TTIS Textile Digest

27/10/2023

การบินไทย เผยโฉมเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินใหม่ ผลิตจากเส้นไหมไทย ทอผสมเส้นใยจากขวดพลาสติกรีไ...

30/08/2023

มุมมองจากสองฝั่งที่มีต่อเสื้อผ้ามือสอง ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ยั่งยืนรักษ์โลกจริง หรือเป็นแค่เพียงเทรนด์ก....

16/06/2023

รายงานใหม่เผยเรื่องราวที่น่าตกใจ ระบุว่า บริษัทเอกชนเช่น ดูปองท์(DuPont) หรือ 3M ที่ใช้สารกลุ่ม ‘สารเคมีตลอดกาล’ (PFAS) ผลิตสินค้าของตัวเอง รู้ถึงอันตรายและความเสี่ยงด้านสุขภาพมานานอย่าง 21 ปีแล้ว แต่ตั้งใจปกปิดข้อมูลให้ทุกคนรับรู้ และบางกรณีเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ‘ต้องการให้บันทึกนี้ถูกทำลาย’
รายงานใหม่ที่เผยแพร่ใน Annals of Global Health ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลบันทึกรายงานต่าง ๆ ในอุตสาหรกรรมที่ถูกจัดเก็บอยู่ในห้องสมุดแผนกเอกสารอุตสาหกรรมเคมีของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 1961 ถึงปี 2006 โดยมาจากการฟ้องร้องแบบกลุ่มที่ชนะคดีเกี่ยวกับสารเคมี
พวกเขาพบว่า ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง ดูปองท์, 3M และบริษัทต่าง ๆ รู้อยู่แก่ใจว่าผลกระทบของสารเคมีตลอดกาลมันแย่ต่อสิ่งมีชีวิตยังไงอย่างน้อย ๆ 21 ปี ทางทีมวิจัยระบุชัดเจนว่าเอกสารเหล่านั้นถูกทำเครื่องหมายว่า ‘เป็นความลับ’ และบางชิ้นถูกระบุชัดเจนว่า ‘ต้องการให้ถูกทำลาย’
“เอกสารเหล่านี้เปิดเผยหลักฐานที่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมเคมีรู้เกี่ยวกับอันตรายของ PFAS และไม่ต้องการที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะ หน่วยงานกำกับดูแล และแม้แต่พนักงานในบริษัทเอง พวกเขารู้ถึงความเสี่ยง” ศาสตราจารย์ Tracey J. Woodruff ผู้เขียนอาวุโส ที่ปรึกษาด้านนโยบายของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA)
ยกตัวอย่างข้อมูลในรายงาน ในปี 1961 หัวหน้าฝ่ายพิษวิทยาของ Teflon ระบุชัดเจนว่า “ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังโดยเด็ดขาด” ต่อมาปี 1970 บันทึกภายในของ Haskell Laboratory ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากดูปองท์ พบว่า สาร C8 ซึ่งเป็นหนึ่งใน PFAS “เป็นพิษสูงเมื่อสูดดมและเป็นพิษปานกลางเมื่อกลืนกิน”
ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งดูปองท์ และ 3M เองก็พบว่าพนักงาน 2 คนที่ใกล้ชิดกับสารเคมี C8 ให้กำเนิดเด็กที่พิการแต่กำเนิด แต่พวกเขากลับบอกพนักงานตัวเองว่า C8 มีความเป็นพิษต่ำพอ ๆ กับเกลือแกง “C8 ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ดีในมนุษย์ที่ระดับความเข้มข้นที่ตรวจพบ”
ที่แย่ยิ่งกว่านั้น บริษัทเหล่านี้กลับส่งอีเมลล์ไปกดดันสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ โดยบอกว่า “เราต้องการให้ EPA ดำเนินการอย่างรวดเร็ว สินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายภายใต้แบรนด์ Teflon นั้นปลอดภัยและเป็นปัจจุบัน ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์”
แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาเลือกผลกำไรมากกว่าที่จะเลือกความปลอดภัยด้านสุขภาพของทุกคน
"ฉันคิดว่ามันเป็นการตอกย้ำว่าทำไมเราต้องสนใจต่ออุตสาหกรรมเหล่านี้ เพราะเมื่อคุณอ่านเอกสารแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขากังวลเกี่ยวกับผลกำไรของสารเคมีนี้ ไม่ใช่สุขภาพของพนักงานหรือสาธารณชน" Woodruff กล่าว
PFAS - สารเคมีตลอดกาล - ถูกใช้ตั้งแต่กระทะเคลือบสารกันติดไปจนถึงวัสดุกันน้ำและป้องกันคราบสกปรก โฟมดับเพลิง หรือแม้แต่เครื่องยนต์ไอพ่นมีความยืดหยุ่นสูงและไม่เสื่อมสภาพ ทำให้ไม่ย่อยสลายจึงสามารถสะสมในสิ่งแวดล้อมและในร่างกายของเราได้
ที่มา
https://annalsofglobalhealth.org/articles/10.5334/aogh.4013
https://www.iflscience.com/forever-chemicals-makers-covered-up-health-risks-for-decades-secret-documents-reveal-69197
https://www.cbc.ca/news/science/pfas-3m-dupont-study-1.6862883 #:~:text=DuPont%20and%203M%20knowingly%20concealed,household%20items%20and%20food%20packaging.
https://www.dailymail.co.uk/health/article-12144893/Makers-PFAS-forever-chemicals-covered-dangers-new-report-warns.html

07/02/2023

วิบากกรรมของ “โตโยต้า” จากจุดเริ่มต้น “ธุรกิจสิ่งทอ” ก้าวสู่บริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลก

07/07/2022

สีย้อมผ้าจากพันธุ์ไม้ธรรมชาติ
จากภูมิปัญญา สู่การสร้างสีสันบนเสื้อผ้าด้วยพรรณไม้
้ชีวิตอย่างชาญฉลาดคืนธรรมชาติสู่สมดุล
#สีย้อมผ้า

พาณิชย์ จัดทำข้อมูลตลาด โอกาสการค้า ทิศทางแฟชั่น สินค้าสิ่งทอใยกัญชงกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้ายกระดั...
03/06/2022

พาณิชย์ จัดทำข้อมูลตลาด โอกาสการค้า ทิศทางแฟชั่น สินค้าสิ่งทอใยกัญชง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง สู่สินค้ามูลค่าสูง เปิดตัวข้อมูลแนวโน้มตลาด โอกาสทางการค้า ทิศทางแฟชั่น ผ่านรายงาน “H**p Market Report Series for Textiles Industry” เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ในการวางแผนการผลิต การทำตลาด
ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการสิ่งทอและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวเนื่องของไทย ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการเชื่อมโยงภาคการผลิตสู่โอกาสทางการค้าในตลาดโลก โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดชุดรายงานทั้ง 3 ฉบับ ได้ที่เว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ https://www.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/762786/762786.pdf&title=762786&cate=819&d=0”
#ทิศทางแฟชั่น #สินค้าสิ่งทอ #ใยกัญชง **p #สิ่งทอ

31/05/2022

สิทธิประโยชน์กรณีตาย กองทุนประกันสังคม

13/05/2022

ราคาฝ้ายกำลังสูงขึ้น เราอาจต้องซื้อเสื้อผ้าแพงขึ้น เร็ว ๆ นี้ | BrandCase
รู้หรือไม่ ราคาฝ้ายในญี่ปุ่น กำลังทำจุดสูงสุดในรอบ 11 ปี
และราคาฝ้ายในตลาดฟิวเจอร์สนิวยอร์ก ก็ปรับตัวขึ้นมาจากปีที่แล้วกว่า 30%
ซึ่งเรื่องนี้กำลังสะท้อนว่า ราคาต้นทุนในการผลิตเสื้อผ้ากำลังสูงขึ้น
และก็น่าจะมีผลกดดัน ทำให้ราคาเสื้อผ้า ปรับตัวสูงขึ้นได้ด้วย

แล้วเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ? เรามาดูกัน

ประเด็นสำคัญคือ ช่วงที่ผ่านมา เกิดภัยแล้งรุนแรงในพื้นที่ปลูกฝ้ายในสหรัฐอเมริกา
รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในอินเดีย

ซึ่งจากรายงาน ตลาดฝ้ายทั่วโลกในปี 2020 พบว่า ประเทศที่มีการส่งออกฝ้ายมากที่สุดของโลก คือ
อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา 43.7%
อันดับ 2 บราซิล 23.6%
อันดับ 3 อินเดีย 10.6%

จะเห็นว่า สหรัฐอเมริกาและอินเดีย มีปริมาณการส่งออกฝ้ายรวมกัน มากถึงครึ่งหนึ่ง ของยอดส่งออกรวมทั้งโลก เลยทีเดียว

เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคาฝ้าย ในตลาดฟิวเจอร์สนิวยอร์ก ก็ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็น 155.95 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2021 มากถึง 30%

ซึ่งราคาที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ มีสาเหตุหลัก ๆ มาจาก
พื้นที่เพาะปลูกฝ้ายในสหรัฐอเมริกา ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง
โดยพื้นที่เพาะปลูกสำคัญอย่าง รัฐเท็กซัส ก็กำลังอยู่ในภาวะภัยแล้งรุนแรง

ในขณะที่อินเดียเองก็ได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตร อย่าง ข้าวสาลี รวมถึงฝ้าย มีปริมาณการผลิตที่ลดลง

เรื่องนี้ทำให้อินเดีย ต้องระงับการส่งออกฝ้ายชั่วคราว เพราะเห็นแนวโน้มว่าปริมาณที่ผลิตได้จะไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ และจะกดดันให้ราคาฝ้ายภายในประเทศสูงขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียก็ยังออกมาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าฝ้ายไปจนถึงเดือนกันยายน เพื่อชดเชยการขาดแคลนภายในประเทศด้วยเช่นกัน

แล้วประเทศที่มีการนำเข้าฝ้ายมากที่สุดของโลก เป็นอันดับ 1 คือประเทศอะไร ?
คำตอบคือ ประเทศจีน นั่นเอง

ถึงแม้ว่าจีนเองจะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตฝ้ายได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกก็ตาม
แต่ด้วยความต้องการภายในประเทศ ที่มีปริมาณมากกว่ากำลังในการผลิต ทำให้จีนยังคงต้องมีการนำเข้าฝ้ายจากประเทศอื่นอย่างอินเดีย

ที่น่าสนใจก็คือ ในจีน มีบริษัทผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่มากมาย
อย่างเช่น Shein บริษัทฟาสต์แฟชั่นราคาย่อมเยา
ที่ต้องการฝ้ายเป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าต่อปีเป็นจำนวนมหาศาล

หากการผลิตฝ้ายในพื้นที่สำคัญ อย่างสหรัฐอเมริกาและอินเดีย ยังคงเจอปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ปริมาณการผลิตลดลงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ราคาฝ้ายก็มีโอกาสสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน
และมันก็จะส่งผลโดยตรงให้ต้นทุนในการผลิตเสื้อผ้าของหลายแบรนด์ เพิ่มสูงขึ้นตาม

ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าติดตามว่า ผู้ผลิตจะเลือกแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นไว้เอง
หรือจะเลือกผลักภาระต้นทุนมาให้ผู้บริโภคอย่างเรา ต้องซื้อเสื้อผ้าแพงขึ้นในเร็ว ๆ นี้
ก็ต้องรอดูกัน..

References:
-https://asia.nikkei.com/Business/Markets/Commodities/Cotton-prices-hit-11-year-high-on-possible-India-export-ban?fbclid=IwAR0FcMRoy2wd6ynsN57ne7Rt2k9qifAOCSGYFMxKyoEitzkcXDSBuueVKvs
-https://www.businesswire.com/news/home/20210302005962/en/Global-Cotton-Market-Report-2021-Volume-by-Consumption-Production-Export-Import-Countries-Companies-Forecast---ResearchAndMarkets.com
-https://www.mordorintelligence.com/industry-reports/cotton-market

17/12/2021

😍 รวมเพจรับซื้อเสื้อผ้ามือสอง ไม่ได้ใส่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นเงินไปเลย

❤️ ไม่ว่าจะสาวๆ หรือหนุ่มๆ หลายคนก็คงชอบช้อปปิ้งเสื้อผ้ากันอยู่เป็นประจำ ยิ่งซื้อเยอะเสื้อผ้าในตู้ก็เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนเยอะจนแทบไม่มีที่จะเก็บ วันนี้ติดโปรมาพร้อมกับเพจรับซื้อเสื้อผ้ามือสอง แหล่งช่วยระบายเสื้อผ้าในตู้ของเราที่ไม่ได้ใส่แล้ว หรือใส่ไม่ได้ ให้เปลี่ยนเป็นเงินมาฝาก ใครที่กำลังเจอปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ เบื่อแล้วไม่รู้จะเอาไปไหน ลองนำไปขายเป็นเสื้อผ้ามือสองตามแหล่งที่แอดรวบรวมไว้ให้ได้เลย รับรองถูกใจมีเงินไปช้อปเสื้อผ้าต่อได้แน่นอนนนน

รับซื้อเสื้อผ้ามือสอง พี่นิชา
🧑🏻‍💻 https://bit.ly/3dIREt0

รับซื้อเสื้อผ้ามือสอง ให้ราคาสูงมากค่ะ แม่ค้าลีนา
🧑🏻‍💻 https://bit.ly/3ETjU8f

รับซื้อเสื้อผ้ามือสองราคาดี
🧑🏻‍💻 https://bit.ly/3F6zRYV

รับซื้อเสื้อผ้ามือสอง ให้ราคาสูง 0829802779 คุณเล็ก
🧑🏻‍💻 https://bit.ly/30kHyLG

รับซื้อเสื้อผ้ามือสอง ติ๊ก 087-5093012
🧑🏻‍💻 https://bit.ly/3dMulOR

รับซื้อเสื้อผ้ามือ2 จำนวนมาก
🧑🏻‍💻 https://bit.ly/3s7pssh

#เสื้อผ้า #มือสอง #ขาย #ติดโปร

17/12/2021

อุ้ม สิริยากร พาไปพอร์ตแลนด์ คุยกับ แจเร็ด ฟลัด ชายผู้รักการถักไหมพรม จนสร้างบริษัทผลิตเส้นใยและแพตเทิร์.....

23/11/2021

โอกาสของ นักออกแบบแฟชั่น บนโลก Metaverse ผ่าน ZEPETO /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากพูดถึงกระแสในโลกออนไลน์ตอนนี้ Metaverse น่าจะเป็นคำที่เราได้ยินกันจนหนาหู
ตั้งแต่ที่ Facebook ได้ประกาศเปลี่ยนตัวเองเป็น Meta เพื่อให้ตอบรับกับโลก Metaverse

ซึ่งการประกาศของ Facebook หรือ Meta ในครั้งนี้ก็ส่งผลให้บริษัทอื่น ๆ หันมาตอบรับ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้องกับโลกเสมือนมากยิ่งขึ้นด้วย

ที่น่าสนใจคือ การมาถึงของ Metaverse ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปิดโลกใหม่ สำหรับใครหลายคน แต่ยังเปิดโอกาสให้กับแบรนด์ ซึ่งเคยพยายามสร้างตัวตนบนโลกเสมือน กลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง

หนึ่งในนั้นคือ ZEPETO แอปพลิเคชันสร้างตัวตนบนโลกเสมือน ที่เคยฮิตอยู่ช่วงหนึ่ง ในปี 2018 แต่ก็เงียบหายไป ก่อนจะเริ่มกลับมามีบทบาทมากขึ้นอีกครั้ง หลังจากกระแสของ Metaverse

แล้วตอนนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับ ZEPETO ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

เดิมที ZEPETO เปิดตัวในปี 2018 โดยมีบริษัท SNOW Corporation เป็นเจ้าของ

โดยรูปแบบของ ZEPETO นอกจากจะเป็นแอปพลิเคชัน สำหรับการสร้างตัวตนบนโลกเสมือนแล้ว เรายังสามารถแต่งตัวให้กับตัวละครบนโลกเสมือนเหล่านั้น ผ่านการซื้อเสื้อผ้าภายในแอปพลิเคชัน ด้วยการใช้เหรียญ

ซึ่งเหรียญนี้ มีทั้งแบบที่สามารถหาได้จากภายในแอปพลิเคชัน หรือจะเติมเงินจริง ๆ เข้าไปเพื่อซื้อก็ได้เช่นกัน

ปัจจุบัน ZEPETO มีจำนวนผู้ใช้งานประมาณ 250 ล้านบัญชี และส่วนใหญ่ก็เป็นคน Gen Z
ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคแห่งอนาคต ที่มีความสนใจด้านแฟชั่น และศักยภาพในการซื้อที่แข็งแกร่ง

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้หลาย ๆ แบรนด์โดยเฉพาะแบรนด์แฟชั่น หันมาให้ความสนใจกับ ZEPETO ไม่ว่าจะ Gucci, Adidas, MLB, Gentle Monster, Ralph Lauren, PUMA และอีกมากมาย

โดยแบรนด์เหล่านี้ จะนำเสื้อผ้าและกระเป๋าที่กำลังจะวางขายหรือวางขายแล้ว มาโปรโมตผ่าน ZEPETO ให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของสินค้าในโลกเสมือน ได้ในราคาที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับสินค้าในโลกแห่งความจริง

แล้วทำไม แบรนด์แฟชั่นถึงเลือก ที่จะมาโปรโมตผ่านแอปพลิเคชัน ZEPETO ?

เรื่องนี้คุณ Kimmie Smith ผู้ร่วมก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของนิตยสารด้านแฟชั่น Athleisure Mag ได้ออกความเห็นว่า

การใช้งานแอปพลิเคชัน ZEPETO เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถแสดงผลงาน รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้ โดยที่ไม่ต้องใช้การทำโฆษณาแบบเดิม ๆ

เพราะ ZEPETO ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชัน ที่เอาไว้สร้างตัวตนบนโลกเสมือนเท่านั้น แต่ยังสามารถติดตามเพื่อน ๆ และลงรูปภาพ วิดีโอ ตัวละครของเราได้ ไม่ต่างจากการโพสต์โซเชียลมีเดียปกติทั่วไปเลย

การแสดงตัวตนบน ZEPETO จึงไม่ได้แตกต่างจากบนโลกออนไลน์แบบดั้งเดิมเท่าไรนัก

ซึ่งหลาย ๆ คน ก็ยังคงพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ไม่ว่าทั้งในโลกจริงหรือโลกเสมือน

ดังนั้นแม้ว่าเสื้อผ้าเหล่านั้น จะเป็นของที่จับต้องไม่ได้ ไม่สามารถสวมใส่ได้จริง แต่ก็ยังคงขายได้ใน ZEPETO อยู่ดี

และไม่ใช่แค่แบรนด์จะสามารถโปรโมตสินค้าใหม่ ๆ ได้เท่านั้น แต่แบรนด์ยังสามารถ
ใช้ ZEPETO ในการทดสอบตลาด ของสินค้าที่ยังไม่วางจำหน่ายในโลกจริงได้อีกด้วย

อย่าง Christian Louboutin ก็ได้เปิดตัวรองเท้าส้นสูงใน ZEPETO เมื่อปีที่แล้ว
ก่อนจะวางจำหน่ายสินค้าแบบเดียวกันในร้านค้าจริง ๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ZEPETO ยังเป็นตัวช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้พร้อมกันหลาย ๆ คน

แม้เราจะอยู่ในยุคที่การออกไปพบปะผู้คนจำนวนเยอะ ๆ อาจไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยนัก
เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด ทำให้โลกเสมือนเริ่มเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้เพิ่มขึ้น

เช่น แบรนด์ Gucci ที่ได้ร่วมมือกับ ZEPETO เปิดตัว Gucci Villa ให้กับผู้บริโภคที่สนใจแบรนด์ Gucci สามารถเข้าไปเยี่ยมชมร้านและเดินเล่นในโลกเสมือน ด้วยเสื้อผ้าของ Gucci

ซึ่งเรื่องนี้ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ ในด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย และนวัตกรรมใหม่ ๆ แก้ปัญหาให้กับลูกค้า ที่ไม่อยากออกจากบ้าน แต่ยังอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์อยู่ได้

อย่างไรก็ตามไม่ได้มีแค่แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการทำสินค้าบนโลกเสมือน
เพราะ ZEPETO เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถทำเสื้อผ้าใส่เอง และเปิดขายให้กับคนอื่น ๆ ได้ด้วย

ทำให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ ที่อาจไม่มีงบสำหรับทำเสื้อผ้าในโลกแห่งความจริง สามารถทำเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นในโลก Metaverse แทนก็ได้

โดยตอนนี้ก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้จากการทำเสื้อผ้าขายบน ZEPETO แล้ว

และไม่แน่ว่าในอนาคตอาชีพนักออกแบบเสื้อผ้าแบบ Visual อาจกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพ
ที่สามารถสร้างรายได้ในหลักล้าน และกลายเป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ก็เป็นได้..

References:
-https://www.luxurydaily.com/gucci-and-ZEPETO-offer-consumers-stylish-avatars/
-https://blog.unity.com/games/diving-into-the-metaverse-with-ZEPETO
-http://koreabizwire.com/fashion-industry-taps-into-metaverse-social-platforms/190274

  คือแพลตฟอร์มส่งต่อเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีที่เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดที่คนซื้อเสื้อผ้ามือสองต้องเจอ มากไปกว่านั้นย...
15/11/2021

คือแพลตฟอร์มส่งต่อเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีที่เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดที่คนซื้อเสื้อผ้ามือสองต้องเจอ มากไปกว่านั้นยังมีเซอร์วิสอำนวยความสะดวกให้ผู้ขายตั้งแต่ส่งรถไปรับสินค้าถึงบ้าน จัดการทำความสะอาด วัดไซซ์ ถ่ายภาพโพสต์ขายให้อย่างสวยงาม ถึงขั้นตอนจัดส่งให้เรียบร้อยครบลูป

คุยกับทีมผู้ก่อตั้ง loopers แพลตฟอร์มส่งต่อเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีที่ทำให้การซื้อ-ขายเป็นเรื่องง่ายและได้ช่.....

ตามรายงานของสหประชาชาติเมื่อปี 2019 พบว่า การผลิตเสื้อผ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในปี 2000-2014 และอุตสาหกรรมนี้ “เป...
10/11/2021

ตามรายงานของสหประชาชาติเมื่อปี 2019 พบว่า การผลิตเสื้อผ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในปี 2000-2014 และอุตสาหกรรมนี้ “เป็นต้นตอของน้ำเสียทั่วโลกถึง 20%” โดยการผลิตกางเกงยีนส์ เพียงแค่ตัวเดียว ต้องใช้น้ำถึง 7,500 ลิตร
“ปัญหา คือ เสื้อผ้าไม่สามารถย่อยสลายเองได้และมีสารเคมี ดังนั้นจึงไม่สามารถฝังกลบในพื้นที่ของเทศบาลได้” แฟรงคลิน เซเปดา ผู้ก่อตั้ง EcoFibra บริษัทที่ผลิตแผ่นฉนวนกันความร้อน โดยใช้เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว กล่าว
“ผมอยากเปลี่ยนจุดที่เป็นปัญหา ให้กลายเป็นทางออก” เขากล่าวถึงบริษัทของตัวเอง ที่สร้างขึ้นในปี 2018

Editor’s Pick: กระแสฟาสต์แฟชันกับการบริโภคที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อคำถามว่า เสื้อผ้าที่โลกไม่ต้องการไปที่ไหนต่อ?

◾◾◾
🔴 ฟาสต์แฟชันกับปัญหาระดับโลก

ทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี ซึ่งเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในโลก กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากมลภาวะที่เกิดจากฟาสต์แฟชันที่เติบโตรวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากภูเขาเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งร้างกองมหึมา

ฟาสต์แฟชัน คือ แนวทางในการออกแบบ สร้างสรรค์ และการตลาดของแฟชันเสื้อผ้า ที่เน้นทำให้กระแสแฟชันเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และมีราคาถูกที่สุด

ขณะที่ผลกระทบทางสังคม จากการบริโภคที่ลุกลามในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า อาทิ การใช้แรงงานเด็กในโรงงาน หรือการกดค่าแรง ล้วนเป็นที่รู้จักกันดี แต่ผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม กลับเป็นที่รู้จักน้อยลงเรื่อย ๆ

◾◾◾
🔴 ภูเขาเสื้อผ้าที่อาจเพิ่มพูนไม่รู้จบ

ชิลี เป็นศูนย์กลางเสื้อผ้ามือสองและเสื้อผ้าที่ขายไม่ออก ซึ่งเสื้อผ้าเหล่านี้ล้วนผลิตในจีนหรือบังกลาเทศ และส่งต่อไปยังยุโรป เอเชีย หรือสหรัฐฯ ก่อนเดินทางมาถึงชิลี ซึ่งจะขายทอดไปยังประเทศแถบลาตินอเมริกา

ในแต่ละปี มีเสื้อผ้าประมาณ 59,000 ตัน ถูกส่งมายังท่าเรืออิกิเกในเขตปลอดอากร อัลโต ฮอสปิซิโอ ทางตอนเหนือของชิลี

บรรดาพ่อค้าจากซันติอาโก เมืองหลวงของชิลี ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ 1,800 กิโลเมตร ต่างเดินทางมาซื้อเสื้อผ้า ขณะที่เสื้ออีกจำนวนมาก จะถูกลักลอบส่งต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในลาตินอเมริกา และเสื้อผ้าอย่างน้อย 39,000 ตัน ที่ไม่สามารถขายได้ จะจบลงด้วยการกลายเป็นขยะในทะเลทรายแห่งนี้

“เสื้อผ้าพวกนี้มาจากทั่วทุกมุมโลก” อเล็กซ์ คาร์เรโน อดีตพนักงานในพื้นที่สินค้านำเข้าของท่าเรือ กล่าว

“เพราะไม่มีใครจ่ายภาษี เสื้อผ้าที่ไม่ได้ขายให้พ่อค้าในซันติอาโก หรือส่งไปยังประเทศอื่น ๆ จะยังคงอยู่ในเขตปลอดอากรเช่นนี้”

◾◾◾
🔴 อุตสาหกรรมสิ่งทอก็สร้างน้ำเสีย

ตามรายงานของสหประชาชาติเมื่อปี 2019 พบว่า การผลิตเสื้อผ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในปี 2000-2014 และอุตสาหกรรมนี้ “เป็นต้นตอของน้ำเสียทั่วโลกถึง 20%” โดยการผลิตกางเกงยีนส์ เพียงแค่ตัวเดียว ต้องใช้น้ำถึง 7,500 ลิตร

“ปัญหา คือ เสื้อผ้าไม่สามารถย่อยสลายเองได้และมีสารเคมี ดังนั้นจึงไม่สามารถฝังกลบในพื้นที่ของเทศบาลได้” แฟรงคลิน เซเปดา ผู้ก่อตั้ง EcoFibra บริษัทที่ผลิตแผ่นฉนวนกันความร้อน โดยใช้เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว กล่าว

“ผมอยากเปลี่ยนจุดที่เป็นปัญหา ให้กลายเป็นทางออก” เขากล่าวถึงบริษัทของตัวเอง ที่สร้างขึ้นในปี 2018

◾◾◾
🔴 เสื้อผ้าที่โลกทิ้ง สู่มือเจ้าของใหม่

รายงานเดียวกันนี้ ยังระบุว่า การผลิตเสื้อผ้าและรองเท้า มีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ถึง 8% และ “ทุก ๆ วินาที สิ่งทอจำนวนหนึ่ง ที่เทียบเท่ารถบรรทุกขยะ ล้วนถูกฝังหรือเผาในที่ใดที่หนึ่งบนโลก”

ไม่ว่ากองเสื้อผ้าจะถูกทิ้งไว้กลางแจ้งหรือฝังไว้ใต้ดิน พวกมันจะสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ปล่อยมลพิษสู่อากาศหรือช่องทางน้ำใต้ดิน ทั้งนี้ เสื้อผ้าอาจต้องใช้เวลา 200 ปี ในการย่อยสลายทางชีวภาพ และเป็นพิษพอ ๆ กับยางรถยนต์หรือพลาสติกที่ถูกทิ้ง

แต่ก็ใช่ว่าเสื้อผ้าทั้งหมดจะสูญเปล่า คนยากจนที่สุดบางส่วนจากภูมิภาคนี้ ซึ่งมีประชากร 300,000 คน ต่างรื้อกองขยะเพื่อหาเสื้อผ้าแบบที่ต้องการ หรือสิ่งที่สามารถขายได้ ในย่านท้องถิ่นของพวกเขาเอง

โซเฟียและเจนนี่ ผู้อพยพชาวเวเนซุเอลา ซึ่งเดินทาง 350 กิโลเมตร ข้ามไปยังชิลีราวสองสามวันก่อน ก็กำลังค้นหากองเสื้อผ้า ขณะที่ลูกของพวกเขาคลานไปมาบนนั้นด้วยเช่นกัน

พวกเธอกำลังมองหา “เสื้อผ้าไว้ใช้ในฤดูหนาว” เนื่องจากอุณหภูมิตอนกลางคืนในทะเลทรายของชิลี อาจลดลงในระดับที่พวกเธอไม่เคยเจอมาก่อน

◾◾◾
🔴 โลกเริ่มตระหนักถึงปัญหา

ชิลี ซึ่งเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกาใต้ ขึ้นชื่อเรื่องการบริโภคที่มากเกินความพอดีของคนในท้องถิ่น การโฆษณาฟาสต์แฟชัน “จึงช่วยโน้มน้าวว่า เสื้อผ้าทำให้เราดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ทำให้เรามีสไตล์ หรือแม้กระทั่งแก้ความวิตกกังวล” โมนิกา ซารินี ผู้ผลิตสินค้าจากเสื้อผ้ารีไซเคิล กล่าว

โรซาริโอ เฮเวีย ซึ่งเปิดร้านรีไซเคิลเสื้อผ้าเด็ก ก่อนจะก่อตั้งบริษัท Ecocitex ในปี 2019 โดยบริษัทของเธอผลิตเส้นด้าย จากเศษสิ่งทอและเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งในสภาพที่ย่ำแย่ โดยไม่ใช้น้ำหรือสารเคมี

เธอบอกว่า “เราบริโภคกันแบบนี้มานานหลายปี แต่กลับไม่มีใครสนใจว่า ขยะสิ่งทอพวกนี้ถูกสร้างมากขึ้นเรื่อย”

“โชคยังดีที่ตอนนี้ ผู้คนเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองบ้างแล้ว”
—————
เรื่อง: พัชรี จันทร์แรม
ภาพ: MARTIN BERNETTI / AFP

#ชิลี #จีน #เสื้อผ้า #ฟาสต์แฟชัน
#เจาะลึกรอบโลก

ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.scmp.com/news/world/americas/article/3155231/made-china-dumped-chile-where-worlds-fast-fashion-leftovers-go
————
📲 อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

09/11/2021

สรุปเทรนด์ “สีแห่งปี 2022” โลกหลังจากนี้ขับเคลื่อนด้วยสีแบบไหน
‘ถึงเวลาที่โลกจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง’ บทสรุปที่มาของสีแห่งปี 2022 จากหัวหน้าฝ่ายคาดการณ์สีของ WGSN บริษัทวิจัยเทรนด์ระดับโลก
อีกแค่ 1 เดือน เราจะเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปี 2022 อย่างเป็นทางการ นอกจากการเริ่มต้นตัวเลขใหม่แล้ว ชีวิตมนุษย์โลกก็ถูกคาดหวังว่าจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาโดนโรคระบาดโควิด-19 โจมตี จนทำให้ชีวิตถูกแช่แข็งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมจากช่วงเวลาล็อคดาวน์
สำนักวิจัยเทรนด์ WGSN และ Coloro บริษัทสีชั้นแนวหน้าจึงร่วมมือคัดกรองสีจากสำนักเทรนด์ต่างๆ และวิเคราะห์จนสรุปเป็น 7 สีที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2022 โดยเทรนด์สีที่เกิดขึ้นในปีหน้าเต็มไปด้วยแรงผลักดันด้านจิตใจ และการแสวงหาความสุข
📌 เทรนด์สีปี2022 แบ่งได้ทั้งหมด 7 สี
- ครีม Anise Flower (รหัส 12-0717 TCX) สื่อถึงการผ่อนคลาย และบรรเทาจิตใจ
สีที่สื่อถึงการปลอบประโลมให้ทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี และการบรรเทาจิตใจจากภาวะโรคระบาดตลอดปีที่ผ่านมา สีนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ผลิตภัณฑ์ Well-being อย่างเทียนหอม ที่เป็นสินค้ามาแรงตลอดปี 2021 นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับสีของเห็ดเมา ตระกูล Hericium ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรว่าเป็นสมุนไพรที่ได้ยอมรับทางการแพทย์ว่าสามารถป้องกันระบบประสาท สามารถบรรเทาอาการซึมเศร้า และวิตกกังวลได้
- ฟ้า Stratosphere (รหัส14-4508 TCX) สื่อถึงธรรมชาติ และการเห็นอกเห็นใจ
ประเด็นของโลกร้อนยังคงเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสีฟ้า Stratosphere เป็นชื่อเดียวกันกับชั้นบรรยากาศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงนิตยสาร Viewpoint ได้อ้างถึงงานเขียนของนักประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ‘โธมัส เบอร์รี่’ ว่าสีเฉดนี้สามารถสื่อสารถึงจิตวิญญาณของธรรมชาติได้ดี และยังส่งผลต่ออารมณ์ทำให้รู้สึกถึงการเห็นอกเห็นใจ
- ม่วง Purple Rose (15-3716 TCX) สื่อถึงอารมณ์หลากหลาย และความเหนือจริง
สีม่วงเฉด Purple Rose เป็นสีที่ลดความตึงเครียดทางด้านอารมณ์ ขณะเดียวกันก็สร้างพลังที่แข็งแกร่งให้สื่อดิจิทัล ซึ่งเป็นตัวแทนสำหรับความงามของธรรมชาติที่เหนือจริง จากเทรนด์โลกในอนาคตที่ถูกขับเคลื่อนไปด้วยพลังของเทคโนโลยีนวัตกรรม 3D
- เหลืองส้ม Radiant Yellow (รหัส15-1058 TCX) สื่อถึงการมองโลกในแง่บวก
สภาวะหมดไฟ (Burnout) ของกลุ่มคนวัยทำงานเพิ่มมากขึ้นจากวิกฤติการณ์โรคระบาด ซึ่งสี Radiant Yellow สีเหลืองเข้มเฉดมะม่วงสุกเป็นตัวแทนแห่งการมองโลกในแง่ดี เพื่อให้ต่อสู้กับความล้มเหลว และความไม่สมบูรณ์แบบ
- เขียวสะท้อนแสง Acid Lime (รหัส14-0340 TCX) สื่อถึงการดึงดูด และการคาดไม่ถึง
สีนี้ถูกรู้จักในชื่อทางการค้าว่า Naphtol Green B โดยความนิยมของสีเขียวสะท้อนแสงนี้มีเทรนด์นิยมขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในวงการสถาปนิก บริษัทแฟชั่น หรือแม้แต่บริษัท Nike สีเขียวกลุ่มนี้เมื่อมองแล้วให้ความรู้สึกย้อนแย้งในจิตใจ และดึงดูดสายตาในเวลาเดียวกัน
- ชมพูอมม่วง Festival Fuchsia (รหัส19-2437 TCX) สื่อถึงความพิเศษ และมีชีวิตชีวา
เฉดสีแห่งการปลดปล่อยภาพลักษณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน และให้ความรู้สึกพิเศษในหลายๆ ความรู้สึกทั้งความเซ็กซี่ เย้ายวนใจ โดยภาพรวมให้ความจัดจ้านแสดงความมีชีวิตชีวา
- น้ำตาลเข้ม Java (รหัส19-1016 TCX) สื่อถึงการเคารพธรรมชาติ และการตระหนักรู้
สีน้ำตาลโทนเข้ม เป็นสีที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สีหินแร่ดินที่ถูกชะล้าง เฉดสีของเมล็ดพืช เมล็ดกาแฟ โดยสีนี้ให้ความรู้สึกความอบอุ่น ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงความตระหนัก รู้ความยั่งยืนของธรรมชาติ
เรื่อง มยุรา ยะทา
กราฟิก วิชัย นาคสุวรรณ
ที่มา : เทรนด์โลก 2022 ,สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
อ้างอิง
https://article.tcdc.or.th//uploads/file/ebook/2564/10/desktop_th/EbookFile_33202_1634128759.pdf
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
Website : http://www.bangkokbiznews.com
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok : https://www.tiktok.com/
Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

06/11/2021

สรุป เทรนด์ใส่เสื้อผ้าซ้ำ แก้ปัญหาเสื้อผ้าล้นโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ใครที่เล่นโซเชียลอาจจะได้เห็นเทรนด์หนึ่ง ที่มีคนออกมารณรงค์ให้ ทุกคนหันมาใส่เสื้อผ้าตัวเดิม ๆ ในตู้ เพื่อลดการซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ ๆ ลง

เนื่องจากปัจจุบันเทรนด์สินค้าแบบ Fast Fashion เป็นสิ่งที่กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเสื้อผ้าแบรนด์ไหน ก็ผลัดกันออกคอลเลกชันใหม่ ๆ อยู่ตลอด ซึ่งบางแบรนด์ก็มีการออกคอลเลกชันใหม่ ๆ บ่อยถึงสัปดาห์ละครั้งเลยทีเดียว

ที่สำคัญยังมาในราคาที่ “เข้าถึงได้” เนื่องจากไม่ได้เน้นคุณภาพมาก แต่มุ่งไปที่การผลิตอันรวดเร็วและทันต่อกระแสที่มีอยู่ในขณะนั้นมากกว่า

พอเรื่องเป็นแบบนี้ มาประกอบกับ ยุคโซเชียลมีเดีย จึงกลายเป็น “ลงล็อก” พอดี

เพราะผู้คนต่างแชร์ไลฟ์สไตล์ชีวิตของตัวเองลงบนโลกออนไลน์ และแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ย่อมต้องการสร้างภาพลักษณ์ดี ๆ ของตัวเอง

ทำให้หลายครั้ง ก็อยากที่จะได้ภาพสวย ๆ ด้วยการใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ซึ่งถ้ามองแค่ผิวเผิน ปัญหานี้อาจจะดูเป็นแค่ปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ กลับส่งผลต่อโลกมากกว่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาด้านแรงงาน และปัญหาในสังคม ที่ในวันนี้ลงทุนเกิร์ลอยากจะหยิบมาพูดคุยกับทุกคนค่ะ

รู้หรือไม่ว่า อุตสาหกรรม Fast Fashion ผลิตเสื้อผ้าประมาณ 80,000 ล้านตันต่อปี ซึ่งเมื่อพูดถึงจำนวนการผลิตที่มากมายขนาดนี้ ก็หมายความว่าต้องใช้กำลังการผลิตสูง ทั้งด้านโรงงาน และกำลังคนในการผลิต

โดยโรงงานผลิตเสื้อผ้าเหล่านี้ ก็นับว่าสร้างมลพิษมหาศาล ทั้งควันที่มาจากโรงงาน และการปล่อยน้ำเสีย

ยังไม่รวมถึงขยะที่เกิดขึ้นจากการผลิตอย่างเศษผ้า ที่แต่ละประเภทก็มีระยะเวลา การย่อยสลายแตกต่างกันออกไป บางชนิดก็เป็นเดือน แต่บางชนิดก็หลายสิบปี

นอกจากนี้ เราคงสังเกตได้ว่าเสื้อผ้าหลายแบรนด์ มีราคาสินค้าที่ถูกจนน่าตกใจ อย่างเสื้อบางตัวก็ราคาเพียงแค่หลักสิบบาทเท่านั้น

ซึ่งสาเหตุของราคาสินค้าที่ถูกขนาดนี้ ก็มาจากการใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ รวมถึงการกดขี่แรงงาน

โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ Fashion Checker ปี 2020 ก็ได้เปิดเผยข้อมูลน่าตกใจ ว่าจากผลสำรวจ 250 แบรนด์เสื้อผ้านั้น กว่า 93% จ่ายค่าแรงที่ไม่เป็นธรรม และไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

จึงทำให้เราสามารถพูดได้อีกว่า Fast Fashion ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อโลก แต่ส่งผลถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนอีกด้วย

ซึ่งถึงแม้ว่าผลกระทบต่อโลกและประเด็นสิทธิมนุษยชน จะเป็นเรื่องที่คนพยายามออกมาพูดกันหลายปี
แต่ด้วยค่านิยมด้านแฟชั่นที่ผู้คนหลายคนยังเป็นอยู่ ก็ทำให้ปัญหาเหล่านี้ยังไม่หมดไป

และค่านิยมที่ว่าก็คือ “การไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ”

โดยข้อมูลจาก The Guardian ปี 2019 ได้เปิดเผยว่า 1 ใน 3 ของเด็กวัยรุ่นผู้หญิง จะใส่เสื้อผ้า 1 ตัวเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น เพราะรู้สึกว่าเสื้อมันเก่าแล้ว

และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดค่านิยมแบบนี้ก็คือ “อินเทอร์เน็ต” ที่ทำให้หลายคนอยากโชว์ภาพลักษณ์ที่ดี หรือไลฟ์สไตล์ที่ดูดีอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งเมื่อแนวคิดนี้มาเจอกับราคาเสื้อผ้าที่เข้าถึงได้ง่ายมาก ๆ ของ Fast Fashion ก็ยิ่งทำให้คนคิดน้อยลงเวลาจะซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่มาใส่

วนลูปสู่วงจรเดิม ๆ จนทำให้อุตสาหกรรม Fast Fashion ยังคงเติบโตต่อไปไม่มีหยุด

และเมื่อเป็นคำว่า แฟชั่น ก็ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องประดับอื่น
เช่น กระเป๋าหนัง ก็นับเป็นสินค้าที่นอกจากกระบวนการผลิตจะทำลายสิ่งแวดล้อมแล้ว ด้านปศุสัตว์ที่เป็นแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ก็ทำร้ายสัตว์และสร้างมลพิษเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีคนอีกกลุ่มที่พยายามหาทางออกจากเรื่องเหล่านี้ จนก่อเกิดเป็นธุรกิจแฟชั่นอีกมากมายหลายแบรนด์ ที่พยายามจะมาแก้ปัญหาความเลวร้ายจากอุตสาหกรรมแฟชั่น

เช่น แบรนด์เสื้อผ้า PANGAIA แบรนด์แฟชั่นที่ออกแบบในห้องแล็บวิทยาศาสตร์ เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่มีจุดยืนด้าน ความยั่งยืน โดยใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย

อย่างเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า C-FIBER ผลิตเสื้อยืดเส้นใยสาหร่ายแทนเส้นใยฝ้าย และใช้สาหร่ายที่ปลูกเองใต้ทะเล ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำจืดดูแล เพื่อแก้ไขปัญหา
การใช้ทรัพยากรน้ำจำนวนมหาศาลในการปลูกฝ้าย

แบรนด์ Girlfriend Collective ก็เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกาย ที่ได้หยิบเอาขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว นำกลับมาถักทอเป็นเส้นใยเสื้อผ้า

รวมถึงยังใช้กระบวนการผลิตมาตรฐาน SA8000 เป็นมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีการออกใบรับรองโดย Social Accountability International (SAI) ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะแรงงาน ไม่ให้ถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ

หรือ Freitag แบรนด์ที่ได้ใช้ผ้าใบรถบรรทุกและสายรัดนิรภัย มาทำเป็นกระเป๋า ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สตรีตแฟชั่น ที่พยายามนำเอาของที่ใช้แล้วมารีไซเคิล และจุดนี้ยังกลายเป็นจุดเด่น ที่ทำให้กระเป๋าแต่ละใบแตกต่างกัน เสมือนมีใบเดียวในโลก

ในขณะที่บางแบรนด์เลือกหยิบนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหา

บางแบรนด์ก็เลือกที่จะใช้วิธีลดการซื้อของผู้บริโภคแทน เช่น Style Theory สตาร์ตอัปที่ให้บริการเช่าชุดแบบ Subscription ก็พยายามจะให้ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่ซื้อชุดบ่อย ๆ เป็นเช่าชุดแทน เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่อยากใส่ชุดแค่ครั้งเดียวต่อชุดเท่านั้น

นอกจากนั้น การที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาของอุตสาหกรรมแฟชั่น ก็ยังส่งผลให้ตลาดสินค้ามือสอง เติบโตขึ้นด้วย

เนื่องจาก “สินค้ามือสอง” นอกจากจะเข้ามาตอบโจทย์เรื่องสินค้าราคาประหยัดแล้ว ยังสามารถเข้ามาช่วยให้สินค้าถูกใช้งานจนคุ้มค่าที่สุด

โดยข้อมูลจาก Statista เปิดเผยว่า ตลาดมือสองทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ 900 ล้านบาทในปี 2020 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็น 7,000 ล้านบาทในปี 2025

ตัวอย่างธุรกิจในอุตสาหกรรมสินค้ามือสอง

The RealReal บริษัทที่ให้บริการซื้อขายของแฟชั่นมือสองอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 33,455 ล้านบาท ก็เป็นอีกตัวบ่งชี้ได้ว่า ธุรกิจสินค้ามือสองเอง ก็กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภค

ฉะนั้น แม้ว่าปัจจุบันอุตสาหกรรม Fast Fashion จะยังคงดำเนินต่อไป และยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องหลงไปกับการกระตุ้น และเดินตามแฟชั่นอยู่ตลอดเวลา ตามแคมเปญการตลาดของแบรนด์

หรือถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ที่จะซื้อจริง ๆ ก็อาจลองหาวิธีอย่างการขายต่อ หรือบริจาค เพื่อให้สิ่งที่เราอุตส่าห์ซื้อมานั้นเกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้

สุดท้ายนี้ลงทุนเกิร์ลก็อยากจะเป็นอีกกระบอกเสียง ให้ทุกคนนึกไว้เสมอว่า

เสื้อผ้าทุก ๆ ตัวที่เราใส่อยู่นั้น มันผ่านกระบวนการมามากมายกว่าจะมาถึงมือของเรา ซึ่งในกระบวนการเหล่านั้น อาจเป็นทั้งหยาดเหงื่อและหยาดน้ำตาของทั้งวัตถุดิบและแรงงานที่ถูกใช้ไป

ที่สำคัญ การใส่เสื้อผ้าตัวเดิม ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นเรื่องสนุก เพราะไม่แน่ว่า ชุดเดิม ๆ ที่เรามีอยู่ อาจนำมาดัดแปลงให้กลายเป็นสไตล์ใหม่ ๆ ได้

และถึงแม้ว่าจะเป็นการใส่ที่ไม่ได้ต่างจากเดิม “การใส่เสื้อซ้ำ” ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นกัน เพราะถ้ามันผิด ก็คงไม่มีการคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า “เครื่องซักผ้า” ขึ้นมาบนโลก..



References:
-https://www.statista.com/statistics/826162/apparel-resale-market-value-worldwide/
-https://www.peacefuldumpling.com/clothing-decompose-rate
-https://goodonyou.eco/fast-fashion-facts/
-https://girlfriend.helpdocs.io/
-https://pebblemag.com/magazine/living/whats-wrong-with-fast-fashion

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเสื้อผ้า ไม่ได้ทำจากเส้นด้ายหรือใช้เทคโนโลยีสิ่งทอ แต่ตัดเย็บขึ้นมาด้วยโปรแกรมและมีวัสดุเป็นพิกเซล
06/11/2021

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเสื้อผ้า ไม่ได้ทำจากเส้นด้ายหรือใช้เทคโนโลยีสิ่งทอ แต่ตัดเย็บขึ้นมาด้วยโปรแกรมและมีวัสดุเป็นพิกเซล

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแฟชั่นคอลเลกชันล่าสุด ไม่ได้ทำจากเส้นด้ายหรือใช้เทคโนโลยีสิ่งทอ แต่ตัดเย็บขึ้นมาด้วยโปรแกรมและมีวัสดุเป็นพิกเซล

เสื้อผ้าดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเกมเมอร์ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ช้อปปิงเสื้อผ้าในโลกออนไลน์มาหลายปีดีดักแล้ว ในประเทศไทยเราแต่งตัวในโลกเสมือนกันมาตั้งแต่สมัย Ragnarok (หรือเก่ากว่านั้น) นอกจากเกมเต้น Audition ยังเป็นสมรภูมิแฟชั่น ขณะที่ปัจจุบันในอีกซีกโลกการจับจ่ายสกินสำหรับ Fortnite ก็ได้รับความนิยมมาก และคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และจากการประกาศล่าสุดของ Facebook เกี่ยวกับ Metaverse ก็ยิ่งทำให้เสื้อผ้าดิจิทัลน่าจับตามองมากขึ้น

Dhanush Shetty ผู้จัดการผลิตภัณฑ์วัย 22 ปี จากซานฟรานซิสโกบอกว่าการซื้อเสื้อผ้าดิจิทัลให้ความรู้สึกแปลกประหลาดในตอนแรก แต่ในที่สุดเขาค้นพบว่ามันง่ายกว่า ราคาถูกกว่า และรู้สึกมีจริยธรรมมากกว่า (จากการไม่สร้างคาร์บอนฟุตพรินต์จำนวนมากเหมือนการผลิตเสื้อผ้าในชีวิตจริง)

บริษัทเสื้อผ้าดิจิทัลที่กำลังได้รับความนิยมคือ DressX ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่ผ่านมา และกำลังวางจำหน่ายทั้งงานออริจินัล รวมถึงการคอลแลบกับศิลปินดิจิทัลอีกมากหน้าหลายตา

ลูกค้าของ DressX สามารถเข้าห้องลองเสื้อได้ผ่านเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ซึ่งพอตัดสินใจได้ว่าจะซื้อชิ้นไหน ก็จะทำการอัปโหลดรูปภาพของตัวเองไปยังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ DressX แล้วหลังจากนั้นประมาณ 1 - 2 วัน ก็จะได้รับภาพตนเองกำลังสวมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวที่ทำการตกแต่งโดยมืออาชีพกลับมา และพร้อมสำหรับการโพสต์ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม

“เป้าหมายของเราคือการมอบตู้เสื้อผ้าดิจิทัลให้กับทุกคน” Natalia Modenova ผู้ร่วมก่อตั้ง DressX ที่เคยทำงานในอุตสาหกรรมแฟชั่นมาก่อนบอกว่าพวกเขาเห็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมมากมายที่ต้องการแก้ไข

หากอิงตามรายงานของคณะกรรมาธิการสหประชาชาติเศรษฐกิจยุโรป จะเห็นว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำเสียทั่วโลกสร้างโดยอุตสาหกรรมแฟชั่น เช่นเดียวกับคาร์บอนไดออกไซด์ 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขยะพลาสติกในทะเลด้วย

บริษัทแฟชั่นที่ขายสินค้าในโลกเสมือนยังมองว่าการช่วยให้ผู้คนสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ได้บ่อยตามต้องการ โดยไม่ต้องผลิตเสื้อผ้าออกมาอีกอาจเป็นการแก้ปัญหาให้กับอุตสาหกรรม Fast Fashion และยังเปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้เติบโต โดยไม่ต้องอาศัยทุนมากมายเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมแฟชั่นแบบเสมือนยังต้องอาศัยการศึกษาต่อในเรื่องการใช้พลังงานในโลกดิจิทัล เช่นการสร้าง NFT ที่ถูกพูดถึงกันมาก่อนหน้านี้

จากการศึกษาของ Barclaycard ธนาคารออนไลน์จากอังกฤษ พบว่าชาวผู้ดี 1 ใน 10 คน บอกว่าซื้อเสื้อผ้ามาเพื่อถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็จะส่งคืนในภายหลัง ทำให้ Doddz ชาวแมนเชสเตอร์ที่ซื้อเสื้อผ้าดิจิทัลตั้งคำถามว่า ถ้าเสื้อผ้าใช้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงตัวตนในโลกดิจิทัลอยู่แล้ว ทำไมไม่ซื้อเสื้อผ้าที่อยู่ในนั้นไปเลยล่ะ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการประกาศของ Mark Zuckerberg ทำให้ Doddz มองว่าเราทุกคนต่างมุ่งสู่การทำงานและใช้ชีวิตใน Metaverse หรือไม่ก็โลกดิจิทัลแบบอื่น เมื่อผู้คนสนใจเกี่ยวกับสถานะในโลกออนไลน์มากขึ้น เมื่อนั้นแฟชั่นดิจิทัลจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาขึ้นมาเอง

อ่านในรูปแบบเว็บไซต์ได้ที่ : http://urbancreature.co/digital-fashion
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องได้ที่ : urbancreature.co/category/whats-up

Source : VICE l shorturl.asia/wbgSy

ที่อยู่

2/20 Soi Srinakarin 45, Prawet, Prawet
Bangkok
10250

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ TTIS Textile Digestผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง TTIS Textile Digest:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


การแพร่ภาพและการผลิตสื่อ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด