![](https://img5.medioq.com/741/543/554235797415435.jpg)
18/12/2024
#เงินเฟ้อ และ #เงินฝืด เป็นสองภาวะทางเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในตลาด และมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในหลายด้าน
#เงินเฟ้อ (Inflation)
เงินเฟ้อคือสถานการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับระยะเวลาหนึ่ง ทำให้มูลค่าของเงินลดลง หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ เงินซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง
#สาเหตุของเงินเฟ้อ
1.Demand-pull Inflation: ความต้องการซื้อสินค้าหรือบริการมีมากกว่าปริมาณที่ผลิตได้ เช่น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจ
2.Cost-push Inflation: ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น ค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น ราคาวัตถุดิบแพงขึ้น
3.Monetary Inflation: ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมีมากเกินไป
#ผลกระทบของเงินเฟ้อ
- ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น
- ลดกำลังซื้อของประชาชน
- ส่งผลดีต่อผู้กู้ยืม เพราะมูลค่าหนี้ลดลงเมื่อเทียบกับเงินในอนาคต
- กระทบต่อการออม เพราะดอกเบี้ยที่ได้อาจไม่สูงพอเทียบกับเงินเฟ้อ
#เงินฝืด (Deflation)
เงินฝืดคือสถานการณ์ที่ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าของเงินเพิ่มขึ้น หรือเงินสามารถซื้อสินค้าและบริการได้มากขึ้น
#สาเหตุของเงินฝืด
1. การลดลงของความต้องการสินค้าและบริการ (Aggregate Demand) เช่น ภาวะเศรษฐกิจซบเซา
2. การเพิ่มขึ้นของปริมาณสินค้าและบริการในตลาดโดยที่ความต้องการไม่เพิ่มตาม
3. การลดลงของต้นทุนการผลิต เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี
#ผลกระทบของเงินฝืด
- กระทบต่อธุรกิจ เพราะรายได้ลดลง ทำให้มีการลดการลงทุนและการจ้างงาน
- ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย เพราะคาดว่าราคาจะลดลงอีก
- เพิ่มภาระต่อผู้กู้ยืม เพราะมูลค่าของหนี้ที่ต้องชำระเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคาสินค้าและรายได้
#การจัดการเงินเฟ้อและเงินฝืด
- เงินเฟ้อ: รัฐบาลอาจใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัว เช่น การเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือลดปริมาณเงินในระบบ
- เงินฝืด: รัฐบาลอาจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย หรือการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
#เพจฝากบอกครูสังคม
ทั้งเงินเฟ้อและเงินฝืดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก ดังนั้น การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ