
04/11/2024
ประกันสุขภาพ IPD กับ OPD ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนคุ้มค่าสุด ?
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มมาศึกษาข้อมูลประกันสุขภาพ จะต้องเจอกับคำศัพท์ 2 คำนี้บ่อยแน่ๆ นั่นคือ ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) และ ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ทั้งสองคำนี้คืออะไร? มีความสำคัญยังไงกับการเลือกซื้อประกันสุขภาพ แล้วควรจะเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์ คุ้มค่ากับตัวเราที่สุด ?
IPD ย่อมาจาก In-Patient Department
คือ ผู้ป่วยใน ที่ต้องนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลามากกว่า 6 ชั่วโมงเป็นต้นไป อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีอาการค่อนข้างรุนแรง เช่น การผ่าตัด อุบัติเหตุหนัก หรือโรคร้ายแรง
OPD ย่อมาจาก Out-Patient Department
คือ ผู้ป่วยนอก ที่เข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องนอนพัก เช่น ไข้หวัด ผดผื่น ท้องเสียอาหารเป็นพิษ อุบัติเหตุเล็กน้อย เข้ามาเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยรักษา ฉีดยา ทำกายภาพ และรับยากลับไปดูแลตัวเองที่บ้านได้
ทริกเลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้ง OPD และ IPD คุ้มค่าที่สุด !!
เพราะคนส่วนใหญ่เน้นความคุ้มครองแบบ IPD เพราะคิดว่าเจ็บป่วยแค่เล็กน้อย ใช้สวัสดิการเบื้องต้นที่มีก็เอาอยู่ จนมองข้ามความคุ้มครองแบบ OPD เพิ่มเติมไปด้วย แต่การรักษาพยาบาลที่แพงขึ้นถูกปี ทำให้ค่ารักษามักจะเกินวงเงินจนไปกระทบเงินเก็บ ต้องควักเงินสำรองจ่ายเองอยู่บ่อยครั้ง การเลือกทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้ง OPD และ IPD จึงเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์หลายๆ อย่าง เช่น
ครอบคลุมทุกอาการเจ็บป่วย ทั้งจากโรคภัยทั่วไป และการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุร้ายแรง
เสริมความคุ้มครอง ยุคนี้ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นทุกปี การทำประกันที่ครอลคลุมทั้ง IPD และ OPD ช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะ
ไม่ต้องสำรองจ่ายเอง หากรักษาในโรงพยาบาลเครือข่าย จะเจ็บป่วยแบบนอนโรงพยาบาล หรือรับยากลับบ้าน ก็อุ่นใจ
✨สนใจสอบถามเพิ่มเติมทักแชทตัวแทนยินดีให้บริการคะ😊