Cycling Hub Thailand

29/01/2025

"สมาร์ทเทรนเนอร์"
ชอบตัวไหน เพราะอะไรบ้าง?

28/01/2025

พี่ซอยกล่าว “ไม่ต้องชวนคุยเรื่องนี้แล้วนะ ตูเบื่อ” … แต่มันก็มีเรื่องนี้มาทุกปี EP นี้ มันน่าจะครบถ้วนแล้วล่ะนะ .. ถ้าทนฟังกันกับความโปกฮาบ้าบอได้

🙏🏼😊 สนใจช็อปอุปกรณ์จักรยาน แจ้งว่ามาจาก HUB รับโค้ดส่วนลดสั่งซื้อสินค้าผ่านผู้สนับสนุนในลิงค์ข้างล่างได.....

27/01/2025

เรื่องจริง ”ของปลอม“ จากใจคนปากหมา ที่ด่าของปลอมมาตลอดเกือบ 20 ปี
🔥ประเด็นไม่ใช่ของถูกหรือแพง ประเด็นคือของมันปลอม งบน้อยไม่เกี่ยว เรือ่งเดียวคือ ของมันปลอม

เงินใครเงินมัน .. 💰 อ่านจบจะเข้าใจว่าทำไมคนไม่ยอมรับ

1️⃣ของถูกและดี แบรนด์ไม่ดังก็มีแต่ไม่ใช้ เพราะ ติดยี่ห้อ อยากได้ของหรู ✅

2️⃣สินค้าไร้แบรนด์ ที่ไม่ปลอมก็มี แต่ไม่ใช้ เพราะ ติดยี่ห้อ อยากได้ของหรู ✅

❌งบน้อยทุนน้อย❌ ไม่เกี่ยว ภูมิใจในของที่ใช้ตามกำลังทรัพย์ ไม่มีใครดูถูก

เกือบ 20 ปีที่พูดเรื่องนี้มา เห็นเบี่ยงประเด็นแบบนี้กันทุกครั้ง หาว่าเหยียดของถูก เหยียดของจีน เหยียดคนจน

ไม่เคยด่าของจีน ไม่เคยด่าของราคาถูก และ ไม่เคยด่าคนรักจักรยานที่มีงบน้อย แต่
🔥ด่าของปลอม
🔥ด่าคนขายของปลอม
🔥ด่าคนใช้ของปลอมที่ไม่ยอมรับความจริง

เกือบ 20 ปี มีพ่อค้าของปลอมโทรมาขู่จะยิงก็โดนมาแล้ว ใครก็เตือนว่า พูดไปก็เท่านั้น คนมันยังกิเลสหนากว่ากระเป๋าเงิน ก็จะยังมีของปลอม และคนเอามาขาย

เคยด่าคนใช้ของปลอมว่า“โลภ+โง่” … เพราะคิดว่า ด่าแรงๆจะได้สร้างกระแสให้เกิดความเข้าใจ แต่พออายุมากขึ้น มาตอนนี้คิดว่า คงแรงไปหน่อย ไม่สร้างสรรค์

ทุกวันนี้มีคนที่รู้ เข้าใจ ภูมิใจในกำลังทรัพย์ที่มี เลือกใช้สินค้าตามที่จ่ายไหว ส่วนใครใจมีปมด้อย คุณค่าตัวเองน้อย เอายี่ห้อโก้หรูมาติดแล้วชีวิตดีขึ้น ก็ตามสบาย

แม้ว่า สุดท้าย ของปลอม ก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป เพราะ จิตสำนึกคน สร้างยาก
💡ความรู้ อาจไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าใจใช้กิเลสนำ นี่คือ “ความจริง”

เงินใครเงินมัน เรื่องของคุณ จะใช้ก็ใช้ไป แต่อย่ามาเรียกร้องให้คนยอมรับ เพราะเขาก็จะบอกว่า“เรื่องของกู” เหมือนกัน

เพราะในมุมมองของคนที่ไม่ยอมรับของปลอม

🏭โรงงานของปลอม
คนที่เคยไปมาแล้ว โรงงานของปลอมก็คือโรงงานโจรที่พร้อมจะปิดย้ายเมื่อไหร่ก็ได้ที่จีน คนละอย่างกับโรงงานจีนดีๆมีคุณภาพ สายไฟลากระเกะระกะ วัสดุวางกองๆไว้

🛒ของ OEM ตกเกรด
ของปลอมมักอ้างแบบนี้ ซึ่งความจริงคือไม่มีออกมาขาย ยิ่งแบรนด์ที่ปลอมๆกัน .. ไม่มีทาง
คำว่า OEM ถูกใช้หลอกลวงกันมาเป็นสิบปี ว่าของพี่เค้าดี มาจากที่เดียวกัน คำนี้ ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น สินค้า OEM, ODM ดีๆต้องมาเสียไปด้วยกับการใช้คำนี้มาหลอกลวง

🏴‍☠️คนขายของปลอมคือโจร
โจรซื้อของปลอมจากโรงงานโจรมาหลอกขาย รู้เขาหลอกแต่ก็ยินดี เพราะ เชื่อโจร เชื่อว่า “เกือบเท่ากัน” เชื่อว่า “โรงงานเดียวกัน” เชื่อว่า “ไม่มีใครดูออก” จริงๆคือ กิเลสนำ ใจมันอยากได้

🔥กิเลสนำแต่ใจไม่ยอมรับ
คนใช้ของปลอม ลึกๆก็รู้สึกย้อนแย้งในใจตัวเอง เพราะ การต้องหาคำว่า ”สำเนา“ หรือ ”เกรดเงา“ มาเรียก จะกี่เอ ก็ตาม มันก็คือการทำให้คำว่า”ของปลอม“ ซอฟท์ลง ก็ไม่เข้าใจ ทำไมคนขาย ไม่บอกไปเลย ”ขายเฟรมปลอม“ และ คนใช้ก็ยืดอกพูดเลย ”เฟรมปลอม“ จะเลี่ยงไปคำอื่นทำไม

🪰เหลือบไรวงการจักรยาน
✅ร้านจักรยาน ขายของมีแบรนด์ ต้องสำรองของมูลค่ามหาศาล ❌โจรขายของปลอม ให้สั่งจองแล้วรอของส่งมา กินส่วนต่างนิ่มๆ

❤️ร้านจักรยาน เอากำไรที่ได้ สนับสนุนนักปั่น ทำทีม จัดกิจกรรม สร้างเด็กรุ่นใหม่ ขายได้กำไร 20-25% หักทุนร้านเหลือ 15-20% ยังต้องทำพวกนี้ เหลือกำไรสุทธิ 10% ❌โจรขายของปลอม ฟาดกำไร 30-40% สบายใจ

❤️คนนำเข้าสินค้า จ่ยาเงินเป็นล้าน ค้าขายมีส่วนต่าง 30% ไหนจะค่าลูกจ้าง โกดัง ออฟฟิศ แล้วยังบริการซ่อม ชิ้นส่วน สนับสนุนงานแข่ง ทีมแข่ง นักกีฬา จัดทริปให้ปั่น

💪มีพ่อค้าดีๆ ที่วิ่งหาของดีราคาถูกมาเป็นทางเลือกเยอะแยะ กว่าจะได้มาขาย ต้องลงทุน ต้องมียอดสั่ง

🇹🇭สินค้าไทย ราคาไม่แรง แต่ตั้งใจทำ ปั้นเยาวชน สร้างนักกีฬา สนับสนุนทีมชาติ ก็มีเยอะแยะ ไม่ได้แพงไปกว่าของปลอมมากมาย

🚗เวลามีการรณรงค์ สนับสนุนโครงการเพื่อความปลอดภัยของคนปั่น เห็นมีแต่คนนำเข้า กับร้านจักรยานออกมาช่วยสนับสนุน ❌โจรที่ขายของปลอมไม่เห็นเคยช่วยอะไรจ

💡นี่คือเรื่องจริงที่คนขายของปลอมไม่บอก

เงินใครเงินมัน เอาที่สบายใจ เรื่องของคุณ
จะบูลลี่ จะไม่ชอบใจ ก็เรื่องของเขาเหมือนกัน

ขอสนับสนุน ชื่นชม สดุดี คนที่กล้ายืดอก ใช้ของไม่มีแบรนด์ สินค้าจีน สินค้าไทย ที่ดี ที่ตั้งใจทำแบรนด์ทางเลือก ของมือสอง ของรุ่นเก่า
จะมากจะน้อย ท่านกำลังปั่นจักรยาน และ ช่วยวงการ อุตสาหกรรม และ สังคมจักรยาน ให้เดินหน้าต่อไป

พ.ศ. นี้ค่านิยมสังคมเปลี่ยนไปมากแล้ว แบรนด์ มีมากขึ้น ทางเลือกมีมากขึ้น คนที่มีทัศนคติแบบใหม่ๆ ไม่ยึดติดกับเปลือกพวกนี้เท่าเมื่อ่กอน มีมาก มีน้อย ใช้ตามกำลัง ภูมิใจที่ได้ใช้ของที่บอกความเป็นตัวเอง “ของปลอม” มันก็คือการบ่งบอกว่า ตัวคนที่เลือกใช้ เป็นอย่างไร

คำถามที่เกิดในใจ ช่วง 5-6 ปีมานี้
ตกลงใช้ของปลอม มันสุขใจจริงหรอ? ต้องคอยขอให้คนไม่บูลลี่ ต้องคอยนอยด์ว่าใครเขาจะดูออกมั้ย แล้ว ฟินอยู่คนเดียวเวลาที่สปรินท์ชนะของแท้

ตกลงน้ามาขี่จักรยานเพื่ออะไร?

ใครใช้ของไม่แพง ไม่มีแบรนด์ ไม่เด่น ไม่ดัง แต่สุขใจปั่น สบายใจขี่ เลือกใช้ที่มี แล้วภูมิใจที่ได้เลือกมาบ้าง? ผมเชื่อว่า ท่านๆ ปั่นอย่างเป็นสุข ไม่ต้องคอยกลัวใครมาบูลลี่แน่นอน

12/12/2024

ชุดจานหน้า Shimano Dura Ace 9270 สีนู้ดปัดเงาอลูมินั่ม พาให้นึกย้อนไปสมัย 80s-90s กับชุดจานปัดเงาในช่วงนั้น ผลงาน DIY ของฝรั่งว่างช่วงหน้าหนาว

ใครคิดถึง“ขี้กลาก” ที่จะขึ้นมาแน่นอนบ้าง ยกมือขึ้น .. แสดงว่า คุณ อายุไม่น้อย เพราะคุณทัน shimano ช่วงของแท้ต้องมีขี้กลาก

จากบล็อกของฝรั่งที่ทำเล่น เห็นว่ามีการลงเคลือบ anti-oxidation ไม่แน่ใจว่ามันจะยับยั้งอาการนั้นได้แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ทำออกมาใหม่ๆแบบนี้ ถ้าออกไปขี่รับแสงแดดสดใส รับรองว่า เด่นเตะตาแตกมาแต่ไกลแน่นอน

นึกถึงเฟรม Factor สีดำ/โครม จริงๆ จับคู่กันน่าจะเฟี้ยวแฟชั่น หรือจะเป็น Specialized สีเมทาลิกตัว limited ก็คงไม่เลว

08/12/2024

รถทีมกองสลากแห่งฟรองเซส์?.. เปลี่ยนรถสะท้านวงการอีกครั้ง?

04/12/2024

คู่ในตำนาน น้าแลยซ์ อาร์มสตรอง กับ น้าแยน อูริค ฟัดกันมาหลายหน ยามเฒ่าชะแร แก่โรยมา ก็เปลี่ยนมาเทรนร่วมกัน จากคู่แข่งแห่งยัค มาเป็นบัดดี้รู้ใจวัยทอง

02/12/2024

เมื่อทีมซูดาลฯ หนีหนาวไปเข้าลู่ .. นอกจากที่นักปั่นเสือหมอบ จะปั่นหมอบ ปั่นเสือภูเขา ปั่นไซโคลครอส ขี่กราเวล การขี่ลู่ ก็เป็นอีกอย่างที่นักปั่นโปรแทบทุกคน ต้องเคยฝึก และ ทีมก็เอามาให้ฝึกด้วย

ทรงลีน บนรถลู่ ดูไม่ชินตา

21/11/2024

กระเป๋าใบนี้ของใครเอ่ย เปิดดูข้างในกันเลยดีมั้ย 😆😁 ปีนี้หมดสัญญากับทีม แต่ได้สัญญาใหม่ อาทิตย์หน้าเซ็นต์ เค้าให้เก็บไว้ก่อน

12/11/2024

ย้อนอดีตยานเก่าที่มีเรื่องให้เล่าไม่ต่างจากยานรุ่นใหม่ เรือ่งที่ บริษัทจักรยาน จะไม่พอใจ ที่นำมาเล่า .. ในภาพคือ Specialized S-Works Tarmac SL2 และ SL3 เป็น “เรือธง” ของค่ายสายฟ้าในช่วงปลาย 2000s โดย SL2 มีดีกรีแชมป์โลกจาก เปาโล เบตินี่ ติดตัวมา

ในช่วงนั้น ผู้นำเข้ารายใหญ่ที่เพิ่งจับแบรนด์ Specialized ได้เป็นเจ้าแรกของไทย เพิ่งได้ค่ายสายฟ้ามาในมือและทำตลาดรุกหนักด้วยกินกรรมต่างๆขยายฐานลูกค้าสู้กับ Trek, Giant และ Bianchi ที่เปิดทางกันไว้แล้ว เป็นภาวะตลาดร้อนแรง มีการดึงตัวขุนพลนักปั่น รวมถึง มือดีในการทำตลาดสองล้อกันข้ามค่าย และแน่นอนว่า การ“ย้ายค่าย” ในช่วงนั้น ร้อนแรงสุดๆไปเลย

แต่สิ่งที่อยากจะเล่าคือ หนึ่งในความจริงที่หลายคนอาจมองข้าม ทั้งมองข้ามแบบเต็มใจมองข้าม และไม่เต็มใจแต่ไม่เห็นมัน

SL2 กับ SL3 เป็นสองเจ็นที่ออกมาใกล้กันมากๆ จังหวะนั้น SL2 กำลังอยู่ในช่วงท้ายของเจ็น และจากนั้นอีกเพียงไม่นาน ก็เปิดตัว SL3 ที่กระแทกใจด้วยตัวเลขต่างๆน่าเร้าใจอย่างที่สุด โดยเฉพาะ ความสติฟฟ์ที่ช่วงส่งกำลังที่มากขึ้นถึง 14% และ ตะเกียบหน้าที่สติฟฟ์กว่าเดิมกว่า 20%

ทั้งหมดนี้ ทำให้แอดฯ ทนต่อความคันไม่ไหว รีบเปลี่ยนยานไปจับ SL3 ทันที ให้มันหายคาใจ ให้มันได้ขี่รถใหม่สดสุดล้ำเป็นครั้งแรกของชีวิตนี้ จับย้ายเฟรม ใส่ชิ้นส่วนเดิมเกือบทั้งหมด (เปลี่ยนเบาะ) พร้อมคำนวนทันทีว่าจะได้รถที่เฟี้ยวกว่าเดิมขนาดไหน เบาลงกี่กรัม มันต้องขี่ดีจนใจหายแน่นอน

ผลสรุปเมือ่ประกอบเสร็จ ชั่งน้ำหนักพบว่า หลงจ้งแล้ว เบากว่าเดิมขีดนิดๆ … เอาว่าไม่ถึงสองขีดแน่นอน และ ส่วนหนึ่งมาจากเบาะ จากเดิม Ritchey รางไทเทเนียม มาเป็นตัว Spelized Toupe ที่เบาลงมาครึ่งขีด (แต่นั่งเข้าบั้นดากมากกว่า)

พอเอาไปขี่ ก็พบว่า มันช่าง “มันส์” สะใจดีแท้ สะท้านดุ ดิบ ไปหมด นี่มันคือ“ความสติฟฟ์” ระดับสุดยอดของวงการ! เรียกว่า กดเป็นมา ใส่เป็นพุ่ง แตกต่างจากคันเก่าอย่างรู้สึกได้ทันที

พอขี่รวมกลุ่ม ความสนุกสะใจ ดุดิบนั้น ก็ปั้นให้เรามีจินตนาการว่า การกระชากหนีในครั้งนี้ ต้องลือลั่นสนั่นทุ่งอย่างแน่นอน

ผลคือ…

เหมือนเดิมครับ ไม่ได้พุ่งออกจากกลุ่มอย่างที่มโนไว้ คนไหนที่เคยไล่จับเราได้ ก็ยังคงจับได้อยู่ ใครที่เกาะเราติดก็ยังเกาะติดอยู่อย่างนั้นแหละ สรุปว่า อาทิตย์นี้ กับอาทิตย์ที่แล้ว มีอย่างเดียวที่เปลี่ยนคือ เฟรม นอกนั้น เหมือนเดิม

นี่แหละครับ“ความจริง” ของวงการจักรยาน
จักรยานในเจ็นฯติดๆกัน ถ้าไม่ใช่พวกที่เปลี่ยนแบบรื้อดีไซน์ทิ้ง พวกที่ไมเนอร์เชนจ์ ที่มีตัวเลขการตลาดสวยหรู จริงๆแล้ว มันส่งผลเป็นสมรรถนะที่แทบไม่ต่างเลยจริงๆ ค่าสิบเปอร์เซ็นต์ตรงนั้น ตรงนี้ เป็นจุดๆ สุดท้ายพอรวมกับทั้งเฟรม ก็อาจจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดความต่างชนิดที่เปลี่ยนจากหมาเป็นพญาเสือได้

จริงๆ SL3 กับ SL2 ไส้ในเปลี่ยนมากพอสมควรเลยนะครับ ชิ้นส่วนคาร์บอนช่วงส่งกำลัง และตะเกียบก็เปลี่ยน รวมถึง การแยกชิ้นขึ้นรูปก็ปรับใหม่ ให้เพิ่มความสติฟฟ์ขึ้น น้ำหนักรีดได้นิดหน่อย (ที่เบาลงจริงมันเบาจากสีด้วย)

ทั้งหมดนั้น มันคือสุดขอบของวิศวกรรมที่จะปล่อยออกมาในตอนนั้น ที่สมดุลย์กับราคาที่สุดครับ

และ แนวทางนี้ยังคงเดินหน้าต่อไปที่ SL4 ที่ปรับลดน้ำหนักลงอีกหน่อย และเพิ่ม“ความสบาย” ให้กับเฟรม (ใครเคยขี่ SL3 จะรู้ว่า มันคือเฟรมที่ดิบสุดๆเฟรมหนึ่งของประวัติศาสตร์เฟรจักรยาน เฟรมทรงออลราวด์ที่สะท้านไตได้อย่างกับเฟรมแอโร่ฯยุคแรกๆ สะท้านชนิดเฟรมอลูฯหลายตัวจัดว่านุ่มไปเลย)

ซึ่งก็ต่อมาถึง SL5 ที่ยังออกแบบแนวเดิม เปลี่ยนรายละเอียดพอสมควร ซึ่งหากนำ SL5 เทียบกับ SL2 ก็ต่างกันอย่างมาก โดยน้ำหนักลดลงมาก ความสติฟฟ์สูงกว่าอย่างมาก เรียกว่า สมรรถนะของ SL2 แทบจะเท่ากับตัวรองท็อปแล้วก็ว่าได้

คล้ายๆกับเวลา iPhone เปิดตัวใหม่นั่นแหละครับ เปลี่ยนชิพใหม่ เร็วขึ้นถึง 30% ประหยัดแบตฯได้มากกว่าเดิม 45% แต่พอใช้งานจริงพบว่า ไม่ต่างจนเป็นประเด็น อาจจะเล่นเกมส์ AAA ได้ลื่นกว่า ใช้งานได้อึดกว่าอีก 45 นาที แต่ถามว่า มันเป็นเรื่องใหญ่โตที่ทำให้ของเก่าต้องลงถังขยะมั้ย คงไม่ใช่

โลกจักรยาน ที่นักแข่งต้องการเอาชนะกันในทุกๆปัจจัยที่ไม่เป็นรอง หรือ เป็นต่อให้ได้มากที่สุด การพัฒนาจักรยานทุกปี คือการยกระดับวิศวกรรม และการออกแบบไปทีละนิด เพื่อความได้เรปียบนั้น เพื่อยังไล่ตามคู่แข่งให้ได้

ในเมื่อ Giant ออก TCR ที่มีค่าความสติฟฟ์ต่อน้ำหนักดีกว่า SL2 ออกมา SL3 ก็ต้องขยับอัพในจุดที่ทำได้ รีดน้ำหนักลงนิด ปรับคาร์บอนเข้าไป ปรับการขึ้นรูป ผลที่ได้คือ สติฟฟ์ขึ้น และเบาลงหน่อย ค่านี้จึงชนะ TCR ในตอนนั้น

ในขณะเดียวกัน SuperSix EVO Himod ที่เบาไม่แพ้กัน สติฟฟ์บนกระดาษเหมือนจะด้อยกว่า แต่ขี่จริงๆไม่ได้ต่างมาก กลับขี่สบายดากกว่ามาก ซ้ำยังได้ไอ้หนุ่มร็อคสตาร์หน้าใหม่สปรินท์หวดเอาๆ จนดังเปรี้ยงปร้างในช่วงนั้น สุดท้าย ก็ต้องเข็นเอา SL4 ออกมาปรับแก้ปัญหาเพื่อก้าวขึ้นมาอีก

เช่นนี้ไปเรื่อย จนกระทั่งมาถึง SL6 ที่เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็แน่นอนว่า SL5 มา SL6 นับเป็นการเปลี่ยนที่กระชากใจที่สุดในตอนนั้น (แอดฯถึงกับเอามาเป็นวอลเปเปอร์จอคอมฯ)

แนวโน้มแบบนี้ พบในทุกๆค่ายหลักครับ เพราะ พวกเค้าต้องแข่งกันเอาชนะบนกระดาษ ในแล็บ ให้ได้ เพื่อสร้างจักรยานที่จะไปเอาชนะกันบนถนน กับนักปั่นระดับโลก และ ชนะใจพวกเรา จนยอมควักเงินซื้อหามาครอบครอง

แบรนด์รองๆ หลายค่าย ไม่ได้ทำเช่นนี้ โมเดลหนึ่ง ยืนระยะยาวๆกันไปเลย 5-6 ปี ผลิตกันจนแม่แบบยุ่ยคาเครื่องเอาให้คุ้ม ไม่มานั่งเปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อย เพราะ มันไม่คุ้มทางด้านธุรกิจ

เชื่อว่า มีเพื่อนนักปั่น ที่น่าจะปั่นมาสัก 2-3 ปี ที่เข้าสู่ช่วงธาตุไฟกำลังร้อน อะไรออกใหม่ ติดตามหมด กลุ่มนี้แหละ ที่กำลังสนุกกับการจับจ่าย ยิ่งตามข่าว ก็ยิ่งอยากได้ ไอ้ยานคันเดิมขี่มาดีๆ 3 ปีไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมพอของใหม่มาลงร้าน มันขี่ไม่ดีทันที ยิ่งเห็นเพื่อน เห็นคนดัง ขี่ยานใหม่กว่าของตัวเอง ยิ่งพาลให้คิดไปว่า ตนจะขี่ดีกว่านี้ถ้าได้ยานใหม่ล่าสุดบ้าง

ส่วน เพื่อน พี่น้อง ที่อยู่มานานจนธาตุไฟสงบ โดยไม่แตกซ่านไปเสียก่อน ก็จะเข้าใจสามัญของโลกนี้ สังเกตสิครับ ใครที่ขี่มานานๆ ยิ่งนาน ก็จะยิ่งขี่ยานคันเดิม นานขึ้นๆ ถ้าไปถามเขาเหล่านั้น ก็จะได้คำตอบว่า บรรลุแล้วซึ่งหนทางของรถถีบ

แต่สำหรับแอดฯ ที่ยังวนเวียนกับการเปิดตัวยานใหม่ บอกตรงๆว่า เวลาเห็นยานใหม่เปิดตัว ก็ยังรู้สึกร้อนรุ่มในอกเสมอ เช่น Madone Gen8 ก็น่าสนใจ Colnago V4r ก็สวยเหลือเกิน หรืออย่าง BMCSLR ที่ทุกตัวออกมาแต่ละทีต้องมีเด็ด

ยิ่งตัวไหนได้ลองสัมผัสด้วย บอกได้คำเดียวว่า เทียบกับรถของตัวเองอายุเกือบสิบปี มันดีงามมาก

แต่สุดท้ายสิ่งหนึ่งที่เป็นสัจธรรมก็คือ เรามีความสุขกับมันอย่างไร?

ความสุขที่ได้ไล่จับ ได้ลองของใหม่ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามยุคให้ทัน ก็สุขแบบนึง จะขี่จักรยานคันเดิมๆต่อไปให้สนุก พบเพื่อน เพื่อสุขภาพ ไปออกทริปออกงานอะไรบ้าง ก็สุขอีกแบบนึง

ถึงแม้รุ่นปีนี้ จะเทพกว่าปีที่แล้วแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามันทำให้คุณสนุกกับจักรยาน ออกไปปั่นได้บ่อยขึ้น มันก็คุ้มค่าแล้วล่ะ ความคุ้มไม่ได้หมายถึง เวลาที่แตกต่าง หรือชัยชนะเอาไว้ขิง แต่มันคุ้มที่ใจของคนที่จับจ่ายได้มาแบบไม่เดือดร้อนใคร

08/11/2024

ในยุคนึง เราเคยมีนายทุนสนใจนำเข้านิตยสารจักรยานเมืองนอกมาทำในภาษาไทย ซึ่ง เป็นการลงทุนที่สุดมาก สูงชนิดที่ว่าต้องมีเงิน 8 หลักยืนพื้นแต่ละปี และ แต่ละเดือนต้องมีเงิน 7 หลักกลางๆ ถึงไปได้

โมเดลนี้ ในยุคสิ่งพิมพ์รุ่งเรืองนับเป็นวิธีที่แพงแต่คุ้มเพราะไม่ต้องปั้นแบรนด์กันใหม่ แค่ยอดขายหนังสือก็สามารถสร้างกำไรได้แล้วแต่ในยุคสิ่งพิมพ์ร่วงโรย มันเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากทางเลือกในการรับเนื้อหามีมากขึ้น สิ่งพิมพ์ต่อสู้กับกระแสที่เร็วกว่าไม่ได้ด้วยธรรมชาติของมัน ดังนั้น ทางรอดจึงต้องมาจากสิ่งอื่นที่ไม่ใช่“ยอดขาย”

ในช่วงสุดท้าย ที่แอดฯ ในฐานะคนทำหน้าที่บริหารนิตยสารนี้ก่อนปิดตัว ได้รับโจทย์จากผู้บริหารระดับสูงโดยตรง ให้คำสั่ง “ปรับองค์กร” ครั้งใหญ่ โดยนิตยสารฉบับนี้ ฝ่ายบริหารมีความต้องการนำไปอยู่ในการดูแลแบบตรง นั่นคือ ผู้บริหารชั้นสูงทำงานร่วมกับกองบรรณาธิการโดยตรง เพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้น ให้เพียงพอกับตัวมันเอง ป้องกันการ“ปิดตัว”

“ขอ 1 event ที่ได้กำไรพอจะปิดยอดปีให้ไม่ลบ”

นี่คือโจทย์ที่แอดฯได้รับมา
ต่อไปนี้คือเรื่องราวของ event ในฝัน ที่ตอนนั้นคิดออก แต่ไม่ได้เกิดเพราะ แม้ว่าผู้บริหารระดับสูงจะชื่นชบและเห็นด้วย แต่ในระดับปฎิบัติการทั้งฝ่ายขายและการตลาด มองว่า ใช้ทุนสูงและเสี่ยงจะลบหนักกว่าเดิม

“มหกรรมคนบ้าจักรยาน 24 ชั่วโมง”
ในเยอรมันนี มีการแข่งหนึ่งที่สืบทอดมากว่าร้อยปี เป็นการแข่งจักรยานในสนามแข่งรถ ใน 24 ชั่วโมงทีมไหนขี่ได้มากสุด ก็ชนะไปเลย สลับตัวกันขี่ได้ มีเต็นท์กาง ย่างไส้กรอก ดื่มน้ำมีฟองกัน ฟังเพลงจากเวทีริมสนามเฮฮา

นี่จึงเป็นประกายตั้งต้นของโครงการกอบกู้นี้
วันเสาร์ 8.00 - 8.00 วันอาทิตย์
เราจะปิดสนามแข่งรถ มีมหกรรมงานปั่นทุกประเภทไปพร้อมๆกัน มีออกร้าน และ ตารางการแข่งย่อยรอบสนาม นอกสนาม ให้ร่วมได้ นี่คือ มหกรรมงานปั่นที่ชมรมจักรยาน คนบ้าจักรยานทั่วประเทศต้องมารวมกัน

8.00 เริ่มปล่อยตัวการแข่งหลัก 24h Challenge และ 12h Challenge กติกาง่ายๆ แต่ละทีมต้องมีสมาชิก 4 คน แต่จะมีชิพให้ 2 ชุด ในสนามต้องมีชิพ 2 ชุดนี้วิ่งเสมอ นับระยะทางเมื่อชิพ 2 ตัวผ่านต่อรอบ รอบไหนชิพผ่านตัวเดียว ไม่นับระยะทางให้ ดังนั้น 4 คนของทีมต้องบริหารจัดการกันว่าใครจะพักช่วงไหน

นี่คือ 24h ที่ไม่แค่ต้องอึดแต่ต้องแกร่ง และแรง ไม่ใช่การปั่นช้า ทีมไหนจัดการไม่ดีหลุดกลุ่มจะเสียเปรียบมาก มี จนท นำในสนามแบบปกติ เพื่อให้เห็นว่านี่คือหัวแถวการแข่งขัน

สังเกตมั้ยครับมันจะไม่เหมือน 24h ที่ขี่กระจายกันออกไป มันคือเกมส์แบบเสือหมอบ ถ้าอยากชนะต้องไม่หลุดกลุ่ม ถ้าโดนน็อครอบ ต้องน็อครอบคืนถึงจะได้เท่าทีมอื่น

ความสะใจยังไม่จบเท่านั้น ทุกๆ 12.00, 15.00, 18.00 จะมีกิจกรรม Criterium Madness เข้าไปป่วนอีก

โดยเข้าไปแข่งในสนามเดียวกัน นักปั่น 24h/12h Challenge สามารถเกาะกลุ่มรวมไปด้วยได้ แต่การนับแต้มสปรินท์ นับเฉพาะคนที่ลง Criterium มีรางวัลให้ต่างหาก

ความเร็วนี้จะช่วยให้ นักปั่น 24h/12h ที่เกาะกลุ่มได้ ได้เปรียบทีมอื่น หรือ เป็นโอกาสช่วยให้ทีมที่มีรอบน้อยกว่าเพื่อนสามารถขยับหนีไปกับกลุ่มไครทีเรียมที่สปรินท์ ทำ Lap คืนมาได้ คนที่ลงไครทีเรียม จะเป็นใครก็ได้ เป็นสมาชิก 1 ใน 4 ของทีมก็ได้ ทีมไหน ชมรมไหน มีคนเก่งระยะสั้น ก็จับส่งลงมาช่วงนี้ ทีมตัวเองก็จะมีคนมากกว่าเพื่อนได้ขณะหนึ่ง แต่ 2 ตัวหลักของ Challenge ยังต้องมี 2 ชิพอยู่ หรือจะใช้โอกาสนี้ ส่งคนลงมาแล้วส่งชิพต่อเปลี่ยนตัวกันก็ได้

Criterium หญิงแข่งทีเดียว แต่ประเภทชาย จะคัดเฉพาะ Top 50 จากอันดับ เข้ารอบชิงตอนเย็นเท่านั้น ใครอยากลงช่วยเพื่อนต่อ ต้องคิดดีๆว่า จะเอาคะแนน หรือ เอาเข้ารอบ

ยังไม่แค่นั้นครับ
12.00 มีแข่ง Individual Time Trial ชายนอกสนามระยะ 20Km ส่วน 15.00 เป็นประเภทหญิง

18.00 ที่เป็น Madness Criterium รอบชิงประเภทชาย ถ่ายทอดสด ไปจนถึงช่วง 20.00 จะเป็นการตัดสินผู้ชนะ 12h Challenge ซึ่ง อาจเป็นได้ทั้งคนที่ลงแค่ 12h หรือเป็นคนที่ลง 24h ก็ได้ กติกานี้ก็จะช่วยให้ทีมที่ส่งได้มากยิ่งได้เปรียบ เพราะจะวางทีมชุดนึง ที่ทุ่มกำลังใส่แค่ 12h ช่วยลากทีม 24h ได้ และแน่นอนว่า ทีมไหน ชมรมไหน มีตัวแรง มาป่วนใน Criterium นี่แหละโอกาสเอา Lap จากเพื่อน ส่วนทีมที่มุ่งผลงาน 12h ต้องไล่กวดเต็มที่ ใส่กันยับช่วงก่อนสองทุ่ม จังหวะนี้ ทีม 24h ทีมไหนร่วงหลุด โดน Lap ไป งานครึ่งหลังจะหนักมากแน่นอน

จากนั้นเข้าสู่ 10 ชั่วโมงนรกข้ามคืน สองทุ่มถึงรุ่งสาง เหลือแต่ 24h ล้วนๆ ปั่นกันมาแล้วทั้งวัน เชื่อว่าช่วง 02.00-05.00 จะสาหัสมาก แต่เป็นจังหวะที่ดีสำหรับทีมวางแผนมาเน้นอึด ไม่เน้นเร็ว น่าจะทำ Lap คืนมาได้ อากาศกลางคืนก็ไม่ร้อน

รุ่งสาง ไฮไลท์การแข่งครับ
หน้าสนามปล่อยตัว Road Race ชายและหญิง ระยะทาง 90 และ 70 กม. ไปแข่งกันบนถนนแถวนั้น แล้วมาจบรอบสุดท้ายในเซอร์กิต วน 3 รอบ ใครเข้า Loop ไม่ทันกลุ่มแรกวนครบก็ DNF ไป และแน่นอนว่า 3 รอบนั้นคือจังหวะโบนัสของพวก 24h ในสนาม เมื่อกลุ่ม RR เข้ามา ใครเหนียว เกาะไปด้วยได้ ก็ย่อมได้เปรียบ

ที่เวลา 8.00 น.
ชื่อของทีมไหน อยู่อันดับ 1-3 ของ จอแสดงผลระยะทางแต่ละทีม ก็ชนะการแข่ง 24h Challenge ไปเลย

แน่นอนว่าต้องมี Expo มีงานแสดงดนตรี อาหาร ลอกแบบเมืองนอกมาด้วย มีไลฟ์สดถ่ายทอดที่น่าจะมีคนชมไม่น้อย รวมถึงผล Live Score อัพเดทบนสื่อโซเชียล คลิปสั้น คลิปยาว ไฮไลท์ รูปถ่าย

ทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นยอดผู้ชม ผู้มาเยี่ยมทั้งในงานและทางบ้าน ที่สร้างมูลค่าดึงดูดเงินจากผู้สนับสนุน ผู้ร่วมจัดได้ และนั่น ก็หมายถึง กำไร และ นิตยสาร จะรอดได้ในทุกๆปีที่ต้องต่อสัญญากับต่างประเทศ และ ปั้นให้เป็นมหกรรมงานใหญ่ประจำปี เหมือน Motor Expo หรืองานบ้านและสวน เีพยงเท่านี้ เราก็จะอยู่รอดต่อไป

ทว่า ปัญหาคือ ยอดเงินที่เป็นเป้าที่ต้องหาได้คืออุปสรรคสำคัญ เอาเป็นว่า กำไรสุทธิที่ต้องได้จากมหกรรมนี้ เป็นเงินประมาณ 7 หลักอ่อนๆ และตัวงานมีต้นทุนการจัดสูงมาก ดังนั้น งานต้องมีเงินเข้ามาราวครึ่งสิบล้านถึงจะไปได้

ณ เวลานั้น..ไม่มีงานจักรยานงานไหน จัดกันด้วยวงเงินระดับที่กล่าวมา โปรเจ็กนี้ จึงถูกเก็บไปอย่างไร้ความหวัง และ ปิดความหวังที่จะพยุง ดำรงนิตยสารนี้เอาไว้ได้ต่อไป ทางรอดต่อๆมาคือ การ รื้อโครงสร้างองค์กร การแปรรูปไปเป็นออนไลน์เต็มตัว และอื่นๆ แต่เมื่อ ฝ่ายบริหารมองแล้วเห็นว่า ไม่ได้สร้างผลกำไรอะไรมากมายนัก คณะกรรมการผู้ถือหุ้นก็มองว่าไม่จำเป็นต้องมีสื่อนี้ในมือ สุดท้าย ก็ลาจากแผง และปิดตำนาน นิตยสารจักรยานนำเข้าของไทยไปในเวลาต่อมา

เหลือเพียง นิตยสารจักรยานหัวไทย ที่อยู่ต่อมาได้อีกระยะหนึ่ง และ ลาแผงตามกันไปเช่นกัน ปิดผนึกลงหีบ สิ่งพิมพ์จักรยานไทย

ถ้าใครจำได้ ช่วงผีกว่าๆสุดท้าย ออกแคมเปญต่างๆ ทริป กิจกรรม รายการต่างๆเพื่อหารายได้เข้ามาเยอะมาก ตัวนิตยสารเองก็พยายามปรับเปลี่ยนผสมผสานความอินเตอร์กับเนื้อหาไทย จนถึงจุดหนึ่งที่กองบรรณาธิการทำเนื้อหาไทยกันกว่าครึ่งเล่มแล้ว แต่สุดท้าย ยอดขายก็ยังคงร่วงลง

ยอดซื้อตำสุดที่แอดฯจำได้ น่าจะมียอดขายออกแค่ราวๆ 30% ของยอดที่พิมพ์ออกมา เป็นเล่มช่วงหน้าฝน ส่วนยอดที่ขายดีสุดในปีสุดท้ายเป็นฉบับ กุมภาพันธ์ หน้าปกสาวนักปั่นไทย รองลงมาคือเล่มกลางปี มี Bike Of The Year และแถมผ้าบัฟ อันดับสามคือ เล่มปกสี่จตุรเพทไทย เล่มนั้น แทบโดนฝรั่งด่า เพราะ หน้าปกออกมาคล้ายกับอีกฉบับนึงซะนั่น ใครพอจะจำได้บ้างมั้ยนะ

06/11/2024

งบทำทีมจักรยานอาชีพให้ปังในเอเชีย ใช้เงิน 30-80 ล้านต่อปี

แต่จักรยานไม่มีค่าตั๋ว เสื้อปลอมเพียบ ค่าแอพดูแข่งเดือนละ 300 ยังหาดูเถื่อน

05/11/2024

ในบรรดานักปั่นระดับโลก ที่เคยได้ร่วมงานกัน มีเรื่องน่าสนใจเยอะมากๆ บางเรื่องก็น่าจะเล่าไม่ได้ตลอดชีวิตนี้ บางเรื่อง ตอนนั้นเล่าไม่ได้แต่ผ่านมาก็เปิดเผย แต่ก็ยังมีเกร็ดเล็กๆที่น่าจะเก็บมาเล่าย้อนหลังได้

อัลเบอร์โต คอนทาดอร์
เจ้าตัวสื่อสารภาษาสเปนเป็นหลัก ภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แต่เป็นคนเฮฮา อารมณ์ดีทั้งหน้าและหลังกล้อง ตอนนั้น เค้ามีความลับเรือ่งแบรนด์จักรยานยังไม่เปิดเผย ระหว่างเดินทางไปด้วยกันจะมีการคุยโทรศัพท์ภาษาสเปน ซึ่งทาง ผจก. ขอว่าคลิปเบื้องหลัง ห้ามเผยแพร่ เพราะในบทสนทนานั้น มีเรือ่งธุรกิจ ถ้าติดออกไป ใครฟังออก จะเสียหายได้ และ ความ’ซุปตาร์ นอกเวที อิดโรยขนาดไหน แต่พอถึงคิวต้องลงจากรถ จะยิ้มแย้ม เฮฮากับทุกคนทันที ตั้งแต่ก่อนประตูเปิด อีกอย่าง เป็นโปรที่แรงโหดที่สุดจริงๆ ต่อให้ระดับ elite ของไทยไปก่อนเลย ออกพร้อมคนสุดท้าย ป๋าแกไล่หวดทันตอนจบ คือ ถ้าขี่จริงๆ ต่อให้ 45 นาที ก็ยังชนะ

วินเชนโซ นีบาลี
เป็นคนรักน้องชายมาก ไปงานนอกที่ไหน ต้องพาน้องชายไปรับจ็อบด้วย ค่อนข้างเก็บตัวไม่ค่อยสมาคมกับแฟนๆนัก แต่ ถ้าในจังหวะที่เปิดสาธารณะ ก็ไม่มีแม้แต่เสี้ยววินาที ที่พี่หลามจะไม่ยิ้ม ระหว่างขี่ ก็จัดว่า“เอาจริง” ถึงจะไม่ได้หวดเอาอันดับกับเค้า แต่ก็ไปกับกลุ่มระดับท็อปเอเชีย ไม่หนี ไม่ลาก เดี๋ยวมีผลกับเกมส์ และ สมกับเป็นนักปั่นอิตาเลียนครับ เนี๊ยบมาก นอกห้อง ในห้อง แกแต่งตัวตรงตามระเบียบสปอนเซอร์เป๊ะ พร้อมหล่อตลอดเวลา

แดน ลอยด์ และ แม็ท สตีเฟ่น
คู่หูอดีต GCN ที่ในจอฮาแบบไหน ตัวจริงก็ เบอร์นั้นครับ โดยลุงแม็ท แกตลกแบบในจอจริงๆ ส่วนแดน จะออกจริงจังหน่อย ทั้งสองคน ไม่ถือตัว ไม่ได้วางตัวเป็น’ซุปตาร์ ทั้งในงานปั่นและงานสื่อ ถ้างานสื่อนี่ ทำตัวบ้านๆเลย สื่ออื่นทำอะไร ก็ทำแบบนั้น ไม่มีอภิสิทธิ์ ส่วนการปั่น ฝั่งพี่แดน จะยังมีขาระดับโปร แม้จะไม่ถึงกับกลุ่มหน้า แต่ก็เร็วมาก ส่วนลุงแม็ท ถ้านับจากอายุด้วย ยังขี่ไปกับกลุ่ม 2-3 ได้ ถือว่าโหดมากจริงๆ

คาเดล อีแวนส์
คนนี้ นุ่มนิ่ม นุ่มนวล ตามแบบที่เราเห็น แต่ก็แอบเกร็งเพราะภาพแกต่อยกล้องยิงติดตา แต่พอเจอตัวจริง เป็นคนเรียบๆง่ายๆสุดๆ นัดเวลา ขอเวลายังไงไม่เคยมีบ่น มารอก่อนเวลาเ)็นสิบๆนาทีก็มา แถมเสื้อผ้า หมวก จักรยานที่ใช้ ก็ใช้ตัวรองท็อปด้วย พี่แกว่า แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ได้จะเอาถ้วยอะไร (สะท้อนใจ พวกเราต้องสุด) รถรองท็อปสำเร็จไม่มีการเปลี่ยนชิ้นไหนเลย ไปขี่ทุกงานในโลกนี้ ในฐานะแอมบาสเดอร์ของ BMC แอบเม้าท์น้าแกนิดว่า เวลาน้าแกเหนือ่ย แกทิ้งตัวมาก หมดสภาพสุดๆ แต่พอเปิดประตู แกจะยิ้มสดใสตลอดไม่มีท่าทีบ่น

เช็ง จี
นักปั่นชาวจีน คนนี้ ตอนแรกกะว่าต้องหาล่ามแมนดารินแล้ว แต่ผิดคาด ภาษายอดเยี่ยมสุดๆ เพราะ หลังจากที่โกอินเตอร์ เค้าก็อยู่นอกประเทศจีนเป็นหลักเลย เป็นคน สบาย และ ง่ายอย่างที่สุด ไม่ถือตัว กินง่าย อยู่ง่าย ไม่เรียกร้อง VIP กระซิบเบาๆด้วยว่า ใจดีมาก คุยเรือ่งค่าตัวกันง่ายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เค้าน่าจะไม่ได้เน้นขี่แล้ว แต่ก็ขี่สนุกๆได้ร้อยกว่าโล ไม่อิดโรย เกาะกลุ่มใหญ่ไปสบายๆ (หาตัวยากหน่อยเพราะแกอยู่ตรงไหนของกลุ่มไม่รู้ หมกซะเนียน)

มิคเก้
สาวนักปั่นเยอรมัน คนนี้ ถือเป็นการส่วนตัวมากกว่าเพราะเป็นพี่สาวคนสนิทของเพื่อนแอดฯ เธอคือดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก โปรทีม wwt แคนยอน-ชแรม มีเรื่องเล่าเด็ดๆที่หาได้ยากมากในแวดวงโปรทัวร์ ซึ่งเรือ่งหนึ่งที่ว้าวหูที่สุดคือ ในวงการโปรทัวร์(ตอนนั้น) โปรใหม่ๆรุ่นเด็ก กับโปรเก๋าๆจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เพราะ โปรเด็กมักมีหัวก้าวหน้า เช่น เรือ่งทิ้งขยะ แม้ว่าตอนนั้น UCI ยังไม่ออกกฎ แต่โปรเด็กรุ่นพวกเธอ ช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงถนนมาก่อนแล้ว แม้ว่าโปรรุ่นใหญ่จะมองว่าไร้สาระ รวมถึง กฎ ระเบียบต่างๆ พวกรุ่นใหม่ๆจะทำตัวว่าง่ายกว่า เพราะเชื่อว่า กฎ มันจะพัฒนากีฬานี้ ระบบ“บารมี” ของวงการโปรจักรยานก็เบาบางลงไป ถึงจะยังมีอยู่แต่ก็ไม่เข้มข้นแบบยุคก่อนๆ สมัยนี้ หน้าใหม่ หน้าเก่า นีโอโปร หรือโปรเก๋า ก็มีสิทธิ์มีเสียงใกล้ๆกัน (เมื่อก่อนถ้านีโอโปร จะไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆในการแข่งเลย) เป็นเทร็นด์ของยุโรปเมื่อสิบปีก่อน ที่สะท้อนเป็นยุคนี้แหละ เรามี“บิ๊กบอส” ในการแข่งน้อยลงมาก ทุกคน เปิดใส่กัน ช่วยกัน แบบแฟร์ๆตามกีฬา

ถือเป็นเรือ่งนินทาโปรก็แล้วกันนะโพสต์นี้

03/11/2024

ราคานี้! ต้องเรียกว่าขยี้ราคากันเลยเชียว

29/10/2024

ไทเปย์ งานตักรยานที่ยิ่งใหญ่มากในโลกอุตสาหกรรมจักรยาน ถ่านับเฉพาะด้านการผลิตอาจจะสำคัญที่สุดในโลกก็ว่าได้ ภาคธุรกิจก็เช่นกัน ของดีๆ ใหม่ๆ แจ้งเกิดในสายตาคนนำเข้ามานักต่อนัก ก็งานนี้แหละ

ใครอยากรู้ทิศทางอนาคต ต้องไปงานนี้ครับ

19/10/2024

เคนโตะ ยามาซากิ พาธงญี่ปุ่นขึ้นสู่ยอด คว้าแชมป์โลก คีริน ในการแข่งจักรยานลู่ชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ ในรอบ 37 ปี!