Weekend Magazine Eat well. Travel often. Live sustainably.

Where to find?
- Department stores - Restaurants - Coffee & Bakery Shops
- Hotels and Condominiums - Office Buildings
- Airports, Airlines and Airline Lounges - Credit Card Lounges
- AIS & DTAC - Showrooms - BTS - Many Organizations ,and many more..

เรารู้จักหลายคนที่กลัวการไปสปาหรือไปร้านนวดไทยมากๆ เพราะหลายคนยังติดกับภาพจำเดิมๆ ของร้านนวดแถวบ้านที่ค่อนข้างไม่สะดวกสบ...
14/02/2025

เรารู้จักหลายคนที่กลัวการไปสปาหรือไปร้านนวดไทยมากๆ เพราะหลายคนยังติดกับภาพจำเดิมๆ ของร้านนวดแถวบ้านที่ค่อนข้างไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร รวมถึงกลัวเจ็บตัวอีกต่างหาก แต่ตอนนี้ที่แถวเยาวราช-ทรงวาดมีโมเดิร์นไทยสปาเปิดใหม่ที่น่าไปลองมากๆ ในชื่อ ‘Klai (คลาย)’ ภายใต้คอนเซปต์การเป็น Thai Spa Heritage, Globally Reimaged ในแบบที่โดนเส้นเด็กเจนเนอเรชันใหม่ และหลายคนที่ยังมีอคติกับร้านนวดไทยนั่นเอง
ความเก๋อย่างหนึ่งของสปาแห่งนี้คือโลเคชัน ณ ใจกลางย่านที่รุ่มรวยไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมแบบไทย-จีน คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติและบรรดาชาวโลคัลมากหน้าหลายตา โดย Klai ได้เลือกนำตึกแถวเก่ามารีโนเวตใหม่ในดีไซน์แบบ Exotic Thai ออกแบบ 67 Studio มีการเจาะโถงกลางตึกให้มีสเปซสำหรับช่องแสงที่สาดลงมาจากชั้นบนสุด เพิ่มความโปร่งและบรรยากาศแสนอบอุ่นให้สปาแห่งนี้รู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในบ้านเพื่อน พร้อมดีไซน์ฟาซาดหน้าตึกที่สะดุดตาไม่เหมือนใคร
พื้นที่ของสปาแห่งนี้ถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน โดยแบ่งเป็นส่วนล็อบบี้และห้องรับแขกด้านหน้าที่ล้อมด้วยกระจก สามารถมองเห็นวิวย่านเยาวราชได้แบบเอกซ์คลูซีฟ บันไดด้านหน้าจะนำไปสู่ห้องนวดที่ชั้น 2 และ ชั้น 3 ซึ่งตกแต่งในแบบไทยโมเดิร์น มีบางห้องที่มีอ่างอาบน้ำส่วนตัว ส่วนบันไดเก่าที่ใจกลางตัวตึกจะเป็นส่วนของคาเฟ่และห้องนวดเท่าที่ถูกแยกสัดส่วนอย่างชัดเจน
นอกจากตัวสปาและห้องนวดที่ถูกดีไซน์มาเป็นอย่างดีแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้สปาแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น คือคอร์สนวดที่นำเอาศาสตร์การนวดโบราณอย่าง ‘ฤาษีดัดตน’ และ ‘เส้นประทานสิบ’ มาเล่าใหม่ในรูปแบบเข้าใจง่าย มินิมัล และไม่ซับซ้อน ผ่านคอร์สนวดที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัย โดยคอร์สซิกเนเจอร์มีตั้งแต่ Yued Klai ที่เป็นการยืดเส้นด้วยท่านวดโบราณ รวมถึง Yiap Klai ที่เป็นใช้เทคนิคการเหยียบเส้นแบบโบราณเพื่อคลายกล้ามเนื้อนั่นเอง
ไม่ใช่แค่ใส่ใจเรื่องรายละเอียดของคอร์สนวดที่อิงไปกับศาสตร์นวดไทยโบราณแล้ว ที่นี่ยังตั้งใจสร้างประสบการณ์ด้านสัมผัสทั้ง 5 ผ่านกลิ่นของน้ำมันหอมที่ใช้ รวมถึงออกแบบเครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่จะเสิร์ฟให้ลูกค้าดื่มก่อนและหลังคอร์สนวดอีกด้วย
Klai Thai Spa
เวลาทำการ ทุกวัน 10:00-23:00 น.
เรื่อง รุจิยาทร โชคสิริวรรณ
ภาพ ธนิศร วงษ์สุนทร

เรามาอัปเดต Gourmet Calendar ประจำสัปดาห์นี้ 14-22 กุมภาพันธ์ ว่าสัปดาห์นี้เราจะออกไปใช้เวลาช่วงวีกเอนด์ไปกับอะไรได้บ้าง...
14/02/2025

เรามาอัปเดต Gourmet Calendar ประจำสัปดาห์นี้ 14-22 กุมภาพันธ์ ว่าสัปดาห์นี้เราจะออกไปใช้เวลาช่วงวีกเอนด์ไปกับอะไรได้บ้าง มาอัปเดตกันว่ามีเมนูใหม่ ร้านอาหารใหม่ รวมถึงมื้ออาหารพิเศษและบาร์เทนเดอร์เทคโอเวอร์ อะไรกันบ้าง
ร้านเปิดใหม่สัปดาห์นี้มีร้าน Lawoi' ร้านใหม่ของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่ตั้งใจนำเสนอปลาไทยคู่กับสาเก นอกจากนี้ยังมี Restaurant I-Sang โดยเชฟ Steve Lee เชฟเจ้าของรางวัล Young Chef Award จากมิชลินไกด์ฮ่องกง-มาเก๊า ซึ่งเป็นอดีตเชฟของ Mingles ร้านมิชลิน 2 ดาว ในโซล รวมถึง Blue Café by Alain Ducasse คาเฟ่แห่งแรกของเชฟ Alain Ducasse
และอย่างที่ทราบว่าซีรีส์ดังอย่าง The White Lotus ซีซั่น 3 ที่มีลิซ่าร่วมแสดงจะเริ่มออนแอร์ ทาง Four Seasons Hotel Bangkok เลยทำ The White Lotus Afternoon Tea ชายามบ่ายที่อินสปายจากซีรีส์มาให้เราดื่ม ส่วน Anantara Siam Bangkok Hotel ทำ Daisy Garden Afternoon Tea ชายามบ่ายที่ไปคอลแลปกับน้ำหอม Marc Jacobs
นอกจากนี้ยังมี Pop Up Restaurant ร้านอาหารอินเดีย Yantra จากสิงคโปร์ รวมถึง Bar Takeover โดย Hope & Sesame Guangzhou ที่ Bar Us และ Carbonic Bar จากโซล ที่ AQUA Bar
เรื่อง: บัณฑิต ภิญโญวัฒนชีพ

สัปดาห์นี้เตรียมชวนเพื่อนไปเดินดูงานดีไซน์กันต่อกับ Bangkok Design Week 2025 ช่วงที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ย่านหลักอย่างพระน...
14/02/2025

สัปดาห์นี้เตรียมชวนเพื่อนไปเดินดูงานดีไซน์กันต่อกับ Bangkok Design Week 2025 ช่วงที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ย่านหลักอย่างพระนคร, บางลำพู​-ข้าวสาร แต่ถ้าใครอยากหากิจกรรมหวานๆ ในช่วงสัปดาห์แห่งความรักนี้อาจจะไปดูหนังรักบนดาดฟ้ากับ Skyline Film Bangkok หรือจูงมือกันไปดูโอเปร่าประจำปีจากสาขาขับร้องคลาสสิก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลก็น่าสนใจเช่นกัน

เรื่อง: ปฏัก พาโนมัย

ชวนชมการแสดงโอเปร่าประจำปีของสาขาขับร้องคลาสสิก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยปีนี้นำบทโอเปร่าของ Gian Carlo...
14/02/2025

ชวนชมการแสดงโอเปร่าประจำปีของสาขาขับร้องคลาสสิก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยปีนี้นำบทโอเปร่าของ Gian Carlo Menotti มาแสดง 2 เรื่องควบ
เรื่องแรกคือ The Medium (ร่างทรง) เรื่องราวสุดระทึกลึกลับของ ‘มาดามฟลอร่า’ หรือ ‘บาบา’ แม่หมอที่อ้างตนว่าสามารถสื่อสารกับโลกหลังความตายได้ กับ ‘โมนิก้า’ ลูกสาวผู้เป็นที่รักเพียงคนเดียวของเธอ และ ‘โทบี้’ เด็กหนุ่มใบ้ผู้น่าสงสาร มีบทเพลงคุ้นหูอย่าง Black Swan ที่ขับร้องโดยโมนิก้าและบาบา
อีกเรื่องคือ The Telephone เรื่องราวของคู่รัก ‘ลูซี่‘ หญิงสาวที่ชื่นชอบการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับเหล่าเพื่อนของเธอ และแฟนหนุ่ม ‘เบน’ ผู้ที่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอแต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเป็นความรักที่ทั้งตลกขบขัน และสนุกสนาน
The Medium และ The Telephone แสดงโดยนักศึกษาสาขาขับร้องคลาสสิก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมการบรรเลงดนตรีจากวง Mahidol Symphony Orchestra จะทำการแสดงระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา)
บัตรราคาเริ่มต้น 600 บาท ซื้อได้ที่ Ticketmelon

เรื่อง: ปฏัก พาโนมัย


JW Marriott ขยายรีสอร์ทแห่งที่ 2 ในมัลดีฟส์ โดย JW Marriott Kaafu Atoll Island เป็นรีสอร์ทลักชูรีในลากูนที่ใหญ่ที่สุดของ...
14/02/2025

JW Marriott ขยายรีสอร์ทแห่งที่ 2 ในมัลดีฟส์ โดย JW Marriott Kaafu Atoll Island เป็นรีสอร์ทลักชูรีในลากูนที่ใหญ่ที่สุดของ Kaafu Atoll ในทำเลที่ใกล้สนามบินนานาชาติ Velana เพียง 15 นาที
JW Marriott Kaafu Atoll Island ได้รับการออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่เน้นการการดูแลสุขภาพในแบบองค์รวมในบรรยากาศที่เงียบสงบที่ช่วยสร้างความสมดุลและฟื้นฟูร่างกาย มีวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ทั้งหมด 80 หลัง รวมถึงวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำเหนือน้ำ 47 หลัง โดยผสมผสานการออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลงานของสถาปนิกชื่อดัง Cuneyt Bukulmez จาก Atolye4N
วิลล่าแต่ละหลังตกแต่งในสไตล์กระท่อม 'Gedhoru' แบบดั้งเดิมของมัลดีฟส์ โดยมีหลังคาแบบคาจันและประตูสีเทอร์คอยส์ ผสมผสานการใช้ชีวิตในร่มและกลางแจ้งได้อย่างลงตัว ประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานเพื่อชมวิวมหาสมุทรได้แบบกว้างไกล ในขณะที่ห้องอาบน้ำเป็นแบบเปิดโล่งล้อไปกับสระว่ายน้ำส่วนตัว การออกแบบของรีสอร์ทยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้และหิน เป็นการยกย่องความงามตามธรรมชาติของประเทศเกาะแห่งนี้
นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ INVENA เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมและการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากกระแสน้ำที่เปลี่ยนแปลงและปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นกับประเทศเกาะต่างๆ จึงได้ริเริ่มสร้างโครงสร้างใต้น้ำชายฝั่งยาว 30 เมตร ที่ออกแบบร่วมกับ Self-Assembly Lab ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนของคลื่นและป้องกันการกัดเซาะชายหาด
ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทลักชูรีที่เคารพในการรักษาสิ่งแวดล้อมต่อมัลดีฟส์ ประเทศเกาะที่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์ แต่ถ้าพูดถึงผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้วที่นี่ก็ไม่เคยปล่อยผ่านเป็นอันขาด

เตรียมพบกับโรงแรมลักชูรีแห่งแรกในเครือ Minor Hotels แบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยในประเทศญี่ปุ่นได้เร็วๆ นี้ หลังจากที่ทาง บริษ...
14/02/2025

เตรียมพบกับโรงแรมลักชูรีแห่งแรกในเครือ Minor Hotels แบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยในประเทศญี่ปุ่นได้เร็วๆ นี้
หลังจากที่ทาง บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Minor Hotels และ Royal Holdings Co., Ltd. ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้ลงนามร่วมทุนขยายตลาดโรงแรมลักชูรีและไลฟ์สไตล์ในประเทศญี่ปุ่น
โดยทั้ง 2 บริษัท ร่วมมือกันในรูปแบบบริษัทร่วมทุนสัดส่วน 50:50 ในชื่อ Royal Minor Hotels Co., Ltd. ซึ่งการร่วมทุนนี้จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2568 โดยตั้งเป้าบริหารจัดการโรงแรมภายใต้ 3 แบรนด์ ได้แก่ Anantara, Avani และ Tivoli โดยวางเป้าขยายพอร์ตโฟลิโอทั่วประเทศญี่ปุ่นให้ครบ 21 แห่ง ภายในปี 2578
เมื่อถามว่าทำไม Minor Hotels จึงจับมือกับ Royal Holdings Co., Ltd. ก็ต้องบอกว่านี่คือ บริษัทที่ประสบความสำเร็จในการบริหาร Richmond Hotels มากกว่า 43 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น จึงมีความเข้าใจในตลาดท้องถิ่นมากกว่า เมื่อจับมือกับ Minor Hotels ที่มีประสบการณ์ในระดับโลก ก็จะสามารถนำประสบการณ์การพักผ่อนระดับลักชูรีผสมผสานเข้ากับเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น
เราคงต้องรอดูกันว่าจะมีโรงแรม Anantara, Avani และ Tivoli เกิดขึ้นในโลเคชั่นไหนของประเทศญี่ปุ่นบ้าง ภายใน 1-2 ปีนี้

Bangkok Design Week 2025 ช่วงที่ 2 กำลังจะเริ่มขึ้นสุดสัปดาห์นี้แล้วที่ย่านพระนคร, บางลำพู​-ข้าวสาร และพื้นที่อื่นๆ ซึ่ง...
13/02/2025

Bangkok Design Week 2025 ช่วงที่ 2 กำลังจะเริ่มขึ้นสุดสัปดาห์นี้แล้วที่ย่านพระนคร, บางลำพู​-ข้าวสาร และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งมีจุดจัดแสดงไฮไลต์เป็น ‘ห้างนิวเวิลด์’ (New World) ห้างร้างย่านบางลำพูที่เคยเข้าร่วมกับเทศกาลเมื่อ 2022
การกลับมารอบนี้ห้างนิวเวิลด์มีทั้งหมด 3 โปรแกรม นำโดยกิจกรรม ‘ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารบางลำพู: คำเล็ก เรื่องใหญ่’ ที่ชวนทุกคนไปชิมของอร่อยจากย่านบางลำพูซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่เชื่อมโยงทั้งวิถีชีวิต ความเชื่อ และเรื่องราวของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน มีตั้งแต่ข้าวแช่แบบชาววังไปจนถึงสตรีตฟู้ด นอกจากจะมีอาหารให้ชิมแล้ว ภายในงานยังมีการจัดแสดงศิลปะที่สร้างสรรค์มาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวและวัฒนธรรมของย่านเก่าแก่แห่งนี้
กิจกรรม ‘ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารบางลำพู: คำเล็ก เรื่องใหญ่’ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ วันละ 3 รอบ จำกัดผู้เข้าร่วมรอบละ 20 คน มีค่าใช้จ่ายคนละ 399 บาทและต้องลงทะเบียนล่วงหน้า ตอนนี้เหลือที่ว่างไม่มากแล้วใครไม่อยากพลาดต้องรับแล้ว ซื้อบัตรและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Ticketmelon
นอกจากนั้นก็ยังมี 2 นิทรรศการที่เปิดให้เข้าชมฟรี ได้แก่ นิทรรศการ New World New Chapter โดย Sonjai House ที่บอกเล่าเรื่องราวของห้างนิวเวิลด์ แห่งย่านบางลำพู ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และนิทรรศการภาพถ่าย Grit & Glow Street Photo Exhibition: Bang Lamphu x Peckham โดย SUTO ที่จะพาเราไปดูความเปลี่ยนแปลงและความไม่เปลี่ยนแปลงใน 2 พื้นที่เมืองที่แตกต่าง ได้แก่ ย่านบางลำพู ในกรุงเทพฯ และย่านเพคแฮม ในลอนดอน
Bangkok Design Week 2025 ช่วงที่ 2 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านพระนคร, บางลำพู​-ข้าวสาร และพื้นที่อื่นๆ

เรื่อง: ปฏัก พาโนมัย
ภาพ: Bangkok Design Week

ปากคลองตลาดถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการพัฒนาย่านด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี จนทุกวันนี...
13/02/2025

ปากคลองตลาดถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการพัฒนาย่านด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี จนทุกวันนี้ใครไปปากคลองตลาดนอกจากจะได้ดอกไม้ติดมือกลับบ้านแล้วก็อาจจะได้ชมงานศิลปะเป็นของแถมด้วย โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีงาน Bangkok Design Week 2025 ซึ่งปากคลองตลาดคือหนึ่งในย่านหลักของการจัดงานด้วย
ปีนี้โปรแกรมที่ปากคลองตลาดน่ารักตรงที่นำไอเดียงานออกแบบต่างๆ มาบวกเข้ากับวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนขายดอกไม้ เช่น โปรแกรม Bloom Riders ที่นำไฟแอลอีดีเส้นมาติดตามรถเข็นดอกไม้กับเสื้อกั๊กคนเข็นเพื่อให้ทุกคนมองเห็น ช่วยได้ทั้งเรื่องเพิ่มความปลอดภัย และยังปรับภาพลักษณ์ของคนเข็นดอกไม้ให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น โดยไฟแอลอีดีเส้นที่นำมาติดถูกออกแบบให้เป็นลายดอกไม้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Blossom Shop Front ที่ช่วงนี้เจ้าของร้านจะตกแต่งหน้าร้านสวยเป็นพิเศษเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week 2025 และเป็นการฉลองเดือนแห่งความรักด้วย
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือดาราสาวคนใหม่ประจำย่านอย่าง ‘น้องดอก’ มาสคอตดอกไม้ที่เป็นการออกแบบของกลุ่มนักออกแบบ SUTO และ Humans of Flower Market by ArchSU ที่ได้หารือและทำงานร่วมกับกลุ่มร้านค้าในพื้นที่ โดยในช่วงงาน Bangkok Design Week 2025 ทุกคนสามารถไปหาน้องดอกได้ที่ลานสวน 15 นาที ริมคลองคูเมืองเดิม (MRT สนามไชย ทางออก 4) และสำหรับ 100 คนแรกของทุกวันที่ถือช่อดอกไม้ไปด้วย น้องดอกจะมีสติกเกอร์ข้อความให้กำลังใจให้ด้วย
อีกหนึ่งผลงานไฮไลต์ที่ย่านปากคลองปากคลองอยู่ที่อาคารไปรสนียาคารซึ่งปีนี้จัดนิทรรศการ Immersive Flower Experience ชวนทุกคนไปเรียนรู้ภาษาดอกไม้ ด้วยการทำแบบสอบถามสั้นๆ ผ่าน Web App เกี่ยวกับความในใจที่อยากบอกคนสำคัญ เสร็จแล้วก็จะตีความคำตอบของเราเป็นดอกไม้แล้วฉายลงบนตัวอาคารด้านหน้าด้วยเทคนิค Interactive Projection Mapping และยังมีจุดจัดอื่นๆ ทั่วย่านปากคลองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น
1. ตลาดยอดพิมาน
2. ร้าน Flower Land ริมถนนจักรพงษ์
3. ร้าน Ohh คุณพระ
4. ซอยข้างโรงเรียนราชินี
5. มิวเซียมสยาม
6. ร้าน Flower in the Mist
7. บ้านจักรพงษ์
8. เนื้อหอมคาเฟ่
Bangkok Design Week 2025 จะจัดขึ้น 2 ช่วง ดังนี้
8-16 กุมภาพันธ์ ที่ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย, เยาวราช-ทรงวาด, ปากคลองตลาด และพื้นที่อื่นๆ
15-23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านพระนคร, บางลำพู​-ข้าวสาร และพื้นที่อื่นๆ
สำหรับย่านหัวลำโพง, บางโพ และพื้นที่อื่นๆ จะจัดแสดงดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program

เรื่อง/ภาพ: ปฏัก พาโนมัย

เปิดพรุ่งนี้วันแรก! โซนหลักโซนใหม่ ใหญ่บึ้มๆ ใน Universal Studios Singapore ที่รีสอร์ตเวิลด์เกาะเซ็นโตซ่า กับ ‘Illuminat...
13/02/2025

เปิดพรุ่งนี้วันแรก! โซนหลักโซนใหม่ ใหญ่บึ้มๆ ใน Universal Studios Singapore ที่รีสอร์ตเวิลด์เกาะเซ็นโตซ่า กับ ‘Illumination’s Minion Land’ อาณาจักรมินเนียนที่มีโซนด้านในที่ไม่เหมือนกับที่ญี่ปุ่น
บอกเลยว่าจุดนี้เหล่าทาสมินเนี่ยนและแฟนคลับมิสเตอร์กรูเตรียมพุ่งตัวไปด่วนๆ เพราะตอนนี้ที่ยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์เขามีอาณาจักรมินเนี่ยนเป็นของตัวเองแล้ว หลังจากที่แต่ก่อนจะมีแค่ชอปซื้อของที่ระลึกและตัวคาแรกเตอร์มินเนี่ยกับคุณกรูออกมาเดินให้ต่อคิวถ่ายรูปเท่านั้น
ไฮไลต์พิเศษของอาณามินเนี่ยน Illumination’s Minion Land ที่สิงคโปร์ คือโซนย่อยของตัวเองในชื่อ ‘Super Silly Fun Land’ ที่จะไม่เหมือนกับที่ญี่ปุ่น โดยภายในโซนนี้จะมีเครื่องเล่น 2 เครื่อง คือ Silly Swirly ที่เป็นรถไฟเหาะตีลังกาหลายตลบ ที่เราจะสามารถเห็นวิวสวนสนุกมุมสูงพร้อมกับลากูนขนาดใหญ่ของรีสอร์ตเวิลด์เซ็นโตซ่าได้เลย
และอีกเครื่องคือ Buggie Boogie ที่เป็นม้าหมุนธีมปาร์ตี้มินเนียนแดนซ์ มีที่นั่งเป็นรูปเหล่าสัตว์ประหลาดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูน Despicable Me ซึ่งถือเป็นม้าหมุนดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่มาอยู่ใน Universal Studios Singapore เป็นแห่งแรกของโลกเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีเครื่องเล่น Despicable Me Minion Mayhem อยู่ในบ้านมิสเตอร์กรู ที่เราจะได้พบกับทุกคาแรกเตอร์ออกมาปรากฎโฉม ทั้งมาร์โก อีดิธ และแอ็กเนส พร้อมๆ กับผู้ปกครองทั้งสองคนคือกรูและลูซี่อีกด้วย
โซน Illumination’s Minion Land เปิดให้เข้าเล่นพร้อมกัน 14 ก.พ. 68 (พรุ่งนี้แล้ว!) ที่ Universal Studios Singapore, Resorts World Sentosa
เช็คราคาบัตรได้ที่ https://www.rwsentosa.com/en/play/universal-studios-singapore
เรื่อง รุจิยาทร โชคสิริวรรณ
ภาพ Universal Studios Singapore

สายการบิน Korean Air คว้ารางวัล Airline of the Year 2025 จาก Airline Ratings ในฐานะที่เป็นสายการบินที่ดีที่สุดทั้งเรื่อง...
13/02/2025

สายการบิน Korean Air คว้ารางวัล Airline of the Year 2025 จาก Airline Ratings ในฐานะที่เป็นสายการบินที่ดีที่สุดทั้งเรื่องความปลอดภัยและการบริการที่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร
Airline Ratings เป็นเว็บไซต์แรกในโลกที่จัดอันดับความปลอดภัยให้กับสายการบินมากกว่า 358 สายการบินทั่วโลก โดยรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมพิจารณาจากคำติชมของนักเดินทาง บทวิจารณ์ของบรรณาธิการ ตัวเลือกผลิตภัณฑ์โดยรวม ความสม่ำเสมอของการใช้บริการ นวัตกรรม และคำสั่งซื้อฝูงบินล่วงหน้า รวมถึงความมั่นคงทางการเงินก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณา
นอกจากความปลอดภัยแล้ว การมอบการบริการที่สะดวกสบายให้กับผู้โดยสารก็เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา ซึ่งในปีนี้ Airline Ratings ยังเพิ่มรางวัลในส่วนของ Full Service Airlines, Hybrid Airlines และ Low Cost Airlines ที่มอบให้สายการบินทั่วโลก
โดยในปีนี้ Korean Air คว้ารางวัล Airline of the Year 2025 ควบกับรางวัลอันดับ 1 ของรางวัลประเภท Full Service Airlines for 2025 เรียกว่า เป็นสายการบินที่ดีที่สุดโนโลก ได้อย่างสมบูรณ์ โดยทาง Airline Ratings ให้ความเห็นว่า Korean Air ให้ความสำคัญตั้งแต่การให้บริการผู้โดยสารชั้นประหยัด ด้วยการออกแบบที่นั่งชั้นประหยัดที่กว้างขวางที่สุดในโลก ซึ่งถือว่าหายากในอุตสาหกรรมการบินปัจจุบัน ผู้โดยสารบนเที่ยวบินระยะกลางถึงระยะไกลยังได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ เช่น รองเท้าแตะ ปริมาณอาหารที่เยอะ เมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ
Korean Air ยังมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจ จากการควบรวมกิจการกับ Asiana Airlines ซึ่งเป็นการรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของเอเชีย รวมถึงการลงทุนกับฝูงบินที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี
สำหรับ การบินไทย ติดในอันดับที่ 17 ของ Top 25 Full Service Airlines for 2025 โดยมีอันดับ 2 Qatar, อันดับ 3 Air New Zealand, อันดับ 4 Cathay Pacific, อันดับ 5 Singapore Airlines, อันดับ 6 Emirates, อันดับ 7 Japan Airlines, อันดับ 8 Qantas, อันดับ 9 Etihad และ อันดับ 10 Turkish Airlines
ส่วนรางวัล Top 20 Hybrid Airlines for 2025 ได้แก่ อันดับ 1 Jetblue, อันดับ 2 Westjet, อันดับ 3 Virgin Australia, อันดับ 4 Delta Airlines, อันดับ 5 United
และรางวัล Top 20 Low Cost Airlines for 2025 ได้แก่ อันดับ 1 AirAsia, อันดับ 2 Jetstar, อันดับ 3 AirBaltic, อันดับ 4 HK Express, อันดับ 5 Easyjet
ภาพ: Korean Air

Explora Journeys แบรนด์การเดินทางทางทะเลของ MSC Group เปิดตัว Grand Journeys ซีรีส์การเดินทางสุดพิเศษในปี 2025 และ 2026 ...
13/02/2025

Explora Journeys แบรนด์การเดินทางทางทะเลของ MSC Group เปิดตัว Grand Journeys ซีรีส์การเดินทางสุดพิเศษในปี 2025 และ 2026 โดยในปีนี้เน้นเปิดจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมไป ควบคู่ไปกับประสบการณ์บนแผ่นดินที่ดื่มด่ำเจาะลึกวัฒนธรรมในท้องถิ่น
Grand Journeys ประกอบด้วยห้องชุดที่มีขนาดตั้งแต่ 35-280 ตารางเมตร เฟอร์นิเจอร์หรูหราจากแบรนด์ Molteni และ Minotti ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และทุกห้องมีระเบียงริมทะเล นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารรวม 9 แห่งให้เลือก พร้อมโปรแกรมการทำอาหารที่เข้มข้น และไฮไลต์การรับประทานอาหารในสถานที่หรูหรา อย่าง Anthology, Sakura และ Fil Rouge รวมถึงการชิมเครื่องดื่ม พร้อมไกด์นำเที่ยว และเวิร์กช็อปแบบลงมือทำจริงที่ Chef’s Kitchen
สำหรับโปรแกรมใหม่ล่าสุดของปี 2025 ยังอยู่ที่โปรแกรม ‘Ocean Wellness’ ที่ให้ลูกค้าได้มาพักผ่อนฟื้นฟูสมดุลด้วยโปรแกรมต่างๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ บนเรือ เช่น การทำสมาธิเพื่อการบำบัดด้วยจักระ และการอาบน้ำ Gong Baths ภายใต้แสงดาวกลางมหาสมุทร รวมถึงพิธีกรรมของ The Spa ที่ผสมผสานการบำบัด การออกกำลังกาย และความงาม
สำหรับเส้นทางการเดินทางในปีนี้ ได้แก่ From Caribbean Coves to Iberian Charms 21 คืน บนเรือ Explora II วันที่ 7-28 มีนาคม, From Bomba Carib Beaches to Castanets of Spain 20 คืน บนเรือ Explora II วันที่ 14 มีนาคม-3 เมษายน, Bridging America, Azore Isles & Catalonia 16 คืน บนเรือ Explora I วันที่ 2-18 เมษายน, From Andalusian Shores to Coral-Laden Lagoons 13 คืน บนเรือ Explora I วันที่ 27 ตุลาคม-9 พฤศจิกายน และ From Levely Latin Charm & Tropical Delights to Modernist Marvels 13 คืน บนเรือ Explora I วันที่ 9-25 มีนาคม
นอกจากนี้ Explora Journeys ยังมีแผนเตรียมเปิดตัวเรือ Explora III ที่เริ่มให้บริการในปี 2026, Explora IV ในปี 2027 โดยเรือทั้งสองลำใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ ส่วน Explora V และ Explora VI เริ่มให้บริการในปี 2027 และ 2028 ตามลำดับ

กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสถานที่ที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยความสวยงามและเรื่องราวภูมิหลังอันน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ส...
12/02/2025

กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสถานที่ที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยความสวยงามและเรื่องราวภูมิหลังอันน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม สวนเขียวชอุ่ม หรือหอศิลป์กลางเมืองก็ดี และเราเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้เห็นความงามได้ฟังความหลังของหลายๆ ที่แล้วจากการแวะไปเยือนตามโอกาส แต่มีประสบการณ์อีกรูปแบบนึงที่น่าสนใจพอๆ กับการได้ไปเที่ยวชม นั่นคือการ ‘ดื่ม’ รสชาติของสถานที่เหล่านั้น
เกือบสองปีก่อน ABar Rooftop ที่โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เปิดตัวซิกเนเจอร์ค็อกเทลชื่อ Districts of Bangkok โดยหยิบองค์ประกอบของแลนด์มาร์กประจำย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ มาตีความเป็นเครื่องดื่ม และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งปล่อย Districts of Bangkok Vol.2 ออกมาซึ่งเป็นการขยายแผนที่ไปสู่ย่านใหม่เพื่อพาเราไปลิ้มลองรสชาติของดีอย่างทั่วถึงมากขึ้น
จุดหมายแรกคือ ‘ตึกเหลืองกระทรวงกลาโหม’ แถวสนามหลวง ถูกตีความเป็นค็อกเทลชื่อ Hello Yellow สีเหลืองของแก้วนี้มาจากผลไม้เมืองร้อน 3 ชนิด ได้แก่ มะม่วง สับปะรด และกล้วย โดยนำเนื้อของผลไม้ทั้ง 3 อย่างมาคั้นรวมกันเพื่อเอาน้ำไปทำไซรัป เนื้อที่เหลือก็นำไปอบแห้งสำหรับตกแต่งซึ่งตอนเสิร์ฟจะโรยพริกเกลือด้วย รสชาติของแก้วนี้จึงมีความคล้ายกับการกินผลไม้จิ้มพริกเกลือ ส่วนเปลือกจะถูกนำไปซูวีกับเหล้ารัม เป็นค็อกเทลที่ใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างคุ้มค่าเพื่อลดการทิ้งขยะ
จากนั้นมาดื่มด่ำความงามของพระบรมบรรพต หรือ ‘ภูเขาทอง’ แห่งวัดสระเกศฯ ผ่านค็อกเทลชื่อ Golden Mountain ที่หลอมรวมอัตลักษณ์ของภูเขาทองและบรรยากาศงานวัดไว้ในแก้วเดียวโดยใช้เหล้าวิสกี้แช่กับชาคาโมมายล์ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งรูปทรงเพชรซึ่งด้านบนปิดด้วยแผ่นทองคำเปลว ดื่มคู่กับแคร็กเกอร์ข้าวหลามอบกรอบ
ต่อด้วยแลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง ‘พระปรางค์วัดอรุณฯ’ ที่ถูกตีความเป็นค็อกเทลชื่อ Come Dawn ตั้งใจให้พ้องกับคำว่า ‘คำดอน’ เพื่อสื่อถึงความเป็นไทย และยังได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติของชื่อวัดซึ่งเดิมทีชื่อ ‘วัดมะกอกนอก’ แต่เปลี่ยนเป็น ‘วัดแจ้ง’ ในยุคพระเจ้าตากสินมหาราชที่มีการย้ายราชธานีมาอยู่กรุงธนบุรี และพระองค์เสด็จถึงวัดมะกอกนอกตอนรุ่งเช้าพอดี
คำดอนนำด้วยเหล้าจินที่ถูกเติมแต่งรสชาติและกลิ่นด้วยแตงโมตามด้วยโทนิก เสริมความรู้สึกสดชื่นด้วยแผ่นน้ำตาลไอโซมอลต์ที่มีส่วนผสมของผิวผลไม้ตระกูลซิตรัสอย่างเลมอน มะนาว และส้ม ออกแบบเป็นทรงกลมคล้ายพระอาทิตย์ดวงโตในยามเช้า
แก้วถัดมาคือ Monkey Cheeks ได้แรงบันดาลใจจาก ‘อุทยาน 100 ปีจุฬาฯ’ ย่านบรรทัดทอง ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ ‘แก้มลิง’ หรือพื้นที่รับน้ำของกรุงเทพฯ ชั้นใน เครื่องดื่มสีใสแก้วนี้จึงอัดแน่นด้วยรสชาติและกลิ่นที่ชวนนึกถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์โดยมีเหล้าเมซคาลเป็นตัวนำ
ความน่าสนใจอีกอย่างของ Monkey Cheeks คือแก้วเซรามิกทรงหยดน้ำที่ออกแบบตามลักษณะตัววีของพื้นที่แก้มลิง ผลิตจากเปลือกหอยนางรมเหลือใช้จากห้องอาหารของโรงแรม ผิวแก้วด้านในมีสีเขียวเพื่อสื่อถึงความเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ที่คอยหล่อเลี้ยงเมืองซึ่งถูกแทนด้วยสีขาวกับสีดำบนผิวแก้วด้านนอก
ใครชอบไปนั่งจิบกาแฟและชมงานศิลปะที่หอศิลปกรุงเทพฯ เราแนะนำแก้วที่ชื่อว่า The Art Centre ค็อกเทลเตกิลาที่มีส่วนผสมของกาแฟและเปลือกโกโก้ เพิ่มความละมุนด้วยโฟมผสมสาหร่ายสไปรูลินาสีฟ้า โรยด้วยผงสีเหลืองจากมะม่วงและผงสีแดงจากสตรอวเบอร์รี
ตบท้ายด้วย Boat Noodle เสิร์ฟรสชาติ ‘ก๋วยเตี๋ยวเรือ’ แห่งย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในรูปแบบเครื่องดื่มที่ใช้เหล้าจินเป็นหลัก เพิ่มกลิ่นอายก๋วยเตี๋ยวเรือด้วยอะโรมาออยล์ที่ทำจากใบโหระพาปั่นรวมกับน้ำมันกระเทียมเจียว ตกแต่งด้วยบะหมี่กรอบและเสิร์ฟในชามตราไก่ลายดอกไม้ใบจิ๋วแบบเดียวกับที่เรียงสูงเป็นคอนโดอยู่ตามร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ
นอกจากเครื่องดื่มใหม่ทั้ง 6 แก้วแล้ว Districts of Bangkok Vol.2 ยังประกอบด้วยเครื่องดื่มชุดเดิมที่เป็นแก้วขายดีอีก 6 แก้ว ใครอยากเปิดประสบการณ์เที่ยวทั่วกรุงเทพฯ ในคืนเดียวต้องแวะไปลอง บาร์เทนเดอร์พร้อมเสิร์ฟทั้งเหล้าและเรื่องเล่า
ABar Rooftop อยู่บนชั้น 37 โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen's Park เปิดทุกวัน 17.00 - 01.00 น.

เรื่อง: ปฏัก พาโนมัย
ภาพ: ธนิศร วงษ์สุนทร

Choco Project คือโปรเจกต์ร้านช็อกโกแลตแบบป๊อปอัปที่มีคอนเซปต์คือการเปลี่ยนโลเคชันไปตามที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะ...
12/02/2025

Choco Project คือโปรเจกต์ร้านช็อกโกแลตแบบป๊อปอัปที่มีคอนเซปต์คือการเปลี่ยนโลเคชันไปตามที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพิกัดสแตนอโลนฮิปๆ เท่ๆ ที่ยังไม่แมสมาก และไม่ใช่บนห้าง อย่างก่อนหน้านี้เขาก็เคยไปเปิดบนตึก The Corner House ที่เจริญกรุงมาแล้ว
โดยความพิเศษคือถึงแม้จะเป็นร้านป๊อปอัปที่อยู่แค่เพียงเดือนเดียว แต่เขาก็ทำถึงเรื่องการตกแต่งสถานที่ในทุกโลเคชัน โดยเฉพาะการใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นสีเงินสแตนเลสที่คอลแลบร่วมกับแบรนด์ Oh!dinary ซึ่งจะถูกออกแบบและสั่งผลิตใหม่ทุกครั้งตามธีมในแต่ละรอบ
ในครั้งนี้เป็น Choco Project Vol.5 ซึ่งหมายถึงทีมนี้เขาย้ายบ้านกันมา 5 รอบแล้ว (เหนื่อยแทน) โดยโลเคชันในรอบนี้เป็นสตูดิโอเก่าย่านเอกมัย ซึ่งเขาก็เลือกออกแบบเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งด้านในให้เป็นธีม Parisian Table Setting ในโทนสีขาว-เงิน พร้อมจัดวางเซ็ตขนมและช็อกโกแลตจากเมนูของที่ร้าน สำหรับสายอินสตาแกรมให้ได้ถ่ายรูปกันฉ่ำๆ พร้อมสั่งทำชุดเก้าอี้พิเศษสแตนเลสแบบพิเศษสำหรับมุมถ่ายรูปในโซนหน้าร้านด้วย
นอกจากช็อกโกแลตเย็นความเข้ม 3 ระดับที่เป็นซิกเนเจอร์แต่ดั้งเดิมของที่นี่แล้ว มา Vol.5 ครั้งนี้เขาก็มีการเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่อย่าง Choco Cha-thai (190 บาท) ที่ให้ฟีลเหมือนดื่มช็อกโกแลตเย็นแต่มีอาฟเตอร์เทสต์เป็นรสชาไทย
ส่วนขนมหวานตัวใหม่ที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดของคาเฟ่ป๊อปอัปแห่งนี้คือ Triple Chocolate Layers (245 บาท) เค้กช็อกโกแลตที่ถูกทำเป็นชั้นๆ ราดด้วยซอสช็อกโกแลตเข้มข้นถึง 3 แบบ คือไวต์ช็อกโกแลต มิลก์ช็อกโกแลต และดาร์กช็อกโกแลต ส่วนชั้นล่างเป็นครัมเบิ้ลช็อกโกแลตอีกที เรียกได้ว่ามีช็อกโกแลตอยู่ในทุกองค์ประกอบ ซึ่งถ้ามองเผินๆ อาจจะคิดว่าเมนูนี้ต้องหวานเจี๊ยบแน่ๆ แต่จริงๆ แล้วไม่หวานเลย แถมยังเข้มข้นจนกินคนเดียวไม่หมดแน่นอน
Choco Project Vol.5 ชั้น 2 Forever Changing (เวิ้งร้าน Tuba) ซ.เอกมัย 21
เปิดทุกวันตั้งแต่วันนี้ - 23 ก.พ. 68 เท่านั้น เวลา 10:00-18:00 น.
เรื่อง รุจิยาทร โชคสิริวรรณ
ภาพ ธนิศร วงษ์สุนทร

หลังจากเปิดตัว ‘Evrima’ ที่รองรับแขกได้ 298 คน ในปี 2021 และ ‘Ilma’ ที่รองรับแขกได้ 448 คน ในปี 2024 ล่าสุด ‘The Ritz-Ca...
12/02/2025

หลังจากเปิดตัว ‘Evrima’ ที่รองรับแขกได้ 298 คน ในปี 2021 และ ‘Ilma’ ที่รองรับแขกได้ 448 คน ในปี 2024 ล่าสุด ‘The Ritz-Carlton Yacht Collection’ เปิดตัวเรือยอชต์ลำใหม่ ‘Luminara’ ซึ่งเรือลำนี้กลายเป็นเรือที่รองรับแขกได้มากที่สุดในคอลเลคชั่น 452 คน พร้อมเปิดตัวเส้นทางเดินเรือใหม่
เรือ Luminara เตรียมออกเดินทางสู่เส้นทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ก่อนที่จะขยายเส้นทางใหม่ไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงปลายปี 2025 ตามด้วยอลาสก้า กลางปี 2026 โดยเส้นทางในเอเชีย จะผ่านจุดหมายปลายทางยอดนิยม อาทิ โตเกียว, โอซาก้า, โซล, ฮาลองเบย์ และเมืองอื่น ๆ รวมถึงกรุงเทพฯ พร้อมด้วยบริการระดับ 5 ดาว ของ The Ritz-Carlton Yacht Collection ผู้นำด้านลักชูรียอชต์ระดับโลกที่นำเสนอการเดินทางทางทะเล พร้อมการบริการจาก The Ritz-Carlton
อะไรคือจุดเด่นของเรือของ The Ritz-Carlton Yacht Collection ได้แก่ Marina Platform บริเวณท้ายเรือที่สามารถลงทะเลได้โดยตรง, ห้องพักทั้งหมดบนเรือเป็นห้อง Suite ที่มีระเบียงส่วนตัว พร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามา, ห้องอาหารที่หลากหลาย ทั้ง Fine dining และ Casual dining, บริการมาตรฐาน The Ritz-Carlton โดย The iconic “Ladies and Gentlemen of the Ritz-Carlton” ที่มีสัดส่วนของพนักงานต่อผู้โดยสาร เกือบ 1 ต่อ 1, เส้นทางล่องเรือที่หลากหลาย, เข้าถึงจุดหมายที่เรือขนาดใหญ่เข้าไม่ได้ และสามารถสะสมหรือแลกคะแนน Marriott Bonvoy ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.ritzcarltonyachtcollection.com/yachts

ถ้าใครจำนิทรรศการ ‘ไข่แมว’ ที่ฮิตมากๆ ช่วงปีที่แล้วได้ ปีนี้ก็ไม่ควรพลาดที่จะกลับไปร่วมนิทรรศนี้อีกครั้งที่หอศิลป์เพาะช่...
12/02/2025

ถ้าใครจำนิทรรศการ ‘ไข่แมว’ ที่ฮิตมากๆ ช่วงปีที่แล้วได้ ปีนี้ก็ไม่ควรพลาดที่จะกลับไปร่วมนิทรรศนี้อีกครั้งที่หอศิลป์เพาะช่าง ซึ่งเขาจัดกลับมาจัดเฉพาะในช่วงงาน Bangkok Design Week 2025 ตั้งแต่วันที่ 15-23 ก.พ. 68 เท่านั้น
‘จรจัดสรร’ หรือ Stand for Strays คือหนึ่งในงานเพื่อสังคมที่ถูกออแบบกมาให้อยู่ภายใต้คอนเซปต์การใช้ศิลปะเป็นสื่อกลาง เพื่อให้คนทั่วไปตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการทำหมันหมาและแมวจร (ที่คนมักเรียกว่าพาแมวไปตัดไข่นั่นแหละ) เพื่อลดการเพิ่มจำนวนและสร้างปัญหาต่อสังคมในอนาคต ทำให้นิทรรศการนี้เลือกใช้ ‘อัณทะแมว’ หรือไข่แมว มาเป็นกิมมิกในการสร้างงานศิลปะเพื่อเข้าถึงทุกคนอย่างตรงเป้า
ในปีนี้นิทรรศการศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจจากไข่แมวกลับมาอีกครั้ง พร้อมเพิ่มเพื่อนเป็นนิทรรศการไข่หมาสำหรับหมาจรโดยเฉพาะด้วย โดยจะแบ่งช่วงเวลาจัดแสดงงานแยกกัน คือวัน 15-20 ก.พ. 68 ที่จะเป็นนิทรรศการในชื่อ ‘อัณฑะเหมียว’ สำหรับเหล่าทาสแมว และวันที่ 21-23 ก.พ. 68 ที่จะเป็นนิทรรศการในชื่อ ‘หมาน้อยธรรมดา’ สำหรับเหล่าทาสหมา
ไฮไลต์ของนิทรรศการทั้งสองคือภาพวาดจากศิลปะทั่วประเทศที่ได้แรงบันดาลใจมาจากไข่แมวและไข่หมา ซึ่งจะถูกนำมาจัดแสดงและร่วมประมูลเพื่อหารายได้สำหรับทำหมันหมา-แมวจรจัดโดยเฉพาะ
ที่น่ารักมากๆ คือช่วงงาน ‘อัณฑะเหมียว’ เขาก็จะมีการปล่อยเจ้าเหมียวออกมาเดินโชว์ตัวตกเหล่าทาสทั่วแกลเลอรี่ ส่วนระหว่างงาน ‘หมาน้อยธรรมดา’ ผู้ร่วมงานก็ได้เกาพุงหมาน้อยจรจัดกันแบบฟินๆ โดยทั้งนี้ผู้ร่วมงานสามารถรับอุปการะแมวและหมาจรทุกตัวในงานได้เลย เรียกว่าเป็นการหาบ้านให้น้องหมา-น้องแมวผ่านนิทรรศการศิลปะที่เข้าถึงทาร์เก็ตกรุ๊ปได้อย่างแนบเนียนสุดๆ
แวะไปดูงานศิลปะพร้อมลูบพุงและให้ความรักกับเหล่าเจ้าเหมียวเจ้าหมาไร้บ้านกันได้แบบฟีลกู้ดที่หอศิลป์เพาะช่าง วันที่ 15-23 ก.พ. นี้ ตั้งแต่เวลา 10:30-18:00 น. เข้าร่วมงานฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/109694
เรื่อง รุจิยาทร โชคสิริวรรณ
ภาพ จรจัดสรร Stand for Strays

มาตรา 69 ใน พ.ร.ก. ประมง 2558 กำลังถูกพูดถึงในวงกว้างเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นเรื่อง ‘ห้ามใช้อวนล้อมจับในเขต 12 ไ...
12/02/2025

มาตรา 69 ใน พ.ร.ก. ประมง 2558 กำลังถูกพูดถึงในวงกว้างเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นเรื่อง ‘ห้ามใช้อวนล้อมจับในเขต 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งในเวลากลางคืน’ ทำให้หลายคนกังวลว่า นอก 12 ไมล์ทะเล เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำขนาดเล็ก การใช้อวนตาถี่จะทำให้จับเอาเฉพาะตัวอ่อนของสัตว์น้ำและปลาขนาดเล็กที่กำลังเตรียมเติบโต ซึ่งส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันผู้บริโภคเองก็เริ่มหันมาสนใจกับเรื่องของแหล่งที่มา ‘วัตถุดิบอาหาร’ และ ‘วิธีการผลิต’ ม.69 จึงอยู่ในความสนใจของผู้บริโภคด้วย แน่นอนว่าถ้าวิธีการนั้นดีต่อโลก ผู้บริโภคก็อยากสนับสนุน แต่ถ้าไม่ก็อาจจะถูกปฎิเสธจากผู้บริโภค
ล่าสุดโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen's Park ได้ออกมาแสดงจุดยืนนี้เรื่อง ‘แหล่งที่มาวัตถุดิบอาหาร’ และ ‘วิธีการผลิต’ โดยทีมที่ดูแลเรื่อง ‘ความยั่งยืน’ ของโรงแรมโดยเฉพาะ ได้สนับสนุนการประมงเพื่อความยั่งยืน โดยร่วมมือกับชุมชนชาวประมงในท้องถิ่น 2 แห่ง ได้แก่ ชุมชนประมงอูรักลาโว้ย เกาะลันตา และชุมชนสิงหนคร ทะเลสาบสงขลา ในการรับซื้อวัตถุดิบอาหารทะเลมาใช้
ชุมชนชาวอูรักลาโว้ย เป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่ทำประมงชายฝั่งบนเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยใช้เรือประมงขนาดเล็กหรือ ‘เรือปูเลา’ และเครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบดั้งเดิม เช่น ‘ไซ’ หรือ ‘ลอบ’ ซึ่งออกแบบให้เหมาะสมกับชนิดของสัตว์น้ำที่ต้องการจับ การเลือกใช้เครื่องมือช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์ชายฝั่ง รวมถึงจับอาหารทะเลตามฤดูกาล ทำให้สัตว์น้ำที่ยังโตไม่เต็มที่จะถูกปล่อยกลับสู่ทะเล ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชนเผ่ามาตั้งแต่โบราณ
และชุมชนสิงหนคร ทะเลสาบสงขลา เป็นพื้นที่ปากน้ำที่ผสมผสานระหว่างน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงสามน้ำที่สืบทอดกันมานานกว่า 50 ปี และพื้นที่นี้ยังได้ขอจดทะเบียนคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
โดยทางทีมเชฟของโรงแรมได้ร่วมทำงานกับ 2 ชุมชน โดยอาหารทะเลจากชาวประมงอูรักลาโว้ยจะถูกส่งต่อไปยัง ‘โรงงานเลลันตาซีฟู้ด’ เพื่อดำเนินกระบวนการแปรรูป ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ ขจัดสิ่งปนเปื้อนและรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ ก่อนแช่แข็งแบบช็อกฟรีซที่อุณหภูมิ -50 องศาเซลเซียส ส่วนชุมชนสิงหนคร ทางเชฟได้จัดอบรมการเตรียมปลากะพงสามน้ำ ให้แม่บ้านชาวประมงได้เรียนรู้ ทั้งการเตรียมเนื้อปลาแบบไทย และการแล่ปลาแบบตะวันตก เพื่อนำมาใช้ทำอาหารในคุณภาพของโรงแรมได้
เรื่อง: บัณฑิต ภิญโญวัฒนชีพ

อีเวนต์พิเศษของงาน Bangkok Design Week 2025 (Phase 2) ในย่านบางลำพู ที่จะมีเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้น กับงาน ‘ริมคลอง ล...
11/02/2025

อีเวนต์พิเศษของงาน Bangkok Design Week 2025 (Phase 2) ในย่านบางลำพู ที่จะมีเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้น กับงาน ‘ริมคลอง ลองชิลล์’ ซึ่งเขาจะเปิดให้ให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเช่าเรือเป็ดไปปั่นเล่นได้ที่คลองบางลำพูได้เลยแบบฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
และสำหรับใครที่ไม่อยากปั่นเรือ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดเทศกาลออกแบบกรุงเทพฯ ครั้งนี้ เขาก็มีบริการเรือไฟฟ้านำเที่ยวเปิดให้ขึ้นฟรีอีกด้วย โดยเรือจะพาล่องคลองบางลำพูในระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุ ไปจนถึงป้อมมหากาฬ (ขึ้น-ลง ได้ทุกท่า) พร้อมพาแวะสถานที่สำคัญต่างๆ ของชุมชน เช่น ศาลเจ้าพ่อหนู​ ศาลสมเด็จเจ้าพระยาตากสินมหาราช และพระรามหลวงอีก 5 แห่ง
นอกจากนั้นยังมีเรือคายัคให้ยืม พร้อมด้วยลานกิจกรรมศิลปะสำหรับครอบครัว รวมถึงตลาดนัดชุมชนตรอกบ้านพานถม และครีเอทีฟมาร์เก็ตอย่าง Hawker Center ริมคลองบางลำพูให้เราได้แวะชอปปิงตลอดเส้นทางการสัญจรทางน้ำในครั้งนี้อีกด้วย
สามารถไปเช่าเรือเป็ดได้ที่ท่าเรือป้อมพระสุเมรุ (พิพิธบางลำพู)
วันที่: 15-16 และ 22-23 ก.พ. เวลา: 9:00-20:00 น.
และ สามารถลงเรือไฟฟ้านำเที่ยวบางลำพูได้ที่ 5 ท่า คือ 1. ป้อมพระสุเมรุ (พิพิธบางลำพู) 2. สะพานนรรัตน์สถาน 3. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ 4. ตลาดชุมชนตรอกบ้านพานถม และ 5. ป้อมมหากาฬ
วันที่: 15-16 ก.พ., 22-23 ก.พ.,1-2 มี.ค. และ 8-9 มี.ค.
โดยตารางทัวร์จะมี 2 รอบเวลาให้เลือกคือ 10:00 – 13.00 น. และ 15:00 – 18:00 น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่: https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program/126996
เรื่อง รุจิยาทร โชคสิริวรรณ
ภาพ Bangkok Design Week 2025

Bangkok Design Week 2025 เริ่มแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ Design Up+rising ‘ออกแบบพร้อมบวก+’ ซึ่ง...
11/02/2025

Bangkok Design Week 2025 เริ่มแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ Design Up+rising ‘ออกแบบพร้อมบวก+’ ซึ่งมีที่มาจากการปลุกกระแสสังคมผ่านขบวนการศิลปะและการออกแบบ (Art and Design Movement) ในยุคต่างๆ โดยต้องการปลุกพลังให้ทุกคนพร้อมบวกกับทุกความท้าทายในโลกยุคนี้ด้วยการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์
เพื่อให้ทุกคนมีเวลาเดินดูงานอย่างทั่วถึงมากขึ้น ปีนี้เลยแบ่งการจัดงานออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจัดขึ่้นระหว่างวันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ที่ย่านที่ย่านหลักอย่างเจริญกรุง-ตลาดน้อย, เยาวราช-ทรงวาด และปากคลองตลาด ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูผลงานไฮไลต์ที่ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย
ความน่าสนใจของย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อยปีนี้คือโปรแกรมการจัดแสดงที่นำเสนออัตลักษณ์ของย่านควบคู่กับการออกแบบและพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ เริ่มจากโปรแกรมที่จัดแสดงอยู่ใน TCDC กรุงเทพฯ อย่าง Neighbourmart Bangkok ‘ห้างซัพสินค้าของคนรักกรุงเทพฯ’ พื้นที่จัดแสดงในรูปแบบร้านสะดวกซื้อที่ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ ตอนนี้จัดแสดงนิทรรศการ ‘เครื่องกรุงรส’ ที่เป็นการรวบรวมเครื่องปรุงแบรนด์โลคัลเก่าแก่ทั่วกรุงเทพฯ มาให้ดูให้ชิมหรือซื้อกลับบ้านก็ยังได้ เพิ่มรสชาติด้วยเรื่องราวหรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของแต่ละแบรนด์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันบางแบรนด์อยู่ในความดูแลของทายาทรุ่นใหม่ ทำให้เราได้เห็นไอเดียการต่อยอดธุรกิจที่น่าสนใจ
ที่ชั้นเดียวกันยังมีนิทรรศการ Up(Rice)ing ‘ข้าวสารเสก’ โชว์เคสข้าวไทยที่เราจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วข้าวที่เรากินอยู่ทุกวันเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นและยังมีข้าวไทยอีกเป็นร้อยๆ สายพันธุ์ที่เราไม่รู้จักและไม่มีโอกาสได้กิน รวมถึงไอเดียการเพิ่มมูลค่าข้าวด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นซึ่งมีให้ชิมในงานด้วย ส่วนบนชั้น 3 มีนิทรรศการ Bangkok Up Rising+ Beyond the Chaos ‘ถ้าเมืองหน้ามีอยู่จริง’ ที่จำลองสภาพเมืองที่เราพบเจอกันในชีวิตประจำวันแล้วใส่ไอเดียที่จะทำให้เราอยู่กับมันได้ดีขึ้นเข้าไป ไปจนถึงการจินตาการถึงเมืองน่าอยู่ในอุดมคติที่ยังห่างไกล
นอกจาก TCDC กรุงเทพฯ แล้วที่ย่านตลาดน้อยก็ยังมี Vanich House เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะ Weekend Garden BKK มาจะจัดสวนลอยฟ้าขนาดย่อมอยู่ที่นี่ ซึ่งในสวนจะมีช่องว่างให้เราโผล่เข้าไปชมรายละเอียดอย่างใกล้ชิดได้ด้วย รวมถึงบ้านตันติเวชกุลที่จัดแสดงงานดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ HOPE โดยนักออกแบบจาก 31 แบรนด์ โดยมีไฮไลต์เป็นห้องแบล็กไลต์ที่ทำให้ผลงานมีความโดดเด่นขึ้น
ยังมีอีกหลายโปรแกรมที่เราไม่ได้พูดถึง แต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และเนื่องจากช่วงแรกของการจัดงานไม่ได้มีงานสเกลใหญ่ให้ดู ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อยก็ถือเป็นย่านที่เหมาะกับการมาเดินสำรวจในช่วงนี้
Bangkok Design Week 2025 จะจัดขึ้น 2 ช่วง ดังนี้
8-16 กุมภาพันธ์ ที่ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย, เยาวราช-ทรงวาด, ปากคลองตลาด และพื้นที่อื่นๆ
15-23 กุมภาพันธ์ ที่ย่านพระนคร, บางลำพู​-ข้าวสาร และพื้นที่อื่นๆ
สำหรับย่านหัวลำโพง, บางโพ และพื้นที่อื่นๆ จะจัดแสดงดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ https://www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2025/program

เรื่อง/ภาพ: ปฏัก พาโนมัย

ที่อยู่

30/2 Sukhumvit 36, Khlong Tan, Khlong Toei
Bangkok
10110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:30 - 18:30
อังคาร 09:30 - 18:30
พุธ 09:30 - 18:30
พฤหัสบดี 09:30 - 18:30
ศุกร์ 09:30 - 18:30
เสาร์ 09:30 - 18:30

เบอร์โทรศัพท์

+6622584762

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Weekend Magazineผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Weekend Magazine:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Weekend Magazine

“มาปักหมุดจุดเที่ยวที่จะเปลี่ยน Weekend ของคุณให้สุขทุกครั้งที่เดินทาง”

เพราะโลกนี้กว้าง และเวลาก็ไม่เคยหยุดเดิน ดังนั้นเที่ยวครั้งเดียวจึงไม่เคยพอ ทุกวินาทีเราจึงโหยหาการพาร่างกายและหัวใจไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ไปทำความรู้จักเมืองที่ไม่เคยไป ไปเปล่งเสียงหัวเราะกับผู้คนที่ไม่เคยพบเจอ และไปลองอาหารแปลกตาที่ไม่เคยลิ้มลอง

นิตยสารท่องเที่ยว Free Copy ที่มียอดแจกสูงสุดในประเทศไทย

FB : @Weekend.mag