The Skill Up Academy by Nopparoot

The Skill Up Academy by Nopparoot Expert in Business strategy, Leadership, Entrepreneurship, Sale & Marketing, People & team management

Jim Rohn สอนว่า “ความสำเร็จเริ่มจากความคิดและนิสัยที่ถูกต้อง”  การพูด 5 ประโยคนี้กับตัวเองทุกเช้าเป็นการ ตั้งโปรแกรมความ...
03/02/2025

Jim Rohn สอนว่า “ความสำเร็จเริ่มจากความคิดและนิสัยที่ถูกต้อง” การพูด 5 ประโยคนี้กับตัวเองทุกเช้าเป็นการ ตั้งโปรแกรมความคิด (Mindset Programming) ให้คุณเริ่มต้นวันด้วยพลังบวกและความมุ่งมั่น

แต่ละประโยคกำลังบอกอะไรเรา?

1️⃣ “Today I should have a positive attitude.”
→ ความคิดเชิงบวกจะกำหนดการกระทำของคุณ ถ้าคุณคิดดี คุณจะทำดี และดึงดูดโอกาสดีๆ เข้ามา

2️⃣ “I am grateful for all that I have.”
→ ความกตัญญูช่วยให้คุณมีความสุขกับสิ่งที่มี และเปิดใจรับโอกาสใหม่ๆ

3️⃣ “I am capable of achieving great things.”
→ ความมั่นใจในตัวเองเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณทำได้ คุณจะไม่กล้าลงมือทำ

4️⃣ “I embrace challenges as opportunities for growth.”
→ ปัญหาและอุปสรรคไม่ใช่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แต่มันเป็นเวทีที่ทำให้คุณแกร่งขึ้น

5️⃣ “I take action towards my goals every day.”
→ ความสำเร็จไม่ได้มาจากการคิดหรือฝัน แต่มาจาก การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ

สรุป

Jim Rohn กำลังบอกว่า ความคิดและคำพูดของคุณกำหนดอนาคตของคุณ
ถ้าคุณพูดแบบนี้ทุกเช้า คุณจะสร้างนิสัยของผู้ชนะ และดึงดูดความสำเร็จเข้ามาในชีวิต!

สรุปโดย The Skill Up Academy by Nopparoot
ชอบข้อมูลแนวนี้ ฝากกด share, like, subscribe ด้วยครับ

02/02/2025

“ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชค แต่ขึ้นอยู่กับการลงมือทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ยอมแพ้”

@ผู้ติดตามกลับมาติดตามเนื้อหาในหนังสือ "The Ultimate Leader"  กันต่อครับวันนี้เข้าเนื้อหากันแล้ว                        ...
02/02/2025

@ผู้ติดตาม

กลับมาติดตามเนื้อหาในหนังสือ "The Ultimate Leader" กันต่อครับ
วันนี้เข้าเนื้อหากันแล้ว

บทที่ 1: การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่

ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เพียงผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในองค์กร แต่คือผู้ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ นำพาทีมไปสู่เป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนได้ การเป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องของอำนาจหรืออิทธิพลเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ วิสัยทัศน์ (Vision), กลยุทธ์ (Strategy), และวัฒนธรรมองค์กร (Culture)
ผู้นำที่ยิ่งใหญ่คือผู้ที่เข้าใจศิลปะของการชี้นำ และศาสตร์ของการบริหาร พวกเขาไม่ได้เป็นเพียง “ผู้บริหาร” ที่ควบคุมงานเท่านั้น แต่เป็น “ผู้ขับเคลื่อน” ที่ทำให้คนรอบข้างเติบโตไปพร้อมกัน
ในบทนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่า “ผู้นำที่โลกต้องการ” ควรมีคุณสมบัติอย่างไร และจะเริ่มต้นเส้นทางของการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

1.1 ผู้นำที่โลกต้องการในยุคปัจจุบัน

ทำไมบางคนเป็นแค่ผู้จัดการ ขณะที่บางคนเป็นผู้นำที่แท้จริง?

ในองค์กรทุกแห่ง เราจะพบเห็นผู้ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ แต่ไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมได้ และในทางกลับกัน ก็มีบางคนที่ไม่ได้มีตำแหน่งสูงสุด แต่กลับได้รับความเคารพและสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้
ผู้นำที่โลกต้องการในปัจจุบันไม่ใช่เพียงผู้ที่มีความสามารถในการบริหาร แต่เป็นผู้ที่สามารถ สร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างวิสัยทัศน์ที่ทรงพลัง และสร้างวัฒนธรรมที่ทำให้ทีมเติบโตไปด้วยกัน
คุณสมบัติหลักของผู้นำที่แท้จริง:
✅ มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน – เห็นอนาคตล่วงหน้า และสามารถสื่อสารให้ทีมเข้าใจได้
✅ สร้างแรงบันดาลใจ – ทำให้คนรอบข้างเชื่อมั่นในเป้าหมายและกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า
✅ กล้าตัดสินใจและรับผิดชอบ – ไม่ลังเลเมื่อถึงเวลาสำคัญ และพร้อมรับผลของการตัดสินใจ
✅ พัฒนาคนรอบข้าง – เชื่อว่าความสำเร็จที่แท้จริงคือการทำให้ทีมเติบโตไปพร้อมกัน
✅ เปิดรับความเปลี่ยนแปลง – ปรับตัวเร็วและเรียนรู้จากสถานการณ์ใหม่ๆ

ตัวอย่างจากผู้นำระดับโลก:
Elon Musk ไม่ได้เป็นแค่ CEO ของ Tesla หรือ SpaceX แต่เป็นผู้ที่สร้างวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของพลังงานสะอาดและการเดินทางสู่อวกาศ
Nelson Mandela ไม่ได้เป็นแค่ผู้นำของประเทศ แต่เป็นผู้นำที่เปลี่ยนแปลงสังคมด้วยอุดมการณ์และความเสียสละ

1.2 เส้นทางสู่การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่

ไม่มีใครเกิดมาเป็นผู้นำโดยสมบูรณ์ ทุกคนต้องฝึกฝนและพัฒนา

การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากการพัฒนาตนเองก่อน ผู้นำที่ดีต้องเข้าใจตัวเองก่อนที่จะนำผู้อื่นได้ แนวทางในการพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งมีดังนี้:
1. ค้นหาวิสัยทัศน์ของตนเอง – ถามตัวเองว่า “ฉันต้องการสร้างผลกระทบอะไรในโลกนี้?”
2. ฝึกฝนการตัดสินใจ – เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจที่เฉียบขาด
3. สร้างนิสัยการเรียนรู้ตลอดชีวิต – ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ประสบการณ์ หรือคำแนะนำจากคนรอบข้าง
4. ฝึกฝนการสื่อสารที่ทรงพลัง – ผู้นำต้องสามารถถ่ายทอดแนวคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
5. บริหารอารมณ์และความกดดัน – ความสามารถในการควบคุมอารมณ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้นำสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้

แบบฝึกหัด:
ลองเขียน “วิสัยทัศน์ของตัวเอง” ใน 5 ปีข้างหน้า ถามตัวเองว่า
• ฉันอยากเป็นผู้นำแบบไหน?
• ฉันอยากสร้างผลกระทบอะไรในทีมและองค์กรของฉัน?
• คุณค่าหลักที่ฉันยึดถือในการเป็นผู้นำคืออะไร?

1.3 จากผู้จัดการสู่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่

ความแตกต่างระหว่าง “ผู้จัดการ” และ “ผู้นำ” มีความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาองค์กร

ผู้จัดการ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่
• บริหารงานตามแผน กำหนดทิศทางและสร้างวิสัยทัศน์
• ควบคุมและตรวจสอบ สร้างแรงบันดาลใจและปลุกพลังทีม
• จัดการกระบวนการทำงาน สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง
• สนใจตัวเลขและผลลัพธ์ระยะสั้น คิดถึงความสำเร็จในระยะยาว

1.4 ความสำคัญของความเชื่อมั่นในตนเอง

“ความเชื่อมั่นในตนเองคือรากฐานของความเป็นผู้นำที่แท้จริง”

ไม่มีผู้นำคนใดที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจหรือชี้นำทีมได้ หากตัวเขาเองยังไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองก่อน ความเชื่อมั่นในตนเอง (Self-confidence) เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถเผชิญกับความท้าทาย กล้าตัดสินใจ และก้าวข้ามอุปสรรคได้
ตัวอย่างจากโลกจริง:
• Steve Jobs ถูกไล่ออกจากบริษัทที่เขาสร้างขึ้นมาเอง (Apple) แต่เพราะเขาเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตัวเอง เขาจึงกลับมาและสร้าง Apple ให้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
• Michael Jordan เคยถูกคัดออกจากทีมบาสเกตบอลของโรงเรียน แต่เขาไม่เคยหยุดเชื่อมั่นในตัวเอง และฝึกฝนจนกลายเป็นนักบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

1.4.1 องค์ประกอบของความเชื่อมั่นในตนเอง
✅ ความเข้าใจในตนเอง – ผู้นำที่มีความเชื่อมั่นต้องเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และสิ่งที่ต้องพัฒนาในตัวเอง
✅ การกล้าตัดสินใจ – ผู้นำต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเสมอ แต่ความมั่นใจช่วยให้พวกเขากล้าตัดสินใจและรับผิดชอบผลลัพธ์
✅ ความสามารถในการจัดการความล้มเหลว – ทุกคนล้มเหลวได้ แต่ผู้นำที่แท้จริงจะลุกขึ้นใหม่และใช้ความล้มเหลวนั้นเป็นบทเรียน
✅ ความสามารถในการสื่อสารอย่างมั่นใจ – การพูดและการแสดงออกของผู้นำที่มีความมั่นใจจะทำให้ทีมเชื่อมั่นและพร้อมเดินตาม

1.4.2 วิธีพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง
1. สร้างชุดความสำเร็จ (Success Journal) – เขียนบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเคยทำสำเร็จ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพื่อเตือนตัวเองถึงศักยภาพของคุณ
2. ฝึกฝนและเตรียมตัวอยู่เสมอ – ยิ่งคุณเตรียมตัวมากเท่าไหร่ ความมั่นใจของคุณจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
3. เปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับความล้มเหลว – แทนที่จะกลัวความล้มเหลว ให้คิดว่ามันคือโอกาสในการเรียนรู้
4. ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่สนับสนุนคุณ – การได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่น
5. ฝึกการสื่อสารและการแสดงออก – การยืนตัวตรง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และสบตาผู้ฟังจะช่วยให้คุณดูมั่นใจขึ้น

แบบฝึกหัด:
ลองเขียน “3 สิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุด” และ “3 สิ่งที่ฉันอยากพัฒนา”
• ทำไมฉันถึงเก่งในสิ่งนั้น?
• ฉันจะพัฒนาสิ่งที่ต้องปรับปรุงได้อย่างไร?
• ฉันจะเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเองให้มากขึ้นได้อย่างไร?

บทสรุปของบทที่ 1
การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งหรืออำนาจเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับ วิสัยทัศน์ ความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ และความเชื่อมั่นในตนเอง ผู้นำต้องเข้าใจจุดแข็งของตัวเอง เปิดรับการพัฒนา และกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone
ในบทถัดไป เราจะเข้าสู่ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Leadership) และเรียนรู้วิธีการสร้างกลยุทธ์ที่นำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ

หากชอบเนื้อหาในหนังสือนี้ เพื่อเป็นกำลังใจ ช่วยกด Like, Share, และ Subscribe ด้วยนะครับ

The Skill Up Academy by Nopparoot

02/02/2025

Change yourself from average people to fortune.

Jim Rohn, a renowned personal development speaker, often shared principles for success that could transform an average life into a life of fortune. While he didn’t explicitly outline a “5-step” formula with this exact title, his teachings emphasize five key steps to achieving financial and personal success:

1. Improve Yourself Daily
• Success starts with personal growth. Read good books, develop new skills, and cultivate a mindset of continuous learning.
• Jim Rohn famously said, “Work harder on yourself than you do on your job.”

2. Set Clear Goals
• Have a vision for your life. Define specific financial, personal, and professional goals.
• Break them into actionable steps and track your progress.

3. Take Massive Action
• Ideas and knowledge are useless without action. Take consistent, disciplined action toward your goals.
• Develop a strong work ethic and stay committed even when challenges arise.

4. Surround Yourself with the Right People
• Your environment influences your success. Jim Rohn’s famous quote: “You are the average of the five people you spend the most time with.”
• Build relationships with mentors, successful individuals, and those who inspire and challenge you.

5. Master the Art of Giving and Value Creation
• Wealth comes from solving problems and providing value to others. Focus on creating value in your career or business.
• Also, practice generosity—helping others creates goodwill and opportunities for success.

By following these five steps consistently, an “average” person can achieve financial prosperity and a fulfilling life. Jim Rohn’s philosophy emphasizes that success is not about luck but about adopting the right habits, mindset, and strategies.

Read for what?การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง โดยเฉพาะในด้าน ความเป็นผู้นำ, การบริหารองค์กร, การพัฒนาความคิด และการสร้างแรง...
02/02/2025

Read for what?

การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง โดยเฉพาะในด้าน ความเป็นผู้นำ, การบริหารองค์กร, การพัฒนาความคิด และการสร้างแรงบันดาลใจ
1. การพัฒนาภาวะผู้นำและกลยุทธ์ธุรกิจ – หนังสืออย่าง CEO Excellence และ Good to Great เป็นหนังสือที่เน้นแนวทางการเป็นผู้นำระดับสูงและกลยุทธ์การสร้างองค์กรที่ยอดเยี่ยม
2. การพัฒนาความคิดและจิตใจ – หนังสือ 101 Essays That Will Change the Way You Think และ Good Vibes, Good Life สื่อถึงแนวคิดเกี่ยวกับพลังบวกและการพัฒนาทัศนคติ
3. จิตวิทยาและความฉลาดทางอารมณ์ – Why Has Nobody Told Me This Before? เป็นหนังสือที่ช่วยให้เข้าใจจิตใจตัวเองและรับมือกับอารมณ์ได้ดีขึ้น
4. การวางแผนและการจัดระเบียบความคิด – สมุดโน้ต, ปากกา และ Sticky Notes ช่วยในการวางแผนและ พัฒนาตัวเองอย่างเป็นระบบ

การให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการเติบโตทั้งในด้านอาชีพและชีวิตส่วนตัวผ่านการอ่าน เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดและมีต้นทุนต่ำที่สุด… เห็นด้วยไหมครับ

The Skill Up Academy by Nopparoot

ตอน 2 ครับ กับ The Ultimate Leaderมาดูเนื้อหากันว่าใน หนังสือเล่มนี้จะมีเนื้อหาอย่างไรบ้างผ่านสารบัญเนื้อหาสำหรับ The Ul...
01/02/2025

ตอน 2 ครับ กับ The Ultimate Leader
มาดูเนื้อหากันว่าใน หนังสือเล่มนี้จะมีเนื้อหาอย่างไรบ้างผ่านสารบัญ

เนื้อหาสำหรับ The Ultimate Leader: ศิลปะและกลยุทธ์สู่ความเป็นสุดยอดผู้นำ มีความชัดเจนและลำดับขั้นในการเรียนรู้ เริ่มตั้งแต่พื้นฐานของการเป็นผู้นำ ไปจนถึงการใช้หลักการต่างๆ ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

 แต่ละบทประกอบด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกันดังนี้ 

บทที่ 1: การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่
• ความหมายของการเป็นผู้นำ
• คุณสมบัติของผู้นำที่โลกต้องการ
• การสร้างวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและแรงบันดาลใจ
• ความสำคัญของความเชื่อมั่นในตัวเอง

บทที่ 2: ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Leadership)
• การวางแผนระยะยาวและการมองการณ์ไกล
• การตัดสินใจที่มีข้อมูลและการบริหารความเสี่ยง
• การกำหนดเป้าหมายและการประเมินผล
• ตัวอย่างผู้นำที่ใช้กลยุทธ์เพื่อการเติบโต (เช่น Steve Jobs, Elon Musk)

บทที่ 3: ผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
• ความหมายและหลักการของผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง
• การสร้างแรงบันดาลใจและการกระตุ้นศักยภาพในทีม
• การสร้างความผูกพันและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
• ตัวอย่างผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง (เช่น Nelson Mandela, Winston Churchill)

บทที่ 4: ผู้นำที่สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง (Cultural Leadership)
• การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและยืดหยุ่น
• การส่งเสริมความหลากหลายและการรวมกลุ่ม
• การพัฒนาความสัมพันธ์ภายในทีม
• ตัวอย่างผู้นำที่สร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง (เช่น Indra Nooyi, Howard Schultz)

บทที่ 5: การประยุกต์ใช้หลักการผู้นำในชีวิตจริง
• วิธีการนำหลักการทั้งสามไปใช้ในองค์กร
• การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
• ความท้าทายและวิธีการเอาชนะอุปสรรค
• การสร้างความยั่งยืนในภาวะผู้นำ

บทที่ 6: บทเรียนจากประสบการณ์จริง
• ประสบการณ์ส่วนตัวในการเป็นผู้นำ
• สิ่งที่เรียนรู้จากผู้นำระดับโลก
• การเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิต

บทที่ 7: สู่การเป็นผู้นำที่โลกต้องการ
• สรุปหลักการสำคัญในการเป็นผู้นำระดับโลก
• การวางแผนและเป้าหมายในอนาคต
• การเป็นผู้นำที่สร้างผลกระทบเชิงบวกในโลกนี้

คุณคิดว่า เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ  น่าสนใจและดึงดูดในการหยิบมาอ่านไหมครับ ?

คุณในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ?สรุป Transform Your Life Within 6 Months โดย Jim RohnJim Rohn เป็นหนึ่งในนักคิดแล...
01/02/2025

คุณในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ?

สรุป Transform Your Life Within 6 Months โดย Jim Rohn

Jim Rohn เป็นหนึ่งในนักคิดและนักพูดด้านการพัฒนาตัวเองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก เขาเชื่อว่า “ความสำเร็จคือผลลัพธ์ของนิสัยและวินัยที่เราสร้างขึ้นทุกวัน” หลักการของเขาใน Transform Your Life Within 6 Months คือการใช้เวลา 6 เดือนในการปรับเปลี่ยนชีวิตผ่าน การเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมของตัวเอง

🔹 6 หลักการเปลี่ยนชีวิตภายใน 6 เดือน

1. เปลี่ยนวิธีคิด → ชีวิตคุณจะเปลี่ยน

“สิ่งที่คุณเป็นอยู่ในวันนี้ คือผลลัพธ์ของความคิดเมื่อวาน”
• เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามกับตัวเอง: “ฉันอยากเป็นใครในอีก 6 เดือนข้างหน้า?”
• ฝึกคิดบวก และโฟกัสที่โอกาสมากกว่าปัญหา
• อยู่ใกล้คนที่มีทัศนคติที่ดี และหลีกเลี่ยงพลังลบ

2. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

“ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน คุณก็แค่ล่องลอยไปวันๆ”
• เขียนเป้าหมายของคุณลงบนกระดาษ (ต้องมีระยะเวลาชัดเจน)
• ตั้งเป้าหมายระยะสั้น (6 เดือน) ที่มีผลกระทบสูง
• หาวิธีวัดผล เช่น “ฉันจะอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง 10 เล่มภายใน 6 เดือน”

3. พัฒนาทักษะและความรู้ทุกวัน

“รายได้ของคุณจะไม่เกินระดับการพัฒนาตัวเองของคุณ”
• อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ หรือเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ
• ฝึกฝนสิ่งที่เรียนรู้ เช่น ใช้หลักการที่ได้จากหนังสือมาปรับใช้ในชีวิต
• เน้นการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคุณ

4. สร้างวินัย และกำจัดข้ออ้าง

“วินัยคือสะพานที่เชื่อมระหว่างเป้าหมายและความสำเร็จ”
• ตื่นให้ตรงเวลา วางแผนวันล่วงหน้า และทำงานตามแผน
• หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เสียเวลา เช่น การเลื่อนดูโซเชียลโดยไม่มีเป้าหมาย
• ถามตัวเองว่า “สิ่งที่ฉันทำวันนี้พาฉันเข้าใกล้เป้าหมายหรือเปล่า?”

5. ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง

“ความรู้ที่ดีที่สุดไม่มีค่า ถ้าคุณไม่ลงมือทำ”
• เริ่มจากก้าวเล็กๆ ที่คุณสามารถทำได้ทุกวัน
• ปรับตัวและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
• ใช้หลัก 1% improvement → ถ้าคุณพัฒนาขึ้นวันละ 1% ภายใน 6 เดือน คุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล

6. สร้างเครือข่ายและหาที่ปรึกษา

“คุณคือค่าเฉลี่ยของ 5 คนที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด”
• อยู่ใกล้คนที่มีเป้าหมายเดียวกัน หรือคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณ
• หาที่ปรึกษาที่สามารถให้คำแนะนำในการเติบโต
• ลงทุนกับความสัมพันธ์ที่ช่วยให้คุณก้าวหน้า

🔹 บทสรุป: ถ้าคุณจริงจัง 6 เดือนสามารถเปลี่ยนชีวิตได้!

Jim Rohn สอนว่า ชีวิตของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 6 เดือน ถ้าคุณยอมเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมของตัวเอง คุณไม่ต้องรอให้ถึงปีหน้า—เริ่มตั้งแต่วันนี้!

✅ คิดให้ต่าง
✅ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
✅ ลงมือทำและพัฒนาตัวเองทุกวัน
✅ สร้างวินัยและกำจัดข้ออ้าง
✅ ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่ใช่

“Don’t wish it was easier, wish you were better.” – Jim Rohn

🔥 ถ้าคุณทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างจริงจัง ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ชีวิตของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!

สรุปโดย The Skill Up Academy by Nopparoot

หวังว่าจะเป็นประโยชน์
หากชอบและสนใจติดตาม
กรุณากดไลท์ แชร์และ subscribe เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ 

Achieve lasting success in just 6 months with Jim Rohn's powerful success plan. Learn how to set goals, develop key habits, and stay disciplined to transform...

The Ultimate Leader: ศิลปะและกลยุทธ์สู่ความเป็นสุดยอดผู้นำ                                คำนำ        การเป็นผู้นำไม่ใช่...
01/02/2025

The Ultimate Leader: ศิลปะและกลยุทธ์สู่ความเป็นสุดยอดผู้นำ

คำนำ

การเป็นผู้นำไม่ใช่แค่การให้คำสั่ง แต่คือการมีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จ และการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในองค์กร ในระหว่างเส้นทางชีวิตของผม ผมได้พบเจอผู้นำที่มีวิธีการที่แตกต่างกัน บางคนใช้กลยุทธ์ที่เฉียบคม บางคนใช้พลังในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนรอบข้าง ขณะที่บางคนมุ่งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนและเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลัง

ในหนังสือเล่มนี้ ผมอยากแบ่งปันสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากผู้นำระดับโลก และวิธีที่พวกเขาสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้ไม่เพียงแต่ในตัวเอง แต่ยังในองค์กรและสังคมรอบตัว

“The Ultimate Leader” จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับหลักการสำคัญ 3 ด้านที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ต้องมี:

1. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Leadership)
2. ผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
3. ผู้นำที่สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง (Cultural Leadership)

ทั้งสามหลักการนี้จะช่วยให้คุณก้าวข้ามข้อจำกัดในตัวเอง และเป็นผู้นำที่มีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้

ผมเชื่อว่าในทุกๆ คนที่มีความมุ่งมั่นและความทุ่มเท ความเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้ ผมหวังว่าเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเดินตามเส้นทางผู้นำที่ดีที่สุดในตัวคุณเอง

The Skill Up Academy by Nopparoot

01/02/2025

ถ้าไม่ใช้ชีวิตตามแบบที่คิด ก็จะกลายเป็นได้คิดตามแบบชีวิตที่ใช้

01/02/2025

ไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่ทำสิ่งดีๆ

01/02/2025
@ผู้ติดตาม スーパーオフィスマン ซีรีย์ยอดมนุษย์ออฟฟิศ วันนี้นำเสนอ Tip #2: KAIZEN หรือ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นคำยอดฮิตในการ...
31/01/2025

@ผู้ติดตาม スーパーオフィスマン ซีรีย์ยอดมนุษย์ออฟฟิศ วันนี้นำเสนอ Tip #2: KAIZEN หรือ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นคำยอดฮิตในการทำงานทั้งในบริษัทญี่ปุ่น ไทย และเทศ...

5 ขั้นตอนในการสร้างกลยุทธ์ HR ตามแนวทางของ Gartner@ผู้ติดตาม ตอนที่แล้วเราทำความเข้าใจกับ "ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลุยทธ์...
31/01/2025

5 ขั้นตอนในการสร้างกลยุทธ์ HR ตามแนวทางของ Gartner

@ผู้ติดตาม ตอนที่แล้วเราทำความเข้าใจกับ "ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลุยทธ์ด้าน HR 10 เรื่อง" กันไปแล้ว คราวนี้เรามาทำความเข้าใจกับขั้นตอนการวางกลยุทธ์ที่ดีและเป็นแนวทางระดับโลกกันดีกว่าครับ

1. ทำความเข้าใจกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร
• กำหนดให้กลยุทธ์ HR สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
• ระบุปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ เช่น การเติบโตของรายได้ การขยายตลาด การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
• ทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ด้าน HR มุ่งเน้นไปที่ความต้องการที่สำคัญขององค์กร

2. กำหนดความสามารถและทักษะที่จำเป็นในอนาคต
• กำหนดความสามารถที่จำเป็นต่อการดำเนินงานธุรกิจ
• กำหนดทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินงานธุรกิจ
• เปรียบเทียบแนวทางกับมาตรฐานอุตสาหกรรมและคู่แข่ง

3. ทำการประเมินความสามารถและทักษะปัจจุบัน
• ประเมินช่องว่างของความสามารถ และทักษะเปรียบเทียบปัจจุบันกับเป้าหมาย
• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน ช่องว่างของทักษะ และระดับความผูกพันของพนักงาน

4. ตั้งเป้าหมายการพัฒนาคนและกำหนดเงื่อนไขความสำเร็จ
• วางวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ
• รับฟังความคิดเห็นและปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
• กำหนดตัวชี้วัด (KPI) เพื่อวัดประสิทธิภาพของการดำเนินแผนพัฒนาด้าน HR
• ทำให้กลยุทธ์มีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงภายในและภายนอกองค์กร

5. สื่อสารกลยุทธ์การพัฒนาคน
• นำกลยุทธ์ไปใช้โดยมีการกำหนดความรับผิดชอบที่ชัดเจน
• วัดผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องโดยใช้ตัวชี้วัดด้าน HR และผลกระทบต่อธุรกิจ
• สร้างโครงการและแผนปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เช่น การวางแผนกำลังคน การเพิ่มทักษะพนักงาน และความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันในองค์กร (DEI)
• จัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ
.............................................................................................
ต้องการยกระดับองค์กรของคุณให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนหรือไม่? 🚀
หากคุณกำลังมองหาแนวทางในการ...
✅ พัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง
✅ เสริมภาวะผู้นำ ให้หัวหน้างานพร้อมขับเคลื่อนองค์กร
✅ สร้างบรรยากาศการทำงานเป็นทีม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
✅ วางระบบนวัตกรรม พัฒนาขบวนการทำงาน สินค้า และบริการ
✅ ยกระดับการดูแลและวิเคราะห์ลูกค้า สร้าง Engagement อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ เพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน ลดต้นทุน เพิ่มผลลัพธ์
✅ กำหนดและปรับกลยุทธ์องค์กร ให้ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง
✅ สร้างและทบทวนวิสัยทัศน์ เพื่อกำหนดทิศทางสู่อนาคต
✅ บริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ป้องกันปัญหาก่อนเกิด
✅ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
📌 ติดต่อ Skill Up Academy by Nopparoot
เราพร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ของคุณ ด้วย หลักสูตรอบรมและที่ปรึกษาเฉพาะองค์กร (Tailor-Made Solutions) ที่ออกแบบให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณ
💡 Skill Up | Re-Skill | New Skill เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างและนำองค์กรสู่ความสำเร็จ!
📞 ติดต่อเราได้เลย! 💬✨

🧬 DNA 🧬 DNA = Daily Necessary Action สื่อถึง พฤติกรรมหรือกิจกรรมที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือสร้างผ...
30/01/2025

🧬 DNA 🧬

DNA = Daily Necessary Action สื่อถึง พฤติกรรมหรือกิจกรรมที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว

แนวคิดที่ DNA สื่อถึง
1. ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ
• ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการทำสิ่งใหญ่โตเพียงครั้งเดียว แต่เกิดจาก การลงมือทำสิ่งที่จำเป็นทุกวัน
2. พฤติกรรมที่ฝังอยู่ในวัฒนธรรม
• ถ้า DNA ของคนในองค์กรคือ “ให้ความสำคัญกับลูกค้า” ก็หมายความว่า ทุกวันพนักงานจะต้องมีพฤติกรรมที่สะท้อนสิ่งนี้ เช่น การตอบกลับลูกค้าอย่างรวดเร็ว หรือให้บริการที่เหนือความคาดหมาย
3. การสร้างวินัยและความรับผิดชอบ
• DNA เป็นเรื่องของ “วินัย” มากกว่าความสามารถ เช่น ถ้า DNA ของผู้นำคือ “เรียนรู้ตลอดเวลา” หมายความว่า ทุกวันเขาต้องอ่าน คิด และพัฒนาตัวเอง
4. สร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
• การทำ Daily Necessary Actions อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การกระทำชั่วคราว

ตัวอย่าง DNA ในธุรกิจและการทำงาน

✅ องค์กรที่ต้องการสร้างวัฒนธรรมเชิงรุก → พนักงานทุกคนต้อง เสนอไอเดียปรับปรุงงานทุกวัน
✅ ผู้นำที่ต้องการพัฒนาทีม → ต้อง ให้ฟีดแบคและโค้ชชิ่งทีมอย่างสม่ำเสมอ
✅ องค์กรที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศในการบริการ → ทุกพนักงานต้อง ใส่ใจรายละเอียดของลูกค้าในทุกวัน

สรุป

DNA = Daily Necessary Action ไม่ใช่แค่ “สิ่งที่ต้องทำ” แต่คือ พฤติกรรมหลักที่องค์กรหรือบุคคลต้องยึดถือและปฏิบัติทุกวัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ

แล้วผู้ติดตามทุกท่าน รวมถึงองค์กรของท่านมี DNA แบบไหนครับ ?

30/01/2025

@ผู้ติดตาม

วันนี้มากับ Series "スーパーオフィスマン" ยอดมนุษย์ออฟฟิศสไตล์ญี่ปุ่น

Tip #1: HOU REN SOU (報連相, ほうれんそう) เป็นหลักการสื่อสารที่สำคัญในวัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุ่น โดยเป็นแนวคิดที่ช่วยให้การทำงานราบรื่นและลดข้อผิดพลาดในการบริหารงาน

🔹 ความหมายของ HOU REN SOU (報連相)
คำว่า ほうれんそう (HOU REN SOU) และแยกออกเป็น 3 คำสำคัญ

HOU (報) – 報告 (ほうこく, Houkoku) = การรายงาน

หมายถึง การรายงานข้อมูลหรือสถานะของงานให้หัวหน้าทราบเป็นระยะ
ตัวอย่าง: รายงานความคืบหน้าของโปรเจกต์, รายงานปัญหาที่พบ
REN (連) – 連絡 (れんらく, Renraku) = การแจ้งให้ทราบ

หมายถึง การแจ้งข้อมูลหรือประสานงานกับทีมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง: แจ้งให้ทีมทราบเกี่ยวกับกำหนดการประชุม หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ
SOU (相) – 相談 (そうだん, Soudan) = การปรึกษา

หมายถึง การขอคำแนะนำจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานก่อนตัดสินใจ
ตัวอย่าง: ปรึกษาหัวหน้าก่อนดำเนินการเรื่องสำคัญ
🔹 ทำไม HOU REN SOU ถึงสำคัญ?
✅ ลดความผิดพลาด – เมื่อมีการรายงาน แจ้ง และปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
✅ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ – ข้อมูลไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ทีมทำงานได้ราบรื่น
✅ สร้างความไว้วางใจในองค์กร – หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานจะรู้สึกมั่นใจว่าไม่มีปัญหาซ่อนเร้น

🔹 ใช้ HOU REN SOU ในการทำงานอย่างไร?
💡 รายงาน (HOUKOKU) อย่างกระชับและตรงประเด็น – ไม่ต้องใส่รายละเอียดมากเกินไป
💡 แจ้งข้อมูล (RENRAKU) ให้ถูกคนและทันเวลา – หลีกเลี่ยงการสื่อสารที่ล่าช้าหรือข้อมูลที่ไม่จำเป็น
💡 ปรึกษา (SOUDAN) ก่อนตัดสินใจเรื่องสำคัญ – ป้องกันข้อผิดพลาดและแสดงถึงความรับผิดชอบ

🔹 ตัวอย่างสถานการณ์จริง
📌 กรณีของทีมงานในบริษัทโลจิสติกส์
🔹 HOUKOKU: พนักงานคลังสินค้ารายงานว่ามีสินค้าบางชิ้นเสียหายก่อนส่งออก
🔹 RENRAKU: ฝ่ายปฏิบัติการแจ้งให้ลูกค้าและทีมขนส่งทราบล่วงหน้า
🔹 SOUDAN: หัวหน้าทีมปรึกษาฝ่ายจัดซื้อว่าควรใช้มาตรการป้องกันความเสียหายอย่างไร

🔹 สรุป
HOU REN SOU (報連相) เป็นหลักการสื่อสารที่ช่วยให้ทีมทำงานได้มีประสิทธิภาพ ลดปัญหา และทำให้องค์กรดำเนินงานได้อย่างราบรื่น เป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกองค์กรและทุกสายงาน

✨ คุณสามารถเริ่มนำ HOU REN SOU ไปปรับใช้กับทีมของคุณได้อย่างไรบ้าง? 😊

หากคุณกำลังต้องการ....
1. พัฒนาคนในองค์กร
2. สร้างความเป็นผู้นำให้หัวหน้างาน
3. พัฒนาบรรยากาศการทำงานเป็นทีม
4. วางระบบการสร้างสรรค์นวัตกรรม ขบวนการทำงาน สินค้า และบริการ
5. ยกระดับการดูแล การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า สร้าง Engagement
6. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
7. กำหนดและทบทวนกลยุทธ์ให้ชัดเจน
8. สร้างหรือทบทวนวิสัยทัศน์
9. วารระบบการบริหารความเสี่ยง
10. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน
ติดต่อเรามานะครับ The Skill Up Academy by Nopparoot พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของท่าน ด้วยรูปแบบการอบรม ให้คำปรึกษา แบบเฉพาะองค์กร (Tailor made) จะทำให้การ Skill Up, Re-Skill, และ New Skill สร้างผลลัพธ์ตามเป้าหมาย

@ผู้ติดตาม นี่คือ 10 เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ HR Strategy ที่อาจส่งผลให้การบริหารทรัพยากรบุคคลไม่ได้ผลตามที่คาดหวั...
30/01/2025

@ผู้ติดตาม นี่คือ 10 เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ HR Strategy ที่อาจส่งผลให้การบริหารทรัพยากรบุคคลไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง


________________________________________
1. HR Strategy คือเรื่องของแผนก HR เท่านั้น
ความจริง: HR Strategy ต้องเป็นเรื่องของทั้งองค์กร ไม่ใช่แค่แผนก HR เพราะต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจและได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
2. HR Strategy หมายถึงการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการที่ดีขึ้น
ความจริง: แม้ว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการเป็นส่วนหนึ่งของ HR Strategy แต่หัวใจสำคัญคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาและรักษาคนเก่ง รวมถึงการปรับโครงสร้างให้เหมาะสมกับเป้าหมายธุรกิจ
3. HR Strategy เป็นเรื่องของการบริหารพนักงาน ไม่เกี่ยวกับการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ
ความจริง: กลยุทธ์ด้าน HR มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันโดยตรง เช่น การพัฒนาคนให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีใหม่
4. HR Strategy ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย แค่ทำให้ดีตั้งแต่ต้นก็พอ
ความจริง: HR Strategy ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เทคโนโลยี และพฤติกรรมของพนักงานที่เปลี่ยนไป
5. การนำเทคโนโลยี HR มาใช้คือ HR Strategy ที่ดี
ความจริง: เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ แต่ HR Strategy ต้องเน้นที่การพัฒนาคนและกระบวนการ เทคโนโลยีควรใช้เพื่อเสริมกลยุทธ์ ไม่ใช่เป็นจุดศูนย์กลาง
6. HR Strategy ควรเหมือนกับองค์กรชั้นนำที่ประสบความสำเร็จ
ความจริง: กลยุทธ์ของ HR ต้องออกแบบให้เหมาะกับวัฒนธรรม อุตสาหกรรม และเป้าหมายขององค์กรของตัวเอง ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ทั้งหมด
7. HR Strategy ต้องให้ความสำคัญกับพนักงานระดับสูงก่อน
ความจริง: ทุกระดับมีความสำคัญ กลยุทธ์ HR ควรสร้างระบบที่ทำให้ทุกคนมีโอกาสเติบโตและพัฒนาได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้บริหาร
8. HR Strategy ไม่เกี่ยวข้องกับการวัดผลทางการเงินของบริษัท
ความจริง: การบริหารทรัพยากรบุคคลที่ดีช่วยเพิ่มผลกำไร ลดอัตราการลาออก ลดต้นทุนในการสรรหาบุคลากร และเพิ่มผลิตภาพขององค์กรได้
9. การฝึกอบรมคือหัวใจของ HR Strategy
ความจริง: การพัฒนาคนเป็นเรื่องสำคัญ แต่ HR Strategy ต้องครอบคลุมถึงการบริหารผลงาน การสร้างเส้นทางอาชีพ และการออกแบบองค์กรให้มีประสิทธิภาพด้วย
10. HR Strategy ไม่ต้องสื่อสารกับพนักงานก็ได้
ความจริง: หากพนักงานไม่เข้าใจ HR Strategy พวกเขาจะไม่สามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ ต้องมีการสื่อสารให้ชัดเจนและต่อเนื่อง
________________________________________
สรุป: HR Strategy ที่มีประสิทธิภาพต้องเชื่อมโยงกับกลยุทธ์องค์กร ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย และสื่อสารให้พนักงานมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง 🚀

หากคุณกำลังต้องการ....
1. พัฒนาคนในองค์กร
2. สร้างความเป็นผู้นำให้หัวหน้างาน
3. พัฒนาบรรยากาศการทำงานเป็นทีม
4. วางระบบการสร้างสรรค์นวัตกรรม ขบวนการทำงาน สินค้า และบริการ
5. ยกระดับการดูแล การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า สร้าง Engagement
6. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
7. กำหนดและทบทวนกลยุทธ์ให้ชัดเจน
8. สร้างหรือทบทวนวิสัยทัศน์
9. วารระบบการบริหารความเสี่ยง
10. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน
ติดต่อเรามานะครับ The Skill Up Academy by Nopparoot พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของท่าน ด้วยรูปแบบการอบรม ให้คำปรึกษา แบบเฉพาะองค์กร (Tailor made) จะทำให้การ Skill Up, Re-Skill, และ New Skill สร้างผลลัพธ์ตามเป้าหมาย

29/01/2025

“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
ขอให้ปีนี้เต็มไปด้วยความสุข ความสำเร็จ และความโชคดี
การงานเจริญรุ่งเรือง ธุรกิจมั่งคั่ง
ครอบครัวอบอุ่นสุขใจ สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัย
เงินทองไหลมาเทมา ดั่งน้ำไม่ขาดสาย
ให้ทุกก้าวย่างในปีนี้เปี่ยมด้วยความมั่นคง
ขอให้เฮง เฮง เฮง ตลอดปี และตลอดไป”

The Skill Up Academy by Nopparoot

29/01/2025

ถ้าอยากเปลี่ยนชีวิต
ต้องเปลี่ยนความเชื่อ
อยากเปลี่ยนความเชื่อ ต้องออกไปหาประสบการณ์เพื่อพิสูจน์ความเชื่อนั้น

ที่อยู่

Chon Buri
20180

เวลาทำการ

เสาร์ 09:00 - 17:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66915164914

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ The Skill Up Academy by Nopparootผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง The Skill Up Academy by Nopparoot:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์