เกษตรโฟกัส

เกษตรโฟกัส เพจเกษตรโฟกัส จัดทำขึ้นเพื่อ เผยแพร่ข่าวสารด้านการเกษตร จาก www.kasetfocusnews.com และข่าวเกษตรทั่วไป

ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของการเกษตรยุคใหม่,นิตยสารเกษตรโฟกัส เป็นนิตยสารที่จัดทำขึ้นเพื่อความอยู่ดี กินดี ตามวิถีเกษตรพอเพียง,ข่าวเกษตร,เกษตร,เกษตรกร,ชาวนา,เทคโนโลยี่การเกษตร,เกษตรโฟกัสนิวส์,kasetfocusnews
โทร/IDLine :0946518886

เมื่อคนเริ่มกลัวการตายแบบผ่อนส่ง! เครือข่ายปลูกผักเกษตรอินทรีย์จึงเข้มแข็ง“โก โฮลเซลล์” รับซื้อผักออร์แกนิก หนุนชาวสวนสง...
06/02/2025

เมื่อคนเริ่มกลัวการตายแบบผ่อนส่ง! เครือข่ายปลูกผักเกษตรอินทรีย์จึงเข้มแข็ง
“โก โฮลเซลล์” รับซื้อผักออร์แกนิก หนุนชาวสวนสงขลา สร้างสุขภาพดี มีรายได้ยั่งยืน

ชื่อของ “เครือข่ายใต้ร่มบุญ เกษตรอินทรีย์” เป็นที่รู้จักและพูดถึงกันในกลุ่มปลูกผักออร์แกนิก และผู้บริโภคปลายทางที่ตามหาสินค้าอินทรีย์จากกลุ่มนี้ เพราะเชื่อมั่นในผลผลิตที่ได้จากกระบวนการผลิตจากธรรมชาติ และแนวคิดในการทำเกษตรที่ต้อง win win ทั้งคนปลูก คนขาย คนซื้อ และธรรมชาติ

“จันทร์เพ็ญ เพ็ชรัตน์” หรือ แม่เอียด เจ้าของฟาร์มพ่อไข่แม่เอียด หนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายใต้ร่มบุญ เกษตรอินทรีย์ เล่าว่า เห็นเกษตรกรรุ่นปู่ย่าตายาย ป่วยเป็นมะเร็งกันเยอะ ก็หันมาทำเกษตรอินทรีย์ และได้พบคนที่มีแนวคิดเดียวกัน รวมกลุ่มกัน เกิดเป็นเครือข่ายเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม ที่นอกจากผู้ปลูกจะมีหัวใจเดียวกันแล้ว ยังมีภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เข้ามาร่วมกันสร้างความเข้มแข็ง อาทิ วิสาหกิจชุมชนต่างๆ เกษตรจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด พัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร พาณิชย์จังหวัด ภาคเอกชนต่างๆ ฯลฯ

นอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพคนปลูกแล้ว การหันมายึดวิถีปลูกผักออร์แกนิก หรือทำเกษตรอินทรีย์ ยังช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อม ยึดวิถีการทำเกษตรแบบไม่เอาเปรียบธรรมชาติ ซึ่งจะใช้ปุ๋ยหมัก เลี้ยงไส้เดือนเอามูลมาบำรุงดิน ใช้สารชีวภัณฑ์จากธรรมชาติในการกำจัดศัตรูพืช และที่สำคัญยังได้ส่งต่อผลิตผลที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพไปยังผู้บริโภคอีกด้วย

“สิ่งที่ยากสำหรับคนทำเกษตรก็คือ ทำแล้วจะเอาไปขายที่ไหน การที่เรารวมกลุ่มเป็นเครือข่ายทำให้มีความเข้มแข็ง ช่วยกันวางแผนการปลูกร่วมกัน หาตลาดร่วมกัน และช่วยกันขาย จนล่าสุดก็ได้พบกับ โก โฮลเซลล์ ในงานจับคู่ธุรกิจที่จัดโดยพาณิชย์จังหวัด และในเบื้องต้นได้ตกลงรับซื้อสินค้าเกษตรในกลุ่มผัก ไปขายที่ สาขาหาดใหญ่ โดยจะเริ่มส่งผัก กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส เบบี้คอส ผักสลัดรวม กวางตุ้ง กวางตุ้งฮ่องเต้ คะน้า เคล เป็นสาขานำร่องก่อน”

นับเป็นการขยายตลาด เพิ่มช่องทางจำหน่าย จากเดิมที่ส่งขายใน โรงพยาบาล ตลาดสด ทำให้เกษตรกรในเครือข่ายมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเครือข่ายใต้ร่มบุญเกษตรอินทรีย์ มีสมาชิกกว่า 450 คนกระจายอยู่ใน 11 อำเภอของสงขลา ทั้ง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง เทพา สะบ้าย้อย สะเดา จะนะ นาทวี อำเภอเมือง บางกล่ำ รัตภูมิ ควนเนียง โดยมี “มนูญ แสงจันทร์สิริ” หรือ ตานูน เป็นประธาน ฯ

ผักที่ได้จากเกษตรกรกลุ่มนี้ นอกจากจะสด ปลอดภัยแล้ว คนปลูกยังสุขภาพดี ส่วนคนกินก็จะสุขภาพดีไปด้วยเช่นกัน!

พบกับ “ผักอินทรีย์” จากเครือข่ายใต้ร่มบุญเกษตรอินทรีย์ ได้ที่ โก โฮลเซลล์ สาขาหาดใหญ่ (ตรงข้าม ม.อ.) ที่กำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้

พบ “ป.ปลาอารมณ์ดี” ของดีลำน้ำพอง ที่ โก โฮลเซลล์ ขอนแก่น แหล่งรวมวัตถุดิบอาหารคุณภาพจากเกษตรกรมืออาชีพสำหรับคนที่ชื่นชอบ...
20/01/2025

พบ “ป.ปลาอารมณ์ดี” ของดีลำน้ำพอง ที่ โก โฮลเซลล์ ขอนแก่น แหล่งรวมวัตถุดิบอาหารคุณภาพจากเกษตรกรมืออาชีพ

สำหรับคนที่ชื่นชอบการรับประทานปลา เชื่อว่าปลานิล กับปลาทับทิม คงเป็นหนึ่งในบรรดาปลาน้ำจืดของไทยที่ทุกคนในครอบครัวได้เคยลิ้มลองกันมาแล้ว รวมทั้งบรรดาร้านอาหารต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศย่อมต้องมีปลาทั้งสองชนิดนี้บรรจุเป็นเมนูเด็ดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะมีกี่คนที่รู้บ้างว่า การจะได้ปลาคุณภาพที่มีรสชาติอร่อยและโภชนาการสูง จะต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้างก่อนที่ปลาเหล่านี้จะถูกส่งไปยังตลาดร้านค้า

คุณสุนทร แตงอุดม เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาทับทิมและปลานิล ลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เล่าให้ฟังว่า “การจัดการ” ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อให้ได้คุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด โดยปัจจุบันแหล่งเพาะเลี้ยงปลานิล ปลาทับทิมคุณภาพตามแหล่งน้ำธรรมชาติในประเทศไทยมีไม่กี่แห่ง และหนึ่งในนั้นคือในพื้นที่ลำน้ำพอง ด้วยเพราะเป็นแหล่งน้ำที่ทำให้ปลานิลและปลาทับทิมมีจุดเด่นไม่เหมือนใคร คือ ความสด ความสะอาด เนื่องจากเลี้ยงในกระชังที่อยู่ในลำน้ำที่ไหลตลอด ทำให้ปลาสดชื่นเพราะได้ออกกำลังกายทุกวัน รสชาติจึงดี เนื้อจะหวานและไม่มีกลิ่นคาว หรือกลิ่นโคลน ปลาที่ได้จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยให้โปรตีนสูงมาก ปริมาณไขมันต่ำ และมีสารอาหารมากมาย

ปลาลำน้ำพอง จึงขึ้นชื่อว่าเป็น “ปลาอารมณ์ดี” แถมการเลี้ยงในกระชัง ยังทำให้ปลาไม่ต้องสัมผัสพื้นดิน จึงไม่มีกลิ่นคาว ทำให้สะอาด ผิวเนื้อสัมผัสมีรสชาติที่ดี

สิ่งสำคัญคือเรื่องการจัดการ ซึ่งต้องมีการจดบันทึก จดตัวเลขทางสถิติ รวมทั้งการตรวจเช็คคุณภาพ ซึ่งไม่ได้เช็คแค่คุณภาพน้ำเท่านั้น แต่ยังตรวจสุขภาพปลาเป็นระยะๆ ด้วย ที่สำคัญเขาเลี้ยงด้วยระบบไบโอติก จึงไม่มียาปฏิชีวนะหรือสารตกค้างใดๆ สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ

”สรุป คือ ปลาของเรามีคุณภาพทั้งความสด สะอาด เนื้อดี มีการจัดการที่ดีตั้งแต่ต้นจนส่งมอบปลาไปถึงลูกค้า ระบบไบโอติกที่ควบคุมทำให้มั่นใจได้ว่า จะช่วยทำให้ปลามีคุณภาพดีเยี่ยม ที่นี่จึงถือเป็นแหล่งปลาสุดยอดของภาคอิสาน“ คุณสุนทรกล่าวย้ำ

ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทของเกษตรกรที่กล่าวมา สอดคล้องกับแนวทางของ โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ที่มีความตั้งใจส่งมอบวัตถุดิบอาหารคุณภาพจากเกษตรกรไทยไปถึงมือผู้ประกอบการร้านอาหาร พร้อมสนับสนุนเกษตรกรให้มีช่องทางการจำหน่ายเพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ โดยปลานิลและปลาทับทิมเหล่านี้จะถูกส่งไปยังร้านอาหารและผู้บริโภคให้หาซื้อได้ผ่านสาขาต่างๆ ของ โก โฮลเซลล์ โดยเฉพาะสาขาขอนแก่น ที่เปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 22 มกราคมนี้

“พวกเราดีใจที่ โก โฮลเซลล์ มาสนับสนุนด้านการตลาด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน ในนามของตัวแทนเกษตรกร ขอขอบคุณที่ช่วยส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เราตั้งใจที่จะส่งมอบปลานิล ปลาทับทิมที่มีความสด สะอาด รสชาติดี โภชนาการสูง เป็นปลาดี อารมณ์ดี เพื่อให้ทุกคนสามารถหาซื้อได้ที่ โก โฮลเซลล์ ครับ” คุณสุนทรกล่าวทิ้งท้าย

ปลานิล ปลาทับทิม ถือเป็นปลาเศรษฐกิจของไทยที่ควรได้รับการส่งเสริม ด้วยรสชาติที่อร่อยสามารถประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู มีคุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งราคาที่ถูกและหาซื้อได้ง่าย แต่ถ้าจะให้แน่ใจ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาเพื่อให้ได้ปลาที่สด ดีต่อสุขภาพ และยังปลอดภัยต่อการบริโภคด้วย

ปัจจุบัน โก โฮลเซลล์ มีสาขาทั้งหมด 11 สาขา ได้แก่ ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ เมืองภูเก็ต เจริญราษฎร์ อุดรธานี ล่าสุดขอนแก่น สาขาลำดับที่ 12 ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 22 มกราคมนี้

โก โฮลเซลล์ ร่วมผลักดันสินค้าเกษตรท้องถิ่น ดัน “กบอุดรสร้างโลก” สินค้าขึ้นชื่อจังหวัดอุดรธานี กระจายสู่ผู้ประกอบการในบรร...
13/01/2025

โก โฮลเซลล์ ร่วมผลักดันสินค้าเกษตรท้องถิ่น ดัน “กบอุดรสร้างโลก” สินค้าขึ้นชื่อจังหวัดอุดรธานี กระจายสู่ผู้ประกอบการ

ในบรรดาสินค้าเกษตรของจังหวัดอุดรธานี ชื่อของ “กบอุดรสร้างโลก” ปรากฏขึ้นอย่างน่าสนใจ

นั่นเพราะจังหวัดนี้ มีโครงการส่งเสริมและผลักดันการเลี้ยงกบ ภายใต้ชื่อ “กบอุดรสร้างโลก” ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือและบูรณาการขับเคลื่อนงานของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรในจังหวัดอุดรธานีเลี้ยงกบเพื่อสร้างรายได้ โดยมี “สหกรณ์เกษตรกรรุ่นใหม่ จังหวัดอุดรธานี” ร่วมขับเคลื่อน และมี “โก โฮลเซลล์” เข้ามารับซื้อ

นายสุดตา สีจันทร์ เกษตรกรผู้เลี้ยงกบ สวนธัญพร จังหวัดอุดรธานี เล่าให้ฟังถึงการเลี้ยงกบว่า เสน่ห์ของกบอุดร คือ ความอวบอั๋น เนื้อแน่น อร่อย สีสันสวยงาม ซึ่งเราเลี้ยง 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์อเมริกัน และพันธุ์จาน โดยจะเลี้ยงกบตัวผู้และตัวเมียในอัตรา 1 ต่อ 3 คือ กบตัวเมีย 3 กบตัวผู้ 1 ซึ่งจะพอดีในการผสมพันธุ์ โดยจะเริ่มเลี้ยงลูกกบในกระชัง หรือบ่ออนุบาลก่อน เมื่อโตแล้วจะนำไปปล่อยเลี้ยงในบ่อดิน เลี้ยงแบบธรรมชาติ ให้กบได้อยู่ตามธรรมชาติจริงของกบ จะทำให้กบเติบโตอย่างแข็งแรง และมีคุณภาพ แล้วจึงนำกบไปส่งขาย ขนาด 5 - 6 ตัวต่อกิโลกรัม

“กบอุดรสร้างโลก เป็นความยิ่งใหญ่ของการส่งเสริมการนำเรื่องการเลี้ยงกบเข้าสู่ระบบการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรที่มีความชัดเจน มีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น การที่มีหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรต่างๆ เข้ามาส่งเสริมเชื่อมโยง ทำให้กบอุดรฯ มีความแข็งแรงขึ้น และมีทิศทางการตลาดที่มั่นคง โดยล่าสุด โก โฮลเซลล์ ได้เข้ามาช่วยเหลือขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เริ่มส่งขายที่ โก โฮลเซลล์ สาขาอุดรธานี ก่อน ซึ่งกบอุดรสร้างโลกที่ส่งขาย ต้องมีมาตรฐานการเลี้ยงที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน GAP”

กบ เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่กลายเป็นวัตถุดิบอาหารยอดนิยมของคนไทย เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งในครัวเรือน ภัตตาคาร ร้านอาหาร และ สตรีทฟู้ด สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู อาทิ กบทอดกระเทียมพริกไทย กบผัดเผ็ด กบผัดฉ่า หรือแม้กระทั่งหนังกบทอดกรอบ

ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจบริการ ที่ต้องการสรรหาวัตถุดิบหลากหลาย มีคุณภาพปลอดภัย ช่วยส่งเสริมผลผลิตของเกษตรกรไทย สามารถเลือกสรรได้ที่ โก โฮลเซลล์ โดยสาขาล่าสุด สาขาอุดรธานี จะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 17 มกราคมนี้แล้ว!

โก โฮลเซลล์ หนุน “ยังก์สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จ.อุดรธานี ต่อจิ๊กซอว์ตลาดนำการผลิต สร้างความเข้มแข็งนักธุรกิจเกษตรยุคใหม่“ทำเก...
06/01/2025

โก โฮลเซลล์ หนุน “ยังก์สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จ.อุดรธานี ต่อจิ๊กซอว์ตลาดนำการผลิต สร้างความเข้มแข็งนักธุรกิจเกษตรยุคใหม่

“ทำเกษตรคนเดียว อาจไปได้ไม่ไกล แต่ถ้าอยากไปได้ไกล ต้องไปด้วยกัน”

นี่เป็นอุดมการณ์ร่วมกัน ของ “สหกรณ์เกษตรกรรุ่นใหม่ จังหวัดอุดรธานี” ที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมพลพรรคกลุ่มยังก์สมาร์ทฟาร์มเมอร์ หรือเกษตรกรรุ่นใหม่ ขึ้นมาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นกับคนทำอาชีพเกษตร โดยตั้งกลุ่มกิจกรรม 9 กลุ่ม ทั้ง พืชสวน ประมง พืชไร่ ปศุสัตว์ วนเกษตร ท่องเที่ยวเชิงเกษตร IOT-Smart Farming รวบรวมสินค้าเกษตรเพื่อจำหน่าย และแปรรูป

“เกษตรกรปลูกเก่ง แต่ขายไม่เก่ง ทำให้การผลิตและการจำหน่ายไม่สอดคล้องกัน เราโชคดีที่ได้รับคำแนะนำจากสหกรณ์จังหวัด ให้รวมกลุ่มกันตั้งเป็นสหกรณ์เพื่อแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เพื่อให้ผลผลิตของเกษตรกรขายได้” นายชนะบุญ คู่วัจนกุล ผู้จัดการสหกรณ์ฯ ตัวแทนเกษตรกรรุ่นใหม่ กล่าว

“สหกรณ์เกษตรกรรุ่นใหม่ จังหวัดอุดรธานี” มีสมาชิก 52 ราย มีเกษตรกรในท้องถิ่น 98 ราย ส่งสินค้าเกษตรไปขายในหลายช่องทาง รวมถึง โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ทางเลือกใหม่เพื่อผู้ประกอบการ รายล่าสุดที่เข้ามารับซื้อสินค้าเกษตรจากสหกรณ์ฯ รองรับการขยายสาขามายังภาคอีสาน จังหวัดอุดรธานี

“เราพยายามแก้ปัญหาให้กับสมาชิกในกลุ่ม สร้างความเชื่อมโยงให้สินค้า ให้มีตลาดรองรับที่ชัดเจน ซึ่งต้องวางมาตรฐานการเพาะปลูกให้มีความปลอดภัย เป็นไปตามข้อกำหนดของการนำสินค้าเกษตรไปจำหน่ายในห้างฯ อีกทั้งยังนำระบบ IOT-Smart Farming เข้ามาใช้ สร้างความแม่นยำในการทำการเกษตรให้มากขึ้น และในครั้งนี้เราได้ โก โฮลเซลล์ เข้ามาช่วยขยายตลาด เป็นโอกาสของเราอย่างมาก โดยที่เกษตรกรจะเป็นซัพพลายเออร์ให้ โก โฮลเซลล์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปราณีตในการทำเกษตร สร้างมาตรฐานการผลิตที่ดีและปลอดภัยให้กับผู้บริโภค” นายชนะบุญ กล่าว

ทั้งนี้ โก โฮลเซลล์ มีพันธกิจสำคัญ ด้านการสนับสนุนเกษตรกรไทยในทุกมิติ และได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของสินค้าจากกลุ่มยังก์สมาร์ทฟาร์มเมอร์ จังหวัดอุดรธานี ที่มีคุณภาพสูง แต่ยังขาดด้านการตลาด จึงเข้ามาช่วยขายสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อให้สินค้าเกษตรของสหกรณ์เกษตรกรรุ่นใหม่ฯ เข้าสู่ตลาดอย่างสวยงาม โดยเบื้องต้นรับซื้อ ผักสลัด ผักพื้นบ้าน กล้วยหอมทอง และสินค้าเกษตรอื่นๆ วางจำหน่ายที่ โก โฮลเซลล์ สาขาอุดรธานี ซึ่งมีกำหนดการเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 17 มกราคมนี้

โก โฮลเซลล์ เปิดฤดูกาลส้มสายน้ำผึ้งรับลมหนาว ชูความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ส่งตรงจากแหล่งดัง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ช่วยเกษตรกรกระจ...
02/12/2024

โก โฮลเซลล์ เปิดฤดูกาลส้มสายน้ำผึ้งรับลมหนาว ชูความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่
ส่งตรงจากแหล่งดัง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ช่วยเกษตรกรกระจายผลผลิตทั่วประเทศ

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ตะลุยแหล่งปลูกส้มสายน้ำผึ้ง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ รับซื้อผลผลิตจากชาวสวนบนยอดดอย ตรวจสอบกระบวนการเพาะปลูกปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงมือผู้บริโภค เปิดฤดูกาลจำหน่าย ตั้งแต่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป สนับสนุนเกษตรกรชาวสวนส้มกระจายผลผลิตสร้างรายได้มั่นคงและยั่งยืน

โดย โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ทางเลือกใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าพันธกิจสนับสนุนเกษตรกรไทย ในพื้นที่ภาคเหนือ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่มีชื่อเสียงของ “ส้มสายน้ำผึ้ง” ที่มีจุดเด่นคือพื้นที่ปลูกบนเขาสูง ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 700 เมตรขึ้นไป ทำให้สภาพภูมิอากาศระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืนมีความแตกต่างกันประมาณ 10 องศาเซลเซียสขึ้นไป ส่งผลให้ส้มพันธุ์สายน้ำผึ้งของที่นี่ มีความแตกต่างทั้งด้านสีผิวของผลส้มและรสชาติ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากแหล่งน้ำธรรมชาติ แร่ธาตุในดิน และความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าโดยรอบ

ไม่น่าแปลกใจ หากเกษตรกรในพื้นที่จะยึดอาชีพปลูกส้มกันเป็นจำนวนมาก

นายสุริยะ คุปตรัตน์ ผู้จัดการสวนส้มไร่บุญธรรม เล่าว่า ในพื้นที่อำเภอฝาง ปลูกส้มกันมานานมากกว่า 40 ปีแล้ว โดยมีหน่วยงานภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการลงพื้นที่มาอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้สารเคมีให้แก่เกษตรกรเพื่อผลิตส้มให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับไร่บุญธรรมที่ผมดูแลมีพื้นที่กว่า 200 ไร่ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะผลผลิตเราส่งเข้าห้าง ซึ่งจะซีเรียสเรื่องสารตกค้างมาก เราจะมีบัญชีการใช้สารเคมี วางแผนระยะเก็บผลผลิตให้ปลอดภัย

“เราเป็นคนต้นทาง ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการปลูกส้มอย่างปลอดภัย ซึ่งจะมีการเว้นระยะความปลอดภัยในการเก็บเกี่ยวตามค่ามาตรฐานที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดมาให้ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ว่า จะขายส้มกันได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน การแข่งขันในตลาดสูง ถ้าเข้าห้างฯ ได้ก็จะดีกว่า อย่างผลผลิตที่เราส่ง โก โฮลเซลล์ จะเข้มงวดเรื่องสารเคมีตกค้างมาก โดยมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบการลงบันทึกการใช้สารเคมีที่ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ดูข้อมูลย้อนหลัง ตรวจสอบสารเคมีตกค้างจนกว่าจะถึงมือผู้บริโภค และต้องตรวจสอบย้อนกลับได้”

คนต้นทางอย่างเขาบอกอีกว่า การปลูกส้มให้ปลอดภัยนั้น ต้องทำตลอดกระบวนการตั้งแต่เป็นดอกส้ม จนถึงระยะเก็บเกี่ยว ก่อนผลผลิตออกจากสวน จะมีการตรวจสอบสารตกค้างด้วย GT Test Kit และต้องส่งผลการทดสอบที่ได้จากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับสากล ISO 17025 ด้วย

นอกจากสวนส้มไร่บุญธรรมแล้ว โก โฮลเซลล์ ยังรับซื้อส้มสวนส้มธนาธร อีกหนึ่งรายใน อ.ฝาง ที่มีเกษตรกรลูกสวนมากมายและได้มาตรฐามความปลอดภัยระดับสากล โดย นางสาวธนาพร จิระวัฒนากูล ผู้จัดการโรงงาน บริษัท เชียงใหม่ธนาธรฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า ส้มจากสวนส้มธนาธรของเราจะได้ใบรับรอง GAP ส่วนโรงงานแพ็คบรรจุก็ได้ใบรับรอง GHP และ HACCP ซึ่งในเทศกาลปีใหม่นี้ ได้จัดทำบรรจุภัณฑ์ใหม่ใส่ส้มสายน้ำผึ้งคุณภาพปลอดภัยเอาไว้เป็นทางเลือกในช่วงการส่งความสุขให้แก่กัน

แม้ปัจจุบัน ส้มสายน้ำผึ้งจะสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ว่ากันว่า ช่วงที่ส้มมีรสชาติอร่อยที่สุด และมีสีส้มสวยที่สุด จะอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นฤดูกาลส้มที่ทุกคนรอคอย

พบผลผลิตส้มสายน้ำผึ้งที่มีความปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน ได้ที่ โก โฮลเซลล์ ทุกสาขา ทั้ง ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ เมืองภูเก็ต และสาขาล่าสุดเจริญราษฎร์

ชาวไร่ยาสูบยื่นหนังสือ ฟ้องนายกอิ๊งโวย กมธ. วิสามัญอากาศสะอาด “เลี่ยงบาลี” จ้องเก็บค่าธรรมเนียมบุหรี่เพิ่ม ทำชาวไร่สิ้นอ...
29/11/2024

ชาวไร่ยาสูบยื่นหนังสือ ฟ้องนายกอิ๊ง
โวย กมธ. วิสามัญอากาศสะอาด “เลี่ยงบาลี” จ้องเก็บค่าธรรมเนียมบุหรี่เพิ่ม ทำชาวไร่สิ้นอาชีพ

ตัวแทนภาคียาสูบแห่งประเทศไทยและเครือข่ายชาวไร่ยาสูบบ่มเอง จ. เชียงใหม่ นำชาวไร่ยาสูบจาก อ. แม่ริม อ. แม่แตง จ.เชียงใหม่ และชาวไร่ยาสูบจาก อ. บ้านธิ จ. ลำพูน ร่วม 100 คน เข้ายื่นหนังสือกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย คัดค้านร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ที่จะเก็บค่าธรรมเนียมบำรุงกองทุนอากาศสะอาดจากสินค้ายาสูบในอัตราร้อยละ 10 ซึ่งจะส่งผลให้ชาวไร่ยาสูบ 22,000 ครอบครัวทั้งภาคเหนือและภาคอีสานต้องหมดอาชีพ เพราะการรับซื้อใบยาจะหายไป 93% และบุหรี่เถื่อนจะโตแบบก้าวกระโดดจาก 25% ในปัจจุบันเป็น 90% เพราะบุหรี่ราคาต่ำสุดจะเพิ่มขึ้นเป็น 115 บาท
นายอรุณ โปธิตา ชาวไร่บ่มเองจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า “พวกเราเห็นด้วยกับการสร้างอากาศสะอาด แต่การเก็บเงินเพิ่มจากสินค้ายาสูบ เป็นการซ้ำเติมปัญหารายได้ตกต่ำของชาวไร่ยาสูบ เพราะการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นเป็น 115 บาทอย่างต่ำ ราคาบุหรี่ที่สูงขนาดนี้ทำให้คนสูบบุหรี่หันไปซื้อบุหรี่เถื่อนซึ่งขายกันที่ราคา 20-30 บาทเท่านั้น บุหรี่ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ก็คงจะขายสู้ไม่ได้ การรับซื้อใบยาจากชาวไร่ยาสูบจะหายไปทันที 93% ส่งผลให้รายได้ของชาวไร่และอาชีพยาสูบแทบจะหายไปจากประเทศไทยทันที”
ด้านนายขจรศักดิ์ เมฆขจร ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่บ่มเองอีกราย เสริมว่า “พวกเราผิดหวังมากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดดึงดันจะเก็บเงินเพิ่มจากสินค้าบุหรี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข้อสังเกตว่าการเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะในลักษณะนี้อาจผิดวินัยการเงินการคลัง แต่ก็ยังพยายามเลี่ยงบาลีว่าเป็นการเก็บค่าธรรมเนียม โดยไม่สนใจถึงผลกระทบต่อชาวไร่ยาสูบ รายได้ภาษี และการดำเนินงานของ ยสท. และขาดความรู้ความเข้าใจโครงสร้างภาษีของสินค้าที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ คิดแต่เพียงจะเก็บเงินเพิ่มอย่างเดียว”
“ทุกวันนี้ราคาบุหรี่ก็สูงมากอยู่แล้วเพราะต้องจ่ายภาษีต่างๆ ถึง 8 ประเภท จึงไม่ควรมีการเก็บเงินหรือภาษีใดๆ เพิ่มเติมจากสินค้าบุหรี่อีก พวกเราชาวไร่ยาสูบขอคัดค้านการเก็บค่าธรรมเนียมอากาศสะอาดจากสินค้ายาสูบ เพื่อไม่ให้กระทบต่ออาชีพและความเป็นอยู่ของชาวไร่ยาสูบไปมากกว่านี้ วันนี้นายกฯ แพทองธาร นำ ครม.สัญจรมาที่ จ. เชียงใหม่ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ จึงอยากฝากให้ท่านนายกฯ สั่งการให้หาแหล่งรายได้ให้กับกองทุนอากาศจากสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่บุหรี่และยาสูบ”

 #17ปีสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ภายใต้แนวคิด “เกษตรมูลค่าสูง : ทางรอดสู่อนาคตที่ยั่งยืน”สมาคมสื่อมวลชนเกษต...
29/11/2024

#17ปีสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ภายใต้แนวคิด “เกษตรมูลค่าสูง : ทางรอดสู่อนาคตที่ยั่งยืน”
สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดงานครบรอบ 17 ปี (25 ปี รวมพลคนข่าวเกษตร) ภายใต้แนวคิด “เกษตรมูลค่าสูง : ทางรอดสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยได้รับเกียรติจากนายไชยา พรหมา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน และดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความเป็นกลางทางคาร์บอน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดี ภายในงานมีการจัดนิทรรศการและบูธแสดงสินค้าด้านการเกษตรจากหน่วยงานต่างๆ และเกษตรกรกว่า 20 บูธ และเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ระหว่างสื่อมวลชนสายเกษตร ผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการและเกษตรกร โดยมีผู้ร่วมงาน
นายไชยา พรหมา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคปัจจุบัน หากเราไม่เปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรจากแบบดั้งเดิม ก็จะไม่สามารถก้าวพ้นความยากจนไปได้ และหากยังไม่เปลี่ยนวิธีการ ก็จะไม่สามารถเพิ่มขีดศักยภาพการแข่งขัน เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ที่พี่น้องเกษตรกร ซึ่งถือว่าเป็นคนส่วนใหญ่ เป็นฐานรากทางเศรษฐกิจของประเทศ ถึงแม้ว่า GDP ภาคการเกษตรของประเทศจะมีอัตราที่ไม่สูงนักเมื่อเปรียบเทียบกับภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ แต่ก็มีความจำเป็นที่ประเทศไทยหรือแม้แต่ประเทศมหาอำนาจที่จะต้องดูแลคนที่อ่อนแอกว่า ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่คนที่อยู่ในภาคเกษตรกลับอยู่ในสถานะความยากจน ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับเกษตรกร โดยนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่กระบวนการผลิตที่เรียกว่าเกษตรเพิ่มมูลค่าหรือเกษตรพรีเมี่ยม ซึ่งไม่จำเป็นต้องผลิตจำนวนมาก ผลิตน้อยๆ แต่ต้องเปี่ยมด้วยคุณภาพ ซึ่งผลผลิตทางการเกษตรหลายๆ อย่างของพี่น้องเกษตรกร สามารถนำมาดัดแปลงเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่า ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้
“แต่ความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรจะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ามาจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันก็ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร ยังยึดมั่นที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ จึงฝากความหวังไว้กับทุกภาคส่วน และส่วนที่หนีไม่พ้นเป็นอย่างยิ่งคือ การสร้างความเข้าใจถึงมิติความสำคัญภาคการเกษตร ในการที่จะสื่อสารนโยบายสำคัญของรัฐบาลไปสู่พี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วไป นั่นคือบทบาทของสื่อมวลชน ดังนั้น ในวันนี้ ถือว่าสื่อมวลชนภาคการเกษตร ได้ทำงานอย่างสุดความสามารถที่จะเป็นสะพานเชื่อม เพื่อนำข่าวสารที่สร้างสรรค์และถูกต้องไปสื่อให้เกษตรกรหรือประชาชน ดังนั้น ผู้สื่อข่าวสายเกษตร จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคเกษตรของไทย”นายไชยา กล่าว
ด้าน นายภิญโญ แพงไธสง นายกสมาคมสื่อมวลชลเกษตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทยมีอายุครบ 17 เต็มในปี 2567 นี้ แต่หากนับตั้งแต่การรวมตัวของพี่น้องสื่อมวลชนสายเกษตรฯ ที่ตั้งเป็นชมรมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ก็นับรวมได้ 25 ปี หากเปรียบกับคนเราก็เข้าสู่เบญจเพศ เป็นวัยหนุ่มวัยสาวที่มีไฟมีพลังมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้มีกิจกรรมมากมายทั้งด้านวิชาการและด้านสังคม โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นแต่ละครั้ง ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาชิกฯ ผู้ประกอบการเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ สำหรับในปีนี้ สมาคมฯ ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “เกษตรมูลค่าสูง : ทางรอดสู่อนาคตที่ยั่งยืน” เพื่อเป็นสื่อกลางในฐานะสื่อมวลชน อันจะนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการส่งเสริมเกษตรกรในการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561 - 2580 ที่ได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน มีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ลดความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาประชากร เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน สร้างความเจริญทางรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังเป็นการให้ความสำคัญกับการยกระดับรายได้ของกลุ่มเกษตรกร ตามนโยบายของรัฐบาลในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ภายใต้แนวคิด "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้" อีกด้วย
สำหรับในปีนี้ สมาคมฯ ยังได้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน” ให้กับเกษตรกรผู้มีความคิดสร้างสรรค์สร้างมูลค่าสินค้าเกษตรและมีคุณูปการต่อวงการเกษตร จำนวน 10 ท่าน ได้แก่
1.คุณไพฑูรย์ ฝางคำ วิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาอาชีพเกษตร สู่ความยั่งยืนด้วยการปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ สร้างกระบวนการรวมกลุ่ม สร้างเครือข่าย สร้างพลังในการขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพิ่มมูลค่า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องเกษตรกร
2.คุณจุไรรัตน์ เชิดชิด วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางบ้านสุขสำราญ ต.ฝั่งแดง อ.นากลาง จ. หนองบัวลำภู เป็นแกนนำในการรวมกลุ่มชาวนาในพื้นที่เพื่อปลูกแปรรูปครบวงจรจึงช่วยสร้างงาน สร้างรายได้กลับสู่ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ในนาม “กลุ่มข้าวฮางบ้านสุขสำราญ” ภายใต้การส่งเสริมของกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
3.คุณกมลวรรณ รุ่งประเสริฐวงศ์ “ไร่แสงสกุลรุ่ง” อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นคนรุ่นใหม่ ที่สนใจเลี้ยง“ผำ” พืชน้ำที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และสามารถนำไปจำหน่ายเป็นรายได้ให้กับครอบครัวและต่อยอดให้กับเกษตรกรในชุมชน แปรรูปสร้างความแตกต่างในตลาด เพิ่มมูลค่าและยอดขายให้สูงขึ้น
4.นายอร่าม ทรงสวยรูป เกษตรกรผู้สืบสานพันธุ์ข้าวไทย จากจังหวัดนครราชสีมา อดีตช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์ วัย 56 ปี ผันตัวเองเป็นชาวนาตามรอยบรรพบุรุษ เรียนรู้วิถีธรรมชาติ และยึดธรรมะเป็นที่มั่น ได้สร้างสุขทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งมีรายได้จากการทำเกษตรอินทรีย์ ยกระดับครอบครัวและยังช่วยสืบสานพันธุ์ข้าวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
5.คุณวัฒนชัย เกตุพลอย เกษตรกรจาก อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เจ้าของสายพันธุ์ขนุนทองพลอย ที่ให้ผลตลอดปี ผลใหญ่ตั้งแต่ 20-60 กก. ซังน้อย เนื้อแน่น รสชาติหวานกรอบ ยางน้อย เนื้อสีเหลืองทอง โดยร่วมกับคณาจารย์หลายท่านจากหลากหลายสถาบันการศึกษา ในการวิจัยขนุนให้มีอายุหลังเก็บเกี่ยวให้นานขึ้น เหมาะกับการนำเนื้อมาแปรรูป และวางจำหน่ายตามร้านค้าโมเดิร์นเทรดชั้นนำทั่วประเทศ
6.นางสาวธิติมา ตะรุสะ ประธานวิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ ต.ห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ผู้ยึดแนวทางหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ โดยได้รับโอกาสจากสำนักงานเกษตรอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ให้เข้าร่วมอบรมเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ Young Smart Farmer (YSF) และได้นำความรู้ที่อบรมมาปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ในสวนเพิ่มบุญ ของตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพืชสมุนไพร เช่น กระชาย เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดต่อยอดพัฒนาสินค้าทางการเกษตร นำกระชายมาแปรรูป เพื่อสร่างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ภายใต้วิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ
7.นายวิสัน วงศ์เมือง เกษตรกรหัวก้าวหน้าแห่งตำบลสุขไพบูลย์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ผู้สืบทอดความรู้และเทคนิคจากครอบครัว ผสมผสานกับความรู้สมัยใหม่ จนสามารถพัฒนาคุณภาพของผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้จากการปลูกกล้วยหอมทองทำให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น และเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรายอื่นอีกด้วย
8.นายชาลี จิตรประสงค์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งฉะเชิงเทรา เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ปี พ.ศ.2549 เจ้าของ สาริกาฟาร์ม ผู้มุ่งมั่นที่จะผลิตกุ้งสด สะอาด ปลอดภัยไร้สารตกค้าง เพื่อการส่งออกและจำหน่ายภายในประเทศ ที่มีคุณภาพ อย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ
9.นายสมบัติ สุขนันท์ เจ้าของสวนสมบัติอาณาจักรกล้วย ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และปลูกกล้วย กว่า 500 ไร่ ที่ปลูกกระจายในพื้นที่จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี พิจิตร และเชียงใหม่ และเป็นนักสะสมสายพันธุ์กล้วยแปลก กล้วยหายากเกือบ 250 สายพันธุ์ เช่น แส้หางม้า สายน้ำผึ้งเตี้ย นากค่อม นิ้วนางรำ หอมแคระ กล้วยเทพพนม กล้วยขนุน กล้วยน้ำว้าดำ กล้วยร้อยปลี เป็นต้น
10.คุณสิริพงศ์ วราศัย หรือที่คนในวงการกล้วยไม้ เรียกว่า อาจารย์โรจน์ ผู้คร่ำวอด ในวงการล้วยส่งออกรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่สืบทอดธุรกิจมาจากรุ่นคุณพ่อ ที่ทำธุรกิจกล้วยไม้เป็นรายแรกของไทย โดยรับช่วงต่อมาตั้งแต่ปี 2525 ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ
นับว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรหัวก้าวหน้า ที่จะเป็นแกนนำหรือต้นแบบให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ได้หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าสูงในอนาคตต่อไป

 #คณิณไฮโดรฟาร์ม ฟาร์มผักปลอดภัย ที่ปลูกด้วยหัวใจล้วนๆ โก โฮลเซลล์ มุ่งมั่นคัดสรรแหล่งผลิตวัตถุดิบคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ด...
08/11/2024

#คณิณไฮโดรฟาร์ม ฟาร์มผักปลอดภัย ที่ปลูกด้วยหัวใจล้วนๆ โก โฮลเซลล์ มุ่งมั่นคัดสรรแหล่งผลิตวัตถุดิบคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

ปัจจุบัน ผักสลัด กลายเป็นวัตถุดิบสำคัญในทุกมื้ออาหาร ซึ่งไม่เพียงมีการนำไปใช้เพื่อการบริโภคในรูปแบบสลัด ผักสดแกล้มมื้ออาหาร แต่ร้านอาหาร เชฟ ยังนิยมใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการตกแต่งจานให้ดูน่ารับประทาน เพิ่มมูลค่าให้อาหารจานนั้นๆ ด้วย

ผักสลัด จึงเป็นที่ต้องการสูง และได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะ ผักที่ปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์และปลอดสารจะได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคที่ต้องการความสด สะอาด และปลอดภัย จนทำให้เกิดการสรรหาแหล่งการเพาะปลูกที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับ “คณิณไฮโดรฟาร์ม” ผู้ผลิตผักไฮโดรโปนิกส์ ผักปลอดสารพิษ มาตรฐาน มานานกว่า 20 ปี มีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ได้มาตรฐาน GAP ซึ่ง โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) คัดเลือกมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งผักสลัดคุณภาพดีจำหน่ายที่สาขา

“คณิณ บุญรอด” เจ้าของคณิณไฮโดรฟาร์ม กล่าวว่า “ฟาร์มของเราก่อตั้งมาแล้วกว่า 20 ปี เพราะมองเห็นเป็นโอกาสในการทำฟาร์มรูปแบบใหม่ เน้นปลูกผักปลอดภัย ปราศจากสารเคมี ไม่มีสารตกค้าง ใช้เวลาเพาะเมล็ดพันธุ์จนถึงการเก็บเกี่ยวประมาณ 45 วัน เราเองก็ค่อยๆ ทำมาเรื่อยๆ จนต่อมาได้ชักชวนคนวัยหนุ่มสาวที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาเป็นลูกฟาร์ม สอนความรู้การทำเกษตรให้พวกเขา และรับซื้อด้วย ถือเป็นการสร้างอาชีพให้พวกเขามีงานทำและกลับมาอยู่บ้านเกิด จนปัจจุบันนี้ เรามีลูกฟาร์มเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จน โก โฮลเซลล์ เข้ามารับซื้อผลิตภัณฑ์ผักไฮโดรโปนิกส์จากฟาร์มของเรา ช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น”

เรียกว่า เป็นฟาร์มผักที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการเป็นแหล่งผลิตผักปลอดภัยป้อนสู่ตลาดและการสร้างเครือข่ายคนปลูกผักที่มีหัวใจเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องไปกับความมุ่งมั่นในการสร้างวิถีบริโภคปลอดภัยของ โก โฮลเซลล์

“สำหรับผักไฮโดรโปนิกส์ของคณิณไฮโดรฟาร์ม หัวใจสำคัญอยู่ที่ น้ำ เราใช้น้ำที่สะอาด เพื่อให้ผักเจริญเติบโต และการันตีได้ว่าปราศจากการใช้สารเคมีตลอดทั้งกระบวนการ โดยให้ความร่วมมือกับเกษตรจังหวัด ที่จะเข้ามาตรวจสอบที่ฟาร์มทุก 3 เดือน จากนั้นเมื่อสินค้าถูกนำไปวางจำหน่ายที่ห้างฯ กระทรวงสาธารณสุขก็จะมาสุ่มตรวจสารตกค้างอีกครั้ง ถ้าผักผลไม้ ชนิดใดมีสารตกค้าง จะถูกห้ามวางจำหน่ายทันที เช่นเดียวกับลูกฟาร์มของเรา จะมีการเข้าไปตรวจสอบตลอด ถ้ามีสารตกค้าง เราจะไม่รับซื้อเลย เพราะฉะนั้น สินค้าจากฟาร์มของเรายืนยันได้ว่าปลอดภัย 100%”

ในฐานะผู้ผลิตอาหารที่เป็นต้นทาง คณิณไฮโดรฟาร์ม กล้าการันตีความปลอดภัย เพราะใส่ใจความปลอดภัยตลอดทั้งกระบวนการผลิต การจัดเก็บสินค้าที่ได้มาตรฐาน ความสด สะอาด ปลอดภัย ก่อนส่งถึงมือผู้บริโภคปลายทาง จนทำให้เกิดความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ซื้อผักจากที่นี่

“การที่ โก โฮลเซลล์ เข้ามารับซื้อสินค้า ทำให้คณิณไฮโดรฟาร์มสามารถส่งเสริมและยกระดับความปลอดภัยด้านอาหารให้กับชุมชนและผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ต้นทางการปลูกโดยกรรมวิธีปลอดสารพิษ ทำให้ได้ผักที่สด สะอาด ปลอดภัยส่งตรงถึงผู้บริโภค รวมถึงทำให้เกิดการจ้างงาน นำไปสู่การกระจายรายได้ ทำให้ชุมชนเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น” นายคณิณกล่าวย้ำ

ปัจจุบัน โก โฮลเซลล์ มีทั้งหมด 9 สาขา ได้แก่ ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม 2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ และเมืองภูเก็ต ผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจโฮเรก้า ที่ต้องการวัตถุดิบคุณภาพปลอดภัย สามารถแวะเวียนไปเลือกสรรได้ที่ โก โฮลเซลล์

แวะเปิปโก่โอก ขนมจีนหล่มเก่า เติมพลัง...ทางผ่านสู่ไร่ดอยเคียงดาว.
18/10/2024

แวะเปิปโก่โอก ขนมจีนหล่มเก่า เติมพลัง...ทางผ่านสู่ไร่ดอยเคียงดาว.

“โก โฮลเซลล์” รับซื้อ กุ้งลายเสือปลอดสารจากเกษตรกรภูเก็ต หนุนการเลี้ยงระบบไบโอฟาร์ม สร้างวิถีบริโภคปลอดภัย กระจายสู่ร้าน...
18/10/2024

“โก โฮลเซลล์” รับซื้อ กุ้งลายเสือปลอดสารจากเกษตรกรภูเก็ต หนุนการเลี้ยงระบบไบโอฟาร์ม สร้างวิถีบริโภคปลอดภัย กระจายสู่ร้านอาหาร

ในบรรดาวัตถุดิบประเภท “กุ้ง” ที่นักปรุงอาหารนิยมนำไปใช้นั้น ชื่อของ “กุ้งลายเสือ” มีปรากฏเป็นเช็คลิสต์ที่ร้านอาหารต้องการนำไปสร้างสรรค์เมนูเพิ่มรายได้ด้วยอย่างไม่เคยขาด

กุ้งลายเสือ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า กุ้งกุลาดำ เป็นกุ้งทะเลที่มีรสสัมผัสเนื้อเด้ง กรุบกรอบ มีรสชาติหวานละมุนติดลิ้น เป็นที่นิยมใช้ในการปรุงอาหารได้หลากหลาย อาทิ ต้มยำ ทำซาชิมิ บาบีคิว ซึ่งหลายคนฟันธงว่าถ้าเป็นกุ้งชนิดนี้ ต้องรับประทานแบบ Medium Rare หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ จะได้รสสัมผัสที่ดีงามมาก

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) จึงได้เสาะหาแหล่งผลิตกุ้งลายเสือมาให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจโฮเรก้าได้เลือกสรร ซึ่งแหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญของกุ้งชนิดนี้อยู่ในแถบอันดามัน โดย ภูเก็ต พังงา ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตลูกพันธุ์กุ้งกุลาดำและพ่อแม่พันธุ์คุณภาพ

นายศักดิ์สหกรณ์ คงสมุทร ซีอีโอ บริษัท ภูเก็ตกรีนชริมป์ จำกัด และประธานคลัสเตอร์ กุ้งกุลาดำไทยกล่าวว่า “ฟาร์มของเรา เลี้ยงกุ้งในระบบไบโอฟาร์ม ตามหลักปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี ด้วยการใช้สิ่งมีชีวิตและผลิตภัณฑ์จากสิ่งมีชีวิตเพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ โดยไม่ใช้ยาและสารเคมีต้องห้ามทุกชนิด อีกทั้งพื้นที่การเพาะเลี้ยงอยู่ในแถบภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้กุ้งที่ได้มีคุณภาพสูงและปลอดภัย รสชาติดี ซึ่งเราขายทั้งกุ้งเป็น และกุ้งแช่แข็ง”

กว่าจะได้กุ้งลายเสือ หรือกุ้งกุลาดำ ที่มีขนาดและเนื้อสัมผัสอย่างที่บรรดาเชฟ และร้านอาหารต้องการ ใช้เวลาในการทะนุถนอมเลี้ยงดูกว่า 5 เดือน นานกว่าการเลี้ยงกุ้งขาวทั่วไป โดยพนักงานทุกคนจะยึดถือหลักปฏิบัติ อันเป็นสโลแกนที่สำคัญของบริษัทคือ ‘กุ้งที่เราเลี้ยง เพื่อคนที่เรารัก’

“ที่มาของสโลแกน กุ้งที่เราเลี้ยง เพื่อคนที่เรารัก คือเราอยากให้กุ้งกุลาดำที่เลี้ยงเป็นกุ้งที่ครอบครัว และคนที่เรารักทุกคนสามารถนำมารังสรรค์เมนูแห่งความสุขได้แบบสบายใจ และมั่นใจได้ว่าเป็นกุ้งสดที่ดี มีคุณภาพ โดยเลี้ยงด้วยความหนาแน่นไม่สูงเกินไป เลือกสายพันธุ์กุ้งที่โตปานกลางและมีความแข็งแรง กุ้งกุลาดำของเราจะโดดเด่นในเรื่องรสชาติ และสีสัน โดยธรรมชาติขนาดของกุ้งที่โตเต็มวัยที่เลี้ยงด้วยระบบ Bio Shrimp Bio Farm จะอยู่ที่ 30-40 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ผู้บริโภคซื้อแล้วมั่นใจได้เลยว่าเป็นกุ้งที่สุดยอด โดยสินค้าจากทางฟาร์มได้รับตราสัญลักษณ์ประมงธงเขียวจากกรมประมง เพื่อเป็นการการันตีว่าสินค้าที่เราเลี้ยงปลอดภัยจาก Antibiotic และยังรักษาสิ่งแวดล้อม”

นายศักดิ์สหกรณ์ ย้ำอีกว่า ดีใจที่กุ้งลายเสือภูเก็ตได้เปิดตลาดมากขึ้น เราอยากให้เกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และโก โฮลเซลล์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเริ่มต้นส่ง ‘กุ้งเป็น’ ขายที่สาขาราไวย์ และสาขาเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ขอบคุณที่ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้มีรายได้ครับ”

ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจบริการ ที่ต้องการสรรหาวัตถุดิบหลากหลาย มีคุณภาพปลอดภัย และยังได้ช่วยเกษตรกร แวะเวียนไปดูได้ที่ โก โฮลเซลล์ ทั้ง 9 สาขา ไม่ว่าจะเป็น ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ภูเก็ต และสาขาเมืองภูเก็ต

ระดมสมอง สะท้อนปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และหมอกควัน ร่วมหาแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องและยั่งยืน สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ จับมือ มหาวิ...
15/10/2024

ระดมสมอง สะท้อนปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และหมอกควัน ร่วมหาแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องและยั่งยืน

สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ จับมือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดเสวนา “ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 สร้างความเข้าใจ สู่การแก้ไขอย่างยั่งยืน” ระดมความคิดนักวิชาการ เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง สะท้อนปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2) สู่แนวทางและวิธีการแก้ปัญหาในอนาคตอย่างแม่นยําและยั่งยืน

นายภิญโญ แพงไธสง นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตเรื่องปริมาณ hotspot และการเกิดหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะพื้นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือของประเทศ ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพเศรษฐกิจ และสังคมในวงกว้าง ประกอบกับการรับรู้ของภาคสังคมยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากการนําเสนอของสื่อโดยเฉพาะสื่อทางโซเชียล มีเดีย จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหลายประเด็น ทั้งเรื่องสาเหตุที่เกิด ปัจจัยการเกิด และแหล่งที่เกิด (ในป่า/นอกป่า) รวมถึงกรณีฝุ่นควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นต่อเนื่องสะสมมายาวนาน แต่ยังขาดการนําเสนอข้อมูล ความรู้ที่แท้จริงของปัญหา รวมไปถึงการหาแนวทางการแก้ปัญหาที่จะสามารถแก้ไขได้ตรงประเด็น และแก้ไขได้อย่างยั่งยืน ลดปัญหาและผลกระทบได้อย่างจริงจัง ปัญหาดังกล่าว มีความจําเป็นที่สังคมจะต้องรับรู้และเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาที่แท้จริง เพื่อนำมาสู่แนวทางในการแก้ปัญหาได้ตรงจุด ถูกต้องและยั่งยืน โดยระดมความคิดจากนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง

สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จึงร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดงานเสวนาขึ้น ในหัวข้อ “ปัญหาฝุ่นละออง” PM 2.5 สร้างความเข้าใจ สู่การแก้ไขอย่างยั่งยืน” ในวันอังคาร ที่ 22 ตลาคม 2567 เวลา 13.00. - 16.30 น. ณ ห้องประชุมสุธรรม อารียกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี ชั้น 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยในงานเสวนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนักวิชาการที่มีความรู้จริงและมีความน่าเชื่อถือ ประกอบด้วย
อาจารย์ ดร.สุดเขต สกุลทอง จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ , ดร.สุรพล ใจวงศ์ษา หัวหน้าหน่วยวิจัยและพัฒนาด้านการบริหารเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา , ผศ.ดร.ชาคริต โชติอมรศักดิ์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , รศ.ดร.นันทชัย พงศ์พัฒนานุรักษ์ ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , นายภานุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และนายเดโช ไชยทัพ ผู้อํานวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.) ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ จะร่วมนําเสนอข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมตอบคําถามข้อสงสัย เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ่ายทอดให้กับสังคม อันจะนําไปสู่แนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันจากทุกภาคส่วนอย่างถูกต้องและยั่งยืนในอนาคต

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า...ฟรี... เพื่อเข้าร่วมงานได้ที่ QR Code…… หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย โทร.086-3401713 ในวัน เวลา ราชการ

ที่อยู่

8/35 หมู่บ้านอมรพันธ์นคร 8 สวนสยาม9 (แยก 3) ถนนเสรีไทย แขวง/เขตคันนายาว
Bangkok
10230

เบอร์โทรศัพท์

+66946518886

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เกษตรโฟกัสผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เกษตรโฟกัส:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ประเภท