05/01/2025
นี่คือก้าวที่แตกต่างของ ‘Fillets’ ล่าสุด กับร้านในยุคแรกอย่าง ‘Mini Me’ ของ ‘เชฟแรนดี้-ชัยชัช นพประภา’ หลังจากที่กลับมาเมืองไทยในช่วงเวลาที่โอมากาเสะซูชิยังมีไม่เยอะเหมือนทุกวันนี้ เชฟแรนดี้ก็คือแถวหน้าของการลองเปิดโอมากาเสะซูชิขึ้นมาในเวลานั้น แล้วไม่นานที่นี่ก็เติบโต
ยุคแรกที่หลังสวนมีโอมากาเสะกับอาหารญี่ปุ่นอลาคาต แต่แยกกันแบบชัดเจน ซึ่งฐานแฟนโอมากาเสะฝีมือเชฟแรนดี้มีมากกว่า ต่อมาย้ายมาที่ถนนมหาเศรษฐ์จึงเริ่มโฟกัสโอมากาเสะอีกครั้ง และรับเพียงไม่กี่ที่นั่งต่อรอบ แน่นอนว่าฝีมือโตขึ้นและไม่ได้มีเพียงเอโดะมาเอะสไตล์อีกต่อไป มีลูกเล่นมากมาย แต่ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ Fillets ล่าสุด ที่ One Bangkok ที่เชฟแรนดี้ประกาศชัดว่าจะทำ ‘คัปโปะโอมากาเสะสมัยใหม่’ ที่ไม่ได้มีแค่ซูชิอีกต่อไป
ถ้าเราสังเกตจากร้านที่รองรับได้ 24 ที่นั่ง พร้อมห้องไพรเวท รวมถึงครัวเปิดพร้อมเครื่องครัวสุดทันสมัยที่เหมือนกับครัวของเชฟฝรั่งมากกว่าครัวเชฟญี่ปุ่น ทั้งหมดถูกเซตเพื่อการทำโอมากาเสะคัปโปะโดยเฉพาะ เล่าคร่าวๆ ว่า ‘คัปโปะโอมากาเสะ’ ต่างจาก ‘โอมากาเสะ’ ตรงที่ไม่ได้มีเฉพาะซูชิ แต่มีอาหารที่ปรุงอย่างหลากหลายมาเป็นส่วนหนึ่งในคอร์สด้วย อาทิ ต้ม นึ่ง ทอด และอื่นๆ
จำได้ว่าก่อนหน้านี้เชฟแรนดี้ไปตามหาหม้อหุงข้าวซูชิ และน้ำแร่ที่เหมาะสำหรับทำซูชิ แต่ที่นี่เชฟวางระบบน้ำใหม่ทั้งหมดให้เป็นน้ำ ‘Soft Water’ ที่เชฟว่าสัมผัสดีกว่า รับรองว่าคนล้างจานมือนุ่มแน่นอน
ด้วยความเป็นคัปโปะ ทำให้เชฟต้องปรับตัวเองมากขึ้น ไม่เพียงต้องค้นหาวัตถุดิบที่ดีที่สุด แต่ยังต้องใส่เทคนิคและต่อยอดวัตถุดิบมากกว่าเคย เริ่มที่ ‘Snack’ 3 คำ ทาร์ตอามะเอบิ มาการองตับปลาอังโกะ และกรวยปลาอินทรีสับมิโซะ ที่ทำออกมาเหมือนอาหารฝรั่ง ตามด้วย ‘Dashi’ ที่ใช้สาหร่ายคอมบุและปลาคัตสึโอะอย่างดี และ ‘Sashimi’ คอร์สปลาซาซิมิเปลี่ยนไปแต่ละวัน มีโชยุหายากที่สุดของอุมามิ
และนี่คือ ‘คัปโปะ’ ที่ไม่ได้มีเพียงซูชิ เริ่มจาก ‘ปลาโอลาย’ รมควันฟางข้าว กับซอสไตปลาคัตสึโอะ ที่เอาเครื่องในไปบดหมักเกลือนาน 1 ปี ผสมกับพริกที่เรียกว่า คันสุหริ ที่เปรียบได้กับยุซุโคโชของอีกฟาก ‘ปูขน’ ที่ใช้ปูขนที่มีความมัน เน้นรสธรรมชาติกับเจลแตงกวาเท่านั้น ‘ปลาโนโดคุโระ’ ปลากะพงคอดำย่างกับซอสงาบดผสมกับมิโซะ ที่ทางคิวชูนิยม ‘หอยเป๋าฮื้อ’ นึ่งไม่นานมากเพราะอยากได้รสที่ชัดขึ้นกับซอสตับผสมกระเทียมดำทำเอง ที่ใช้กระเทียมจากอะโอโมริ มาพร้อมข้าวโอนิกิริกับอูนิซอส ‘ไข่ตุ๋น’ ข้าวริซอตโตตุ๋นพร้อมไข่ ท็อปด้วยชิราโกะ ไข่อ่อนปลาค็อดรมควัน
แน่นอนว่าซูชิยังเป็นหัวใจของที่นี่ เชฟยังคงใส่ใจเรื่องข้าวเป็นพิเศษ โดยใช้ข้าว 3 สายพันธุ์ผสมกัน เพื่อให้ได้คาแรกเตอร์ของข้าวแบบที่ต้องการ และใช้วาซาบิ 2 ชนิดผสมกัน ให้ได้รสเผ็ดและหวาน เชฟเสิร์ฟซูชิมา 4 คำ ก่อนเบรกด้วย ‘ปลาอามาได’ นำปลาไปทอด 2 ครั้ง ก่อนนำไปแช่เย็น แล้วทอดอีกครั้งก่อนจบด้วยย่าง มาในดาชิ ก่อนกลับมาที่ซูชิอีก 4 คำ รวม 8 คำ และใช่ต้องมี ‘ไข่หวาน’ ที่หลายคนรอในตอนจบ พร้อมซุปมิโซะแดง
ส่วนของหวานด้วยความที่ตั้งใจทำร้านให้ไปไกลขึ้นเลยให้เชฟเบียร์จาก Blackitch มาช่วยดูแลไปเลย ทำให้ได้เป็น ‘ซอร์เบซีตัส’ ที่ใช้ส้มหลายชนิด ส้มซ่า คาโบสึ ส้มแป้น และอีกซีตัสหลายชนิด และ ‘ลูกพลับ’ เค้กลูกพลับ ลูกพลับสด เพรสอุเมชู และไอศกรีมน้ำผึ้งป่าหินลาดใน
ใครอยากแวะมากินที่ Fillets จองได้ที่ https://www.tablecheck.com/en/fillets-bangkok/reserve/ ราคา 3,500-7,900++บาท
Fillets ชั้น 3 The Storeys, One Bangkok
17:00-Late
เรื่อง/ภาพ: บัณฑิต ภิญโญวัฒนชีพ
Fillets