QuiAri.Thailands Results You Can Feel
There is no doubt QuiAri has the #1 Superfruit, #1 Products, and the #1
RESUL
(1)

05/12/2024
28/10/2024

☀️เริ่มต้นวันใหม่ ด้วยพลังบวก
เปลี่ยน 24 ชั่วโมงให้เป็นโอกาสทองของชีวิต
#อ่านไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตจะดีขึ้น

สรุป 12 ข้อคิด
☀️1.เริ่มวันด้วยพลังบวก
ช่วงเวลาที่คุณตื่นนอนเป็นโอกาสสำคัญในการตั้งโทนพลังงานสำหรับทั้งวัน พฤติกรรมเชิงบวกในตอนเช้าสามารถส่งผลต่ออารมณ์และประสิทธิภาพของคุณทั้งวัน
☀️2.เป็นผู้ควบคุมอารมณ์ตนเอง
อารมณ์ไม่ควรเป็นสิ่งที่มาจากภายนอก คุณสามารถเลือกที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ด้วยวิธีที่ดีที่สุดได้
☀️3.ความสุขสร้างได้
ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอก แต่มาจากการที่คุณเลือกมองโลกในแง่ดีและให้คุณค่ากับสิ่งที่มีในชีวิต
☀️4.การโฟกัสที่ปัจจุบัน
ช่วงเวลาปัจจุบันคือสิ่งที่คุณควบคุมได้มากที่สุด จงอยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุดในทุกสิ่งที่ทำ
☀️5.ความสำเร็จมาจากการเริ่มเล็กๆ
เป้าหมายใหญ่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เสมอไป เริ่มต้นด้วยการทำทีละเล็กทีละน้อยในทุกๆ วัน
☀️6.ทัศนคติเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ
การมองโลกในแง่บวกและการพัฒนาทัศนคติที่ดีช่วยให้คุณเผชิญความท้าทายได้อย่างมั่นใจ
☀️7.การตั้งเป้าหมายในทุกเช้า
ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน ช่วยให้คุณรู้สึกถึงความสำเร็จและสร้างแรงจูงใจ
☀️8.การฝึกความกตัญญู
การขอบคุณสิ่งเล็กๆ ในชีวิตช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้น และมองชีวิตในแง่บวก
☀️9.พลังของการพักผ่อนที่ดี
การพักผ่อนที่เพียงพอในเวลากลางคืนช่วยฟื้นฟูพลังงานให้พร้อมสำหรับการเริ่มวันใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
☀️10.การออกกำลังกายช่วยสร้างพลังงาน
การออกกำลังกายตอนเช้าช่วยปลุกความสดชื่น และส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจ
☀️11.หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนเชิงลบ
การหลีกเลี่ยงความคิดและสถานการณ์ที่สร้างความเครียดหรือเป็นลบ ช่วยให้คุณรักษาพลังบวกได้ตลอดวัน
☀️12.ทำให้ทุกนาทีมีค่า
อย่าปล่อยให้เวลาเสียเปล่า ใช้ทุกนาทีเพื่อสร้างประโยชน์และคุณค่าในชีวิต

📒 แนะนำให้อ่าน 24 ชั่วโมงที่ดีเริ่มจากนาทีแรกที่คุณตื่น
https://s.shopee.co.th/1B4g93KP2p
#อ่านไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตจะดีขึ้น #ฮิลใจ #ปรัญาชีวิต #พัฒนาตนเอง #หนังสือพัฒนาตนเอง #หนังสือน่าอ่าน
#หนังสือขายดี #หนังสือที่ควรอ่านก่อนอายุ30 #หนังสือดีบอกต่อ #รีวิวหนังสือ

16/03/2024

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป
การสื่อสาร ต้องสร้างเทรนด์
ให้หลบ ข้อโต้แย้ง ปลุกกระแสส่งข้อมูลให้หลงรักหลงไหล สุดท้ายองค์กรเกิด ได้order แบบง่ายๆโดยไม่ขายสินค้า

11/02/2024

[Work & Life] รับมือทุกปัญหาให้อยู่หมัดด้วย ‘Spartan Mindset’ กรอบความคิดแบบสุดยอดนักรบ
นักรบสปาร์ตัน คือ กลุ่มนักรบที่ได้รับการจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่า เป็นกองทัพนักสู้ชั้นนำที่เก่งกาจที่สุดในยุคกรีก เพราะไม่เพียงน่าเกรงขาม และแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมีกรอบความคิดที่ดีจนสามารถเอาชนะศัตรู และรับมือกับทุกปัญหาได้อยู่หมัด
แล้วนักรบสปาร์ตันเขามีกรอบความคิดอย่างไร เราจะเอามาปรับใช้กับการทำงานได้ยังไงบ้าง? บทความนี้ Future Trends จะพาไปดูผ่าน Spartan Mindset กัน
1. ใจร่มๆ ควบคุมอารมณ์เป็น
หากเราลองไล่เรียงกลับไปยังเรื่องราวยุทธการที่เทอร์มอพิลี (Battle of Thermopylae) ที่ต้องเผชิญหน้ากับนักรบเปอร์เซียหลายพันคน แม้กองทัพนักรบสปาร์ตันจะมีกำลังแค่ 300 คน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด กลับกัน พวกเขาต่อสู้อย่างสุดความสามารถ ไม่ได้ตื่นกลัวหรือปล่อยอารมณ์ตัวเองให้พลุ่งพล่านเลยสักนิด
ซึ่งในแง่มุมของการทำงาน หากเราต้องอยู่ในภาวะวิกฤต มืดแปดด้านลักษณะนี้ สิ่งที่ควรทำอย่างแรกเลยก็คือ ดึงสติตัวเอง ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำไป อย่าเพิ่งรีบตีตนไปก่อนไข้ หรือใช้อารมรณ์เป็นนายในการตัดสินเรื่องราวต่างๆ
2. ฝึกความอดทน
จากที่เล่าในตอนแรกว่า นักรบสปาร์ตันนั้นแข็งแกร่งมาก แน่นอนว่า พวกเขาก็ย่อมผ่านการฝึกฝนความอดทนมาอย่างหนัก คล้ายกับหน่วยซีล โดยการฝึกฝนแบบไม่หลับไม่นอนเป็นเวลากว่า 5 วันครึ่งดังกล่าวเรียกว่า ‘สัปดาห์นรก (Hell Week)’
นอกจากนี้ ยังต้องเอาตัวไปกลิ้งบนทราย และถ้าใครไม่มีทรายติดที่ตัวก็จะถูกลงโทษด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขามีความอดทนที่เป็นรากฐานสำคัญในการรับมือกับปัญหา และทุกความเปลี่ยนแปลงได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง
ในแง่มุมของการทำงานหรือการทำธุรกิจก็เช่นกัน หากเราฝึกฝนความอดทนตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีปัญหาดาหน้าเข้ามาพร้อมกันอีกนับสิบนับร้อยเรื่อง เราก็จะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

3. ฝึกทักษะอย่างใดอย่างหนึ่งให้เชี่ยวชาญ
แม้การเป็น ‘มนุษย์เป็ด’ ที่ทำได้หลายอย่างจะเป็นทักษะการเอาตัวรอดสำคัญท่ามกลางความไม่แน่นอนในยุคนี้ แต่จริงๆ แล้ว การเชี่ยวชาญทักษะใดทักษะหนึ่งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน อย่างนักรบสปาร์ตันเองก็มีการฝึกปรือทักษะการต่อสู้อย่างเข้มข้น ส่งผลให้พวกเขาเชี่ยวชาญ และเต็มไปด้วยประสบการณ์อันโชกโชน
ดังนั้น ต่อให้การเป็น ‘เป็ด’ จะสำคัญ แต่อย่าลืมว่า เราควรจะเก่งด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อเป็นแต้มต่อในการเอาชนะคู่แข่ง และรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาด้วย
4. พูดน้อย แต่ความหมายมาก
‘Less is more.’ หรือ ‘น้อยแต่มาก’ คือคำพูดมินิมัลลิสต์ที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นักรบสปาร์ตันก็เช่นกัน ตามปกติแล้ว พวกเขาจะใช้ภาษาพูดที่สั้น กระชับได้ใจความ และเฉียบคม ไม่ต่างอะไรจากหอก
เช่น ในตำนานพระเจ้าฟิลิปที่ 2 (Philip II) ได้ส่งข้อความไปหาพวกเขาว่า “ถ้าฉันเข้าไปในลาโคเนียได้ ฉันจะทำลายล้างเมืองสปาร์ตาทิ้ง” แต่นักรบสปาร์ตันกลับตอบกลับสั้นๆ ว่า “ถ้า” ซึ่งทำให้พระเจ้าฟิลิปที่ 2 ดูแคลนพวกเขาว่าโง่ แต่ในความเป็นจริง นี่เป็นเพียงชั้นเชิงในการหลอกให้ศัตรูตายใจเท่านั้น
Spartan Mindset เป็นหนึ่งในกรอบความคิดที่จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง และทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น หลังจากอ่านบทความนี้จบ ลองนำไปปรับใช้กันดู ส่วนจะได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไง อย่าลืมมาคอมเมนต์บอกกันด้วย!

เขียนโดย Chompoonut Suwannochin

31/01/2024

เมื่อบุญใหม่ถึง บุญเก่าส่งเสริมทรัพย์จะไหลมา
ทุกการกระทำในอดีตมีผลต่อปัจจุบันเสมอ

25/12/2023

"ทำในสิ่งที่แตกต่าง สักวันหนึ่งคุณจะมีชีวิตอย่างที่คนอื่นไม่มี"
เดฟ แรมซีย์
นักเขียน และนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง

 #ทุกอย่างพร้อม ลุยยยยยยย!!!QuiAri Thailand 🇹🇭
14/11/2023

#ทุกอย่างพร้อม ลุยยยยยยย!!!
QuiAri Thailand 🇹🇭

ตายไปเอาเงินไปไม่ได้แต่ขาดเงินรู้สึกเหมือนจะตายเงินซื้อความรักไม่ได้แต่ความรักอาจเสื่อมหายได้ถ้าขาดเงินเงินไม่สามารถซื้อ...
29/10/2023

ตายไปเอาเงินไปไม่ได้
แต่ขาดเงินรู้สึกเหมือนจะตาย

เงินซื้อความรักไม่ได้
แต่ความรักอาจเสื่อมหายได้ถ้าขาดเงิน

เงินไม่สามารถซื้อการนอนหลับได้
แต่ไม่มีเงินคงนอนไม่หลับ

เงินไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีได้
แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ต้องใช้เงิน

เงินไม่สามารถซื้อความเก่งกาจได้
แต่ความรู้และปริญญาที่ได้มาต้องใช้เงิน

คนโง่ดูเหมือนฉลาดเมื่อมีเงิน
แต่คนฉลาดดูเหมือนโง่เมื่อไม่มีเงิน

เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องการเงิน

เงินเรื่องมันเป็นเรื่องเล็ก
แต่ถ้าไม่มีเงินมันเป็นเรื่องใหญ่

เชื่อสิ เงินไม่ใช่แก้วสารพัดนึก
แต่ถ้าคุณไม่มีเงิน จะนึกอะไรไม่ออกสารพัด

และถ้าคุณนึกอะไรไม่ออก..แต่คุณมีแรงปรารถนา
เรามีทางออกช่วยคุณ!!
มองหาทางรอด..มาทางเรา 💵💵💵

24/09/2023

QUOTE:
“แค่เพราะคุณไปถึงที่หมายช้า
ไม่ได้แปลว่าคุณล้มเหลว
ผมเริ่มสร้าง KFC ตอนอายุ 65”
ผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้ง KFC
1 - บางทีแค่ไถโซเชียลแล้วเห็นคนอื่นมีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเป็นของตนเอง อาจทำให้บางคนรู้สึกกดดันอยากประสบความสำเร็จได้ดั่งที่หวังไวๆ ทั้งที่ความจริงแล้วความสำเร็จไม่มีเวลาที่ตายตัวว่าอายุเท่านั้นเท่านี้ ต้องมีอะไรบ้าง และหากวันนี้ยังไม่ไปถึงฝั่งฝันก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตล้มเหลว
2 - ซึ่งบุคคลที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแต่ละคนมีช่วงเวลาที่ผลิบานจนประสบความสำเร็จได้ในช่วงวัยที่แตกต่างกันคือ ‘ผู้พันแซนเดอร์ส’ (Colonel Harland Sanders) คุณลุงหน้าตาใจดีที่อยู่บนโลโก้ของ KFC ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ไก่ทอดที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกได้สำเร็จในวัย 65 ปี และกว่าจะมีวันนี้เขาต้องเจอกับความล้มเหลวมาแล้วถึง 1,009 ครั้ง
กับเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทั้งปัญหาครอบครัว ชีวิตรัก ไปจนถึงการทำงาน ที่กว่าจะถึงจุดพลิกผันที่ทำให้รู้สึกว่างานทั้งหมดในชีวิตที่เคยผ่านมานั้นไม่ใช่ ก็เป็นตอนที่เข้าสู่ช่วงวัย 65 ปีแล้ว ก่อนจะค้นพบว่า แท้ที่จริงแล้วเขาชอบการทำอาหาร จึงได้คิดค้นไก่ทอดสูตรพิเศษที่กลายมาเป็นไก่ทอด KFC ที่หลายคนชื่นชอบ
ในช่วงแรกเขาเริ่มจากการไปเคาะประตูบ้านและร้านอาหาร เพื่อนำเสนอขายไก่ทอด แต่กลับถูกปฏิเสธถึง 1,009 ครั้ง และในครั้งที่ 1,010 นั่นเองที่ไก่ทอดของเขาได้รับการยอมรับ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน KFC แห่งแรกของโลก ณ รัฐเคนตักกี สหรัฐอเมริกา และด้วยคุณภาพของอาหารที่ปรุงสดใหม่ ไก่ที่ปราศจากฮอร์โมนเร่งโตหรือสารปรุงแต่ง มาผ่านการปรุงและทอดกรอบด้วยสูตรที่คิดค้นขึ้นเองอย่างมีเอกลักษณ์ จึงครองใจลูกค้าและมีสาขาทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน
3 - ซึ่งสิ่งที่ผู้พันแซนเดอร์สมีมาตลอดชีวิตคือ ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความล้มเหลว โดยเรื่องราวของผู้พันแซนเดอร์สจึงเป็นทั้งแรงบันดาลใจและกำลังใจที่ทำให้รู้ว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะไปถึงฝั่งฝัน และการมาถึงที่หมายช้าก็ไม่ได้แปลว่าล้มเหลว คุณสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ว่าจะผ่านอะไรในชีวิตมา หรือแม้ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

อ้างอิง:
“Just Because You Took Longer than Others, Doesn’t Mean you Failed. I Started KFC at 65”: KFC Founder https://tinyurl.com/4cv68r3p




#ธุรกิจที่คิดเพื่อคุณ

03/09/2023

การหวังพึ่งผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก การยืนด้วยลำแข้งตนเองให้ได้สำคัญที่สุด เพราะเมื่อเราเข้มแข็งและมีอำนาจในการต่อรองเท่านั้น ผู้อื่นจึงจะยินดีช่วยเรา....
ในวิถีแห่งทฤษฎีการแข่งขันนั้น ภายใต้ทรัพยากรต่างๆบนโลกนี้ที่มีจำกัด ในประวัติศาสตร์โลก 3,000ปี และเศรษฐกิจโลก 1,000ปีนั้น ความเท่าเทียมเป็นเพียงหลักการทางทฤษฎีหากแต่มิเคยเกิดขึ้นจริง

มนุษย์ทุกคนหนีไม่พ้นที่จะต้องเข้าร่วมสงครามการแข่งขันต่างๆไม่ว่าจะเป็นสงครามเศรษฐกิจ สงครามการทูต สงครามการใช้กำลังทางทหาร รวมถึงสงครามธุรกิจสอดคล้องกับพิชัยยุทธ์ซุนวูว่าไว้ ....
พิชัยยุทธ์ซุนวูว่าไว้
-ชนะโดยมิต้องรบ
-สงครามเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ความอยู่รอดและความล่มสลาย ผู้ที่มิรู้ภัยของการก่อสงคราม ย่อมมิอาจรู้ผลดีของการก่อสงครามเช่นกัน ย่อมต้องพินิจพิเคราะห์ให้จงดี

-ที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะคือ เอาชนะด้วยการทำลายกุศโลบายของอีกฝ่าย เอาชนะด้วยการทูต การเจรจา
และที่แย่ที่สุดคือ การเอาชนะด้วยการใช้กำลัง

หรือจะสรุปง่ายๆคือ ผู้ที่มิรู้ข้อเสีย ผลกระทบของการลงมือย่อมมิได้ล่วงรู้ถึงข้อดีอย่างถ่องแท้แน่นอน....
ก่อนที่จะขยับลงมืออะไร ตามแนวคิดของซุนวูนั้น ย่อมหนีไม่พ้นที่จต้องประเมินตามลำดับดังนี้
พิจารณา ความเสี่ยง ผลเสีย ผลได้

เพราะถ้ามิประเมินให้ดี ลงมือกระทำ ขยับตามยถากรรม ทำอะไรหวังแต่จะยืมจมูกผู้อื่นหายใจและหวังแต่จะไปตายเอาดาบหน้านั้นแล้วละก็คงหนีไม่พ้นภาษิตโบราณที่ว่า เดินหมากพลาดตาเดียว ล้มทั้งกระดาน....
สอดคล้องกับเหมาเจ๋อตุงที่ว่า
การเมืองคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือด และสงครามที่ใช้กำลังคือภาคต่อของการเมืองและการทูต ย่อมมีทั้งการใช้ ปลายชิวหา ปลายปากกาและพู่กัน จนอาจถึงขั้นใช้ปลายอาวุธ ช่วงชิงให้ได้มา....
เดิมเล่าปี่นั้นเป็นยาจกทอเสื่อขาย แต่ก็มีปณิธาน อุดมการณ์ที่จะกอบกู้บ้านเมือง
รบกับโจโฉทุกครั้ง แพ้ให้โจโฉทุกครั้ง

หนีตายเอาชีวิตไม่รอดก็บ่อย
จนอายุ 46 ปีก็ยังตั้งตั้วไม่ได้ อาศัยชาวบ้านเขาอยู่ไปวันๆ
โชคดีหน่อยที่จุดพลิกผันของเล่าปี่เกิดจากการที่ชัวมอลอบสังหาร หาแต่เล่าปี่ก็หนีเอาตัวรอดมาได้

และนั่นก็เป็นหนึ่งในกระดานหกครั้งสำคัญที่ทำให้เล่าปี่ได้พบกับสุมาเต๊กโชและได้ขงเบ้ง กุนซือสมองเพชรมาทำงานให้ หากแต่ในเวลานั้นเล่าปี่ก็ยังยินด้วยลำแข้งตนเองมิได้ เนื่องจากยังไม่มีอาณาจักรเป็นของตนเอง....
จนเหตุการณ์พลิกผันหลายๆตลบ
หลังจากศึกเช็กเพ็กที่โจโฉแตกทัพเรือไปแล้วนั้นแคว้นเกงจิ๋วให้แตกออกเป็นส่วนๆ แต่อำนาจทางการปกครองส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในมือของโจโฉอยู่ดีหัวเมืองเอกอย่างเมือง ลำกุ๋น นั้นโจโฉได้ให้โจหยิน ขุนพลมือดีของในการรับมือ

ฝ่ายซุนกวนนั้น ลงทุนลงแรงและทรัพยากรมากมายในศึกเซ็กเพ็กย่อมหวังที่จะฮึบกลืนแคว้นเกงจิ๋ว ขยายอาณาเขตการปกครองของตน เพียงแต่ว่าเล่าปี่ ที่มีขงเบ้ง กุนซือสมองเพชรเป็นที่ปรึกษานั้นก็หมายตาที่จะครอบครองแคว้นเกงจิ๋วเช่นกัน

ตามยุทธศาสตร์หลงจง ที่หมายให้เล่าปี่รวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง เพียงแต่ว่า ณ เวลานั้นเล่าปี่ยังไม่มีแผ่นดินและฐานกำลังมากพอที่จะสู้กับโจโฉซึ่งๆหน้าได้

จิวยี่ขุนพลเอกของซุนกวน ได้นำทัพมาที่ชายอกนเมืองลำกุ๋น หมายตาเข้าจะตีเมือง
หากแต่ก็ต้องตกใจครั้งใหญ่เช่นกันเมื่อสยาข่าวมารายงานว่า ฝ่ายเล่าปี่นั้นก็ขยับกองกำลังมาเข้าๆใกล้ดินแดนเมืองลำกุ๋น....
ด้วยเหตุนี้ การเจรจาทางการทูต ระหว่าง จิวยี่ฝ่ายซุนกวน กับฝ่ายเล่าปี่จึงต้องเกิดขึ้น

เล่าปี่ตอบว่า ข้าเห็นท่านจิวยี่ยกทัพมาหมายตีเมืองลำกุ๋น ข้าเพียงยกกำลังมาหมายจะสนับสนุนท่าน แต่ถ้าหากท่านมิคิดตีเมือง ข้าเล่าปี่ก็มิคิดที่จะตีเมืองเช่นกัน

จิวยี่หัวเราะจึงตอบว่า ฝ่ายเราเมืองกังตั๋งแต่ไหนแต่ไรมาปรารานาที่จะครอบครองดินแดนเกงจิ๋ว แถบใต้แม่น้ำแยงซีทั้งหมด ยามนี้โจโฉพึ่งจะพ่านศึกใหญ่กลับไป จะมิคิดช่วงชิงได้เยี่ยงไรกัน

เล่าปี่ตอบ ข้าเกรงว่า ท่านจะยึดเมืองลำกุ๋นมิได้
จิวยี่ว่า ถ้าข้าตีเมืองลำกุ๋นไม่ได้นั้น ท่านเล่าปี่จงชิงเมืองลำกุ๋นนั้นเองเถิด

เล่าปี่ว่า ท่านขงเบ้งและท่านโลซกนั่งอยู่ ณ นี่นี้นั้นจงเป็นสักขีพยาน
…..
หลังจากการเจรจาตกลงเสร็จ ขงเบ้งบอกกับเล่าปี่ว่า ท่านไม่ต้องคิดกังวลไปมากมาย ให้จิวยี่ตีเมืองลำกุ๋นนี้ไปก่อนเถิด ถึงอย่างไรก็คงมิสามารถหักเอาเมืองนี้ได้โดยง่าย อีกไม่นานท่านเล่าปี่ก็จะได้นั่งบัญชาการในเมืองลำกุ๋นนี้เป็นแน่เท้
…..
ข้อตกลงสรุปได้ว่า พันธมิตรเล่าปี่-ซุนกวนนั้น จะให้จิวยี่ขุนพลเอกฝ่ายซุนกวนเป็นผู้ลงมือในการเข้าตีเมืองลำกุ๋นก่อน หากว่าจิวยี่ไม่สามารถยึดเมืองลำกุ๋นได้ ฝ่ายขงเบ้งก็จะลงมืองยึดเมืองลำกุ๋นเป็นลำดับถัดไป

เพียงแต่ว่า โจหยิน ขุนพลที่เฝ้าเมืองลำกุ๋นนั้นก็เป็นมือดีของโจโฉ ย่อมมีความเขี้ยวลากดินอยู่ในระดับนึง
มิใช่หมูหมากาไก่หาได้ตามท้องถนนทั่วไป
…..
จิวยี่รบกับโจหยิน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ผ่านไปเป็นปีกว่าผลสรุปของการศึกก็ยังไม่ชัดเจน
อีกทั้ง จิวยี่ยังต้องเกาฑัณฑ์จากฝ่ายโจหยิน ระหว่างชลมุนกันแรมเดือนแรมปีนั้น

ขงเบ้งมิได้นิ่งนอนใจ ติดตามข่าวสารเป็นระยะๆ หมายที่จะนั่งบนภูดูเสือกัดกัน

-ดูไฟชายฝั่งและตีชิงตามไฟ ให้จูล่งลอบเข้ายึดเมืองลำกุ๋น
-ล่อเสือออกจากถ้ำ ให้ส่งคนไปหาแฮหัวตั้นที่เมืองซงหยง ลวงข่าวว่าโจหยินให้ยกทัพไปช่วย
แล้วให้กวนอูยึดเข้าเมืองซงหยงซึ่งมีกำลังน้อยกว่า
…..
จิวยี่ที่เป็นฝ่ายพลิกกลับมาชนะโจหยินนั้น ด้วยความลำพองใจหมายที่จะยึดเมืองลำกุ๋น
หากแต่เมื่อมาถึงกำแพงเมือง กลับพบธงทิว และจูล่งยืนอยู่บนเชิงเทินกล่าวว่า

ขออภัยท่านจิวยี่ ท่านขงเบ้งให้ข้าจูล่งมายึดเมืองไว้ได้แล้ว....
จิวยี่แค้นใจนัก สั่งทหารให้ระดมเข้าตีเมืองอย่สุดความสามารถ หากแต่ฝ่ายเล่าปี่นั้นก็ยิงเกาฑัณฑะดมออกมาต้านเป็นห่าฝนเช่นกัน

ตัวเองเฝ้าเดินเกมการเมือง การสงคราม นับแรมเดือนแรมปี สุดท้ายมิได้อะไร ผู้อื่นกลับมาชุบมือเปิบไปซึ่งหน้า....
จิวยี่ต้องต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ หมายที่จะกำจัดเล่าปี่ให้สิ้นซาก

เพียงแต่ว่าโลซกยังไม่เห็นด้วย
เพราะ เดิมเล่าปี่กับโจโฉนั้นเคยเป็นพันธมิตร สนิทสนมชิดเชื้อกันมาก่อน หากว่าเราไปรีดเลือดปู บีบให้เล่าปี่เป็นหมาจนตรอก เล่าปี่ก็คงจะร่วมมือกับโจโฉแล้วโจมตีเมืองง่อของเรา ทีนี้ก็คงยากที่จะรับมือ....
และหลังจากที่เล่าปี่ยึดหัวเมืองส่วนใหญ่ของเกงจิ๋วได้แล้วนั้น จิวยี่ก็แค้นใจกระอักโลหิตจากพิษเกาฑัณ์จนต้องชีวิตฝ่ายโลซก ก็หมั่นมาทวงถามถึงว่า เมื่อไหร่เล่าปี่จะคืนเมืองเกงจิ๋วให้ซุนกวน ผัดผ่อนต่างๆนาๆ

เล่าปี่นั้นใช้คำว่า ยืม ในทางนิตินัยและทางการทูต
แต่ทางพฤตินัยแล้วนั้น เมืองเกงจิ๋วถูกแล้วปี่ ยึด....
นับว่าเป็นความอัจฉริยะและปรีชาสามรถของขงเบ้ง
ที่ยึดยุทธศาสตร์หลงจงอย่างเคร่งครัดนั้นคือ ผูกมิตรกับซุนกวนต้านมหาอำนาจเบอร์หนึ่งอย่างโจโฉ

ที่จะต้องได้แคว้นเกงจิ๋ว
ที่จะต้องไม่ทำลายพันธมิตรระหว่างซุนกวนและเล่าปี่

หากว่าจะรักษาพันธมิตรอย่างเคร่งครัดด้วยการมอบเมืองเกงจิ๋วให้ซุนกวน
เล่าปี่ก็จะไม่มีฐานที่มั่น และยืนด้วยลำแข้งตนเองไม่ได้

และนี่ก็คือหนึ่งการกระดานหกที่สำคัญที่ทำให้เล่าปี่ได้ฐานที่มั่นอย่างเกงจิ๋ว สู่การขยายอาณาเขตต่อไปยังดินแดนเสฉวนและฮั๋นต๋ง จนก่อเกิดเป็นสามก๊กอย่างเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน....
บทสรุป
1.เพราะการหวังพึ่งผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก การยืนด้วยลำแข้งตนเองให้ได้สำคัญที่สุด เพราะเมื่อเราเข้มแข็งและมีอำนาจในการต่อรองเท่านั้น ผู้อื่นจึงจะยินดีช่วยเรา

2.พิชัยยุทธ์ซุนวูว่าไว้ ชนะโดยมิต้องรบ
-สงครามเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ความอยู่รอดและความล่มสลายผู้ที่มิรู้ภัยของการก่อสงคราม ย่อมมิอาจรู้ผลดีของการก่อสงครามเช่นกัน ย่อมต้องพินิจพิเคราะห์ให้จงดี

-ที่ยอดเยี่ยมในการเอาชนะคือ เอาชนะด้วยการทำลายกุศโลบายของอีกฝ่าย เอาชนะด้วยการทูต การเจรจา
และที่แย่ที่สุดคือ การเอาชนะด้วยการใช้กำลัง

หรือจะสรุปง่ายๆคือ ผู้ที่มิรู้ข้อเสีย ผลกระทบของการลงมือย่อมมิได้ล่วงรู้ถึงข้อดีอย่างถ่องแท้แน่นอน
ก่อนที่จะขยับลงมืออะไร ตามแนวคิดของซุนวูนั้น ย่อมหนีไม่พ้นที่จต้องประเมินตามลำดับดังนี้
พิจารณา ความเสี่ยง ผลเสีย ผลได้

เพราะถ้ามิประเมินให้ดี ลงมือกระทำ ขยับตามยถากรรม ทำอะไรหวังแต่จะยืมจมูกผู้อื่นหายใจและหวังแต่จะไปตายเอาดาบหน้านั้นแล้วละก็คงหนีไม่พ้นภาษิตโบราณที่ว่า เดินหมากพลาดตาเดียว ล้มทั้งกระดาน

หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัวมีงานเขียนแบบรูปเล่มแล้ว 3 เล่มไปอ่านแบบมันส์ๆกันได้เลย
📘หนังสือ " สำเร็จได้ทุกสถานการณ์ ด้วยกลยุทธ์ในสามก๊ก "
👨‍🎓ผู้เขียน : ซุนวู ต้า
เจ้าของเพจ หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว
✅️รูปแบบ E-Book
MEB : https://bit.ly/30xTWZ3
Ookbee : https://bit.ly/30vzSpI
Google Play : https://bit.ly/3nsPGCF
✅️รูปแบบ รูปเล่ม
เพชรประกาย : https://bit.ly/3qNGk6p
Lazada : https://bit.ly/3npq9KE
Shopee : https://bit.ly/3wXCtEY
หรือร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
…..
📙หนังสือ “39 จิตวิทยาเหนือเมฆที่จะเสกให้คุณเหนือคน”
👨‍🎓ผู้เขียน : ซุนวู ต้า
เจ้าของเพจ หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว
✅️รูปแบบ รูปเล่ม
Inbox : m.me/KeedkeanAcademy
Shopee : https://shp.ee/29hnqfs
✅️รูปแบบ E-Book
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails...
✅️รูปแบบ หนังสือเสียง
https://www.mebmarket.com/?action=BookDetails&book_id=200649

📒หนังสือ 44 วิธีเอาชนะความโชคดีและอยู่เหนือดวง
👨‍🎓ผู้เขียน ซุนวู ต้า
เจ้าของเพจ หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว

✅️แบบรูปเล่ม
https://shopee.co.th/product/309013245/23643041018/
มองขาดทะลุแก่น คัดมาเน้นๆอ่านแล้วสนุก
#หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว
👑Samkok King👑

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66924994614

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ QuiAri.Thailandsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง QuiAri.Thailands:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์