Rainmaker

03/02/2025

ChatGPT เปิดตัว ‘Deep Research’
เครื่องมือสร้างรายงานระดับนักวิเคราะห์วิจัย
หลังจากเปิดตัว 03-mini ไปเมื่อสองวันก่อน OpenAI ก็ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่อย่าง ‘Deep Research’ บน ChatGPT เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์และแหล่งข้อมูลออนไลน์ เพื่อทำรายงานวิจัยในระดับนักวิเคราะห์วิจัย
นอกจากการพิมพ์ถามตอบกับ ChatGPT แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถอัปโหลดไฟล์ทั้ง PDF และ Spreadsheet ได้ด้วย โดยจะใช้เวลาระหว่าง 5-30 นาที ในการรวบรวมคำตอบ รวมถึงมีแถบด้านข้างที่แสดงกระบวนการทำงาน และกอ้างอิงแหล่งที่มาแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่ง Mark Chen หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ OpenAI กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดคือการพัฒนาระบบให้สามารถค้นพบความรู้ใหม่ด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม ChatGPT ยังมีข้อจำกัดในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของความถูกต้อง ที่ยังพบข้อผิดพลาดขณะทำ Deep Research อยู่แม้จะน้อยกว่าโมเดลรุ่นก่อน ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ระบบอาจยังแยกแยะระหว่างข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงกับข่าวลือได้ไม่ดีนัก รวมถึงอาจมีข้อผิดพลาดด้านการจัด Format อยู่บ้าง
ฟังถึงตรงนี้หลายคนอาจคุ้นกับ Deep Research นั่นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ Google Advanced Suite ก็มีฟีเจอร์แบบเดียวกัน ต่างกันตรงที่การใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวบน Google จะต้องสมัครสมาชิก Gemini Advanced ราคา 20 ดอลลาร์ (ประมาณ 682 บาท) ต่อเดือน แต่ในขณะเดียวกันหากจะใช้งาน Deep Research บน ChatGPT ผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าสมาชิกถึง 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,817 บาท) ต่อเดือนเลยทีเดียว
โดย OpenAI ชี้แจงสาเหตุที่ราคา Deep Research บน ChatGPT ค่อนข้างสูง แถมยังมีการจำกัดจำนวนการใช้งานเพียง 100 ครั้งต่อเดือนสำหรับผู้ใช้ Pro ว่าเป็นเพราะต้องใช้พลังประมวลผลสูงมาก และยิ่งการรีเสิร์ชข้อมูลใช้เวลานานเท่าไร ก็ต้องใช้ทรัพยากรประมวลผลมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ OpenAI ยังเผยว่ากำลังพัฒนาเวอร์ชันของ Deep Research ที่ใช้โมเดลที่เล็กลงและคุ้มค่ากว่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มโควต้าการใช้งานได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่า OpenAI จะเปิดให้ผู้ใช้ ChatGPT Plus ได้ทดลองใช้ในอีกประมาณหนึ่งเดือนหลังจากนี้
ถึงแม้หลังจากจะมีการทดสอบด้านความปลอดภัยเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้ในยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์ และเขตเศรษฐกิจยุโรปจะต้องรอไปก่อน เนื่องจาก Deep Research ยังไม่พร้อมให้บริการในภูมิภาคนี้
ที่มา: https://www.engadget.com/ai/chatgpts-deep-research-tool-can-create-reports-from-hundreds-of-online-sources-022223298.html
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/chatgpt-deep-research/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

03/02/2025

‘YouTube’ เพิ่ม ‘Post Tabs’ สำหรับครีเอเตอร์ สร้าง Community เพื่อให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กันได้มากกว่าเดิม
YouTube เพิ่มฟีเจอร์ ‘Post Tabs’ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อเดิมว่า Community Space หลังจากการประกาศในงาน ‘Made for YouTube’ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคอนเน็กกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ผ่านการพูดคุยกันบน Post Tabs โดยตรง และไม่ต้องออกไปสร้าง Discord เพื่อพูดคุยกันนอกแพลตฟอร์ม
โดยฟีเจอร์ Post Tabs จะมีความแตกต่างจาก Community Space ตรงที่ครีเอเตอร์จะทำได้แค่การลงรูป และเขียนข้อความลงในหน้าช่อง ซึ่งผู้ใช้จะมีปฏิสัมพันธ์ได้เพียงการคอมเมนต์เท่านั้น แต่ในตอนนี้ผู้ใช้จะสามารถพูดคุยกันเองบน Community เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับวิดีโอที่ครีเอเตอร์ลง
ซึ่งครีเอเตอร์ที่ได้ทดลองฟีเจอร์นี้บน YouTube กล่าวว่าการมี Community Hub เป็นของตัวเอง ทำให้ทุกวันนี้การโพสต์รูป, ข้อความ หรือคลิปในช่องของตัวเอง จะสามารถเข้าไปดูกิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่องได้บน YouTube Studio รวมถึงมีการแนะนำข้อความเพื่อ Reply แฟนคลับได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดใช้งานสำหรับครีเอเตอร์ทั่วไป โดย YouTube ได้ทยอยเชิญครีเอเตอร์ให้มาร่วมทดลองฟีเจอร์ผ่านการส่งอีเมล และผ่านแบนเนอร์ ‘Go to Community’ ที่จะขึ้นมาหลังครีเอเตอร์เข้าไปที่หน้าช่องของตัวเอง สำหรับครีเอเตอร์คนไหนที่ต้องการใช้งานต้องรอติดตามทาง YouTube ต่อไป
ที่มา: https://www.theverge.com/news/604540/youtube-communities-post
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/youtube-post-tabs/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

03/02/2025

BoomTharis ประกาศหยุดทำช่อง ‘กินข้าวกับบูม’ ตามไปดูได้ที่ช่อง BoomTharis แทน
คงถึงเวลาแล้วที่ ‘บูม–ธริศร ธรณวิกรัย’ กับรายการ ‘กินข้าวกับบูม EAT FROM HOME’ จะต้องก้าวเพื่อเติบโตต่อไป โดยการเริ่มทำตัวตนของช่องให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งกว่า 138 วิดีโอคอนเทนต์ ที่ทำมาตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2022 มาจนถึง 31 ธันวาคม 2024 จะต้องหยุดลง และย้ายไปอยู่ในช่องที่ตัวตนชัดเจนอย่าง ‘BoomTharis’ แทน
ซึ่งเป็นเวลามานานกว่า 2 ปี แล้ว ที่บูม บีม และบอมทำให้ทุกคนที่ติดตามเมนูเด็ดจากร้านอร่อยมานาน จนมาถึงช่วงเวลาที่ต้องบอกลาการแยกช่องอย่างเป็นทางการ หรือที่เรียกได้ว่ากินข้าวกับบูมต้องขอตัวลาผู้ชมไปแล้วจริง ๆ
เพราะเดิมทีบูมตั้งใจให้ตัวตน และคอนเทนต์ระหว่างช่องกินข้าวกับบูม และ BoomTharis มีการแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้ผู้ชมตามไปดูกันง่ายขึ้น แต่ตัวตนในช่องกินข้าวกับบูม และช่อง BoomTharis นั้น ยังคงเป็นบูม บีม และบอมที่ทุกคนคุ้นเคย
และสุดท้ายแล้วก็ยังคงมีการพูดถึงอีกรายการข้ามช่องอยู่เสมอ ทำให้ความตั้งใจที่บูมอยากจะแยกตัวตน หรือคอนเทนต์ออกจากกันไม่ได้จำเป็นอย่างที่คิด เพราะสุดท้ายทั้ง 2 ช่องก็คือไลฟ์สไตล์ของความเป็น BoomTharis อยู่ รวมถึงการมีลูกทำให้มีเวลาทำคลิปถี่ได้น้อยลง และร้านอาหารที่อยากจะไปก็น้อยลงเช่นกัน
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ไป ช่องกินข้าวกับบูมจะไม่ได้หายไปไหน เพราะบูมเองก็ยังเอ็นจอยกับการกินเมนูใหม่ ๆ หรือร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ไปมาแล้วยังคงอยากมีอะไรมาเล่าให้ฟังอยู่ คอนเทนต์กินข้าวกับบูมจึงจะย้ายมาอยู่ในช่อง BoomTharis อย่างเป็นทางการ
แต่คอนเทนต์กินข้าวกับบูมจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อสามารถไปตามเวลาว่างที่ทำได้ หรือเมื่อไหร่ที่เห็นโอกาส ทั้งการเดินทาง หรือมีเวลาที่มากขึ้น คอนเทนต์กินข้าวกับบูมก็จะมาหาคนดูเอง ซึ่งบูมมองว่าผู้ชมกว่าหลักแสนก็ยังคงตามมาดู และตามมาให้กำลังใจอยู่เสมอ
และต่อไปคงจะได้เจอกันในที่ใหม่ โดยคอนเทนต์ในช่องกินข้าวกับบูมจะยังคงอยู่ให้กลับมาดูได้ในตอนที่คิดถึง เพราะจะไม่มีการลบคอนเทนต์ หรือลบช่องออกไป โดยทั้งบูม บีม และบอมจะยังคงรอทุกคนอยู่ที่ช่อง BoomTharis นั่นเอง
ที่มา: https://www.facebook.com/watch/?v=1398979764423429&rdid=8sqlQtz8tie7ts79
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/boomtharis-announce-to-stop-kin-khao-kub-boom-channel/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

02/02/2025

🎯 ทริกการตลาดแบบ ‘Five Whys’ ฉบับ RAiNMaker
สร้างภาพจำจากการถามตอบของแบรนด์
Five Whys เรียกได้ว่าเป็นการคิดให้เข้าถึงรากของปัญหา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจตัวเอง และนำไปวางแผนกลยุทธ์การตลาดต่อไปได้ง่ายขึ้น โดยวิธีการถามเจาะลึกเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่แบรนด์ต้องการ 5 ครั้ง ด้วยลักษณะถามเพื่อหาเหตุผล และถามลึกลงไปเรื่อย ๆ นั่นเอง แต่บางครั้งการถามแบบเจาะลึกก็อาจทำให้สับสนจนหาคำตอบไม่ได้ ดังนั้นทาง RAiNMaker จึงนำเทคนิคนี้มาประยุกต์เป็น 5 คำถามเพื่อให้แบรนด์นำไปใช้กันที่นี่แล้ว!
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/five-whys-marketing/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

Five Whys เรียกได้ว่าเป็นการคิดให้เข้าถึงรากของปัญหา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจตัวเอง และนำไปว...

02/02/2025

😉 How to ประยุกต์การสร้างคอนเทนต์จากการเรียนรู้ Gen Z และ Gen Alpha
‘Gen Z ’ และ ‘Gen Alpha’ เป็นเจนที่มีบทบาทในการทำการตลาดของแบรนด์ในอนาคต เพราะเป็นยุคที่เติบโตมากับเทคโนโลยี และปรับเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์สามารถนำความเป็น ‘Gen Z’ และ ‘Gen Alpha’มาปรับใช้กับการสร้างคอนเทนต์ให้สดใหม่อยู่เสมอได้
ในอนาคตอันใกล้นี้โลกก็จะเต็มไปด้วยคนวัย Gen Z และ Gan Alpha มากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้จำนวนการเกิดของประชากรอาจจะไม่ได้มากเท่ากับคนเจนก่อน ๆ แต่เป็นเจนที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญ เพราะถึงจำนวนจะไม่มาก แต่คนทุกเจนภายในบ้านจะทุ่มทั้งเงิน และเวลามาให้กับคนเจนนี้ ส่งผลให้กำลังการซื้อของ Gen Z และ Gen Alpha มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เรียกได้ว่าหากเจอคอนเทนต์ที่มีการนำเสนอแปลกใหม่ และน่าสนใจ คนเจนนี้ก็ไม่ลังเลเลยที่จะยอมจ่าย เนื่องจากแบรนด์ที่สามารถดึงดูดความสนใจ และแสดงให้เห็นความเป็นตัวของตัวเองบนโลกโซเชียลได้ ก็ยิ่งทำให้การใช้จ่ายของ 2 เจนนี้รู้สึกคุ้มค่าขึ้นไปอีก
แต่การประยุกต์ลักษณะและพฤติกรรมของ ‘Gen Z’ กับ ‘Gen Alpha’ มาสร้างคอนเทนต์ได้จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/content-creator-genz-genalpha/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

‘Gen Z ’ และ ‘Gen Alpha’ เป็นเจนที่มีบทบาทในการทำการตลาดของแบรนด์ในอนาคต เพราะเป็นยุคที่เติบโตมากับเทคโนโลยี และป....

02/02/2025

🗓 แนะนำ 5 แอปฯ Habit Tracker ตัวช่วยปรับนิสัยและจัดระเบียบชีวิต
ไม่ว่าจะเริ่มต้นเดือนใหม่ เริ่มต้นปีใหม่ หรือผ่านเข้าสู่ช่วงอายุใหม่ คนเรามักจะตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่น ปีนี้จะลดน้ำหนัก เดือนนี้จะเก็บเงินให้มากขึ้น หรือเทอมนี้จะตั้งใจเรียน! แต่แล้วก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่ทำให้ความตั้งใจนั้นล้มเหลวไปหรือไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
วันนี้ RAiNMaker ขอแนะนำ 5 แอปพลิเคชั่นติดตามพฤติกรรม (Habit Tracker) ตัวช่วยปรับเปลี่ยนนิสัยไปในแต่ละวัน พร้อมเก็บบันทึกสถิติในทุกๆ วัน เพื่อให้เราสามารถผลักดันตัวเองไปสู่เป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์
ประโยชน์ของแอปฯ ติดตามพฤติกรรม
📌เห็นเป้าหมาย
การติดตามพฤติกรรมในแต่ละวัน จะช่วยให้เราเห็นเส้นทางและความคืบหน้าเป็นรูปธรรม ช่วยสร้างแรงจูงใจในการไปสู่เป้าหมายได้มากขึ้น
📌เพิ่มแรงจูงใจ
การติดตามพฤติกรรมช่วยเราได้เห็นชัยชนะเล็กๆ ในแต่ละวัน ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจและแรงจูงใจได้อย่างมาก เพื่อบอกลานิสัยเก่าๆ เปลี่ยนตัวเองสู่คนใหม่!
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าต้องการพัฒนาตัวเองในด้านไหน เช่น การออกกำลังกาย การอ่าน การดื่มน้ำ รวมไปถึงการเข้านอนตรงเวลา สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นขอแนะนำว่าให้เริ่มทีละ 2-3 พฤติกรรม โดยก่อนอื่นไปดูจุดเด่นของแต่ละแอปฯ กันเลย!
อ่านบนเว็บไซต์
https://www.rainmaker.in.th/5-app-habit-tracker/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

ไม่ว่าจะเริ่มต้นเดือนใหม่ เริ่มต้นปีใหม่ หรือผ่านเข้าสู่ช่วงอายุใหม่ คนเรามักจะตั้งเป้าหมายในการเปลี่ย...

01/02/2025

✏️ Content Creation vs Content Curation คืออะไร? แบบไหนดีกับโซเชียลมีเดีย?
‘คอนเทนต์’ นอกจากจะเป็นผลผลิตจากความคิดสร้างสรรค์จากคอนเทนต์ครีเอเตอร์แล้ว ยังเรียกว่าเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการทำ social media marketing เลยก็ว่าได้ และที่สำคัญหากคอนเทนต์ออกมาดี ยังช่วยให้ performance บนโซเชียลมีเดียออกมาดีอีกด้วย
ซึ่งคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ก็มีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น บทความ ภาพ เสียง วิดีโอ เป็นต้น แต่วันนี้เราจะชวนมาพูดคุยถึงคอนเทนต์ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ที่ไม่ใช่การเจาะลึกไปถึงประเภทคอนเทนต์แบบที่กล่าวไป
นั่นก็คือ Content Creation และ Content Curation นั่นเอง หลายคนอาจเคยได้ยินบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร และแตกต่างกันยังไงอย่างแน่ชัด ก่อนอื่นมาทำความรู้จักคอนเทนต์ทั้ง 2 ประเภทที่ควรมีบนโซเชียลมีเดียของเรากันก่อนดีกว่า
ที่มา: Giraffe Social Media
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/content-creation-vs-content-curation/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

'คอนเทนต์' นอกจากจะเป็นผลผลิตจากความคิดสร้างสรรค์จากคอนเทนต์ครีเอเตอร์แล้ว ยังเรียกว่าเป็นวัตถุดิบหลัก.....

01/02/2025

📢 4 สิ่งควรคำนึง ถ้าคิดจะทำ Digital PR ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
Digital PR คืออะไร?
หลายคนอาจรู้ดีอยู่แล้วว่า Digital PR คืออะไร ซึ่งมันก็คือกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์มากขึ้น แต่จะเน้นการโปรโมตผ่านช่องทางดิจิทัล อย่างโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น การทำ Content Marketing, SEO หรือ Influencer Marketing เป็นต้น
เพื่อเป็นการสร้างเครือข่าย การรับรู้ สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง รวมทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ดังนั้น การจะทำ Digital PR ควรมีความเข้าใจทั้งในเรื่องคอนเทนต์ โซเชียลมีเดีย การตลาดบนเครื่องมือการค้นหา รวมถึงความรู้ด้านประชาสัมพันธ์ เนื่องจากต้องใช้ทักษะหลายแขนงในการทำนั่นเอง
และหากผลตอบรับดีก็มีผลช่วยให้ยอดเข้าชมเว็บไซต์ หรือยอดขายดีตามขึ้นไปอีกด้วย แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการสร้างคอนเทนต์ที่ดีเป็นหลัก หากคอนเทนต์มีคุณภาพ สร้างความน่าสนใจ และความน่าเชื่อถือได้ ก็จะทำให้การโปรโมตง่ายขึ้นไปด้วย
วันนี้ RAiNMaker เลยจะพามาดู 4 สิ่งควรคำนึง ในการทำ Digital PR กันค่ะ
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/4-pillars-digital-pr/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

การทำ PR (Public Relation) แบบเดิม ๆ อาจใช้ไม่ได้ผลดีเหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ดิจิทัลแทบจะเต็มตัว การโปร....

01/02/2025

🎬 แจกฟรี! แหล่งเทมเพลต TikTok สำหรับชาว TikToker
สำหรับยุควิดีโอสั้น แน่นอนว่าแอปแรกที่นึกถึงก็ต้องเป็น TikTok เพราะไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์​หรือแบรนด์ ต่างก็หนันมาแข่งกันในแพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนต์นี้ และเพราะความเร็วเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างไวรัล ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเรามีแหล่งเทมเพลตไว้สำหรับใส่คลิปพร้อมลงหน้าฟีดเลย? วันนี้ RAiNMaker มีเว็บไซต์มาแจกกัน!
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/free-tiktok-template/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

สำหรับยุควิดีโอสั้น แน่นอนว่าแอปแรกที่นึกถึงก็ต้องเป็น TikTok เพราะไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์​หรือแบรนด์ ต่างก.....

31/01/2025

แด่ ชาว กราฟฟิก ทั่ว ไทย 🇹🇭

😂 😂 😂

note: มี size แต่ละภาพ แจกด้านในจ้า

31/01/2025

✏️ รวมโพสต์ Layout สุดไวรัล ที่ทำกราฟิกต้องร้องขอชีวิต
ตอนนี้กราฟิกทั่วฟ้าเมืองไทยคงกำลังรีบปั่นภาพออกมาหลังจาก MK Restaurants ได้ปล่อยโพสต์โปรโมตน้ำจิ้มสุกี้ที่เรียกได้ว่าฮือฮากันทั้งวงการกราฟิกถึงขั้นที่มีคนมานั่งแกะ Layout กันเลยทีเดียว
โดยผู้ใช้ Facebook ชื่อ Chaya Chaya ได้แกะสัดส่วน Layout ของโพสต์ออกมา ซึ่งใช้จำนวน 5 ภาพ และมีขนาดดังนี้
☑️ ภาพที่ 1: ขนาดรูปรวมทั้งหมด 3600x1200 และมีสัดส่วนที่แสดงบนโพสต์ 1:1 หรือ 1200x1200
☑️ ภาพที่ 2: ขนาดรูปรวมทั้งหมด 3600x1200 และมีสัดส่วนที่แสดงบนโพสต์ 1:1 หรือ 1200x1200
☑️ ภาพที่ 3: ขนาดรูปรวมทั้งหมด 3600x800 และมีสัดส่วนที่แสดงบนโพสต์ 3:2 หรือ 1200x800
☑️ ภาพที่ 4: ขนาดรูปรวมทั้งหมด 3600x800 และมีสัดส่วนที่แสดงบนโพสต์ 3:2 หรือ 1200x800
☑️ ภาพที่ 5: ขนาดรูปรวมทั้งหมด 3600x800 และมีสัดส่วนที่แสดงบนโพสต์ 3:2 หรือ 1200x800
นอกจากจะทำให้โพสต์ของเราดูน่าสนใจแล้ว การวาง Layout แบบนี้ยังสามารถแทรกข้อความเหมือนเป็นการเซอร์ไพรส์สร้างเอนเกจให้กับโพสต์ของเราได้อีกด้วย
วันนี้กราฟิกจากที่ไหนโดนเจ้านายสั่งให้ทำ Layout นี้บ้าง! มาคอมเมนต์ใต้โพสต์บอกกันได้เลยนะ~
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

31/01/2025

🏮 เจาะอินไซต์ 10 แบรนด์ดังจากจีน บุกตลาดไทยยังไงให้แมส!
ท่ามกลางกระแสของแบรนด์จีนที่คนไทยต่างตกเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ อยู่ตลอดเมื่อมีร้านใหม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความอยากลอง หรือซื้อเพราะราคาถูกก็ตาม
แต่แบรนด์ดังจากจีน หรือแบรนด์เชื้อสายจีนเหล่านั้น ความจริงแล้วมีเบื้องหลังกลยุทธ์ และการสร้างประสบการณ์แฝงไว้อยู่ เพื่อตีตลาดไทย และแซงหน้าสาขาหลาย ๆ ร้านในไทยที่อยู่ในตลาดเดียวกันได้ วันนี้ RAiNMaker มีอินไซต์จาก 10 แบรนด์ดังของจีนมารวมไว้ให้ที่นี่แล้ว!
จากกระแสจีนฟีเวอร์ในไทย ทำให้กลยุทธ์การตลาดในไทยถูกกระตุ้นมากขึ้น เพราะแบรนด์จีนเริ่มเข้ามาบุกตลาด และแสดงให้เห็นได้ชัดว่าไทยก็เป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์การค้าที่สำคัญด้วย โดยเฉพาะกระแสแฟรนไชส์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตอนนี้
ซึ่งบางแบรนด์ก็ส่งตรงมาจากจีน บ้างก็ส่งต่อมาเป็นแฟรนไชส์เปิดในประเทศไทย หรือแบรนด์ที่มีสัญชาติจีนแต่มีซีอีโอคนไทยร่วมบริหารธุรกิจด้วย อย่างไรก็ตามแต่ละแบรนด์ก็มีจุดยืน และหาจุดต่างได้ชัดเจน จนสามารถทำให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งในไทยได้
โดยเฉพาะ 10 แบรนด์ที่ RAiNMaker คัดสรรมาเพื่อเจาะอินไซต์กันวันนี้ ต่อให้จะขายสินค้าในตลาดเดียวกัน แต่กลับสร้างแบรนด์ดิง ให้สามารถครองใจของผู้บริโภคด้วย ‘Brand Positioning’ และประสบการณ์กับแบรนด์ต่างกันได้
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/franchise-chinese-drink-and-restaurant/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

31/01/2025

‘Gemini 2.0 Flash’ บนแอป Gemini ของ Google เปิดให้ทุกคนเข้าใช้แล้ว! ประสิทธิภาพ และการตอบเร็วขึ้นกว่าเดิม
หลังจากเปิดให้ผู้ใช้ที่สมัครสมาชิกแพ็กเกจ Gemini Advanced ได้ใช้งานในเดือนธันวาคมปีที่แล้วเท่านั้น ในตอนนี้แอป Gemini หรือ AI ของ Google ในตอนนี้ เปิดให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าใช้โมเดล AI ใหม่อย่าง ‘Gemini 2.0 Flash’ ได้แล้ว!
โดย Gemini 2.0 Flash จะมีประสิทธิภาพ และการตอบคำถามที่รวดเร็วขึ้น แถมยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Deep Research และ Gems ได้ นับว่าเป็นการใช้งานข้ามแพลตฟอร์มที่คุ้มค่ามาก ๆ นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดเครื่องมือ image generation บน Gemini โมเดลนี้ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอย่าง ‘ Imagen 3‘ ด้วย
ทำให้รูปภาพที่เจนออกมาด้วยโมเดลทันสมัยนี้ มีรายละเอียด และพื้นผิวที่เสมือนจริงมากขึ้น ซึ่ง Gemini 2.0 Flash กำลังเปิดให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บเบราว์เซอร์ และบนมือถืออยู่
ส่วน AI โมเดล Gemini 1.5 Flash และเวอร์ชัน 1.5 Pro จะยังคงไว้ให้ใช้งานอย่างต่อเนื่องอีกหลายสัปดาห์ เพราะยังคงมีตัวเลือกให้สลับใช้กับ Gemini 2.0 Flash เองอยู่ แต่คาดว่าจะมีการถอดออกไป เพื่อดันให้ผู้ใช้ใช้งาน และได้รับประสบการณ์จากเวอร์ชันใหม่มากขึ้น
ที่มา: https://blog.google/feed/gemini-app-model-update-january-2025/
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/gemini-2-0-flash-on-gemini-app/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

31/01/2025

YouTube เพิ่มฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ Premium เร่งวิดีโอ 4x, ดาวน์โหลด Shorts และข้ามไปเนื้อหาที่สนใจได้ทันที
หลังจากการประกาศเพิ่มฟีเจอร์ของ YouTube เพื่อให้ผู้ใช้ที่จ่ายเงินรายเดือนอัปเกรดเป็น YouTube Premium ได้ทดลองใช้งานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ YouTube ได้ประกาศทดลองฟีเจอร์เพิ่มเติมเพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้ใช้ในปัจจุบัน และเพิ่มทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ให้กับผู้ใช้ที่จ่ายเงินนอกเหนือจากการข้ามโฆษณา
โดยฟีเจอร์ใหม่ที่ YouTube อัปเดตมาให้ผู้ใช้ทดลองมีรายละเอียด ดังนี้
☑️ เร่งวิดีโอในความเร็ว 4x
☑️ Picture-in-Picture รองรับวิดีโอแนวตั้ง บน iOS
☑️ Smart Downloads สำหรับดูวิดีโอแบบออฟไลน์ที่รองรับ YouTube Shorts
☑️ เพิ่มคุณภาพเสียงสูงสุด 256kbps
☑️ Jump Ahead ข้ามไปที่เนื้อหาที่ผู้ใช้สนใจทันทีโดยไม่ต้องดูอินโทร และเนื้อหาที่ไม่จำเป็น
จากฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมด คาดว่าฟีเจอร์ 4x และ Jump Ahead น่าจะมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับผู้ใช้ YouTube Premium เนื่องจากถ้าเราจ่ายเงินรายเดือนก็จะไม่ต้องรับชมโฆษณาอยู่แล้ว ทำให้การข้ามเนื้อหาที่ไม่จำเป็น และเลื่อนวิดีโอได้เร็วขึ้นจะเป็นประโยชน์มากกว่าการพัฒนาเสียงให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้การอัปเดตให้ผู้ใช้สามารถโหลด YouTube Shorts เพื่อดูแบบออฟไลน์อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานมากนักเพราะคงไม่มีใครที่ดาวน์โหลด Shorts จำนวนมากเพื่อดูจบภายในเวลาไม่กี่นาทีนั่นเอง สำหรับใครที่อยากทดลองฟีเจอร์ใหม่ ๆ สามารถไปสมัครเป็น YouTube Premium และเข้าไปลองใช้กันเลย
ที่มา: https://www.theverge.com/news/603581/youtube-premium-experimental-test-4x-speed-now-available
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/youtube-premium-add-feature/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

31/01/2025

YouTube AdBlitz กลับมาแล้ว!
ยกทัพโฆษณาเตรียมพร้อมสำหรับ Super Bowl 2025
วนกลับมาอีกครั้งแล้วกับ Super Bowl ที่นอกจากจะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศประจำปีของทีมอเมริกันฟุตบอลอาชีพ NFL (National Football League) แล้ว ยังถือเป็นเวทีประชันไอเดียของเหล่าแบรนด์ที่เสิร์ฟแคมเปญโฆษณากันอย่างดุเดือด จนกลายเป็นงานที่หลายคนจับตาดูโฆษณามากที่สุด
และทุกปี YouTube AdBlitz จะรวบรวมโฆษณาที่แสดงภายในงาน Super Bowl เพื่อให้ผู้คนเข้ามารับชมแคมเปญโฆษณาของแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาตอนก่อนเริ่มงาน ระหว่างงาน และหลังจบเกม ซึ่งปีนี้ก็นับเป็นปีที่ 19 ของ YouTube AdBlitz ที่ทำหน้าที่เป็นฮับรวมโฆษณาภายในงาน
โดย YouTube AdBlitz จะจัดหมวดหมู่ตามประเภทของโฆษณา เช่น The Super Bowl LIX Ads, The Super Bowl LIX Teaser Ads และ 2025 Big Game Action-Packed Ads เป็นต้น รวมถึงทีเซอร์โฆษณาตัวใหญ่ของปีนี้ที่กำลังจะตามมาในไม่ช้า
เมื่อปีก่อน YouTube ออกมารายงานว่ามีผู้ชมอายุ 18-49 ปี ดูโฆษณา Super Bowl ปี 2023 บน YouTube มากถึง 88% ในขณะเดียวกันมีผู้ชมที่ดูผ่านทีวีเพียง 68% เท่านั้น สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า YouTube AdBlitz เป็นขุมทรัพย์โฆษณาที่เชิญชวนให้เหล่านักโฆษณา นักการตลาด และแบรนด์เข้ามาเสพไอเดียเพื่อนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการต่อยอดแคมเปญโฆษณาของตัวเองในอนาคต
รู้แบบนี้แล้วใครที่อยากเข้าไปดูผลงานโฆษณาจากแบรนด์ต่าง ๆ สามารถดูได้บน YouTube AdBlitz: https://www.youtube.com/
สำหรับงาน Super Bowl ปีนี้จะจัดขึ้นวันที่ 10 ก.พ. โดยมีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญนอกจากโฆษณา นั่นก็คือ Halftime Show ที่ปีนี้ได้ศิลปินฮิปฮอปชื่อดังอย่าง Kendrick Lamar มาร่วมแสดงด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีคนตั้งตารอทั้งโฆษณาและการแสดงแน่นอน
ที่มา: https://www.socialmediatoday.com/news/youtube-adblitz-2025-super-bowl-campaigns/738799/
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/youtube-adblitz-2025/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

31/01/2025

ชื่นชมการจัดวาง Layout ของโพสต์นี้มากค่ะ ด้วยการวางสินค้าไว้ตรงกลาง และจัดเนื้อหาในแต่ละภาพแบบพอดีเป๊ะ

แถมยังดูสวยลงตัว ไม่ขัดตาด้วย ปรบมือให้ทีม MK Restaurants

30/01/2025

💡 ทำความรู้จัก 7 Online Communities ช่องทางสร้างโอกาสให้กับแบรนด์
ในปีนี้นอกจากครีเอเตอร์ และอินฟลูเอนเซอร์จะมีบทบาทในการทำการตลาดสำหรับแบรนด์มากขึ้น แต่ที่สำคัญคือจะทำยังไงให้ลูกค้ายังติดตามแบบยั่งยืน ทำให้การเข้าร่วม และสนับสนุนคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ของแบรนด์ได้ประโยชน์จากการมีส่วนร่วม และสร้างการรับรู้ใกล้ชิด ส่งผลให้เกิด Brand Loyalty มากกว่าวิธีอื่น ๆ
จากสถิติของ DATAREPORTAL พบว่าประเทศไทยใช้โซเชียลมีเดียเพื่อติดต่อกับเพื่อน และครอบครัวถึง 57.6% ซึ่งการสร้าง Online Community มักจะมาจากการคอนเนกกันบนแพลตฟอร์ม ที่เรียกได้ว่าในปีนี้ได้มีปล่อยฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้ผู้ใช้บนแพลตฟอร์มสามารถมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดการสร้าง, แชร์ และแลกเปลี่ยนในคอมมูนิตี้
นอกจากนี้แบรนด์ยังสามารถใช้ความเป็นคอมมูนิตี้นี้เพื่อคอนเนกกับผู้ใช้คนใหม่ ๆ ที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้า รวมถึงยังเพิ่มการรับรู้แบรนด์ผ่านการมีส่วนร่วมในคอมมูนิตี้ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน หากแบรนด์สร้างคอมมูนิตี้จนประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพ จะทำให้สามารถดึงดูดสมาชิกเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น
วันนี้ RAiNMaker จะพาไปทำความรู้จัก 7 Communities หลักการที่เป็นช่องทางสร้างโอกาสให้กับแบรนด์จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!
🌐 เจาะลึก 7 Online Communities
☑️ Brand Community: ในโลกที่มีสินค้า และบริการมากมาย แน่นอนว่าเราจะต้องมี 1 แบรนด์ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็จะอยู่ในดวงใจของเรา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการรวมตัวกันของผู้คนที่มีความชอบแบรนด์เดียวกัน นอกจากจะเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เรารักแล้ว แบรนด์ยังสามารถสร้าง Brand Loyalty จากการไปร่วมในคอมมูนิตี้ได้อีกด้วย
☑️ Learning Community: พื้นที่ที่ความรู้จะมาบรรจบกัน หรือเรียกได้อีกชื่อว่า ‘Insight Community’ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในคอมมูนิตี้มักจะมาแชร์เรื่องราว หรือหัวข้อเฉพาะที่เป็นประโยชน์ รวมถึงมาร่วมค้นหาคำตอบ, แบ่งปันไอเดีย และสร้างแรงบันดาลใจร่วมกัน ทำให้เราสามารถลงไปให้ความรู้ที่เชี่ยวชาญเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ได้
☑️ Local Community: นอกจากการพบเจอกันที่ร้านกาแฟแถวบ้านเพื่อพบปะสังสรรค์กันในพื้นที่แล้ว ในปัจจุบันเราสามารถรวมตัวกันในโลกออนไลน์ เช่น Facebook Group ซึ่งจะเป็นเสมือนพื้นที่เพื่อการแบ่งปันความรู้ รวมถึงแบรนด์เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนในพื้นที่ และจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการรวมตัวกันในพื้นที่เพื่อสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับแบบออฟไลน์
☑️ Event Community: ในปัจจุบันผู้จัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ มักจะสร้างคอมมูนิตี้เพื่อรวบรวมผู้คนที่เคยร่วมงานอีเวนต์ในงานของตนเอง ซึ่งจะแยกย่อยไปตามหัวข้อของงานแต่ละประเภท ทำให้คนที่สนใจในหัวข้อนั้น ๆ สามารถมาติดตามอีเวนต์ที่จะจัดขึ้นอีกในอนาคต เพื่อการสร้างโอกาสในการรับรู้กิจกรรม และอีเวนต์ของแบรนด์
☑️ Support Community: สำหรับใครที่มีประสบการณ์ หรือพบเจอเส้นทางที่มีความท้าทายต้องฝ่าฟันไป Support Community เป็นการรวมผู้คนที่อาจจะเจอสถานการณ์ใกล้เคียงกัน หรือผู้คนที่กำลังอยากจะพัฒนาตัวเอง ซึ่งผู้คนในคอมมูนิตี้นี้มักจะให้คำแนะนำ, ช่วยกันหาคำตอบ หรือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทำให้แบรนด์สามารถใช้ ‘Emotional Marketing’ เพื่อสื่อสาร และช่วยเหลือในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
☑️ Fan Community: จากคำว่าแฟนด้อมสู่การสร้างคอมมูนิตี้ ไม่ว่าเราจะชอบหนังสือ, ละคร, ศิลปิน หรือแม้แต่การชอบทำความสะอาด นอกจากตัวเราแล้วในโลกอาจจะมีคนอื่น ๆ ที่ชอบอะไรเหมือนเราจนเกิด ขึ้นมาบน TikTok ซึ่งพลังแห่งความชอบสามารถรวมเป็นคอมมูนิตี้ โดยแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกันคอมมูนิตี้จะสามารถเข้ามาเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้คนได้อีกมากมาย
☑️ Networking Community : สำหรับแวดวงการทำงานในสายเดียวกันคงรู้จักคำว่า Networking Party ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งในคอมมูนิตี้ที่รวมผู้คนที่เกี่ยวข้องกับอุตสากรรมเดียวกัน เพื่อแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตัวเองในสายงาน รวมถึงยังเป็นพื้นที่สำหรับการหาคอนเนกชัน ซึ่งอาจจะทำให้ได้รับโอกาสในการทำงาน เรียกได้ว่าเป็นคอมมูนิตี้ที่สร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้กับเราอีกด้วย
จบไปแล้วกับการทำความรู้จัก 7 Online Communities ที่จะทำให้แบรนด์สามารถเข้าไปสร้างการรับรู้ในระดับที่ทำให้เกิด Brand Loyalty มากกว่าช่องทางอื่น ๆ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นไปสู่ตลาดที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญของเราได้ รวมถึงยังเป็นโอกาสสำคัญให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ที่มา: https://www.shopify.com/blog/types-of-online-communities
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/7-online-communities/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/

30/01/2025

🧧 ‘จาก MK สู่ MongKol’ เส้นทางการมูเสริมความเฮงรับตรุษจีนจาก MK
พร้อมเสิร์ฟความมงคลตั้งแต่หน้าร้านยันเมนู ✨
วันตรุษจีนนับว่าเป็นวันปีใหม่ตามปฏิทินจีน และถือเป็นเทศกาลสำคัญที่มีมาอย่างยาวนานมากกว่า 4,000 ปี ผู้คนจึงมีความเชื่อว่าควรเริ่มทำสิ่งที่เป็นสิริมงคลในวันตรุษจีน เพื่อเสริมโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความเฮงตลอดทั้งปีนั่นเอง
นอกจากหลายคนจะคุ้นชินกับบรรยากาศการไหว้เจ้า ผู้คนแต่งกายชุดสีแดง และอั่งเปาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่คนจีนใส่ใจเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลตรุษจีน นั่นก็คือ ‘อาหารมงคล’ ที่คนจีนมีความเชื่อว่าหากกินอาหารที่สื่อความหมายที่ดีจะช่วยเสริมโชคลาภ ความมั่งคั่ง และร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้
ปีนี้ MK Restaurants ก็ได้นำความเชื่อเรื่องอาหารมงคลในวันตรุษจีนมาปรับใช้ เพื่อเสิร์ฟความเฮงให้ทุกคนในช่วงเทศกาลกับเมนู ‘หมี่หยกยืนยาว’ เมนูที่ใคร ๆ ก็ต้องสั่งเมื่อไป MK Restaurants แต่ช่วงตรุษจีนแบบนี้พิเศษกว่าเดิม เพราะ MK Restaurants ทุกสาขาจะเสิร์ฟหมี่หยกยาวถึง 99 ซม. แบบไม่ตัดแบ่ง ตามความเชื่อของคนจีนว่าเส้นบะหมี่ยิ่งยาวยิ่งสื่อถึงอายุที่ยืนนาน
ซึ่งเมนูนี้ก็ได้สร้างความตื่นเต้นและความสุขให้กับลูกค้าได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น อาม่าอากงที่มีความเชื่อเรื่องอาหารมงคลอยู่แล้ว หรือจะเป็นอาตี๋อาหมวยตัวน้อยที่ได้สนุกสนานกับการคีบหมี่หยกเส้นยาวยืดไปด้วย แถม MK Restaurants ยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับคนที่ซื้อครบ 1,299 บาท ระหว่างวันที่ 28 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 นี้ สามารถรับหมี่หยกยืนยาวไปต่ออายุให้ยืนนานได้ฟรีไปเลย!
ในส่วนของเมนูหมี่หยกยืนยาว ถือเป็นไวรัลต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ MK Restaurants ได้ใช้กลยุทธ์ ‘มูเก็ตติ้ง’ ที่ผสานความเชื่อกับการทำ Marketing ผ่านการต้อนรับตรุษจีนแบบใหม่โดยการลงทุนเปลี่ยนป้ายหน้าร้านจาก MK Restaurants เป็น MongKol Restaurants (มงคล เรสเตอร์รองต์) เหมือนกับการเปลี่ยนชื่อเสริมดวงที่หลายคนเชื่อจนกลายเป็นไวรัลบนออนไลน์
อีกทั้งครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนชื่อในรอบ 39 ปีของ MK Restaurants เลยทีเดียว แม้ตอนแรกที่เห็นชื่อหลายคนจะนึกถึงประโยค “มงคลเปิดประตูให้เปี๊ยกหน่อย” ก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็เพื่อเสริมความโชคดีตามหลักความเชื่อของสายมู โดยตัวอักษรของคำว่ามงคลในภาษาอังกฤษเองก็ตรงกับ MK ที่เป็นต้นฉบับอยู่แล้วด้วย ซึ่งความกล้าคิด กล้าลองทำในครั้งนี้ก็ทำให้เกิดผลตอบรับที่ดีเกินคาด
สำหรับป้าย MongKol Restaurants จะติดเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงวันที่ 2 ก.พ. 68 เท่านั้น และมีเฉพาะ 4 สาขาคือ Central Plaza Westgate, Central Rama 9, Central Rama 3 และ Samyan Mitrtown เพื่อให้ทุกคนได้ไปรับความมงคลกันถึงหน้าร้านกันเลยทีเดียว และพิเศษสุด ๆ สำหรับเมนูหมี่หยกยืนยาวจะเสิร์ฟพร้อมจานยืดเวอร์ชันพิเศษเฉพาะ 4 สาขาที่มีป้าย MongKol Restaurants เท่านั้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า MK Restaurants เป็นร้านอาหารครอบครัวที่ใส่ใจและเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง เพราะการจัดแคมเปญในช่วงตรุษจีนอย่างเมนูมงคล รวมถึงการเปลี่ยนป้ายหน้าร้านเพื่อเสริมความมงคลเช่นนี้ นอกจากจะเรียกความสนใจจากผู้บริโภค และทำให้เป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์แล้ว
ยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า MK Restaurants เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนไปกับพวกเขา ผ่านการประยุกต์สิ่งที่เป็นหัวใจของ MK อย่างอาหารให้เข้ากับเทศกาลตรุษจีน และตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งครอบครัวแบบทุก Gen ตั้งแต่รุ่นใหญ่ยันรุ่นเล็กด้วยเมนูที่มอบทั้งความมงคลตามความเชื่อแบบโบราณ และความสร้างสรรค์ในเมนูอาหารที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
แต่ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านั้น! เพราะนอกจากหมี่หยกยืนยาว และป้าย MongKol Restaurants แล้ว MK Restaurants ยังเตรียมทัพเมนูมงคลอีกมากมายให้ทุกคนได้อิ่มความมงคลและความเฮงกันแบบจุใจอีกด้วย
ตรุษจีนปีนี้ ใครยังไม่มีแพลนไปไหนอย่าลืมไปลิ้มรสความอร่อยกับเมนูมงคลใน MK Restaurants พร้อมแวะถ่ายรูปกับป้าย MongKol Restaurants ทั้ง 4 สาขาได้จนถึงวันที่ 2 ก.พ. 68 นี้ได้เลย!
#ตรุษจีน #หมี่หยกยืนยาว
อ่านบนเว็บไซต์ https://www.rainmaker.in.th/mk-chinese-new-year-2025-advertorial/
-----
💙 ช่องทางการติดตาม RAiNMaker 💙
→ page: Rainmaker
→ Website: www.rainmaker.in.th
→ X: https://twitter.com/rainmakerth
→ YouTube: https://www.youtube.com/