์จรถไฟฟ้า ยื่นเอกสารตามข้อ 1 เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารนัดหมายให้ พร้อมเบอร์โทรช่างไฟฟ้าที่จะออกมาสำรวจที่บ้านเรา
3. เตรียมพื้นที่และเดินสายไฟฟ้าตู้เมนไฟฟ้าให้เรียบร้อย แนะนำอุปกรณ์ดังนี้
3.1 สายเมนประธาน จากเสาไฟฟ้ามาที่ตู้เมน ให้ใช้ส่ายทองแดง THW ขนาด 35sqmm. (ใครจะฝังดินหรือร้อยท่อก็ขอให้เลือกสายให้เหมาะสมนะครับ) ผมเดินลอยมาตามลูกถ้วยครับ
3.2 เมนเบรกเกอร์ 63 แอมป์ (เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 50-100 แอมป์ตามความเหมาะสม)
3.3 เซอร์กินเบรคเกอร์ขนาด 40 แอมป์ใว้ใช้กับเครื่องชาร์จไฟ
3.4 เซอร์กิตเบรคเกอร์ขนาด 30 แอมป์ใว้ใช้กับปลั๊กสามตา
3.5 ชุดปลั๊ก 3 ตา
3.6 สายไฟ THW ขนาด 1x6 sqmm. ประมาณ 1 เมตรใว้ใช้ต่อไฟในตู้เมน
3.7 สายกราวด์สี เขียวเหลือง ขนาด 1x6 sqmm. ประมาณ 1 เมตรใว้ใช้ต่อกราวในตู้เมน
3.8 สายกราวด์ THW ขนาด 10 sqmm. ใว้ต่อจากกราวด์ที่ตู้เมนไปลงแท่งกราวด์
3.9 ตู้เมนมาตราฐาน มอก. ที่สามารถใสทุกอย่างที่ว่ามาลงไปได้
3.10 แท่งกราวด์ ความยาว 2.4 เมตรขึ้นไป
4. แจ้งช่างมาติดตั้ง ชุดกันดูด RCB และเครื่องชาร์จไฟฟ้าให้เรียบร้อย
5. ต่อไฟเมน เดินสายไฟฟ้าไปทิ้งใว้ที่เสาไฟฟ้า และอุปกรณ์ในข้อ 4 ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้โทรแจ้งช่างไฟฟ้าออกมาสำรวจพื้นที่ ช่างไฟฟ้าจะขอดู spec sheet ของ เครื่องชาร์จไฟฟ้า และ RCB (เราสามารถขอได้ที่ช่างที่มาติดเครื่องชาร์จ หรือเซลล์ขายรถก็ได้ครับ)
6. ช่างไฟฟ้าจะคอนเฟิร์มให้เรา นำเอกสารนัดหมายในข้อ 2 ไปติดต่อชำระเงินที่การไฟฟ้า (ผมชำระค่าหม้อไป 4,700 บาทครับ)
7. สุดท้ายก็รอทางไฟฟ้ามาติดตั้งหม้อมิเตอร์ TOU ให้ เป็นอันเสร็จพร้อมใช้งาน

จากขั้นตอนข้างต้นดูเหมือนจะง่าย ๆ แต่ก็ยุ่งอยากตอนที่เราต้องเตรียมอุปกรณ์เพิ่มนี่แหละครับ! รู้เอาไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย หากท่านใดต้องติดตั้งก็ลองนำข้อมูลนี้ไปเป็นพื้นฐานได้ครับ คงไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่นัก!

หมายเหตุ : มิเตอร์ไฟที่ติดตั้งเป็นของรถยนต์ Deepal
ข้อมูลจาก/ภาพ : Wizart Kitcharoensutcharit : CHANGAN THAILAND

ปีนี้งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 งานเริ่ม 27 มีนาคม-7 เมษายน 2024 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทอ...
24/01/2024

ปีนี้งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล
มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 งานเริ่ม 27 มีนาคม-7 เมษายน 2024 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย จับมือ กรีนสปอต เปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า เดินหน้าสู่เส้นทางโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนดีเอชแอล ...
23/01/2024

ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย จับมือ กรีนสปอต เปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า เดินหน้าสู่เส้นทางโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน

ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก ร่วมกับกรีนสปอต ผู้ผลิตนมถั่วเหลืองชั้นนำของประเทศไทย เปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า 18 ล้อ เป็นครั้งแรก นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทสู่การสร้างสรรค์อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบนี้สามารถวิ่งได้ในระยะทางสูงสุดถึง 350 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งใช้เวลาชาร์จพลังงานเต็มประสิทธิภาพประมาณ 2 ชั่วโมง โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้ประมาณ 60 ตันต่อปี

การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้านี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในการขนส่งสินค้าของกรีนสปอต เพื่อให้มั่นใจว่าการขนส่งสินค้าทั้งภายในและภายนอกบริษัทจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเส้นทางการขนส่งสินค้าจะครอบคลุมตั้งแต่การขนส่งวัตถุดิบจากโรงงานผลิตขวดไปยังโรงงานกรีนสปอต หนองแค และรังสิต และขนส่งสินค้าจากโรงงานทั้งสองแห่งไปยังคลังสินค้าคลองหลวง หลังจากนั้น สินค้าจะถูกขนส่งไปยังผู้บริโภคผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดต่างๆ อาทิ บิ๊กซี โลตัส และ 7-11

รถขนส่งพลังงานไฟฟ้านี้จะถูกบริหารจัดการโดยศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการด้านการขนส่งของดีเอชแอล (DHL Connected Control Tower) โดยมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายมาใช้ อาทิ Paragon Route Optimization System, Transport Management System, Telematics และ DHL’s MySupplyChain digital platform

นายสตีฟ วอล์กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย กล่าวว่า “เรากำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้วยพลังงานสะอาดและยั่งยืนในทุกขั้นตอน ความร่วมมือของเรากับกรีนสปอตในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมของทั้งสองบริษัทที่มีร่วมกัน โดยเฉพาะความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่อแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าของเราถือเป็นเครื่องพิสูจน์อันเด่นชัดถึงความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะช่วยให้เราสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการวางแผนเส้นทางการเดินรถที่มีประสิทธิภาพและการส่งมอบสินค้าอย่างปลอดภัย โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ในทุกขั้นตอนการทำงาน”

นายโชติ โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรีนสปอต จำกัด กล่าวว่า “แนวทางการดำเนินงานของเราจะมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยด้านอาหาร และมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลักเสมอ การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าเพื่อขนส่งเครื่องดื่มของเราในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นไปอีกก้าวต่อการปฏิบัติงานที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือกับดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เราจะยังคงมุ่งมั่นนำโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการต่างๆ ของซัพพลายเชนอย่างต่อเนื่องต่อไป”

ความมุ่งมั่นของกรีนสปอตในด้านความยั่งยืน ยังครอบคลุมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ลดการสร้างขยะให้น้อยที่สุด และลดอัตราการใช้พลังงาน ด้วยความพยายามอันเต็มเปี่ยมและจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม บริษัทได้กำหนดเป้าหมายที่จะสร้างเสริมสุขภาวะและยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งผู้บริโภคและชุมชนในวงกว้าง นโยบายนี้สะท้อนผ่านการให้ความสำคัญต่อแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ และการมีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ต่อความเป็นอยู่ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

ปัจจุบัน ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย มีการนำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ามาใช้จำนวนมากและมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องในปี 2567 และปีต่อๆ ไป การนำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ามาใช้ขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่องนี้ สอดคล้องกับนโยบายการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transport Policy) ซึ่งเป็นแผนงานเชิงกลยุทธ์ในการใช้โซลูชั่นการขนส่งที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามแผนงานความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท นโยบายนี้ยังทำหน้าที่เป็นแบบแผนในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรถขนส่งโดยใช้ทางเลือกต่างๆ เพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาทิ การนำน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน (hydrotreated vegetable oil) ก๊าซชีวภาพ พลังงานไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์ไฮโดรเจน มาใช้ เป็นต้น ซึ่งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มนี้ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ตั้งเป้าที่จะปรับเปลี่ยนรถขนส่งประมาณ 2,000 คัน ทั่วโลกใปใช้พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ไทยฮอนด้า คว้ารางวัลธงธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมประจำปี 2566 ติดต่อกัน 6 ปี ซ้อน  บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย...
23/01/2024

ไทยฮอนด้า คว้ารางวัลธงธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมประจำปี 2566 ติดต่อกัน 6 ปี ซ้อน

บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เข้ารับรางวัลธงขาวดาวเขียว (Green Star Award) และรางวัลระดับดาวทอง (Gold Star Award) ในพิธีรับมอบธงธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมประจำปี 2566 จัดขึ้นโดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งทางไทยฮอนด้าได้รับรางวัลธงขาวดาวเขียวติดต่อกันมาถึง 6 ปี สะท้อนถึงการรักษามาตรฐานและความโปร่งใสของโรงงานได้เป็นอย่างดี
โครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม (ธงขาวดาวเขียว) เป็นโครงการที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบและกำกับดูแลโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยมีคณะกรรมการตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งเจ้าหน้าที่ กนอ. ตัวแทนชุมชนและหน่วยงานราชการท้องถิ่น ทางไทยฮอนด้าได้รักษามาตรฐานโรงงานโดยยึดหลัก
ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคมมาใช้ในการดำเนินงาน ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมิน 5 มิติ ประกอบด้วย มิติกายภาพ มิติเศรษฐกิจ มิติสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติการบริหารจัดการ โดยอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม สร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการโรงงาน

#ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #ธงธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย #ธงขาวดาวเขียว #ธงขาวดาวทอง
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #ไทยฮอนด้า

เติ้น ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ ประเดิมโพเดี้ยมแรกของปี 2024!!!  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เติ้น ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ หนุ่มน้อย...
22/01/2024

เติ้น ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ ประเดิมโพเดี้ยมแรกของปี 2024!!!

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เติ้น ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ หนุ่มน้อยนักแข่งสายเลือดไทย จากทีม PHM AIX Racing – AAS Motorsport โชว์ฟอร์มเดือดสุดมัน พารถหมายเลข 18 ลงสนามประลองความเร็วกับทัพรถสูตร (Formula) กว่า 30 คัน จนเข้าเส้นชัยพาธงชาติไทยขึ้นประเดิมโพเดี้ยมคว้าอันดับที่ 2 (P2) ในรายการแข่งขัน Formula Regional Middle East Championship 2024 (FRMEC) สนามที่ 2 ของ Round 2 ณ Yas Marina Circuit, UAE ไปครองได้อย่างยอดเยี่ยม

AAS Motorsport ชวนแฟนๆ เติ้น ทัศนพล และแฟนๆ ความเร็ว ปักหมุดเชียร์ ส่งกำลังใจ และติดตามข่าวสาร ภาพบรรยากาศแข่งขัน FRMEC 2024 กันต่อได้ที่ Facebook : AAS Motorsport และ Instagram : aas_motorsport

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย คว้าแชมป์ผู้นำตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเท...
22/01/2024

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย คว้าแชมป์ผู้นำตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จอีกครั้งด้วยผลการดำเนินงานในภาพรวมประจำปี พ.ศ. 2566 ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมยอดจดทะเบียนที่แข็งแกร่งทั้งในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและกลุ่ม Luxury Class ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมียมของประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการลงทุนในนวัตกรรมยานยนต์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าชาวไทย พร้อมนำเสนอการบริการที่เหนือระดับและการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ โดยรถยนต์ทั้งสองแบรนด์มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15,477 คัน เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นบีเอ็มดับเบิลยู 14,128 คัน และมินิ 1,349 คัน
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงผลงานความสำเร็จใน
ปี พ.ศ. 2566 ว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งมั่นในการผลักดันนวัตกรรมความเป็นเลิศทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความพยายามดังกล่าวสะท้อนออกมาให้เห็นเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน จากยอดจดทะเบียนรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากลูกค้าในประเทศไทยซึ่งยังคงให้ความไว้วางใจกับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในปีที่ผ่านมา เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งจากความสำเร็จที่พนักงานและผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทุกคนต่างมีส่วนช่วยให้เรายังครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์รถยนต์
พรีเมียมอีกครั้งในปี พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ เป้าหมายการขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนของเราก็ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยูยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไทย ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า และการก้าวสู่อนาคตของยานยนต์ที่มีความเป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น”
“กลุ่มรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นจากอัตราการเติบโตในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เพิ่มขึ้นสองเท่า (200%) จากปี พ.ศ. 2565 ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งหมด ที่ 1,604 คัน จากรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 6 รุ่น ที่เปิดตัวในตลาดประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3, บีเอ็มดับเบิลยู iX, บีเอ็มดับเบิลยู i4, บีเอ็มดับเบิลยู i5, บีเอ็มดับเบิลยู i7 และมินิ คูเปอร์ เอสอี ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์ในกลุ่ม Luxury Class ของบีเอ็มดับเบิลยู ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7, บีเอ็มดับเบิลยู i7, บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 8, บีเอ็มดับเบิลยู X7 และบีเอ็มดับเบิลยู XM ยังคงสร้างผลงานการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยยอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2566 ทั้งหมด 668 คัน เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อนหน้า สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิมียอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2566 รวมทั้งหมด 15,477 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 14,128 คัน และมินิ 1,349 คัน ส่งผลให้เรายังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งมาเป็นปีที่สี่ติดต่อกันในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งด้วยยอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2566 รวมทั้งหมด 1,079 คัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าในประเทศไทยที่ยังคงไว้วางใจและเลือกให้เราเคียงข้างในทุกการเดินทาง”
“การครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 4 ปีซ้อน ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการตอบโจทย์ลูกค้าและความทุ่มเทของพนักงาน ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรทุกรายในประเทศไทยของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับสูงสุดให้แก่ลูกค้า ช่วยเสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ดังจะเห็นได้จากรางวัลมากมายจากสื่อชั้นนำที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมทั้งในด้านการบริหารจัดการ ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ได้แก่ รางวัล 2023-2024 Thailand’s Most Admired Company ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 6 จากนิตยสาร BrandAge, รางวัล Thailand Top Company Awards 2023 ในหมวด Best Customer Focus Award จากนิตยสาร Business+, รางวัล Car and bike of the Year 2023 รวม 14 รางวัล จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรางวัล The Best of Luxury Electric Vehicle สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยู i7 จากนิตยสาร Robb Report ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูจะยังคงมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศต่อไปในทุกผลิตภัณฑ์และบริการของเรา เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” มร. บารากา กล่าว
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2566 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับโลก ด้วยยอดขายบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นยอดส่งมอบรวม 2,555,341 คันทั่วโลก เติบโตขึ้น 6.5% โดยรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 100% มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 74.4% จากปี พ.ศ. 2565 คิดเป็นยอดส่งมอบทั่วโลกรวม 376,183 คัน สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตอบรับเทรนด์พลังงานสะอาดที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่งทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มองว่าเทรนด์ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในหมู่ผู้ใช้งานจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป และคาดการณ์ว่าจะทำยอดขายได้กว่า 500,000 คัน ในปี พ.ศ. 2567 นี้ ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่โดดเด่นในปี พ.ศ. 2566 ตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยังคงมุ่งก้าวไปสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและมีความยั่งยืนต่อไปในปี พ.ศ. 2567 ทั้งนี้ ยอดจดทะเบียนอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมของไทยเป็นปีที่ 4 ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพ นวัตกรรมการออกแบบ และการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งกว่าใครของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ รวมทั้งตอกย้ำเป้าหมายในระยะยาวของบริษัทในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งมอบสุนทรียะแห่งการขับขี่ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ฉลองชัยบนโพเดียม ส่งท้ายการแข่งขัน Thailand Super Series 2023 สนามสุดท้ายที่บุรีรัมย์บริษัท...
22/01/2024

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ฉลองชัยบนโพเดียม ส่งท้ายการแข่งขัน Thailand Super Series 2023 สนามสุดท้ายที่บุรีรัมย์

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองความสำเร็จแห่งจิตวิญญาณการแข่งขันที่มุ่งมั่นสู่ชัยชนะที่เป็นดีเอ็นเอสำคัญของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยการคว้าตำแหน่งขึ้นฉลองชัยบนโพเดียม ปิดท้ายการแข่งขัน Thailand Super Series 2023 สนามสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นทั้งหมด 2 วัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยผลงานจากทีม A-Tech Ralliart Liqui Moly นำโดยนักแข่ง อ๊อป เอกลักษณ์ นาคเกิด รถหมายเลข 16 ที่คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ อันดับที่ 3 จากการแข่งขันใน Division 1 คลาส A ร่วมด้วยทีม Singha TT Motorsport นำโดยนักแข่ง มาร์ค จักรพันธ์ ตันกำเนิด รถหมายเลข 63 ที่คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ อันดับที่ 4 จากการแข่งขันใน Division 2 คลาส C ได้สำเร็จ จากการแข่งขันทั้งในสองวัน รวมทั้งหมด 4 รางวัล

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้นำลูกค้าคนพิเศษร่วมเชียร์การแข่งขันแบบวีไอพีติดขอบสนาม พร้อมจัดเต็มความสนุกกับกิจกรรมพิเศษมากมาย รวมถึง Meet & Greet อย่างใกล้ชิดกับนักแข่งรถของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นการปิดท้าย กิจกรรม “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เรซซิ่ง สปิริต สตรีท เซอร์กิต เอดิชั่น” (MITSUBISHI MOTORS RACING SPIRIT STREET CIRCUIT EDITION) อีกด้วย

เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ต มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยืนยันความพร้อมในฤดูการหน้า ที่จะเดินหน้าให้การสนับสนุนทีมแข่งเพื่อเข้าร่วมรายการ Thailand Super Series 2024 พร้อมยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยการส่ง ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ความแข็งแกร่งทนทาน และความสะดวกสบายด้วยมาตรฐานสูงสุดสำหรับรถแข่ง ให้แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ติดตามความสนุกเร้าใจกันอย่างต่อเนื่อง

อย่างเท่!
21/01/2024

อย่างเท่!

รอเลยคับ!
20/01/2024

รอเลยคับ!

🔥 อย่าลืม!! คืนนี้เรามีนัดกัน รับชมได้ตั้งแต่เวลา 00.00 น.
ดึกหน่อยแต่พรุ่งนี้วันหยุด ตื่นสายได้ แต่ตอนนี้ตื่นเต้นอยากเห็นแล้วว ❤️🏍🏁

Link ชมสด ⬇️
https://www.youtube.com/live/LnwQkfp2kzw?si=3FFTE1MUxzOCGW0w








เทศกาลรถแต่งระดับโลก โตเกียว ออโต ซาลอน 2024‘โตเกียว ออโต ซาลอน 2024’  ได้รับการยอมรับในฐานะงานแสดงรถแต่ง รถต้นแบบ ฯลฯ ท...
20/01/2024

เทศกาลรถแต่งระดับโลก โตเกียว ออโต ซาลอน 2024

‘โตเกียว ออโต ซาลอน 2024’ ได้รับการยอมรับในฐานะงานแสดงรถแต่ง รถต้นแบบ ฯลฯ ที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกและปีนี้ยังคงดึงดูดคนรักรถแต่งจากทั่วโลกเข้าชมงานจำนวนมากตลอด 3 วันของการจัดแสดง ณ Makuhari Messe เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงรวมตัวสุดยอดรถแต่งที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ด้านค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักแต่ง อุปกรณ์ตกแต่งชื่อดังมากมาย TOYOTA, MAZDA, ISUZU, HONDA, BMW, MITSUBISHI, NISSAN, SUZUKI, SUBARU, YAMAHA, Modellista, Liberty Walk, MUGEN, VeilSide, HKS, Blitz, TOM'S, TOP SECRET, W Work, Endless, Toyo Tires ฯลฯ สร้างเซอร์ไพร์สไฮไลท์จัดเต็มไม่ว่าจะเป็น การเปิดตัวรถแต่ง รถต้นแบบ รวมถึงแสดงนวัตกรรมจากค่ายรถยนต์ผู้ผลิตและแบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้ได้ชม และยังขับเคลื่อนวัฒนธรรมการแต่งรถซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของงาน โตเกียว ออโต ซาลอน สมกับเป็นผู้นำเทรนด์การแต่งรถของโลก เสริมทัพด้วยกิจกรรมมากมายทั้ง การประกาศรางวัลรถยนต์ ที่ชนะการแข่งขัน Tokyo International Custom Car Contest 2024, กิจกรรมนอกฮอลล์ ฯลฯ เรียกว่ายืนหนึ่งในเทศกาลของคนรักและหลงใหลรถแต่งได้เป็นอย่างดีโดยมีไฮไลท์สุดยอดรถแต่งจากค่ายรถต่างๆ ในงานดังนี้

TOYOTA สร้างความตื่นเต้นเร้าใจอีกครั้งด้วยการยกทัพรถของท่านประธาน อากิโอะ โทโยดะ มาให้ชมเป็นไฮไลท์ รวมถึงรถที่ได้รางวัลจากการประกวด Concept car category Grand Prize โดยรถที่ได้รางวัล คือ LBX MORIZO RR CONCEPT พร้อมโชว์รถแข่งจากทีม Toyota GR แบบครบทีม นอกจากนั้นได้มีการเปิดตัว Toyota Yaris GR แบบเกียร์ออโตเมติก เป็นครั้งแรกอีกด้วย เสริมทัพด้วยรถแข่งจากทีม Toyota GR ที่เพิ่งนำมาแข่งในประเทศไทย โดยรถที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ Toyota Prius Hybrid ในโครงการ Carbon Neutral Fuel ซึ่งมีนักแข่งคนไทยร่วมขับด้วย คือ คุณขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท True Leasing เป็นรถที่ได้คว้ารางวัลขึ้นโพเดี้ยมในประเทศไทยมาแล้ว

MAZDA ยกทัพมาในคอนเซ็ปต์ Mazda Spirit Racing โปรโมทการแข่งขันในมอเตอร์สปอร์ต โดยมีรถไฮไลท์เป็น MAZDA ROADSTER SPIRIT RACING เป็นการพัฒนารถมาสด้า Roadster (MX5) ให้มีความโดดเด่นและสมรรถนะดีขึ้นเพื่อการแข่งขัน พร้อมนำรถ Mazda 3 Spirit Racing มาโชว์พร้อมบูทคอนเซ็บต์ที่โดดเด่นเหมือนยืนอยู่ในสนามแข่งตามคอนเซ็ปต์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านของวิศวกรรมศาสตร์ยานยนต์และการดีไซน์ของ Mazda ที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

ISUZU เปิดตัวรถบรรทุกหกล้อขนาดกลาง ในรุ่น ELF ที่นำมาตกแต่งโชว์ถึง 2 แบบ คันแรกคือ ISUZU ELF FUTURE ACCESSORIES EDITION นำพื้นฐาน รุ่นต่อตู้มาตรฐาน ติดตั้งอุปกรณ์เสริมอาทิไฟเดย์ไลท์ DRL ใต้ชุดกันชน พร้อมเสริมสเกิร์ตหน้า ไฟบนหลังคาตู้ ชุดคิ้วล้อหลัง รวมถึง สปอยเลอร์หลังคา ลดการต้านอากาศและการหมุนวนของอากาศด้านท้ายของตัวรถและกระบะบรรทุก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมากขึ้น รวมถึงปรับห้องโดยสารภายในให้มีสไตล์มากขึ้น ในส่วนของรถอีกคัน ISUZU ELF MIO OUTDOOR EDITION นำพื้นฐานจากรุ่นสี่ล้อเล็ก ELF mio มาทำการตกแต่งให้โดนใจสายกิจกรรม โดยรถคันนี้สามารถนำไปจดทะเบียนในแบบรถยนต์นั่งปรกติ และสามารถใช้ใบขับขี่ปรกติในการขับขี่ได้

HONDA ได้นำรถ Fomula 1 สังกัดทีม Red Bull ที่คว้าแชมป์โลกด้วยการใช้เครื่องยนต์ HONDA สร้างความภูมิใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก พร้อมนำรถ Honda Civic Type R ซึ่งถูกพัฒนาโดย Mugen มาโชว์หลายรุ่น โดยรุ่นโดดเด่นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือ HONDA CIVIC TYPE R GROUP B ตกแต่งแบบจัดเต็ม ทั้งในส่วนของ AERODYNAMIC PART, ล้อ, เบรค, ท่อไอเสียใส่มาเต็มพิกัดในรถคันนี้ นอกจากนั้นยังมีการนำรถ Honda Civic RS ตัว MINORCHANGE มาให้ชมก่อนเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ ถือว่าเป็นอีกบูทที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

BMW ยกทัพรถ BMW M POWER ซึ่งพิเศษกว่าด้วยการตกแต่งจากชุดแต่ง M Performance ทำให้รถที่มีความพิเศษอยู่แล้วสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้มากกว่าทั้งในส่วนของ Aerodynamic, Engine Performance, Interior ได้รับการออกแบบมาเพื่อเอาใจแฟนๆ BMW หากแฟนๆ BMW ท่านใดสนใจแต่งรถ BMW ให้สุดๆ แบบในงานนี้สามารถเข้าไปติดต่อผู้ชำนาญการได้ที่ M TOWM BY MILLENNIUM AUTO เพียงเท่านี้ก็จะได้รถสุด ๆแบบในบูท BMW ในงาน

MITSUBISHI สานต่อตำนาน RALLIART ด้วยการยกทีมรถแข่ง Asia Cross Country ทั้ง Mitsubishi Triton และ Mitsubishi Delica ไปโชว์ในบูทอย่างยิ่งใหญ่อลังการ นอกจากนั้น ยังได้นำรถ Mitsubishi Triton มาตกแต่งเต็มในชื่อ Mitsubishi Triton, SNOW SHREDDER CONCEPT ที่ใส่อุปกรณ์ตกแต่งในสไตล์ รถกระบะอเนกประสงค์แบบออฟโรดลุยหิมะสุดคูล พร้อมจัดแสดง New Mitsubishi Triton Athlete สีส้มโดดเด่น เป็นรถที่ถูกประกอบในประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจบนบูท Mitsubishi ในปีนี้

NISSAN เปิดตัวครั้งแรกในโลกกับ ARIYA Nismo พร้อมโชว์รถจาก Nismo ครบรุ่น ไม่ว่าจะเป็น SKYLINE R35 MY2024 Nismo, SKYLINE NISMO (SEDAN) ที่ผลิตเพื่อขายในญี่ปุ่นเท่านั้น, FAIRLADY Z400 Nismo ทุกคันมากับสีเทา Nismo โดดเด่นด้วยชุดแต่งสีดำแบบ Piano Hi Gross Finishing ตกแต่งด้วยเส้นสีแดงตามเอกลักษณ์ ใส่ความพิเศษมาให้ในทุกส่วนทั้งภายนอกและภายใน สมแก่การรอคอยของแฟนๆ NISSAN ทั่วโลก

YAMAHA โชว์เทคโนโลยี Mobility Concept ในรถหลากหลายรุ่น ไม่เพียงแค่ รถมอเตอร์ไซค์ แต่ยังมี รถ UTV (รถวิบาก), รถสามล้อสมรรถนะสูง เพื่อแสดงถึง Lifestyle Mobility ของแฟนๆ YAMAHA อย่างแท้จริง พร้อมโชว์มอเตอร์ไซค์ รุ่น XSR 125 ABS เป็นไฮไลท์สำหรับแฟนๆ YAMAHA

SUZUKI บูทสีสันสดใสกับรถไฮไลท์ถูกใจแฟนๆ ปีนี้ดัน New Suzuki Swift โฉมใหม่ ด้วยสีเขียวสดใสตัดกับความสปอร์ตของล้อแม๊กซ์สีดำ อีกหนึ่งไฮไลท์ของบูทคือ Suzuki Super Carry ตกแต่งในคอนเซ็บต์ MT (Mountain Trail) เอาใจสายลุย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ในการแต่งรถให้แฟนๆ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากตลอดงาน

SUBARU ครั้งแรกกับการเปิดตัว Subaru WRX รุ่น S4 STI SPORT เอาใจแฟนๆ STI มาพร้อมกับรถ WRX STI, Subaru BRZ ทั้ง Super GT, Nurburgring Challenge Edition ซึ่งเป็นรถแข่งดีกรีระดับโลกทั้งสิ้น Subaru Forester ยังคงเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ของบูท ด้วยการนำมาตกแต่งใส่อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติ่มเพื่อให้รถมีประโยชน์การใช้สอยมากขึ้นโดนใจแฟนๆ สายลุยแน่นอน

พร้อมนับถอยหลังปรากฏการณ์ขีดสุดความมันส์แห่งปี โอกาสที่จะได้ชมรถแต่งระดับโลกจากโตเกียว ออโต ซาลอน อย่างใกล้ชิด, โปรโมชั่นพิเศษจากค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ กิจกรรมสุดเร้าใจมากมาย การรวมตัวของคอมมิวนิตี้คาร์คลับเมืองไทย เซ็กซี่คาร์วอช ฯลฯ ในงาน ‘แบงค็อก ออโต ซาลอน 2024’ มหกรรมแสดงและจำหน่ายยนตรกรรมพร้อมอุปกรณ์แต่งรถยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน (ASEAN’S BIGGEST MODIFIED AUTOMOTIVE SHOW AND SALE) ในเดือนมิถุนายน 2567 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง Facebook: Bangkokautosalon/ IG: BangkokAutoSalon/ TIKTOK: Bangkok Auto Salon/ Youtube: BangkokAutoSalon

เจฟ ซาเตอร์ - เคลียร์ – โลโมโซนิก นำทีมมอบความสุดไปกับคอนเสิร์ตมันส์ ๆพร้อมลุ้นมีตแอนด์กรี๊ด ณเดชน์ คูกิมิยะ และทรีแมนดา...
19/01/2024

เจฟ ซาเตอร์ - เคลียร์ – โลโมโซนิก นำทีมมอบความสุดไปกับคอนเสิร์ตมันส์ ๆ
พร้อมลุ้นมีตแอนด์กรี๊ด ณเดชน์ คูกิมิยะ และทรีแมนดาวน์ ในงาน ‘Honda A.T. Mega Fest 2024’



ไทยฮอนด้า เตรียมจัดงานมหกรรมครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ‘Honda A.T. Mega Fest 2024’ งานที่รวบรวมทุกความเป็นที่สุดของรถออโตเมติกฮอนด้าทุกรุ่น พร้อมดึงศิลปินชื่อดังระดับประเทศมาระเบิดความันส์ นำทีมโดยพรีเซนเตอร์ New Honda Giorno+ อย่าง ‘ณเดชน์-คูกิมิยะ’ และ ‘เจฟ-ซาเตอร์’ รวมถึงกิจกรรม Meet & Greet กับสุดยอดวงร็อก อย่าง ‘Three Man Down’ พร้อมขนทัพดารา ศิลปินอีกมาก อัดแน่นด้วยกิจกรรมให้ร่วมสนุกภายในงาน ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันจนถึงเที่ยงคืน วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2667 ณ ศูนย์การค้า Bravo BKK (Show DC เดิม)

ไฮไลต์ความมันส์ภายในงาน
• กิจกรรม Meet & Greet กับศิลปินชื่อดังอย่าง ‘วง Three Man Down’ และพรีเซนเตอร์ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยอย่าง ‘ณเดชน์-คูกิมิยะ’ ที่จะเปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้ร่วมลุ้นถ่ายภาพอย่างใกล้ชิดบนเวที
• คอนเสิร์ตที่สุดแห่งความมันส์จากศิลปินชื่อดังระดับประเทศ ‘เจฟ-ซาเตอร์’ และอีกสองวงร็อกLomosonic และ Klear พร้อมขนเพลงฮิตมาระเบิดความสนุกกันถึงที่
• มันส์ไปกับดนตรี EDM จาก DJ Sexy girl
• โชว์ขับขี่รถจักรยานยนต์ผาดโผนสุดเร้าใจ จากทีมสตั๊นท์มืออาชีพ
• เปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมขับขี่ทดสอบสมรรถนะรถจักรยานยนต์ออโตเมติกจากฮอนด้า
• พื้นที่โชว์รถแต่งออโตเมติกของฮอนด้าทุกรุ่น ที่เข้าร่วมแข่งขันจากสำนักแต่งชั้นนำของเมืองไทยกว่า 100 ร้านค้า และเปิดโอกาสให้ผู้เข้างานได้ร่วมโหวตคันโปรด

นอกเหนือจากความมันส์ภายในงานแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลุ้นรับของรางวัลมากมาย และสำหรับผู้ที่นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าของตนเองเข้ามาร่วมงาน สามารถนำรถจักรยานยนต์มาเลือกซื้ออุปกรณ์แต่งรถจากสำนักแต่งชั้นนำ พร้อมรับโปรโมชันส่วนลดสูงสุดถึง 80% มอบความพิเศษให้กับลูกค้าสาวกเอ.ที. โดยเฉพาะ

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงนามข้อตกลงมาตรการ EV 3.5 ร่วมมือภาครัฐขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมยืนยันไม่ปรับราคา OR...
19/01/2024

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงนามข้อตกลงมาตรการ EV 3.5 ร่วมมือภาครัฐขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมยืนยันไม่ปรับราคา ORA 07

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมลงนามข้อตกลงการรับสิทธิ์ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ในช่วง 4 ปี (ปี 2567 – 2570) สำหรับรถยนต์นั่งแบบพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้เกิดการขยายตัว และเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าและฐานการผลิตชั้นนำของอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค พร้อมยืนยันไม่ปรับราคา ORA 07 ทั้งสองรุ่น

หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติมาตรการ EV 3.5 และกรมสรรพสามิตออกประกาศเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเดินหน้าสนับสนุนมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้เข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงฯ มาตรการ EV 3.5 ณ ห้องประชุมราชวัตร ชั้น 5 กรมสรรพสามิต พิธีลงนามข้อตกลงฯ นี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เอกนิติ
นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ร่วมด้วย ว่าที่ร้อยตรีประยุทธ เสตถาภิรมย์ รองอธิบดี และ ดร.บัญชร ส่งสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี กรมสรรพสามิต โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ
เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำโดย มร.ไคล์ด เฉิง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ อาเซียน นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ และนางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงฯ ในครั้งนี้

มร.ไคล์ด เฉิง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ อาเซียน กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เข้ามาปลุกกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในไทยตั้งแต่ปี 2564 โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ORA อย่าง ORA Good Cat, ORA Good Cat GT และ ORA 07 นับเป็นความภาคภูมิใจของเราในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพ ดีไซน์โดดเด่น เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย การร่วมลงนามข้อตกลงฯ มาตรการ EV 3.5 ในครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นับเป็น
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแรก ๆ ที่ร่วมลงนามกับภาครัฐ ซึ่งความตั้งใจของเรานั้นสอดคล้องกับความตั้งใจของรัฐบาลที่มุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทย รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้ให้การสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ร่วมลงนามเพื่อเข้าร่วมในมาตรการ EV 3.0 และจะยังคงให้การสนับสนุนมาตรการ EV 3.5 ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ORA 07 รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูงที่เราเปิดตัวไปภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำความพร้อมของเราในการขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าไทย และเพื่อเป็นการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะไม่มีการปรับราคาขายปลีกของ ORA 07 ทั้งสองรุ่นที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 3.5 อย่างแน่นอน

เราต้องการให้ลูกค้าชาวไทยทุกท่านทั้งที่ซื้อไปก่อนหน้านี้และลูกค้าใหม่สามารถมั่นใจได้ว่าราคาที่เราตั้งไว้นั้นเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และสะท้อนถึงความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับอย่างแท้จริง”

ORA 07 รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง รุ่นเรือธงล่าสุดภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ ORA เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ มาพร้อมกับตัวเลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น LONG RANGE และรุ่น PERFORMANCE ทั้งนี้ ภายใต้นโยบาย EV 3.5 ORA 07 จะไม่มีการปรับราคาใด ๆ ทั้งสิ้น โดยราคาหลังหักเงินสนับสนุนของภาครัฐของ ORA 07 รุ่น LONG RANGE จะคงอยู่ที่ 1,299,000 บาท และราคาของ ORA 07 รุ่น PERFORMANCE ยังคงอยู่ที่ 1,499,000 บาท ซึ่งภายหลังจากการลงนามนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะทำการส่งมอบรถยนต์ ORA 07 อย่างต่อเนื่องให้กับแฟน ๆ ชาวไทย

นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มีการเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า New GWM ORA Good Cat จากโรงงานอัจฉริยะ เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นแบรนด์แรกที่ทำการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เพื่อชดเชยตามนโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ หรือ EV 3.0 อีกทั้งการผลิต New GWM ORA Good Cat ในประเทศไทยนี้ ยังถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทฯ ที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายนอกประเทศจีนได้เป็นครั้งแรกตามกลยุทธ์ “Ecological Go-Abroad” ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศอย่างรอบด้านตามความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่มีต่อประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังร่วมสนับสนุนการลงทุน การจ้างงาน และการพัฒนาศักยภาพของแรงงานไทย ด้วยการวางแผนใช้ชุดแบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ SVOLT ที่ได้เข้ามาลงทุนและตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับ New GWM ORA Good Cat รุ่นสายการผลิตในไทยนั้นมาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น PRO ในราคา 799,000 บาท รุ่น ULTRA ราคา 899,000 บาท และรุ่น GT ราคา 1,099,000 บาท แฟน ๆ เจ้าเหมียวไฟฟ้าที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ GWM application และเว็บไซต์ www.gwm.co.th ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ที่อยู่

บ้านกล้วยไทรน้อย
Nonthaburi
11110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66895193555

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Auto-Bike Maniaผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Auto-Bike Mania:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์


ผู้จััดพิมพ์เผยแพร่ อื่นๆใน Nonthaburi

แสดงผลทั้งหมด

คุณอาจจะชอบ