Solis Books

Solis Books ทดลองอ่านตัวอย่างหนังสือโซลิสทุกเ? สำนักพิมพ์ที่ก่อตั้งโดยทีมนักอ่านผู้คลั่งไคล้นิยายไซไฟ และอยากให้หนังสือที่เรารักมีฉบับแปลภาษาไทย
(5)

ประกาศถึงชาวโซลิสเชี่ยนน้องแอดมินจะไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่กลางเดือนนี้ละน้า ขอลากับทุกคนตรงนี้ค่ะ ต่อไปนี้โซลิสเหลือป้...
08/05/2023

ประกาศถึงชาวโซลิสเชี่ยน

น้องแอดมินจะไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่กลางเดือนนี้ละน้า ขอลากับทุกคนตรงนี้ค่ะ ต่อไปนี้โซลิสเหลือป้าแว่นคุมยานแม่คนเดียวแล้ว ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ป้าแว่นด้วยนะคะ อาจจะตอบหลังไมค์ช้านิสสสส ส่งของช้าหน่อย แต่ป้าแว่นจะพยายาม /มือสั่นแหง็กๆ

ขอบคุณเพจ Korok มากๆเลยค่ะสำหรับการพกเจ้าจิ๋วไมล์สไปมัลดีฟด้วย (ถึงแม้จะไม่ได้อ่าน พกไปก็ขอบคุณแล้วจ้า) แอดมินบอกแล้วว่า...
04/05/2023

ขอบคุณเพจ Korok มากๆเลยค่ะสำหรับการพกเจ้าจิ๋วไมล์สไปมัลดีฟด้วย (ถึงแม้จะไม่ได้อ่าน พกไปก็ขอบคุณแล้วจ้า) แอดมินบอกแล้วว่าเจ้าปลาไหลในปาร์ตี้โฟมจะทำให้คุณติดใจ ไม่ใช่แค่สถานการณ์เฉพาะหน้าที่ไหลปรื๊ดไปได้ดั่งใจสั่ง แต่ยังมีประเด็นทางการเมืองและสังคมที่น่าสนใจอีกด้วยนะคะ 🚀

ตอนนี้สามารถซื้อหนังสือได้ในราคาลด 10% ส่งฟรีนะคะ สั่งซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/AK4xhDc2Kn

238 วอร์โคสิกัน: กองพลเดนตาย
The Warrior's Apprentice

□ หยิบไปมัลดีฟส์กะว่าจะได้อ่านคูลๆ ปรากฎอยู่นู่นไม่มีเวลาเล้ย กลับมาไทยก็ได้จัดการจนได้ ถือเป็นการคัมแบคสู่แนว Sci-Fi ของ Korok ที่เรื่องดีฟีลหนังบล๊อค บลัสเตอร์กับเรื่องแรกของซีรีย์ Vorkosigan

■ The Warrior's Apprentice เป็นเรื่องราวบนอวกาศที่จักรวาลเดินทางเชื่อมต่อกันระหว่างดวงดาวได้ง่าย Miles Vorkosigan ชายผู้ร่างกายไม่ดีนัก แต่อยู่ในตระกูลใหญ่ที่รับใช้ Gregor จักรพรรดิแห่งดาวบาร์บาร่าจึงถูกคาดหวังให้เป็นนักรบ

□ เขาสอบ รร.นายร้อยไม่ติด พ่อของเขาซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งดาวดวงนี้ได้มอบหมายให้เขาไปเยี่ยมคุณยายที่ดาวเบต้า จนทำให้เขาต้องพบพานกับความวุ่นวาย พัวพันกับสงคราม เจอคนเจ้าปัญหาทั้งหลายจนมารวมกันเป็นกองพลเดนตายซะงั้น

■ พล็อตเรื่องเป็น Sci-Fi อวกาศแบบซอฟต์ๆ เดินเรื่องผ่านการ "ตัดสินใจเฉพาะหน้า" มันเลยสนุกที่เดาไม่ได้ว่าจะเจออะไร มันก็เป็นฟีลผจญภัยดี และตัว Miles เองก็มีเสน่ห์ คือความไม่สมประกอบกลับทำให้คาแรกเตอร์นี้น่าสนใจมากขึ้น

□ ในขณะเดียวกันประเด็นการเมืองในเรื่องก็ไม่เลว จะเห็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างดวงดาว ดาวบาร์บาร่าเป็นดาวอนุรักษ์นิยม ปกครองโดยจักรพรรดิ เต็มไปด้วยพิธีรีตอง เน้นความจงรักภักดี ดาวเบต้าจะเห็นความหลากหลาย เคารพความแตกต่าง สิทธิและเสรีภาพ คร่าวๆประมาณนี้

■ จริงๆนี่ก็เล่มแรก ก็ใข้เวลาปูเรื่องประมาณนึงแล้วค่อยๆไต่ระดับเรื่อง รวมๆก็เป็นซีรีย์ที่น่าติดตาม มันเพลินๆ ขำๆ มีความตลกร้ายดี รอดูเล่มต่อไปว่าจะเดือดขึ้นรึเปล่า

แอ๊ ทุกคนอย่าเพิ่งสปอย 86 น้องแอดมินน้า ฟืดฟาด เพิ่งดูจบไปสามตอน น่าสนใจมากๆ เหมือนเอาเซตากันดามาผสมกับโกสต์บริเกดส์ ดูจ...
28/04/2023

แอ๊ ทุกคนอย่าเพิ่งสปอย 86 น้องแอดมินน้า ฟืดฟาด เพิ่งดูจบไปสามตอน น่าสนใจมากๆ เหมือนเอาเซตากันดามาผสมกับโกสต์บริเกดส์ ดูจบแล้วจะมารีวิวแบบยาวเฟื้อยให้อ่านกันนะคะ!! (แต่ตับพังจังเหวย)

อะ ใครอยากรู้ว่าเซตากันดากับโกสต์บริเกดส์เป็นยังไง อีก 3 วันจะหมดโปรโมชั่นงานหนังสือลดราคาหนังสือทุกเล่ม 15% ส่งฟรี แล้วนะคะ!!

สั่งซื้อได้ที่
🌟 inbox page solis
🌟 https://shope.ee/3AbbOV33YW

(ทำไมเนียนขายของได้)

ประกาศจ้า อีก 3 วันจะหมดโปรโมชั่นงานหนังสือ ลดราคาหนังสือทุกเล่ม 15% ส่งฟรี แล้วนะคะ!! ใครที่ลืมกดซื้อ รีบมาซื้อกันน้า ร...
27/04/2023

ประกาศจ้า
อีก 3 วันจะหมดโปรโมชั่นงานหนังสือ ลดราคาหนังสือทุกเล่ม 15% ส่งฟรี แล้วนะคะ!! ใครที่ลืมกดซื้อ รีบมาซื้อกันน้า ราคาดีๆ แถมส่งฟรีแบบนี้ต้องรีบแล้วค่ะ!

สั่งซื้อได้ที่
🌟 inbox page solis
🌟 https://shope.ee/3AbbOV33YW

(น้องแอดมินเตรียมตัดบับเบิ้ล)

นอกจากจะป้ายหนังสือตัวเองแล้ว ยังช่วยป้ายหนังสือคุณ พัณณิดา ภูมิวัฒน์ - ลวิตร์ ด้วย 🍃☘️
21/04/2023

นอกจากจะป้ายหนังสือตัวเองแล้ว ยังช่วยป้ายหนังสือคุณ พัณณิดา ภูมิวัฒน์ - ลวิตร์ ด้วย 🍃☘️

#นิทานหัวใจป่า คือผลงานของนักเขียนคนไทย พัณณิดา ภูมิวัฒน์ - ลวิตร์ ที่เราโดนทีมงาน Solis Books ป้ายยามาอีกที เขาว่าน้ำตาแตกหนักมาก แต่ตอนนั้นเราสนใจแค่เนื้อหาถูกจริตและหน้าปกโดนใจ ซึ่งบอกเลยว่าพออ่านจบแล้วก็สภาพไม่ต่างกับทีมงานที่ป้ายยาหรอก 555555

ในดินแดนแห่งหนึ่งมีป่าขนาดใหญ่แผ่อาณาเขตกั้นขวางแผ่นดินนั้นกับโลกภายนอก ว่ากันว่าป่านั้นมีชีวิต มีจิตวิญญาณสิงสู่ เป็นที่อาศัยของ "ปีศาจป่า" สุดแสนอำมหิต ต่อมาได้มีคำนายว่าปีศาจตนนี้จะถูกลูกชายของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ปราบลงได้ ปีศาจจึงออกจากป่าไปลักพาตัวเด็กทารกมาฆ่าทิ้ง แต่เขาก็เปลี่ยนใจและเลี้ยงเด็กคนนั้นไว้ประดุจลูกของตัวเอง

การเล่าเรื่องของนักเขียนทำให้เราค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว คือตอนแรกเรานึกว่าจะเล่าแบบไล่ลำดับไทม์ไลน์ไปซึ่งมันคงจะทำให้เรื่องมันเพิ่มดีกรีความขมได้มาก แต่เปิดเรื่องมาเราถึงกับงงที่ปีศาจป่ากับเด็กชายที่เติบโตแล้วนั่งพูดคุยกัน แบบอ้าว จะมายังไงต่อละนี่ หลังจากนั้นเรื่องจะดำเนินไปในลักษณะนี้ตัดสลับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

อันนี้ต้องยอมรับว่าวิธีการเล่าอย่างนี้กลับทำให้เนื้อหาของเรื่องมันเสียดแทงได้มากกว่าที่คาดไว้เสียอีก ซึ่งแม้ว่ามันจะหดหู่ชวนปวดตับขนาดนั้น มันก็ยังเป็นหนังสือที่ดึงดูดคนอ่านได้เก่งมาก ชั้นเชิงในการเล่าอาจจะออกแนวซื่อๆ ตรงไปตรงมา แต่มีเสน่ห์ให้รู้สึกอยากติดตามต่อ คือเราอ่านแบบไม่วาง 3 ชั่วโมงรวด รู้ตัวอีกทีก็เกือบตีสองแล้ว

ก็อย่างที่บอกว่าตอนแรกเราไม่ได้สนใจกับคำว่าน้ำตาแตกเท่าไหร่ เพราะเป็นคนไม่ค่อยร้องไห้อยู่แล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้เปิดอ่านไปได้ไม่กี่หน้าก็เริ่มรู้สึกหน่วงๆในอก จากนั้นก็ไหลพรากเกือบตลอดทั้งเล่มเลยจริงๆ 😭 คือมันเป็นเรื่องราวที่ชวนเศร้ามาก แถมตัวละครทุกตัวก็เทาๆกันหมด ต่างคนค่างก็มีเหตุผลที่เข้าใจได้ในการกระทำของตัวเอง ยกให้เป็นนิยายอีกเล่มที่ชอบมากๆของปีนี้เลย

"แต่เพราะเขารักผม รักอย่างยิ่ง หมดหัวใจ ผมไม่ต้องเป็นอะไรเลย เขาก็รักผมอยู่นั่นเอง"

นิยายเล่มนี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าครอบครัวไม่จำเป็นต้องเป็นสายเลือดเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวกันเลยก็ยังได้ และคำว่ารักแบบไม่มีเงื่อนไขไม่ได้ถูกสงวนไว้สำหรับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเท่านั้น ไม่ว่าใครก็สามารถรักผู้อื่นได้แบบไร้เงื่อนไขเช่นกัน หากเขาพบว่าคนคนนั้นควรค่าแก่ความรักของเขา

มันคือเรื่องราวระหว่างพ่อสองคนของเด็กชายคนหนึ่ง "พ่อผู้ให้กำเนิด" ที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับลูกชาย ยึดติดอยู่กับอดีตและอุดมการณ์ที่ตนเชื่อจนละเลยครอบครัวของตัวเอง มองว่าลูกเป็นเหมือนแค่หมากตัวหนึ่งที่จะทำให้เขาบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่ "พ่อที่เลี้ยงดู" เด็กน้อยมาแค่เพียง 6 ปีกลับรักเขายิ่งกว่าชีวิตตัวเอง พร้อมที่จะปกป้องดูแล และไม่เคยคิดจะทำร้ายหรือทอดทิ้งไปเลยแม้สักวินาที 💕

"ผมเห็นเป็นครั้งแรกว่าเลยชายฝั่งออกไป โลกมีพิษมหาศาล"

มันคือเรื่องราวแห่งการอนุรักษ์ที่แยบคายที่สุด ในช่วงท้ายๆของเล่มมีการบอกเล่าถึงสถานที่ที่เสื่อมโทรมเพราะธรรมชาติขาดสมดุล เพราะมนุษย์ดูดกลืนทรัพยากรออกจากธรรมชาติมากเกินไป ทำลายธรรมชาติมากเกินไป แต่สุดท้ายพวกเขาก็เลือกโทษทุกอย่างยกเว้นเผ่าพันธุ์ของตัวเอง พวกเขามองว่าป่าคือตัวการของเรื่องทั้งหมด พวกเขาจึงทำลายมัน

ภาพในหนังสือซ้อนทับกับโลกปัจจุบันจนน่าตกใจ ถึงแม้มนุษย์ในโลกของเราจะไม่ได้ทำลายป่าเพราะกลัวอำนาจของมันหรือมองว่าเป็นสิ่งชั่วช้า แต่เราก็ทำลายป่าเพราะอยากจะสนองความต้องที่ไม่จบสิ้นของพวกเราเอง เราโค่นป่าจนเหี้ยน ทำลายสมดุลอันละเอียดอ่อนของระบบนิเวศ และวันหนึ่งที่ตระหนักได้ว่าป่าสำคัญแค่ไหน เราก็พยายามสร้างมันขึ้นใหม่โดยเข้าใจเอาว่าแค่ปลูกต้นไม้ก็น่าจะพอ แต่ป่าไม่ให้อภัยเรา การปลูกต้นไม้จึงไม่เคยสร้างป่าได้เลย 🌱

"แต่โลกนับจากนี้จะเปลี่ยนแล้ว เขาต้องเรียนรู้จะอยู่โดยไม่มีพลัง"

มันคือเรื่องราวของความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ในที่สุดก็จะต้องมีสิ่งใหม่เข้ามา เกิดความแตกต่างทางความคิดในคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า และอาจจะเกิดความขัดแย้งได้หากคนรุ่นเก่านั้นไม่ยอมรับและพยายามปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงนี้ ทางออกเดียวคือการทำความเข้าใจร่วมกัน ช่วยเหลือคนรุ่นเก่าให้ปรับตัวเข้ากับโลกใหม่ได้ ให้พวกเขายังรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย 🕑

สุดท้ายนี้คือสิ่งที่เราอยากเขียนมากแต่ก็กลัวจะสปอยล์ ด้วยความที่มันเป็นสิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดของเรื่องนี้จึงขอเขียนสักหน่อยละกัน 5555555

"แต่สิ่งที่ผมรู้หลังจากนั้น คือเขาเป็นหัวใจของป่า แต่ตัวผมเป็นหัวใจของเขา"
"จะฆ่าก็ต้องฆ่าที่หัวใจ"

มันคือเรื่องราวที่ตราตรึงในความทรงจำของเรา เด็กชายที่ตอนนี้กลายเป็นชายหนุ่มได้บอกแผนการของเขาไว้ว่าจะทำลายปีศาจป่าต้องทำลายสิ่งที่เป็นหัวใจของมัน และในวันที่เขาลงมือได้สำเร็จเขาจึงได้รู้ว่าตัวเขานั่นแหละคือหัวใจของปีศาจป่า แม้ว่าป่าทั้งผืนจะพยายามปกป้องปีศาจป่าเอาไว้ แต่เขาก็ขัดขืนอย่างดื้อดึง พลังแห่งป่าไม่อาจชนะพลังแห่งความเป็นพ่อ ปีศาจป่ายอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อโอบกอดลูกชายของเขาไว้ให้ปลอดภัย

นั่นอาจจะเป็นเพราะก่อนเขาจะกลายมาเป็นปีศาจป่า ในอดีตอันไกลโพ้นนั้นเขาไม่เคยได้รับความรัก ไม่รู้จักไออุ่น ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว เมื่อได้มันมาครอบครองแล้วเขาจึงพยายามรักษาไว้ให้ดีที่สุด เขายอมปล่อยให้ลูกจากไปเพื่อให้ลูกมีความสุข ให้เด็กน้อยได้ไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกตกอยู่ในอันตรายเป็นอันขาด

เพราะปีศาจป่าตัดสินใจช่วงชิงเด็กทารกคนนั้น คำนายจึงเป็นจริงขึ้นมาได้ ปีศาจป่าที่โหดร้ายถูกลูกชายของพ่อมดทำลายได้มานานแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาตัดสินใจที่จะรักเด็กชายคนนั้น ปีศาจป่าก็ไม่โหดร้ายอีกต่อไป เด็กชายคนนั้นปราบปีศาจป่าได้จริงๆ แต่ไม่ใช่ด้วยพละกำลัง หากแต่เป็นหัวใจที่ดีงามของเขาเอง ความอบอุ่นจากตัวเขาเปลี่ยนหัวใจอันหนาวเหน็บของปีศาจป่า ความรักที่บริสุทธิ์อ่อนโยนของเขาทำให้ความแค้นคลั่งในตัวปีศาจร้ายค่อยๆอ่อนกำลังลงไป 😊

หลายคนอาจจะชอบหนังสือที่มีความสละสลวยทางภาษา แน่นอนว่าความสวยงามทางวรรณศิลป์ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เราก็ไม่อยากให้ผู้คนเชิดชูแต่เรื่องนั้น จนมองข้ามหนังสือที่มีเรื่องราวแสนธรรมดาและถ้อยคำที่เรียบง่าย ทว่าแฝงความลึกล้ำในทุกตัวอักษรเช่นหนังสือเล่มนี้ไป

แม้จะไม่ได้ใช้คำหรูหราฟุ้งเฟ้อ แต่ "นิทานหัวใจป่า" ก็ยังคงเป็นหนึ่งในหนังสือที่งดงามที่สุดในสายตาเรา และหวังว่ามันจะงดงามในสายตาของนักอ่านคนอื่นด้วยเช่นกัน ❤️

#อ่านแล้วเขียน

ขอขอบคุณเพจ อ่านได้แล้ว สำหรับรีวิวเจ้าไมล์สค่ะ แอบอยากตอบว่าไมล์สชอบวิ่งหาเรื่องเอง----- แต่ว่า แหะ เราให้ผู้อ่านมาช่วย...
18/04/2023

ขอขอบคุณเพจ อ่านได้แล้ว สำหรับรีวิวเจ้าไมล์สค่ะ แอบอยากตอบว่าไมล์สชอบวิ่งหาเรื่องเอง----- แต่ว่า แหะ เราให้ผู้อ่านมาช่วยกันตอบดีกว่าค่ะว่าปลาไหลปาร์ตี้โฟมตัวนี้ไหลไปหาเรื่องหรือเรื่องเข้ามาหาเขาเอง

ตอนนี้หนังสือของโซลิสยังลดราคา 15% ส่งฟรีอยู่นะคะ สั่งซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/4pjauR4WEI

ไมลส์ คือคนที่ชอบวิ่งเข้าหาปัญหา หรือปัญหาชอบวิ่งหาเขาก็เริ่มไม่แน่ใจ
-----------------------------------------------------
อ่านแล้ว 33
ข้ามเขตอนันต์ BORDERS OF INFINITY
(ชุด วอร์โคสิกัน)
ผู้เขียน Lois McMaster Bujold
ผู้แปล ลมตะวัน
สำนักพิมพ์ Solis Books

ไม่เคยผิดหวังกับนิยายชุด วอร์โควิกันเลย ทั้งสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ขบคิด ไปตลอดการอ่านเสมอ เล่มนี้ที่รวมเรื่องสั้นไว้ 3 ตอน แต่ละตอนก็ยังสนุกในตัวของมันเองสุดๆ อ่านแยกกันได้ อ่านต่อก็ดี
เรื่องแรก เสียงขานจากเทือกเขา ที่ไมล์สต้องทำตัวเป็นตำรวจสืบสวน วิเคราะห์หลักฐาน สืบคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น กลิ่นอายตอนนี้จะออกแนวตลกปนเครียด เพราะแฝงเรื่องการเหยียดพวกกลายพันธุ์เอาไว้ และตัวคดีก็ชวนหดหู่เช่นกัน
เรื่องสอง วงกต อันนี้ไมล์สทำตัวได้น่าตายมาก ฮ่าๆๆๆ กับภารกิจไปรับตัวนักวิทยาศาสตร์ ที่บานปลายจนแทบเอาตัวไม่รอด(อีกแล้ว) แต่ก็ได้เห็นว่า ถึงจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม ไมล์สก็เอาตัวรอดได้เสมอจริงๆ
เรื่องสาม ข้ามเขตอนันต์ เป็นชื่อตอนชื่อเดียวกับหน้าปก ซึ่งเข้าใจเลยว่าทำไม เพราะเป็นตอนที่แสดงให้เห็นเลยว่าที่ไมล์สชอบพูดว่า สมองสำคัญกว่ากล้ามเนื้อ มันเป็นยังไง เมื่อการแหกคุกที่แน่นหนาที่สุดของเซตากันดา ไมล์สต้องทำด้วยการที่ไม่มีอะไรเลย แม่กระทั่งเสื้อผ้าของตัวเองก็ตาม
เป็นการรวมกันของสามเรื่องสามทาง ที่สนุกจนเจ็บแทน (เล่มนี้ไมล์สอย่างกับกระสอบทรายเลยล่ะ) ไม่แพ้เล่นอื่นๆในชุดนี้เลยล่ะ
ต่อจากนี้มีสปอยด์เด้อ
เป็นเล่มที่นอกจากสนุกแล้วยังปวดใจไม่น้อย ทั้งคดีที่เกี่ยวกับเด็กที่ถูกมองว่ากลายพันธุ์ ที่ยิ่งอ่านยิ่งเศร้าใจ การบุกไปช่วยสิ่งมีชีวิตที่ถูกทำให้ไม่ใช่มนุษย์ ที่มีเบื้องหลังหดหู่มากๆ และการแหกคุก ที่โคตรจะชิบหายวายวอด และรสชาติของสงคราม รสชาติแห่งการสูญเสีย มันมีแต่จะทิ่มแทง ไม่เคยทำให้ชินเลย อย่าลืมว่าไมล์ส ยังอยู่วัยเพิ่งเรียนจบทหารมาไม่กี่ปีเองด้วยซ้ำ

#ข้ามเขตอนันต์ #อ่านได้แล้ว

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะทุกคนนนขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย มีความสุขกับครอบครัว ใครไม่ได้ไปไหนก็อ่านหนังสือของโซลิสเราไปเพลิน...
14/04/2023

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะทุกคนนน
ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย มีความสุขกับครอบครัว ใครไม่ได้ไปไหนก็อ่านหนังสือของโซลิสเราไปเพลินๆ ได้นะคะ
น้องแอดมินไม่ได้ไปไหน คุณลูกค้าสั่งหนังสือของเราได้ทุกวันโปรโมชั่นเดียวกับงานหนังสือ ส่งหนังสือให้ทุกวันค่ะ บับเบิลพร้อม กรรไกรพร้อมค่า

สั่งได้ผ่านช่องทาง Page Facebook หรือ https://shopee.co.th/solisbooks

งานหนังสือจบไปแล้ว แต่เรายังไม่จบค่า โซลิสใจดีต่อโปรโมชั่นงานหนังสือ ลด 15% จัดส่งฟรีให้อีก 1 เดือนถึง 30 เมษายน 2566 ใค...
10/04/2023

งานหนังสือจบไปแล้ว แต่เรายังไม่จบค่า โซลิสใจดีต่อโปรโมชั่นงานหนังสือ ลด 15% จัดส่งฟรีให้อีก 1 เดือนถึง 30 เมษายน 2566 ใครไม่ได้ไปไหน (หรือไปไหน) ช่วงสงกรานต์ ก็ซื้อหนังสือเราไปอ่านยามว่างได้เลยย

แอดมินและป้าแว่นขอแนะนำให้ลูกค้าเก็บโอลด์แมนส์วอร์ก่อน (ถ้าไม่รู้จะซื้ออะไรดี แต่ใจมันร่ำร้อง) เพราะใกล้จะหมดแล้วค่ะ ราคา 250 บาท หรือถ้าจะรับเจ้าไมล์สเล่ม 1 กองพลเดนตายไปด้วยเลยก็ได้ ราคา 250 บาทเช่นกัน รวมแล้ว 500 บาทเลขสวยมากเลยค่า 💫

สั่งซื้อได้ที่ inbox เพจโซลิส และ
🪐 https://shope.ee/ftpvDFyyH

Repost รีวิวเข้าไมล์สจากเพจ The Ergosphere ค่า ใครสนใจรีบมารับเล่ม 1 ไปอ่านก่อนได้เลยน้า
09/04/2023

Repost รีวิวเข้าไมล์สจากเพจ The Ergosphere ค่า ใครสนใจรีบมารับเล่ม 1 ไปอ่านก่อนได้เลยน้า

[รีวิว] Vorkosigan Saga ลิเกอวกาศที่พระเอกอาจไม่หล่อ ไม่เท่ แต่เร้าใจ (?)
หากพูดถึงสายไซไฟสงครามอวกาศทั่วไป เราอาจจะนึกถึงตัวเอกสุดเท่ ผู้ถูกเลือกให้ไปกอบกู้จักรวาล นำพาความหวังกลับคืนสู่เอกภพ มีนางเอกหรือพระเอกที่ยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน อะไรทำนองนี้ แต่ไม่ใช่กับผลงาน “Vorkosigan Saga” ของคุณโลอิส แมคมาสเตอร์ บูโจลด์ ผู้ได้รับตำแหน่ง Grand Master คนที่ 36 จากสมาคมนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์และแฟนตาซีแห่งอเมริกา (SFWA, Inc - The Science Fiction and Fantasy Writers of America) ของปีนี้
ที่พระเอกอาจจะไม่ได้มีความเป็นเลิศ (โดยเฉพาะด้านกายภาพ) ซ้ำยังไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าโรงเรียนทหารของจักรวรรดิที่เข้าเรียนกันมาหลายชั่วอายุคนอีก แต่ด้วยลูกบ้าและไหวพริบอันแปลกแหวกแนวจากชาวบาร์รายาห์ที่แสนจะอนุรักษ์นิยม และดวงที่มักจะทำให้ต้องตกกระไดพลอยโจนอยู่บ่อยครั้ง ก็ทำให้เขาพลิกทุกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างไม่ยาก แม้ว่าบางครั้งอาจจะทำให้วิกฤติมากกว่าเดิมก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าไปมีเอี่ยวกับความขัดแย้งระดับจักรวาล และในฐานะของผู้บังคับบัญชามือใหม่นี้ ไมลส์ก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะไม่ทำให้สงครามนี้เลวร้ายไปกว่าเดิม และเพิ่มเติมคือหาทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยครบสามสิบสอง
โดยซีรี่ส์ Vorkosigan Saga แม้จะเป็นนิยายไซไฟสายลิเกอวกาศ มีทั้งสงครามระหว่างดวงดาว มีจักรพรรดิและการเมืองต่างๆ ครบสูตร แต่ด้วยรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกมา ทั้งเส้นทางชีวิตของไมลส์ที่ไม่ได้โปรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แม้เขาจะเป็นถึงชนชั้น “วอร์” หรือชนชั้นนักรบและขุนนางผู้ทรงเกียรติ ทั้งด้านกายภาพและนิสัยที่อยู่นิ่งไม่เป็น ไปจนถึงความอนุรักษ์นิยมสุดโต่งของดาวบาร์รายาห์ ที่ขัดแย้งกับความก้าวหน้าสุดโต่งของดาวเบต้า (แต่พระเอกเราก็เป็นลูกครึ่งเบต้า) และนั่นก็ทำให้ไมลส์เป็นส่วนผสมของจารีตดั้งเดิมที่คงอยู่ต่อไป ทว่าในขณะเดียวกันก็ยังเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตอีกด้วย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของไหวพริบชั้นยอด ที่แม้พระเอกของเราอาจไม่หล่อ ไม่เท่ แต่เรื่องราวของเขาก็แสนจะเร้าใจ ทำให้ทีมงานต้องคอยลุ้นอยู่ตลอดว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป
โดยเฉพาะกับเล่มสอง “วอร์เกม” ที่เพิ่งออกใหม่ล่าสุดนี้ เมื่อไมลส์ต้องกลับไปยังอวกาศอีกครั้ง และเขาไม่ได้ตกกระไดพลอยโจนตัวคนเดียวอีกต่อไป แต่ยังนำพาจักรพรรดิเกรเกอร์ สหายสมัยเด็กของตนเองไปด้วย ! ความวุ่นวายก็เพิ่มขึ้นยกกำลังสองเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าจะยุ่งเหยิงขนาดไหน ขอเชิญติดตามได้ในวอร์โคสิกัน และวอร์เกม (เล่มสอง) จาก Solis Books ได้เลยค่ะ
ทางเพจ The Ergosphere ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ Solis Books ที่ส่งหนังสือชุด Vorkosigan Saga มาให้กับทางทีมงานเป็นอย่างสูง ท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เพจของสำนักพิมพ์ หรือซื้อจากร้านค้า ใน lnwshop http://solisbooks.lnwshop.com/ ได้เลย ! หรือจากเว็บไซต์ https://www.thaibookfair.com/ (หลังวันที่ 11 เมษายนเป็นต้นไป) และยังมีโปรโมชั่นลด 15% ทุกเล่มถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ด้วยค่ะ
บทความ+ภาพประกอบ : Tammarine

เมื่อความลับในคดีฆาตกรรมที่ถูกปิดตายกว่า 60 ปี กำลังจะถูก"แพร่งพราย" เพราะเหตุใด ทำไม และอย่างไร จึงเกิดเหตุการณ์อันเหี้...
09/04/2023

เมื่อความลับในคดีฆาตกรรมที่ถูกปิดตายกว่า 60 ปี กำลังจะถูก"แพร่งพราย" เพราะเหตุใด ทำไม และอย่างไร จึงเกิดเหตุการณ์อันเหี้ยมโหดนี้ขึ้น!

Top Pick by staff วันนี้ น้องสตาฟ (น้องใหม่ ไม่เคยทำงานที่บูธมาก่อน! และชอบเล่มนี้มาก) ขอพาคุณผู้อ่านย้อนกลับไปสู่กลิ่นอายกอธิคหลอนๆ แต่รับรองไม่มีผี!

เล่มนั้นก็คือ "เวเคนเฮิร์ตส์" น้องม้อด สเติร์น สาวแกร่งของเรานั่นเองค่า Moonlit Books

เรื่องราวจะย้อนกลับไปก่อนที่คดีฆาตกรรมสุดสยองจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งคดีนี้กลับมีผู้พบเห็นเหตุการณ์เพียงคนเดียว ซึ่งก็คือ ม้อด สเติร์น ลูกสาวนักประวัติศาสตร์อันเลื่องชื่อ ม้อดเกิดมาในยุคที่ผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องประดับ ไม่มีสิทธิหรือเสียง และยากที่จะยืนหยัดเพื่อความต้องการของตัวเอง แต่เรื่องราวเหล่านี้จะนำไปสู่คดีสุดวิปริตได้ยังไง เราจะได้อ่านผ่านมุมมองของหญิงสาวที่ถูกกดทับด้วยสังคมปิตาและศาสนากันค่า

ความเข้มข้นของเรื่องนี้คือการแซะจิกกัดสังคมปิตา หรือจะเสียดสีเรื่องความเชื่อ ศาสนา และศรัทธา ที่บางครั้งก็นำพาเราไปสู่สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อน อีกอย่างคือเราจะได้อ่านผ่านมุมมองของเด็กผู้หญิงที่สุดแสนจะไร้เดียงสาแต่ไม่โอนเอียงไปตามขนบของสังคม ความแกร่งและความฉลาดของม้อด จะทำให้เราได้เห็นโลกที่น่าขนลุกและสะเทือนขวัญของความเชื่อด้วย! อีกทั้งสำนวนที่จะมีความเก่านิดๆ รวมถึงบรรยากาศในเรื่องที่เป็นใจให้เราพลิกหน้ากระดาษสืบหาความจริงไปเรื่อยๆ อ่านไปก็ขนลุกไป (บรื้อ😱~)

ถ้าคุณผู้อ่านชื่นชอบแนวสืบสวนสอบสวนกอธิค ต้องห้ามพลาดเล่มนี้เลยค่ะ

หัวเราะกรุบ ดีใจที่ลูกค้าโดนป้าย----
09/04/2023

หัวเราะกรุบ ดีใจที่ลูกค้าโดนป้าย----

Lot 2 เป็นของ Biblio แบบเน้นๆกับ น้ำพุสำนักพิมพ์ พอกรุบกริบค่ะ ส่วนอีกสองเล่มในรูปคือชาวแก๊ง Solis Books ป้ายมา 🤣

Begonia กับอ่านอิตาลีกำลังเดินทาง Words Wonder รอรวมพลก่อนส่งออกมา JClass เพิ่งสั่งไป Hummingbooks​ รอโปรออนไลน์ แล้วเดี๋ยวมาดูกันรอบเก็บตกอีกทีค่า

ปล.ช่วงนี้ไม่ได้จับหนังสือเลย ภารกิจครอบครัวเยอะ เล่มปัจจุบันก็หนาจุกๆ แต่สงกรานต์นี้คงจบค่ะ ❤️

ขอบคุณเพจ จั่นเจาเล่าเรื่อง สำหรับรีวิวแรกของข้ามเขตอนันต์ค่ะ!!! คุณจั่นให้ 10 / 10 ทางสำนักพิมพ์ดีใจมากกกก เพราะเล่มนี้...
08/04/2023

ขอบคุณเพจ จั่นเจาเล่าเรื่อง สำหรับรีวิวแรกของข้ามเขตอนันต์ค่ะ!!! คุณจั่นให้ 10 / 10 ทางสำนักพิมพ์ดีใจมากกกก เพราะเล่มนี้สุดจริงๆค่ะ อยากให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ!!!

เสาร์สุดท้ายของงานหนังสือแล้ว ขอน้องแอดมินมาโฆษณาหนังสือฝากขายที่น้องแอดมินรักสุดใจกันสักหน่อยค่าTop Pick by staff ของโซ...
08/04/2023

เสาร์สุดท้ายของงานหนังสือแล้ว ขอน้องแอดมินมาโฆษณาหนังสือฝากขายที่น้องแอดมินรักสุดใจกันสักหน่อยค่า

Top Pick by staff ของโซลิสที่ไม่ได้มีแค่เล่มเดียว คราวนี้เป็นคราวของแอดมิน (อีกแล้ว - นังหัวทองคนนั้น) เล่มที่น้องแอดมินปลื้มอกปลื้มใจ ราคาเพียง 140 บาทแต่มูลค่ายามที่ดำดิ่งสู่เนื้อเรื่องนั้นตีค่าไม่ได้เลยค่ะ (ดูเหมือนเว่อแต่เป็นเรื่องจริง)

เรื่องนั้นคือโหยหานิทรารมณ์โดยพ่อเชคอฟชาวรัสเซีย เจ้าพ่อแห่งวรรณกรรมที่อ่านแล้วตับซีดไปจนถึงระดับตับแตก ความหม่นหมองสไตล์โกธิคใน "โหยหานิทรารมณ์" จากสำนักพิมพ์ Paragraph Publishing นั้นมหัศจรรย์อย่างน่าเหลือเชื่อ

หนังสือเล่มนี้รวมเรื่องสั้นโดยมีธีมที่พูดถึงการกดขี่ การเห็นแรงงานเป็นเหมือน "สินค้า" ที่จะทำอะไรกับ "มัน" ก็ได้ เหมือนชื่อหนังสือที่ชื่อโหยหานิทรารมณ์ เป็นหนึ่งในเรื่องสั้นที่ impact ต่อใจมากที่สุด เรื่องราวของหญิงสาวรับใช้ที่ต้องกล่อมเด็กของนายหญิงที่ใช้งานเธอหนักและไม่ให้เธอพักผ่อน (พูดง่ายๆ ว่าควงกะ) จนเธอโหยหาการนอนหลับ การพักผ่อนที่คนคนหนึ่งสมควรจะมี ถ้าเด็กร้องขึ้นมาเธอจะโดนตี ความอัดอั้นและภาวะที่โดนกดขี่แบบนี้นำเราไปสู่จุดบที่คาดไม่ถึง แต่น้องแอดมินมั่นใจว่าทุกคนต้องกุมใจและกรี๊ดออกมาด้วยความคาดไม่ถึง

เรื่องอื่นๆ ก็ชวนตับซีดไม่แพ้กัน โดยเล่าเรื่องผ่านคนบ้าบ้าง นักโทษบ้าง แต่ด้วยภาษาสวยงามและโครงเรื่องที่ชวนติดตามจะทำให้คุณวางหนังสือเล่มนี้ไม่ลง เขื่อเถอะ 140 บาทที่ดีต่อใจ ดีต่อชีวิต สามารถซื้อได้ที่สนพ. พารากราฟและบูธ Q05 solis นะคะ

เมื่อเจ้าเตยหรือหนึ่งใน "พี่แว่น" ซึ่งเป็น staff ของเรายังไม่ move on จากนิทานหัวใจป่าโดยคุณ พัณณิดา ภูมิวัฒน์ - ลวิตร์ ...
07/04/2023

เมื่อเจ้าเตยหรือหนึ่งใน "พี่แว่น" ซึ่งเป็น staff ของเรายังไม่ move on จากนิทานหัวใจป่าโดยคุณ พัณณิดา ภูมิวัฒน์ - ลวิตร์ ทางเราขออนุญาต repost กันไปเลยยย ทุกคนสามารถมารับน้องได้ที่บูธแฟนตาเซียและโซลิส Q05 นะคะ 🍃☘️

Top Pick by Staff
หนังสือฝากขายน่าอ่านโดยน้อง "เตย" (อาจเป็นพี่แว่นสักคนของใครในทวิตเตอร์ที่บอกว่า --พี่แว่นขายเก่งมาก--เอ่อ คือ โซลิสใส่แว่นทั้งบูธ ยกเว้นแอดมินที่หัวทองที่สายตาสั้นแต่ขี้เกียจใส่แว่น)

นอกจากอากาศเย็นลงที่ทำให้ป่วยกันถ้วนหน้าแล้ว (เพ้ยย ไม่ใช่!!) ยังทำให้อ่านหนังสือบางเล่มได้อินมากขึ้นอีกด้วยค่ะ เล่มที่เตยขอนำเสนอในวันนี้คือ "นิทานหัวใจป่า" จากคุณ พัณณิดา ภูมิวัฒน์ - ลวิตร์ นั่นเอง บอกก่อนว่าเป็นเล่มเล็กๆ ที่อ่านแล้วร้องไห้น้ำตานองหน้าคาที่ทำงาน เป็นการร้องไห้ในทางที่ดีนะคะ รู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออก อมน้ำตาอยู่หน้าเครื่องถ่ายเอกสารที่ทำงาน บุ๋งๆบะลั่กๆ

นิทานหัวใจป่านเป็นเรื่องราวโลกที่ทุกคนกล่าวหาว่าป่านั้นเป็นสถานที่อันตราย หัวใจแห่งป่าเลยจับเด็กชายซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวหนึ่งมาเลี้ยงจนเติบโตและมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เด็กชายคนนั้นกลับไปอยู่กลับครอบครัว และจำเรื่องราวตอนเด็กไม่ได้ ลืมหมดสิ้นว่าตัวเองเคยถูกเลี้ยงดั่งที่รักจากหัวใจป่า จากนั้นครอบครัวก็ของเด็กชายผู้นั้นก็เตรียมวิธีการทำลายป่าที่ว่ากันว่าโหดร้ายและอันตรายนั้น--

เอาละค่า เล่าแค่นี้ก็คงจะพอ แค่คำว่า "ลืม" ก็คงจะทำให้นักอ่านรู้สึกขมปะแล่มๆที่ปลายลิ้น อ่านไปก็รู้สึกขมที่ดี ขมไม่ยอมคายแล้วกลืนไปเลยเหมือนดื่มชาอุ่นๆ เอ่อ ฝนพรำช่วงนี้อาจจะเป็นน้ำตาเตยเองก็ได้นะ แว๊ก

สุดท้ายแล้วคุณจะโตมาและเป็นในแบบที่คนรอบข้างบังคับ หรือเป็นในสิ่งที่คุณเป็นกัน -- เตย : กัดทิชชู่อยู่หน้าเครื่องถ่ายเอกสาร (อีพี่แอดมิน แกแอบดอยไว้แล้วใช้มั้ย)

ตอนนี้หนังสือเหลือน้อยแล้วนะคะ ขายดีมาก มากถึงมากที่สุดจนเตยบอกพี่แอดมินให้เติมของบ่อยมาก ได้คำตอบมาเป็นพี่แอดมินทำหน้าเอ๋อ เพระฉะนั้นรีบมาซื้อกันได้ที่บูธ N35 น้า แต่ความจริงก็มีอีกหลายเล่มที่อยากขายนะ ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงให้ครบในโพสต์เดียว มาหากันเถอะๆ

โค้งสุดท้ายงานหนังสือ แวะมาเจอป้าแว่นเซเว่นและโคลนนิ่งป้าได้ที่บูธQ05นะคะ  #โซลิสขายจนต้องร้องขอชีวิตมาพาเจ้าไมล์สเล่มให...
06/04/2023

โค้งสุดท้ายงานหนังสือ แวะมาเจอป้าแว่นเซเว่นและโคลนนิ่งป้าได้ที่บูธQ05นะคะ #โซลิสขายจนต้องร้องขอชีวิต

มาพาเจ้าไมล์สเล่มใหม่กลับบ้านกันเถอะ!

กลับมาอีกครั้งงง (อั๊งๆๆๆ) กลับมาอีกครั้งทั้ง Top Pick by staff โดย “สตาฟฟ์ที่ใส่แว่นคนนั้น” และการกลับมาอีกครั้งของ “Da...
05/04/2023

กลับมาอีกครั้งงง (อั๊งๆๆๆ)
กลับมาอีกครั้งทั้ง Top Pick by staff โดย “สตาฟฟ์ที่ใส่แว่นคนนั้น” และการกลับมาอีกครั้งของ “Dark Tales of London” /รัวมือโดย Begonia Publishing

Dark Tales of London ของสำนักพิมพ์ Begonia Publishing (ที่เคยขายหมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อปีก่อน) เป็นนิยายสืบสวนย้อนยุค นำสืบโดยสารวัตรเฟย์แห่งสก็อตแลนด์ยาร์ด และคุณหมอฟอล์กเนอร์ มือชันสูตรตัวท็อป ที่จะพาคุณย้อนไปในลอนดอนยุควิคตอเรียน (ยุคสมัยแห่งชายหนุ่มงานดีใส่โค้ทเข้ารูป และสาวๆ เอวสับนุ่งกระโปรงสุ่ม) เดินย่ำตรอก ถนน และขึ้นรถม้า ตามหาเบาะแสของคดีฆาตกรรมสุดประหลาด

จุดเด่นของ Dark Tales of London (สำหรับเรา) นอกจากเซ็ตติ้งสุดจะมีเสน่ห์ ก็คือรูปแบบคดีในเรื่องยังเกี่ยวข้องกับสิ่งเหนือธรรมชาติและความเชื่อท้องถิ่นที่คนร้ายสรรหามาอำพรางคดี ซึ่งคุณตำรวจและคุณหมอต้องสืบหาความจริงให้ได้ว่าใครเป็นคนทำกันแน่
(จะให้ผมเอาผีขึ้นศาลมันก็ไม่ได้หรอกนะ — สารวัตรเฟย์กล่าว)

ใครชอบบรรยากาศลึกลับ คดีฆาตกรรม หรือเป็นแฟนนิยายรหัสคดีสไตล์เชอร์ล็อก โฮล์มส์ บอกกันตรงๆ ว่าไม่อยากให้พลาดค่ะ! มาเจอกันที่ Q05 นะคะ !!

เป็นเล่มที่แอดมินโซลิสป้ายยาลูกค้ามากที่สุดที่สุดที่สุดดดด เพราะแอดมินชอบมากกกกกกจริงๆค่ะ อยากให้ทุกคนได้อ่านจริง 140 บา...
05/04/2023

เป็นเล่มที่แอดมินโซลิสป้ายยาลูกค้ามากที่สุดที่สุดที่สุดดดด เพราะแอดมินชอบมากกกกกกจริงๆค่ะ อยากให้ทุกคนได้อ่านจริง 140 บาทเท่านั้น 😭

#โหยหานิทรารมณ์: แรงงานมี “ชีวิต” ตอนไหน
“Life begins for him where this activity ceases, at the table, in the public house, in bed.”
อ่านงาน #เชคอฟ คิดถึง #มาร์กซ

“เธอไม่อาจเข้าใจได้ว่าพลังอำนาจอันใดกันที่หน่วงเหนี่ยวมือและเท้าของเธอไว้ กดทับตัวเธอ และไม่ยอมให้เธอมีชีวิตอยู่ เธอมองไปรอบๆ ค้นหาพลังที่ว่านั้นเพื่อจะได้หลบหนีไปจากมัน แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ ในที่สุด เมื่อหมดสิ้นกำลังที่มี เธอจึงรีดเค้นเรี่ยวแรง หรี่ตามองไปยังจุดสีเขียวที่วูบไหวอยู่เบื้องบน วาร์ก้าได้ยินเสียงแผดร้อง แล้วจึงค้นพบศัตรูผู้ไม่ยอมให้เธอได้มีชีวิตอยู่ ศัตรูที่ว่าก็คือเจ้าเด็กทารกคนนี้นี่เอง” ("โหยหานิทรารมณ์" หน้า 67)
ในเรื่องสั้น "โหยหานิทรารมณ์" วาร์ก้า, เด็กสาวรับใช้ประจำบ้านช่างทำรองเท้า, อยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ง่วงหงาวหาวนอนอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องทำหน้าที่ช่วยงานในตอนกลางวัน และดูแลลูกเจ้านายในตอนกลางคืน พูดง่ายๆ คือเธอทำงานควบสองกะ (หรือมากกว่า) และไม่มีเวลาเลิกงาน สิ่งเดียวที่เธอต้องการเฉพาะหน้าคือ "การนอน" แต่ทุกครั้งที่เผลอหลับก็จะโดนเจ้านายโผล่มาฟาดให้ตื่นตลอด
ใน "Wage Labor and Capital" (1847) Karl Marx ได้พูดถึง "ชีวิต" ของแรงงาน (ซึ่งมี "แรง" ของตัวเองเป็นสินค้าอย่างเดียวที่ผลิตและเอาไปขายได้) ไว้ว่า มันจะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อพวกเขาเลิกงาน ซึ่งอาจจะเป็นในร้านเหล้า ในซ่อง หรือบนเตียงนอนอะไรก็ตามแต่ ช่วงเวลาที่ทำงานนั้น ชีวิตไม่ใช่ชีวิต เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไร (ทอผ้า หล่อทอง สร้างถนน สร้างวัง ฯลฯ) สิ่งนั้นมีความหมายเดียวสำหรับเขา คือการ "หารายได้" เพื่อเอามา "ใช้ชีวิต"
"...life begins for him where this activity ceases, at the table, in the public house, in bed."
สำหรับวาร์ก้า (ซึ่งถ้าดูตามปีที่พิมพ์ [1888] น่าจะเป็นเจเนอเรชันแรกที่โตมาในช่วงหลังการยกเลิกทาสติดที่ดินในรัสเซียปี 1861) แม้แต่เวลา "เลิกงาน" เธอก็ยังไม่มี ช่วงเวลา "มีชีวิต" ของเธอจึงไม่รู้จะไปหาเอาได้จากตรงไหน
หลังจากงัวเงียอยู่ตลอดทั้งเรื่อง วาร์กาค้นพบว่า แม้เธอจะยังหายใจอยู่ แต่ภาวะที่เป็นอยู่นี้ไม่ได้เท่ากับการ "มีชีวิต" และเลือกที่จะ "จัดการ" กับอุปสรรคในการมีชีวิตของเธอ (การนอน) ในท้ายที่สุด
"เมื่อ ###* เธอก็รีบล้มตัวลงนอนบนพื้น หัวเราะด้วยความปริ่มเปรมที่จะได้นอนหลับเสียที และในนาทีถัดมา เธอก็หลับสนิทราวกับคนตาย….”
โมเมนต์ที่เธอ "หลับสนิทราวกับคนตาย" อาจจะนำไปสู่ความตายทางชีวภาพของเธอจริง ๆ ก็ได้เมื่อเจ้านายมาพบว่าเธอได้ทำอะไรลงไป แต่สำหรับคนที่หายใจแต่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่แล้ว สิ่งนั้นดูเหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรนัก (อย่างน้อยก็ไม่ได้มีน้ำหนักเหนือความง่วงแน่ๆ)

* วาร์ก้ากระทำบางอย่าง ที่บอกไปจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องจนเกินไป — พารากราฟ

• หมายเหตุ: โพสต์ครั้งแรกโดย อ.สุธิดา วิมุตติโกศล ใน facebook ส่วนตัว
พารากราฟปรับปรุงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์เนื้อเรื่อง

สนใจ #โหยหานิทรารมณ์ หาซื้อได้ที่
G&E N01
บทจร N14
Solis Books Q05

กลับมาอีกครั้งกับ Top Pick by staff ของโซลิสที่ไม่ได้มีแค่เล่มเดียว (ฮ่า) สำหรับหนังสือจากเพื่อนบ้านในงานนี้ น้องแอดมินข...
05/04/2023

กลับมาอีกครั้งกับ Top Pick by staff ของโซลิสที่ไม่ได้มีแค่เล่มเดียว (ฮ่า)

สำหรับหนังสือจากเพื่อนบ้านในงานนี้ น้องแอดมินขอนำเสนอเล่มที่ 2 จาก The Murderbot Diaries นั่นก็คือเรื่อง "เผชิญสภาวะเทียม" จากสนพ. Saltread นั่นเองงง น้องบอตกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความตั้งใจอยากจะค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของตนเอง เล่มนี้มีตัวละครสุดฮาที่แน่นอนว่าจะได้รับความรักจากทุกคน นั่นก็คือเจ้าอาร์ต (ย่อมาจาก -ไอ้ ยาน วิจัย นรกแตก-) ซึ่งเป็นบอตยานลำเลียงผู้โดยสารที่น้องบอตตัวเอกของเราได้ขึ้นไปนั่นเอง

น้องแอดมินชอบตรงที่ลักษณะอัลกอริธึ่มของบอทต่างชนิดจะแตกต่างกันไป อย่างเจ้าบอตของเราก็จะชินชากับการตายของคนในความคุ้มครอง ทนความดื้อของมนุษย์ได้ แต่บอตยานอย่างเจ้าอาร์ตพอแค่ให้ดูซีรีส์ที่มีคนตาย เจ้าอาร์ตก็เริ่มยุกยิกหันหน้าเข้ากำแพงเพราะรับไม่ได้ ปกติลูกเรือของอาร์ตไม่ตายเหมือนในซีรีส์นี่!!! เพราะมันวิเคราะห์วงโคจรของดาวได้แบบเป๊ะๆ ไม่มีใครตายในอาร์ตหรอก!! ความโบ๊ะบ๊ะและแสนรู้ และขี้เจือก (บอตยานหรือหมาโบ้...) เป็นปัจจัยหลักที่ดำเนินเล่มนี้เลยค่ะ น้องบอตของเราได้เจอผู้คนใหม่ๆมากมายผ่านงานที่ได้รับมอบหมาย เริ่มเข้าใจ "ความรู้สึก" ของตัวเองมากขึ้น เรียนรู้ที่จะ "ต้องการ" แต่ก็ยังกลัวเวลาคนขอความคิดเห็นอยู่ดี

ประเด็นนี้น่าสนใจนะคะ บอตซึ่งเป็นสิ่งสร้างที่รู้สึก "อึดอัดใจ" กับการมีความคิดเห็นของตัวเอง

ใครชอบการเล่าเรื่องแบบแสบสันแถมเป็นการผจญภัยแบบสนุกๆ ในหนังสือขนาดย่อม น้องแอดมินแนะนำเลยค่ะ!!

แอดมินโซลิส

ที่อยู่

Bangkok
<<NOT-APPLICABLE>>

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 19:00
อังคาร 09:00 - 19:00
พุธ 09:00 - 19:00
พฤหัสบดี 09:00 - 19:00
ศุกร์ 09:00 - 19:00
เสาร์ 09:00 - 19:00
อาทิตย์ 09:00 - 19:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Solis Booksผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


ผู้จััดพิมพ์เผยแพร่ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด