ออนไลน์นิวส์

ออนไลน์นิวส์ ออนไลน์นิวส์ ถ่ายทอดสด ข่าวออนไลน์
เวบไซต์ https://www.online-news.biz โทรศัพท์ 0619544294

ออนไลน์นิวส์ ข่าวออนไลน์
สื่อสร้างสรรค์บนเวบไซต์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ไปยังผู้ชมทั่วโลก เพื่อลดภาวะโลกร้อน ด้วยการไม่ต้องใช้กระดาษพิมพ์หนังสือ แต่นำเสนอข่าวผ่านสื่อออนไลน์ ชมภาพ ฟังเสียง ดูคลิปภาพเคลื่อนไหวได้ทันที ในยุคโลกไอทีสมัยใหม่ ก้าวไกลทุกวินาที ดูฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องติดจานรับดาวเทียม ไม่ต้องจ่ายค่ารายเดือน รับชมได้ทั้ง คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ที่
https://www.online-news.biz

หลวงพี่น้ำฝน เข้มตรวจสอบประวัติ พระบวชใหม่วัดไผ่ล้อม เน้นทางธรรม สร้างภาพลักษณ์สร้างศรัทธาต่อญาติโยมหลวงพี่น้ำฝน เดินหน้...
10/11/2024

หลวงพี่น้ำฝน เข้มตรวจสอบประวัติ พระบวชใหม่วัดไผ่ล้อม เน้นทางธรรม สร้างภาพลักษณ์สร้างศรัทธาต่อญาติโยม

หลวงพี่น้ำฝน เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการบวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเข้มเน้นการตรวจสอบประวัติทุกมิติของผู้เข้าสมัครในโครงการ ก่อนจะสานต่อพิธีการบวชดั้งเดิมให้คงอยู่เป็นไปตามมาตรฐานและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ส่วนหลังจากเป็นพระภิกษุจะมีการผลักดันให้เรียนรู้ทางด้านพระธรรมคำสั่ง การบาลี การปฎิบัติหน้าที่ภายในวัด โดยเน้นการวางตัวให้เหมาะสมเป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธาของญาติโยม ท่ามกลางกระแสดราม่าของวงการผ้าเหลืองในโลกโซเชียลทุกวันนี้

วันที่ 10 พฤศจิกายน 67 ที่ลานหน้าโดมที่ประดิษฐาน พระองคุลิมาลเถระ วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการเปิดโครงการอุปสมบทหมู่ วัดไผ่ล้อม ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2567 โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการออุปสมบทหมู่ พร้อมด้วยญาติโยมและเจ้าภาพที่ขอเป็นผู้สนับสนุนโครงการเข้าร่วมในพิธีร่วมกันตัดผมให้พ่อนาค ด้วยบรรยากาศชื่นมื่นอิ่มบุญโดยพร้อมเพรียง

โดยในช่วงเริ่มพิธี หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้มีการกล่าวให้ศีลและพรซึ่งได้มีการแจ้งให้กับพ่อนาคและญาติโยมที่มาร่วมในพิธีได้ทราบถึง วัตถุประสงค์ในการจัดโครงการดังกล่าวซึ่งเป็นโครงการที่วัดไผ่ล้อมได้ขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน โดยเป็นการบวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังได้มีการแนะนำถึงขั้นตอนและหลักการในการศึกษาเรียนรู้หลักพระธรรมคำสั่งสอนขณะที่อยู่ในวัดไผ่ล้อม โดยพระภิกษุสงฆ์ทุกรูป จะต้องมีบทบาทหน้าที่ในการทำงาน รวมถึงจะต้องหมั่นศึกษาทางทำให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้

สำหรับช่วงนี้หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมได้มีการ วางมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบประวัติต่างๆของผู้เข้าร่วมบวชในโครงการยังเคร่งครัด เป็นไปตามหลักการที่จะต้องมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม การตรวจโรค และการตรวจสอบสภาพจิตใจ เพื่อให้ผู้ เข้าร่วมพิธีบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ตามคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการบวช เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันรูปแบบสังคมได้มีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงมีสภาวะที่จำเป็นต้องเข้มงวดคัดสรรให้ผู้เข้ารับ คัดเลือกในโครงการเป็นบุคคลที่ที่มีความพร้อมสามารถที่จะศึกษาทางทำและสืบสานพระพุทธศาสนารวมถึงเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จากการสอบถามหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ให้ข้อมูลว่าแม้จะมีการตรวจสอบข้อมูลประวัติต่างๆตามหลักการสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่จะบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ในวัดไผ่ล้อมไว้แล้ว แต่จะพบว่าปัจจุบันตามสื่อหลักและสื่อโซเชียลจะมีปรากฏภาพของพระภิกษุสงฆ์บางรูป หรือบางครั้งก็จะเป็นพระปลอมที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในรั้ววัด และประพฤติปฏิบัติตน ไม่เหมาะสมเป็นที่เคลือบแคลงใจของพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งนับจากนี้วัดไผ่ล้อมจะมีการเข้มงวดและมีการติวเข้ม ทั้งการวางตัวในการท่องบทสวดต่างๆที่เป็นพื้นฐานสำหรับการเข้ารับการบวชให้คล่อง การประกอบพิธีในโบสถ์อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีเอาไว้ให้คงอยู่ รวมถึงหลังจากได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ก็ต้องมีมาตรการเข้มงวดในการวางตัว การปฎิบัติตน ให้เหมาะสมทั้งขณะอยู่ในรั้ววัด และออกไปปฏิบัติศาสนกิจภายนอกเพื่อให้เป็นที่มั่นใจแก่ญาติโยม และสร้างศรัทธาที่ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีความเคลือบแคลงสงสัยในหลายประการสำหรับการประพฤติตนของพระภิกษุสงฆ์

"อาตมาได้สั่งการให้คณะสงฆ์ผู้ดูแลรับผิดชอบในด้านนี้ให้เข้มงวดและส่งให้มีการการตรวจรับคนเข้าโครงการบวชทุกโครงการไม่ว่าจะเป็นโครงการบวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย บวชตามประเพณี หรือเข้ามาขอบวชเพื่อศึกษาทางทำ เหล่านี้จะมีคณะสงฆ์คัดสรรอบรมและดำเนินการส่งเสริมผลักดันในการเรียนบาลี โดยที่ที่ผ่านมาคณะสงฆ์ไผ่ล้อมได้มีการเรียนทางทำอย่างต่อเนื่อง และมีการปฏิบัติศาสนกิจทั้งการทำวัตรเช้า เย็น การบิณฑบาต การสวดมนต์ ให้เป็นไปตามหลักการ โดยยังมีการทำหน้าที่ต่างๆภายในวัดเพื่อให้เกิดความสวยงาม ร่มเย็น ปราศจากยาเสพติด อาชญากรรมและ สิ่งไม่ดีจากสังคมภายนอก เพื่อให้ผู้เข้ารับการบวชได้ ประโยชน์โดยแท้จากการบวชของวัดไผ่ล้อม" หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย

ยอแซฟ สามพรานจัดคอนเสิร์ตใหญ่การกุศลครบรอบ 60 ปี การเติบโตเพื่อร่วมพัฒนาสังคม ✨️ ชวนคุณไปสนุกในคอนเสิร์ตรับลมหนาว 26 พฤศ...
09/11/2024

ยอแซฟ สามพรานจัดคอนเสิร์ตใหญ่การกุศลครบรอบ 60 ปี การเติบโตเพื่อร่วมพัฒนาสังคม ✨️ ชวนคุณไปสนุกในคอนเสิร์ตรับลมหนาว 26 พฤศจิกายน 2567 นี้

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 นี้ เชิญชวน ศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า แฟนคลับศิลปิน
และคนนอกซื้อบัตรเข้าชมได้
🎙️สนุกไปกับ 7 ศิลปินคุณภาพ 🎵
Slot Machine | Three Man Down | Tattoo Colour
| Monica | SOULNIST | FIRZTER | V3RSE
ภายในงาน
คอนเสิร์ตจาก 7 ศิลปิน
แสง สี เสียง จัดเต็ม พร้อมจอถ่ายทอดสด ภายในงาน
โชว์บอลลูนลอยในงาน ว่าวแฟนซี และ ตุ๊กตาเป่าลมในงาน
จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในงาน พร้อมจุดนั่งทานอาหารในงาน
มีลานจอดกว้างขวาง
บัตรยืน ราคา 899 บาท หน้างาน 1200 บาท
โปร ซื้อ 2 ฟรี 1
(หารเฉลี่ยตกคนละ 599 บาท) มีจำนวนจำกัด
เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนงาน ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
ได้โซนนั่งแบบส่วนตัว และเข้างานช่อง FAST LANE
และที่จอดรถแบบVIP
👉🏻ช่องทางจำหน่ายบัตร👈🏻
1) ช่องทางออนไลน์ line official
“Joseph Concert”
https://lin.ee/Q9ra2tu
2) ช่องทางจำหน่ายตั๋วออนไลน์ EVENTPASS
สามารถตัดผ่านบัตรเครดิตได้
https://ticket.eventpass.co/t/josephconcert
🧒🏻 เด็กสูงไม่เกิน 110 ซม. เข้าฟรี!
พร้อมผู้ปกครองที่ซื้อบัตร 1 ท่าน
พบกัน!
🗓️ 26 พฤศจิกายน 2567
⏰️16.00 - 22.00 น.
📍 สนามฟุตบอลใหญ่ โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ สามพรานจ.นครปฐม
🗺 https://maps.app.goo.gl/WDXDKcpqfSh3L2FX9
สอบถามโทร 0623124782
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เพจ JOSEPH CONCERT


#คอนเสิร์ตสามพราน #คอนเสิร์ตนครปฐม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตม...
03/11/2024

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 6 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม เฝ้ารับเสด็จ

โอกาสนี้ เสด็จขึ้นพระวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระร่วงโรจนฤทธิ์ และพระพุทธรูปปางประสูติ จากนั้น ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6, พระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แล้วทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระป่าเลไลยก์

จากนั้น เสด็จขึ้นพระวิหารหลวงทิศตะวันออก ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหาวชิรมารวิชัย พระพุทธรูปประจำพระวิหารหลวงทิศตะวันออก แล้วทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ องค์พระปฐมเจดีย์ ทรงโปรยดอกไม้บนพระแท่นปฐมเทศนา ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมระฆัง 3 ใบ

ต่อจากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นที่ประดิษฐานพระปฐมเจดีย์ ชนิดพระธาตุเจดีย์ หรือเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่าเป็นศิลปสมัยทวาราวดี นับเป็นปูชนียสถานทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดสร้าง เดิมชื่อว่า วัดพระประธม หรือ วัดพระบรรทม แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดใหญ่ ในปี 2396 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ และก่อสร้างพระอุโบสถ, พระวิหาร, ศาลาโรงธรรม, รวมทั้งกุฏิสงฆ์ และในรัชกาลต่อ ๆ มา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด เพื่อให้เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนสืบไป

ก่อนเสด็จกลับ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ และราษฎรจากต่างจังหวัดที่เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จเพื่อชื่นชมพระบารมีเป็นจำนวนมาก

หลวงพี่น้ำฝน ถือเอกสารเจ้าอาวาสวัดสามชุก ต้นสังกัดพระปีนเสาไฟ แจ้งที่ช่อง 3 ให้กลับวัด ชี้ตั้งสำนักสงฆ์ผิดระเบียบ โดยการ...
31/10/2024

หลวงพี่น้ำฝน ถือเอกสารเจ้าอาวาสวัดสามชุก ต้นสังกัดพระปีนเสาไฟ แจ้งที่ช่อง 3 ให้กลับวัด ชี้ตั้งสำนักสงฆ์ผิดระเบียบ โดยการเอาศาสนามาเสี้ยมให้เกิดความสับสนเข้าใจผิดโทษถึงขั้นจับสึก ขณะที่บรรยากาศในการแจ้งหนังสือพบพระปีนเสาโวยวายไม่รับการแจ้งตามเอกสาร ส่วนการย้อนรอยพบหญิงที่ดูแลสำนักปฎิบัติธรรมที่นครปฐม น่าจะเคยถูกหมอปลาตามและฝ่ายปกครอง ตามรวบขณะขับรถไปบิณฑบาตด้วยกันมาแล้ว

วันนี้ 31 ตุลาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส หรือพระปีนเสาไฟ ถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานประกอบด้วยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังประสานกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวสวัดไผ่ล้อม ในฐานะในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 และสังฆาธิการพระครูสิริปุญญาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสำโรง เจ้าคณะตำบลวัดสำโรง เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตรี สวนธรรมแสงเทียน หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยพลู อำเภอนครชันยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นไปตามเอกสารที่ พระครูปลัดสุทัศน์ สุเมโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนทะเล จังหวัดพิจิตร เรื่องขอให้พระภิกษุ(พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส )ลับวัดโพนทะเล ภายใน 7 วัน

โดยในการเข้าตรวจสอบ พระธีรธนัชณฤทธา ได้มีการแย้งว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องเนื่องจากได้ถูกให้ออกจากวัดโพนทะเล จังหวัดพิจิตรไปนานแล้ว และมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ที่ได้เข้าไปตรวจสอบและแจ้งว่าหนังสือเป็นเท็จ และแจ้งว่าปัจจุบันได้มีต้นสังกัดที่วัดสามชุด อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเอกสารไม่ตรงกัน และมีท่าทีไม่พอใจโดยได้มีการขึ้นเสียงกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม โดยอ้างว่าโดนกลั่นแกล้ง ขณะที่มีหญิงกลางได้มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าวว่ามีการให้ที่ดินในก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว ซึ่งหน่วยงานและคณะสงฆ์ได้มีการกลับออกไป โดยขอให้มีการนำเอกสารการร้องขอการต่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรม จากพระชั้นปกครองในอำเภอนครชัยศรี

ต่อมาในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้รับเอกสารด่วน พิเศษ/2567 ที่วัดสามชุก ตำบล อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เรื่องขอให้ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส กลับวันสามชุก โดยมีเนื้อหา ว่ามีการขอมาสังกัดที่วัดสามชุกตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 65 ที่ผ่านมา แต่ไม่เคยมาสังกัดอยู่ที่วัดสามชุกเลย และทราบว่าได้ไปพำนักอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมพุทธะชยันตรีตำบลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และมีการปรากฎตามสื่อออนไลน์ต่างๆทำให้เกิด ความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง จึงขอให้กลับวัดภายในเจ็ดวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือเป็นต้นไป ลงนามโดย พระครูสุวรรณวิตร ดร. เจ้าอาวาสวัดสามชุก ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2567

ซึ่งหลวงพี่น้ำฝน พร้อมด้วยพระสังธิการ พระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม พระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม พระปกครองเขตคลองเตย จึงได้นำเอกสารดังกล่าวไปยังอาคารมาลีนนท์ เพื่อติดตามความคืบหน้าและนำหนังสือดังกล่าวให้มา ยังอาคารมาลีนนท์ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อแจ้งให้กับพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา โดยได้มีมวลชนทั้ง 2 ฝั่งมาอยู่ในสถานที่ตามที่ได้ที่ได้มีการแจ้งโดยมี กันจอมพลัง หมอปลา ทนายไพศาล มารวมตัวอยู่เพื่อติดตามเหตุการณ์ดังกล่าว

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า พระรูปนี้สังกัดที่วัดสามชุก นครปฐม ซึ่งเจ้าอาวาสได้ทำหนังสือคำสั่งในเขตภาค 14 ซึ่งพระรูปนี้ ย้ายสังกัดจากจังหวัดพิจิตรมาสังกัดอยู่ที่วัดสามชุกจังหวัดสุพรรณสุพรรณบุรี ซึ่งย้ายมาตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 จนถึงปัจจุบันไม่เคยอยู่ในการปกครองของเจ้าอาวาส กรอบการปกครองซึ่งตามระเบียบพระรู้ว่าจะต้องอยู่ในกรอบดูแลของเจ้าอาวาสวัดนั้น ซึ่งพระรูปนี้มีการจัดตั้งสำนักสงฆ์แต่ไม่ได้ปรากฏเอกสารขออนุญาตต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด

วันนี้อาตมาจึงนำเอกสารคำสั่งของเจ้าอาวาสที่ให้พระรูปนี้กลับไปชี้แจง ซึ่งทาง จะต้องขึ้นทะเบียน สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐมได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อรายงานต่อเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีต่อไป โดยให้ระยะเวลาภายในเจ็ดวันซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2562 ประชาชนได้ร้องเรียน พระรูปนี้มายังอาตมาตลอด เช่น การนำบุคคลต่างด้าวไปอยู่

ทั้งนี้ในเรื่องของการนำศาสนาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้นอาตมามองว่า เป็นการไม่สมควรที่จะไปยุ่งกับศาสนาอื่นเราเป็นพระภิกษุสงฆ์ศาสนาใดก็แล้วแต่เราควรจะรักและสามัคคีกันไว้ไม่ใช่ว่าศาสนานี้มาใส่ร้ายศาสนาพุทธศาสนาพุทธไปใส่ได้ศาสนาอื่นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้ใช้ศีลทสมาธิ และปัญญาในการดำเนินชีวิตสืบทอดพระพุทธศาสนา มาฉะนั้นอย่าโยงเอาศาสนามาทำให้เกิดปัญหา ซึ่งคณะสงฆ์จะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาดถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้เราก็ต้องคอยดูแลและทำตามขั้นตอนตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ซึ่งโทษมีถึงขั้นถูกจับสึกได้

ทั้งนี้จากการติดตามสังเกตุการณ์ในพื้นที่ศาลายา การ์เด้น ซึ่งเป็นที่ดินจัดสรร และมีสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว เมื่อวานนี้ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา ได้อ้างว่ามีโยมซึ่งเป็นหญิงอายุประมาณ 50 ปีมาสังเกตุการณ์ในการตรวจสอบบอกว่าเป็นผู้มอบที่ดินดังกล่าวให้ตั้งสถานปฏิบัติธรรมฯ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันกับกรณี หมอปลาเคยบบุกรวบขณะขับรถยนต์ไปบิณฑบาตย่านพุทธมณฑล และถูกจับกุมมาครั้งหนึ่งโดยมีการลงฑัณฑ์ไว้แล้ว ชาวบ้านขอให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงถึงกันด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบ...
31/10/2024

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ในส่วนของเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท

วันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี ได้แก่ ที่ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 1 ตำบลงิ้วราย จำนวน 75 ครัวเรือน, ที่ศาลาวัดไทยาวาส หมู่ที่ 4 ตำบลไทยาวาส จำนวน 70 ครัวเรือน และที่ศาลาวัดกลางบางแก้ว ตำบลนครชัยศรี จำนวน 98 ครัวเรือน โดยมีปลัดอาวุโสอำเภอบางเลน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี เกิดจากระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำ ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,700 ครัวเรือน โดยทางอำเภอนครชัยศรีได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน พร้อมสำรวจความเสียหาย เพื่อรับเงินเยียวยาตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาล ครัวเรือนละ 9,000 บาท คาดว่าประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไข จะได้รับเงินเยียวยาเข้าบัญชีที่ผูกกับระบบพร้อมเพย์ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐมจัดงานวันรวมน้ำใจให้กาชาด ประจำปี 2567 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชนและผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจา...
31/10/2024

เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐมจัดงานวันรวมน้ำใจให้กาชาด ประจำปี 2567 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชนและผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปดำเนินกิจกรรมออกร้านของเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ในงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์

วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกิจกรรม รวมน้ำใจ ให้กาชาด ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายปรีชา ดิลกพรเมธี นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย รองนายกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ร่วมรับมอบสิ่งของจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม และชมรมต่างๆ ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา ทั้ง 7 อำเภอ ร่วมบริจาคเงินและนำสิ่งของมามอบให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม อาทิ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ตู้เย็น โทรทัศน์ หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน พัดลม เตารีด อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับสิ่งของที่มีผู้นำมาบริจาคในครั้งนี้ จังหวัดนครปฐมและเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม จะได้นำ ไปดำเนินการจัดกิจกรรมออกร้านของเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ในงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-20 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย เพื่อประโยชน์สุข และเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยที่ผ่านมา เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ด้านต่างๆ อาทิ การส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีแก่ประชาชน การสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง การมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สนับสนุนการรับบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย การบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

นครปฐม หลวงพี่น้ำฝนพร้อมหลายหน่วยงาน สนธิกำลัง ตรวจสอบ สำนักปฏิบัติธรรม พระปีนเสาไฟ พบไม่ถูกต้องตามขั้นตอนหลวงพี่น้ำฝนพร...
30/10/2024

นครปฐม หลวงพี่น้ำฝนพร้อมหลายหน่วยงาน สนธิกำลัง ตรวจสอบ สำนักปฏิบัติธรรม พระปีนเสาไฟ พบไม่ถูกต้องตามขั้นตอน

หลวงพี่น้ำฝนพร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี 2600 ปี ซึ่งชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบหลังพระครูปลัดธีระพระปีนเสาไฟ จัดตั้งในที่เปลี่ยวในพื้นที่ พร้อมมีเอกสารหนังสือเรียกตัวกลับวัดต้นสังกัดที่จังหวัดพิจิตร โดยขณะที่มีการตรวจสอบเจ้าตัวได้มีการโวยวายอ้างถูกกลั่นแกล้งและขณะนี้ได้ย้ายสังกัดไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้แจ้งหลักการให้กลับไปอยู่ที่วัดต้นสังกัดเนื่องจากสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวยังไม่ได้ขึ้นอยู่ในการปกครองตามลำดับชั้น ส่วนสำนักพุทธขอตรวจสอบการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมว่าถูกต้องหรือไม่อีกครั้ง ขณะที่พระครูปลัดธีระพระปีนเสา ถูกจับตาเนื่องจากเคยบุกไปหาหนุ่มกรรชัยโดยอ้างว่าไม่พอใจที่มีการบิดเบือนนำอาจารย์เบียร์ คนตื่นทำไปออกรายการนำเสนอวิธีการปฏิบัติผิดหลักพระพุทธพระพุทธเจ้า และเตรียมนำคน 100 คนไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ช่องสามวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ส่วนกลางจอมพลังโพสต์ขอพลังมวลชนสวมชุดดำไปเจอกันที่หน้าช่อง 3 พร้อมติดตามดูการตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมก่อนขับรถออกไปโดยไม่ลงมาพบ

วันนี้ 30 ต.ค. 67 เวลา 17.00 น. ที่วัดสำโรง ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 พร้อมด้วย นายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม นายพรชัย โพธิ์ทองนาค ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าพบพระครูสิริปุญญาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสำโรง เจ้าคณะตำบลวัดสำโรง เพื่อหารือและติดตามข้อมูล พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ซึ่งได้มีความประพฤติไม่เหมาะสมในสื่อโซเชียล และเป็นที่หนักใจของคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนา

ซึ่งกรณีดังกล่าวได้สืบเนื่องมาจากกรณี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 67 ที่ผ่านมาพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ได้บุกไปหานายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง รายการโหนกระแส ที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 เนื่องจากอ้างว่าพิธีกรคนดังทำให้ไม่พอใจเพราะชอบมีกระแสออกข่าวทำลายพระ มีการนำ อาจารย์เบียร์ เจ้าของ Tiktok คนตื่นธรรมมาออกรายการ ซึ่งทาง รปภ.ไม่ได้ให้ขึ้นไปพบเนื่องจากไม่มีการแสดงบัตรพระ จากนั้นเจ้าตัวได้มีการระบุว่า วันที่ 31 ตุลาคม นี้จะกลับมายื่นหนังสือกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อีกครั้ง โดยจะนำคนมาด้วย 100 คน

โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำเอกสารเป็นหนังสือ เอกสาร พิเศษ/2567 จากวัดโพนทะเล ตำบลโพนทะเล อำเภอโพนทะเล จังหวัดพิจิตร ลงนามโดยพระครูปลัดสุทัศน์ สุเมโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนทะเล เรื่องขอให้พระภิกษุลับวัดโพนทะเล โดยระบุว่า พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) สังกัดวัดโพนทะเล ได้มาจำพรรษา พำนักอยู่ ณ ที่พักสงฆ์สถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี ตำบลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆจนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในกรณีแสดงตนไม่เหมาะสมบนสื่อออนไลน์ โดยในหนังสือได้มีการระบุให้กลับวัดต้นสังกัด ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ลงนามวันที่ 30 ตุลาคม 67 โดยปัจจุบันยังไม่ได้มีการกลับไปยังต้นสังกัดแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน เวลา 17.30 น. ชุดปฏิบัติการสนธิกำลังได้ เดินทางเข้าไปยัง ที่พักสงฆ์สถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี 2,600 ปี ซึ่งปรากฏว่าพบตัวพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า อยู่ภายในพื้นที่จึงได้มีการขอตรวจเอกสารหนังสือสุทธิต้นสังกัดและเอกสารก่อตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าวจึงได้เกิดมีปากเสียง ขึ้นในการตรวจค้นและถกเถียงกับเจ้าหน้าที่ในระหว่างตรวจสอบ โดยทางพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ได้ถ่ายคลิบและยืนยันว่าเอกสารในการแจ้งต้นสังกัดจากจังหวัดพิจิตรไม่ถูกต้องเพราะตนเองได้ถูกให้ออกจากวัดดังกล่าวมาแล้วและถูกกลั่นแกล้งมาตลอด ซึ่งสังกัดของตนเองอยู่ที่พื้นที่วัดสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ทางชุดตรวจสอบได้สอบถามถึงเอกสารในการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี ซึ่งพบว่าอยู่ในที่เปลี่ยวลึกและหาทางเข้ายากเป็นทางเปลี่ยว ทางคณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรี แจ้งว่ายังไม่ได้มีระบุอยู่ในสารระบบ ซึ่งขั้นต่อไปจะมีการตรวจสอบเอกสารการขอจัดตั้งว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางคณะสงฆ์โดยหลวงพี่น้ำฝน ให้คำแนะนำว่าควรจะย้ายกลับต้นสังกัดในจังหวัดสุพรรณบุรีต้นสังกัดที่มีอยู่

จากนั้นเวลาประมาณ 18.20 น. รถตู้ของทีมงานกันจอมพลัง ได้เดินทางมาถึงยังสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยสังเกตุการณ์อยู่ในรถและไม่ได้ลงมาสอบถามหรือได้พบตัวพระครูปลัดธีระ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเมื่อพบว่าการตรวจสอบเสร็จสิ้นจึงได้วนรถออกจากพื้นที่

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 กล่าวว่า สำหรับการเข้าตรวจสอบในวันนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าอาวาสในจังหวัดนิติได้มีการส่งหนังสือให้มีการส่งตัวพระครูปลัดธีระ กลับวัดต้นสังกัดแต่เมื่อมีการตรวจสอบแล้วท่านได้ นำใบสูจิบัตรมาแสดงว่าขณะนี้ได้สังกัดอยู่ที่วัดสามชุกในอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในข้อเท็จจริงถือว่าเป็นการผิดระเบียบเนื่องจากการอาศัยอยู่ในสำนักสงฆ์จะต้องมีลำดับชั้นการปกครองคือเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัดต้นสังกัดเป็นที่ตั้ง

"สำนักสงฆ์ที่ถูกต้องจะต้องมีการได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดนั้นว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ได้ส่งพระสงฆ์รูปนี้มาอาศัยในสถานปฎิบัติธรรมที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรที่ถูกต้อง และจะต้องนำเอกสารนั้นไปแจ้งต่อเจ้าคณะตำบลนั้นนั้นเพื่อให้ทราบว่าได้มีการจัดตั้งสำนักสงฆ์และถูกส่งตัวมาอย่างถูกต้องนั่นเอง" หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย

นายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักพุทธจังหวัดนครปฐมได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พระรูปดังกล่าว มีการเชิญชวนให้ญาติโยมนัดชุมนุม โดยจะเดินทางไปที่ช่อง 3 ทำให้ทางเจ้าคณะอำเภอ รวมไปถึงสำนักพุทธจังหวัดนครปฐม เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงแต่ว่าไม่ใช่เป็นพระสงฆ์ในสังกัดของจังหวัดนครปฐม แต่ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ที่ใดก็แล้ว แต่โดยเจ้าคณะปกครองต่างประชุมกันและไม่เห็นด้วย จึงได้เดินทางลงมายังสำนักปฏิบัติธรรม เพื่อทำการตรวจสอบ ตักเตือน แต่พระธีรธนัชณฤทธา ได้แสดงท่าทีไม่พอใจกับการตรวจสอบดังกล่าว

สำหรับพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า เคยมีประเด็นดังเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 61 ซึ่งได้ก่อเหตุปีนเสาสัญญาณ ภายในสำนักปฎิบัติธรรมพุทธชยันตี ถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ เนื่องจากเรียกร้องไม่ให้สำนักสงฆ์ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากที่ดินที่ได้มีการจัดสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว เคยมีเออกชนมาก่อสร้างรีสอร์ทแล้วติดหนี้ธนาคารและเป็นที่รกร้าง กระทั่งปี 2555 พระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า ได้มาสร้างเป็นสำนักสงฆ์และมีการนิมนต์พระ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อสายกัมพูชาวนเวียนเข้ามาในสถานที่ กระทั่งธนาคารได้พยายามให้ย้ายออกไป จึงได้มีการปีนเสาสัญญาณ จนได้ชื่อว่า พระปีนเสาไฟฟ้า นับ แต่นั้นมา

ต่อมา ในวันที่ 13 พ.ย.62 ก็ได้ปีนเสาสัญญาณอีกครั้งในพื้นที่เดิม ซึ่งให้เหตุผลว่าจะขึ้นไปปฏิบัติธรรมด้านบน ซึ่งมีการสอบถามลายละเอียดแล้วอ้างว่าประท้วงที่ธนาคารไม่ยอมทำสัญญาขายที่ดินเพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอีก ก่อนจะมีการบุกไปสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในปี พ.ศ.2565 ในพื้นที่ อำเภอพุทธมณล ยังเคยมีการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมฐานประพฤติตนไม่เหมาะสมโดยการขับรถยนต์ ไปบิณฑบาตและมีสีกาที่อยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมนั่งไปด้วย ในรถยังพบเครื่องแต่งกายฆราวาส โดยได้มีการแจ้งบันทึกตักเตือนถึงความไม่เหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งใน ปีพ.ศ.2566 พื้นที่อำเภอนครชัยศรีก่อนมีการตรวจสอบครั้งนี้ก็ได้มีการถูกร้องเรียนเนื่องจากสงสัยว่ามีชาวต่างด้าวมาบวชอยู่ในพื้นที่สำนักสงฆ์

ทั้งนี้กรณีดังกล่าว เพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้ ได้มีการโพสต์ ข้อความว่า วันที่ 31 พระปีนเสาประกาศเอามวลชนไปหาพี่หนุ่มและผู้บริหารช่อง 3 งั้นผมขอเชิญ FC ที่รักผมและพร้อมลุยไปกับผมร่วมกันใส่ชุดสีดำ ไปเจอกัน 3 10 โมง เพื่อเคียงข้างพี่หนุ่มครับ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมี คนกดไลค์กว่า 128แสนคน ต่อมาวันนี้ได้มีการลงคลิบเชิญชวนอีกรอบ ซึ่งทำให้ประเด็นดังกล่าวร้อนแรงมากขึ้น และมีการจับตาในวันพรุ่งนี้

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยเท...
30/10/2024

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี ในนามประธานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนนวัตกรรมพร้อมใช้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาพื้นที่ (Appropriate Technology) ระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล โดยมีผู้ร่วมลงนาม ได้แก่ 1.ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 2.รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดี มทร.กรุงเทพ 3.ศ.ดร.สุวัจน์ ธัญรส อธิการบดี มทร.ศรีวิชัย 4.รศ.ดร.ประมุข อุณหเลขกะ อธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ 5.รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน 6.รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.ล้านนา 7.รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาราชการในตำแหน่งอธิการบดี มทร.ธัญบุรี 8.ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี มทร.พระนคร และ9.รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิการบดี มทร.ตะวันออก ทั้งนี้ รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มทร.รัตนโกสินทร์ ประธานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) กล่าวสรุปแนวทางการขับเคลื่อนและสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นนวัตกรรมพร้อมใช้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปใช้ประโยชน์ ของเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ร่วมกับ บพท. ณ ห้องกมลมาศ ชั้น 6 โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพมหานคร

นครปฐม คณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับจังหวัด ครั้งที่ ๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ (จัง...
28/10/2024

นครปฐม คณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับจังหวัด ครั้งที่ ๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ (จังหวัดนครปฐม) ลงพื้นที่ประเมินผลงานและเก็บข้อมูลเชิงประจักษ์

เริ่มแล้ว 112 ปีชาติกาลหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม นครปฐม ญาติโยมแห่เที่ยวงานวัดย้อนยุค คึกคัก ทำเศรษฐกิจชุมชนกระเตื้องพระครูปล...
26/10/2024

เริ่มแล้ว 112 ปีชาติกาลหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม นครปฐม ญาติโยมแห่เที่ยวงานวัดย้อนยุค คึกคัก ทำเศรษฐกิจชุมชนกระเตื้อง

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน นำศิษยานำศิษย์กราบสักการะสรีระสังขารพระมงคลสิทธิการ หรือหลวงพ่อพูล อัตตรักโข อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เริ่มงาน "112 ปีชาติกาลหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม" อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นงานประจำปีของวัดไผ่ล้อม ในช่วงระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 นี้โดยมีการจัดนิทรรศกาลและมหรสพ ตลอด 9 วัน 9 คืน ซึ่งมีการประกวดเทพฑิฆัมพร ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 4 แสนบาท ในวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 67 นี้ คาดมีคนทะลักเข้ามาชมการประกวดคึกคักแน่นอน คอหวยไม่พลาด ตามส่องเลขประทัดเปิดงานคึกคัก

วันที่ 26 ตุลาคม 67 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อพูลฯ ศิษยานุศิษย์ ร่วมกันกราบสักการระสรีระสังขารพระมงคลสิทธิการ หรือหลวงพ่อพูล อัตตรักโข อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยมีนางเบ็ยจวรรณ ริทเทอร์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้เชิญพวงมาลัย ถือเป็นฤกษ์เปิดงาน "112 ปีชาติกาลหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม" อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นงานประจำปีของวัดไผ่ล้อม ในช่วงระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 นี้ โดยได้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อรำลึกพระคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อัตตรักโข อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ที่มีศิษยานุศิษย์อยู่ทั่วสารทิศทั้งในและต่างประเทศ

โดยในปีนี้ วัดไผ่ล้อมได้จัดให้มีการจัดกิจกรรมตลอด 9 วัน 9 คืน โดยกิจกรรมปีนี้ได้จัดที่หลากหลายทั้งงานสืบสานพระพุทธศาสนา ซึ่งนอกจากที่พุทธศาสนิกชน จะเข้ากราบขอพรจากสรีระสังขารพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล เพื่อขอพรมงคลแล้วยังมีการเข้ากราบไหวบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดไผ่ล้อม เช่นพระพุทธเมตตาประทานพร , พระองคุลิมารเถระ , พระพรหมประกาศิต , และมีคอหวยมา โชคลาภจากกุมารสมบัติ ให้โชค โดยมีประชาชนแห่เข้ามาขอพรจากหลวงพี่น้ำฝน โดยให้เจิมแป้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตด้วย

โดยกระทั่ง เวลา 19.19 น. นางเบญจวรรณ ริทเทอร์ ประธานฝ่ายศิษยานุศิษย์ ได้มีการจุดประทัด จำนวน 12,000 นัด เอาฤกษ์เอาชัย ซึ่งได้มีประชาชนที่เข้ามาเที่ยวชมงานและไหว้พระขอพระ ได้แห่เข้ามาขอดูแลหางประทัด จากหลวงพี่น้ำฝน ที่เตรียมเก็บไว้รวมกับของมงคลประจำปี พ.ศ.2567 ซึ่งเลข 2 ตัวคือ 22 และเลข 3 คือ 187 ทำให้คนที่ชื่นชอบตัวเลขได้เข้ามาสอบถามและถ่ายภาพเก็บไว้ส่งต่อให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ปีนี้จะมีการจัดร้านค้าชื่อดัง ทั้งของกินของใช้ รวมถึงคอนเสิร์ตจากศิลปินดังทั่วประเทศ มาแสดงบริเวณตรงข้ามวัดไผ่ล้อม ทุกคืน โดยในปีนี้จะมีศิลปินดังเข้ามาร่วมแสดงอย่างคับคั่งอาทิเช่น จ๊ะนงผณี , พลพล , มหาหิงค์ , เฟิร์ส พรธิตา , พี สะเดิด และอีกหลายท่าน โดยจะมีร้านค้าชื่อดังจากในโซเชียล และผู้ประกอบการที่จะมาเปิดแสดงสินค้าโดยตรงให้ถึงมือผู้บริโภค เป็นการรวมสินค้าคุณภาพของดีราคาเป็นธรรมหลากหลายรูปแบบ และไฮไลท์ในปีนี้ เป็นเวทีประกวด เทพทิฆัมพร ในระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ชิงเงินรางวัลกว่า 400,000 บาท โดยจะมีการแบ่งประเภทเป็น เทพบุตรทิฆัมพร เทพธิดาทิฆัมพร เทพธิดาจำแลงทิฆัมพร ธิดาทิฆัมพร และธิดาน้อยทิฆัมพร โดยคาดการณ์มีผู้สมัครเข้าชิงรางวัลคึกคักมีผู้ชมคับคั่งแน่นอน ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมประกวดและผู้ชมสามารถติดตามติดตามได้ที่โซเชียลของวัดไผ่ หรือโทรสอบถามได้ที่คุณไอซ์ 061-7826456 , คุณโต้ง 065-2293562

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมการท่องเที่...
24/10/2024

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย (Smart Tourism) จังหวัดนครปฐม Food Travel “นครปฐม นิยม ชม ชิม”

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 15.30 น. ที่บริเวณลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน Food Travel @ Nakhonpathom "นครปฐม นิยม ชม ชิม" โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23–27 ตุลาคม 2567 ภายใต้โครงการส่งเสริมการการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม การท่องเที่ยวที่หลากหลาย (Smart Tourism) จังหวัดนครปฐม และนางสาวกิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน

ด้วยจังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม
ได้เล็งเห็นว่าอาหารเป็นหนึ่งในวิถีวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนชุมชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบการท่องเที่ยวที่สำคัญประการหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยวได้ เนื่องจากอาหารสามารถบอกถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่น การท่องเที่ยวเชิงอาหาร และในปัจจุบันนี้การท่องเที่ยวมีทิศทางที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จังหวัดนครปฐมมีชุมชนท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณีและอัตลักษณ์ ในแต่ละชุมชน มีอาหารพื้นถิ่นที่แตกต่างกัน แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาให้มีความน่าสนใจ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นมา เพื่อยกระดับอาหารพื้นถิ่น ส่งเสริมอาหารและของดีเมืองนครปฐม นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดนครปฐม การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย (Smart Tourism) จังหวัดนครปฐม ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรม อันได้แก่
1. การจัดอบรมสร้างมูลค่าอาหารพื้นถิ่น จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 - 9 ตุลาคม 2567
ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นการอบรมทักษะความรู้ด้านอาหาร การพัฒนาอาหารพื้นถิ่น การตกแต่งจานอาหารให้น่าสนใจ ให้กับชุมชนท่องเที่ยวทั้ง 7 อำเภอ ของจังหวัดนครปฐม

2. การแข่งขัน Chef Challenge Nakhonpathom จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นการแข่งขันการรังสรรค์อาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม จากวัตถุดิบพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครปฐม ได้แก่ ส้มโอนครชัยศรี และมะพร้าวน้ำหอมสามพราน เพื่อเป็นการต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้ด้านอาหารให้กับชุมชน
โดยสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และในวันนี้ได้มีการแสดงนิทรรศการภาพถ่ายอาหารของทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในงานนี้ด้วย

จากกิจกรรมพัฒนาองค์ความรู้ด้านอาหารพื้นถิ่นทั้งสองกิจกรรมที่ได้กล่าวมานั้นจึงได้มีการเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมต่อเนื่อง ซึ่งก็คือ กิจกรรมเทศกาลงานกิน Food Travel@ Nakhonpathom “นครปฐม นิยม ชม ชิม” ในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2567
ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม จังหวัดนครปฐม

วัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อพัฒนาความรู้ด้านอาหารให้กับชุมชน ทำให้ชุมชนสามารถนำความรู้ไปพัฒนาสินค้าและบริการด้านอาหาร นำไปสู่การสร้างรายได้ เพื่อยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาหาร พัฒนาให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ เผยแพร่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และอาหารของจังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์
การท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัด กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน

การจัดแสดงนิทรรศการผลงานของผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Chef Challenge
Nakhonpathom ซึ่งเป็นการแข่งขันการรังสรรค์อาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม จากวัตถุดิบพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครปฐม ได้แก่ ส้มโอนครชัยศรี และมะพร้าวน้ำหอมสามพราน เพื่อเป็นการต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้ด้านอาหารให้กับชุมชน โดยสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าชุมชน ของที่ระลึก ของดี ของจังหวัดนครปฐม จากผู้ประกอบการร้านค้า ชุมชนท่องเที่ยวของจังหวัด รวมจำนวน 40 บูท

พร้อมทั้งมีการแสดงดนตรีของศิลปินที่มีชื่อเสียง ส้มโอ stage fighter, พิมพ์ ธิติยากร, น้องกีต้าร์ สิริขวัญ

การแสดงดนตรีสดจากเยาวชนในจังหวัดนครปฐม อาทิ วง ACE วง Sopha Band วง D-Day วง JOS'HKIDS วง Time Less และ วง The blossom

ซึ่งการจัดงาน ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก เครือข่ายผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม ที่ได้ให้ความร่วมมือ
สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้

ที่อยู่

Nakhon Pathom
73000

เบอร์โทรศัพท์

+66619544294

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ออนไลน์นิวส์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ออนไลน์นิวส์:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ