27/09/2024
วิธีดูแล Talent เก่ง ๆ ไม่ให้รีบลาออก
ต้องเป็นองค์กรที่ 'ลงทุนกับคน'
ไม่ใช่บริษัทสร้างภาพ ล่ารางวัล
เพราะทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กรก็คือ ‘คน’
สรุป Session Retaining Marketing & Tech Talents โดยคุณบี อภิชาติ ขันธวิธิ จาก QGEN Consultant เจ้าของเพจ HR - The Next Gen และ ดร.ต้า วิโรจน์ จิรพัฒนกุล MD, Skooldio ในงาน Marketing Insight & Technology Conference 2024
👉Talent คืออะไรและสถานการณ์เป็นอย่างไรในปัจจุบัน
Talent คือคนที่ Perform ดีและมี Potential นั่นหมายถึงคนที่มีประวัติการทำงานที่ดีและมีโอกาสที่จะสามารถพัฒนาได้ในอนาคต รวมถึงสามารถช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตไปข้างหน้าได้
ตอนนี้ Tech Talent เป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น ทั้งในมุมของจำนวนคนที่ต้องการ และ ‘ทักษะ’ ที่พนักงานจำเป็นจะต้องมีด้วย ส่งผลให้ค่าตัวของ Tech Talent สูงขึ้น องค์กรจึงต้องเผชิญกับความท้าทายในการหาพนักงานใหม่ การพัฒนาและรักษาพนักงานที่อยู่ในปัจจุบัน รวมถึงต้องต่อสู้กับการแข่งขันในการย้ายงานไปยังต่างประเทศด้วย องค์กรไหนยังไม่ปรับตัวก็ถือว่ามีความเสี่ยงแล้วเช่นกัน
การที่โลกเปลี่ยนไว นอกจากจะสร้างความเสี่ยงที่องค์กรต้องเจอแล้ว ยังส่งผลให้คนในยุคนี้อยากจะ ‘สำเร็จไว’ ถือเป็นกับดักคนของทำงานเองด้วย หลาย ๆ คนมองว่าตัวเองนั้นมีความสามารถ เป็น High Performer ใคร ๆ ก็แย่งตัว จนกลายเป็น Job Hoppers ที่องค์กรอาจมองข้าม
ดังนั้น คนทำงานเองจึงควรเริ่มกลับมาทบทวนตัวเองว่า อะไรคือ Skills ที่เราต้องมี อะไรคือจุดแข็งที่จะทำให้เรายังคงมีค่ากับองค์กร เพื่อให้เราสามารถเป็นคนเก่งทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สร้างประวัติศาตร์แต่ไม่สร้างอนาคต
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
👉เลือกคนให้ตอบโจทย์ธุรกิจว่ายาก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการดูแล
🔹ในมุมของคุณบีเองมองว่าเรื่องที่ยังคงสำคัญคือเรื่องเงิน ที่ต้องสามารถแข่งขันกับตลาดได้ โดยเฉพาะคนที่อยู่ใน Strategic Position เพราะคนเหล่านี้ถ้าลาออกไปจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อองค์กร แต่นอกจากการดูตลาดแล้ว ต้องกลับมาดูภายในด้วย ตำแหน่งใกล้ ๆ กัน Impact จากการทำงานใกล้กัน การจ่ายค่าตอบแทนนั้นใกล้เคียงกันหรือไม่ และอย่าลืมดูความสามารถในการจ่ายขององค์กร แม้ว่าคนจะมาซื้อตัวคนเก่งจากเราไป ถ้าเราไม่สามารถสู้ไหวสุดท้ายเราก็ต้องปล่อยไป
นอกจากเรื่องเงินแล้ว ความท้าทายในการทำงานก็เป็นอีกปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ เพราะ Talent สนใจ Growth Opportunity การทำแต่งานเดิมซ้ำ ๆ นั้นจะไม่ช่วยให้คนเก่งเหล่านั้นเก่งขึ้น และทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกเติบโตได้ช้า
และสุดท้ายคือการสร้าง Positive Culture เช่น ความตรงต่อเวลา ไม่มีการทำงานแบบ Micromanagement แต่สิ่งเหล่านี้นั้นงค์กรจะต้องเป็นคนกำหนดและให้คำนิยาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มจากการสร้าง Experience ให้ดีตั้งแต่ต้น ไปตลอดทุก ๆ Touchpoint
ยิ่งไปกว่านั้นหนังสือ Drive ของ Daniel Pink บอกเอาไว้ว่าการจะรักษาคนเก่งได้นั้นต้องมี 3 ข้อคือ Mastery คือส่งเสริมให้คนเก่งขึ้น, Autonomy มีอิสระในการทำงานและ Purpose ได้ทำงานที่ีมีความหมาย และตรงกับ Personal Values หัวหน้าจึงจำเป็นจะต้องเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของพนักงานแต่ละคน
🔸คุณต้าเสริมว่าสิ่งที่องค์กรต้องกลับมาพิจารณาคือ Maslow's Hierarchy of Needs ที่บอกเอาไว้ว่าคนจะมีความต้องการตั้งแต่พื้นฐานปัจจัย 4 ความปลอดภัย ค่าตอบแทน ความสัมพันธ์ภายใน การได้รับการยอมรับ ไปจนถึงยอดพีระมิดซึ่งคือ Self-Actualization ที่สร้างได้ผ่านการทำงานที่ท้าทายและมีความหมาย เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาได้รับความไว้วางใจและองค์กรเห็นคุณค่าในตัวเขา
และการจะรู้ได้ว่างานแบบไหนที่เหมาะสมกับน้องแต่ละคน องค์กรและหัวหน้าจะต้องทำความเข้าใจความต้องการที่เป็น Personal Goals ของแต่ละคน เพราะคนเราจะยอมทำงานหนักหรือทุ่มสุดตัวก็ต่อเมื่อรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นคือการทำงานเพื่อตัวเอง และไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกทำงานเพื่อองค์กรโดยไม่สนใจตัวเอง ดังนั้นหน้าที่ของผู้นำไม่ใช่การ Drive Result แต่ต้อง Drive People ผ่านการ Empower ให้อำนาจในการตัดสินใจกับทีม, Unleash ช่วยปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ และ Inspire ให้ทุกคนเห็นอนาคต
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
👉รู้กว้างหรือรู้ลึก คือคำตอบที่แท้จริงของ Talent
การรู้กว้างและรู้ลึกอาจไม่ใช่แค่คำตอบเดียวที่จะทำให้ใครกลายเป็น Talent แต่อาจจะต้องมองหาความสมดุลในองค์กร ถ้าคนในองค์กรรู้ลึกมากแล้ว ขาดคนมองภาพกว้าง คนที่เป็น Generalist เข้าใจภาพรวมก็สำคัญไม่แพ้กับ Specialist ที่จะช่วย Execute ให้เกิดผลลัพธ์จริง
ดังนั้น Talent หรือคนทำงานเองควรจะหันกลับมาถามตัวเองมากกว่าว่าตลาดต้องการอะไร และเราควรจะเดินไปในทางไหน และไม่ใช่ว่าการเลือกทางใดทางนึงแล้วจะจบ เพราะคนทำงานยังคงต้องรักษาความรู้ต่าง ๆ ในงานที่เราถนัดเอาไวด้วยเพื่อให้สามารถเติบโตในสายอาชีพได้ แต่นอกจาก Technical Skills แล้ว Soft Skills อย่าง Leadership เองก็สำคัญไม่แพ้กัน หรือ Communication และ Networking เพราะ Know How ไม่เพียงพออีกต่อไป ต้อง Know Who เพื่อให้สามารถสร้างโอกาสให้กับชีวิตได้ด้วย
โดยสรุปคือ Skills ที่เราควรมีในฐานะ Talent คือต้องมีทั้ง Enduring Human Skills หรือ Soft Skills, The New Literacy ทั้ง Data และ AI และสุดท้าย Advanced Skills พร้อมเรียนรู้เรื่องใหม่ให้ก้าวทันโลกและก้าวนำคนอื่นตลอดเวลา และถ้าเรามีทั้ง 3 ทักษะนี้แล้ว เราก็จะสามารถเลือกงานที่ตรงกับ Value ของเรา และสามารถมีความสุขและความสนุกไปกับชีวิตการทำงานได้
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
👉Talent ต้องเลือกองค์กรแบบไหนให้ไปได้ไกลกว่าเดิม
เลือกองค์กรที่ ‘ลงทุน’ กับคน ไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์ ล่ารางวัล แต่ต้องกลับมาลงทุนให้ความสำคัญกับการดูแลคนภายในทั้งในการพัฒนาคนให้เก่งขึ้น พร้อมที่จะจ่ายให้กับคนเก่ง ๆ เพื่อรักษาคนเก่งไว้ และลองกลับมาถามตัวเองอยู่เสมอ ๆ ว่าใน 3-6 เดือนที่ผ่านมา เราเก่งอะไรขึ้นบ้าง และนั่นจะช่วยให้เราได้คำตอบว่า เรากำลังอยู่ในองค์กรที่ส่งเสริมพนักงานหรือไม่
แต่การลงทุน ต้องไม่ใช่การลงทุนแบบ ‘ถัว’ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนในองค์กรจะสำคัญเท่ากัน รวมถึงองค์กรนั้นจะต้องเป็นองค์กรที่ไม่ได้ให้ค่ากับความสำเร็จในอดีตเพียงเท่านั้น เพราะคนแต่ละคนอาจมีพื้นฐานไม่เท่ากัน โตมาในสิ่งแวดล้อมและได้รับโอกาสที่ต่างกัน แต่ต้องเลือกองค์กรที่จะมองคนจาก Potential ที่มี