เจริญกรุง

เจริญกรุง พื้นที่ของเรื่องราว สาระบันเทิงทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ศิลปะ และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ
ให้คุณได้เจริญหู เจริญตา และเจริญใจ...เมื่อแวะเข้ามาหากัน

สายมู..รู้ยัง ความเชื่อเรื่อง “ไข่” ในพิธีกรรม เคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องใช้ “ไข่” ในการแก้บน โดยเฉพาะความเชื่อของคนไทย เพื...
19/02/2025

สายมู..รู้ยัง ความเชื่อเรื่อง “ไข่” ในพิธีกรรม

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องใช้ “ไข่” ในการแก้บน โดยเฉพาะความเชื่อของคนไทย เพื่อเซ่นสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตนได้บนบานไว้

อภินิหาร “ไข่ต้ม” แก้บน จึงเป็นพิธีกรรมยอดฮิตของบรรดาสานุศิษย์ที่สมปรารถนาหลังการดลบันดาลกับสิ่งศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน สมุทรปราการ

หรือ หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา ที่เอาไข่ต้มจำนวนมากมาแก้บนจนเกิดธุรกิจไข่ต้มแก้บนสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบวัดเป็นอย่างมาก

ที่อาจพิเศษกว่าหน่อยก็ พระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม ที่ทาสีแดงบนไข่ต้ม ซึ่งตรงนี้ได้สอดคล้องไปกับความเชื่อของชาวจีนที่ว่า “ไข่สีแดง” เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นอันเป็นมงคลเต็มไปด้วยความโชคดีและอบอวลความสุข

ตามประเพณีการเกิดของชาวจีน หากบ้านไหนมีเด็กแรกคลอด คนเป็นพ่อเป็นแม่จะต้มไข่ย้อมสีแดงนำมาแจกให้รับประทานกันในครอบครัวและญาติมิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยถ้าได้ลูกชายจะต้มไข่เป็นจำนวนเลขคู่และแต้มจุดสีดำเอาไว้ด้านบน ส่วนบ้านไหนได้ลูกผู้หญิงก็จะต้มไข่เป็นจำนวนเลขคี่ โดยไม่มีการแต้มจุดสีดำ

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่ออีกว่า การรับประทานไข่ต้มย้อมสีแดง เมื่อถึงวันครบรอบวันเกิด จะส่งผลให้เจ้าของวันเกิดมีอายุมั่นขวัญยืนสุขภาพแข็งแรง

ด้านพิธี “บายศรีสู่ขวัญ” ของประเทศไทย ประเพณีสำคัญของชาวอีสาน ที่จัดขึ้นในโอกาสมงคลหรือเพื่อเรียกขวัญให้กลับคืนมา หนึ่งในเครื่องประกอบพิธีที่ขาดไม่ได้ก็คือ “ไข่ต้ม”

อันเป็นสัญลักษณ์แทน “ขวัญ” หรือจิตวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งการที่ไข่เปรียบเสมือนขวัญ เพราะถูกห่อหุ้มไว้ภายใน โดยมีเปลือกไข่แทนร่างกายที่คอยปกป้อง

เมื่อพิธีเสร็จสิ้น หมอขวัญจะผ่าไข่ต้มออกเป็นสองซีกเพื่อตรวจดูสภาพไข่ หากไข่ขาวไข่แดงเต็มฟองและเรียบเสมอ เชื่อกันว่า ผู้รับขวัญจะมีชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากโรคภัย และจะกินไข่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการรับขวัญเข้าสู่ร่าง แต่หากไข่ไม่สมบูรณ์ หมอขวัญจะทำพิธีสะเดาะเคราะห์เพื่อเสริมกำลังใจ

ไข่ในพิธีบายศรี จึงเป็นตัวแทนแห่งขวัญ ความเป็นสิริมงคล และสายใยแห่งความเชื่อที่ถักทออยู่ในวัฒนธรรมอีสานมาอย่างยาวนาน

สำหรับทางตะวันตก ไข่ถือเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดและชีวิตใหม่ โดยเฉพาะในเทศกาล “อีสเตอร์” ซึ่งเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู เดิมที ไข่ไก่ ไข่เป็ด หรือไข่นกกะทา จะถูกแต้มสีแดงแทนเลือดของพระองค์ ก่อนพัฒนามาเป็นการตกแต่งไข่ด้วยสีสันและลวดลายต่างๆ ที่สวยงาม

แม้ปัจจุบันไข่อีสเตอร์จะมีหลายสี แต่บางประเทศในยุโรปยังคงรักษาธรรมเนียม “ย้อมไข่เป็นสีแดง” ตามความเชื่อดั้งเดิม สะท้อนถึงสายสัมพันธ์ระหว่างศาสนาและวัฒนธรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน

กลับมาที่บ้านเรา การแก้บนด้วยไข่ ในอีกอานิสงส์หนึ่งก็คือ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรมแล้ว ไข่ที่นำมาบวงสรวงเซ่นไหว้แก้บนนั้น ก็จะกลายเป็นอาหารสำหรับชาวบ้านและครอบครัวของเขา รวมไปถึงการส่งมอบไปยังสถาบันที่ดูแลผู้ป่วยโรคไต ซึ่งจำเป็นต้องใช้ “ไข่ขาว” มาทำอาหารในปริมาณมาก

เพราะไข่ขาวเป็นโปรตีนที่ดี มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน มีไขมันต่ำ และยังมีปริมาณสารอาหารต่าง ๆ ที่คนป่วยโรคไตจำเป็นต้องควบคุมในปริมาณที่ต่ำ เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ เป็นที่มาที่ไปของความเชื่อในศรัทธาที่เกี่ยวกับ “ไข่” และเหตุผลที่ทำไม “ไข่” จึงเป็นของแก้บนยอดฮิตนั่นเอง

#ไข่ #ไข่ต้ม #ไข่ต้มแก้บน #แก้บน #สายมู #ไข่สีแดง #ไข่อีสเตอร์ #พิธีกรรม #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ #เจริญกรุง

ในบรรดาผลไม้พื้นถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เชื่อว่าหลายคนคงจดจำได้ถึงความมีสองรสชาติเมื่อเราดื่มน้ำตามเข้าไป มาถึงตรงน...
18/02/2025

ในบรรดาผลไม้พื้นถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เชื่อว่าหลายคนคงจดจำได้ถึงความมีสองรสชาติเมื่อเราดื่มน้ำตามเข้าไป มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงถึงบางอ้อกันแล้วและคงเดาได้ไม่ยากว่าผลไม้นั้นคือ "มะขามป้อม"

"มะขามป้อม" เป็นไม้ยืนต้น ในวงศ์ Phyllanthaceae และเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากที่สุดกว่าผลไม้ชนิด อื่น หากพูดถึงความสำคัญของมะขามป้อม ก็คงหนีไม่พ้นดินแดนภารตวรรตหรืออินเดีย ที่ให้ความสำคัญอย่างมาก ในภาษาบาลีและสันสกฤต เรียกว่า "อมาลกะ" ชื่อนี้ยังถูกใช้เป็นชื่อเรียก เครื่องยอดของอาคารทรงสูงที่มีลักษณะกลม และยังมีวันหนึ่งในหนึ่งปีที่ใช้มะขามป้อมบูชาพระวิษณุ เรียกว่า "อมาลกะ เอกทศี"

แม้ในศาสนาพุทธก็มีเรื่องปรากฏใน "อโศกาวทาน" เมื่อช่วงท้ายพระชนมชีพของพระเจ้าอโศก และมีการกล่าวว่า ต้นมะขามป้อมเป็นต้นโพธิ์ของพระอดีตพุทธเจ้านามว่า "ปุสสะ"

มะขามป้อมไม่เพียงแต่มีสรรพคุณด้านสมุนไพรที่มากหลาย สามารถใช้ได้ทั้งต้น เปลือก ใบ และผล และยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้ เช่น น้ำพริก ยำ หรือต้มโพล้ง เป็นต้น ท่านผู้อ่านลองทำดู น่าจะได้เมนูใหม่ ๆ กระตุ้นลิ้นได้ทีเดียว

เรื่อง: วิทยทาส

#มะขามป้อม #อมาลกะ #ต้นโพธิ์ #ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
#คติความเชื่อ #พุทธศาสนา #ฮินดู #ศาสนา #เจริญกรุง

18/02/2025

EP.160 หลายชีวิต.... ตอน เจ้าลอย
#รวีโรจน์เล่าเรื่อง #ประวัติศาสตร์ #ประวัติศาสตร์ไทย

วันนี้ก็มีหลงมาอีก 🌧
18/02/2025

วันนี้ก็มีหลงมาอีก 🌧

เช้านี้สายฝนโปรยปรายเหนือน่านฟ้า กทม. ทำให้การจราจรช่วงเช้าติดขัดเป็นบริเวณกว้าง และหากใครไม่ได้ติดตามพยากรณ์อากาศก็คงไม่คาดคิดว่าจะมี "ฝนหลงฤดู" เกิดขึ้นในช่วงนี้

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าวันที่ ๑๒ - ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง และเตือนพื้นที่ ๑๔ จังหวัดภาคใต้ ว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อ่าวไทยคลื่นลมแรง ไทยตอนบนอากาศหนาวเย็น อีสานอุณหภูมิลด ๘ องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพฯ มีฝนร้อยละ ๑๐ ของพื้นที่

สาเหตุที่ทำให้เกิดฝนหลงฤดูมาจากหลายปัจจัย ได้แก่

⛈️การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งทำให้ระบบลมฟ้าอากาศไม่ปกติ

⛈️อิทธิพลของมรสุมที่ในบางกรณี มรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออาจพัดผ่านประเทศไทย ทำให้เกิดความชื้นสะสมและกลายเป็นฝน แม้ในฤดูหนาว

⛈️ผลของร่องความกดอากาศต่ำ เมื่อร่องความกดอากาศต่ำหรือระบบความกดอากาศเปลี่ยนแปลงในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดฝนตกได้

สาเหตุหลักที่กล่าวมานี้ มีข้อหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนที่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ฝนหลงฤดู จึงเป็นทั้งปรากฏการณ์ธรรมชาติและสัญญาณที่ควรเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในยุคที่สภาพอากาศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มนุษย์อย่างเราที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่กลับสร้างผลกระทบที่รุนแรงและสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศของโลกมากที่สุด ควรหันกลับมามองโลก มาสร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึก รวมถึงพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก่อนที่เราจะทำให้โลกใบนี้มีสภาพไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอีกต่อไป...

#ฝนหลงฤดู #สิ่งแวดล้อม #โลกร้อน #ภาวะโลกร้อน #รักษ์โลก #ฤดูกาล #เจริญกรุง

ความเชื่อเรื่อง "สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์" เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากศาสตร์ฮวงจุ้ยของจี...
17/02/2025

ความเชื่อเรื่อง "สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์" เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจากศาสตร์ฮวงจุ้ยของจีนและวัฒนธรรมพื้นบ้านของไทย สีเขียวมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญเติบโต และพลังงานเชิงบวก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับโชคลาภและความมั่งคั่ง

ในศาสตร์ฮวงจุ้ย สีเขียวเป็นตัวแทนของธาตุไม้ ซึ่งหมายถึงการเติบโตและความรุ่งเรือง ต้นไม้เป็นสิ่งที่ขยายตัวและแผ่กิ่งก้านสาขาออกไป เปรียบเสมือนธุรกิจหรือเงินทองที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ธาตุไม้ยังเกี่ยวข้องกับธาตุดินและธาตุทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและทรัพย์สิน ฮวงจุ้ยจึงมักแนะนำให้ใช้สีเขียวในบางจุดของบ้านหรือที่ทำงานเพื่อส่งเสริมพลังงานด้านบวกและการเงิน

นอกจากศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว คนไทยเองก็มีความเชื่อว่าสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ มองเห็นได้จากธรรมชาติรอบตัว เช่น ต้นไม้ ใบไม้ และพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งทำมาหากินของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโบราณ สีเขียวจึงถูกเชื่อมโยงกับความมั่งคั่งและความโชคดีในชีวิต

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สีเขียวถูกเชื่อมโยงกับเงินทองคือภาพลักษณ์ของธนบัตร ในบางประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ธนบัตรดอลลาร์ส่วนใหญ่มักเป็นสีเขียว ทำให้เกิดการรับรู้ว่าสีนี้เกี่ยวข้องกับความร่ำรวยและทรัพย์สิน

นอกจากนี้ ความเชื่อเรื่องวัตถุมงคลก็มีส่วนช่วยเสริมแนวคิดเรื่องสีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ วัตถุมงคลบางชนิด เช่น พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์สีเขียว หรือเครื่องรางที่ทำจากหยกสีเขียว มักถูกมองว่าเป็นสิ่งนำโชคและช่วยส่งเสริมด้านการเงิน บางคนเชื่อว่าการพกพาวัตถุมงคลที่มีสีเขียว หรือการสวมเสื้อผ้าสีเขียวในวันสำคัญ สามารถช่วยเรียกทรัพย์และเพิ่มพูนโชคลาภให้กับตนเอง

แม้ว่าความเชื่อเรื่อง "สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์" จะไม่ได้มีรากฐานทางศาสนาโดยตรง แต่ก็เป็นแนวคิดที่ผสมผสานกันระหว่างศาสตร์ฮวงจุ้ย วัฒนธรรมพื้นบ้าน และการรับรู้ทางสังคมเกี่ยวกับความมั่งคั่ง ในแง่ของจิตวิทยา สีเขียวให้ความรู้สึกสงบ สดชื่น และเต็มไปด้วยพลัง หากใช้เป็นแนวทางในการเสริมกำลังใจหรือปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ก็อาจช่วยกระตุ้นโชคลาภและความสำเร็จได้ตามความเชื่อส่วนบุคคล

#สีเขียว #สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ #ความเชื่อ #สิริมงคล #เจริญกรุง

17/02/2025

EP.159 จดหมายเหตุราชการทัพเวียงจันทน์ ตอนที่ ๘
#รวีโรจน์เล่าเรื่อง #ประวัติศาสตร์ #ประวัติศาสตร์ไทย

ความล้มเหลวของนโยบาย “วันกอดวัว” ภาพสะท้อนที่ “รัฐบาลอินเดีย” และ “ชาวฮินดู” ต้องคิด วัวมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮิ...
17/02/2025

ความล้มเหลวของนโยบาย “วันกอดวัว”
ภาพสะท้อนที่ “รัฐบาลอินเดีย” และ “ชาวฮินดู” ต้องคิด

วัวมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮินดูมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่เป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยในการเกษตรและให้ผลผลิต เช่น น้ำนม ซึ่งสามารถนำไปใช้ในพิธีกรรมและการบริโภคในหลายรูปแบบแล้ว วัวยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ในศาสนาฮินดู โดยเทพีแห่งแผ่นดิน “พระแม่ปฤถิวี” ที่ได้มีการกล่าวถึงรูปลักษณ์ว่าเป็นวัว (พระพักตร์เป็นวัว ร่างกายเป็นมนุษย์ และสามารถแปลงกายเป็นวัวได้) อันปรากฎขึ้นในความตอนหนึ่งของวรรณคดีพระเวท หรือ “ฤคเวท”

ชาวฮินดูที่ประกอบอาชีพ ซึ่งต้องอาศัยผืนดิน จึงมีประเพณีสืบทอดต่อกันมาว่า ต้องประกอบพิธีบูชาพระแม่ปฤถิวีอยู่เสมอ โดยเครื่องสังเวยก็มีข้าว ผลไม้ และน้ำนมสด เช่นเดียวกับเทพองค์อื่นๆ แต่จะวางสิ่งเหล่านี้เอาไว้กับพื้นดิน และของเหลวเช่น น้ำนมสด ก็จะโปรยหรือเทลงบนพื้นดินนั้นเลย เพื่อบูชาเทพองค์นี้

และอีกหนึ่งในวัวสำคัญตามตำนานฮินดู ก็คือ “กามเธนุ” หรือ “สุรภี” ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์กวนเกษียรสมุทร อันเป็นพิธีกรรมที่เหล่าเทพและอสูรร่วมกันกวนทะเลน้ำนมเพื่อให้ได้น้ำอมฤต ในระหว่างกระบวนการนี้ สิ่งวิเศษหลายอย่างได้ปรากฏขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กามเธนุ ซึ่งเป็นวัวศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถให้ผลผลิตได้ไม่มีที่สิ้นสุด พระพรหมจึงมอบให้เหล่าฤๅษีเพื่อนำน้ำนมไปใช้ในพิธีบูชาไฟ

ส่วนวัวศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งคือ “นนทิ” (Nandi) วัวเผือกที่เป็นพาหนะของพระศิวะ เทพสูงสุดองค์หนึ่งของศาสนาฮินดู รูปปั้นของนนทิสามารถพบได้ในศาสนสถานของพระศิวะทั่วอินเดีย รวมถึงที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้าในประเทศไทย

ในอีกทางหนึ่ง พระกฤษณะ ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระวิษณุ ก็มีความผูกพันกับวัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ เนื่องจากทรงเติบโตมาในชุมชนเลี้ยงวัว และมีพระนามว่า “โควินทะ” (Govinda) แปลว่า “เป็นที่รักของวัว” และ “โคปาละ” (Gopala) แปลว่า “ผู้ดูแลวัว” คำว่า “โคบาล” ในภาษาไทยก็มาจากแนวคิดนี้ ซึ่งเป็นการพยายามออกเสียงให้ใกล้เคียงกับคำว่า cowboy ในภาษาอังกฤษ อันเป็นความหมายเดียวกัน

นี่เป็นความเชื่อเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีความผูกพันทางพฤตินัย และความสัมพันธ์ทางศาสนาอีกมากที่ส่งผลให้ชาวฮินดูส่วนใหญ่ใน “ประเทศอินเดีย” นับถือ “วัว” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และให้ความเคารพนับถือ ในรูปแบบของ “วัฒนธรรมแห่งความศรัทธา” กระนั้น นโยบายการบริหารจัดการทางวัฒนธรรมของรัฐบาลอินเดีย ก็ยัง “ไม่คม” พอที่จะผลักดัน “เครื่องมือ” นี้ สำหรับการป้องกันค่านิยมทางวัฒนธรรมแบบตะวันตก อันสะท้อนผ่าน “เทศกาลวาเลนไทน์” ที่ล้นเข้ามาสร้าง “กระแสพฤติกรรมแบบสมัยนิยม" ให้เกิดขึ้นในสังคมอินเดีย ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะพื้นที่ของคนหนุ่มสาว

โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2566 คณะกรรมการด้านสวัสดิภาพสัตว์ของรัฐบาลอินเดีย (Ministry of Fisheries, Animal Husbandry and Dairying) ได้เสนอให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ เปลี่ยนเป็น “วันกอดวัว” (Cow Hug Day) โดยให้เหตุผลว่า วัวเป็นกระดูกสันหลังของวัฒนธรรมอินเดีย และเศรษฐกิจชนบท อีกทั้งยังเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ฝังรากลึกในจิตวิญญาณของชาวฮินดู

“เมื่อวันเวลาผ่านไป ขนบพระเวทเกือบจะสูญพันธุ์เนื่องจากความก้าวหน้าของวัฒนธรรม (ตะวันตก) ฉะนั้นแล้ว ความตื่นตาตื่นใจของอารยธรรมตะวันตก ทำให้วัฒนธรรมทางกายภาพและมรดกของเราเกือบถูกลืม” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ เหตุผลที่ต้องมี “วันกอดวัว”

อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวกลับได้รับเสียงตอบรับในเชิงขบขันมากกว่าการสนับสนุน กลายเป็นกระแสล้อเลียนในสื่อและโลกออนไลน์ จนสุดท้ายแนวคิดนี้ต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยาย

เหตุการณ์นี้ กลายเป็นข่าวขบขันที่ทั่วโลกนำออกมาสื่อสารบนโลกออนไลน์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่สำหรับรัฐบาลอินเดีย และกลุ่มชาวฮินดูที่มีกว่า 80% ของประชากรทั้งหมดในประเทศอินเดีย คงต้องตั้งคำถามถึง “อนาคต” ของ “วัฒนธรรมแห่งความศรัทธา” บนวิถีทางแห่งยุคสมัยที่เคลื่อนไปอย่างรวดเร็วนั้น ว่าจะสามารถรักษาการ “คงอยู่” ได้มากน้อยแค่ไหน ในเวลาที่ต้อง “ส่งต่อ” ไปยังคนรุ่นต่อไป

ความล้มเหลวของ “วันกอดวัว” จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า ปัญหาอยู่ที่นโยบาย “การบริหารจัดการ” ดำเนินไปไม่ถูกทาง มีความเป็น “ชาตินิยม” มากเกินไป หรือ วิถีของ “สังคมยุคใหม่” พาเราให้ห่างออกไปจากความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม จนยากที่จะพากลับมาได้กันแน่?

#วันกอดวัน #อินเดีย #ฮินดู #วัว #วัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #วาเลนไทน์ #วันแห่งความรัก #ตะวันตก #ชาตินิยม #พหุวัฒนธรรม #การบริหารจัดการทางวัฒนธรรม

วันนี้ราคาทองพุ่งไปสูงกว่าสี่หมื่นบาทแล้ว แต่ทองยังคงเป็นโลหะเลอค่าที่หลายคนยังยอมเสียสตางค์ซื้อเพื่อครอบครองทองซักสลึง ...
17/02/2025

วันนี้ราคาทองพุ่งไปสูงกว่าสี่หมื่นบาทแล้ว แต่ทองยังคงเป็นโลหะเลอค่าที่หลายคนยังยอมเสียสตางค์ซื้อเพื่อครอบครองทองซักสลึง แม้ในสำนวนไทยยังนิยมพูดเล่นกันว่า "มีเงินเป็นน้อง มีทองเป็นพี่" วันนี้เพจเจริญกรุง เลยจะมา "แจกทอง" คือ แจกเรื่องราวเกี่ยวกับทองให้ท่านผู้ติดตามได้อ่านกัน เพราะเราเชื่อว่า ความรู้ก็คือทรัพย์สมบัติที่มีค่า มีความรู้ประดับสมอง เหมือนมีทองประดับกายเช่นกัน!!

"ทอง" มิใช่เพียงโลหะมีค่า หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง อำนาจ และสิริมงคลที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน คนไทยเชื่อว่าทองเป็นของสูงค่า ใครครอบครองทองเปรียบเสมือนมีทรัพย์สมบัติติดตัว การมอบทองเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ เช่น วันแต่งงาน วันเกิด หรือขึ้นบ้านใหม่ เปรียบเสมือนคำอวยพรให้ผู้รับมีความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงตลอดไป

ทอง เป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ คำว่า "สุวรรณภูมิ" ซึ่งหมายถึง "แผ่นดินทอง" ปรากฏในบันทึกโบราณ และเชื่อกันว่าเป็นอาณาจักรสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงดินแดนไทย การใช้คำว่าทองหรือคำที่สื่อถึงทอง มาใช้ตั้งชื่อสถานที่ ชื่อบุคคล ชื่อสิ่งของหรือแม้แต่พืชพรรณธัญญาหารต่าง ๆ ก็ถือเป็นมงคลเช่นกัน

ในคติความเชื่อชาวไทย ทองเป็นสิ่งที่แสดงถึงความศรัทธาและความเป็นสิริมงคล การปิดทองพระพุทธรูปเป็นการเสริมบุญบารมี พระแก้วมรกตซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญของไทย มีเครื่องทรงที่ทำจากทองคำแท้และเปลี่ยนตามฤดูกาล หรือพระมหาเจดีย์และวัดสำคัญ เช่น พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) หรือตู้เก็บพระไตรปิฎก ต่างได้รับการประดับตกแต่งด้วยทองคำแท้เป็นพุทธบูชา เพื่อแสดงถึงความศรัทธาที่จะถวายสิ่งของมีค่าสูงสุดให้แก่พระศาสนา

ความเชื่อเกี่ยวกับทองยังเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม เครื่องราง และไสยศาสตร์ ก็มีเช่นกัน คนไทยนิยมใช้ทองเป็นส่วนประกอบของเครื่องรางเพื่อความคุ้มครองและเสริมโชคลาภ เช่น ตะกรุดทองคำ แหวนทอง หรือผ้ายันต์ลงทอง นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองโดยตรง เช่น "นะหน้าทอง" ซึ่งเป็นการลงแผ่นทองคำเปลวบนใบหน้าตามตำแหน่งที่กำหนด เชื่อกันว่าช่วยเสริมเสน่ห์ โชคลาภ และเมตตามหานิยม

ในงานศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมไทย ทองเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนถึงความวิจิตรบรรจงและอำนาจ งานหัตถศิลป์ เช่น ลายรดน้ำและเครื่องทองลงยา เป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมไทย จิตรกรรมฝาผนังรูปพระพุทธเจ้ามักจะระบายด้วยสีทอง หรือพระพุทธรูปก็มักหล่อด้วยทอง เครื่องใช้ในราชสำนัก โดยเฉพาะของกษัตริย์ เช่น เครื่องราชกกุธภัณฑ์ หรือของใช้ส่วนพระองค์อื่น ๆ รวมถึงพระราชวังที่ประทับ ล้วนได้รับการตกแต่งด้วยทองคำแท้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์

ในงานมงคล เช่น พิธีแต่งงาน ต้องมีการวาง "สินสอดทองหมั้น" เพื่อแสดงความจริงใจต่อกัน เพราะทองนับว่าเป็นของล้ำค่าที่สุดที่จะหามาได้ นอกจากนี้ "สีทอง" ยังเป็นสีมงคล และสีที่สวยงาม คนโบราณมักนำขมิ้นชันมาประทินผิว เพื่อทำให้ผิวผ่องดั่งทองคำ นอกจากนี้ การสวมใส่ทองเป็นเครื่องประดับ แม้แต่สวมเสื้อผ้าสีทองในวันเกิดและวันมงคล ก็เชื่อว่าเพื่อเสริมบารมีและความรุ่งเรืองให้แก่ผู้นั้น ซึ่งเป็นรสนิยมความงามที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน

ทองยังมีบทบาทในอาหารไทย ขนมไทยหลายชนิดมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับทอง เช่น "ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง" ซึ่งนิยมใช้ในงานมงคลเพื่อสื่อถึงความมั่งคั่งและโชคลาภอีกด้วย

ทองจึงมิใช่เพียงแค่ทรัพย์สิน แต่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทรงค่าที่สุด ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ความรุ่งเรือง และสิริมงคลที่ฝังรากลึกอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย ที่เชื่อว่าจะนำพาความเจริญ โชคลาภ และอำนาจมาสู่ผู้ครอบครองและผู้ศรัทธาเสมอ

#ทองคำ #ทอง #สิริมงคล #เครื่องประดับ #สุวรรณภูมิ #วิถีชีวิต #สังคมวัฒนธรรมไทย #เจริญกรุง

สมธรรม 4 ประการ : หลักแห่งการครองรักยืนยงชีวิตสมรสที่มั่นคงและมีความสุขนั้น จำเป็นต้องมีความเข้าใจและคุณธรรมร่วมกัน พระพ...
16/02/2025

สมธรรม 4 ประการ : หลักแห่งการครองรักยืนยง

ชีวิตสมรสที่มั่นคงและมีความสุขนั้น จำเป็นต้องมีความเข้าใจและคุณธรรมร่วมกัน พระพุทธศาสนาได้สอนหลัก “สมธรรม 4 ประการ” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตคู่ อันได้แก่

1. สมศรัทธา – การมีความเชื่อและค่านิยมที่ตรงกัน

ศรัทธา คือ ความเชื่อ ความเลื่อมใส หรือ ความใฝ่นิยมในสิ่งดีงาม เช่น ศาสนา ค่านิยม หรือเป้าหมายในชีวิต คู่ครองที่มีศรัทธาสอดคล้องกัน จะช่วยให้ชีวิตคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นและเข้าใจกันง่ายขึ้น

2. สมศีลา – มีศีลหรือความประพฤติที่เข้ากันได้

การดำเนินชีวิตร่วมกัน ต้องอาศัยความเคารพและยอมรับพฤติกรรมของกันและกัน หากฝ่ายหนึ่งประพฤติดี แต่อีกฝ่ายละเลยศีลธรรม อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง การมีศีลเสมอกัน จึงช่วยลดปัญหาตามที่กล่าวมา และเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจต่อกัน เพื่อให้เกิดการวิวัฒน์ไปในทางที่เห็นพ้องยิ่งขึ้น

3. สมจาคา – มีน้ำใจและความเสียสละต่อกัน

ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคู่ หากฝ่ายหนึ่งใจกว้าง มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเกื้อกูล แต่อีกฝ่ายใจแคบ ตระหนี่ คิดเล็กคิดน้อย ย่อมเกิดความขัดแย้ง กระทบกระทั่ง หรือกระทบกระเทือนจิตใจต่อกันได้ การให้และรับอย่างสมดุล ทำให้ชีวิตคู่ย่อมเต็มไปด้วยความอบอุ่น

4. สมปัญญา – มีสติปัญญาและเข้าใจกัน

ปัญญาไม่ได้หมายถึงความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่รวมถึงการรู้จักเหตุผล เข้าใจซึ่งกันและกัน และสามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกัน เมื่อพูดคุยกันรู้เรื่อง และช่วยแก้ปัญหาร่วมกัน ชีวิตคู่ก็จะราบรื่นและมั่นคง ไม่ว่าอุปสรรคอันใดบังเกิดขึ้นมา ก็จะร่วมหาทางก้าวข้าม หรือประคับประคองกันและกัน ให้เคลื่อนผ่านไปได้โดยไม่ลดทอนคุณค่าทางความสัมพันธ์ระหว่างกัน

พระพุทธเจ้าตรัสว่า คู่ครองที่มีสมธรรม 4 ประการนี้ จะได้อยู่ร่วมกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ความเข้าใจและการปรับตัวให้สอดคล้องกัน จึงเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตคู่ที่ยั่งยืน

#พุทธศาสนา #ความรัก #สมธรรม4ประการ #หลักธรรมแห่งการครองคู่ #หลักธรรมสำหรับคู่สมรส #สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ #เจริญกรุง

๓๖๗ ปี แห่งพระเกียรติ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทุกเดือนกุมภาพันธ์ เมืองลพบุรีจะกลับมามีชีวิตชีวาราวกับย้อนเวลากลับไปในสมัยอ...
15/02/2025

๓๖๗ ปี แห่งพระเกียรติ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ทุกเดือนกุมภาพันธ์ เมืองลพบุรีจะกลับมามีชีวิตชีวาราวกับย้อนเวลากลับไปในสมัยอยุธยา กับ "งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช" งานประเพณีสำคัญยิ่งใหญ่ประจำปีที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์ผู้ทรงนำความรุ่งเรืองมาสู่กรุงศรีอยุธยาและเมืองลพบุรี

ในปี ๒๕๖๘ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔-๒๓ กุมภาพันธ์ ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ใกล้เคียง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์

ไฮไลต์ของงานคือ ขบวนแห่เทิดพระเกียรติ ที่จำลองบรรยากาศยุคสมเด็จพระนารายณ์ ทั้งข้าราชบริพาร ขุนนาง และประชาชนในชุดไทยโบราณ นอกจากนี้ยังมีตลาดย้อนยุคที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นบ้าน งานหัตถกรรม และการละเล่นแบบไทย

อีกหนึ่งไฮไลต์คือ การแสดงแสง สี เสียง ที่บอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ ตั้งแต่การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับชาติตะวันตก การส่งคณะราชทูตไปฝรั่งเศส ไปจนถึงการพัฒนาเมืองลพบุรีให้เป็นศูนย์กลางการปกครองแห่งใหม่ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้เห็น

นอกจากความสนุกสนานและความงดงามของประเพณี งานนี้ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งชุดไทยร่วมงาน การเดินชมพระราชวังโบราณ หรือแม้แต่การลองชิมอาหารตำรับโบราณที่หาทานได้ยาก เป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญที่ไม่ควรพลาด

ที่มาภาพ: เพจ งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

#งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ #ลพบุรี #เทศกาล #วัฒนธรรมไทย #เจริญกรุง #กรุงศรีอยุธยา #กรุงละโว้ #วังนารายณ์ #พระนารายณ์ราชนิเวศน์

📌 ขออนุญาตแจ้งว่า วันนี้ เวลา 20.00 น. งดรายการ "สามก๊ก ตั้งวงเล่า By อ.เป๋ง" นะครับกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เสาร์ที่ 22 ก...
15/02/2025

📌 ขออนุญาตแจ้งว่า วันนี้ เวลา 20.00 น.
งดรายการ "สามก๊ก ตั้งวงเล่า By อ.เป๋ง" นะครับ

กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
เสาร์ที่ 22 ก.พ. เวลาเดิม 20.00 น.
กับ EP.14 ใคร คือ "จอมหักหลัง" แห่งสามก๊ก

ขอบคุณ และขออภัยในความขัดข้อง 🙏

เยือนโบราณสถาน สำราญกายา “จิตกร บุษบา” พาเที่ยว ปราจีนบุรีเสาร์ที่ ๒๒ - อาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ นี้ 👉 ราคา ๘,๐๐๐ บาท✅ ว...
15/02/2025

เยือนโบราณสถาน สำราญกายา “จิตกร บุษบา” พาเที่ยว ปราจีนบุรี
เสาร์ที่ ๒๒ - อาทิตย์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ นี้
👉 ราคา ๘,๐๐๐ บาท
✅ วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์
✅ โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ
✅ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
✅ วัดแจ้ง
✅ พิพิธภัณฑ์อภัยภูเบศร
✅ วัดแก้วพิจิตร
✅ บริการนวดแผนไทย อภัยภูเบศรเดย์สปา
✅ เข้าพัก ณ ภูมิภูเบศร
มาร่วมเรียนรู้ดูชม ตื่นตาตื่นใจ พร้อมไปกับการดูแลสุขภาพกาย และใจ กับ #เจริญกรุง
โทร. ๐๘๙-๖๗๘-๑๐๑๓ คุณติ่ง
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม และโปรแกรมการเดินทางฉบับเต็ม 👇 แนบไว้ตรงช่องแสดงความคิดเห็น
ขอขอบคุณทุกๆ ความสนใจ 🙏

ขอเชิญชวนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ “อนัตตา-สุญญตา สายธารแห่งความรู้แจ้ง” #โครงการแลกเปลี่ยนพ...
15/02/2025

ขอเชิญชวนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ “อนัตตา-สุญญตา สายธารแห่งความรู้แจ้ง”

#โครงการแลกเปลี่ยนพระภิกษุบาลีสันสกฤต ปีที่ ๓/๒๕๖๘ ณ ห้องประชุมใหญ่ โรงเรียนสามัคคีวิทยาทาน วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เชียงใหม่
๑ มีนาคม ๒๕๖๘

รายละเอียดเพิ่มเติมในลิงก์ 🙏🙏🙏

กำหนดการงานเสวนาวิชาการหัวข้อ
“อนัตตา-สุญญตา สายธารแห่งความรู้แจ้ง”

#โครงการแลกเปลี่ยนพระภิกษุบาลีสันสกฤต ปีที่ ๓/๒๕๖๘
ณ ห้องประชุมใหญ่ โรงเรียนสามัคคีวิทยาทาน วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เชียงใหม่
๑ มีนาคม ๒๕๖๘
เวลา ๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.

๐๘.๓๐ น. ลงทะเบียนร่วมกิจกรรม
๐๙.๐๐ น. พิธีสาธยายธรรมบูชา-เปิดเวทีเสวนาสองสายธรรม
๐๙.๑๕ น. เวทีเสวนาหัวข้อ “อนัตตา-สุญญตา สายธารแห่งความรู้แจ้ง”
โดย คณะพระภิกษุบาลี-สันสกฤต ปีที่ ๓/๒๕๖๘
๑๑.๓๐ น. พักฉันเพล/รับประทานอาหารกลางวัน
๑๓.๐๐ น. แนะนำการโต้วาทีธรรม(Debate) โดย พระเถระชาวทิเบต
๑๓.๓๐ น กิจกรรมภาวนา “ศิลปะแห่งการภาวนา: เพื่อความรู้แจ้ง” (Workshop)
โดย พระเถระชาวทิเบต
๑๕.๐๐ น. พัก ๓๐ นาที
๑๕.๓๐ น. เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การภาวนาว่าด้วยอนัตตา-สุญญตา (Q&A)
๑๖.๓๐ น. พิธีสาธยายธรรมบูชา-ปิดเวทีเสวนาสองสายธรรม

เวทีแลกเปลี่ยนของตัวแทนพระภิกษุไทยสายธรรมบาลี และพระธิเบตสายธรรมสันสกฤต ว่าด้วยหลักอนัตตาและสุญญตา ในคัมภีร์และวิถีปฏิบัติ จากทั้ง ๒ สายธรรม

*สถานที่มีจำกัด ผู้เข้าร่วมกรุณาลงทะเบียนที่ลิงค์นี้ได้เลย https://forms.gle/b2BtpUCWoR9xvJRL7

✨คำขยาย✨
มักมีคำกล่าวว่า อนัตตา ในสายธรรมบาลีนั้นมุ่งไปที่การหลุดพ้นส่วนตน ในขณะที่
สุญญตาในสายธรรมสันสกฤตนั้น มองไปถึงความไม่มีแก่นสารของปรากฏการณ์ทั้งปวง คุณคิดเห็นอย่างไร กับคำกล่าวนี้

เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราพบอะไร? และการเข้าใจความจริงของทั้งสองมิตินี้จะมีประโยชน์ต่อเราอย่างไร?

🙏ข้อมูลโครงการ 🙏
โครงการแลกเปลี่ยนพระภิกษุนานาชาติ บาลี-สันสกฤต ( Pali-Sanskrit International Bhikkhu Exchange Program ) เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างพระสงฆ์จากสายธรรมบาลีและสันสกฤต เปิดพื้นที่แก่ภิกษุสงฆ์จากสองสายธรรม (ทิเบต-อินเดีย, ไทย, ศรีลังกา) ให้ได้เข้าร่วมศึกษาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ร่วมปฏิบัติธรรม และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันผ่านเวทีเสวนาวิชาการของแต่ละประเทศ

ร่วมสมทบกองทุนโครงการแลกเปลี่ยนพระภิกษุ-บาลีสันสกฤตได้ที่
🌸บัญชี : 🌸
มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
เลขที่บัญชี : 200-015413-0
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน)

ผ่านปีใหม่สากลและปีใหม่จีนมาไม่นาน หลายคนคิดจะจัดบ้าน เราเลยไปค้นศาสตร์เกี่ยวกับ "ฮวงจุ้ย" มากฝากฮวงจุ้ย (風水, Fēng Shuǐ)...
14/02/2025

ผ่านปีใหม่สากลและปีใหม่จีนมาไม่นาน หลายคนคิดจะจัดบ้าน เราเลยไปค้นศาสตร์เกี่ยวกับ "ฮวงจุ้ย" มากฝาก

ฮวงจุ้ย (風水, Fēng Shuǐ) เป็นศาสตร์จีนโบราณที่เกี่ยวข้องกับการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความสมดุลและพลังบวก คนจีนเชื่อในฮวงจุ้ยด้วยเหตุผลหลายประการที่มีทั้งด้านปรัชญา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม

✨️รากฐานจากปรัชญาเต๋าและหลักสมดุลของธรรมชาติ✨️

ฮวงจุ้ยมีรากฐานจากแนวคิด หยิน-หยาง (陰陽) ซึ่งเป็นหลักของสมดุลในธรรมชาติ หยินเป็นพลังสงบ (ดิน น้ำ ความมืด) ส่วนหยางเป็นพลังเคลื่อนไหว (ไฟ ลม แสง) หากสิ่งแวดล้อมขาดความสมดุล จะส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่

นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ ธาตุทั้งห้า (五行, อู่สิง) ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ ซึ่งเชื่อว่าทุกสิ่งในโลกล้วนมีธาตุเหล่านี้อยู่ หากจัดบ้านหรือที่ทำงานให้สมดุลกับธาตุ จะช่วยให้ชีวิตราบรื่น

✨️หลักการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา✨️

แม้ฮวงจุ้ยจะเป็นศาสตร์โบราณ แต่บางหลักการสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เช่น
• การจัดบ้านให้โปร่งและมีอากาศถ่ายเท สอดคล้องกับหลักสุขอนามัยที่ช่วยลดฝุ่นและเชื้อโรค
• แสงธรรมชาติและสีมงคล มีผลต่ออารมณ์และสุขภาพจิต เช่น สีแดงกระตุ้นพลังงาน สีฟ้าสร้างความสงบ
• การเลี่ยงมุมแหลมและของแตกหัก เป็นเรื่องของจิตวิทยาสิ่งแวดล้อม เพราะของเหล่านี้สร้างความรู้สึกกดดันโดยไม่รู้ตัว

✨️ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน✨️

ฮวงจุ้ยมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมจีนมายาวนาน เช่น การสร้างพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง และเมืองซีอานซึ่งถูกวางผังเมืองตามหลักฮวงจุ้ย ฮ่องเต้และชนชั้นสูงให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยในการเลือกทำเลที่ตั้งของวัง สุสาน และบ้านเรือน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์

✨️ความเชื่อมโยงกับโชคลาภและความสำเร็จ✨️

คนจีนเชื่อว่าฮวงจุ้ยมีผลต่อความมั่งคั่งและโอกาสในชีวิต ธุรกิจจีนหลายแห่งจึงปรับแต่งสถานที่ทำงานตามหลักฮวงจุ้ย เช่น
• บริษัทขนาดใหญ่ในฮ่องกงและสิงคโปร์ มักปรึกษาซินแสก่อนสร้างอาคาร
• เจ้าของร้านค้าเลือกสีมงคลและตำแหน่งวางเคาน์เตอร์เก็บเงินเพื่อเรียกลูกค้า

✨️อิทธิพลของครอบครัวและสังคม✨️

การเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยถูกปลูกฝังในครอบครัวจีนมาหลายชั่วอายุคน พ่อแม่มักสอนลูกหลานให้เคารพธรรมชาติและจัดสิ่งแวดล้อมให้ดีเพื่อความเป็นสิริมงคล แม้ว่าคนรุ่นใหม่บางส่วนจะไม่เชื่อ ๑๐๐% แต่หลายคนก็ยังทำตามเพราะ "ทำแล้วสบายใจ" และไม่อยากเสี่ยงกับสิ่งไม่ดี

สรุปแล้วความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยของคนจีนมีรากฐานมาจากปรัชญาโบราณ หลักวิทยาศาสตร์ จิตวิทยา และประสบการณ์ที่สืบทอดกันมายาวนาน แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ทั้งหมด แต่หลายแนวคิดก็ช่วยให้ชีวิตเป็นระเบียบ มีสมดุล และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ปฏิบัติตาม

#ฮวงจุ้ย #จัดบ้าน #วัฒนธรรมจีน #ความเชื่อ

14/02/2025

EP.158 จดหมายเหตุราชการทัพเวียงจันทน์ ตอนที่ ๗
#รวีโรจน์เล่าเรื่อง #ประวัติศาสตร์ #ประวัติศาสตร์ไทย

ในบรรดาพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่เรารู้จักกันดี นั้นก็คือพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์หรือพระกวนอิม 觀世音菩薩 ว่ากันตามตรงแล้วทรงเก...
14/02/2025

ในบรรดาพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่เรารู้จักกันดี นั้นก็คือพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์หรือพระกวนอิม 觀世音菩薩 ว่ากันตามตรงแล้วทรงเกี่ยวข้องความรักด้วยเช่นกัน แต่ความรักของพระองค์คือความรักของพระพุทธองค์ ที่มีต่อสรรพสัตว์ ใช่แล้ว พระองค์เป็นภาคสำแดงความรักคือความเมตตาและกรุณาของพระพุทธเจ้าทั้งปวง

ในพุทธศาสนาไม่ได้ปฏิเสธความรักอย่างกามะ แต่ก็มิได้ยกไว้ว่าเป็นสิ่งที่ควรไขว้คว้า พระพุทธเจ้าเองยังทรงวางแนวทางการครองรักอย่างถูกต้องไว้ด้วย ในนิกายมหายานความรักที่ปราศจากการผูกมัด คือการประกอบด้วยพรหมวิหารธรรมทั้ง ๔ เป็นสิ่งที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายพึงกระทำ พระอวโลกิเตศวรผู้เป็นตัวแทนแห่งกรุณา ทรงมีความรักอย่างไม่ยึดติดหรือเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ถือตัวบุคคล หรือเพศสภาพ เพราะพระธรรมก็ไม่กีดขวางบุคคลและเพศสภาพเช่นกัน

ในตำนานกล่าวว่าทรงดื่มพิษจากอกุศลมูลจนมีพระศอสีดำ นั้นก็เป็นการเปรียบเปรยถึงความรักที่ทรงมีให้โลกและโอบอุ้มความทุกข์ของสรรพสัตว์เอาไว้ ช่วยเหลือให้สัตว์ทั้งหลายปลอดภัย จึงมีพระนามว่า อภยังกร อีกด้วย

ขอความแผ่ซ่านของกรุณาจงมีแด่โลก

สุขสันต์วันแห่งความรัก

เรื่อง: วิทยทาส

#ความรัก #เมตตากรุณา #พุทธศาสนา #มหายาน #กวนอิม #พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร

ความรักและการหาคู่ครอง เป็นสิ่งที่หลายคนแสวงหา ในคติจีนก็มีตำนาน เรื่องเล่า และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความรักและการถามหาคู่...
14/02/2025

ความรักและการหาคู่ครอง เป็นสิ่งที่หลายคนแสวงหา ในคติจีนก็มีตำนาน เรื่องเล่า และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความรักและการถามหาคู่จากเทพเจ้าเช่นกัน

ชาวจีนเชื่อว่าเทพเฒ่าจันทรา หรือ เย่ว์เหล่า 月老 เป็นเทพเจ้าแห่งความรักและการแต่งงานในตำนานจีน เชื่อกันว่าท่านเป็นผู้กำหนดคู่แท้ของมนุษย์โดยใช้ ด้ายแดงแห่งโชคชะตา 红线 ผูกโยงชายหญิงที่ถูกกำหนดให้เป็นเนื้อคู่กัน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ไกลกันแค่ไหน สักวันหนึ่งโชคชะตาจะนำพาให้พบกัน

การไหว้เทพเฒ่าจันทราพร้อมผูกด้ายแดงเป็นพิธีกรรมที่ได้รับความนิยม หากมีศรัทธาและเปิดใจเชื่อมั่น คู่แท้ย่อมมาพบกันตามโชคชะตา

ความเชื่อเรื่องด้ายแดง
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา เป็นสัญลักษณ์ที่สืบทอดกันมาในวัฒนธรรมจีน เชื่อว่าคู่แท้ของแต่ละคนถูกเทพเฒ่าจันทราผูกด้ายแดงโยงเข้าหากัน แม้ว่าพวกเขาจะเกิดมาในสถานที่และช่วงเวลาที่แตกต่างกันก็ตาม

วิธีผูกด้ายแดงขอคู่จากเทพเฒ่าจันทรา

เตรียมของไหว้
• ธูป ๙ ดอก
• เทียนแดง ๑ คู่
• น้ำชา หรือ เหล้าจีน
• ผลไม้มงคล (เช่น แอปเปิล ทับทิม หรือส้ม)
• ขนมเปี๊ยะ หรือขนมที่มีความหมายดีเกี่ยวกับความรัก
• ด้ายแดง หรือ ริบบิ้นสีแดง

วิธีไหว้เทพเฒ่าจันทรา
• จุดธูป ๓ หรือ ๙ ดอก และตั้งจิตอธิษฐาน
• กล่าวชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิดของตนเอง
• ขอพรให้พบคู่แท้ที่ดีและเหมาะสมกับตน

คำขอพรจีน
愿月老赐我良缘,与我有缘人相识相守,携手共度一生。

ย่วน เยว่ เหล่า ซื้อ หว่อ เหลียง หยวน,
หยู่ หว่อ โหย่ว หยวน เหริน เซียง สือ เซียง โส่ว,
เสีย โส่ว ก้ง ตู้ อี เซิง

คำแปล:
“ขอให้เทพเฒ่าจันทราประทานพรให้ข้าพเจ้าพบคู่แท้ ได้เจอคนที่มีวาสนาต่อกัน และได้ใช้ชีวิตร่วมกันตราบชั่วชีวิต”

วิธีผูกด้ายแดง
✅ หากต้องการพบคู่แท้
• นำด้ายแดง ผูกที่ข้อมือซ้าย หรือ
• พกด้ายแดงไว้ใน กระเป๋าสตางค์
✅ หากมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
• ใช้ด้ายแดง ๒ เส้น ผูกเข้าด้วยกันเป็นปมเล็ก ๆ
• หรือพกด้ายแดงไว้ ใต้หมอน
✅ หากต้องการให้ความรักมั่นคง
• ใช้ด้ายแดงพันรอบ นิ้วก้อยซ้าย แล้วอธิษฐาน
• เก็บด้ายแดงไว้ในที่สำคัญ เช่น กล่องเครื่องประดับ

ข้อควรระวัง
❌ ห้ามระบุชื่อบุคคล ที่ต้องการให้เป็นคู่ เพราะถือว่าเป็นการฝืนโชคชะตา
❌ ต้องเปิดใจรับโชคชะตา และไม่เร่งรัดความรัก
❌ เมื่อสมหวังแล้ว ควรนำของไหว้ไป ขอบคุณเทพเฒ่าจันทรา

ในกรุงเทพมหานคร มีสถานที่ที่สามารถสักการะ เทพเฒ่าจันทรา (เย่ว์เหล่า) เพื่อขอพรด้านความรัก คือ

วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)
• ที่ตั้ง: ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
• รายละเอียด: ภายในวัดมีการประดิษฐานเทพเจ้าเย่ว์เหล่าอยู่บริเวณด้านขวามือขององค์พระประธาน แม้จะไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ผู้ศรัทธาสามารถสักการะและขอพรด้านความรักได้ที่นี่
• การเดินทาง: สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ลงสถานีวัดมังกร ทางออกที่ ๓ แล้วเดินต่อประมาณ ๕๐ เมตร

การสักการะเทพเฒ่าจันทราเป็นความเชื่อที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมและขอพรได้ที่สถานที่ดังกล่าว

ขอให้ทุกท่านสมหวังในความรัก และอย่าลืมมอบความรักให้ตนเองด้วยนะคะ ❤️

อ่านเพิ่มเติมเรื่องเฒ่าจันทราได้ที่
https://www.facebook.com/share/p/1A9Qop7rRf/

#ด้ายแดง #เทพเจ้า #เฒ่าจันทรา #เย่ว์เหล่า #เทพเจ้าจีน #วันแห่งความรัก #เจริญกรุง

หากพูดถึงกามเทพ คนก็มักจะนึกภาพเป็นคิวปิดหรือไม่ก็เทวดาเด็กมีปีกถือดอกธนูรูปหัวใจ แต่ความเป็นจริงแล้วในโลกตะวันออก พระกา...
13/02/2025

หากพูดถึงกามเทพ คนก็มักจะนึกภาพเป็นคิวปิดหรือไม่ก็เทวดาเด็กมีปีกถือดอกธนูรูปหัวใจ แต่ความเป็นจริงแล้วในโลกตะวันออก พระกามเทพก็มีมาตั้งแต่ในเทวปกรณัมฮินดูมาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน

พระกามเทพมีกำเนิดหลากหลายตำนาน เรื่องแรกคือเมื่อคราวพระพรหมสร้างสรรพสิ่ง คราวแรกทรงสร้างฤษีทั้ง ๗ ตน เพื่อสั่งสอนสรรพสิ่ง แต่คณะสัปตฤษีนี้ เป็นผู้ปราศจากกาม ดังนั้นการกำเนิดของสรรพสิ่งจึงไม่กำเนิดขึ้น จึงทรงสร้างพระกามเทพออกมาจากใจของตน

เรื่องที่สองกล่าวว่าพระกามเทพเป็นบุตรแห่งพระลักษมี เพราะทรงมีจิตใจเหม่อลอยมองแต่ม้าของพระเรวันตะ จึงถูกพระวิษณุผู้บดี สาปลงไปเกิดเป็นม้า และจะพ้นคำสาปได้ก็ต่อเมื่อมีบุตร เมื่อพระเทวีไปเกิดเป็นม้าแล้ว จึงบำเพ็ญเพียรต่อพระศิวะเป็นเจ้า พระศิวะจึงให้พระวิษณุแปลงเป็นม้าเพื่อมอบบุตรชาย บุตรชายนั้นก็คือพระกามเทพ และพระลักษมีก็พ้นคำสาปในที่สุด

พระกามเทพเป็นบุรุษรูปงาม มีชายาชื่อรตี มีเทพวสันต์เป็นสหาย ถือธนูจากต้นอ้อยที่มีสายธนูเป็นตัวผึ้ง มีธงนกแขกเต้าเป็นสัญลักษณ์ และมีนกแขกเต้าเป็นพาหนะด้วย (นกแขกเต้าจึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก) หัวลูกศรของพระองค์ทำมาจากดอกไม้ทั้งห้า เรียกว่า "ปัญจปุษปวาณ" ได้แก่
๑. ดอกบัวหลวง หรือ อรวินทะ เมื่อต้องศรนี้จะทำให้เกิดอาการหรรษณะ คือ ทำให้เกิดอาการหรรษาหรือความยินดี
๒. ดอกอโศก หรือที่เรียกว่า อโศกะ หากต้องศรนี้ทำให้เกิดอาการโรจนะ คือทำให้เกิดอาการที่เย้ายวนใจหรือมีความรักดูสดใส
๓. ดอกมะม่วง หรือ อมระ เป็นศรที่ทำให้เกิดอาการโมหนะ คลั่งรักอย่างลุ่มหลงจนไม่มีสติยับหยั้ง
๔. มะลิลา หรือ นวมัลลิกา ศรนี้จะมีอาการโศษณะ คือทำให้เกิดอาการห่อเหี่ยวจิตใจ
๕. บัวเผื่อนสีม่วง หรือที่เรียกว่า นีโลตปละ ศรนี้ร้านแรงที่สุด กล่าวคือจะมีอาการมารณะ ตรอมใจด้วยพิษรักกันเลยทีเดียว

แต่แล้วแม้แต่พระกามเทพผู้เป็นเจ้าแห่งรักก็ยังต้องพลัดพรากกับนางรตีผู้ชายา เพราะโดนพระศิวะเผาผลาญด้วยไฟปรลัยกัลป์ จนไม่มีรูปร่างในกาลต่อมา ความรักก็เลยมีแต่นามไม่มีรูป อย่างที่เรารู้สึกรักแต่จับต้องมิได้ (อ่านได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/1EKn6Pem8A/)

อนิจจา... ความรักเอย

โอํ กามเทวาย วิทฺมเห
ปุษฺป พาณาเย ธีมหิ
ตนฺโน อนํค ปฺรโจทยาต

เรื่อง: วิทยทาส

#กามเทพ #ความรัก #ศรกามเทพ #ฮินดูปกรณัม #ปัญจปุษปวาณ #ศรรัก #ความรัก #วันแห่งความรัก

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เจริญกรุงผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์