สื่อศิลปะร่วมสมัย

13/11/2023

ใน Instagram Day Thailand ทาง Meta ประเทศไทยได้เผยอินไซต์ผู้ใช้งาน Instagram ว่า ปัจจุบัน Instagram มีผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกและจำนวนมากเป็น ‘Gen Z’ และคน Gen Z นี่แหละที่เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมบางอย่างบนแพลตฟอร์ม IG
เพราะ Gen Z ไม่ได้อยากลงรูปสวย รูปสมบูรณ์แบบใน IG แต่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง มีความแปลกใหม่ ตรงไป ตรงมา ไม่ผ่านการปรุงแต่งและสนุก ให้ความสำคัญกับคนใกล้ชิด คนในสังคนเดียวกันและความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง
และยังมีอินไซต์น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ
- คน Gen Z ชอบลงสตอรี่ใน Close Friends มาก เฉลี่ยเเล้ว Gen Z ทั่วโลกลงสตอรี่ใน Close Friends มากถึง 700 ครั้งต่อวินาที
- คน Gen Z ชอบใช้ Notes (Status Message ที่จะอยู่บนสุดของหน้า Direct Message) มากกว่ากลุ่มคนวัยอื่นถึง 10 เท่า
- คน Gen Z ชอบลงรูปแบบ photo dump มาก
- คน Gen Z ชอบ Search หาคำคมสร้างแรงบันดาลใจเป็นอันดับ 1 พบมากถึง 45.8 ล้านโพสต์
- คน Gen Z ในไทยมีอันดับคอนเทนต์ที่ชอบดูบน Reels คือ คลิปวันหยุด คลิปการเดินทาง คลิปเต้น คลิป Behind the scene คลิปใช้ฟิลเตอร์ คลิปมีมต่างๆ และคลิปแมว
และที่สำคัญคือผลสำรวจพบว่า 52% ของ Gen Z เห็นด้วยว่า Instagram เป็นตัวช่วยในการคอนเนคชันและซื้อของออนไลน์ ขณะที่อีก 45% ชอบสั่งซื้อของผ่าน DM ด้วยการสนทนาตรงกับแบรนด์
สะท้อนให้เห็นแล้วว่ากลุ่ม Gen Z มีผลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจบน IG
‘ชวดี วงศ์พยัต’ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจในตลาดขนาดกลาง ของ Meta ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยว่า “คนไทยรุ่นใหม่กำลังเปิดใจต่อการซื้อของบน Instagram มากขึ้นเเละต้องการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับแบรนด์”
ทางผู้บริหาร Meta ยังบอกอีกว่า “การซื้อขายของออนไลน์จะทำแค่ตกแต่งหน้า Profile ไม่ได้อีกแล้ว แต่จำเป็นจะต้องทำให้ลูกค้าได้โต้ตอบ-มีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ เช่น Reels ขายสินค้า หรือการคลิกภาพเพื่อส่ง DM ไปสู่การซื้อขายทันที”
[ ครีเอเตอร์ไทยตามเทรนด์ Reels ‘ดาวหางฮัลเลย์’ มาอันดับ 1 ]
ด้าน 'ครีเอเตอร์ไทย' ตอนนี้ส่วนใหญ่หันมาทำ 'วิดีโอสั้น' มากขึ้นตามเทรนด์ โดยตอนนี้ Reels มีคนดูมากกว่า 2 แสนล้านครั้งต่อวันจากทั่วโลก ส่วนใหญ่ใช้เวลา 40% ในการดู Reels และคนไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกที่ใช้งาน Reels
โดยเพลงที่ถูกใช้ใน Reels มากที่สุดในไทย คือ
- ดาวหางฮัลเลย์ ของ Fellow Fellow
- ใจบาง ของ มอส รัศมี
- วาสนาผู้ใด ของ Parkmelody
- Right Now Feat. Crush ของ Cookie
- Love Lee ของ AKMU
- W.R.U ของ DIAMOND MQT
- 589-3375 ของ The Innocent
[ ฟีเจอร์ใหม่ IG เสนอสร้างรายได้ครีเอเตอร์ ]
- Branded Content และ Partnership Ads สร้างคอนเทนต์แบรนด์ผ่านเหล่าครีเตอร์ โดยที่สามารถ Tag หากันเพื่อสร้างการเข้าถึงที่มากขึ้น โดยจะสื่อไปถึงทั้งผู้ติดตามของแบรนด์และผู้ติดตามของครีเอเตอร์
- Instagram Subscriptions เหล่าครีเอเตอร์สามารถเปิดช่องให้แฟนๆ Subscribe เพื่อพูดคุยหรือสร้างคอนเทนต์สุดพิเศษให้กับแฟนๆ ได้โดยตรง
- Instagram Gifts กลุ่มแฟนๆ สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ Stars เพื่อส่งให้กับครีเอเตอร์
ทั้งนี้ Instagram ประเทศไทยยังคงจัดโครงการฝึกอบรม IG Academy เพื่อพัฒนาการตลาดดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการและยังมุ่งผลักดันให้ครีเอเตอร์สามารถต่อยอดความสนใจให้กลายเป็นอาชีพอีกด้วย

05/11/2023

05/11/2023

❝ผมคาดหวังว่าเรื่องต่อ ๆ ไป ไม่ใช่แค่ของผม อยากให้มาสนับสนุนจริง ๆ หน่อย ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูป คุณอาจจะไม่ได้เข้าใจหนัง #สัปเหร่อ จริง ๆ เลยก็ได้ แค่มาถ่ายรูป แล้วบอกว่า 'สัปเหร่อ' เป็น Soft Power
อย่างตัวผมเองยังไม่รู้ว่า Soft Power คืออะไร ตอนผมทำ ผมยังแบบ 'เอ๊า ! หนังผมเป็น Soft Power' เหรอ ผมยังไม่รู้เลย แต่ถ้าผมได้รู้ หรือได้ทำความเข้าใจว่า Soft Power คืออะไร หนังไปไกลกว่านี้ มี Soft Power จริง ๆ แน่นอน
ดังนั้น ถ้ามีการพูดคุยหรือเสวนาในวงการที่อยากจะเอา Soft Power เผยแพร่ต่อต่างประเทศ อยากให้พาไปจริง ๆ❞ - #ต้องเต 'ธิติ ศรีนวล' ผู้กำกับภาพยนตร์สัปเหร่อ
🎥 #จากจักรวาลไทบ้านสู่พลังอีสานสร้างสรรค์ ชวนมาตุ้ม มาโฮม มาโสเหล่นำกันเด้อ ชมสดเฉพาะออนไลน์ 13.00 – 15.00 น.
Facebook
• Thai PBS : http://fb.watch/o6WaWk9g6K
• อยู่ดี มีแฮง : http://fb.watch/o6WbLyraMH
• นักข่าวพลเมือง : http://fb.watch/o6WciGd_ke
• Localist : http://fb.watch/o6Wv1Do0Fx
• YouTube : http://youtu.be/MHAmTSjAFdY
• LINE : https://line.me/R/live/player?broadcastId=lpv24e69ba89ab02fd542c9e24f0f787b48&serviceType=lpxoal
🔴 พิเศษ! ชมสดสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมคอมเมนต์ส่งหัวใจได้รัว ๆ ผ่าน บน LINE เพิ่มเพื่อนเพื่อชมสดได้ที่ 👉 www.thaipbs.or.th/AddLINE
#ไทบ้าน #ไทบ้านเดอะซีรีส์

03/11/2023

สัปเหร่อ , ธี่หยด , ของแขก 3 ภาพยนตร์ผีไทยมาแรงบนโซเชียล กวาด 90 ล้านเอ็นเกจเมนต์ ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนที่ผ่านมา
ถือเป็นปีทองของภาพยนตร์ไทยก็ว่าได้ หลังจากที่ภาพยนตร์ผีไทย 3 เรื่อง ตบเท้าเข้าโรงฉายให้ได้หลอนกันรับวันฮาโลวีน ตั้งแต่เรื่องของแขก ที่เล่าถึงไสยศาสตร์และมนตร์ดำ, สัปเหร่อ อีกหนึ่งเรื่องในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ที่มาเล่ามุมมองอาชีพการเป็นสัปเหร่อ, และธี่หยด เรื่องหลอนที่เล่าบนกระทู้พันทิปจนกลายเป็นนิยายดัง ก่อนจะนำมาเล่าอีกครั้งในรายการ The Ghost Radio และกลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียลอีกครั้ง ซึ่งไม่กี่วันที่เข้าฉายแต่ละเรื่องก็สามารถโกยรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งแฮชแท็กในแต่ละเรื่องก็ติด X ในประเทศไทย กล่าวได้ว่า Soft Power ด้านภาพยนตร์และซีรีส์ของไทยในไปนี้ค่อนข้างมาแรง เป็นจุดขายที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ ให้กับประเทศไทยต่อทั้งคนไทยและผู้ชมทั่วโลก
บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้ทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน – 30 ตุลาคม 2566 ผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE พบว่า การพูดถึงภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องมีจำนวนมากกว่า 90,000 ข้อความ และกวาดเอ็นเกจเมนต์ไปสูงถึง 90 ล้านเอ็นเกจเมนต์เลยทีเดียว โดยมาจากช่องทาง Facebook คิดเป็น 48%, X (Twitter) คิดเป็น 22%, Instagram คิดเป็น 17%, YouTube คิดเป็น 6% และช่องทางอื่นๆ รวม 7%
โดยภาพยนตร์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์และการพูดถึงสูงสุด คือ 1. สัปเหร่อ (72.8 ล้านเอ็นเกจเมนต์) 2. ธี่หยด (15 ล้านเอ็นเกจเมนต์) และ 3. ของแขก (4.5 ล้านเอ็นเกจเมนต์) โดย 5 อันดับแฮชแท็กที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ได้แก่ 1. #สัปเหร่อ 2. #ธี่หยด 3. #ของแขก 4. 5. #ไทบ้านเดอะซีรีส์
เมื่อดูช่วงเวลาที่มีการพูดถึงสูงสุด พบว่าในวันที่ 26 ตุลาคม มีการนำเสนอข่าว ‘สัปเหร่อ’ รายได้ทะยาน 600 ล้าน และผู้กำกับอย่าง “ต้องเต” ก็ได้ออกมาโพสต์ขอบคุณผู้ชมเรื่องนี้ และในวันที่ 27 ตุลาคม ที่คุณหยาด เจ้าของเรื่องธี่หยด ตัวจริงร่วมรับชม ‘ธี่หยด’
นอกจากนี้ ในแต่ละเรื่องมีประเด็นบนโซเชียลที่พูดถึงแตกต่างกัน ไวซ์ไซท์ จึงขอหยิบยกประเด็นที่น่าสนใจ และสรุปออกมา ดังนี้
[สัปเหร่อ ภาพยนตร์ไทย Soft Power ที่น่าสนับสนุน ]
หลังนายกรัฐมนตรี ไปร่วมชมภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ในวันพุธที่ 25 ตุลาคม รอบเวลา 19.45 น. โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ไปร่วมชมด้วย พร้อมขอให้ทุกคนแต่งตัวจัดเต็ม ทั้งผ้าขาวม้า และโจงกระเบน โดยเรื่องสัปเหร่อมีบรรยากาศวัฒนธรรม และแสดงออกถึงความเชื่อท้องถิ่นทางภาคอีสาน จึงถือเป็นภาพยนตร์ Soft Power ที่มีศักยภาพ รัฐบาลจึงพร้อมสนันสนุนให้ก้าวไกลสู่สายตาโลก
ต้องเต ผู้กำกับที่มาแรงที่สุดในปีนี้
ก่อนหน้านี้เกิดกระแสดราม่าพิธีกรดัง กับต้องเต ธิติ จากคลิปเก่าเมื่อ 6 ปีก่อน จากการสัมภาษณ์และมีบางคำพูดไม่ให้เกียรติการแต่งกายต้องเตจนเกิดเป็นที่ถกเถียงกันทั่วโซเชียล แต่ล่าสุดต้องเต ก็ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับ 600 ล้านเรียบร้อย พร้อมกับถอยรถยนต์คันหรู ชาวโซเชียลหลายคนเห็นแล้วต่างเข้ามาแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม ล่าสุด มีภาพไวรัล ต้องเต แต่งหญิงและพาทีมงานรำบวงสรวงแก้บนหลังรายได้ทะลุ 700 ล้านไปแล้ว ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 10 ปี ถือว่าเป็นผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จอีกท่านหนึ่ง
‘ยื้อ’ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดดู 1 ล้านวิวในเวลาไม่ถึง 1 วัน!
นอกจากภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายแล้ว เพลงประกอบ ‘ยื้อ’ ซึ่งร้องโดยปรีชา ปัดภัย ศิลปินชื่อดังแดนอีสาน ก็มีกระแสตอบรับที่ดีทันทีเช่นกัน หลังปล่อยออกมา เจ้าของเพลงได้โพสต์ถึงความสำเร็จว่า "จบ 24 ช.ม 1,600,000 ไปต่อกันเล้ยย" แฟนๆ บนโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความยินดี และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก
[ธี่หยด]
ที่มาของคำว่าธี่หยด และคำอ่าน?
ยังคงเป็นที่ถกเถียงบนโลกโซเชียลว่าแท้จริงแล้วคำว่า ธี่หยด มาจากภาษาอะไร และหมายความว่าอะไร โดยล่าสุดอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ให้ความเห็นว่า ‘ธี่หยด’ มาจาก ‘แตะโหยด’ แปลว่า ยัก (เอว) จากแต่ก่อนที่ชาวโซเชียลคิดว่าแปลว่าเตี๊ยะหยด ที่แปลว่า ‘โอม’ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลออกมาแน่ชัดว่าจริงๆ แล้วมากจากคำว่าอะไร อีกประเด็นคือ คำอ่าน ‘ธี่หยด’ ต้องอ่านออกเสียงว่า ‘ที่หยด’ ไม่ใช่ ‘ถี่หยด’ ซึ่งมีคนออกมาทำคลิปให้ความรู้กันมากมาย
ดราม่าตัวละครไม่สมบาท
ชาวโซเชียลมองว่าตัวนักแสดงที่ถูกคัดเลือกมานั้นไม่เหมาะสมกับบทบาท เพราะหน้าตาเหมือนคนในเมืองมากกว่าคนต่างจังหวัด ทำให้ภาพยนตร์ขาดความเชื่อถือ หรือบางคอมเมนต์กล่าวว่า นักแสดงหน้าตาลูกครึ่ง แต่ในครอบครัวเดียวกันดันหน้าตาไปคนละทิศคนละทางเหมือนไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน แต่ก็มีบางส่วนที่โต้กลับว่า แท้จริงแล้วคนต่างจังหวัดมีหน้าตาแบบไหน เป็นเพราะสื่อหลักฉายภาพคนต่างจังหวัดหน้าตาไม่ตรงตามมาตรฐานความงามหรือเปล่า ทำให้คนติดภาพแบบนั้นไป
มีมล้อเลียนโปสเตอร์ธี่หยด
แน่นอนว่าภาพยนตร์ที่เป็นกระแสบนโลกโซเชียลมักถูกเอาไปทำมีมล้อเลียนขำขัน ธี่หยดก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นธี่ยิบ, ธี่แกท ธี่แพท หรือแบรนด์ที่เกาะกระแสเป็นประจำอย่างแดรี่ควีนก็ออกมาเล่นมุก สั่งถี่ อย่าหยุด หรือมุกตังค์หมด เงินหมดก็มีให้เห็นในทุกครั้ง และมีมที่ใครไปดูต้องอดขำไม่ได้อย่างรูปณเดชน์ที่สวมชุดเกราะพร้อมเป็นตัวแบกของเรื่อง
[ของแขก]
ดราม่าชื่อภาพยนตร์ ‘ของแขก’
มีชาวโซเชียลส่วนหนึ่งมองว่าคำว่าแขก ถือเป็นคำที่ถูกยัดเยียดให้ศาสนาใดศาสนาหนึ่งหรือไม่? เป็นเหมือนการแสดงเจตนารมณ์ทางลบต่อศาสนานั้นและทำให้ความเชื่อมั่นในศาสนานั้นลดลง แต่ก็มีหลายคนมองว่าชื่อเช่นนี้ก็เป็นการเรียกทั่วไปที่ทำกันมานานแล้ว
ข้อมูลจาก บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด

03/11/2023

02/11/2023

ครีเอทีฟวิดีโอสั้นอย่างไรให้ติดเทรนด์บน TikTok สรุปประเด็นจากงาน iCreator 2023
TikTok ถือเป็นสื่อออนไลน์ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในเวลานี้ ใครก็ตามที่อยากเป็นครีเอเตอร์ล้วนพร้อมใจโดดเข้ามาอยู่ในนี้กันอย่างมากหน้าหลายตา
โดยสถิติแล้วประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA Community) มีผู้ใช้งาน TikTok แบบแอ็กทีฟรายเดือนกว่า 326 ล้านคน และมี 15.2 ล้านบัญชีที่เป็นบัญชีทางธุรกิจด้วย ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมากมายเริ่มมองเห็นโอกาสและช่องทางใหม่ๆ สำหรับการสื่อสารคอนเทนต์ของตัวเองด้วย
โดยเป้าหมายของ TikTok ในปีนี้คือการเป็น Trusted Entertainment Platform ซึ่งเป็นการสร้างคอนเทนต์ที่นอกจากจะสนุกเวลาดูแล้วยังมีความน่าเชื่อถือพ่วงเข้ามาด้วย
เทรนด์หลักๆ ที่ TikTok แนะนำมีอยู่ประมาณ 7 เทรนด์
1. Gaming : มีวิดีโออยู่ 6 ล้านวิดีโอ และ 82,000 ล้านวิว นอกจากจะเป็นการแคสเกมแล้ว เทรนด์นี้ยังรวมไปถึงการรีวิวแกดเจ็ตต่างๆ ด้วย
2. Foodtainment : ิน มีวิดีโออยู่ 1.2 ล้านวิดีโอ และ 62,000 ล้านวิว การรีวิวอาหารและสถานที่กินถือว่ากำลังมาแรงมาก ถ้าจะติดเทรนด์นี้อย่าลืมปักโลเคชันจะช่วยได้มากขึ้นด้วย
3. Beauty & Fashion : มีวิดีโออยู่ 936,000 วิดีโอ และ 32,700 ล้านวิว เทรนด์รีวิวเครื่องสำอาง การแต่งหน้ายังคงเป็นที่นิยม แต่นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องการแต่งตัว และ Transform หรือ Before/After การแต่งหน้าแต่งตัวที่กำลังได้รับความนิยมด้วย
4. Entertainment : ันเทิง มีวิดีโออยู่ 217,000 วิดีโอ และ 8,000 ล้านวิว งานอีเวนต์ คอนเสิร์ต หรือกิจกรรมต่างๆ เวลาถูกแชร์บน TikTok จะได้รับความนิยมเป็นอย่างดี
5. Sports : ีฬา มีวิดีโออยู่ 95,000 วิดีโอ และ 5,900 ล้านวิว กีฬาถือว่าเป็นคอนเทนต์ที่มีฐานแฟนเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ฯลฯ ใครก็ตามที่ติดตามทีม หรือสนใจกีฬาประเภทนี้จะชอบเสำคอนเทนต์แบบนี้มากๆ
6. Lifestyle : #อ่านตามTikTok มีวิดีโออยู่ 45,000 วิดีโอ และ 605 ล้านวิว เทรนด์การอ่านหนังสือหรือแนะนำหนังสือกำลังได้รับความนิยมเยอะมากๆ สรุปเนื้อหาบางอย่าง ประเด็นที่คนกำลังสนใจ Tip & Trick และการแก้ไขปัญหาจากหนังสือ ทั้งแนว How-To, จิตวิทยา, ลงทุน หรือแม้แต่นิยาย มักจะมีคนที่ชื่นชอบหนังสือเหล่านี้อยู่เสมอ
7. Community : มีวิดีโออยู่ 875 วิดีโอ และ 17.7 ล้านวิว เทรนด์ใหม่ที่ทาง TikTok กำลังสนับสนุน เพื่อให้เห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม คนที่ใช้รถเข็นในสังคมใช้ชีวิตแบบไหน เวลาเดินทางต้องทำยังไง ฯลฯ เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่จะช่วยทำให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของทุกคนด้วย
สำหรับปี 2024 TikTok บอกว่ามี 2 อย่างที่จะเน้นมากๆ คือ
1. Shopping Trends : อย่างที่เราเห็นช่วงหลังๆ ที่นอกจากจะดูรีวิวสินค้าบน TikTok เพื่อความสนุกแล้ว เรายังสามารถกดซื้อสินค้าได้เลยจากตรงนั้น ถือเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานและเป็นการสร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับหลายคนด้วย
2. 1 Minute+ Videos : ต่อไปทาง TikTok จะผลักดันวิดีโอที่มีความยาวมากกว่า 1 นาทีมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาจากสถิติแล้ว
- ผู้ใช้งานใช้เวลามากกว่า 50% บนคอนเทนต์ที่มีความยาวมากกว่า 1 นาที
- วิดีโอที่มีความยาวมากกว่า 1 นาที มีคนดูมากขึ้น 41%
- เวลารวมทั้งหมดที่คนดูคอนเทนต์ยาวกว่า 1 นาทีเพิ่มขึ้น 31%
- ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่สร้างวิดีโอยาวมากกว่า 1 นาที มีผู้ติดตามเติบโตขึ้นมากถึง 5 เท่า
ส่วนประเภทของคอนเทนต์ที่เหมาะสำหรับวิดีโอที่มีความยาวมากกว่า 1 นาที ทาง TikTok ก็แนะนำว่าอาจจะลองทำ Tutorial, Vlog, Challenge, พากิน หรือ ท่องเที่ยวก็ได้เช่นกันครับ
#2024

30/10/2023

Casting Call!!!
👉ข่าวดีสำหรับท่านที่สนใจงานแสดง
โครงการละครชุดฮัลโหลไทยแลนด์ เปิดรับสมัครคัดเลือกนักแสดง
สำหรับท่านที่มีภูมิลำเนาและอาศัยอยู่ ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

👉ละครเรื่อง อมรพิมาน (ภาคกลาง)
👉ละครเรื่อง ออนแอร์หรรษา บ้านนาโฮแซว (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

สนใจศึกษารายละเอียดและกรอกใบสมัครในแบบฟอร์ม ตามเอกสารนี้ค่ะ
หรือ สแกนคิวอาร์โค๊ด สมัครออนไลน์ได้เลยค่ะ
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์
#ฮัลโหลไทยแลนด์


https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfjWtcILiNP58THgTHy4j0UatOf3pltyaSOYifP7zIz9Sk7Mw/viewform?usp=pp_url

03/10/2023

> 11 ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

นับหนึ่งอย่างเป็นทางการแล้ว! วันนี้ 3 ต.ค. 66 เวลา 14.55 น. การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 ณ ติกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีการนำเสนอ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลชุดปัจจุบัน ประกอบด้วย

1. อาหาร (ครัวไทยสู่ครัวโลก)
2. กีฬา (มวยไทย)
3. เฟสติวัล
4. ท่องเที่ยว
5. ดนตรี
6. หนังสือ
7. ภาพยนตร์
8. ศิลปะ
9. เกม
10. ออกแบบ
11. แฟชั่น

03/10/2023

มีรายงานจากเว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี Android Authority ว่าตอนนี้ TikTok กำลังทดสอบรหัสภายในแอป เป็นแผนการสมัครสมาชิกรายเดือนแบบไม่มีโฆษณา ตั้งราคาที่เดือนละ 4.99 ดอลลาร์ หรือเกือบ 200 บาท
ทางเว็บไซต์ Android Authority บอกว่าในแอป TikTok เวอร์ชั่นล่าสุด พบข้อความระบุเงื่อนไขการเก็บข้อมูลเพื่อทำโฆษณา และเสนอตัวเลือกอีกทางคือ จ่ายเพื่อไม่ให้เห็นโฆษณา แนวเดียวกับป๊อบอัพบน YouTube
ปฏิเสธได้ยากว่า TikTok เป็นผู้สร้างเทรนด์ใหม่ของโลกโซเชียล จนกลายเป็นคู่แข่งของแพลตฟอร์มที่อยู่มานานอย่าง Facebook และ Instagram ซึ่งเมื่อมีคนใช้เยอะ การแสดงโฆษณาถี่ๆ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับแพลตฟอร์มวิดีโอ
และ TikTok ไม่ใช่โซเชียลมีเดียเจ้าแรก หากทำบริการรายเดือนขึ้นมาจริงๆ เพราะ X หรือในชื่อเก่า Twitter ทำมาก่อนแล้วในชื่อ X Premium
จริงๆ แล้ว TikTok ขับเคลื่อนด้วยโฆษณาเป็นส่วนใหญ่ มีกลไกการแบ่งรายได้บางอย่างให้ครีเอเตอร์ และยังมี Live Subscription ที่ให้แฟนคลับ เปย์ครีเอเตอร์โดยตรง
ฟีเจอร์จ่ายรายเดือนของ TikTok ยังอยู่ในช่วงทดลอง และยังไม่มีประกาศใดๆ จาก TikTok ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่า TikTok จะล้มเลิกแผนการ หรือไปต่อ
ที่มา https://www.androidauthority.com/tiktok-testing-ad-free-monthly-subscription-plan-3370353/

03/10/2023

📚 How to สร้างคอนเทนต์ BookTok
แค่รักการอ่าน ก็เป็นครีเอเตอร์ได้❗️
ใครจะไปเชื่อว่า แพลตฟอร์มคลิป ‘สั้น’ อย่าง TikTok จะทำให้คนอยากอ่านหนังสือ ‘ยาว ๆ’ ได้ จึงนับเป็น ปรากฎการณ์ของโลกวรรณกรรมในยุคดิจิทัล เมื่อครีเอเตอร์จำนวนมากลุกขึ้นมาทำคอนเทนต์อ่านหนังสือคืนชีพอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ เรื่องราวนี้มีที่มาอย่างไร วิธีการเป็น BookToK ต้องทำยังไง วันนี้ทาง RAiNMaker จะมาสรุปให้ฟังกัน!
📘 คืออะไร ❓
BookTok คือหนึ่งใน ยอดนิยมบนแพลตฟอร์ม TikTok โดยมีจุดเริ่มต้นจากคุณ Cait Jacobs บล็อกเกอร์สาวที่ใช้เวลาช่วงกักตัวจากโรคระบาด ผันตัวมาเปิดแอคเคาท์ TikTok ในชื่อ และเริ่มลงคลิปสั้นแนวหนังสือ จนกลายเป็นเทรนด์ฮิต และเกิดครีเอเตอร์จากทั่วโลกหยิบหนังสือมาทำคลิปสั้น และนำเสนอในหลายแง่มุม
ผ่านการเล่าฉากที่ตนเองชื่นชอบ อวดโฉมหน้าปกหนังสือที่สวยงาม ถ่ายรีแอ็กชันตอนอ่านหนังสือ การแสดงสวมบทบาทเป็นตัวละครในนิยาย หรือการแนะนำหนังสือที่ทำให้ตลก ร้องไห้ และตกหลุมรัก จนเกิดเป็นชุมชนออนไลน์ให้เหล่าหนอนหนังสือได้รวมตัวและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยหนังสือยอดนิยมของ BookTok มักจะเป็นนวนิยายโรแมนติก โลกแฟนตาซี และวรรณกรรมวัยรุ่น
📙 ดีอย่างไร ❓
ปัจจุบัน มียอดผู้ชมสูงถึง 103,000 ล้านวิว กลายเป็นโอกาสให้คนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือจากทั่วโลกสามารถกลายเป็นครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียง และสร้างรายได้จากการอ่านหนังสือ อาทิ การรับงานรีวิวหนังสือ หรือเชิญชวนให้คนกดซื้อหนังสือแลกกับค่าคอมมิชชัน เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของเหล่านักเขียนหรือผู้จัดจำหน่ายหนังสือทั้งรายใหญ่และรายย่อยก็สามารถทำยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งมีที่มาจากกระแสแนะนำหนังสือใน จนให้คนเกิดความรู้สึกอยากตามหาซื้อหนังสือมาอ่าน อย่างในบูธงานหนังสือของ Asia Books ที่เคยจัดแยกประเภทหนังสือ BookTok ไว้เฉพาะสำหรับคนที่ต้องการล่าซื้อหนังสือที่เป็นไวรัลบน BookTok
โดยตามรายงานของ NPD BookScan ได้เปิดเผยว่า ในปี 2021 หนังสือพิมพ์เล่มได้สร้างยอดขายแตะ 825 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2004 เช่นเดียวกันกับหนังสือแนววรรณกรรมเยาวชนที่มียอดขายโตสูงขึ้น 729% ตลอดช่วงเดือนกรกฎาคม 2019 ถึงเดือนมิถุนายน 2022 รวมไปถึงหนังสือเก่า ๆ หลายเล่มที่กลับมาเป็นกระแสได้อีกครั้งจากการถูกพูดถึงใน นี้
📗 บูมที่ไหน ❓
ดังและเป็นกระแสอย่างมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะในฝั่งของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ทาง TikTok ได้จับมือร่วมกับสำนักพิมพ์ชื่อดังอย่าง Penguin Random House สนับสนุนสังคม BooKTok ด้วยการสร้างฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานปุ่ม “เพิ่มลิงก์” และค้นหาหนังสือมาแปะไว้บนหน้าของวิดีโอ เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถกดไปที่ลิงก์เพื่อไปสู่หน้าต่างใหม่และดูรายละเอียดของหนังสือ
นอกจากนี้ TikTok ในสหราชอาณาจักร ยังเผยว่า BookTok คือหนึ่งชุมชนที่มีการใช้งานมากที่สุด พร้อมกับสร้างฟีเจอร์ใหม่ชื่อ TikTok Book Club เพื่อเป็นพื้นที่ของชุมชนคนรักการอ่านบน TikTok ให้ผู้ใช้งานได้มาร่วมอ่าน วิพากย์วิจารณ์หนังสือใหม่ในแต่ละเดือนของ hub
ถึงแม้ จะไม่ได้โด่งดังมากในไทย แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ถือเป็นข้อดีที่ทำให้คอนเทนต์แนวนี้มีความสดใหม่และเป็นช่องว่างสำหรับครีเอเตอร์ในไทย นี่จึงอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่เป็นนักอ่านและต้องการแบ่งปันเรื่องราวของหนังสือให้ทุกคนได้สนุกร่วมกัน
📖 ตัวอย่างครีเอเตอร์ BookToK
ในช่วงเวลาเพียง 1-2 ปี ได้มีครีเอเตอร์นักอ่านจำนวนมากเกิดขึ้น และนำประเด็นของหนังสือในหลายมุมมานำเสนออย่างสร้างสรรค์และชวนติดตาม อย่างเช่น ผู้ใช้ TikTok นามว่า ที่เป็นหนึ่งในแอคเคานท์แนวหนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดบน TikTok ด้วยผู้ติดตามกว่า 9 แสนคน เธอมีวิธีการทำคลิปที่ชวนตลก ขำขัน สามารถนำประเด็นหนังสือมานำเสนอได้หลายแนว ทั้งประสบการณ์เลือกซื้อหนังสือ รีแอ็กชันต่อเหตุการณ์ในหนังสือ หรือการถ่ายทอดมุมมองต่อหนังสือที่ได้อ่าน
หรือ หญิงสาวจากแคลิฟอร์เนียที่ใช้ความชื่นชอบในการอ่าน เปลี่ยนเป็นคอนเทนต์แนะนำหนังสือ และประสบการณ์ที่เธอได้รับการอีบุ๊กที่อ่าน และ ครีเอเตอร์ที่นำหนังสือมาใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างคอนเทนต์ เช่น แนะนำไฮไลท์ขีดหนังสือ การตั้งเป้าหมายอ่านหนังสือ เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างผู้ติดตามได้มากกว่า 500K คน
📕 วิธีเริ่มต้นเป็น BookTok
การเป็น BookTok ก็เหมือนกับการทำคอนเทนต์แนวอื่น ๆ ซึ่งต้องมีการเตรียมตัวที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงรู้จักสิ่งที่ตัวเองจะสื่อสารให้กับผู้รับชม โดยเราสามารถสรุปข้อแนะนำของการเริ่มต้นเป็น BookTok ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้
✅ ตั้งเป้าหมาย – ขั้นเริ่มต้นคือการตอบคำถามตัวเองให้ชัด ว่าคาดหวังอะไรจากการทำ BookTok หากต้องการทำเพื่อเป็นงานอดิเรก สนองความสนุกของตนเอง คุณก็อาจจะไม่ต้องทุ่มเทเวลา หรือเงินในการทำคอนเทนต์มากนัก แต่หากคาดหวังให้ตนเองประสบความสำเร็จ หรือได้หารายได้จากเส้นทางของ BookTok คุณต้องเริ่มวางแผนการทำคอนเทนต์อย่างจริงจัง เพื่อสร้างเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างคนอื่น ๆ
✅ หาหนังสือแนวที่ชอบ – คุณจะเป็น BookTok ไม่ได้เลย หากไม่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ ซึ่งทั่วไปแล้วคลิปสั้นที่โด่งดังใน BookTok มักจะมาจากหนังสือแนววรรณกรรม ที่มีเรื่องราวดราม่า หวานซึ้ง และน่าตื่นเต้น แต่ทั้งนี้ หนังสือแนวอื่น ๆ ก็สามารถนำมาพูดถึงได้ หากคุณรู้สึกว่าหนังสือเล่มนั้นมีความสนุกและต้องการนำแบ่งปันให้ทุกคนรู้จัก การเริ่มต้นจากแนวหนังสือที่คุณชอบอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณจะมีความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดมันออกมาในคอนเทนต์หลาย ๆ แนวได้ดีกว่าใคร รักการอ่าน ก็เป็นครีเอเตอร์ได้
✅ เตรียมอุปกรณ์ถ่ายทำ – ข้อดีของคอนเทนต์แนวนี้ คือคุณไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านไปเก็บภาพที่อื่นไกล แต่สามารถถ่ายได้จากมุมหนังสือในบ้าน หรือถ่ายตัวของคุณที่กำลังอินกับหนังสือสักเล่ม สิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ในการทำคอนเทนต์แนวนี้จึงมีเพียงกล้องสมาร์ตโฟน และหนังสือ แต่ทั้งนี้ หากคุณต้องการให้คลิปออกมาสวยงาม ก็สามารถใช้การจัดแสง หรือจัดมุมสวย ๆ ในบ้าน ให้ตัวคุณและหนังสือออกมาโดดเด่นและต่างจากช่องอื่น ๆ ก็ได้
✅ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ – ถึงแม้คอนเทนต์ในแนวนี้จะมีเนื้อหาวนเวียนกับหนังสือ แต่คุณสามารถใช้ไอเดียต่อยอดการนำเสนอได้หลากหลายแนว ทั้งการเจาะลึกตัวละครในนิยาย ลองเล่นสวมบทบาทเป็นพระเอก หรือแบ่งปันคำคมเท่ ๆ ในหนังสือ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เอฟเฟกต์ใน TikTok ร่วมกับการตัดต่อเพลง จังหวะภาพ การใส่ข้อความประกอบ ก็สามารถช่วยให้เกิดความเพลิดเพลินในการรับชมและทำให้คนกดติดตามช่องได้
อ้างอิง : preply, basmo, publishingperspectives
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/how-to-become-and-create-booktok/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page : Rainmaker
→ Website : www.rainmaker.in.th
→ Twitter : www.twitter.com/rainmakerth
→ Youtube : https://bit.ly/2XHVlbJ
------------------------------
📣 งานมหกรรมรวมตัวครีเอเตอร์ชั้นนำของไทย “iCreator Conference 2023 Presented by SUPALAI: The Power Of NEXT Gen”
“
📅 1 พ.ย. 66 📍 BITEC
📌 ซื้อบัตร Early Bird #3 ราคา 2,200.- (จาก 3,500.-) https://www.eventpop.me/e/15624

03/10/2023

ลิขสิทธิ์ 9 ประเภท ที่คน Creative ต้องรู้และระวัง!
เรื่องลิขสิทธิ์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ ซึ่งลิขสิทธิ์ไม่ได้มีแค่เรื่องของชื่อเท่านั้น แต่ลิขสิทธิ์ยังรวมไปถึงเรื่องของการใช้ภาพ เสียงและวิดีโออีกด้วย โดยเฉพาะเหล่า Creative ที่ยังไงก็หลีกหนีไม่พ้นเรื่องการใช้ภาพ เสียงและวิดีโอมาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตชิ้นงานให้กับลูกค้า
นอกจาก Creative ต้องรู้เรื่องลิขสิทธิ์แล้ว คนทั่วไปรวมไปถึงเหล่า Creator ทั้ง YouTuber หรือ TikToker ควรต้องทราบเรื่องลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้นมา โดยสามารถแบ่งลิขสิทธิ์ออกได้เป็น 9 ประเภทหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น
◾ Literary Works หรือลิขสิทธิ์ทางด้านวรรณกรรม ไม่ว่าจะเป็นบทความต่างๆ หรือเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ รวมไปถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ก็ถูกจัดอยู่ในประเภทวรรณกรรม และเนื้อหาคำกล่าวสุนทรพจน์ต่างๆ ที่มีการเคยกล่าวไว้

◾ Dramatic Works หรือลิขสิทธิ์ทางด้านศิลปะท่าทางต่างๆ แต่ท่าทางการเต้น ท่าทางการร่ายรำ รวมไปถึงท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

◾ Artistic Works หรือลิขสิทธิ์ทางด้านศิลปกรรมที่เป็นภาพวาด ภาพถ่าย งานออกแบบต่างๆ

◾ Musical Works หรือลิขสิทธิ์ทางด้านดนตรี ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้องหรือเสียงประสาน ทำนองต่างๆ

◾ Sound Recording หรือลิขสิทธิ์ทางด้านโสตทัศนวัสดุ ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงหรือวิดีโอ อย่าง DVD VCD แผ่นเสียง คาราโอเกะ

◾ Film & Video Works หรือลิขสิทธิ์ทางด้านการเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น ภาพยนตร์

◾ Broadcasts หรือลิขสิทธิ์ทางด้านการบันทึกเสียงหรือบันทึกรายการทีวี

◾ Published Editions หรือลิขสิทธิ์ในด้านสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ บทประพันธ์หรือตำราต่างๆ อย่าง หนังสือเรียน

◾ Other หรือลิขสิทธิ์อื่นใด ในแผนกวิทยาศาสตร์ เช่น สูตรทางวิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ เช่น ลวดลายการเพ้นท์ร่างกาย
.
ซึ่งทั้ง 9 ประเภทลิขสิทธิ์นี้ถือเป็นลิขสิทธิ์พื้นฐานที่มีใช้กันทั่วโลก
.
📍อ่านบทความที่ : https://www.marketingoops.com/marketing-tech/copyright-must-to-know/

02/10/2023

01/10/2023

https://www.dailynews.co.th/news/2766597/

การแข่งขันในโลกแห่งอนาคตได้มีการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยประเทศไทยมีมุ.....

28/09/2023

18/08/2023

📣 18 - 20 สิงหาคม 2566 (3 วัน 3 อารมณ์)
กับกิจกรรมก่อนการเปิดตัว เทศกาลหนังเมืองคอน (ก่อนไปเมืองคานส์) ในปีหน้า 2567

🎯 ททท พร้อมเสิร์ฟให้ท่าน
กับกิจกรรม Thai Films Soft Power ตอน หนังเมืองคอน
ผลักดันภาพยนตร์ไทย โชว์ความเป็นไทยไปทั่วโลก

🎯 ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ซีเนม่า
เซ็นทรัล นครศรีธรรมราช (โรง 4)

✅ วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566 เวลา 13.00 น
♥️ เรื่อง "สีดา ตำนานรักโลงคู่"

✅ วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566 เวลา 15.30 น
♥️ เรื่อง "เทริด"

✅ วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566 เวลา 13.00 น
♥️ เรื่อง "สะพานรักสารสิน 2216"

นานเท่าไรแล้ว 🍑 ที่ไม่เคยเข้าโรงภาพยนตร์
นานเท่าไรแล้ว 🍑 ที่ไม่ได้กินข้าวโพคคั่ว
นานเท่าไรแล้ว 🍎 ที่ไม่ได้พาคนที่คุณรัก

🍇 มาทำกิจกรรมร่วมกัน 🌶 ร่วมหัวเราะ 🤭 ร่วมสนุก

*** ลงทะเบียนเข้าชมภาพยนตร์ที่ลิงก์นี้ https://forms.gle/RuShmFeXsHbG2rUb9

*** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/thailandsoftpower



#เทศกาลหนังเมืองคอน

14/07/2023

》เครื่องมือสำหรับการเลือก Keyword สำหรับตั้งชื่อสินค้าเพื่อรองรับการค้นหาในการทำ SEO ติดอันดับบนหน้า Google
______
ทุกวันนี้ผู้คนส่วนมากใช้ Search Engine อย่าง Google ในการค้นหาสินค้าและบริการก่อนที่จะทำการซื้อมากกว่าช่องทางอื่น ๆ โดย Keyword ที่เราควรนำมาใช้ในการตั้งชื่อสินค้าเพื่อรองรับการค้นหาให้ติดอันดับบนหน้า Google ที่สำคัญคือคำ ๆ นั้นต้องมีคนใช้ค้นหาจริง
📌 สำหรับเครื่องมือที่ใช้สำหรับหา Keyword แบบง่าย ๆ อยู่ 2 เครื่องมือด้วยกันคือ
1. Google Trends - เครื่องมือฟรีจาก Google ที่เราสามารถดูได้ว่า ณ ตอนนี้มี Keyword อะไรที่กำลังเป็นกระแส รวมถึงเปรียบเทียบได้ว่า Keyword คำไหนที่มีคนเสิร์ชมากกว่ากัน
2. Ubersuggest - เครื่องมือทำ SEO ที่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรี ซึ่งเราสามารถเช็คปริมาณการค้นหาของแต่ละ Keyword ได้ง่าย ๆ มีความละเอียดมากกว่า Google Trends
ตัวฟรีจะสามารถใช้วิเคราะห์ Keyword ได้วันละ 5 ครั้ง หากคุณเป็นคนที่ตั้งใจจะทำ SEO จริ ง ๆ สามารถซื้อแพ็กเกจแบบ Lifetime หรือถาวรได้ ถือเป็นเครื่องมือ SEO ที่มีราคาถูกและคุ้มที่สุด
เมื่อเราได้ Keyword มาตั้งชื่อสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทำจนติดอันดับแล้ว แนะนำว่าไม่ควรเปลี่ยน เพราะมันอาจส่งผลให้อันดับหน้านั้นตกลงได้ และหากต้องการให้ติดอันดับใน Keyword อื่น ๆ เพิ่มเติม ให้เราโฟกัสที่การใส่คำอธิบายสินค้าแทน....................................................
#การตลาด #การตลาดออนไลน์ #การตลาดออนไลน์ครบวงจร #การตลาดดิจิทัล #คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง #เอเจนซีการตลาด #สื่อศิลปะร่วมสมัย©️

13/07/2023

》ทำ SEO ให้ติดอันดับบน Google
______
เป้าหมายคือการสร้างยอดขายที่ไม่ใช่การโฟกัสแค่หน้าแรกของเว็บไซต์ แต่ให้ความสำคัญกับ SEO ในทุก ๆ หน้า โดยเฉพาะหน้าที่สามารถสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างหน้าเพจสินค้า ซึ่งหากเราสามารถทำให้หน้าสินค้าติดอันดับ Google ได้ ก็จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสการขายให้กับธุรกิจได้อย่างมาก...........
✔︎ 1. ปรับแต่ง URL ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย
การทำ URL ให้เป็นมิตร (Friendly URL) หรือการทำให้ลิงก์ของเราให้เหมาะกับการใช้งาน หลายคนที่ทำเว็บไซต์ E-Commerce ลงข้อมูลสินค้า ใส่ชื่อ ราคา รายละเอียดสินค้าเรียบร้อยก็พร้อมขายทันที แต่บางคนกลับลืมสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่งนั่นก็คือการปรับแต่ง URL...........
✔︎ 2. ตั้งชื่อสินค้าให้รองรับการค้นหา
การทำ SEO ในหน้าสินค้าคือ "การตั้งชื่อสินค้า" ซึ่งมันจะเป็นตัวกำหนดเลยว่าสินค้าของเราจะติดอันดับใน Keyword อะไรบนหน้า Google
สำหรับหลักการตั้งชื่อสินค้าที่ดีสุดที่สุดคือ

‣ Keyword (คำค้นหา): เป็นตัวกำหนดว่าเราต้องการให้สินค้าชิ้นนี้ติดอันดับ Keyword อะไร

‣ คุณสมบัติต่าง ๆ (ชื่อแบรนด์, สี, ขนาด ฯลฯ): เพื่อให้หน้าสินค้ารองรับการค้นหาแบบ Long tail keywords หรือการค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น

‣ จำนวนที่เหมาะสมกับการตั้งชื่อจะอยู่ที่ 60 ตัวอักษร: เพื่อไม่ให้ชื่อสินค้าที่แสดงอยู่บน Google Shopping Tab หรือ Google Shopping Ads ถูกตัดออกไป...........
✔︎ 3. การใส่คำอธิบายสินค้า
คำอธิบายสินค้าคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้หน้าเพจของเรามีโอกาสติดอันดับบน Google มากยิ่งขึ้น และยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการเพิ่มโอกาสปิดการขายให้กับเว็บไซต์อีกด้วย
สำหรับหลักในการใส่คำอธิบายสินค้ามีดังนี้

‣ มี Keyword แทรกอยู่ระหว่างคำอธิบายสินค้า
เช่นเดียวกับการตั้งชื่อสินค้า คำอธิบายเองก็ควรมี Keyword แทรกอยู่ด้วยเช่นกัน หากเรามี Keyword อื่น ๆ นอกเหนือจากคำหลักที่เราใช้ตั้งชื่อสินค้า เราก็สามารถนำมาแทรกอยู่ในคำอธิบายแทนเพื่อให้หน้าสินค้านั้นมีโอกาสติดอันดับ Keyword อื่น ๆ ได้เพิ่มเติม

‣ ควรมีเนื้อหาไม่ตำกว่า 300 คำ
การเขียนคำอธิบายแบบละเอียด หรือจำนวนคำมาก ๆ ยังช่วยให้เราสามารถแทรก Keyword ลงในคำอธิบายสินค้าได้มากขึ้นอีกด้วย

‣ หลีกเลี่ยงการใช้คำอธิบายซ้ำกัน
สินค้าบางชิ้นอาจมีคุณสมบัติที่คล้ายกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกัน แต่เมื่อสินค้านั้นเป็นคนละชิ้นกัน หรืออยู่กันคนละหน้าเพจ เราก็ไม่ควรใช้คำอธิบายเหมือนกัน ให้พยายามใส่รายละเอียดที่บอกถึงความแตกต่างของสินค้าชิ้นนั้นเข้าไปเพิ่มเติมด้วย...........
✔︎ 4. ใช้ภาพประกอบสินค้า
การใส่ภาพประกอบในคำอธิบาย ไม่เพียงช่วยในเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าของเราเห็นภาพชัดเจน และตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่นภาพสินค้าในมุมต่าง ๆ หรือตัวอย่างการใช้งาน เป็นต้น
ในมุมของการทำ SEO นั้น Google ยังมองว่าเนื้อหาที่มีภาพประกอบจะช่วยให้ผู้ชมเว็บไซต์ หรือลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถทำ SEO ให้กับภาพประกอบของเราได้ด้วยการใส่ Alt Text หรือการใส่คำอธิบายให้กับรูปภาพ เพิ่มโอกาสให้ภาพประกอบสินค้าของเราได้มีโอกาสติดอันดับบนหน้า Google Image Search ช่วยสร้าง Traffic และลูกค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง...........
✔︎ 5. เลือก Heading Tag ให้เหมาะสม
การจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาจะช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ อ่าน และทำความใจกับสินค้าของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเราควรใช้ Heading Tag ให้เหมาะสมกับแต่ละหน้าที่ของมัน ไม่ใช่แค่ทำให้หัวข้อนั้นเด่นขึ้นมาอย่างเดียว แต่จะเป็นการติดโค้ดสำหรับกำหนดหัวข้อไว้อีกด้วย ให้ Bot ของ Google ที่เข้ามาเก็บข้อมูลทราบว่า อะไรคือหัวข้อหลัก หัวข้อรอง และเนื้อหา
นอกจากนี้ การใส่ Keyword ไว้ในหัวข้อที่เป็น Heading Tag ยังช่วยให้ Google โฟกัส Keyword ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสติดอันดับให้กับหน้าสินค้าของเรา...........
✔︎ 6. ปรับแต่ง Meta Title และ Description
Meta Title และ Description เป็นข้อความที่จะแสดงอยู่บนหน้าผลการค้นหาของ Google เมื่อมีคนเสิร์ช Keyword เพื่อค้นหาข้อมูล ซึ่งการเขียนข้อความที่ดีควรเขียนข้อความที่แสดงจุดเด่นสินค้า ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หรือสินค้าของเราแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างไร หากเราเขียนข้อความให้มีความน่าสนใจ ดึงดูด ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิกให้กับเว็บไซต์ของเรามากขึ้น
ที่สำคัญควรใส่ Keyword ลงไปใน Title และ Description ด้วย เพราะการใส่ Keyword ใน Title นั้นจะมีผลต่ออันดับ SEO โดยตรง ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือการเขียนไว้ที่ส่วนหน้าสุดของข้อความ ซึ่ง Keyword ที่อยู่ในส่วนของ Description นั้นจะเป็นการเน้นคำเพื่อให้คนเสิร์ชสามารถสังเกตได้ง่ายยิ่งขึ้น....................................................
#การตลาด #การตลาดออนไลน์ #การตลาดออนไลน์ครบวงจร #การตลาดดิจิทัล #คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง #เอเจนซีการตลาด #สื่อศิลปะร่วมสมัย
____________________________
[Code: CAM_mkagency083B]©️

12/07/2023

》6 แอปพลิเคชันที่ออกแบบมาคล้าย Twitter
______
เมื่อไม่กี่วันมานี้ Mark Zuckerberg ได้เปิดตัว Threads แอปพลิเคชันใหม่ที่ทำมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Twitter โดยมีการใช้งานและฟังก์ชั่นที่แทบจะเหมือนกับ Twitter เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นอกจาก Threads แล้ว ยังมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ที่คล้ายกับ Twitter ได้แก่...........
📌 1. Bluesky
แพลตฟอร์มน้องใหม่ที่แทบจะเป็นฝาแฝดกับ Twitter โดยอดีต CEO จาก Twitter ซึ่งหากมองเผิน ๆ หลายคนอาจนึกว่านี่เป็นแอปพลิเคชันนกฟ้าหรือเปล่า? แต่จริง ๆ แล้ว นี่คือ Bluesky โซเชียลมีเดียที่เคยเปิดตัวในปี 2019 ในนามของ Twitter
จนกระทั่งแยกออกมาเป็นอิสระ และถูกเพิ่มใน App Store ไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Jack Dorsey อดีตผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Twitter นั่นเอง
ตัวแอปมีความคล้ายกับ Twitter หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ อินเตอร์เฟซ ไปจนถึงลักษณะการใช้งาน ที่สามารถโพสต์ข้อความได้สูงสุด 256 ตัวอักษร ใช้ส่งอีเมล เขียนบล็อก และโทรด้วยเบอร์มือถือได้ แต่แม้จะมีให้ดาวน์โหลดใน App Store ได้แล้ว ตัวแอปก็ยังไม่ได้เปิดให้ใช้อย่างเต็มรูปแบบในขณะนี้
ผู้ใช้งานใหม่ต้องมีโค้ดเชิญ (Invite Code) ที่ต้องขอใหม่ทุก 2 สัปดาห์ และในระหว่างเข้าใช้งานก็จะประเมินความน่าเชื่อถือของ User เพื่อป้องกันสแปมและคัดกรองมิจฉาชีพอีกด้วย...........
📌 2. Mastodon
แพลตฟอร์มแบบ Decentralized ที่สร้างเซิฟเวอร์เองแบบไร้การควบคุม และใครก็ซื้อไปไม่ได้ โดยตั้งแต่ Twitter เริ่มออกกฎใหม่ที่หลายคนขัดใจมาเรื่อย ๆ Mastodon ดูจะเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพูดถึงมากขึ้น และอาจกลายเป็นเซฟโซนแห่งใหม่ของชาวเน็ตแทน Twitter
สำหรับใครที่คิดถึงโซเชียลมีเดียแบบเก่า ๆ แอปนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก เพราะเนื้อหาที่ขึ้นฟีดจะอิงตามลำดับเวลาของผู้ที่เราติดตามเท่านั้น แถมยังไม่มีโฆษณาคั่นและโพสต์แนะนำ ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ ไม่ได้ต่างจากโซเชียลมีเดียทั่วไปเท่าไร
สำหรับความพิเศษอยู่ที่การเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่มีศูนย์กลาง (Decentralized) ซึ่งบุคคลหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่สามารถควบคุมได้ เพราะฉะนั้นหมดกังวลเรื่องถูกใครเข้าซื้อกิจการแล้วมาเปลี่ยนกฎการใช้งานให้ยุ่งยากกว่าเดิม...........
📌 3. Minds
สามารถใช้งานได้อิสระ โดยไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวและ IP Address สามารถโพสต์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ใส่แฮชแท็ก และคอมเมนต์ได้ตามใจ หากชอบคอนเทนต์ไหน สามารถกดปุ่ม Remind ที่ใช้งานเหมือนปุ่ม Retweet ได้ด้วย
นอกจากนี้ การที่ตัวแอปเองจะไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริง เบอร์โทรศัพท์ หรือแม้แต่หมายเลข IP Address ของผู้ใช้งาน และวิธีการสมัครที่ง่าย เพียงกรอกชื่อ รหัสผ่าน และอีเมล เมื่อยืนยันอีเมลแล้วก็สามารถเข้าใช้งานได้เลย
แต่ด้วยความง่ายและไม่ระบุตัวตนของผู้ใช้งาน จึงทำให้หลายคนกังวลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงตอนเทนต์ที่โพสต์อาจส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือหน่วยงานอื่นได้ จึงอาจจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใช้งานในระยะยาว...........
📌 4. Gettr
แอปที่ให้เสรีภาพในการโพสต์ เมนต์ แชร์ โดย Jason Miller อดีตเลขาธิการและโฆษกของ Donald Trump อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 45
หากดูจากภายนอกจะไม่เห็นถึงความแตกต่างจาก Twitter เท่าไร เพราะมีหน้าตาคล้ายกับแอป Twitter มาก แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ การให้เสรีภาพในการโพสต์ คอมเมนต์ ปักหมุด และแชร์คอนเทนต์ได้อย่างอิสระ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการสนับสนุนกลุ่มคนอนุรักษ์นิยมในสหรัฐอเมริกานั่นเอง...........
📌 5. Hive Social
แพลตฟอร์มที่รวมจุดเด่นของ Twitter และ Instagram มาไว้ในที่เดียว โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การไม่จำกัดจำนวนตัวอักษร สามารถโพสต์สั้นหรือยาวแค่ไหนก็ได้ เปิดให้คนมากดติดตามและคอมเมนต์กันได้เต็มที่โดยไม่มีโฆษณาคั่น ส่วนเนื้อหาที่ขึ้นฟีดก็จะอิงตามลำดับเวลาเหมือนกับ Mastodon
อีกไฮไลต์ของแอปคือการเพิ่มเพลงลงในหน้าโปรไฟล์ได้ นอกจากนี้ตัวแอปยังให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI คัดกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับความรุนแรงและการละเมิดเด็ก อีกทั้งไม่สนับสนุนข้อความที่สื่อถึงความเกลียดชังทุกรูปแบบ...........
📌 6. Tumblr
ฟีเจอร์หลักอยู่ที่การโพสต์ข้อความ ซึ่งจะคล้ายกับการเขียนบล็อกสั้น ๆ และหากเราชอบบล็อกของใครก็สามารถกดปุ่ม Reblog ที่ทำหน้าที่เหมือน Retweet ใน Twitter แถมยังสามารถโพสต์ในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น รูปภาพ เสียง วิดีโอ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังมีการอัปเดต Trending Blogs จากครีเอเตอร์ที่น่าสนใจและแฮชแท็กที่กำลังเป็นกระแสเพื่อให้เราคลิกเข้าไปอ่านบล็อกจากแฮชแท็กได้อีกด้วย....................................................
#การตลาด #การตลาดออนไลน์ #การตลาดออนไลน์ครบวงจร #การตลาดดิจิทัล #คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง #เอเจนซีการตลาด #สื่อศิลปะร่วมสมัย
____________________________
[Code: CAM_mkagency082B]©️