Amarin HOW-TO รวมหนังสือแนวจิตวิทยาและบริหารดีๆ จากทั่วทุกมุมโลก
(222)

สำนักพิมพ์ Amarin how-to รวบรวมหนังสือฮาวทูดีๆ จากทั่วทุกมุมโลกมาไว้สำหรับคุณที่นี่ที่เดียว

สนใจสั่งซื้อหนังสือ โทร 02-422-9999 หรือ inbox แฟนเพจ

เป้าหมายปี 2025 ของคุณจะเปลี่ยนไปถ้าได้อ่าน 7 เล่มนี้👇🏼📖ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ ค้นหาความหมายชีวิตในเวลาที่มีจำกัด เร...
01/01/2025

เป้าหมายปี 2025 ของคุณจะเปลี่ยนไปถ้าได้อ่าน 7 เล่มนี้👇🏼
📖ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์
ค้นหาความหมายชีวิตในเวลาที่มีจำกัด เรียนรู้การจัดลำดับความสำคัญเพื่อทำให้ทุกวันมีคุณค่าในแบบของเราเอง
📖Manifest 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา
คู่มือการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นจริง ด้วยการลงมือทำและพลังจากความตั้งใจ
📖Manifest Dive Deeper
สำรวจพลังในตัวเองอย่างลึกซึ้ง เพื่อดึงดูดสิ่งที่ต้องการในชีวิตอย่างแท้จริง
📖ออกแบบชีวิตด้วยเทคนิคปฏิทิน 100 ปี
ออกแบบปฏิทิน 100 ปีที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อใช้ชีวิตที่มีเพียงหนึ่งเดียวอย่างคุ้มค่าที่สุดโดยไม่มีอะไรติดค้างในใจ
📖จะกินพุดดิ้งชิ้นนี้เลยไหมหรือจะทนไว้ก่อน
เข้าใจจิตวิทยาเบื้องหลังการตัดสินใจ เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของคุณ
📖The Greatest Self-help Book
180 วันแห่งการรักตัวเอง ให้อภัยตัวเองและพัฒนาตัวเองเพื่อค้นหาตัวเราในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
📖The Greatest Manifestation Book
180 วันในการกำหนดเป้าหมาย สร้างแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนความฝันเป็นความจริง
📌เลือกหนังสือเพื่อตั้งเป้าหมาย>https://bit.ly/4gz1sUY

ต้อนรับปี 2025 กับ 12 เรื่องที่เข้าใจแล้วชีวิตจะมีแต่ดีขึ้น และดีขึ้น🎇กับหนังสือ "12 กฎที่ใช้ได้ตลอดชีวิต" จาก จอร์แดน บ...
31/12/2024

ต้อนรับปี 2025 กับ 12 เรื่องที่เข้าใจแล้วชีวิตจะมีแต่ดีขึ้น และดีขึ้น🎇
กับหนังสือ "12 กฎที่ใช้ได้ตลอดชีวิต" จาก จอร์แดน บี ปีเตอร์สัน
กฎข้อที่ 1 ◾️ ยืนให้ตัวตรง อกผายไหล่ผึ่ง
เมื่อร่างกายเศร้า คุณจะเศร้า เมื่อร่างกายสุข คุณจะสุข หากคุณไหล่ค้อมห่อ ก้มหัว ผู้คนจะโต้ตอบราวกับคุณกำลังแพ้ หากคุณยืดตัวตรงขึ้น ผู้คนจะมองคุณต่างไปเช่นกัน
กฎข้อที่ 2 ◾️ ดูแลตัวเองให้ดี เหมือนเวลาที่ดูแลคนอื่น
ในฐานะมนุษย์ มีเพียงตัวเราเท่านั้นที่รู้ถึงความผิด ความขลาด ความอ่อนแอที่เป็นความลับของตัวเอง หลายครั้งทำให้คนเราเลือกจะละเลยตัวเอง คิดว่าตัวเอง "ไม่คู่ควร" แต่การที่มนุษย์ปกป้องดูแลคนอื่นที่อ่อนแอ หมายถึงการให้อภัยและเต็มใจช่วยเหลือคนอื่นที่ล้มลง คุณก็มีหน้าที่ทางศีลธรรมที่จะต้องดูแลตัวคุณอย่างดีที่สุดเช่นกัน
กฎข้อที่ 3 ◾️ คบหาคนที่อยากให้คุณได้ดี
คนเราถ้าไม่เชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าตัวเองสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า เราจะไม่ยอมไปค้นหาคนดีๆ ที่จะเข็นตัวเองให้ดีขึ้น หลายครั้งกลับจมปลักกับคนที่พร้อมจะจมปลักเช่นกัน แต่ถ้าคุณเชื่อในตัวเองอยู่บ้าง ลองถามตัวเองให้ดีว่า ถ้ามีเพื่อนสักคนที่คุณไม่ได้คิดจะแนะนำให้พี่สาว น้องสาว พ่อแม่ของคุณรู้จัก คุณยังควรคบกับคนคนนั้นอยู่ไหม
กฎข้อที่ 4 ◾️ เปรียบเทียบตัวคุณกับคุณในอดีต ไม่ใช่คนอื่นในวันนี้
ไม่ว่าคุณจะทำบางอย่างได้เก่งแค่ไหน หรือจัดอันดับความสำเร็จตัวเองไว้อย่างไร โลกนี้ยังมีคนที่ทำให้คุณรู้สึกด้อยได้อยู่ดี ระวังนิสัยชอบเปรียบเทียบให้ดี ยิ่งคุณโตเป็นผู้ใหญ่ คุณมีปัญหาเฉพาะของคุณเอง คุณไม่ต้องตัดสินใจว่าจะไขว่คว้าหรือปล่อยวางอะไรเหมือนคนอื่น
กฎข้อที่ 5 ◾️ อย่าให้ลูกของคุณทำสิ่งใดที่จะทำให้คุณไม่ชอบพวกเขา
เด็กที่ทำให้ผู้พบเห็นต้องถอนหายใจและพ่อแม่อับอายตลอดเวลา ไม่ใช่เรื่องปกติ การปล่อยปละเรื่องวินัย ไปจนเรื่องการกิน การนอน ให้กลายเป็นสนามรบประจำวัน หลายครั้งลุกลามไปสู่ปัญหาชีวิตคู่ ปัญหาสะสมพวกนั้นบั่นทอนความ "ชอบ" ในตัวพวกเขาโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว
กฎข้อที่ 6 ◾️ ดูแลบ้านของคุณให้เรียบร้อยก่อนที่จะวิจารณ์โลก
ก่อนที่จะก่นด่าโลก ลองถามตัวเองก่อนว่า สิ่งที่คุณขุ่นเคืองอยู่ จริงๆ แล้วคือปัญหาของโลกหรือปัญหาส่วนตัวที่ไม่อยากจัดการแก้ไข เพราะคนที่ดึงชีวิตตัวเองขึ้นมาได้และพบความสุข แม้ชีวิตเหมือนโดนสาปแช่ง จะไม่ด่าโลก แต่จะเริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่า ตัวเองมีส่วนต่อหายนะในชีวิตของตัวเองหรือเปล่า แล้วมีทางไหนที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้บ้าง
กฎข้อที่ 7 ◾️ ทำสิ่งที่มีความหมาย (ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายทันใจ)
เมื่อทำสิ่งต่างๆ โดยเน้นง่ายเข้าว่า เรามักใช้มุมมองแบบคับแคบ เห็นแก่ตัว และหลอกลวง (กระทั่งหลอกตัวเอง) ไปวันๆ การทำสิ่งที่ง่ายจึงมักหมายถึงจิตใจที่เปล่าเปลี่ยว แตกแยกอยู่ภายใน การทำสิ่งที่มีความหมายนั้นไม่ง่าย แต่นำมาซึ่งความสุขสงบใจอย่างยั่งยืน
กฎข้อที่ 8 ◾️ พูดความจริง หรืออย่างน้อยก็ไม่โกหก
การโกหกอยู่บนพื้นฐานของการหลีกหนี หากคุณไม่ต้องการเปิดเผยตัวเองให้คนอื่นเห็น คุณย่อมไม่สามารถเผยตัวตนต่อตัวเองเช่นกัน มันคือการเก็บกดรูปแบบหนึ่ง การพูดความจริงจำเป็นมากต่อการก่อเกิดวุฒิภาวะ
กฎข้อที่ 9 ◾️ สงสัยไว้ก่อนว่าคนที่คุณกำลังฟังอาจรู้บางสิ่งที่คุณไม่รู้
คนที่คุณคิดว่าโง่ที่สุดก็ยังสอนอะไรบางอย่างกับคุณได้ ดังนั้นถ้าคุณจะฟังใครสักคน ให้ฟังจริง ๆ ไม่ใช่ฟังเพื่อด่วนตัดสิน โน้มน้าว ครอบงำ หรือมองเป็นเรื่องขำ เพราะมันอาจทำให้คุณและเขาพลาดสิ่งสำคัญที่อาจค้นพบด้วยกัน
กฎข้อที่ 10 ◾️ พูดอะไรให้ชัดเจน
มีความรู้สึกอะไรบ้างที่คุณรู้ดีแก่ใจว่า หากไม่พูดออกไปให้เจาะจงชัดเจนแล้วมันกำลังจะทำลายทุกอย่าง คุณรู้ดีว่าแค่ซื้อเวลา จะเลี่ยงไปทำไม เมื่อต่อให้เลี่ยงไปมันก็ทำลายอนาคตอยู่ดี บางครั้งในชีวิตคู่ หรือความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง การมีปากเสียงอาจจำเป็นต่อการแก้ปัญหา ความชัดเจนอาศัยความกล้าและความพร้อมที่จะเผชิญความเจ็บปวด แต่มันจะช่วยเยียวยาอนาคต
กฎข้อที่ 11 ◾️ อย่าไปยุ่งเวลาที่เด็ก ๆ กำลังเล่นสเกตบอร์ด
คุณป้องกันภัย หรือกีดกั้นสัญชาตญาณความกล้าหาญของคนที่คุณรักเกินไปหรือไม่ ไม่ว่าจะขี้กลัวแค่ไหน ทำไมลึกๆ แล้วคนเราถึงโหยหาการผจญภัย และอยากเป็นคนกล้า ก็เพราะการเสี่ยงนิดๆ (แต่ปลอดภัยพอ) เป็นประสบการณ์สำคัญที่นำมาซึ่งความมั่นใจ และการได้เผชิญกับความโกลาหลบ้างช่วยให้เราได้พัฒนา มากกว่าจะเป็นเหมือนตัวสล็อตที่ลากตัวเองไปมา ไม่พัฒนา ไม่น่าสนใจ
กฎข้อที่ 12 ◾️ หยุดเพื่อลูบแมวที่พบเจอตามถนนบ้าง
สุนัขอาจจะอยากเล่นกับคุณตลอดเวลา แต่แมวคือตัวแทนของธรรมชาติของแท้ คือสัจธรรมของชีวิต มันควบคุมไม่ได้ คาดเดาไม่ได้ มันฝึกไม่ได้ อยากเล่นกับเราบ้าง ไม่อยากเล่นกับเราบ้าง มันมีปฏิสัมพันธ์กับเราด้วยเหตุผลประหลาดๆ นั่นทำให้เวลาที่แมวยอมทิ้งตัวลงให้คุณลูบ หรือเล่น มันจึงเป็นนาทีอุ่นๆ ที่มีค่า มันเตือนเราว่า ถ้าชีวิตสวยงามหรือเป็นมิตรตลอดเวลา มันจะน่าสนุกตรงไหนกันล่ะ...
12 กฎที่ใช้ได้ตลอดชีวิต
จอร์แดน บี ปีเตอร์สัน เขียน
ธีร์ ทิพกฤต แปล
สำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO
สั่งออนไลน์ได้ที่
Amarinbooks > https://bit.ly/3eCWGby
Shopee > https://bit.ly/3OMuK6v

แด่คุณที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตในแบบตัวเอง“ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากใครเพื่อใช้ชีวิตแบบที่ต้องการนะ”ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าเห...
30/12/2024

แด่คุณที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
“ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากใคร
เพื่อใช้ชีวิตแบบที่ต้องการนะ”
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าเหนื่อยกับการพยายามทำตามความต้องการของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ต้องเร่งความเร็วให้ทันกับจังหวะของคนอื่นและไม่เคยได้ลองใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
ลองเปิดข้อความเหล่านี้อ่านดูนะ
เรามีอะไรจะบอก…
….
🦦จิตวิทยาสบายใจ ใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
ฟุจิโนะ โทโมยะ เขียน
กมลวรรณ เพ็ญอร่าม แปล
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/4gpq1DN
Lazada: https://bit.ly/3P5r141
Amarinbooks: https://bit.ly/402voTG

"ชอบและอยากให้เราลองมองในมุมของคนอื่นดูบ้าง เพราะเราอยู่ร่วมกันในสังคมขนาดหย่อมๆ ที่ต่างก็ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการใช้ช...
30/12/2024

"ชอบและอยากให้เราลองมองในมุมของคนอื่นดูบ้าง เพราะเราอยู่ร่วมกันในสังคมขนาดหย่อมๆ ที่ต่างก็ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต ดังนั้นหากแต่ละคนมี empathy ให้กันในระดับที่ดี การประสานงาน การอยู่ร่วมกัน ก็ช่วยปรับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อีก"
ขอบคุณ ลาไปอ่านหนังสือ ที่แนะนำหนังสือ On Empathy ด้วยนะคะ💖

ในบทสนทนาของเราแต่ละวัน... มักจะ “ใส่ความคิดเห็นและอคติส่วนตัว“ ลงไปโดยไม่รู้ตัว หลายครั้งการพูดคุยจึงจบลงแบบที่ต่างฝ่ายต่างก็พกพาความรู้สึกที่ขุ่นมัวกลับไป

แล้วเอาเข้าจริง เราจะเริ่มต้นแก้ไขปัญหานี้อย่างไร รวมถึงจะพูดคุยในลักษณะไหนที่ทำให้เราเข้าใจกันได้มากขึ้น

คำว่า Empathy ไม่ใช่คำใหม่เลย เพียงแต่ด้วยบริบทของเราไม่ค่อยได้ใช้ความเห็นอกเห็นใจกันเท่าไหร่ ต่างกับคำว่า “Sympathy" หรือความสงสารที่เรามักจะคุ้นเคยและใช้กันกว้างในสังคมมากกว่า

แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่าง “เห็นใจ” กับ “สงสาร” เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างสองอย่างก็คือ “ความคิดเห็นของเรานั่นเอง
ถ้าเราสงสาร คือการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ขณะที่ความเห็นใจจะเกิดขึ้นก็ตอนที่เราเอาใจเขามาใส่ใจเราแทน และเลือกมองในมุมของคู่สนทนา แทนที่มุมมองของเรา

On Empathy เล่มนี้เป็นคู่มือที่ชวนให้เรากลับมาตั้งแกนใหม่ และรีเซ็ตความคิดของเราอีกครั้ง

โดย ณ จุดเริ่มต้นของ Empathy จะมาจาก “ความอยากเข้าใจและอยากมองในมุมของอีกฝ่าย“

แต่อุปสรรคสำคัญก็คือ อคติ ที่คิดว่าปัญหาของคนอื่นมักจะเล็กกว่าปัญหาของเราเสมอ

เราจึงชอบพูดว่า “แค่นี้เอง ของเราหนักกว่าเยอะ” สิ่งนี้แหละที่ทำให้ความเห็นอกเห็นใจเกิดขึ้นได้ยาก เพราะงั้น... ถ้าหยุดความคิดนี้ได้ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี

Empathy กับตัวเอง น่าจะเป็นมุมที่เราละเลยบ่อยที่สุด เราขาดพื้นที่สำหรับระบายและบอกเล่ามุมของ ”ความอ่อนแอ“ ของเรา จนเมื่อทุกอย่างทับถมไปเรื่อยๆ การที่จะทำให้เข้มแข็งกลับมา จึงเป็นเรื่องยาก

Empathy กับเพื่อนร่วมงาน เราชอบเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง จึงไม่ใคร่จะเห็นใจคนอื่น และมองว่า ”คนอื่นอดทนน้อยเกินไป“ โดยไม่เคยค้นหาหรือรับฟังปัญหาที่แท้จริง

Empathy กับครอบครัว อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ หลายคนเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ กดและข่มให้คนอื่นในครอบครัวต้องทำตาม หรือบางทีก็แปร ”ความห่วงใยต่อกัน“ เป็นคำพูดที่รุนแรง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับความสัมพันธ์ในรูปแบบใดก็ตาม... ของขวัญที่มีค่าที่สุดก็คือ ”ความเห็นอกเห็นใจ“

(คำถาม) ทุกครั้งที่มีคนมาเล่าเรื่องที่หนักใจในฟัง เรามักจะตอบกลับอย่างไร
ก. ใครๆ ก็เคยเจอแบบนี้ เดี๋ยวก็ผ่านไป
ข. เรื่องแค่นี้เอง คนอื่นก็ทนได้นะ
ค. เอาแบบนี้มั๊ย แล้วก็เสนอแนะวิธี
ง. ครับ/ค่ะ แล้วอยากให้เราช่วยอะไรมั๊ย เรื่องแบบนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ส่วนใหญ่แล้ว เราน่าจะได้รับคำตอบแบบของ ก. หรือ ค. ขณะที่คำตอบแบบ ง. นั้นเป็นข้อที่น้อยคนจะเคยได้ยิน แม้แต่กับพ่อแม่ที่เราคุ้นเคยก็ไม่ค่อยจะได้ยินเท่าไหร่

ถึงเวลาที่เราจะเริ่มต้นใส่ “Empathy” ลงไปในส่วนผสมของชีวิตทีละเล็ดทีละน้อยแล้ว...

ความรู้สึกหลังอ่าน ชอบและอยากให้เราลองมองในมุมของคนอื่นดูบ้าง เพราะเราอยู่ร่วมกันในสังคมขนาดหย่อมๆ ที่ต่างก็ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต ดังนั้นหากแต่ละคนมี empathy ให้กันในระดับที่ดี การประสานงาน การอยู่ร่วมกัน ก็ช่วยปรับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อีก

Empathy Sauce
Amarin HOW-TO

40 ข้อคิดจิตวิทยาสบายใจ🦦🫧คำแนะนำจากจิตแพทย์ชาวญี่ปุ่น1. ใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง อย่าคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะ “การป...
29/12/2024

40 ข้อคิดจิตวิทยาสบายใจ🦦🫧
คำแนะนำจากจิตแพทย์ชาวญี่ปุ่น

1. ใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง อย่าคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะ “การประเมินค่า
จากคนอื่น” แต่เปลี่ยนแปลงเมื่อรู้สึกว่า “ถึงเวลาของฉันแล้ว”

2. ไม่จําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจนถึงขั้นสูญเสีย “ความเป็นตัวเอง” หากคุณกําหนดให้คนอื่นเป็นเส้นชัย ปลายทางนั้นจะไม่มีตัวคุณในอุดมคติอยู่เลย

3. การทําสิ่งต่างๆ เพื่อ “พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง” ก็เป็นสิ่งสําคัญ แต่อยากให้ความ
สําคัญกับการ “ดูแลตัวเองและใจดีกับตัวเอง” ด้วย

4. แทนที่จะฝืนตัวเอง ลองเปิดใจ “ให้ความสําคัญกับตัวเองอย่างที่เป็น” โอบรับทุกอย่าง
ที่เป็นตัวคุณ ไม่ว่าจะเวอร์ชันที่อ่อนแอ เจ็บปวด เหนื่อยล้า ทําอะไรไม่เป็น ซุ่มซ่าม เงอะงะหรือขี้บ่น

5. “การเติบโต” และ “ความพยายาม” เป็นสิ่งสําคัญ แต่ถ้าเราฝืนจนทําให้ตัวเองแตกสลายก็คงน่าเสียดายเพราะสิ่งสําคัญที่สุดคือ “ตัวเราเอง”

6. ไม่ว่าคุณจะทํางานเก่งหรือไม่เก่ง ร่างกายและจิตใจของคุณก็มีคุณค่าที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างทะนุถนอม ไม่เป็นไรเลยที่จะอยากนอนพักผ่อนเฉยๆ หรือยังไม่รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองในตอนนี้

7. เวลาที่คิดว่า “ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง” จริงๆ แล้วมีบางอย่างที่ควรทําก่อนจะหันไปลงมือพยายาม คือการถามตัวเองว่าเราไม่ได้กําลังฝืนอยู่ใช่ไหม เราไม่ได้กําลังทําให้ตัวเองแตกสลาย
ใช่หรือเปล่า

8. ถ้ารู้สึก “เหนื่อยล้า” ก็แปลว่า “เหนื่อย” แล้วนั่นแหละ

9. เมื่อไรที่เรารู้สึกว่ากินข้าวไม่อร่อย เมื่อนั้นจะทําอะไรก็ไม่ราบรื่น ก่อนจะลงมือพยายามทําอะไร ให้ดูแลความรู้สึกที่เหนื่อยล้าก่อน นี่แหละคือเรื่องสําคัญ

10. สิ่งสําคัญสําหรับ “การใช้ชีวิตแบบเป็นตัวเอง” น่าจะเป็นการไม่กดดันตัวเองมากเกินไป และรู้จักผ่อนคลายสบายๆ โดยไม่ต้องร้อนรน

11. จงสังเกตเห็นความรู้สึกที่เหนื่อยล้า และหันมาดูแลตัวเองก่อน

12. เรากําจัดความเหนื่อยล้าภายในชั่วข้ามคืนไม่ได้ จึงต้องใส่ใจตัวเองและรักตัวเอง ก่อนที่จะเกิดความเหนื่อยล้าสะสม

13. เราต้องดูแลตัวเองในระหว่างที่แผลยังตื้นหรือยังไม่ถึงจุดที่เหนื่อยล้าจนเกินไป

14. เพราะโลกใจร้ายกับ “การหลีกหนี” มากไป ทุกคนจึงติดนิสัย “ไม่กล้าหลีกหนี” จนเกินไป

15. ถ้าสามารถหนีเพื่อปกป้องตัวเองได้ เรายิ่งต้องชมตัวเองด้วยซํ้า เราต้องหนีเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องหนีไปจากชีวิตของตัวเอง

16. เราไม่จําเป็นต้องได้รับอนุญาตจากใครเพื่อใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ

17. การขอความช่วยเหลือไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่แสดงถึงความตั้งใจที่จะไม่ยอมแพ้ สิ่งนี้แหละคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง

18. สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่า “การฝึกพยายาม” คือ “การฝึกขอความช่วยเหลือ”

19. เมื่อไรที่คุณรู้สึกทุกข์ใจ ขอให้ฝึกคิดจนเป็นนิสัยว่า “ตอนนี้น่าจะเป็นจังหวะที่เราต้องขอความช่วยเหลือแล้ว” เพราะการพูดว่า “ช่วยฉันหน่อย” ไม่ใช่เรื่องน่าอายแม้แต่น้อย

20. ลองใช้ชีวิตในโหมดเฉื่อยดูบ้างก็ได้ เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่การทํางานหนักอย่างเดียว

21. ที่รู้สึกหมดแรง ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เพราะชีวิตคนเรามีจังหวะเวลาที่แตกต่างกัน ลองทํา ใจให้สบายและพักผ่อนบ้าง

22. คุณจะอ่อนแอบ้างก็ได้ ไม่ดูดีบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร ไม่จําเป็นต้องพยายามหรอก

23. อย่าชินกับการถูกปฏิบัติอย่างไม่ใส่ใจ คุณมีคุณค่าและสิทธิ์ที่จะได้รับการดูแลอย่างดี

24. สิ่งสําคัญที่จะทําให้ตัวเองไม่ถูกปฏิบัติแบบไร้ค่าคือ ตัวเราต้องไม่มองว่าตัวเองต้อยตํ่า

25. คุณต้องรับรู้คุณค่าในตัวเองและรู้จักให้ความสําคัญกับตัวเองก่อน ถ้าคุณทําไม่ได้ คนอื่นกอาจจะไม่ให้ความสําคัญกับคุณ

26. “ฉันชอบตัวเองในตอนนี้นะแต่ถ้าได้ลองเป็นตัวเองแบบใหม่ก็น่าสนใจดี” ถ้าเราคิดแบบนี้แล้วอยาก “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” ก็คงดีไม่น้อยเลย

28. ในโลกนี้มีบางคําพูดที่เราไม่จําเป็นต้องใส่ใจจริงจัง แค่คุณรู้เรื่องนี้ก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้แล้ว

29. ถ้าเราต้องเก็บทุกอย่างที่คนเหล่านั้นพูดมานั่งคิดซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นคนสําคัญกับเราเท่าไรด้วยก็เหนื่อยแย่สิ

30. คุณควรทําความเข้าใจจากส่วนลึกของจิตใจว่า “เราไม่จําเป็นต้องทําให้ทุกคนชอบเราก็ได้”

31. สิ่งสําคัญคือ “เราควรเว้นระยะห่างจากคนที่ไม่ชอบ” และ “เราไม่จําเป็นต้องพยายามทําให้คนที่เราไม่ชอบหันมาชอบเรา”

32. บางคนก็ชอบพูดตัดสินชีวิตคนอื่นทุกเรื่อง เพราะฉะนั้น เรามาบอกเขากันเถอะว่า “ไม่ต้อง
ห่วงเรื่องของฉันหรอก ห่วงชีวิตตัวเองเถอะ!” จะพูดแค่ในใจก็ได้

33. ในเมื่อคนอื่นไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อเรา เราก็ไม่จําเป็นต้องใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นหรอก

34. ความคาดหวังของคนอื่นก็ถือว่าเป็นภาระของคนอื่น เราไม่จําเป็นต้องรับมาแบกไว้

35. แทนที่เราจะมานับความสุขของคนอื่นแล้วรู้สึกอิจฉา ให้หันมานับความสุขของตัวเองกันดีกว่า

36. จงแสร้งทําเป็นไม่เสียใจต่อหน้าคนที่พยายามเข้ามาทําร้ายนํ้าใจคุณ ใครที่เข้ามาพูดจาว่าร้ายใส่คุณ ให้คุณปล่อยผ่านไปเถอะ

37. ไม่มีประโยชน์ที่จะหาความหมาย จากการกระทําของคนอื่น เพราะในโลกนี้มีการกระทํามากมายที่ไร้ความหมาย

38. คนที่คิดว่าตัวเองต้องเป็นที่ยอมรับจากใครสักคนมีอยู่เยอะมาก แต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเป็นที่ยอมรับจากใครสักคนเลยก็ได้

39.เราไม่ต้องเป็นคนดีถึงขนาดต้องพยายามบอกคุณค่าของตัวเราให้กับคนที่ไม่รู้จักคุณค่า
ของเราหรอก

40. เพราะเรามีเพียงชีวิตเดียว ดังนั้นลองใช้ชีวิตที่มีเพียงครั้งเดียวนี้แบบเป็นตัวเองดูสิ
….
จิตวิทยาสบายใจ ใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
ฟุจิโนะ โทโมยะ เขียน
กมลวรรณ เพ็ญอร่าม แปล
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/4gpq1DN
Lazada: https://bit.ly/3P5r141
Amarinbooks: https://bit.ly/402voTG

เปิด BESTSELLER LISTS🏆10 เล่มใหม่มาแรงแห่งปี 2024ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนหนังสือของเราเป็นอย่างดี ฝากติดตาม...
29/12/2024

เปิด BESTSELLER LISTS🏆
10 เล่มใหม่มาแรงแห่งปี 2024
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนหนังสือของเราเป็นอย่างดี ฝากติดตามหนังสือดีๆ ในปีหน้าด้วยนะ ระหว่างนี้มาเติมอาหารสมองด้วยหนังสือจาก howto กันนะคะ
👉 เลือกหนังสือ howto > https://bit.ly/4gz1sUY

20 วิธีเป็น ‘อินโทรเวิร์ต’ ที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก🐈1. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสําเร็จในองค์กรไม่ใช่บุคลิกภาพแบบเอกซ์โทรเวิร์...
28/12/2024

20 วิธีเป็น ‘อินโทรเวิร์ต’ ที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก🐈
1. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสําเร็จในองค์กรไม่ใช่บุคลิกภาพแบบเอกซ์โทรเวิร์ตหรือแบบอินโทรเวิร์ตแต่เป็นความอดทน สมาธิจดจ่อ ทักษะความสามารถ ความเป็นมิตรอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีการเปิดรับประสบการณ์สูง
2. ความจริงทุกคนมีทั้งบุคลิกภาพแบบเอกซ์โทรเวิร์ตและอินโทรเวิร์ตอยู่ในตัวเอง เพียงแต่แสดงออกมาในระดับที่ต่างกัน ทั้งสองบุคลิกสามารถผลัดเปลี่ยนกันแสดงออกมาได้ แต่จะไม่ปรากฏทั้งสองบุคลิกออกมาในเวลาเดียวกัน
3. เวลาพูดถึง “อินโทรเวิร์ต” หลายคนมักจะนึกถึงภาพคนขี้อาย ไม่ชอบและพยายามเลี่ยงการพบเจอผู้คน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด อินโทรเวิร์ตแค่เป็นคนที่จดจ่อกับการสังเกตอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนอย่างลึกซึ้ง จึงคิดเยอะและระมัดระวังมากก็เท่านั้น
4. คนอินโทรเวิร์ตจําเป็นต้องมีเวลาอยู่กับตัวเอง กระทั่งครอบครัวก็นับเป็นคนอื่นด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเราควรเคารพเวลาส่วนตัวแบ่งพื้นที่เล็กๆ เพื่อการเติมพลังสำหรับการใช้เข้าสังคม
5. ที่สำคัญคือต้องกำหนดระยะเวลาที่สามารถเข้าสังคมได้หรือกำหนดว่าจะพบปะผู้คนได้สูงสุดกี่คน/วัน เพราะคุณต้องดูแลพลังงานทางจิตใจของตัวเอง โดยทําความรู้จักตัวเองและกําหนดขอบเขตที่จะรับมือได้เอาไว้ก่อน เพราะหากเริ่มฝืนเกินขีดจํากัดคุณก็จะได้รับบาดเจ็บทางอารมณ์หรืออาจจะหมดไฟได้
6. ลองเปลี่ยนตัวเองเป็นคนช่างสังเกตและชมเชยข้อดีของคนรอบข้าง แทนที่จะพยายามเป็นคนตลกและสนุกสนานเพื่อให้เข้ากับสังคมที่นิยมคนเอกซ์โทรเวิร์ต วิธีนี้จะช่วยให้คุณเป็นที่ยอมรับได้มากกว่า
7. คนอินโทรเวิร์ตมักจดจ่ออยู่กับผู้คน จึงมีโอกาสเจ็บปวดจากการสนทนากับผู้อื่นได้มากกว่า หากวันนี้คุณเจ็บปวดเพราะคนอื่น ลองทำ 3 อย่างนี้
- เตรียมมื้ออาหารแสนพิเศษที่คุณชื่นชอบ
- อย่าฝืนคิดบวก
- นอนหลับให้เต็มที่
8. หากคุณเป็นเจ้าของงานของตัวเอง เป็นเจ้าของชีวิตที่แก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง คุณย่อมเป็นบุคลากรที่ประสบความสําเร็จ
9. วิธีที่ดีที่สุดที่จะพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าและได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการแม้อยู่ในยุคสมัยที่ยากลําบาก คือการทํางานในบริษัทที่เหมาะกับตัวเอง และพยายามทํางานอย่างสุดความสามารถ
10. ถึงแม้จะเป็นงานเล็กๆ คุณก็สามารถเปล่งประกายได้ หากมีคนที่ได้รับมอบหมายงานใหญ่แล้วเอาแต่ยึดติดอยู่กับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ จนงานไม่คืบหน้า ย่อมมีคนที่ได้รับมอบหมายงานเล็กๆ แต่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน
11. เมื่อมนุษย์ทําผิดพลาดจึงเรียนรู้และเติบโต เมื่อทําสิ่งใด เราควรมุ่งมั่นรับผิดชอบงานนั้น “ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ” ควรเป็นคนที่มองเห็นปัญหา หาวิธีแก้ไขปัญหาและทํางานให้เกิดผลสําเร็จได้
12. ไม่ว่าคุณจะได้รับมอบหมายงานใด ต้องคิดเสมอว่าเป้าหมายขั้นสุดท้ายของงานนั้นคืออะไร แล้วคุณจะได้เป็นเจ้าของงานนั้นโดยแท้จริง
13. งานที่บริษัทมอบหมายให้ไม่มีงานใดไร้ความหมาย เมื่อได้รับมอบหมายแล้ว จงรับผิดชอบคุณภาพและมาตรฐานของงานนั้นอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งนี่ก็คือพื้นฐานของการทํางาน
14. จงออกจากทัศนวิสัยที่อยู่แต่ในอุโมงค์ แล้วมองให้กว้างขึ้น ถ้าเรามองภาพรวมของงานแล้ววิเคราะห์และคาดการณ์ทิศทางของธุรกิจ เราก็จะมองเห็นปัญหา และเมื่อเรามองเห็นปัญหา เราจะได้เตรียมแผนการแก้ปัญหาไว้ด้วย
15. ไม่ใช่แค่งานที่มอบหมายมา แต่คิดด้วยว่ามีงานใดรวมอยู่ในนั้น ดังนั้นจึงต้องตั้งเป้าหมายว่าฉันจะยกระดับผลสําเร็จของงานในภาพรวม
16. กฎ 3 ข้อ เพื่อให้ใช้ชีวิตในที่ทํางานได้โดยไม่สูญเสียตัวตน
— ข้อที่ 1 จงซื่อสัตย์: จงเลือกทําสิ่งที่เกิดประโยชน์แก่บริษัท อย่าปกปิดแม้ตัวเองต้องได้รับผลกระทบก็ตาม
— ข้อที่ 2 จงยึดมั่นในหลักการอย่างเคร่งครัด: จงยึดมั่นในหลักการทํางานอย่างไม่มีข้อยกเว้นและไม่ใจอ่อน
— ข้อที่ 3 จงให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์: อย่าเชื่อใคร จงเชื่อมั่นในความสามารถของตน
17. ไม่เห็นจําเป็นต้องทําตามความต้องการของโลกที่วุ่นวายเสมอไป บนโลกนี้ต้องมีคนที่ใช้ชีวิตอย่างแข็งขันและซื่อสัตย์ในแบบของตัวเอง แทนที่จะยอมอยู่อย่างอึดอัดและฝืนทําสิ่งที่ไม่ใช่เพื่อปรับตัวให้เข้ากับโลกอยู่อีกแน่ๆ
18. จงเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายดาย
19. ผู้มีความสามารถ ย่อมถูกมองเห็น ผู้บริหารต้องอยู่ภายใต้ความกดดันที่ต้องสร้างผลงานอยู่เสมอ พวกเขาจึงพยายามมองหาคนที่ไว้วางใจจะมอบหมายงานได้ หากคุณเป็นบุคลากรที่ได้รับการยอมรับจะมีคนอีกมากมายอยากมอบหมายงานสําคัญให้แก่คุณ

20. อย่าเพิ่งกลัวว่าตัวเองจะเสียเปรียบเพียงเพราะมีบุคลิกภาพแบบอินโทรเวิร์ต ขอให้ยึดมั่นและตั้งใจใช้ชีวิตอย่างเที่ยงตรง แล้วลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นคนที่เปิดรับประสบการณ์สูงและเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์

🐈วิธีเป็นอินโทรเวิร์ตที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก
โจจุนโฮ และ คิมคยองอิล เขียน
สุมาลี สูนจันทร์ แปล
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/3VU7nfi
Lazada: https://bit.ly/409vxVG
Amarinbooks: https://bit.ly/3Dw3SFw

สำหรับทุกคนที่กลัวถูกเกลียดสาเหตุหนึ่งที่ทําให้กังวลสายตาคนอื่นคือ เราไม่อยากถูกคนอื่นเกลียด แน่นอนว่าถ้าคนที่คุณชอบมาชอ...
28/12/2024

สำหรับทุกคนที่กลัวถูกเกลียด
สาเหตุหนึ่งที่ทําให้กังวลสายตาคนอื่นคือ เราไม่อยากถูกคนอื่นเกลียด แน่นอนว่าถ้าคนที่คุณชอบมาชอบคุณตอบคุณก็คงรู้สึกดีใจ แต่คุณกําลังพยายามทําให้ทุกคนชอบ แม้แต่คนที่คุณไม่ชอบใช่หรือเปล่า
ยิ่งถ้าคุณเป็นคนดี บางทีคุณก็จะพยายามทําให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวหันมาชอบคุณ บางครั้งคุณจึงปรับตัวเองให้เข้ากับคนที่ไม่ได้ชื่นชอบ ฝืนยิ้ม ฝืนหัวเราะ พยายามไปงานเลี้ยงสังสรรค์หรือกินมื้อเที่ยงด้วยกัน
คุณจะชอบตัวเองที่เป็นแบบนั้นได้หรือเปล่า
เวลาคุณพยายามเพื่อคนที่คุณไม่ได้ชอบ
คุณจะรักตัวเองที่เป็นแบบนั้นลงเหรอ
ยิ่งคุณทําแบบนั้นมากเท่าไร คุณก็จะเริ่มเกลียดตัวเองมากขึ้น
สิ่งสําคัญคือ คุณควรทําความเข้าใจจากส่วนลึกของจิตใจว่า “เราไม่จําเป็นต้องทําให้ทุกคนชอบเราก็ได้”
เว้นระยะห่างจากคนที่ไม่ชอบและไม่จําเป็นต้องพยายามทําให้คนที่เราไม่ชอบหันมาชอบเรา ในโลกนี้มีคนมากมายที่เราไม่ได้ทั้งรักและเกลียด ดังนั้นการลองคบหาผู้คนแบบมีระยะห่างประมาณว่า “ไม่ได้ทั้งรักและเกลียด” ก็ถือว่าดีเหมือนกัน
อย่าติดกับดักคําลวงที่ว่า
“เราต้องสนิทกับทุกคน”
….
🦦จิตวิทยาสบายใจ ใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
ฟุจิโนะ โทโมยะ เขียน
กมลวรรณ เพ็ญอร่าม แปล
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/4gpq1DN
Lazada: https://bit.ly/3P5r141
Amarinbooks: https://bit.ly/402voTG

นี่คือหนังสือที่จะทำให้คุณจะเข้าใจคำว่า Empathy ได้อย่างแท้จริงหนังสือที่บอกว่า 'ความเข้าใจ' คือของขวัญชิ้นเดียวในโลก ที...
27/12/2024

นี่คือหนังสือที่จะทำให้คุณจะเข้าใจคำว่า Empathy ได้อย่างแท้จริง
หนังสือที่บอกว่า 'ความเข้าใจ' คือของขวัญชิ้นเดียวในโลก ที่ทำให้ผู้รับอบอุ่นใจและผู้ให้สงบสุข เมื่อคุณละวางความคิดเห็นตัวเอง แล้วหยิบ “หัวใจ” ของผู้อื่นมาสวมใส่ใจ การไม่ตัดสินนั่นเองคือของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว
Empathy เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นในการใช้ชีวิต เพราะในโลกปัจจุบันเราทุกคนสัมพันธ์กันในมิติที่ซับซ้อนขึ้นแต่มีความใกล้ชิดทางกายภาพลดน้อยลง Empathy เป็นพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ (Human Connection) ซึ่งจำเป็นกับทุกคนในฐานะสัตว์สังคม และจะช่วยให้คุณรู้จักตัวเองและคนอื่นๆ ได้ลึกซึ้งมากขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไรก็ตาม
"การใช้ Empathy ในการมองโลกและคนอื่นๆ
ทำให้เราสามารถมองเห็นโลกกว้างขึ้น
ได้โดยไม่ต้องออกเดินทางไปไหนเลย"
- คุณดุจดาว วัฒนปกรณ์
ผู้ก่อตั้ง Empathy Sauce

ON EMPATHY
ดุจดาว วัฒนปกรณ์ เขียน
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/49Vt9Vx
Lazada: https://bit.ly/4gNOKkZ
Amarinbooks: https://bit.ly/49QavP5

"เป็นเล่มที่เหมาะสำหรับใครก็ตามที่รู้สึกว่า “มีเวลาไม่พอ” และไม่รู้ว่าจะจัดการกับความคิดที่กระจายลักษณะนี้อย่างไรดี"ขอบค...
27/12/2024

"เป็นเล่มที่เหมาะสำหรับใครก็ตามที่รู้สึกว่า “มีเวลาไม่พอ” และไม่รู้ว่าจะจัดการกับความคิดที่กระจายลักษณะนี้อย่างไรดี"

ขอบคุณลาไปอ่านหนังสือสำหรับสรุปหนังสือ "Feel Good Productivity" ด้วยนะคะ🥰

แอบคิดอยู่บ่อยครั้งว่า สิ่งที่ทำให้เรารู้สึก “เบื่อ” และ “หมดไฟ” นั้นมาจากการเติบโตเป็นผู้ใหญ่รึเปล่านะ...

แต่พอมีเวลานั่งทบทวนจริงจัง ก็พบว่าที่จริงมันมาจากเรามองโลกในมิติของทุกเรื่องเป็นการทำงานไปเสียหมดต่างหาก นี่ยังไม่รวมกับแนวคิดมักจะถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ
“การเล่นสนุกเป็นเรื่องของเด็กๆ”

เพราะงั้นถ้าเราเคยคิดแบบนี้ ลองปรับแนวคิดและหาวิธีที่จะทำให้เรามีความสุขและสนุกกับสิ่งที่ทำกันดีกว่า

(1) คิดว่า “สิ่งที่กำลังทำ” คือการผจญภัย เพราะความเป็นเด็กนี่แหละที่ทำให้เรามีวิธีทำงานได้สนุกขึ้น และความตื่นเต้นในการค้นหาเส้นทางหรือความคิดใหม่ๆ ก็ทำให้เรา “อยากทำสิ่งนั้นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีอุปสรรคหรือติดขัดอยู่บ้าง”

(2) มองหาความสนุกให้เจอ เพราะสิ่งนี้จะทำให้สมองหลั่งสาร “โดพามีน” ที่ทำให้เราจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่... ส่วนนี้แหละที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราเลย
เคล็ดลับ : เน้นที่กระบวนการ ไม่ใช่ผลลัพธ์

(3) ลดความกดดันในตัวเองลง พยายามสร้างสิ่งแวดล้อมที่มีความกดดันต่ำและส่งเสริมให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญมองความล้มเหลวในมุมมองใหม่
“ลองแล้วล้ม ล้มแล้วลองใหม่ ก็แค่นั้น”

3 ส่วนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง... ที่ทำให้การทำงานได้ผล แต่... ยังมีปัจจัยที่บ่งชี้ระหว่างทางที่จะทำให้เราไม่ล้มเลิกอีก

- อำนาจในการควบคุม : ส่วนนี้จะเปลี่ยนเป็นพลังงานสำคัญที่ทำให้ “เราทำได้” ถ้าเรารู้ว่างาน ชีวิต และอนาคตอยู่มนมือของเราทั้งหมด
สิ่งสำคัญก็คือ “อย่ามองว่าเราต้องทำ แต่เป็นสิ่งที่เราเลือกทำต่างหาก” แล้วเราจะมีความรู้สึกอยากลงมือทำมากกว่าถูกบังคับให้ทำ

- ผัดวันประกันพรุ่ง : เป็นส่วนที่ถ้าทิ้งไว้นาน จะทำให้เราเฉื่อยลง และเลิกที่จะทำสิ่งนั้น
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ เพิ่มแรงผลักดันให้มากพอ / มีวินัยให้มากพอ และปลดล็อคตัวเองด้วยการสนับสนุนให้ตัวเองเข้าใจว่าทำไมเราถึงรู้สึกแบบนี้ พร้อมๆ ไปกับการหาทางแก้ไข

- ภาวะ Burnout : งานเยอะ ก็ปฏิเสธบ้าง / เหนื่อยล้า ก็หาเวลาพักบ้าง และถ้ารู้สึกว่ามีความฝันที่อยากทำมากมาย ก็หยิบขึ้นมาเฉพาะสิ่งที่พร้อมจะทำก่อน

ความรู้สึกหลังอ่าน เล่มนี้คือดีเลย เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เราทำหลายอย่างไม่ได้ถูกเขียนและระบุในหนังสือเล่มนี้ ประกอบกับการแนะนำ วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างแรกที่เห็นก็มาจากจุดเริ่มต้นที่ต้องเริ่มให้ถูกต้องก่อน ตามมาด้วยกระบวนการที่จะพาให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้ดี
การวางแผนที่เหมาะสม การตัดตัวเลือกที่ไม่สำคัญจริงๆ ออก และสุดท้ายการวางแผนระยะสั้น กลาง และยาว

เป็นเล่มที่เหมาะสำหรับใครก็ตามที่รู้สึกว่า “มีเวลาไม่พอ” และไม่รู้ว่าจะจัดการกับความคิดที่กระจายลักษณะนี้อย่างไรดี

Amarin HOW-TO

หลัก 6 ประการของการคิดเชิงกลยุทธ์ทักษะสำคัญที่ผู้นำทุกระดับต้องมี!1.การจดจำรูปแบบ (Pattern Recognition)ความสามารถในการสั...
26/12/2024

หลัก 6 ประการของการคิดเชิงกลยุทธ์
ทักษะสำคัญที่ผู้นำทุกระดับต้องมี!
1.การจดจำรูปแบบ (Pattern Recognition)
ความสามารถในการสังเกตสถานการณ์ทางธุรกิจที่ซับซ้อน ไม่แน่นอน ผันผวนและคลุมเครือ (CUVA) โดยคิดได้อย่างรวดเร็วว่าอะไรสําคัญ อะไรไม่สําคัญ รวมถึงระบุโอกาสและความท้าทายที่สําคัญได้
2.การวิเคราะห์ (Systems Analysis)
ความสามารถในการทําแบบจําลองความคิดของสถานการณ์อันซับซ้อน เช่น ระบบต่างๆ และการใช้ประโยชน์จากแบบจําลองเหล่านั้น เพื่อมองให้เห็นรูปแบบ การคาดคะเนสถานการณ์ และ
พัฒนากลยุทธ์ที่เป็นไปได้
3.การคิดอย่างคล่องแคล่ว (Mental Agility)
ความสามารถในการเปิดรับความท้าทายทางธุรกิจ โดยใช้ระดับการวิเคราะห์แบบต่างๆ รวมถึงการคาดการณ์การกระทําและปฏิกิริยาตอบสนองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายของตนเอง
4.การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ (Structured Problem-solving)
ความสามารถในการชี้นําองค์กรเพื่อกําหนดกรอบของปัญหาพัฒนาทางออกที่สร้างสรรค์ และตัดสินใจเรื่องยากๆ ด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด
5.การสร้างวิสัยทัศน์ (Visioning)
ความสามารถที่จะจินตนาการอนาคตที่มีศักยภาพ ที่เป็นทั้งความทะเยอทะยานและเป็นสิ่งที่ทําให้สําเร็จได้ รวมทั้งสามารถกระตุ้นให้องค์กรทําเรื่องเหล่านั้นให้เป็นจริง
6.การเมืองในที่ทำงาน (Political Savvy)
ความเข้าใจว่าอิทธิพลภายในองค์กรทํางานอย่างไร รวมถึงความสามารถที่จะใช้ความเข้าใจเชิงลึกนั้นดึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักมาเป็นพันธมิตร
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงอธิบายถึงทักษะ 6 ประการนี้อย่างชัดเจนครอบคลุม แต่ยังบอกเทคนิคในการพัฒนาทักษะทั้งหมดไว้อย่างครบถ้วน รวมทั้งกลั่นกรองคําแนะนําออกมาเป็น “รวมแบบฝึกหัด” เพื่อจะกลายเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม
เพราะการเป็นหัวหน้าที่ดีอาจจะไม่ได้การันตีถึงการเป็นผู้นำที่เฉียบแหลม และคุณสมบัติที่จะพิสูจน์ความจริงข้อนี้ได้ก็คือ "ทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์" นั่นเอง..
➡️หลัก 6 ประการของการคิดเชิงกลยุทธ์
ไมเคิล ดี. วัตกินส์ เขียน
ศรรวริศา เมฆไพบูลย์ แปล
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/402vOcI
Lazada: https://bit.ly/4gEahNH
Amarinbooks: https://bit.ly/3P3nZxc

💸15 ข้อคิดเกี่ยวกับ ‘เงิน’ ที่โรงเรียนไม่เคยสอน แต่เล่มนี้จะสอนคุณ1. การบริหารเงินตัวเองให้เป็น = การตระหนักในคุณค่าตัวเ...
26/12/2024

💸15 ข้อคิดเกี่ยวกับ ‘เงิน’ ที่โรงเรียนไม่เคยสอน แต่เล่มนี้จะสอนคุณ

1. การบริหารเงินตัวเองให้เป็น = การตระหนักในคุณค่าตัวเอง + ความรับผิดชอบ

2. “เงินกับจิตใต้สํานึก คือเรื่องเดียวกัน”
– ซูซี่ ออร์แมน โค้ชการเงินชื่อดังระดับโลก

3. ปัญหาการเงินมาจากจิตใต้สํานึกที่ฝังรากลึก ดังนั้นการแก้ปัญหาทางการเงินทุกเรื่อง ต้องเริ่มต้นที่การแก้จากจิตใต้สํานึกก่อนเป็นอันดับแรก ถึงจะได้ผล

4. ปัญหาการใช้เงินที่ได้มาอย่างเหน็ดเหนื่อยไปซื้อของแพงมากแต่ไม่จําเป็นเลยมาจากต้นตอ ‘ความเครียด’

5. อารมณ์ด้านลบปิดกั้นคุณจากการมีเงิน เพราะเมื่อความโกรธหรืออารมณ์ด้านลบอื่นๆ ผุดขึ้นมา มันส่งผลให้คุณทําเรื่องที่ปกติไม่คิดจะทํา

6. คุณจะได้เงิน 100,000 บาทตามความเชื่อว่าคุณมีค่าได้อย่างไร ในเมื่อคุณไม่เคยตระหนักมาก่อนเลยว่าเงินก้อนนั้นจะให้ประโยชน์อะไรกับชีวิตคุณบ้าง

7. การเรียนรู้วิธีบริหารเงินของคุณคือหนทางสู่การนับถือตัวเอง (Self-Respect) ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกว่าตัวเองมีค่าหรือ Self-Esteem

8. วิธีที่จะทําให้คุณก้าวไปสู่ตัวเลขที่คุณ ‘เชื่อว่า’ ควรได้รับอย่างแท้จริง ก็คือการปรับปรุง Self-Worth ใหม่ เมื่อคุณปรับปรุงทัศนคติที่มีต่อตัวเองได้แล้วด้วยการยกระดับให้สูงขึ้น เงินสุทธิในชีวิตของคุณจะสูงตาม

9. “คนไม่รักเงิน คือคนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต”
– หนังสือ Life’s Little Instructions

10. วิธีที่เราจะแก้ปัญหาการเงินได้นั้น ไม่ใช่อยู่ที่การหาเงินให้มากขึ้น แต่ต้องแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา คือต้นตอจิตใต้สํานึก ‘ด้อยค่า’ ซึ่งเป็นตัวปิดกั้นเงินทองเข้ามาหรือกําจัดเงินออกไปจากชีวิตเรา

11. นี่คือ 10 ทัศนคติผิดๆเกี่ยวกับเงินที่ต้องได้รับการแก้ไข
- เงินทองเป็นของหายาก
- เงินทองเป็นต้นตอของความชั่วร้าย
- เราต้องทํางานหนักเพื่อเงิน
- เงินคือพระเจ้า
- เงินเป็นเรื่องยุ่งยาก
- คนรวยเพราะทําบุญมาดีมีวาสนา
- เรียนให้เก่งๆ จะได้งานดีๆ มีเงินเยอะ
- ถ้าเรามีเงินมากขึ้น ปัญหาทุกอย่างจะหมดไป
- ได้เงินมาแล้วต้องให้รางวัลตัวเอง
- เงินทองเป็นหน้าที่ของผู้ชาย

12. เมื่อไรก็ตามที่คุณได้เงินมาตามเป้าที่ตั้งไว้ จงกัน 10-20% ของเงินก้อนนั้นไว้ทําสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น

13. การที่เราชอบให้รางวัลความสําเร็จเป็นการจ่ายเงินซื้อความหรูแพงเป็นเพราะเราอยากชดเชยสิ่งที่เราขาดแคลนในชีวิตจริง

14. เราปล่อยให้ลูกโตมากับครอบครัวที่จัดการเรื่องเงินอย่างไร เป็นตัวกําหนดทัศนคติที่ฝังลงในจิตใต้สํานึก และกําหนดอนาคตทางการเงินของเด็กคนนั้น

15. เวลาที่เรารักใครมากๆ อย่าตกปลาให้เขากินตลอดเวลา แต่จงซื้อเบ็ดให้แล้วสอนให้เขาตกปลา วิธีนี้เขาจะมีกินตลอดชีวิต

💲เงิน เรื่องใหญ่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน
มณฑานี ตันติสุข เขียน
สำนักพิมพ์ howto
📍สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่
Shopee: https://bit.ly/3ZNb6xu
Lazada: https://bit.ly/3BmNSVz
Amarinbooks: https://bit.ly/3Dc8ZdT

แจ้งข่าวสาร📣สำนักพิมพ์ howto ขอลาพักร้อนและหลบไปพักผ่อนตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 67 - 1 ม.ค. 68 เจอกันใหม่ 2 ม.ค. 68 นะคะถึง...
26/12/2024

แจ้งข่าวสาร📣
สำนักพิมพ์ howto ขอลาพักร้อนและหลบไปพักผ่อน
ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 67 - 1 ม.ค. 68
เจอกันใหม่ 2 ม.ค. 68 นะคะ
ถึงเวลาแล้วที่นากจะได้พัก
นักอ่านทุกคนก็อย่าลืมพักผ่อนกันด้วยน้า

บทเรียนสำคัญในชีวิต✍🏼“อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลือกไปแล้วแต่จงหาคุณค่าให้กับมัน”ในชีวิตคนเรามักเต็มไปด้วยทางเลือกมากมายให้เร...
25/12/2024

บทเรียนสำคัญในชีวิต✍🏼
“อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลือกไปแล้ว
แต่จงหาคุณค่าให้กับมัน”
ในชีวิตคนเรามักเต็มไปด้วยทางเลือกมากมายให้เราต้องตัดสินใจ มีทั้งทางที่เรารู้สึกว่าเลือกถูก และทางที่คิดว่า “เลือกผิด” สิ่งสำคัญมากกว่าคุณจะเลือกอะไร คือคุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่เลือกไปแล้ว เพราะสิ่งที่คิดในเวลานั้นจะส่งผลต่อชีวิตอย่างมาก
คุณอาจจะทุบตีตัวเองที่เลือกแล้วไม่เป็นแบบที่คิด
คุณอาจจะรู้สึกผิดและโทษตัวเองที่ทำพลาด
หรือจะติดค้างอยู่กับมันจนออกมาไม่ได้
แต่คุณจะลงโทษตัวเองแบบนั้นทำไม ในเมื่อเราเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ทำพลาดได้ และเราไม่มีทางรู้ว่าทางที่เลือกเป็นอย่างไรจนกว่าจะผ่านมันไปแล้ว
อย่างชื่อหนังสือ "จะกินพุดดิ้งชิ้นนี้เลยไหม หรือจะทนไว้ก่อน?" คือสถานการณ์ที่คุณอยากกินพุดดิ้ง แต่ไม่ควรกิน เพราะลดน้ำหนักอยู่
ถ้าคุณกินไปแล้ว คุณก็มักจะรู้สึกผิดและโทษตัวเอง ผู้เขียนบอกว่าในเวลาแบบนี้สิ่งที่คนเรามักจะลืมไปคือ การรับรู้คุณค่าของการกิน ที่ไม่ใช่แค่ “อร่อย” เช่น อย่างน้อยพุดดิ้งก็ช่วยให้วันนี้ของคุณสดใสขึ้นมาได้

สิ่งที่จะสื่อก็คือ.. ไม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่เลือก แต่จงหาคุณค่าให้กับมัน
คุณรู้อยู่แล้วว่าเวลาชีวิตคนเรามันสั้น แต่ความจริงที่คุณควรจะตระหนักได้อีกอย่างคือ มันอาจจะสั้นกว่าที่คุณคิด เพราะฉะนั้นก่อนจะสายไป บอกตัวเองเสมอว่าไม่เป็นไร ทุกทางที่เลือกมีคุณค่าเสมอ
ทางเลือกนั้นอาจจะ…
ทำให้คุณรู้ว่ามีคนห่วงใยมากมาย
ทำให้คุณเจอกับสิ่งใหม่ที่แตกต่าง
ทำให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น
และจะทําหรือไม่ทํา
จะตัดสินใจหรือไม่ตัดสินใจ
ไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ไม่เสียใจภายหลัง

🍮จะกินพุดดิ้งชิ้นนี้เลยไหม หรือจะทนไว้ก่อน?
ทาคาฟุมิ คาคิอุจิ เขียน
รัตนาภรณ์ วานิชย์หานนท์ แปล
สำนักพิมพ์ howto
📍มี E-book
🧺สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่
Shopee: https://bit.ly/3Yo1xDc
Lazada: https://bit.ly/4eZKaQg

หนังสือ "ON EMPATHY" ผลงานจากดุจดาว วัฒนปกรณ์ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทุกช่องทางนะคะ🥰
25/12/2024

หนังสือ "ON EMPATHY" ผลงานจากดุจดาว วัฒนปกรณ์ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทุกช่องทางนะคะ🥰

ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจและไม่ตัดสิน
คือของขวัญล้ำค่าที่มนุษย์จะมอบให้กันได้
New Release!
ON EMPATHY💟
ผลงานจากคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ นักจิตบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้าน Empathy
คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่...
เวลาเห็นคนที่รักร้องไห้แล้วไม่รู้จะปลอบยังไง
ปวดไมเกรนทุกครั้งที่ต้องคอมเมนต์งานลูกน้อง
ปากหนักไม่กล้าขอความเห็นจากใคร ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับ "Empathy" คำที่คนพูดถึงมากที่สุดใน พ.ศ. นี้ แต่แทบไม่มีใครรู้ความหมาย และผู้เขียนยืนยันว่า นี่เป็นทักษะที่ไม่ใช่แค่ "nice-to-have" แต่ "must-have"
Empathy คืออะไรกันแน่
❌ "ใส่ใจ"
❌ "เห็นใจ"
❌ "สงสาร"
✅ เอาใจคนอื่นมา "สวมใส่" ใจเราโดยไม่ตัดสิน
แล้วทำไมทุกคนถึงจำเป็นต้องมี
คำตอบคือ เพราะคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก และนอกจากนั้นเราแต่ละคนยังมีโลกของตัวเองคนละใบ Empathy คือเครื่องมือที่จะทำให้คุณละวางโลกของตัวเองลง แล้วพาใจตนก้าวไปสำรวจโลกของคนอื่นเพื่อมองเห็น เปิดรับ และเข้าใจ
ไม่ว่าจะด้วยจิตเมตตา หลักเหตุผล หรือแม้กระทั่งความจำเป็น
ถึงที่สุดแล้ว ความเข้าใจก็คือของขวัญชิ้นเดียวในโลกที่สามารถทำให้ผู้รับอบอุ่นใจและผู้ให้สุขสงบ

ON EMPATHY
ดุจดาว วัฒนปกรณ์ เขียน
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/49Vt9Vx
Lazada: https://bit.ly/4gNOKkZ
Amarinbooks: https://bit.ly/49QavP5
📌พิกัดฉบับ E-book
Naiin:https://bit.ly/3BFRm5L
Pinto: https://bit.ly/4fznTbi
Meb: https://bit.ly/4a0s13e

หนังสือ "วิธีเป็นอินโทรเวิร์ตที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก" วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทุกช่องทางนะคะ📣
25/12/2024

หนังสือ "วิธีเป็นอินโทรเวิร์ตที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก" วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทุกช่องทางนะคะ📣

แด่ชาวอินโทรเวิร์ตและมนุษย์ออฟฟิศทุกคน…
ไม่ต้องสูญเสียตัวตน คุณก็สำเร็จได้ในแบบของตัวเอง!
New Release
🐈วิธีเป็นอินโทรเวิร์ตที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่...
ไม่ชอบแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวกับใคร
เหน็ดเหนื่อยกับการพยายามเอาใจผู้อื่น
เบื่อสังคมที่ใช้ประโยชน์จากคอนเน็กชัน
ไม่อยากข้องเกี่ยวกับการเมืองในที่ทำงานอีกต่อไป
และหากคุณจะไม่ปรับตัวเข้ากับโลก
คุณก็ยังประสบความสำเร็จสูงสุดในสังคมการทำงานได้
นี่คือคู่มือสำหรับชาวอินโทรเวิร์ตผู้ใฝ่ฝันถึงความสำเร็จที่ไม่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียตัวตน!
ขอเพียงแค่คุณรู้จักใช้จุดเด่นของบุคลิกภาพที่มี ไม่ว่าใครก็คว้าโอกาสไว้ได้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีความจริงใจ ตั้งใจทำงาน รู้จักการสื่อสารเรื่องงานให้ชัดเจน มีความเห็นอกเห็นใจ มีความคิดแบบผู้นำที่ดี และรู้จักสร้างสมดุลให้ตัวเอง เหล่านี้ก็ทำให้คุณก้าวหน้าในองค์กรแบบก้าวกระโดดได้แล้ว
แด่มนุษย์อินโทรเวิร์ตผู้อยากก้าวสู่ความสำเร็จโดยไม่เสียตัวตนไป หนังสือเล่มนี้จะช่วยแนะนำ ปรับความเข้าใจที่คุณมีทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น และองค์กร ทั้งยังเสริมสร้างกำลังใจให้คุณได้อย่างแน่นอน

🐈วิธีเป็นอินโทรเวิร์ตที่พูดน้อยแต่สำเร็จมาก
โจจุนโฮ และ คิมคยองอิล เขียน
สุมาลี สูนจันทร์ แปล
สำนักพิมพ์ howto
📌พิกัดฉบับหนังสือ
Shopee: https://bit.ly/3VU7nfi
Lazada: https://bit.ly/409vxVG
Amarinbooks: https://bit.ly/3Dw3SFw
📌พิกัดฉบับ E-book
Naiin: https://bit.ly/4iKhwVL
Pinto: https://bit.ly/3DyebsI
Meb : https://bit.ly/4iR6vBS

ที่อยู่

บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) 378 ถนนชัยพฤกษ์ (บรมราชชนนี) เขตตลิ่งชัน
Bangkok
10170

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Amarin HOW-TOผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

Our Story

สำนักพิมพ์ Amarin how-to รวบรวมหนังสือธุรกิจ จิตวิทยา พัฒนาตนเองดีๆ จากทั่วทุกมุมโลกมาไว้สำหรับคุณ ที่นี่ที่เดียว สนใจสั่งซื้อหนังสือ โทร 02-422-9999 หรือ inbox แฟนเพจ