Royal Lab ตัวแทนจำหน่ายเมล็ดนำเข้าโดยตรงจากค่าย | ปุ๋ย | ดินปลูก
| ศูนย์รวมความรู้เกี่ยวกับกัญชา
(9)

เมล็ดกัญชาสามารถเก็บรักษาได้นานไหม———————————————————เมล็ดกัญชาสามารถเก็บรักษาได้นานหลายปี หากดูแลและจัดเก็บอย่างถูกต้อง...
13/12/2024

เมล็ดกัญชาสามารถเก็บรักษาได้นานไหม
———————————————————
เมล็ดกัญชาสามารถเก็บรักษาได้นานหลายปี หากดูแลและจัดเก็บอย่างถูกต้อง โดยทั่วไปเมล็ดที่เก็บรักษาไว้อย่างดีสามารถใช้งานได้นานถึง 3-5 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษาและคุณภาพของเมล็ดตั้งแต่แรก

วิธีการเก็บรักษาเมล็ดกัญชาอย่างถูกต้อง
1. เก็บในที่เย็นและแห้ง
• อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 4-8°C (เช่น ในตู้เย็น)
• ความชื้นควรอยู่ที่ประมาณ 20-30% เพื่อป้องกันการงอกหรือเชื้อรา
2. เก็บในภาชนะปิดสนิท
• ใช้ถุงซิปล็อกหรือภาชนะสุญญากาศที่ปิดแน่น
• สามารถใส่ซองดูดความชื้น (silica gel) เพื่อช่วยลดความชื้นในภาชนะ
3. หลีกเลี่ยงแสงและความร้อน
• เก็บในที่มืด เช่น กล่องทึบแสง เพราะแสงสามารถทำลายคุณภาพของเมล็ดได้
4. ตรวจสอบเป็นระยะ
• คอยเช็กว่าไม่มีความชื้นหรือราขึ้นในภาชนะเก็บ

หากปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ เมล็ดกัญชาจะยังคงมีชีวิตและสามารถงอกได้เมื่อนำไปเพาะในอนาคต แม้ว่าคุณภาพการงอกอาจลดลงเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป.

อาการใบเหลืองแก้อย่างไร?
12/12/2024

อาการใบเหลืองแก้อย่างไร?

อาการใบเหลืองแก้อย่างไร?
การสั่งซื้อ : https://shorturl.asia/KjygM

ควรใช้ Revive เพื่อฟื้นฟูต้นกัญชาที่มีอาการใบเหลืองในสถานการณ์ต่อไปนี้:

1.ขาดสารอาหาร: เมื่อสังเกตเห็นว่าใบของต้นกัญชาเริ่มเหลืองจากการขาดสารอาหาร เช่น ไนโตรเจน แมกนีเซียม หรือเหล็ก ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย Revive จะช่วยเติมสารอาหารที่ขาดหายไป

2.ใบเหลืองเนื่องจากความเครียด: หากต้นกัญชามีอาการใบเหลืองจากความเครียด เช่น อุณหภูมิสูงเกินไป การขาดน้ำ หรือแสงไม่เพียงพอ การใช้ Revive จะช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูพืชให้กลับมาแข็งแรง

3.การรดน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป: เมื่อใบเหลืองเกิดจากการที่ต้นกัญชาได้รับน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป Revive จะช่วยปรับสมดุลและฟื้นฟูระบบรากที่อาจได้รับความเสียหาย

4.ปัญหา pH ในดิน: หากดินหรือสารละลายที่ใช้ในการปลูกมีค่า pH ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ใบเหลือง Revive จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารแม้ในสภาวะที่ pH ไม่สมดุล

5.อาการใบเหลืองที่เกิดจากการย้ายปลูก: หลังจากย้ายต้นกัญชาไปปลูกในที่ใหม่ อาจทำให้เกิดอาการใบเหลืองจากความเครียด Revive สามารถช่วยลดความเครียดนี้และฟื้นฟูต้นได้

การสังเกตสภาพของต้นกัญชาเป็นประจำและใช้ Revive ในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

ลด 50% รีบไปจัดกันได้ https://shorturl.asia/4U2chเพิ่มกลิ่น  เร่งออกใหญ่ เร่งสี  เร่งไตรโคม
11/12/2024

ลด 50% รีบไปจัดกันได้ https://shorturl.asia/4U2ch
เพิ่มกลิ่น เร่งออกใหญ่ เร่งสี เร่งไตรโคม

คำแนะการกัญชาฤดูหนาว-----------------------------การดูแลและปรับสภาพการปลูกกัญชาในฤดูหนาวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พืชเติบโตได...
10/12/2024

คำแนะการกัญชาฤดูหนาว
-----------------------------
การดูแลและปรับสภาพการปลูกกัญชาในฤดูหนาวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พืชเติบโตได้ดี แม้ในสภาพอากาศที่เย็นลง ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่เหมาะสม:

1. การควบคุมอุณหภูมิ
- อุณหภูมิที่เหมาะสม: รักษาให้อยู่ที่ 20-25°C ในช่วงกลางวัน และไม่ต่ำกว่า 18°C ในช่วงกลางคืน
- เครื่องทำความร้อน: ใช้ฮีตเตอร์หรือแผ่นทำความร้อนใต้กระถางเพื่อลดผลกระทบจากความเย็น
ฉนวนกันความร้อน: คลุมกระถางด้วยวัสดุที่เก็บความร้อนได้ดี เช่น ฟอยล์หรือแผ่นพลาสติก

2. การปรับแสง
- ฤดูหนาวมักมีแสงแดดน้อยลง ควรใช้ ไฟปลูก (LED Grow Light) เพื่อเสริมแสง
- ให้แสงสว่างอย่างน้อย 16-18 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับระยะเติบโต (vegetative stage)
- วางไฟปลูกในระยะที่ไม่ใกล้หรือไกลเกินไปจากยอดพืช (ประมาณ 30-50 ซม.)

3. การจัดการความชื้น
- ความชื้นที่เหมาะสม:
- ระยะต้นกล้า: 65-70%
- ระยะเติบโต: 50-60%
- ระยะออกดอก: 40-50%
- ใช้ เครื่องเพิ่มความชื้น (Humidifier) หากอากาศแห้ง หรือถาดน้ำใต้ต้นเพื่อเพิ่มความชื้น
- ระวังความชื้นสูงเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเชื้อรา เช่น Powdery Mildew

4. การรดน้ำ
- อุณหภูมิที่เย็นลงทำให้ดินแห้งช้าลง ลดปริมาณการรดน้ำเพื่อป้องกันดินแฉะ
- ใช้น้ำที่อุณหภูมิห้อง (20-25°C) เพื่อไม่ให้รากช็อกจากน้ำเย็น

5. การให้อาหาร
- ใช้ปุ๋ยสูตรที่เหมาะกับระยะการเติบโต เช่น:
- ระยะต้นกล้า/เติบโต: ใช้สูตรไนโตรเจนสูง
- ระยะออกดอก: ใช้ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง
- ใช้ Advanced Nutrients Piranha หรือ Voodoo Juice เพื่อเสริมรากและป้องกันโรคในฤดูหนาว

6. การป้องกันลมและหนาวจัด
- ใช้พลาสติกคลุมโรงเรือนหรือผ้าคลุมพืช เพื่อลดความเสี่ยงจากลมหนาว
- วางต้นใกล้แหล่งกำแพงหรือพื้นที่กันลม

7. การระบายอากาศ
- ใช้พัดลมหมุนเวียนอากาศอย่างเบา ๆ เพื่อป้องกันอากาศนิ่งและความชื้นสะสม
- หมั่นตรวจสอบโรงเรือนให้มีอากาศถ่ายเทดี

8. การดูแลพิเศษ
- เพิ่มการตรวจสอบโรค เช่น โรครากเน่า หรือเชื้อราในดิน ซึ่งพบได้บ่อยในฤดูหนาว
- หากพบใบเหลืองหรือพืชเติบโตช้าลง ให้เพิ่มความอบอุ่นหรือแสงสว่าง

สรุป
ฤดูหนาวอาจเพิ่มความท้าทายในการปลูกกัญชา แต่ด้วยการควบคุมอุณหภูมิ แสง ความชื้น และการให้น้ำที่เหมาะสม คุณสามารถช่วยให้ต้นกัญชาเติบโตได้ดีและสุขภาพแข็งแรงในทุกฤดู! 🌱

วิธีชำกิ่งกัญชาแบบละเอียดทำอย่างไร-----------------------------------Voodoo Juice: https://shorturl.asia/xHsaWRockwool: ...
09/12/2024

วิธีชำกิ่งกัญชาแบบละเอียดทำอย่างไร
-----------------------------------
Voodoo Juice: https://shorturl.asia/xHsaW
Rockwool: https://shorturl.asia/L2Mwx

การชำกิ่งกัญชา (Cannabis Cloning) เป็นวิธีการขยายพันธุ์ที่ช่วยให้ได้ต้นที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนต้นแม่ทุกประการ วิธีการทำที่ถูกต้องมีดังนี้:

1. เตรียมอุปกรณ์
- กรรไกรหรือมีดที่คมและสะอาด: ล้างด้วยแอลกอฮอล์เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
- ฮอร์โมนเร่งราก (Cloning Gel หรือ Powder)
- วัสดุปลูก: เช่น โกโกพีท (Cocopeat), เพอร์ไลต์, หรือฟองน้ำปลูก
- ถาดชำกิ่ง และ โดมพลาสติก: เพื่อรักษาความชื้น
- น้ำสะอาด: pH ประมาณ 5.5-6.0
- ไฟปลูก (LED): ให้แสงที่อ่อนและไม่ร้อนเกินไป

2. เลือกกิ่งที่เหมาะสม
- เลือกกิ่งที่แข็งแรง มีสีเขียวสด และไม่มีโรค
- ความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร
- มีใบประมาณ 2-3 คู่

3. การตัดกิ่ง
- ตัดกิ่งที่จุดใต้ข้อใบ (node) โดยใช้มุมเฉียง 45 องศา
- ลอกใบส่วนล่างออกให้เหลือเพียงใบด้านบน

4. จุ่มฮอร์โมนเร่งราก
- จุ่มปลายกิ่งลงในฮอร์โมนเร่งรากทันทีหลังตัด

5. ปักชำในวัสดุปลูก
- ปักกิ่งลงในวัสดุปลูกที่เตรียมไว้ โดยให้กิ่งตั้งตรง
- กดวัสดุปลูกเบา ๆ รอบกิ่งเพื่อให้มั่นคง

6. รักษาความชื้นและอุณหภูมิ
- วางกิ่งในถาดชำและครอบด้วยโดมพลาสติก
- รักษาความชื้นในโดมประมาณ 70-90%
- อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 22-25°C
- เปิดระบายอากาศทุกวันประมาณ 10-15 นาที

7. การดูแลและรอรากงอก
- ให้แสงไฟปลูกวันละ 16-18 ชั่วโมง
- รากจะเริ่มงอกใน 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพแวดล้อม
- เมื่อรากงอกเต็มที่ สามารถย้ายไปปลูกในกระถางหรือแปลงปลูกได้

เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยกระตุ้นการงอกของราก เช่น Advanced Nutrients Piranha** หรือ Voodoo Juice
- หมั่นตรวจสอบวัสดุปลูกว่ามีความชื้นอยู่เสมอ อย่าให้แห้งหรือเปียกเกินไป

ใช้ Root Riot  ในการปลูกกัญชาดีอย่างไร ?Lazada: https://shorturl.asia/yacqx--------------------------------------การใช้ ...
06/12/2024

ใช้ Root Riot ในการปลูกกัญชาดีอย่างไร ?
Lazada: https://shorturl.asia/yacqx
--------------------------------------
การใช้ Root Riot สำหรับการปลูกกัญชาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะสำหรับการเพาะเมล็ดและการปักชำราก เนื่องจาก Root Riot ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น พีทมอส (peat moss) และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากอย่างมีประสิทธิภาพ:

ข้อดีของการใช้ Root Riot ในการปลูกกัญชา
1. ส่งเสริมการงอกรากที่รวดเร็ว:
- เนื้อวัสดุของ Root Riot ช่วยเก็บความชื้นได้ดี ทำให้เมล็ดงอกเร็ว และรากสามารถเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น
- โครงสร้างที่โปร่งและเบาช่วยให้รากสามารถหายใจและดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ใช้งานง่าย:
- Root Riot มาในรูปแบบก้อนสำเร็จรูปที่มีรูอยู่ตรงกลางสำหรับใส่เมล็ดหรือกิ่งปักชำ ทำให้สะดวกและลดโอกาสการผิดพลาดในการเริ่มต้นเพาะปลูก
- พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติม

3. ปราศจากเชื้อโรค:
- ก้อน Root Riot ผ่านการฆ่าเชื้อ จึงลดความเสี่ยงจากเชื้อราหรือโรคพืชที่อาจเป็นอันตรายต่อเมล็ดและต้นกล้า

4. มีสารอาหารเริ่มต้น:
- Root Riot บางรุ่นมีการเติมสารอาหารพื้นฐานที่ช่วยบำรุงเมล็ดและต้นกล้าในช่วงแรกของการเติบโต ทำให้ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเพิ่มเติมทันที

5. เหมาะสำหรับการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์และดิน:
- สามารถนำต้นกล้าที่เริ่มต้นจาก Root Riot ไปปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์หรือปลูกในดินต่อได้อย่างง่ายดาย

6. รักษาความชื้นได้ดี:
- ก้อน Root Riot สามารถกักเก็บความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเมล็ดหรือปักชำ ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย

7. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม:
- วัสดุทำจากธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

8. ลดความเสี่ยงของรากขาดออกซิเจน:
- โครงสร้างที่โปร่งของ Root Riot ช่วยให้ออกซิเจนเข้าถึงรากได้ดี ลดโอกาสที่รากจะขาดอากาศและเน่าเสีย

วิธีการใช้งาน Root Riot
1. เพาะเมล็ด:**
- ใส่เมล็ดกัญชาลงในรูตรงกลางของก้อน Root Riot
- รักษาความชื้นโดยการฉีดน้ำหรือใช้โดมพลาสติกปิดเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ชื้น
- เมื่อต้นกล้าเริ่มเติบโต สามารถย้ายไปปลูกในดินหรือระบบไฮโดรโปนิกส์ได้

2. ปักชำ:
- ตัดกิ่งกัญชาที่ต้องการปักชำ และจุ่มโคนกิ่งลงในฮอร์โมนเร่งราก
- เสียบกิ่งลงในรูของ Root Riot
- รักษาความชื้นและแสงให้เหมาะสม

เหมาะกับผู้ปลูกระดับใด?
- Root Riot เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เพราะใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูงในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก

หากคุณกำลังทำธุรกิจกัญชาและต้องการเริ่มต้นด้วยต้นกล้าหรือกิ่งที่แข็งแรง Root Riot เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและช่วยให้กระบวนการปลูกเป็นไปอย่างราบรื่น!การใช้ Root Riot สำหรับการปลูกกัญชาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะสำหรับการเพาะเมล็ดและการปักชำราก เนื่องจาก Root Riot ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น พีทมอส (peat moss) และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากอย่างมีประสิทธิภาพ:

ข้อดีของการใช้ Root Riot ในการปลูกกัญชา
1. ส่งเสริมการงอกรากที่รวดเร็ว:
- เนื้อวัสดุของ Root Riot ช่วยเก็บความชื้นได้ดี ทำให้เมล็ดงอกเร็ว และรากสามารถเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น
- โครงสร้างที่โปร่งและเบาช่วยให้รากสามารถหายใจและดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ใช้งานง่าย:
- Root Riot มาในรูปแบบก้อนสำเร็จรูปที่มีรูอยู่ตรงกลางสำหรับใส่เมล็ดหรือกิ่งปักชำ ทำให้สะดวกและลดโอกาสการผิดพลาดในการเริ่มต้นเพาะปลูก
- พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติม

3. ปราศจากเชื้อโรค:
- ก้อน Root Riot ผ่านการฆ่าเชื้อ จึงลดความเสี่ยงจากเชื้อราหรือโรคพืชที่อาจเป็นอันตรายต่อเมล็ดและต้นกล้า

4. มีสารอาหารเริ่มต้น:
- Root Riot บางรุ่นมีการเติมสารอาหารพื้นฐานที่ช่วยบำรุงเมล็ดและต้นกล้าในช่วงแรกของการเติบโต ทำให้ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเพิ่มเติมทันที

5. เหมาะสำหรับการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์และดิน:
- สามารถนำต้นกล้าที่เริ่มต้นจาก Root Riot ไปปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์หรือปลูกในดินต่อได้อย่างง่ายดาย

6. รักษาความชื้นได้ดี:
- ก้อน Root Riot สามารถกักเก็บความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเมล็ดหรือปักชำ ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย

7. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม:
- วัสดุทำจากธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

8. **ลดความเสี่ยงของรากขาดออกซิเจน:**
- โครงสร้างที่โปร่งของ Root Riot ช่วยให้ออกซิเจนเข้าถึงรากได้ดี ลดโอกาสที่รากจะขาดอากาศและเน่าเสีย

วิธีการใช้งาน Root Riot
1. เพาะเมล็ด:
- ใส่เมล็ดกัญชาลงในรูตรงกลางของก้อน Root Riot
- รักษาความชื้นโดยการฉีดน้ำหรือใช้โดมพลาสติกปิดเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ชื้น
- เมื่อต้นกล้าเริ่มเติบโต สามารถย้ายไปปลูกในดินหรือระบบไฮโดรโปนิกส์ได้

2. ปักชำ:
- ตัดกิ่งกัญชาที่ต้องการปักชำ และจุ่มโคนกิ่งลงในฮอร์โมนเร่งราก
- เสียบกิ่งลงในรูของ Root Riot
- รักษาความชื้นและแสงให้เหมาะสม

เหมาะกับผู้ปลูกระดับใด?
- Root Riot เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เพราะใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูงในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก

หากคุณกำลังทำธุรกิจกัญชาและต้องการเริ่มต้นด้วยต้นกล้าหรือกิ่งที่แข็งแรง Root Riot เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและช่วยให้กระบวนการปลูกเป็นไปอย่างราบรื่น!

ใช้ rockwool ในการปลูกกัญชาดีอย่างไร ?-------------------------------การใช้ Rockwool (หรือใยหิน) ในการปลูกกัญชามีข้อดีหล...
05/12/2024

ใช้ rockwool ในการปลูกกัญชาดีอย่างไร ?
-------------------------------
การใช้ Rockwool (หรือใยหิน) ในการปลูกกัญชามีข้อดีหลายประการ เนื่องจากเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชในระบบไร้ดิน (hydroponics) หรือการปลูกแบบควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพืชที่ต้องการการดูแลเรื่องการระบายน้ำและการให้อากาศในราก เช่น กัญชา ข้อดีของ Rockwool ได้แก่:

ข้อดีของการใช้ Rockwool

1. ระบายน้ำและให้อากาศได้ดี
- Rockwool มีโครงสร้างที่สามารถกักเก็บน้ำได้ในปริมาณที่เหมาะสม และยังช่วยให้ออกซิเจนเข้าถึงรากพืชได้ดี ทำให้รากเจริญเติบโตได้รวดเร็ว

2. ควบคุมความชื้นได้ง่าย
- เนื่องจาก Rockwool มีความสามารถในการกักเก็บน้ำ จึงช่วยรักษาความชื้นให้พืชในระดับที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงจากการขาดน้ำหรือให้น้ำมากเกินไป

3. ปลอดเชื้อและสะอาด
- Rockwool เป็นวัสดุที่ผ่านการผลิตในอุณหภูมิสูง จึงไม่มีเชื้อโรคหรือแมลง ทำให้พืชปลูกในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ลดปัญหาโรคในราก

4. เหมาะสำหรับระบบ Hydroponics
- Rockwool สามารถดูดซับและปล่อยสารละลายธาตุอาหารให้กับรากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฮโดรโปนิกส์ หรือระบบน้ำหยด

5. ใช้งานง่าย
- Rockwool มีหลายขนาดและรูปแบบ เช่น ก้อนเล็กสำหรับเพาะเมล็ด หรือแผ่นใหญ่สำหรับปลูกต้นที่โตแล้ว สามารถปรับใช้ตามความต้องการของการปลูกได้

6. **ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก**
- ด้วยความโปร่งและการเก็บความชื้นที่เหมาะสม Rockwool ช่วยให้รากพืชสามารถขยายตัวได้ดี ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของพืชโดยรวม

7. ช่วยให้ควบคุมค่า pH ได้ง่าย
- Rockwool มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับกลาง (neutral) ทำให้ปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของสารละลายธาตุอาหารได้ง่ายขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ Rockwool
- ควรปรับค่า pH ก่อนใช้งาน: Rockwool อาจมีค่า pH สูงในช่วงแรก ควรแช่น้ำปรับ pH ให้เหมาะสม (ประมาณ 5.5-6.5) ก่อนนำไปใช้
- จัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม: Rockwool ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ควรจัดการทิ้งอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- สวมถุงมือระหว่างใช้งาน: Rockwool อาจระคายเคืองต่อผิวหนังเนื่องจากเป็นเส้นใยหิน

หากคุณมีเป้าหมายในการเพาะปลูกกัญชาคุณภาพสูง การใช้ Rockwool เป็นวัสดุปลูกจะช่วยให้การปลูกมีประสิทธิภาพและควบคุมได้ง่ายขึ้น!

#ใช้rockwoolในการปลูกกัญชาดีอย่างไร

04/12/2024
รีวิว สายพันธุ์ Lemon Mandarin ค่าย 2fast4buds---------------------------------------------Lemon Mandarin เป็นสายพันธุ์ก...
03/12/2024

รีวิว สายพันธุ์ Lemon Mandarin ค่าย 2fast4buds
---------------------------------------------
Lemon Mandarin เป็นสายพันธุ์กัญชาที่มีจุดเด่นในเรื่องของรสชาติ กลิ่น และคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับผู้ปลูกและผู้บริโภค โดยรวมมีลักษณะเฉพาะดังนี้:

1. ลักษณะเด่นของสายพันธุ์
- รสชาติและกลิ่น:
- มีกลิ่นหอมสดชื่นคล้ายผลไม้รสเปรี้ยว โดยเฉพาะเลม่อนและส้มแมนดาริน
- รสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมด้วยโน้ตกลิ่นซิตรัสและเครื่องเทศอ่อนๆ
- ให้ประสบการณ์การสูบหรือบริโภคที่ "สดชื่น" และ "สะอาด"

- ความแรง:
- มี THC สูง (อาจสูงถึง 25-30% ขึ้นอยู่กับการปลูกและการดูแล)
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลายหรือแรงบันดาลใจในงานสร้างสรรค์

- ฤทธิ์:
- ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และกระปรี้กระเปร่า
- บางครั้งช่วยให้มีสมาธิและอารมณ์ดี

2. การปลูก (Grow Tips)
- ประเภทสายพันธุ์:
- ส่วนใหญ่เป็น ไฮบริด (Hybrid) ที่มีลักษณะเด่นของ Indica และ Sativa

- ความทนทาน:
- เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
- เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

- ระยะเวลาเติบโต:
- หากปลูกในระบบ Photoperiod (ปรับแสง): ใช้เวลาออกดอกประมาณ 8-10 สัปดาห์
- ให้ผลผลิตสูงและต้นมีขนาดใหญ่

- วิธีปลูก:
- สามารถปลูกได้ทั้งในร่ม (Indoor) และกลางแจ้ง (Outdoor)
- ควรใช้ดินคุณภาพดี หรือระบบไฮโดรโปนิกส์เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

3. การใช้งานและประโยชน์
-การใช้งานทางการแพทย์:
- ลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
- บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง
- ช่วยเรื่องการนอนหลับในบางกรณี

- การใช้งานทั่วไป:
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสดชื่นระหว่างวัน
- ใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะหรืองานที่ต้องการสมาธิ

ต้นกัญชาโตช้า แก้ปัญหาด้วย Advanced Nutrients Revive  การสั่งซื้อ https://shorturl.asia/4QwzN---------------------------...
02/12/2024

ต้นกัญชาโตช้า แก้ปัญหาด้วย Advanced Nutrients Revive
การสั่งซื้อ https://shorturl.asia/4QwzN
-----------------------------------------------------
การปลูกกัญชาไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอปัญหาที่ทำให้ต้นกัญชาโตช้ากว่าปกติ ซึ่งสาเหตุหลักอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความเครียดของต้น การขาดสารอาหาร หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หากคุณกำลังเผชิญปัญหานี้ Advanced Nutrients Revive คือคำตอบที่จะช่วยให้ต้นกัญชาของคุณกลับมาแข็งแรงและเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ต้นกัญชาโตช้า

1. ขาดสารอาหารสำคัญ
ต้นกัญชาต้องการสารอาหารหลากหลาย เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม หากขาดสารอาหารเหล่านี้ ต้นอาจแสดงอาการใบเหลือง ใบหงิก หรือการเจริญเติบโตชะงัก

2. ความเครียดจากการปลูก
ความเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิสูงเกินไป การรดน้ำมากหรือน้อยเกินไป หรือการย้ายกระถาง อาจทำให้ต้นเกิดความเครียดและส่งผลต่อการเจริญเติบโต

3. โรคหรือแมลงศัตรูพืช
การโจมตีจากแมลงหรือการติดโรค เช่น ใบจุด หรือโรครากเน่า อาจทำให้ต้นสูญเสียพลังงานและโตช้าลง

Advanced Nutrients Revive: ตัวช่วยฟื้นฟูต้นกัญชา

Revive เป็นผลิตภัณฑ์จาก Advanced Nutrients ที่ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูต้นกัญชาที่ประสบปัญหาการขาดสารอาหารหรือความเครียด ด้วยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยไนโตรเจน แคลเซียม และธาตุอาหารรองที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต

คุณสมบัติเด่นของ Revive
- ฟื้นฟูต้นที่มีอาการใบเหลือง
Revive ช่วยเติมไนโตรเจนและแคลเซียมให้เพียงพอ ช่วยแก้ไขอาการใบเหลืองและฟื้นฟูใบให้กลับมาเขียวสดใส
- ลดความเครียดของต้น
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของรากและลำต้น
ฟื้นฟูระบบรากให้แข็งแรง พร้อมทั้งสนับสนุนการดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น

วิธีการใช้ Revive

1. ผสมน้ำ
ใช้ Revive 5 มล. ต่อน้ำ 1 ลิตร สำหรับการรดต้นหรือใช้กับระบบไฮโดรโพนิกส์

2.รดหรือพ่นใบ
ใช้ในช่วงที่ต้นเริ่มแสดงอาการ เช่น ใบเหลือง หรือการเจริญเติบโตชะงัก โดยใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

3. ติดตามผล
หลังใช้ Revive คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในต้น เช่น ใบเขียวขึ้น และต้นมีการเจริญเติบโตดีขึ้นภายใน 7-14 วัน

เพิ่มผลผลิต ด้วยการดูแลต้นให้สมบูรณ์**

อย่าปล่อยให้ต้นกัญชาของคุณโตช้าและอ่อนแอ การใช้ Advanced Nutrients Revive จะช่วยให้ต้นของคุณฟื้นตัวได้เร็วและกลับมาแข็งแรง พร้อมให้ผลผลิตที่ดีขึ้นในอนาคต

สนใจสั่งซื้อ Advanced Nutrients Revive ติดต่อเราได้เลย!**
ช่วยให้ต้นของคุณโตไว ฟื้นตัวไว และพร้อมสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืน!

คำแนะนำเกี่ยวการปลูกกัญชา outdoor------------------------------------การปลูกกัญชา แบบ Outdoor สามารถทำได้ง่ายและประหยัดต...
30/11/2024

คำแนะนำเกี่ยวการปลูกกัญชา outdoor
------------------------------------
การปลูกกัญชา แบบ Outdoor สามารถทำได้ง่ายและประหยัดต้นทุนกว่าการปลูกในร่ม แต่ต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายด้านเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเบื้องต้น

1. การเลือกสถานที่
- แสงแดด: เลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน กัญชาเป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัด
- ความปลอดภัย: เลือกพื้นที่ที่ปลอดภัยจากการรบกวนของสัตว์เลี้ยง คนอื่น หรือกฎหมาย (ถ้ามีข้อจำกัดในพื้นที่ของคุณ)
- การระบายน้ำ: พื้นที่ต้องมีการระบายน้ำที่ดี ไม่เกิดน้ำขังในช่วงฝนตก

2. การเตรียมดิน
- ดินที่เหมาะสม: ดินควรมีคุณสมบัติร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีค่า pH ระหว่าง 6.0-7.0
- สารอาหารในดิน: ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก (Organic Compost) เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้ดิน เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
- การทดสอบดิน: ทดสอบค่า pH และสารอาหารในดินก่อนปลูก เพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม

3. การเลือกสายพันธ
เลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในพื้นที่ เช่น
- อากาศร้อนชื้น: สายพันธุ์ Sativa มักจะทนต่อความชื้นสูงได้ดี
- อากาศเย็น: สายพันธุ์ Indica อาจเหมาะสมกว่า

4. การปลูกและดูแล
- การเพาะเมล็ด: เพาะเมล็ดในถาดเพาะก่อน หรือปลูกลงดินโดยตรงเมื่อดินพร้อม
- การรดน้ำ: รดน้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดในช่วงกลางวัน
- การให้อาหารเสริม: ใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมกับระยะการเจริญเติบโต เช่น ปุ๋ยสูตรไนโตรเจนสูงในช่วงเติบโต และปุ๋ยโพแทสเซียมสูงในช่วงออกดอก
- การป้องกันโรคและแมลง: ตรวจเช็คพืชอย่างสม่ำเสมอ ใช้สารชีวภาพในการป้องกัน เช่น น้ำมันสะเดาหรือ Bacillus thuringiensis

5. การเก็บเกี่ยว
- ช่วงเวลา: สังเกตดอกว่ามีไตรโครม (Trichomes) เปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นหรือเหลืองอำพัน
- การเก็บ: ตัดแต่งต้นในช่วงเช้า เก็บดอกให้สะอาด และระมัดระวังไม่ให้โดนความชื้น

เคล็ดลับเพิ่มเติม
หากคุณต้องการผลผลิตที่มีคุณภาพสูง แนะนำให้ใช้ Advanced Nutrients สำหรับการปลูกแบบ Organic หรือเพิ่มสารอาหารในดิน ซึ่งช่วยปรับสมดุล pH และเพิ่มผลผลิตในทุกระยะการเจริญเติบโต

ถ้าต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม เช่น การดูแลในช่วงดอกหรือการป้องกันโรคอย่างเฉพาะเจาะจง บอกฉันได้เลย!

#คำแนะนำเกี่ยวการปลูกกัญชาoutdoor

วิธีที่ดีที่สุดในการปลูกเมล็ดพันธุ์กัญชา
27/11/2024

วิธีที่ดีที่สุดในการปลูกเมล็ดพันธุ์กัญชา

วิธีที่ดีที่สุดในการปลูกเมล็ดพันธุ์กัญชาขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด สภาพแวดล้อมในการปลูก และระดับประสบการณ์ของคุณ อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับทั่วไปบางส่วนที่จะช่วยคุณในการเริ่มต้น:

1. การงอก: เริ่มต้นด้วยการงอกเมล็ดกัญชาของคุณ คุณสามารถทำได้โดยวางไว้ในผ้ากระดาษชุบน้ำหมาดๆ หรือใส่ในภาชนะขนาดเล็กที่มีดินชื้นโดยตรง เก็บไว้ในที่อบอุ่นและมืดจนกว่ามันจะงอก

2. ระยะต้นกล้า: เมื่อเมล็ดงอกแล้ว ให้ย้ายลงกระถางขนาดเล็กที่มีดินระบายน้ำได้ดี รักษาดินให้ชุ่มชื้นแต่ไม่เปียกจนเกินไป และจัดให้มีแสงสว่างเพียงพอ สามารถใช้ไฟฟลูออเรสเซนต์หรือไฟเติบโต LED สำหรับขั้นตอนนี้ได้

3 ระยะการเจริญเติบโต: ในระยะนี้ พืชจะเน้นการเจริญเติบโตของใบและลำต้น จัดให้มีแสงสว่างอย่างน้อย 18 ชั่วโมงต่อวัน รวมทั้งมีการระบายอากาศและการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสม รักษาดินให้ชุ่มชื้นและใช้ปุ๋ยที่สมดุลเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี

4. ระยะการออกดอก: หลังจากการเจริญเติบโตของพืชไม่กี่สัปดาห์ คุณสามารถเปลี่ยนวงจรแสงเป็นแสง 12 ชั่วโมงและความมืด 12 ชั่วโมงเพื่อเริ่มระยะการออกดอก จัดเตรียมดินที่อุดมด้วยสารอาหารและใช้ปุ๋ยเฉพาะสำหรับการออกดอก ตรวจสอบระดับความชื้นและให้แน่ใจว่ามีการไหลเวียนของอากาศที่ดีเพื่อป้องกันเชื้อราและสัตว์รบกวน

5 การเก็บเกี่ยว: เก็บเกี่ยวพืชเมื่อไทรโครม (ต่อมเรซิน) มีสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองอำพัน สิ่งนี้บ่งชี้ว่าระดับ THC อยู่ที่จุดสูงสุดแล้ว ตัดต้นไม้ที่ฐานแล้วแขวนคว่ำไว้ในที่มืด แห้ง และมีอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อให้แห้ง หลังจากการอบแห้ง ให้ตัดใบออกและเก็บหน่อไว้ในภาชนะสุญญากาศ

อย่าลืมศึกษาหลักเกณฑ์เฉพาะสำหรับสายพันธุ์ที่คุณปลูก เนื่องจากสายพันธุ์ต่างๆ อาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้มีความสุขมากขึ้น

สรูปข้อมูลสายพันธุ์ Strawberry Gorilla Auto ---------------------------------------------Strawberry Gorilla Auto เป็นสาย...
25/11/2024

สรูปข้อมูลสายพันธุ์ Strawberry Gorilla Auto
---------------------------------------------
Strawberry Gorilla Auto เป็นสายพันธุ์กัญชาประเภท Autoflowering ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักปลูกและผู้ใช้งานกัญชาสำหรับกลิ่นและรสชาติที่หอมหวานแบบสตรอเบอร์รี่ ผสมผสานกับความเข้มข้นของพันธุ์กอริลลา นี่คือรายละเอียดโดยย่อเกี่ยวกับสายพันธุ์นี้:

ลักษณะทั่วไปของ Strawberry Gorilla Auto
1. ประเภทสายพันธุ์
- Autoflowering (ออกดอกโดยอัตโนมัติ ไม่ขึ้นกับแสง)
- ไฮบริดที่สมดุลระหว่าง Sativa และ Indica

2. กลิ่นและรสชาติ
- หอมหวานคล้ายสตรอเบอร์รี่
- มีกลิ่นสมุนไพรปนกลิ่นดินเบา ๆ พร้อมความหวานที่ซับซ้อน

3. ความเข้มข้นของ THC
- ปกติประมาณ 20–25% (ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูก)
- ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข พร้อมความคมชัดของสมาธิ

4. ผลกระทบ
- ช่วยเพิ่มความสงบและผ่อนคลาย
- เหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงเย็นหรือเมื่อคุณต้องการผ่อนคลายจากความเครียด
- ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์เล็กน้อย

5. การใช้งานทางการแพทย์
- บรรเทาอาการปวด
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล
- ช่วยให้นอนหลับ

ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูก
1. ระยะเวลาในการปลูก
- ประมาณ 9–10 สัปดาห์จากเมล็ดถึงเก็บเกี่ยว
- เติบโตเร็ว เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการความสะดวก

2. ผลผลิต
- ในร่ม: ประมาณ 400–600 กรัม/ตร.ม.
- กลางแจ้ง: ประมาณ 50–150 กรัม/ต้น

3. ลักษณะต้น
- มีความสูงปานกลาง (ประมาณ 70–120 ซม.)
- ใบเขียวหนาแน่นพร้อมดอกที่เคลือบด้วยเรซิน

4. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- ปลูกได้ดีทั้งในร่มและกลางแจ้ง
- ทนทานต่อโรคและแมลงในระดับปานกลาง

สรุป:
Strawberry Gorilla Auto เหมาะสำหรับทั้งผู้ปลูกมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการปลูกง่ายและได้ผลผลิตเร็ว พร้อมรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และฤทธิ์ที่สมดุลระหว่างความผ่อนคลายและความสุข ใช้ได้ทั้งในเชิงสันทนาการและเชิงการแพทย์ ทำให้สายพันธุ์นี้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ปลูกสายพันธุ์ Autoflowering!

มัดรวมวิธีดูแลต้นกัญชาในห้องปลูก-----------------------------------การดูแลต้นกัญชาในห้องปลูก (Indoor Growing) จำเป็นต้อง...
21/11/2024

มัดรวมวิธีดูแลต้นกัญชาในห้องปลูก
-----------------------------------
การดูแลต้นกัญชาในห้องปลูก (Indoor Growing) จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับหลายปัจจัยเพื่อให้ต้นกัญชาเติบโตแข็งแรงและได้ผลผลิตที่ดี วิธีการดูแลต้นกัญชาในห้องปลูกมีดังนี้:

1. ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
- อุณหภูมิที่เหมาะสม:
- ช่วงเวลากลางวัน: 21-29°C
- ช่วงเวลากลางคืน: 18-24°C
- ความชื้นสัมพัทธ์ (RH):
- ระยะต้นกล้า: 65-70%
- ระยะเติบโต (Vegetative stage): 40-60%
- ระยะออกดอก: 40-50%
- ใช้ **เครื่องควบคุมความชื้น หรือ เครื่องลดความชื้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม

2. จัดแสงให้เพียงพอ
- ใช้ไฟที่เหมาะสม เช่น LED Grow Light หรือ ไฟ HPS
- ชั่วโมงแสง:
- ระยะเติบโต: 18 ชั่วโมงแสง / 6 ชั่วโมงมืด
- ระยะออกดอก: 12 ชั่วโมงแสง / 12 ชั่วโมงมืด
- รักษาระยะห่างระหว่างไฟกับต้นกัญชาเพื่อป้องกันความร้อนเกิน

3. การรดน้ำและการให้อาหาร
- น้ำ: ใช้น้ำที่มีค่า pH 6.0-6.5 (สำหรับดิน) หรือ 5.5-6.0 (สำหรับปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์)
- ปุ๋ยและสารอาหาร:
- ระยะเติบโต: เพิ่มไนโตรเจน (N) สูง
- ระยะออกดอก: เพิ่มฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) สูง
- ใช้ Advanced Nutrients หรือปุ๋ยที่เหมาะสม

4. การระบายอากาศ
- ติดตั้งพัดลมเพื่อให้อากาศหมุนเวียนและป้องกันเชื้อรา
- ใช้ คาร์บอนฟิลเตอร ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ (Exhaust Fan) เพื่อควบคุม CO2 และความชื้น

5. การตัดแต่งกิ่งและจัดรูปทรง
- การตัดแต่งกิ่ง (Pruning): ช่วยให้แสงเข้าถึงทุกส่วนของต้น
- การดัดกิ่ง (Training): เช่น LST (Low-Stress Training) หรือ S***G (Screen of Green) เพื่อเพิ่มพื้นที่แสง

6. การป้องกันโรคและแมลง
- ตรวจสอบต้นกัญชาทุกวัน เพื่อหาสัญญาณของโรค เช่น ใบเหลือง เชื้อรา หรือแมลง
- การรักษาโรคยอดนิยม:
- Root Rot: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Trichoderma หรือ Hydrogen Peroxide
- Leaf Spot: ใช้สารป้องกันเชื้อรา เช่น Potassium Bicarbonate

7. ตรวจสอบคุณภาพดินและราก
- ดินควรโปร่ง ระบายน้ำได้ดี
- ตรวจรากอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกัน Root Bound (รากพันกัน)

8. ใช้เทคโนโลยีช่วยดูแล
- ติดตั้งระบบ Smart Controllers เช่น:
- เครื่องตั้งเวลาแสง (Light Timer)
- เครื่องควบคุม CO2
- แอปพลิเคชันตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้น

สรุป
การดูแลต้นกัญชาในห้องปลูกต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมสภาพแวดล้อม แสง น้ำ ปุ๋ย และการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม หากคุณเพิ่งเริ่มต้น แนะนำให้ลงทุนในอุปกรณ์พื้นฐานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น ไฟปลูกพืชและเครื่องควบคุมความชื้น จะช่วยให้คุณดูแลต้นได้ง่ายขึ้นและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง!

รวมวิธีทำเพิ่ม ไตรโคมให้ดอกกัญชาแบบแน่นๆทำอย่างไร----------------------------------------------------การเพิ่มจำนวนและคุณ...
19/11/2024

รวมวิธีทำเพิ่ม ไตรโคมให้ดอกกัญชาแบบแน่นๆทำอย่างไร
----------------------------------------------------
การเพิ่มจำนวนและคุณภาพของไตรโคม (Trichomes) ในดอกกัญชาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเพิ่มความเข้มข้นของสารสำคัญ เช่น THC และ CBD โดยสามารถทำได้ดังนี้:

1. ใช้แสงที่เหมาะสม
- ไตรโคมมีการผลิตสูงขึ้นเมื่อได้รับแสง UV-B จากหลอดไฟที่เหมาะสม
- หลอดไฟ LED ที่มีความยาวคลื่นครบถ้วน (Full Spectrum) จะช่วยกระตุ้นการสร้างไตรโคมในช่วงออกดอก

2. ลดอุณหภูมิและเพิ่มความเข้มของแสงในช่วงท้าย
- ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว ให้ลดอุณหภูมิในช่วงกลางคืนลงประมาณ 18-20°C
- เพิ่มความเข้มของแสงในช่วงเวลากลางวันเพื่อกระตุ้นความเครียดที่กระตุ้นการสร้างไตรโคม

3. ควบคุมความชื้น
- ลดความชื้นในช่วงดอกเหลือประมาณ 40-50%
- ความชื้นต่ำช่วยลดโอกาสการเกิดเชื้อราและกระตุ้นต้นให้ผลิตไตรโคมเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ

4. ใช้สารอาหารที่เหมาะสม
- ใช้สารอาหารที่มีปริมาณ ฟอสฟอรัส (P) และ โพแทสเซียม (K) สูงในช่วงออกดอก
- หลีกเลี่ยงการให้ไนโตรเจนมากเกินไปในช่วงนี้ เพราะจะลดความเข้มข้นของไตรโคม

5. ปรับรอบแสงในช่วงท้าย
- ลดรอบแสงจาก 12/12 ชั่วโมง เหลือ 10/14 ชั่วโมง ในช่วง 1-2 สัปดาห์สุดท้ายเพื่อกระตุ้นต้นให้สร้างไตรโคม

6. ใช้เทคนิค Low-Stress Training (LST)
- ดัดกิ่งเบา ๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแสงของดอก ทำให้ต้นผลิตไตรโคมในทุกส่วนของดอกได้มากขึ้น

7. ใช้เทคนิค Defoliation และ Light Stress
- ตัดแต่งใบที่บังแสงเพื่อให้แสงเข้าถึงดอกโดยตรง
- เพิ่มการเครียดเล็กน้อย เช่น การเพิ่มแสง UV-B หรือการลดน้ำในช่วงสั้น ๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างไตรโคม

8. Flush ระบบรากก่อนเก็บเกี่ยว
- ล้างระบบรากด้วยน้ำเปล่าหรือสารล้างปุ๋ยประมาณ 7-10 วันก่อนเก็บเกี่ยว
- ช่วยลดสารตกค้างในดอกและส่งเสริมคุณภาพไตรโคม

9. เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม
- ตรวจไตรโคมด้วยแว่นขยายหรือกล้องจุลทรรศน์
- ไตรโคมสีใส: ยังไม่พร้อม
- ไตรโคมน้ำนม: มี THC สูงสุด
- ไตรโคมสีอำพัน: เน้น CBD และเอฟเฟกต์ผ่อนคลาย

10. อบแห้งและบ่มดอกอย่างถูกวิธี
- อบแห้งในที่มืดที่มีอุณหภูมิ 18-21°C และความชื้น 45-55%
- บ่มดอกในขวดแก้วที่ปิดสนิท และเปิดระบายอากาศทุกวันในช่วงแรก เพื่อรักษาคุณภาพของไตรโคม

หมายเหตุ: การกระตุ้นไตรโคมควรทำด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำให้ต้นเครียดเกินไป เพราะอาจลดผลผลิตโดยรวมได้!

#รวมวิธีทำเพิ่มไตรโคมให้ดอกกัญชาแบบแน่นๆทำอย่างไร

วิธีการควบคุมค่า pH และการให้สารอาหารในการปลูกกัญชาโพสเดียวจบ--------------------1. การควบคุมค่า pHค่า pH มีผลต่อความสาม...
18/11/2024

วิธีการควบคุมค่า pH และการให้สารอาหารในการปลูกกัญชาโพสเดียวจบ
--------------------
1. การควบคุมค่า pH
ค่า pH มีผลต่อความสามารถของพืชในการดูดซึมสารอาหาร การรักษาค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมจึงสำคัญมาก:

ช่วงค่า pH ที่เหมาะสม
- สำหรับดิน: 6.0 - 6.5
- สำหรับระบบไฮโดรโปนิกส์: 5.5 - 6.0

ขั้นตอนการตรวจและปรับค่า pH
1. ตรวจค่า pH:
- ใช้ เครื่องวัด pH (pH meter) หรือ แถบวัด pH เพื่อตรวจว่าน้ำหรือน้ำสารอาหารมีค่า pH เท่าใด
- ควรตรวจ pH ก่อนรดน้ำและหลังผสมน้ำสารอาหาร

2. ปรับค่า pH:
- ค่า pH ต่ำเกินไป (เป็นกรด): ใช้สารเพิ่มค่า pH เช่น pH Up (สารโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์)
- ค่า pH สูงเกินไป (เป็นด่าง): ใช้สารลดค่า pH เช่น pH Down (สารฟอสฟอริกหรือซัลฟิวริกแอซิด)
- เติมสารทีละน้อยและคนให้เข้ากันก่อนวัดค่าใหม่จนได้ตามต้องการ

3. ตรวจ pH ของดิน:
- รดน้ำลงดินและตรวจค่า pH ของน้ำที่ไหลออกมา เพื่อให้มั่นใจว่าค่า pH ในดินอยู่ในช่วงที่เหมาะสม

2. การให้สารอาหาร
กัญชาต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละช่วงการเติบโต:

สารอาหารสำคัญที่ต้องใช้
1. ไนโตรเจน (N): ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ใช้มากในช่วง Vegetative Stage (ช่วงต้น)
2. ฟอสฟอรัส (P): ส่งเสริมการออกดอกและรากแข็งแรง ใช้มากในช่วง Flowering Stage (ช่วงออกดอก)
3. โพแทสเซียม (K): ช่วยเรื่องความแข็งแรงและคุณภาพดอก
4. สารรองและจุลธาตุ: เช่น แคลเซียม (Ca), แมกนีเซียม (Mg), ซิงก์ (Zn)

ขั้นตอนการให้สารอาหาร
1. เลือกสูตรปุ๋ย:
- ใช้ปุ๋ยเฉพาะสำหรับกัญชา เช่น Advanced Nutrients General Hydroponics หรือ FoxFarm
- สูตรที่เหมาะสมจะมี N-P-K และจุลธาตุในสัดส่วนที่เหมาะกับแต่ละช่วง

2. ผสมสารอาหาร:
- เติมปุ๋ยในน้ำตามอัตราส่วนที่แนะนำบนฉลาก
- ผสมทีละขั้นตอน โดยคนหรือใช้เครื่องอัดอากาศเพื่อให้ปุ๋ยละลายดี

3. รดน้ำผสมสารอาหาร:
- รดน้ำปุ๋ยลงดินหรือระบบปลูก โดยเน้นหลีกเลี่ยงการรดซ้ำจนเกินไป (ป้องกันการสะสมเกลือ)
- ให้สารอาหารทุก 1-2 สัปดาห์ หรือปรับตามอาการของต้น

4. ล้างราก (Flush):
- ล้างระบบรากด้วยน้ำเปล่าหรือสารปรับสมดุล pH ในช่วงท้ายของการปลูก (2 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว) เพื่อกำจัดสารตกค้าง

เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ตรวจอาการต้น: หากใบเหลืองหรือขอบใบไหม้ อาจเป็นสัญญาณของการขาดหรือเกินสารอาหาร
- ใช้เครื่อง EC หรือ TDS Meter: ตรวจความเข้มข้นของสารละลายเพื่อป้องกันการให้สารอาหารเข้มข้นเกินไป
- ควรมีสมุดจดบันทึก: เก็บข้อมูลค่า pH และปริมาณสารอาหารที่ใช้ เพื่อปรับแผนในครั้งต่อไป

การควบคุมค่า pH และการให้สารอาหารที่เหมาะสมช่วยให้ต้นกัญชาเจริญเติบโตแข็งแรงและให้ผลผลิตคุณภาพสูง

#วิธีการควบคุมค่าpHและการให้สารอาหารในการปลูกกัญชา

เทคนิคควบคุม CO₂ ในการปลูกกัญชา---------------------การควบคุม CO₂ ในการปลูกกัญชาเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโ...
14/11/2024

เทคนิคควบคุม CO₂ ในการปลูกกัญชา
---------------------
การควบคุม CO₂ ในการปลูกกัญชาเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิต เนื่องจาก CO₂ มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช การเพิ่มระดับ CO₂ ในห้องเพาะปลูกจะช่วยให้พืชสามารถสร้างอาหารและเติบโตได้เร็วขึ้น เทคนิคการควบคุม CO₂ มีดังนี้:

1. เลือกแหล่งจ่าย CO₂ – มีหลายตัวเลือก เช่น ถัง CO₂, เครื่องกำเนิด CO₂ (CO₂ generator), และการใช้ CO₂ bags (ถุง CO₂) ที่จะปล่อย CO₂ ออกมาอย่างช้า ๆ ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่เพาะปลูกและงบประมาณ

2. ตั้งระดับ CO₂ ที่เหมาะสม – ปริมาณ CO₂ ที่เหมาะสมในการปลูกกัญชาอยู่ที่ประมาณ 1200-1500 ppm ในช่วงการเจริญเติบโต ซึ่งเป็นระดับที่ช่วยเพิ่มการเติบโตโดยไม่เป็นอันตรายต่อพืช

3. การเปิด-ปิดระบบ CO₂ ตามรอบแสง – CO₂ ควรถูกปล่อยในช่วงที่มีแสง (กลางวันหรือช่วงเปิดไฟ) เพราะพืชใช้ CO₂ ในการสังเคราะห์แสงเท่านั้น ควรปิดระบบ CO₂ ในช่วงที่ปิดไฟ เพราะการปล่อย CO₂ โดยไม่มีแสงจะเป็นการสูญเปล่าและสิ้นเปลืองพลังงาน

4. การควบคุมการระบายอากาศ – การระบายอากาศควรอยู่ในระดับที่ไม่ทำให้ CO₂ ระเหยออกจากห้องมากเกินไป อาจต้องปิดพัดลมดูดอากาศชั่วคราวในขณะที่เพิ่ม CO₂ เพื่อรักษาระดับที่เหมาะสม

5. ติดตั้งเครื่องตรวจวัด CO₂– ควรใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับ CO₂ ในห้องเพาะปลูกเพื่อตรวจสอบและปรับแต่งระดับ CO₂ ให้เหมาะสม คอยเช็กให้มั่นใจว่า CO₂ ไม่สูงเกินไปเพราะอาจส่งผลเสียต่อพืชและสิ้นเปลืองทรัพยากร

6. ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้สอดคล้อง – เมื่อมีการเพิ่ม CO₂ พืชจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้เล็กน้อย (ประมาณ 26-30°C) แต่ควรปรับความชื้นให้เหมาะสมตามช่วงการเจริญเติบโตเพื่อป้องกันการสะสมความชื้นที่ทำให้เกิดเชื้อรา

7. เพิ่ม CO₂ ช่วงการเจริญเติบโตเท่านั้น – การเพิ่ม CO₂ ควรทำในช่วงการเจริญเติบโต (vegetative stage) และช่วงต้นของการออกดอก (early flowering stage) แต่เมื่อใกล้ถึงช่วงเก็บเกี่ยว ควรลด CO₂ ให้ต่ำลงเพื่อประหยัดและให้พืชพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว

การควบคุม CO₂ อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ต้นกัญชาสร้างสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตที่ดีขึ้น

ที่อยู่

บุรีรัมย์
Buriram
31000

เบอร์โทรศัพท์

+66802766426

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Royal Labผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Royal Lab:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ

  • Nicolas

    Nicolas

    Amphoe Muang Buriram
  • MVhome

    MVhome

    267 77 Jira Rd, Nai Mueang, Mueang Buri Ram District, Buri Ram 31000, Thailand, Bangkok

ครีเอเตอร์ดิจิทัล อื่นๆใน Buriram

แสดงผลทั้งหมด