ฅนใต้ ดอทคอม

ฅนใต้ ดอทคอม เว็บไซต์ฅนใต้ดอทคอม ศูนย์รวมข่าว ส?

ท่านสามารถแจ้งข่าว ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวท้องถิ่น ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง

ติดต่อ 088-1234500 แฟกซ์ 074-500500
Email : [email protected] ,www.khontai.com

ท่านใดสนใจ เป็นผู้สนับสนุนเว็บไซต์ ลงโฆษณาแบนเนอร์ กรุณาโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ที่ 086-6931234,088-1234500 หรือ [email protected]

แพทยสภาเผยหมอทำผิดจริยธรรมกว่า 400 เรื่อง เกือบครึ่งเป็น ‘โฆษณา-เสริมสวย’แพทยสภาเผยหมอทำผิดจริยธรรมกว่า 400 เรื่อง เกือบ...
21/01/2025

แพทยสภาเผยหมอทำผิดจริยธรรมกว่า 400 เรื่อง เกือบครึ่งเป็น ‘โฆษณา-เสริมสวย’

แพทยสภาเผยหมอทำผิดจริยธรรมกว่า 400 เรื่อง เกือบครึ่งเป็น ‘โฆษณา-เสริมสวย’

วันนี้ (20 มกราคม 2568) ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา นำคณะกรรมการแพทยสภา แถลงผลงานแพทยสภา วาระ พ.ศ.2566 – 2678 ว่า ขอบคุณสมาชิกแพทยสภาทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการแพทยสภาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายสิ่งที่ได้ดำเนินการแล้ว แล้วยังมีที่ยังดำเนินการไม่สำเร็จ จึงฝากให้คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหม่สานต่อ

พล.อ.อ.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ตามนโยบายของคณะกรรมการแพทยสภาชุดนี้ “แพทยสภายุคใหม่ เทคโนโลยีก้าวไกล ยกคุณภาพชีวิตแพทย์ไทย โปร่งใสใส่ใจประชาชน” ในฐานะเลขาแพทยสภาที่ดำเนินการด้านธุรการให้กับคณะกรรมการแพทยสภาทั้ง 64 คน ซึ่งมีการประชุมร่วมกันทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ทั้งนี้ ภารกิจของแพทยสภามีทั้งสิ้น 9 ด้าน หนึ่งในนั้นคือ การผลิตแพทย์ ปัจจุบันประเทศไทยมีแพทย์รวม 78,418 คน ในจำนวนนี้ เป็นแพทย์ที่ยังมีชีวิต 74,727 คน โดยมีที่ติดต่อได้อยู่ 72,623 คน ในด้านของจำนวนคำร้องของอนุกรรมการจริยธรรม 287 คำร้อง และคำร้องของคณะอนุกรรมการสอบสวน 196 คำร้อง มีคดีปกครอง 109 เรื่อง ในจำนวนนี้ อยู่ระหว่างพิจารณา 47 เรื่อง มีคำพิพากษาแล้ว 62 เรื่อง ชนะคดี 54 เรื่อง และเพิกถอนมติ 8 เรื่อง

“โชคดีที่คดีทางปกครองส่วนใหญ่ แพทยสภาชนะคดีมากกว่าการถูกเพิกถอนมติ ส่วนที่ถูกเพิกถอน ก็มีการปรับปรุงและส่งให้กับศาลต่อไป” พล.อ.อ.นพ.อิทธพร กล่าวและว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แพทยสภาได้ออกกฎและข้อบังคับใหม่ๆ เช่น ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566, ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม เรื่อง การประกอบวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะและการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากผู้บริจาค พ.ศ.2566 และ ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับการรักษาเพื่อเปลี่ยนเพศ พ.ศ.2565 นอกจากนั้นยังมีการรับรองจากสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตใหม่เป็นระยะ โดย 3 หลักสูตรล่าสุดที่ได้รับรอง คือ คณะแพทยศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ด้าน รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ในวาระกรรมการแพทยสภา 2 ปี ได้มีการออกประกาศแพทยสภา จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ประกาศแพทยสภาที่ 39/2567 เรื่อง การโฆษณาเกี่ยวกับการเสริมสวยหรือการเสริมความงามของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2567 เนื่องจากมีแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องของการโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ 2.ประกาศแพทยสภาที่ 25/2567 เรื่อง แนวทางการพิจารณาการคำนวณย้อนกลับเพื่อหาระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด และ 3.ประกาศแพทยสภาที่ 62/2567 เรื่อง เกณฑ์การกำหนดโทษทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับความผิดในการเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลและความผิดต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพและการโฆษณา

“การพิจารณาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พิจารณาแล้วเสร็จ 405 คำร้อง ในจำนวนนี้ แบ่งเป็น เรื่องการโฆษณา 107 เรื่อง และ เรื่องเสริมสวย 77 เรื่อง เมื่อรวมกันแล้วก็จะเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด จึงขอย้ำเตือนแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพให้ศึกษากฎระเบียบเรื่องนี้ให้มาก ทั้งนี้ คำร้อง 405 คำร้อง มีการยกข้อกล่าวหา/กล่าวโทษ 55 คำร้อง ซึ่งถือว่าไม่มีการกระทำผิดตามคำร้อง, ว่ากล่าวตักเตือน 89 คำร้อง, ภาคทัณฑ์ 17 คำร้อง, พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 20 คำร้อง, คำร้องไม่มีมูล 119 คำร้อง และ จำหน่ายคำร้อง 105 คำร้อง ทั้งนี้ ยังมีอีก 471 คำร้องที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา” รศ.นพ.วิสูตร กล่าว

ที่มา MATICHON ONLINE https://shorturl.asia/k2q8y

💯 วันที่ 10 มกราคม 2568 ✅ คณะอุตสาหกรรมเกษตร โดย ผศ. ดร. เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์ คณบดี ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดสงขลา โดย ดร.ไ...
16/01/2025

💯 วันที่ 10 มกราคม 2568
✅ คณะอุตสาหกรรมเกษตร โดย ผศ. ดร. เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์ คณบดี ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดสงขลา โดย ดร.ไพโรจน์ ชัยจีระธิกุลร่วมกันหารือแนวทางการจัดทำโครงการบูรณาการจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ เพื่อนำข้อเสนอโครงการที่ได้เสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลาในวันที่ 13 มกราคม 2568 ต่อไป
#คณะอุตสาหกรรมเกษตร #มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

13/01/2025

▪️ถ้าไม่มีกล้อง ยุ่งแน่นอน ลูกค้าโวย พบทิชชู่ในต้มแซ่บ ร้านงัดหลักฐานโต้ งานนี้มีหน้าแตก
คลิป:อีสานพาสวบ

“อนุทิน” ลงพื้นที่สงขลา เปิดอาคาร ทม. คอหงส์ ยกเป็นต้นแบบการพัฒนาท้องถิ่นสงขลารองนายกฯ อนุทิน ลงพื้นที่สงขลา ร่วมเปิดอาค...
10/01/2025

“อนุทิน” ลงพื้นที่สงขลา เปิดอาคาร ทม. คอหงส์ ยกเป็นต้นแบบการพัฒนาท้องถิ่นสงขลา

รองนายกฯ อนุทิน ลงพื้นที่สงขลา ร่วมเปิดอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์ เสริมศักยภาพการให้บริการประชาชน ยกเป็นต้นแบบการพัฒนาท้องถิ่นสงขลา

วันนี้ (9 มกราคม 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์ (หลังใหม่) ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย นายทวีศักดิ์ ทวีรัตน์ นายกเทศบาลเมืองคอหงส์ บุคลากรเทศบาลเมืองคอหงส์ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับพิธีเปิดอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์ (หลังใหม่) ในช่วงเช้าเริ่มด้วยพิธีสงฆ์ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ รองนายกฯ พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ กรวดน้ำ และพระสงฆ์อนุโมทนา หลังจากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานมอบรางวัล “คนดีศรีคอหงส์” เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ แด่ผู้อุทิศตนเองในการพัฒนาชุมชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์เพื่อสังคมจนเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายครั่น ทวีรัตน์ ผู้นำด้านการพัฒนาและการปกครอง นายลัภย์ หนูประดิษฐ์ ผู้นำด้านปราชญ์ของแผ่นดิน และนางประดับ สงคราม ผู้นำด้านสาธารณสุขระดับชาติ พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกันกดปุ่มเพื่อเปิดอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์ (หลังใหม่) อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้เข้าร่วมงาน

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ร่วมเยี่ยมชมตลาดสายเตราะบ้านในไร่ (จำลอง) ภายในตัวอาคาร ได้พบปะ พูดคุย พร้อมเหมาผักสดปลอดสารพิษจากแม่ค้าที่มาร่วมจำหน่ายภายในงานอีกด้วย สร้างรอยยิ้มให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่รอต้อนรับเป็นอย่างมาก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย กล่าวในพิธีเปิดว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และการสนับสนุนอาชีพชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ชุมชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก อีกทั้ง เทศบาลเมืองคอหงส์ยังเป็นต้นแบบการพัฒนาของท้องถิ่นอื่น ๆ ในจังหวัดสงขลา และทั่วประเทศอีกด้วย

สำหรับ อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองคอหงส์แห่งนี้ ตั้งอยู่ เลขที่ 999 ถนนปุณณกัณฑ์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2560 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567ทดแทนอาคารหลังเก่า เพื่อให้สามารถบริการประชาชนในเขตเทศบาลเมืองคอหงส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในพื้นที่ ตัวอาคารฯ สถาปัตยกรรมสะท้อนถึงค่านิยมและแนวคิดในการบริหารที่มุ่งเน้นการบริการประชาชน มีเสาอาคารด้านหน้า 4 ต้น หมายถึง หลักธรรมพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา) ซึ่งเป็นธรรมะของนักปกครอง ผนังด้านหน้าอาคารเป็นกระจกใสสะท้อนถึงความโปร่งใส เปิดเผย ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ตัวอาคารเน้นสีขาวสะท้อนถึงความบริสุทธิ์ ความตั้งใจในการทำงาน และโดมด้านบนหลังคา มีรูปทรงยอดแหลมที่พุ่งตรงสู่ท้องฟ้า แสดงถึงการมุ่งมั่นสู่เป้าหมายในการพัฒนาและการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

ที่มา : NBT Connext https://shorturl.asia/aIWnw

อสังหาฯ ปี’68 เหนื่อยต่อ สต๊อกทะลัก 1.3 ล้านล้าน เปิด 10 ทำเลอันตราย บ้าน-คอนโด ‘ขายไม่ออก’สำรวจสถานการณ์ที่อยู่อาศัยพื้...
30/12/2024

อสังหาฯ ปี’68 เหนื่อยต่อ สต๊อกทะลัก 1.3 ล้านล้าน เปิด 10 ทำเลอันตราย บ้าน-คอนโด ‘ขายไม่ออก’

สำรวจสถานการณ์ที่อยู่อาศัยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2567 สะท้อนจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2567

@สต๊อกเหลือขายกว่า 1.3 ล้านล้าน

พบว่ามีที่อยู่อาศัยที่เสนอขายรวม 229,182 หน่วย เพิ่มขึ้น 7% และมูลค่า 1,394,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยในจำนวนนี้ มีหน่วยเหลือขายสูงถึง 215,800 หน่วย เพิ่มขึ้น 10.2% มูลค่า 1,313,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นทุกระดับราคา คาดใช้เวลาในการขาย 49 เดือน

อย่างไรก็ตามจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ที่มีการขยายเพดานราคาบ้านมือหนึ่งและมือสองเป็นไม่เกิน 7 ล้านบาท พบว่าทำให้กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 7.50 ล้านบาท ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม มีทิศทางลดลง

@เปิด 10 ทำเลอันตรายบ้าน-คอนโด

สำหรับทำที่ REIC ระบุต้องระมัดระวัง ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เนื่องจากยังคงมีหน่วยเหลือขายที่มากติดอันดับต้นๆ แม้ว่าบางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดีก็ตาม

ในส่วนของบ้านจัดสรร มี 5 ทำเล ประกอบด้วย

อันดับ 1 โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย จำนวน 20,686 หน่วย มูลค่า 114,376 ล้านบาท

อันดับ 2 โซนลำลูกกา-ธัญบุรี จำนวน 15,551 หน่วย มูลค่า 91,184 ล้านบาท

อันดับ 3 โซนคลองหลวง จำนวน 14,457 หน่วย มูลค่า 57,650 ล้านบาท

อันดับ 4 โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง จำนวน 12,181 หน่วย มูลค่า 81,531 ล้านบาท

อันดับ 5 โซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก จำนวน 11,367 หน่วย มูลค่า 53,705 ล้านบาท

ส่วนสำหรับคอนโดมิเนียม มี 5 ทำเล ประกอบด้วย

อันดับ 1 โซนห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง จำนวน 9,846 หน่วย มูลค่า 39,988 ล้านบาท

อันดับ 2 โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด จำนวน 9,314 หน่วย มูลค่า 29,809 ล้านบาท

อันดับ 3 โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ จำนวน 8,280 หน่วย มูลค่า 27,391 ล้านบาท

อันดับ 4 โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด จำนวน 6,580 หน่วยมูลค่า 17,887 ล้านบาท

อันดับ 5 โซนลาดพร้าว-วังทองหลาง-บางกะปิ จำนวน 5,197 มูลค่า 16,965 ล้านบาท

@เช็กลิสต์“ระดับราคา”ขายไม่ออก

นอกจากนี้ REIC ยังส่งสัญญาณถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ควรระมัดระวังในการเพิ่มอุปทานกลุ่มเหล่านี้เข้าไปในตลาด จนทำให้ความเร็วในการขายลดลง ได้แก่

“อาคารชุด” กลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท ยังสต๊อก 9,265 หน่วย คิดเป็น 34.6% ของอาคารชุดที่สร้างเสร็จเหลือขาย 26,794 หน่วย และราคา 3-5 ล้านบาท ยังมีสต๊อก 4,277 หน่วย คิดเป็น 16%

“ทาวน์เฮาส์”กลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท มีสต๊อก 7,942 หน่วย คิดเป็น 48% ของทาวน์เฮาส์ที่สร้างเสร็จเหลือขาย 16,561 หน่วย และราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งมีสต๊อก 5,338 หน่วย คิดเป็น 32.2%

“บ้านเดี่ยว”กลุ่มราคา 5-7.50 ล้านบาท ซึ่งมีสต๊อก 2,559 หน่วย คิดเป็น 32.7% ของบ้านเดี่ยวที่สร้างเสร็จเหลือขาย 7,815 หน่วย และราคา 10-20 ล้านบาท มีสต๊อก 1,620 หน่วย คิดเป็น 20.7%

“บ้านแฝด” กลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งมีสต๊อก 2,418 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 50.8% ของบ้านแฝดที่สร้างเสร็จเหลือขาย 4,760 หน่วย และราคา 5-7.50 ล้านบาท ยังมีสต๊อก 1,472 หน่วย คิดเป็น 30.9%

ที่มา : มติชนออนไลน์ https://shorturl.asia/vSOoy

หมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตรวจคนไข้ ประกันสังคม ลั่น รู้สึกแย่ จนไม่อยากเจออีกแล้วหมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตร...
29/12/2024

หมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตรวจคนไข้ ประกันสังคม ลั่น รู้สึกแย่ จนไม่อยากเจออีกแล้ว

หมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตรวจคนไข้ ประกันสังคม ลั่น รู้สึกแย่ จนไม่อยากเจออีกแล้ว

กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อคุณหมอท่านหนึ่งในติ๊กต็อก ออกมาแชร์ประสบการณ์หลังได้ตรวจคนไข้ประกันสังคม ระบุว่า หดหู่ที่สุด จนไม่อยากกลับไปทำงานแบบนี้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้เคยเห็นคนออกมาบ่นว่า หมอประกันสังคมหมอเหมือนไม่ใส่ใจ หรือตรวจไม่ดี

ตนได้ไปรับงานประกันสังคม โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจคนไข้ตามปกติ ใครมีปัญหาก็ตรวจนาน ตรวจชั่วโมงแรกได้ 3-4 คน ด้านผู้ช่วยพยาบาลเร่งให้ตรวจไวๆ ก็เข้าใจได้ว่าคนไข้เยอะ แต่บางคนจำเป็นต้องรับการตรวจเลือดจริงๆ ด้านผู้ช่วยก็กระซิบบอกอีกว่า มันเกินค่าใช้จ่ายต่อครั้งของคนไข้ จึงต้องตัดรายการตรวจออกต่อหน้าคนไข้

“เรารู้สึกแย่กับคนไข้มากๆ เลย ทำไมคนไข้ไม่ได้รับสิทธิการรักษาที่ครบถ้วน พอเป็นสิทธินี้ต้องแบ่งตรวจ ครั้งนี้ตรวจอย่างหนึ่ง ครั้งหน้าตรวจอย่างหนึ่ง แล้วเราจะวินิจฉัยคนไข้ได้เมื่อไหร่” หมอกล่าว

คุณหมอกล่าวต่อว่า “พอตรวจเสร็จ เวลาเหลือ ผู้ช่วยบ่นว่า ‘ไม่มีเคสส่งให้หมอเลย’ อ้าวมันยังเหลือเวลาที่หมอได้นั่งว่าง เราแบ่งเวลาให้คนไข้ไม่ได้เหรอ ตรวจนานกว่านี้ไม่ได้เหรอ ไม่สงสารคนไข้เหรอ หรืออยู่ตรงนี้นานเกินจนไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์ บอกเลยไม่ใช่คนไข้ที่รู้สึกแย่ หมอก็รู้สึกแย่มาก”

ทั้งนี้ หลังคลิปดังกล่าวมียอดผู้ชมถึง 3 ล้าน รวมถึงคอมเมนต์มากมาย อาทิ

-เป็นหมอคนแรกในประเทศเราครับ ที่มีจรรยาบรรณ และออกมาเสนอความเป็นมนุษย์ ขอบคุณครับ คุณหมอมีความเป็นหมอ โดยสมบูรณ์
-ขอบคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
-เงินประกันสังคมที่เขาเก็บไปใช้เพื่อลงทุนแสวงหากำไรไม่ได้เก็บเพื่อประโยชน์แรงงานครับ
-เอาง่ายๆ ประกันสังคม เอาเปรียบทุกทาง ทั้งค่ารักษา ทั้งเงินออม แย่มาก
-750 บาท/ เดือน เท่ากับซื้อประกันดีๆได้ 1 แผนเลยนะคะหมอ ขอบคุณหมอที่เข้าใจคนไข้นะคะ
-หมอที่มีจรรยาบรรณ มีเยอะนะคะ แต่ระบบทำให้หมอเครียด
-มาตรฐานประกันสังคมกับบัตรทอง เคยได้ยินว่าแตกต่างกัน น่าจะจริงนะคะ
-ขอให้หมอเจอแต่สิ่งดีดีในชีวิต อย่าสูญเสียตัวตนและจิตวิญญาณนี้ไปนะคะ

ที่มา มติชนออนไลน์ https://shorturl.asia/HNPAV

13/12/2024

บทเรียนราคาแพง"ครูปรีชา-2แม่ค้า"เข่าอ่อน ศาลสั่งจำคุก คนละ2ปีไม่รอลงอาญา ฐานเบิกความเท็จ

ที่มา : TOP NEWS LIVE https://shorturl.asia/KwYMo

13/12/2024

"มาเมืองตรัง ถ้าไม่ได้กินหมูย่างแสดงว่าคุณมาไม่ถึง"
- โกแก่
"เครื่องเทศที่ใช้ทำหมูย่าง เราก็จะต้องเดินไปกับหมูย่างเมืองตรัง"
- โกติน
พบกับ ‘ตำนานหมูย่างเมืองตรัง’ เรื่องราวการสืบทอดหมูย่างเมืองตรัง จากการผสมผสานด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น จาก 2 ผู้สืบทอดหมูย่างและเครื่องเทศต้นตำรับ 'โกแก่' และ 'โกติน' จนออกมาเป็นเมนูอาหารที่คนทั่วประเทศรู้จัก ไม่ว่าใครก็ต้องแวะมาลิ้มลองเมื่อมาเยือนเมืองตรัง
ดูได้แล้ววันนี้ที่ NETFLIX


ที่มา : Ryoii https://shorturl.asia/bxIOP

11/12/2024

เต้ มงคลกิตติ์ ยื่น DSI สอบ อธิบดีกรมการจัดหางาน ทำผิดหรือไม่ เจอพิรุธปมประกัน ต่างด้าว

ที่มา : Bright TV https://shorturl.asia/LqBJG

รับมือยังไงได้บ้าง? เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางสังคม Toxicชีวิตคนเรา เมื่ออยู่กับใครแล้วมีความสุข ก็อยากอยู่ใกล้คนนั้น และในทา...
08/12/2024

รับมือยังไงได้บ้าง? เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางสังคม Toxic

ชีวิตคนเรา เมื่ออยู่กับใครแล้วมีความสุข ก็อยากอยู่ใกล้คนนั้น และในทางกลับกันหากอยู่กับใครแล้วมีความทุกข์ ก็อยากจะหลีกเลี่ยงจากคนนั้น ยิ่งโดยเฉพาะสังคมการทำงาน หากเราต้องอยู่ท่ามกลางความสัมพันธ์แย่ๆ ทุกวัน นอกจากจะส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อองค์กรโดยรวม

คำว่า "Toxic" ใช้กับสารเคมีที่เป็นพิษ หรือสิ่งปนเปื้อนอันตราย เมื่อเปรียบกับคนที่มีพฤติกรรมเป็นพิษต่อคนรอบข้าง จึงมีการเรียกคนกลุ่มนี้ว่า “Toxic People” นั่นเอง

สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ได้อธิบายถึง “Toxic People” หรือ "บุคคลที่เป็นพิษต่อความรู้สึกคนรอบข้าง" ไว้ว่า เป็นคำใช้เรียกคนที่แสดงพฤติกรรมเชิงลบต่อคนรอบข้าง ซึ่งคำพูดและการกระทำของคนเหล่านี้ส่งผลให้คนอื่นรู้สึกแย่ เป็นทุกข์ เกิดความสงสัยในคุณค่าของตัวเอง จนไม่อาจมีความสุขกับชีวิตได้

พฤติกรรมของ “Toxic People” เกิดได้จากหลายปัจจัย โดยหลักๆ มักเป็นคนที่มีความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองต่ำ ผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างหนักในอดีต หรือมีปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ที่ฝังรากลึกในจิตใต้สำนึก จนแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมเป็นพิษ เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิดหรือความละอายใจต่อตนเอง และนอกจากนี้ยังเกิดจากปัญหาทางจิตเวช เช่น ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ โรคไบโพลาร์ และโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

เช็กพฤติกรรม จะรู้ได้อย่างไร ว่าแบบไหนเข้าข่ายคน Toxic ?
-เป็นคนไม่ชัดเจน ไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้ สถานการณ์รอบทำให้เขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
-ต้องการความสนใจจากคนรอบข้างเสมอ พยายามทำตัวเองให้เป็นศูนย์กลาง
-มักโอ้อวดตัวเอง ไม่ยอมให้ใครพูดแทรก และไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
-ชอบควบคุม บงการคนอื่น จู้จี้คนอื่นตลอดเวลา โดนขัดใจไม่ได้
-ขี้อิจฉา มองโลกในแง่ร้าย และมักปล่อยพลังลบใส่คนรอบข้างเสมอ
-ไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติ ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น และตัดสินคนอื่นด้วยความคิดของตัวเอง
-มักชอบโกหก หลอกลวง สร้างเรื่องที่ไม่เป็นความจริงเพื่อทำลายคนอื่น

หากต้องอยู่ท่ามกลางสังคมที่มีคน Toxic ไม่ว่าจะรอบตัว หรือที่ทำงาน จะมีวิธีรับมือกับคนเหล่านี้อย่างไรดี?

แนะนำวิธีรับมือกับคน Toxic เบื้องต้น
-เผชิญหน้ากับคน Toxic เมื่อเขาแสดงพฤติกรรมที่เป็นพิษออกมาและส่งผลกระทบต่อคุณ ให้บอกเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า เพื่อให้เขาได้ทราบ และให้โอกาสเขาได้อธิบายและปรับปรุงตัว
-กำหนดขอบเขตให้ตัวเอง หลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับคน Toxic เท่าที่จะทำได้ พูดคุยเฉพาะเรื่องงานหรือเมื่อจำเป็นเท่านั้น
-หากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยุ่งเกี่ยวกับคน Toxic ให้ตัดความสัมพันธ์อย่างเด็ดขาด ตัดออกชีวิตโดยไม่ต้องรับรู้เรื่องราว และไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก
-หากพฤติกรรมของคน Toxic ส่งผลกระทบต่ออารมณ์เรา ให้ผ่อนคลายความเครียดด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ทำงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบ และใช้เวลากับคนที่รัก
-อย่าหลงกลความ Toxic เด็ดขาด ห้ามโทษตัวเอง เพราะคนเหล่านี้มักทำให้คุณรู้สึกโทษตัวเอง รู้สึกด้อยค่า และเจ็บปวดจากเรื่องที่ไม่ได้ทำผิด

หากยังไม่สามารถรับมือกับคน Toxic ด้วยตัวเองได้ รู้สึกเครียด หรือรู้สึกว่าถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ หากรุนแรงมากควรแจ้งความดำเนินคดี และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือจิตแพทย์เพื่อหาทางออกและแนะนำแนวทางให้สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองอย่างมีความสุข

ที่มา : Doctor Anywhere https://shorturl.asia/Dphtg

สิ้น กำธร พงศ์สิรินทร์ บิดา ‘พล.ต.ต.ปวีณ’ เสียชีวิตในวัย 100 ปีเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกำธร พงศ์สิ...
08/12/2024

สิ้น กำธร พงศ์สิรินทร์ บิดา ‘พล.ต.ต.ปวีณ’ เสียชีวิตในวัย 100 ปี

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกำธร พงศ์สิรินทร์ ได้ถึงแก่กรรม ด้วยวัย 100 ปี โดยจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ณ วัดราษฎร์บำรุง (หงอนไก่)

สำหรับการสูญเสียนายกำธร เป็นที่น่าเศร้าใจ นายกำธรเป็นบิดาของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการลี้ภัยทางการเมืองจากไทยไปอยู่ต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถกลับมาร่วมพิธีศพได้

โดย พล.ต.ต.ปวีณ เป็นอดีตนายตำรวจชื่อดังของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้มีบทบาทสำคัญในการเปิดโปงกระบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

พล.ต.ต.ปวีณ มีบทบาทในการเปิดโปงเครือข่ายที่ซับซ้อนและนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดหลายราย คดีนี้ได้รับความสนใจทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง

พล.ต.ต.ปวีณ ก็เผชิญกับแรงกดดันและข้อขัดแย้งภายในองค์กรและวงการเมือง โดยเฉพาะในคดีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลระดับสูง หลังจากที่เปิดโปงความจริงในคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เขาได้รับคำขู่และแรงกดดันอย่างหนัก จนนำไปสู่การตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งและเดินทางไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ ปัจจุบันได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยประเทศออสเตรเลีย

ความสัมพันธ์กับพ่อ

ทั้งนี้ พลตำรวจตรีปวีณ เคยเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับพ่อ ไว้ใน มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 – 12 มกราคม 2566 ช่วง หนึ่ง ระบุว่า

พ่อแม่เป็นเกษตรกร เป็นชาวสวนผัก ผลไม้ ฐานะของครอบครัวค่อนข้างยากจน

ผมเกิดในครอบครัวที่ใหญ่ มีพี่น้องถึง 10 คน เป็นผู้ชาย 7 คน ผู้หญิง 3 คน ผมเป็นคนที่ 5 มีพี่สาว 2 คน พี่ชาย 2 คน และน้องชาย น้องสาวที่เกิดตามผมมาอีก 5 คน

บ้านหลังนี้หลังคามุงด้วยจาก ที่อยู่ได้โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่มีตะเกียงโป๊ะ เติมน้ำมันก๊าดให้แสงสว่าง ใช้เตาถ่าน ฟืนในการหุงหาอาหาร บางครั้งฝนตกหนักมาก จนหลังคารั่วต้องใช้กะละมัง ถังน้ำ มาลองน้ำฝนบ่อยครั้ง

พ่อกับแม่ผมไม่เคยเรียนหนังสือที่ไหนมาก่อน พ่อผมพออ่านภาษาไทยออกได้บ้าง แต่เขียนไม่ค่อยได้

ผมสงสัยว่าทำไมพ่อไม่เคยไปโรงเรียนถึงอ่านหนังสือไทยได้

พ่อบอกว่า แอบไปดูเขา เรียกว่า ครูพักลักจำ แต่ภาษาจีนพ่ออ่านได้ค่อนข้างคล่องทีเดียว พ่อบอกว่าก๊งไม่ให้ไปเรียน เพราะความยากจน

ผมจำได้ว่าพ่อผมเก่งในการคิดคำนวณมาก สามารถใช้ลูกคิดได้รวดเร็วมาก ดีดลูกคิดเหมือนข้าวตอกแตก คิดคำนวณเลขในใจเหมือนเครื่องคิดเลขในสมัยนี้ สามารถคำนวณพื้นที่ คำนวณจำนวนปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช ที่จะใช้ในการเพาะปลูกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

พ่อผมมีความเชี่ยวชาญมาก ยิ่งการคิดคำนวณจำนวนเงินนั้นโอกาสผิดพลาดน้อยมาก

นอกจากการคำนวณจะเชี่ยวชาญแล้ว พ่อผมยังแข็งแรงมาก ขึ้นชื่อในหมู่บ้านเลยครับ ขนาดไปเกณฑ์ทหารเพื่อเป็นทหารบก พ่อผมยังจัดเป็น ดี 1 ประเภท 1 แล้วไปเป็นทหารเกณฑ์ผลัด 1 นานถึง 1 ปี

จนถึงเวลานี้ พ่อผมมีอายุย่าง 98 ปีแล้ว ยังแข็งแรง เพียงแต่กำลังวังชาถดถอยไปตามสังขาร

ทั้งพ่อและแม่จะสอนให้ลูกๆ ทุกคนมีความซื่อสัตย์ ไม่ให้ไปเอาของของใคร และไม่ให้ไปเอาเปรียบใคร ถ้าอยากได้อะไร ต้องทำด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง

นอกจากพ่อแม่จะสอนลูกๆ แบบนี้แล้ว ยังทำให้ดูเป็นตัวอย่าง จนลูกๆ เคยชินและเห็นเป็นเรื่องปกติของพ่อและแม่ และด้วยความซื่อจึงถูกคนโกงบ่อยครั้งมาก

เวลาขายพืชผักไป หรือเวลาเลี้ยงหมู ที่เมื่อก่อนใช้เวลานานเกือบปีกว่าจะโตจนขายได้ มีพวกคนมาซื้อหมูไปแล้วก็โกงไม่จ่ายเงิน พ่อกับแม่จะเจอบ่อยๆ และถูกพวกพ่อค้าคนกลางจากปากคลองตลาด กรุงเทพฯ กดราคาเอาเปรียบตลอดเวลา เมื่อมาซื้อที่สวน

นอกจากนั้น พ่อกับแม่ผมยังมีความรู้เรื่องวรรณกรรมจีน ที่พวกงิ้วเอามาเล่นที่โรงเจใกล้บ้าน รวมทั้งเรื่องราวต่างๆ ที่พ่อผมอ่านจากหนังสือจีนก็เอามาสอนลูกๆ เช่น ให้ลูกๆ ทุกคนมีความซื่อสัตย์เหมือนกวนอู ที่มีความซื่อสัตย์มากจนเลื่องลือไปทั่วแผ่นดินจีน และคนจีนนับถือและยกย่องให้เป็นเทพเจ้ากวนอู แม้จะเป็นคนจีนโพ้นทะเล แต่ก็ยังเก็บเอามาสอนลูกหลานที่เกิดในแผ่นดินใหม่

พ่อกับแม่จะพูดถึงขุนนางที่มีความรู้ความสามารถและทำเพื่อประชาชน และยึดถือความซื่อตรงเป็นหัวใจสำคัญ

เรื่องพงศาวดารจีน พ่อแม่จะเล่าบ่อยมาก พวกเราเด็กๆ ก็ฟังกันซ้ำๆ จนมันซึมเข้าไปในดีเอ็นเอ และซึมซับทีละเล็กทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว มันทำให้จดจำได้ว่า

นี่เป็นคำสอนที่พ่อแม่มอบให้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ และอยากให้ลูกเป็นแบบนี้

คำบอกเล่าของพ่อแม่ย่อมเอาเรื่องดีๆ มาสอน จะไม่สอนเรื่องที่ผิด ทั้งยังเอาคนที่คดโกงมาพูดให้ฟังเพื่อเปรียบเทียบ ว่าขุนนางเช่นนี้ ประชาชนทั้งแผ่นดินจะรุมประณามสาปแช่ง น่าอับอายแก่ญาติพี่น้องและวงศ์ตระกูล

พ่อกับแม่ก็ไม่ถึงกับตั้งใจสอนลูกตรงๆ เพียงแต่ชอบมาเล่าให้ฟังในเวลาที่พักผ่อนสบายๆ

พ่อผมจะย้ำเสมอๆ ให้เป็นคนรักษาคำพูด พูดอะไรไปแล้วต้องทำตามนั้น จึงจะเกิดความน่าเชื่อถือ

ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ https://shorturl.asia/lz1c9

ศูนย์ดำรงธรรมสงขลาพร้อมจับมือทุกภาคส่วน มุ่งสร้างเครือข่ายและประสานการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน    วันนี้ (วันอั...
12/11/2024

ศูนย์ดำรงธรรมสงขลาพร้อมจับมือทุกภาคส่วน มุ่งสร้างเครือข่ายและประสานการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
วันนี้ (วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ) ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มอบหมายให้ นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ต้อนรับและพบปะพูดคุยกับ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ และผู้แทนหอการค้าจังหวัดสงขลา รวมถึงการปฐมนิเทศน์นิสิตจากมหาวิทยาลัยทักษิณ
สำหรับการพบปะและพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการข้างต้น เป็นการร่วมมือร่วมใจในการขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ อาทิ การกำกับดูแลสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหอการค้า เป็นต้น ถือเป็นความร่วมมือและเป็นการเติมเต็มภารกิจในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีการปฐมนิเทศน์น้อง ๆ นิสิตจากมหาวิทยาลัยทักษิณ จำนวน 2 คน ซึ่งจะมาปฏิบัติสหกิจศึกษา (ฝึกงาน) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา นานกว่า 3 เดือน ให้รับรู้ถึงภารกิจที่สำคัญของศูนย์ ฯ เพื่อให้การปฏิบัติสหกิจศึกษาในครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงนิสิต เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงต่อไป
”บริการด้วยใจ คนไทยยิ้มได้”

พักราชการ-ให้ออกฯไว้ก่อน! ก.พ.ออกแนวปฏิบัติ‘ขรก.พลเรือน’ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลฯ-ศาลฯประทับฟ้อง‘ก.พ.’ออกแนวปฏิบัติ กรณี ‘ข้าราช...
26/10/2024

พักราชการ-ให้ออกฯไว้ก่อน! ก.พ.ออกแนวปฏิบัติ‘ขรก.พลเรือน’ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลฯ-ศาลฯประทับฟ้อง

‘ก.พ.’ออกแนวปฏิบัติ กรณี ‘ข้าราชการพลเรือน’ ถูก ‘ป.ป.ช.’ชี้มูลความผิดฯ-‘ศาลอาญาคดีทุจริตฯ’ มีคำสั่งประทับฟ้อง ‘ผู้บังคับบัญชา’ ต้องสั่ง ‘พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน’ ทันที หากศาลฯพิพากษาถึงที่สุดให้ ‘จำคุก’ หรือรับโทษหนักกว่า ถือเป็นความผิดวินัยฯด้วย

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เลขาธิการ ก.พ.) ได้ทำหนังสือที่ นร 1011/ว 22 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญหยุดปฏิบัติหน้าที่ ลงวันที่ 18 ต.ค. แจ้งไปยังกระทรวง กรม และจังหวัด เพื่อแจ้งแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบประทับฟ้องในเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา

สำหรับหนังสือฉบับนี้มีเนื้อหาว่า ด้วยมีส่วนราชการหารือแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบประทับฟ้องในเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาว่า มีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เนื่องจาก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มิได้มีบทบัญญัติกำหนดให้ข้าราชการหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้

ก.พ. พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบประทับฟ้องข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยไม่มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 จะต้องสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นการนำบทบัญญัติที่ใช้บังคับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาใช้บังคับกับเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยอนุโลม

แต่ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มิได้มีบทบัญญัติที่กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนสามัญหยุดปฏิบัติหน้าที่ คงมีแต่กรณีที่คล้ายคลึงกัน คือ การพักราชการ หรือการให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรา 101 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ประกอบข้อ 78 ถึงข้อ 84 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 กรณีนี้ผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 จึงต้องมีคำสั่งให้พักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะต้องสั่งให้มีผลเป็นปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ หากต่อมาศาลอาญาคดีพุจริตและประพฤติมิชอบได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือให้รับโทษที่หนักกว่าโทษจำคุก ก็จะเป็นความผิดวินัยตามมาตรา 85 (6) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551

ที่มา : สำนักข่าวอิศรา https://shorturl.asia/MGXym

เศร้าสูญเสีย โสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส จากไปอย่างสงบเฟซบุ๊ก Sopon Onkgara ของนาย โสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส โพส...
25/10/2024

เศร้าสูญเสีย โสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส จากไปอย่างสงบ

เฟซบุ๊ก Sopon Onkgara ของนาย โสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความว่า เรียนผู้ชมและ fc ของคุณโสภณ องค์การณ์ เมื่อช่วงค่ำของวันนี้ วันพฤหัสบดีที่ 24 ตค.2567 เวลา 22.29 น. คุณพ่อได้จากไปโดยสงบ คุณพ่อหลับสบายแล้วครับ ผมและคุณแม่ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาให้คุณพ่อและครอบครัวตลอดมา ผมจะแจ้งกำหนดการสวดพระอภิธรรมอีกครั้งเมื่อทราบรายละเอียดครบถ้วนแล้ว ขอบพระคุณทุกท่านครับ น้องบิ๊ก

โดยเมื่อวันที่ 11 ต.ค. นายโสภณ มีอาการปวดศีรษะในขณะที่กำลังจะเข้านอน เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. แล้วล้มลงในที่นอน ครอบครัวแจ้งรถฉุกเฉินส่งที่โรงพยาบาลวิภาราม ที่ใกล้ที่สุด แพทย์ให้เข้าอุโมงค์สแกน พบว่าเส้นเลือดออกที่ก้านสมอง จึงทำการเจาะศีรษะเพื่อให้ระบายเลือดออก โดยใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการทรงตัว

ต่อมาวันที่ 12 ต.ค. ได้ส่งต่อการรักษาไปยังสถาบันประสาทวิทยา โดยมีครอบครัว รวมทั้งนายปรินทร์ องค์การณ์ หรือบิ๊ก บุตรชาย คอยดูแลและแจ้งอาการผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายโสภณอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมานายโสภณมีอาการทรงตัว ไม่รู้สึกตัว ยังมีเลือดออกจากสมอง และยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีอาการไข้ ความดันมีแนวโน้มสูงขึ้น และกระเพาะอักเสบ กระทั่งจากไปอย่างสงบในที่สุด

สำหรับนายโสภณ องค์การณ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2492 เป็นชาวตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนบพิตรพิมุข แผนกภาษาต่างประเทศ ปี 2511 เริ่มทำงานเป็นล่ามในปี 2512 ให้นักศึกษาชาวอเมริกันทำวิจัยที่จังหวัดลำปางและเชียงรายเป็นเวลา 1 ปี เพื่อทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่สถาบันเอ็มไอที

นายโสภณเข้าสู่วงการสื่อมวลชน โดยเริ่มงานกับหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ที่มีนายสุทธิชัย หยุ่น เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ในตำแหน่งพนักงานพิสูจน์อักษร ก่อนเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้สื่อข่าว นักเขียน และบรรณาธิการต่อมาเป็นผู้ดำเนินรายการ Face The Nation รายการสัมภาษณ์ภาคภาษาอังกฤษ ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท. และเป็นผู้ดูแลแผนกโทรทัศน์ของเครือเนชั่น ได้รับทุน Nieman Fellowship ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตัน สหรัฐอเมริกา

ที่ผ่านมานายโสภณมีงานเขียนภาษาไทย ในนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก รวมถึงการจัดรายการโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล ขณะออกอากาศทางเคเบิ้ลทีวี ยูบีซี 8 และรายการวิทยุ พูดนอกสภา ทางสถานีวิทยุกรมการพลังงานทหาร วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา มีแฟนคลับที่สนใจการเมืองในยุคนั้นติดตามอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ สุทธิชัย หยุ่น เทพชัย หย่อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กนก รัตน์วงศ์สกุล กฤษณะ ละไล ฯลฯ

กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2545 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จากพรรคไทยรักไทย ที่เกิดการแทรกแซงสื่อมวลชนบ่อยครั้ง มีใบสั่งให้ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ขณะเป็นผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศและติดตามประเมินผล สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เข้าไปตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของสื่อมวลชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทักษิณจำนวนมาก โดยเฉพาะเครือเนชั่น ไทยโพสต์ แนวหน้า หนึ่งในนั้นมีชื่อของนายโสภณ แต่ท้ายที่สุดศาลปกครองมีคำสั่งทุเลากรณีขอข้อมูลธุรกรรม เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2545 ก่อนที่ระหว่างการพิจารณาคดี ป.ป.ง. มีหนังสือแจ้งต่อศาลปกครองกลางระบุว่าสั่งยุติการตรวจสอบกับธนาคารพาณิชย์แล้ว ทำให้ศาลปกครองจำหน่ายคดี เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เสรีภาพสื่อมวลชนตกต่ำลง เมื่อมีการถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นอีกหนึ่งชนวนที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์ขับไล่นายทักษิณ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี 2548-2549

ต่อมานายโสภณได้ร่วมงานกับเครือผู้จัดการ ปี 2552 เป็นผู้ดำเนินรายการผ่านสถานีโทรทัศน์เครือข่ายเอเอสทีวี เช่น รายการ News Hour สุดสัปดาห์ ทาง ASTV News 1 และรายการเคาะข่าวริมโขง ทาง ASTV 3 อีสานทีวี แต่ยังคงเขียนคอลัมน์ เล่นนอกสภา และ เกาที่คันวันเสาร์ ให้กับหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

อย่างไรก็ตาม นายโสภณได้หยุดเขียนคอลัมน์ให้กับสื่อในเครือเนชั่นมาตั้งแต่สิ้นปี 2553 หลังอยู่กับเครือเนชั่นมานานกว่า 30 ปี สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีปราสาทพระวิหาร และเริ่มเขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน มาตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2554 เป็นต้นมา เริ่มจากคอลัมน์หน้ากระดานเรียงห้า ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น ป้อมพระอาทิตย์ และมีคอลัมน์ข่าวต่างประเทศ ชื่อว่า มองต่างแดน ส่วนนิตยสารผู้จัดการสุดสัปดาห์ มีคอลัมน์ โสภณ องค์การณ์ ตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2554 พร้อมกับจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วันหลายรายการ เช่น News Hour Weekend, ชวนคิดชวนคุย, เคาะไข่ใส่ข่าว ฯลฯ และรายการวิทยุ พูดนอกสภา ทางสถานีวิทยุ เอฟ.เอ็ม. 90.5 MHz.

ที่มา : https://shorturl.asia/jqKsp

ที่อยู่

Had Yai
90110

เบอร์โทรศัพท์

+6674500000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ฅนใต้ ดอทคอมผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ฅนใต้ ดอทคอม:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์