Marketeer Online

ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Marketeer Online, เว็บไซต์ข่าวและสื่อ, Krungthonburi Road, Bangkok.

First in Marketing Contents
24 ปีแห่งการเป็นผู้นำข่าวและข้อมูลธุรกิจการตลาด
[email protected]
[email protected]
โทร : 02-860-7889
โทร : 081-751-5075

27/12/2024

เมื่อ ‘อาร์ตทอย’ กลายเป็นเทรนด์
ที่ ‘ศูนย์การค้า’ รอบกรุงฯ ใช้ดึงดูดทราฟิกข้ามปี

ปี 2024 ยังคงเป็นปีทองของ ‘อาร์ตทอย’ และ ‘คาแรคเตอร์ทอย’ ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นหนึ่งในกิมมิคและไฮไลต์สำคัญในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีแบบนี้

รวมถึงหลาย “ศูนย์การค้า” เลือกหยิบเอาเทรนด์ที่เกิดขึ้นนี้มาใช้ เพื่อดึงดูดทราฟิกลูกค้าเข้ามาจับจ่าย ร่วมกิจกรรม พร้อมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกันแบบข้ามปี!

อ่านเเบบบทความบนเว็บไซต์
https://marketeeronline.co/archives/394667

27/12/2024

ส่งต่อความสดชื่นให้คนไทย เติมพลังใจก่อนกลับบ้าน
“น้ำดื่มสิงห์” จับมือ “โออาร์” แจกน้ำฉลากพิเศษปีใหม่ กว่า 4 แสนขวด
ที่จุดพักรถ PTT Station 6 สาขาที่เป็นขาออกต่างจังหวัด ได้แก่
- สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม(บางนา)
- พระราม 2
- วังน้อย
- บางปะอิน
- วิภาวดี
- สระบุรี

รวมไปถึง 4 จุด สถานีขนส่งต่างๆ ที่คนต้องใช้บริการกลับบ้าน เช่น
- สถานีรถตู้อนุสาวรีย์ชัย
- สถานีขนส่งหมอชิต
- สถานีขนส่งสายใต้ใหม่
- สถานีกลางบางซื่อ

📍เริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 27 – 31 ธันวาคม 2567 นี้
-

สำหรับเเคมเปญนี้ น้ำดื่มสิงห์ เเละ โออาร์ ตั้งใจมอบความสุขและความห่วงใยให้กับผู้บริโภคเพื่อ “เติมเต็มทุกความสุขรับปีใหม่ เติมเต็มประโยชน์ที่ใช่กับน้ำดื่มสิงห์”

โดยน้ำดื่มสิงห์ที่เเจกยังมาพร้อมกับ 'ฉลากดีไซน์ใหม่' มีข้อความพิเศษด้านหลัง ที่อวยพรและช่วยส่งต่อความห่วงใย ให้พี่น้องคนไทยทุกคน เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพื่อกลับไปชาร์จพลังอยู่กับครอบครัวและคนที่รัก

เเละยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวฉลากดีไซน์ใหม่ของน้ำดื่มสิงห์ ที่จะเข้ามาสู่ตลาดในช่วงต้นปี 2568 อีกด้วย

-

#น้ำดื่มสิงห์

27/12/2024

ปี 2024 เป็นอีกปีหนึ่งที่ในวงการธุรกิจไทยและโลกมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องในหลากเรื่อง หลายรส ทั้งในแง่ของการเปลี่ยนแปลง, การสร้างกระแส ตลอดจนการพาตัวเองไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่หลายคนจับตามอง และก่อนจบปี 2024 Marketeer ได้สรุปการเปลี่ยนแปลงในวงการธุรกิจที่น่าสนใจในรอบปี ดังนี้

🔴 Robinhood เปลี่ยนมือจาก SCB สู่ยิบอินซอย

วงการฟู้ดเดลิเวอรี่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ SCB ประกาศยุติกิจการ Robinhood หลังขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการ

แต่ธุรกิจ Robinhood ที่ SCB ต้องการตัดทิ้ง กลับกลายเป็นธุรกิจที่กลุ่มยิบอินซอย และอีก 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน),บริษัท เอสซีที เรนทอล คาร์ จำกัด และ บริษัท ล็อกซบิท จำกัด (มหาชน) ให้ความสนใจนำไปต่อยอดด้วยการร่วมหุ้นซื้อ Robinhood ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยมียิบอินซอยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

และได้บริหาร Robinhood ด้วยการให้ความสำคัญกับธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ซึ่งเป็นธุรกิจเดียวที่ Robinhood ยังคงให้บริการในปัจจุบันให้แข็งแรงก่อนที่จะขยายไปยังบริการอื่นๆเช่นเรียกรถ จองโรงแรมที่ Robinhood เคยยุติให้บริการไปก่อนหน้านั้น
.

🔴 พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ เปลี่ยนสิทธิ์ถ่ายทอดจาก True Vision สู่ JAS

เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ ในประเทศไทย เมื่อ JAS หรือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลสิทธิ์จาก FAPL (The Football Association Premier League Limited) ด้วยเม็ดเงิน 19,167.72 ล้านบาทเพื่อถ่ายทอดสด ชมย้อนหลัง และอื่นๆ แต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในไทย ลาว และกัมพูชา นานถึง 6 ฤดูกาล นับตั้งแต่ฤดูกาล 25/26

และสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ JAS ได้ ว่าจ้างให้ MONO หรือ หรือบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์ม MonoMax ด้วยเหตุผล JAS และ MONO มี พิชญ์ โพธารามิก เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งคู่

ส่วนทรู วิชั่น ผู้ได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลปัจจุบัน ยังคงถ่ายทอดไปจนถึง พฤษภาคม 2568
..

🔴 การเปลี่ยนแปลงของผู้ถือหุ้น และชื่อใหม่ของ Kerry สู่ KEX

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Kerry หรือบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หลังจาก S.F. Holdings Co., Ltd. ผู้ให้บริการโลจิสติกรายใหญ่จากประเทศจีน เข้าครอบงำกิจการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ผ่านบริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก

และการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นของ Kerry ประเทศไทย ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงชื่อ บริษัท จากเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เป็น บริษัท เคอีเอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนแบรนด์จาก Kerry Express เป็น KEX เนื่องจากบริษัท Kuok Registrations Limited เจ้าของแบรนด์ และเครื่องหมายการค้า Kerry Express บอกยกเลิกสัญญา
.

🔴 หมูเด้ง ผู้สร้างกระแสใครๆ ก็อยากไปสวนสัตว์ ที่มาพร้อมกับ ผู้จุดประกายดาราสัตว์มากมาย

หมูเด้ง เซเลปสาวแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการสวนสัตว์ ทั้งในเรื่องของการเติบโตของผู้เข้าชม และการเกิดดาราสัตว์อื่นๆ ตามมามากมาย เช่น น้องหมูเด้ง หมูด้วง คากิ ในตระกูลฮิปโป, น้องเอวา น้องสุดเขต เสือแบ๊วที่ดึงดูดความสนใจของคนไทยและต่างชาติให้มองเห็นความน่ารัก และเกิดกระแสรักสัตว์อื่นๆ ที่นอกเหนือจากสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

และจากข้อมูลขององค์กรสวนสัตว์พบว่า นับตั้งแต่หมูเด้งเกิดในวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 และมีการปล่อยคลิปหมูเด้งครั้งแรกในปลายเดือนกรกฎาคม 2567 กระแสการเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจำนวนมาก เมื่อนับจาก 1 สิงหาคม - 21 ธันวาคม 2567 มีผู้เข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวรวมกันมากถึง 787,412 คน เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากช่วงเดียวกันปี 2566 ที่มียอดผู้ชม 395,220 คนเท่านั้น
.

🔴 หมีเนย ผู้สร้าง กระแส Butter Bear ผ่าน Mascot Marketing และ Story Telling

หมีเนย Mascot สุดคิวท์ เต็มไปด้วยความรัก สดใส ที่กลายเป็นกระแสในปี 2567 ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับแบรนด์เบเกอรี่ Butter Bear ในเครือ Coffee Bean by Dao เป็นที่รู้จักอย่างฉุดไม่อยู่ ทั้งไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวจีน

ความน่ารักของหมีเนยได้ดังขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ที่สร้างกระแสมัมหมี พ่อหมีเข้ามาพบปะร่วมกิจกรรมกับน้องเนยที่หน้าร้าน Butter Bear สาขา Emsphere จนแน่นขนัด และยอมที่จะต่อคิวเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อได้ถ่ายรูป หรือซื้อสินค้าจากร้าน Butter Bear สนับสนุนความน่ารักของน้องเนย

ซึ่งการสร้างกระแสของน้องเนยเป็นการนำกลยุทธ์ Mascot Marketing ผสมผสานกับ Story Telling เล่าเรื่องราวต่างๆ ของน้องเนย ทั้งการกำหนด เพศ อายุ ภาพลักษณ์ให้มีชีวิตบนกิจวัตรประจำวัน และความสามารถต่างๆ ที่น้องเนยมี เช่นการร้องเพลง เป็นต้น

และกระแสหมีเนยนอกเหนือจากสร้างรายได้จากการขายสินค้าหลักของ Butter Bear แล้วยังสามารถสร้างรายได้อื่นๆ ที่มาจากคาแรกเตอร์หมีเนยอีกด้วย
.

🔴 OR เลิกขาย Texas ขายหุ้น Koune ทิ้ง และการปิดตัวลงของแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ

ปีนี้เป็นปีที่ OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ตัดธุรกิจอาหารทิ้งถึง 2 ธุรกิจ นับตั้งแต่ ยุติธุรกิจเท็กซัส ชิคเก้น อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 และตามมาด้วยการขายหุ้นในบริษัท อิ่มทรัพย์โกลบอล คูซีน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ Kouen, Ono Sushi และร้านอาหารแบรนด์อื่น ๆ ทิ้ง เพื่อตัดธุรกิจที่ไม่เติบโต หรือสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ออก และหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจที่สร้างผลกำไรกลับมา

นอกเหนือจากการตัดธุรกิจอาหารของ OR ถึงสองธุรกิจในปีนี้ เราได้เห็นการปิดตัวลงของแบรนด์ร้านอาหารที่เป็นตำนาน และไม่เป็นตำนานอื่นๆ เช่นการปิดตัวลงของแบรนด์ไดโดมอน, ฮอตพอต สองแบรนด์ที่เคยเฟื่องฟูในอดีตจากสภาวะขาดทุน, การปิดตัวของร้านอาหารแบรนด์อร่อยดี ที่ CRG พัฒนาขึ้นมาแข่งขันในตลาดอาหารสตรีทฟู้ด, การปิดร้านขนมจากประเทศญี่ปุ่นถึงสองแบรนด์ ได้แก่ Gram Pancakes และ Pablo Cheesetast เป็นต้น
.

🔴 Subway ผู้ถือสิทธิ์เก่าไม่ยอมไปไหน

ในธุรกิจอาหาร ได้เกิดประเด็นดราม่า ในแบรนด์ Subway หลังจากร้านที่หมดอายุสัญญาจาก Master Franchise รายเดิม ไม่ยอมปิดร้านเลิกจำหน่าย และยังคงขาย Subway ต่อไป ในคุณภาพและรสชาติที่ไม่เหมือนเดิม จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของลูกค้าจำนวนมาก จน Master Franchise ต้องออกมาแจ้งถึงร้านที่ได้รัยสิทธิ์ถูกต้อง พร้อมดำเนินการกับร้านที่หมดสัญญาในที่สุด

ซึ่งในปัจจุบัน Subway ได้ถูกเปลี่ยนมือเป็นของ บริษัท โกลัค จำกัด บริษัทย่อยของ PTG บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับสัญญาจาก บริษัท ซับเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล บี.วี. จำกัด เจ้าของแบรนด์ Subway อย่างถูกต้องในประเทศไทย ผ่านบริษัท โกลัค จำกัด ตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 มีอายุสัญญา 10 ปี

ส่วนบริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป ได้รับเป็น Master Franchise ในปี 2565 หลังจากที่ อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป เป็นหนึ่งในแฟรนไชซี ซับเวย์ ตั้งแต่ปี 2562
.

🔴 ลิซ่าผู้จุดประกาย LABUBU และการเติบโตของ Art Toy

หลังจากลิซ่า ลลิษา มโนบาล โพสต์ภาพกล่องลาบูบู้มาการองจากค่าย Pop Mart ใน IG ส่วนตัว ได้สร้างกระแสลาบูบู้มาการองโด่งดังเป็นพลุในช่วงข้ามคืน จนเกิดปรากฏการณ์อัพราคาขายในตลาดรีเซลสูงเกินกว่าค่าตัวจริงไปมาก

และกระแสลาบูบู้มาการองได้ผลักดันให้ Art Toy เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมกับการเติบโตของ Art Toy ในคอลเลคชั่นต่างๆ ที่มาจากแบรนด์ Pop Mart และแบรนด์อื่นๆ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

รวมถึงเกิดเทรนด์ของแบรนด์ต่างๆ ทำ Art Toy ของตัวเอง เพื่อเป็นกิมมิกการตลาด เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน
.

🔴 หลานม่า หนังสร้างชื่อและรายได้ให้กับ GDH บนการเติบโตของใครๆ ก็ดูหนังไทยมากขึ้น

ในวงการภาพยนตร์ หลานม่า ถือเป็น MVP ที่สร้างชื่อให้กับ GDH ในฐานะหนังไทยที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ จากรายได้ในประเทศไทยกว่า 339 ล้านบาท และสร้างปรากฏการณ์ในฐานะหนังไทยเรื่องแรกที่มีรายได้รวมกว่า 2,000 ล้านจากรายได้ทั่วโลก จากการเข้าฉายไปแล้วใน 36 ประเทศ

นอกจากนี้หลานม่ายังสร้างประวัติศาสตร์หนังไทยเรื่องแรกที่เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งในปัจจุบันหลานม่าผ่านเข้ารอบ 15 ภาพยนตร์ชิงรางวัล และรอลุ้นเข้ารอบ 1 ใน 5 เรื่องสุดท้าย ที่จะประกาศในวันที่ 17 มกราคม 2568 ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร ลุ้นกันต่อไปปีหน้า
.

🔴 Honda Nissan Mitsubishi จับมือควบรวมธุรกิจสู่ศึกตลาดรถไฟฟ้าโลก

ต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2567 หลังจาก บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด จับมือบันทึกข้อตกลงร่วมกัน MOU ในเพื่อรวมกำลังซื้อศึกการแข่งขันในตลาดรถยนต์โลก พร้อมกระชับความแน่นแฟ้นความรวมมือด้วยการขยาย MOU ในเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2567

ก่อนที่จะได้สรุปของการควบรวม บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง

และในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 แม้ข้อสรุปการจัดตั้งบริษัทของ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ยังคงอยู่ในช่วงหารือ แต่ได้ตัดสินใจให้บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ นิสสัน มอเตอร์ ถือหุ้นใหญ่ เข้าร่วม เพื่อนำจุดเด่นของทั้งสามรวมกำลังฝ่าฟันอุปสรรค์ในตลาดรถยนต์ไปด้วยกัน

ซึ่งการควบรวมจัดตั้งเป็นบริษัท โฮลดิ้ง ในครั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดอย่างเป็นทางการของแง่มุมความร่วมมือทั้งสามบริษัท และคาดการณ์ว่าภายในเดือนมกราคม 2568 จะได้เห็นความเคลื่อนไหวอีกครั้งในความร่วมมือดังกล่าว
.

🔴 Intel ถูกปลดออกจากดัชนี Dow Jones

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อ Intel ผู้ครองตำแหน่งในดัชนี Dow Jones (Dow Jones Industrial Average) นานถึง 25 ปี ได้ถูกปลดออกจากดัชนีเพื่อนำ Nvidia เข้ามาแทนที่

การปลด Intel ออกจากดัชนี Dow Jones ในครั้งนี้มาจากผลงานในรอบปีที่ผ่านของ Intel ได้ประสบความท้าทายทางธุรกิจทั้งการขาดทุนมหาศาล พร้อมกับมูลค่าหุ้นที่ลดลง

สวนทางกับ Nvidia ที่มีการเติบโตจากรายได้และมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการกระแสการเติบโตของ AI ซึ่งเป็นตลาดหลักของ Nvidia ในการผลิตชิบ AI ป้อนตลาด
.

🔴 หายนะจอฟ้า บทเรียนครั้งสำคัญของ CrowdStrike

วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เป็นวันที่ได้สร้างวิกฤติให้กับวงการไอทีทั่วโลกครั้งใหญ่ เมื่อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ประมาณ 8.5 ล้านอุปกรณ์ทั่วโลกล่มเข้าสู่โหมด Blue Screen of Death ไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง กว่าจะสามารถกลับมาใช้งานปกติได้

และเป็นวิกฤติที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับบริษัทต่างๆ ทั้งในธุรกิจการบิน การธนาคาร โรงพยาบาล รีเทลและอื่นๆ ที่ต้องหยุดชะงักในการให้บริการในงานที่ต้องเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ได้

ซึ่งเบื้องหลังของเหตุการณ์ในครั้งนี้มาจากข้อผิดพลาดของ CrowdStrike บริษัทไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ในการอัปเดตโปรแกรมรักษาความปลอดภัยสำหรับ Windows ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ CrowdStrike Falcon แพลตฟอร์มคลาวด์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับการโจมตีทางไซเบอร์แบบเรียลไทม์ ป้องกัน แก้ไขปัญหาอัตโนมัติ และอื่นๆ

หลังจากเหตุการณ์ Blue Screen of Death ในครั้งนั้น CrowdStrike ได้ถูกผู้ถือหุ้น และบริษัทอื่นๆ ที่ใช้บริการเช่นสายการบินเดลต้า ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจจากการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก

#จุดเปลี่ยนแห่งปี #หมูเด้ง #หมีเนย #หลานม่า #ธุรกิจอาหารปิดกิจการ ินฮู้ด #ยิบอินซอย #พรีเมียร์ลีก

27/12/2024

การดิ้นรนของคนจน คือมหรสพของคนรวย “Squid Game 2” เรียกน้ำย่อยก่อนเอาจริง 2025
เมื่อเหล่าคนขี้แพ้ ต้องมาเล่นเกม ใช้ชีวิตแลกเงินกองโต 45,600 ล้านวอน เพื่อเป็นโชว์แสนหรรษาให้กับเหล่าเศรษฐีได้รับชมแก้เบื่อ

กลับมาอีกครั้งกับซีรีส์เซอร์ไววัลที่โด่งดังไปทั่วโลก “squid game 2” ที่เรียกเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่การโปรโมตหุ่นหนูน้อยโกโกวายักษ์ล่องกลางแม่น้ำเจ้าพระยา จนติดเทรนด์ไปหลายแพลตฟอร์ม

สำหรับซีซันนี้มองว่าเป็น Appitizer เรียกน้ำย่อยก่อนเอาจริงในปีหน้า เนื้อเรื่องเบาลงจากซีซันหนึ่งมาก ไม่มีจังหวะบีบคั้น เค้นอารมณ์คนดูเท่าซีซันก่อนหน้า เหมือนเป็นพาร์ตการเล่าเรื่องในมุมของชนชั้นล่างที่พยายามรวบรวมพลังใจก่อนจะลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจมืด

เกมการแข่งขันมีน้อยกว่าซีซันหนึ่ง และไม่โหดเท่า แต่มาเน้นที่ประเด็น ‘เล่นพรรคเล่นพวก’ ตั้งใจชี้เรื่องการอยู่กันแบบประชาธิปไตย ซึ่งในทุกสังคมไม่มีทางเห็นลงรอยกันแบบ 100% ทุกเรื่องจะมีคนเห็นต่างเสมอ แต่ต้องยอมรับให้ได้ว่าเสียงข้างมากจะถูกยอมรับ และกลุ่มเสียงข้างน้อยจะถูกเขี่ยทิ้ง เมื่อมีความเห็นต่างเกิดขึ้น สิ่งที่จะตามมาคือการแบ่งแยก พวกฉัน-พวกเธอ การต่อสู้จึงไม่เคยสิ้นสุด เพราะมนุษย์เราไม่มีทางเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ทุกคนต่างก็มีเหตุผลในการใช้ชีวิตของตัวเองเสมอ

แม้มีบางช่วงเวลาที่เราอยากจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน หรืออยากจะเปล่งเสียงร้องตะโกนถึงความอยุติธรรมที่ชนชั้นรากหญ้าต้องเจอ แต่ไม่ว่าจะร้องตะโกนเท่าใด เสียงนั้นก็เลือนรางปลิวไปกับสายลม

คนที่ด้อยโอกาส ไร้หนทางสู้ พวกเขายอมเป็นคนขี้แพ้ ให้แลกชีวิตของตัวเองเพื่อเงินก็ทำได้ เพราะคนที่มองว่าชีวิตคนเรามีค่ากว่าเงินทอง เป็นความคิดที่ล้วนมาจากคนที่ไม่เคยอดมื้อกินมื้อ แต่สำหรับคนที่ชีวิตไม่มีทางไปแล้ว และวันพรุ่งนี้จะอิ่มหรืออดยังไม่รู้นั้น คนกลุ่มนี้ก็ย่อมเลือกเงินมาก่อนชีวิตของตนเป็นธรรมดา เพราะเงินนั้นเป็นความหวังเดียวในการพลิกชีวิตที่แสนโหลยโท่ยนี้

เหมือนกับการให้เราตัดสินใจเลือกระหว่าง ‘ขนมปัง’ กับ ‘ลอตเตอรี่’ หลายคนคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกขนมปังเพราะประทังหิวได้ใช่หรือไม่ ไม่แน่นอนเสมอไป สำหรับคนที่ชีวิตจนตรอก สิ่งที่จะทำให้เขาเลือกมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่ใช่ขนมปังหนึ่งก้อน แต่เป็น ‘ความหวัง’ ความหวังที่ว่าสักวันหนึ่งจะเกิดปาฏิหาริย์กับชีวิต ช่วยพวกเขาพลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือที่พอจะลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้บ้าง

เพราะสุดท้ายแล้ว สำหรับคนที่ชีวิตเดินมาถึงทางตัน ไร้ทางไปต่อ

“ชีวิตที่รออยู่ข้างนอก น่ากลัวกว่าเกมนี้เสียอีก”

**ระวังการสปอยล์**

ซีซันนี้จะเล่าเรื่องราวต่อจากที่ “กีฮุน” ผู้ชนะรางวัลในซีซันหนึ่ง เขาพยายามตามหาลาสบอสตัวจริงที่ควบคุมเกมนี้ เพื่อหยุดการละเล่นที่เอาชีวิตของคนสิ้นไร้ไม้ตอกมาทำเป็นเรื่องสนุก กีฮุนจึงจำต้องกลับเข้าไปสู่เกมนี้อีกครั้งเพื่อช่วยผู้ที่หลงผิดให้รอดจากการเข่นฆ่า

ซีซันนี้จะโฟกัสไปที่ตัวละครผู้เข้าแข่งขันเป็นหลัก อาจไม่มีอะไรให้พูดถึงมาก เพราะเหมือนเป็นการปูปมของแต่ละตัวละครเท่านั้น ฝ่ายตำรวจที่พยายามจะค้นหาสถานที่จัดแข่งขันเกมก็ยังไม่เฉียดใกล้เกาะแม้แต่น้อย ตัวละครในซีซันนี้ก็มีให้พูดถึงมากมายกว่าซีซันก่อน พอมีเรื่องให้ต้องพูดถึงเยอะจึงทำให้เนื้อเรื่องแอบยืดในบางอีพี

การตัดต่อไม่ได้เร่งเร้าให้คนรู้สึกตื่นเต้น กดดัน เหมือนซีซันก่อนหน้า เกมการแข่งขันซอฟต์ลงจากซีซันหนึ่งพอสมควร เพราะเน้นไปที่การผูกปมแต่ละตัวละครมากกว่า

สุดท้ายแล้วเขาจะช่วยทุกคนให้ได้กลับบ้าน และตามหาลาสบอสตัวจริงได้หรือไม่ ไปติดตามได้ใน squid game 2 บน Netflix สำหรับซีซันสุดท้าย จะรับชมได้ในปี 2025
#โกโกวา

27/12/2024

🔴 เก็บตกอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ไทย 2024 หนัง ซีรีส์ T-Pop มาแรงสุด
อุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ของไทยปี 2024 ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นปีปล่อยของทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ ทีป๊อป แข่งกันสร้างตำนานชนิดไม่มีใครยอมใคร ไม่ว่าจะเป็นหนังไทยที่ทำคนน้ำตาไหลได้ทั้งอาเซียน ซีรีส์ไทยก็ทะยานไปไกลระดับโลก เพลงป๊อปไทยก็ไวรัลจนไอดอลเกาหลีร้องเล่นเต้นตาม เป็นกำลังใจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยได้มีแรงผลิตผลงานดี ๆ ออกมาอีก

– หนังไทยมาแรง หลานม่า วิมานหนาม ธี่หยด 2

2024 เป็นปีที่มีหนังไทยดี ๆ เชิดหน้าชูตาเมืองสยามได้อย่างสมศักดิ์ศรี และทำรายได้ถึงระดับพันล้านแบบสบาย ๆ เริ่มตั้งแต่ต้นปีกับ “หลานม่า” ของค่าย GDH ที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย ผู้ชมร้องไห้ระงมทั้งโรง จนทำให้ “ยายแต๋ว อุษา” (นักแสดงผู้รับบทอาม่าเหม่งจู้) ถูกตั้งฉายาว่าอาม่าอาเซียน ตัวหนังกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 1,925 ล้านบาท และเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ถูกเสนอชื่อท้าชิงรางวัลออสการ์เข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้าย สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม

กระแสหลานม่ายังไม่จบ ภาพยนตร์น้ำดี “วิมานหนาม” ก็เข้าโรงต่อ 31 กรกฎาคม งานนี้ผู้ชมไม่ต้องพัก เพราะต้องลุกขึ้นมาปรบมือให้กับ GDH อีกรอบ เพราะหนังทำถึงจนผู้ชมเหวอไปตามกันทั้งโรง เพจวิจารณ์หนังต่าง ๆ ยังออกมาชื่นชมไม่ขาดสาย ส่งให้ชื่อของ เจฟ ซาเตอร์, เก่ง หฤษฎ์ และอิงฟ้า กลายเป็นนักแสดงฮอตแห่งปี ยังมีหลายสื่อที่ยกให้วิมานหนามเป็นหนังไทยที่เหมาะจะเสนอชื่อท้าชิงรางวัลออสการ์

ธี่หยด 2 หนังไทยภาคต่อที่เปิดฉายเพียงวันแรกก็กวาดรายได้ไปถึง 80 ล้านบาท และเก็บไปได้อีกในตอนท้าย 800 ล้านบาท ถือเป็นหนังระทึกขวัญที่ทำดี ทำถึง ฉีกจากหนังไทยแนวเดิม ทำให้ได้รับผลตอบรับดีมีกระแสจนถึงภาคต่อ ซึ่งเรื่องนี้ช่วยต่อลมหายใจให้กับช่อง 3 ที่รายได้หดหายจากเม็ดเงินโฆษณาสื่อที่ลดลง

– ซีรีส์ไทยน้ำดี สู้ต่างประเทศได้สบาย

ด้านซีรีส์ก็ไม่น้อยหน้า ขึ้น Top ชาร์ตระดับโลกมาแล้วเช่นกัน ซึ่งที่สุดของซีรีส์ไทยปี 2024 จะเป็นเรื่องใดไปไม่ได้ นอกจาก “สืบสันดาน” ทีวีโชว์บน Netflix ที่ขึ้นสู่ Top 3 ที่มีผู้รับชมสูงสุดของโลก แซงหน้าซีรีส์เกาหลีอย่าง Sweet Home 3 ไปได้ ยกระดับซีรีส์ไทยไปอีกขั้น ซีรีส์ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามทุกอีพี จึงกวาดคำวิจารณ์ไปมากมาย ปลุกกระแสซีรีส์ไทยที่กำลังซบเซาให้กลับมารุ่งโรจน์
ซีรีส์ทางเลือกแนว Girl’s Love Series ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่กำลังมาแรง สำหรับนาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “หลิงหลิง-ออม” นักแสดงที่กำลังโด่งดังไกลถึงต่างแดน จากความสำเร็จของซีรีส์เรื่องใจซ่อนรัก (The Secret of Us) ที่หลิงหลิงรับบทเป็นแพทย์หญิงฟ้าลดา และออมรับบทเป็นเอินหญิงสาวที่เคยหักอกฟ้าลดา ออกอากาศทางช่อง 3 ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นกระแสดังไปทั่วเอเชีย ทำให้เห็นว่าไทยนอกจากจะทำซีรีส์แนว Boy’s Love เก่งแล้ว ยังทำซีรีส์แนว Girl’s Love ให้แมสได้ด้วย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ดังถึงขั้นที่ทำให้นักแสดงนำสามารถจัดเวิลด์ทัวร์ทั่วเอเชียได้ และมีแฟนคลับต่างชาติไปรอรับพวกเธอที่สนามบินอย่างเนืองแน่นในทุกเมือง
– Rock Star เยาวราชลุกเป็นไฟ
หลังจากที่ไอดอลลูกรักคนไทย “ลิซ่า ลลิษา” ศิลปินวง Blackpink ได้ประกาศโซโล่ในฐานะศิลปินเดี่ยว คนไทยก็ตั้งตารอฟังเพลงของเธอทั้งประเทศ จนกระทั่งมิวสิกวิดีโอเพลง “Rockstar” ได้ปล่อยออกมาให้ได้รับชมเมื่อเดือนมิถุนายน โดยมีแบ็กกราวน์เอ็มวีเป็นย่านเยาวราช ที่ตัวลิซ่ายืนเด่นเป็นสง่ากลางถนนเยาวราชยามค่ำคืน เพียงแค่นั้นก็ทำให้เยาวราชกลายเป็นแลนด์มาร์กที่คนแห่ไปเช็กอิน เพื่อถ่ายภาพตามรอยศิลปินผู้โด่งดัง ชุบชีวิตพื้นที่เศรษฐกิจเยาวราชที่ซบเซาในช่วงนั้นให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
– T-Pop ทำถึง คลื่นลูกใหม่วงการดนตรีไทย
คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกอยู่แล้ว ศิลปินไทยที่เก่งมีอยู่มากมาย เพียงแต่อาจขาดการสนับสนุนที่จริงจัง หากไทยจะบิวต์อุตสาหกรรรม T-Pop ให้ไปไกลเหมือนเคป๊อปได้นั้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะคลื่นลูกใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่า เพลงไทย นักร้องไทย โปรดักชั่นไทย ก็มีคุณภาพเหมือนกัน
T-POP นั้นมีกระแสแรงมาตั้งแต่ช่วงโควิด ส่วนหนึ่งมาจากแพลตฟอร์ม TikTok ที่ช่วงนั้นคนไปกระจุกตัวเสพคอนเทนต์กันอยู่แพลตฟอร์มนั้นจำนวนมาก เพลงหลายเพลงสร้างชื่อเสียงมาได้จากการถูกเล่นบ่อย ๆ บน TikTok บางเพลงเกิดเป็นไวรัลข้ามประเทศ ไอดอลเกาหลีก็หยิบเพลงไทยไปร้อง cover หรือชาเลนจ์ด้วยเช่นกัน ตัวอย่าง เพลงพี่ชอบหนูที่สุดเลย ซึ่งดังมากในเกาหลี
การที่ไทยเริ่มมีวงเกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์ ที่สู้กับเกาหลีได้สมศักดิ์ศรี ทั้งรูปร่างหน้าตา ผลงานเพลงที่ติดหู บีทอินเตอร์ เอ็มวีคุณภาพ เพอร์ฟอร์แมนซ์พร้อมเพรียง ทำให้คนไทยย้ายมาเป็นติ่งทีป๊อปร่วมด้วย
ยกตัวอย่าง วงบอยแบนด์ Bus ที่กลายเป็นกระแสใหม่ของวงการเพลงไทย ศิลปินที่ฟอร์มวงจากรายการเรียลลิตี้ไอดอล “789SURVIVAL” ทางช่อง one 31 หลังเดบิวต์ก็มีแฟนคลับทั่วอาเซียน ออกอีเวนต์หนึ่งที่มีคนมารอต้อนรับระดับห้างแตก
นอกจากนี้ ยังมีวง T-POP สายเลือดใหม่ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น Proxie ที่มีเพลงฮิตติดหูนับไม่ถ้วน, PERSES, BenzKhaokhwan, Pixxie, bamm, Pretzelle, Luss, ATLAS, DICE ก็กำลังมาแรงขึ้นทุกขณะ
นอกจากโด่งดังในประเทศแล้ว T-POP ยังไปตีตลาดต่างประเทศ ตกแฟน ๆ ได้มากมาย เห็นได้จากความนิยมของ “พีพี กฤษฏ์ -บิวกิ้น” ที่คนรู้จักทั้งเอเชีย อีกทั้งทั้งสองคนยังได้รับแต่งตั้งเป็นโกลบอลแอมบาสซาเดอร์ของ Balenciaga และ Gucci ด้วย ยังมี “เจฟ ซาเตอร์” ที่ไปสร้างชื่อเสียงในจีน กับการเข้าร่วมเรียลลิตี้ Call Me by Fire SS3 และยังนั่งแท่นเป็น Cartier Ambassador ด้วย
– คัลแลนพี่จอง กระแสฉ่ำ ปังไม่ตก
ช่องยูทูบท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยขณะนี้ อย่างไรก็ต้องตกเป็นของช่อง “Cullen Hateberry” ของหนุ่มเกาหลีสามคน พี่จอง, คัลแลน และน้องแดน ร่วมกับเพื่อนสาวคนไทยชื่อจูดี้ โดยที่พวกเขาจะไปเที่ยวยังจังหวัดต่าง ๆ ในไทย แล้วถ่ายคลิประหว่างการเดินทาง แต่ด้วยการพูดไทยที่ฉะฉาน ชอบกินอาหารไทย เอ่ยชมประเทศไทยไม่หยุด ทำให้ผู้ชมตกหลุมรักในความน่ารักของช่องนี้ จนมีผู้กดติดตามไปแล้วกว่า 2.88 ล้านคน และทุกคนต่างก็กลายเป็นเซเลบริตี้ไปแล้ว ทั้งคัลแลน-พี่จอง ที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ดังมากมาย อาทิ La Roche Posay, AIS, Samsung, M150 ด้านจูดี้ที่เป็นคนไทยก็ได้ออกรายการโทรทัศน์มากมาย ส่วนน้องแดนก็มีงานอีเวนต์เดินสายโชว์ตัวไม่ขาด

27/12/2024

🟥 🟥
2024 ถือเป็นปีที่วงการหนังและซีรีส์ญี่ปุ่นคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลักฐานคือที่สถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่นพากันส่งซีรีส์ลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก ไล่ตั้งเรื่องเก่าที่ผู้คนยังจดจำได้ในยุค 90 อย่าง Beach Boys มาจนถึงเรื่องใหม่ ๆ ที่เพิ่งออกอากาศไปในปี 2024
Talentless Takano เป็นซีรีส์ในกลุ่มหลัง และอยู่ในประเภทซีรีส์ที่ญี่ปุ่นทำได้ดีและเป็นเสน่ห์ของซีรีส์ประเทศนี้อีกด้วย คือ แนวอาชีพและสังคมการทำงาน
สำหรับเนื้อเรื่อง เล่าถึงตัวละครเอก 2 คนที่ต่างกันสุดขั้ว นั่นคือ มิชิโกะ ฮิวาดะ (แสดงโดย อากิฮิซะ ชิโอโนะ) หนุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่เก่งเรื่องข้อมูล แต่พูดไม่เก่ง และไม่มั่นใจในตัวเองเอาเสียเลย
กับ สึเมโกะ ทาคาโนะ (แสดงโดย อาราอิ นานาโอะ) สาวพนักงานใหม่ที่มั่นใจในตัวเองแบบสุดโต่ง มองโลกในแง่ดีมาก มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ แต่ทักษะการทำงานแทบจะเป็นศูนย์ อันเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Talentless Takano ในภาษาอังกฤษ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อไทยที่ว่า สาวหน้ามั่นปั่นออฟฟิศ
ความสนุกชวนติดตามของซีรีส์เรื่องนี้ที่เคยเป็นมังงะมาก่อนคือ การลุ้นว่าน้องใหม่ในบริษัทที่ต่างกันสุด ๆ คู่นี้ จะทำงานได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ บริหารความสัมพันธ์กับรุ่นพี่และหัวหน้าซึ่งเป็นตัวแทนของเพื่อนร่วมองค์กรที่เจอได้ทั่วไปอย่างไร โดยทั้งหมดมาในแบบเกินจริง เล่นใหญ่และเรียกเสียงฮา จนผู้ชมดูไปยิ้มไป หรือจนถึงขั้นหัวเราะออกมาดัง ๆ
แต่ซีรีส์เรื่องนี้ที่ในไทยดูได้ทาง Netflix ก็ไม่เน้นเอาฮาอย่างเดียว เพราะตลอด 8 ตอนผู้ชมจะได้รู้ถึงเคล็ดลับการทำงานให้รอดและรุ่งในโลกการทำงานยุคนี้ด้วย

//คิดบวกไว้มีชัยไปกว่าครึ่ง//
เคล็ดลับการทำงานข้อแรกจากซีรีส์เรื่องนี้คือ การคิดบวกและยิ้มไว้ก่อนในทุกสถานการณ์ อันจะช่วยให้บรรยากาศรอบตัวดีขึ้น รวมไปถึงช่วยคลายสถานการณ์คับขันด้วย ซึ่งตัวละครที่มีจุดแข็งในเรื่องนี้คือ สึเมโกะ ทาคาโนะ
ฉากหนึ่งในซีรีส์ที่การมองโลกแง่ดีและยิ้มไว้ก่อนกู้สถานการณ์ไว้ได้ คือฉากที่ สึเมโกะ ทาคาโนะ ถูกทิ้งไว้ในห้องกับลูกค้าระหว่างไปพรีเซนต์งาน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นซีอีโอ เพราะ มิชิโกะ ฮิวาดะ เกิดมาท้องเสียจากความตื่นเต้น
นางเอกสาวหน้ามั่นแก้สถานการณ์ด้วยการชวนลูกค้าคุยอย่างสนุก ๆ จนลูกค้าไม่เครียดระหว่างรอ และเมื่อมิชิโกะ ฮิวาดะ เข้ามาในห้องบรรยากาศก็ลดความตึงเครียดลงไป และสามารถพรีเซนต์งานได้ดี จนที่สุดขายงานได้
//หาเวลาดึงสติทบทวนตัวเองบ้าง//
เคล็ดลับข้อต่อมาจาก Talentless Takano คือ ผู้บริหารและบริษัทที่ดำเนินกิจการมานาน ๆ ควรหันกลับมามองตัวเองบ้างว่าบกพร่องตรงไหน และลืมตัวจนกลายเป็นเราเคยบอกว่าไม่อยากเป็นหรือไม่
สถานการณ์แรกที่สะท้อนถึงประเด็นนี้ คือ การที่หัวหน้าฝ่ายขายซึ่งเป็นคนวัยใกล้เกษียณต่อว่าลูกน้องว่าไม่เข้าใจตัวเองและยังยืนกรานจะใช้ความคิดของตัวเองที่ตกยุคไปแล้วมาทำแคมเปญ
แต่เมื่อเขาได้ยินลูกน้องกับคนในบ้านพูดถึงตัวเองโดยบังเอิญ ก็กลับมาทบทวนตัวเอง แล้วเปลี่ยนไปใช้สิ่งที่ลูกน้องเสนอ ที่สุดหัวหน้าแผนกก็เปลี่ยนตัวเองให้เป็นน่าคบหาและลูกน้องคุยด้วยได้ง่ายขึ้น ส่วนแคมเปญก็ปรับให้ทันสมัยและประสบความสำเร็จ
อีกสถานการณ์ในเรื่องที่สะท้อนถึงการหันมามองตัวเอง คือ ผู้บริหารหญิงสูงวัยบริษัทขนมเก่าแก่ที่แผนกของสองตัวเอกต้องไปพรีเซนต์งานโกรธจัดจากความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจของ มิชิโกะ ฮิวาดะ ซ้ำร้ายป้ายบริษัทของลูกค้าก็ดันมีข้อความตกหล่นเอาวันเดียวกัน จนทำให้เรื่องราวตึงเครียดขึ้นไปอีก
มิชิโกะ ฮิวาดะ ไปที่บริษัทนี้พร้อมรุ่นพี่ใจดี กับสึเมโกะ ทาคาโนะ เพื่อขออภัยในความผิดพลาด โดยหลังผู้บริหารหญิงสูงวัยระเบิดอารมณ์ใส่มิชิโกะ ฮิวาดะ จนเขาทนไม่ไหวเถียงกลับไปบ้างพร้อมบ่นว่า บริษัทขนมเก่าแก่แห่งนี้อยู่มานานแต่กลับหลงภูมิใจว่าขนมประวัติยาวนาน และผู้บริหารกลับไม่รู้เลยว่า ลูกค้าบ่นเรื่องพนักงานตามร้านในโลกออนไลน์
นี่ทำให้ ผู้บริหารหญิงสูงวัยกลับมามองทั้งตัวเองและองค์กร นำมาสู่การปรับปรุงบริการจนยอดขายกลับมาดีขึ้น โดยเธอก็ไม่ลืมขอบคุณพระเอกกับทีมงานที่ช่วยดึงสติ
//เกรงได้แต่อย่ากลัวจนปิดทางก้าวหน้า//
ช่วงกลาง ๆ ของซีรีส์ มิชิโกะ ฮิวาดะ กับ สึเมโกะ ทาคาโนะ เริ่มทำงานเก่งจนพี่ในฝ่ายขายไว้ใจให้ไปพรีเซนต์งานลูกค้ากันเอง และหวังว่าจะได้ข่าวดีจากการไปพรีเซนต์งานกับบริษัทขนมขบเคี้ยว
การประเดิมงานแรกของทั้งคู่มีความท้าทายอย่างหนึ่งนั่นคือ บริษัทของลูกค้ารายนี้ขึ้นชื่อเรื่องการพรีเซนต์งานผ่านยาก เพราะผู้บริหารไม่ชอบพรีเซนต์งานออนไลน์และเน้นขายสินค้าในเมืองใกล้ ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้าเดิม
ทว่าข้อจำกัดเหล่านี้ก็มีเหตุผลรองรับที่เข้าใจได้ เพราะผู้บริหารกลัวว่าความผิดพลาดจากการขยายตลาดไปต่างประเทศจะทำให้กิจการนับร้อยปีของตระกูลต้องมาพังลงด้วยมือตน
เมื่อวันพรีเซนต์มาถึงปัญหาก็เกิดขึ้น เริ่มจาก สึเมโกะ ทาคาโนะ พา มิชิโกะ ฮิวาดะ ที่มัวแต่ท่องข้อมูลพรีเซนต์ไปเมืองจำลองแทนที่จะเป็นบริษัทลูกค้า จึงต้องพรีเซนต์แบบออนไลน์จากเมืองจำลอง
ซ้ำร้ายพรีเซนต์ไปได้ไม่นานหนุ่มออฟฟิศน้องใหม่ก็ดันมาท้องเสียต้องเข้าห้องน้ำอีก แต่ภาพแหล่งท่องเที่ยวจำลองดังที่ปรากฏในการพรีเซนต์ออนไลน์ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กินขนมของบริษัทนี้ที่ สึเมโกะ ทาคาโนะ และภาพที่เหมือนคุยกับข้ามประเทศ กลายเป็นส่งผลดี
เพราะทำให้ผู้บริหารเห็นประโยชน์ของการประชุมออนไลน์ และยังกระตุ้นให้เลิกกลัวการขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยแม้ทั้งหมดจะเป็นเรื่องบังเอิญ และทำให้ดูตลก แต่ก็เป็นการสะท้อนว่าการกลัวมากเกินไปจะปิดกั้นความก้าวหน้า
//ให้คุณค่ากับสิ่งที่มี//
เคล็ดลับข้อสุดท้ายในการทำงานต่อเนื่องไปถึงการใช้ชีวิตที่คนดูจะได้จากซีรีส์เรื่องนี้ คือ การให้คุณค่ากับสิ่งที่มีมากกว่าสิ่งที่ยังไกลตัว โดยปรากฏขึ้นในฉาก มิชิโกะ ฮิวาดะ นั่งดูภาพในสื่อโซเชียลแล้วน้อยใจที่ไม่มีรถหรูหรือของใช้แพง ๆ แบบเพื่อนร่วมรุ่น
รุ่นพี่ร่วมออฟฟิศที่เก่งในการแก้ปัญหาเดินมาเห็นพอดี จึงแนะนำว่า เขาก็เคยเป็นเช่นนี้ช่วงทำงานแรก ๆ แต่หลังมุ่งหน้าทำงานไปเรื่อย ๆ ฐานะกับหน้าที่การงานก็ดีขึ้น และระหว่างนั้นก็ได้คนรอบตัวช่วยให้ทำงานกับให้คำแนะนำแบบนี้มาก่อนเช่นกัน
รุ่นพี่ย้ำกับ มิชิโกะ ฮิวาดะ อีกว่า การมองสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่แล้วก็จะทำให้ความสุขได้และการเอาแต่น้อยใจที่ยังมีไม่เท่าคนอื่น ๆ แต่ไม่ทำอะไรเลย มีแต่จะยิ่งทำให้อะไร ๆ แย่ลง ซึ่งก็สะท้อนกลับมาที่รุ่นพี่คนนี้ด้วย
เพราะเขากำลังคิดจะไปหางานใหม่ แต่เมื่อมองว่าบริษัทปัจจุบันก็มีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานที่เข้ากันได้ช่วยเหลือพึ่งพาได้เสมอ และไม่อยากเหนื่อยกับการผูกสัมพันธ์กับที่ทำงานใหม่ เขาจึงตัดสินใจทำงานอยู่บริษัทนี้ต่อไป
*****

#ซีรีส์ญี่ปุ่น #เคล็ดลับการทำงาน #ออฟฟิศ

26/12/2024

THAIDOM EFFECT มาแรง ช่วยเสริมสร้างความสุข ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) สรุปผลสำรวจประจำปี พ.ศ. 2567 ไว้ว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนการใช้จ่ายของคนไทยตลอดทั้งปี 2567 นี้ ยังคงเทียบเท่ากับเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา (66 Vs 66) ซึ่งเป็นผลมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าเป็นเป็น ข่าวใหญ่ประเด็นร้อนทางการเมือง ข่าวสังคม น้ำท่วม รวมไปถึงข่าวสงคราม ทำให้ความรู้สึกของคนไทยยังไม่มั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศไทย
ด้วยพลัง ไทยด้อม ที่น่าจับตามองในปีนี้ คุณอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้มองเห็นพลังสำคัญที่นักการตลาดไม่ควรพลาดในการทำแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง จึงให้ข้อชี้แนะไว้เป็นแนวทางสำคัญ ดังนี้
พลังของการสนับสนุนและชุมชนแข็งแกร่ง
“หมูเด้ง” “ตุ๊กตาน้องหมี” รวมถึง “การสนับสนุน นักกีฬาไทยในเวทีระดับนานาชาติ” เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า แฟนคลับในประเทศไทยพร้อมที่จะแสดงออกถึงพลังแห่งความรักและพลังของการสนับสนุนอย่างแรงกล้าของไทย ที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ กระแส “T-POP” ก็เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สะท้อนถึงความรักชาติและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
2.พลังแห่งความหลงใหล
การตลาด คู่จิ้น เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถช่วยให้แฟนคลับพร้อมสนับสนุนสินค้าหรือบริการที่คู่จิ้นใช้ ช่วยให้แบรนด์สร้างความผูกพันกับผู้บริโภคและสะท้อนทัศนคติที่เปิดกว้างต่อความหลากหลายทางเพศ
เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ความชอบและคอมมูนิตี้ ผ่านการมีส่วนร่วมของแฟนคลับ
เช่น การประกวดของแฟนด้อมในการออกแบบไอเดียการสื่อสารที่มาจากแก่นแท้ของแฟนด้อม โดนแบรนด์จะให้โจทย์ เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันพัฒนาแผนการสื่อสาร พร้อมทั้งเล่าเรื่องและนำเสนอผ่านภาพเครื่องมือ AI และแบรนด์ให้การสนับสนุนในการทำงานจริงในท้ายที่สุด
อ่านจบบนเว็บไซต์

26/12/2024

มาม่า OK กับแนวคิดใหม่ผ่านมุมมอง “MAMAVERSE” ออกรสชาติใหม่ ‘Spicy Korean Squid Ink Flavour’ เล่นคำรวมชื่อและเอกลักษณ์ มาม่า OK + INK + SQUIDGAME 2 ไว้ในซองเดียว
เมื่อไม่กี่วันก่อน Netflix ได้มีการเปิดตัวการกลับมาของซีรีส์ระดับโลก ‘สควิดเกม เล่นลุ้นตาย’ (Squid Game) ซีซั่น 2 ด้วยการโชว์เปิดตัว “โกโกวา” (ยองฮี) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจนกลายเป็น Talk of the Town
ที่เล่นใหญ่ไม่แพ้กันเห็นจะเป็นแคมเปญ “มาม่า OK X Netflix Squid Game 2” ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง มาม่า OK, ซีรีส์ Squid Game 2 และ INK Waruntorn ตัวแทนของแบรนด์มาม่า ภายใต้แนวคิด “MAMAVERSE” ครีเอตรสชาติใหม่ ‘Spicy Korean Squid Ink Flavour’ ที่รวมเอามาม่า OK + INK + SQUIDGAME 2 ไว้ในชื่อเดียว
ความน่าสนใจแรกคือ จุดเริ่มต้นของแคมเปญที่มาจากแนวคิดในการสร้าง “MAMAVERSE” ที่นำจุดเด่นทั้ง 3 อย่าง คือ มาม่า OK, INK Waruntorn และ ซีรีส์ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) มาผสานรวมกันในรูปแบบที่ทันสมัย โดยตั้งต้นด้วยการให้ภาพของแบรนด์สื่อสารออกไปโดยจุดเด่นทั้ง 3 ของแคมเปญยังคงอยู่
และจากจุดเริ่มต้นนี้ทำให้แคมเปญถูกคิดมาอย่างละเอียดตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ในรสชาติ ‘Spicy Korean Squid Ink Flavour’ ที่เป็น Gimmick เล่นกับชื่อ SquidGame และชื่อ INK ซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์ มาม่า OK รุ่นใหม่ที่ล้อไปตามเทรนด์ต่างๆ
ถัดมาคือ การพรีเซ็นต์คอนเซ็ปต์ ไล่ไปตั้งแต่แพ็กเกจจิ้งที่มีรูปน้องโกโกวา (ยองฮี) และโทนสีที่ชัดเจน เห็นแล้วนึกถึงซีรีส์ SquidGame และกลิ่นอายของเกาหลีเป็นอย่างดี อีกทั้งการโปรโมตผ่านหนังโฆษณาที่ อิ้งค์- วรันธร มาใส่ชุดโกโกวา พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำว่า ‘สักเกมไหม’ ที่สื่อได้ทั้งตัวซีรีส์และการชวนชิมมาม่า OK รสใหม่
และถ้าเราลองวิเคราะห์จุดเด่นแคมเปญการตลาดในครั้งนี้ เพื่อที่นักการตลาดจะได้นำไปเป็น Case Study ได้นั้นมีอะไรบ้าง มาดูกัน
อ่านบนเว็บไซต์ >> https://marketeeronline.co/archives/394074
#สักเกมมั้ย
#มาม่าอร่อย

26/12/2024

สุขภาพดี ต้อนรับปีใหม่ มั่นใจ ด้วยไข่ไก่ S-Pure ทานดิบได้ ปลอดภัย ปลอดเชื้อ Salmonella ตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ การันตีรางวัล “ไข่ไก่สุพรรณหงส์” ปี 2567

ปีใหม่นี้เลือกใช้วัตถุดิบชั้นเลิศสำหรับมื้อเฉลิมฉลองอันแสนพิเศษอย่างไข่ไก่สด S-Pure แบรนด์ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารระดับซุปเปอร์พรีเมียมของเบทาโกรกันดีกว่า!!!
เพราะไข่ไก่สดแช่เย็น S-Pure ผ่านการเลี้ยงอย่างพิถีพิถันคัดสรรแม่ไก่สายพันธุ์ดี ปลอดเชื้อ Salmonella ตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ที่มีกระบวนการเลี้ยงแบบธรรมชาติ 100% (100% Natural Pure Product) ด้วยอาหารสูตรเสริม Prebiotics และ Probiotics โดยเป็นแบรนด์แรกและหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับการรับรอง “การเลี้ยงที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (Raised Without Antibiotics – RWA)” จาก NSF สหรัฐอเมริกา ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์หมู ไก่ และไข่
ไข่ไก่สดแช่เย็น S-Pure ยังปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน และสารเร่งเติบโต รวมถึงมีการควบคุมอุณหภูมิการเก็บรักษาไข่ไก่ให้อยู่ระหว่าง 4-10 องศา เพื่อคงคุณประโยชน์ของไข่ไก่ไว้อย่างครบถ้วน อีกทั้งปลอดเชื้อ Salmonella ต้นเหตุของการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร จึงปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ชื่นชอบการรับประทานไข่ดิบ
นอกจากนี้ S-Pure ยังเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัล “ไข่สุพรรณหงส์” จากกรมปศุสัตว์ในปี 2567 และอีก 2 รางวัลระดับสากลอย่าง Superior Taste Award ระดับสูงสุด 3 ดาว ที่การันตีรสชาติดี คุณภาพไข่แดงกลมนูน สีส้มสด ไร้กลิ่นคาว สดใหม่ระดับสูงสุด AA และ FMCG Asia Award 2024 สาขา Health & Wellness Initiative of the Year สำหรับแบรนด์ที่มีผลงานโดดเด่นในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค
ที่สำคัญไม่ใช่เพียงไข่ไก่สดแช่เย็นเท่านั้น แต่ทุกผลิตภัณฑ์ของ S-Pure ล้วนเป็น 100% Natural Pure Product ที่ได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน ผ่านการรับรองมาตรฐาน NFS จากองค์กรส่งเสริมอนามัยแห่งชาติระหว่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภคทุกคน
ปีใหม่ครั้งนี้ นอกจากการเลือกใช้ไข่ไก่ S-Pure เองในครัวเรือนแล้ว การมอบวัตถุดิบระดับซุปเปอร์พรีเมียมที่ปลอดสารเคมี และยังดีต่อสุขภาพให้คนสำคัญ ย่อมประทับใจผู้รับไม่ต่างจากการมอบของขวัญชั้นยอดเลยทีเดียว โดยสามารถซื้อไข่ไก่ S-Pure ได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงเบทาโกรเดลี่ เบทาโกรช็อป และแพลตฟอร์มออนไลน์

#เอสเพียว ่ไก่สดแช่เย็น ันตีรางวัลระดับสากล #ปลอดเชื้อSalmonellaตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์ #มาตรฐานที่ดีที่สุดของฟาร์มเอสเพียวสู่จานคุณ

ที่อยู่

Krungthonburi Road
Bangkok
10600

เว็บไซต์

https://marketeeronline.co/

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Marketeer Onlineผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Marketeer Online:

ชื่อ:

ที่อยู่อีเมล์:

ข้อความ:

วิดีโอทั้งหมด

สถิติตัวเลขเกี่ยวกับ 'หมอลำ' จะช่วยให้ Marketing ซิ่งได้แค่ไหน กลุ่มเป้าหมายที่ปีๆ นึงใช้เงินดูหมอลำระดับเกือบ 6 พันล้าน #MarketeerOnline

บริษัทก่อสร้างในเกาหลีใต้ลดระเบียบเข้มๆ ตอนสมัครงานเพื่อดึงดูดคนทำงาน Gen Z เเละปรากฏว่าได้ผล #MarketeerOnline

ถอดบทเรียน Overtourism สเปน นักท่องเที่ยวทะลักเข้าประเทศไม่ได้มีเเต่ข้อดีเสมอไป #MarketeerOnline

รู้จัก Henrik Yde-Andersen เชฟเดนมาร์ก ทำอาหารไทย จนร้านคว้ามิชลินสตาร์ #MarketeerOnline

เพลงใหม่เพลงไหนก็แซงเธอไม่ได้ ทำไมเพลง All I Want for Christmas is You ของ Mariah Carey ถึงถูกเอามาเปิดซ้ำๆ กว่า 30 ปี #MarketeerOnline

พาไปดูมูลค่าอุตสาหกรรมกีฬาไทย พาไทยไปไกลแค่ไหน #MarketeerOnline

วัฒนธรรมการประท้วงแบบใหม่ของนิวเจนเกาหลี เปิดเพลง K-Pop โบกแท่งไฟ เรียกร้องประชาธิปไตย #MarketeerOnline

ส่องเงินเดือนเริ่มต้นคนไทยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราอยู่อันดับที่เท่าไหร่ #MarketeerOnline

“จิตวิทยาของความน่ารัก" ทำไมเราถึงชอบแพ้ทางสิ่งจิ๋ว ๆ ที่ขนาดเล็กกว่าปกติ มันช่างดีต่อใจและทำให้เราโดนตกครั้งแล้วครั้งเล่า #MarketeerOnline

'โกด็อกซา' ความเหงากำลังกัดกินเกาหลีใต้ จนเป็นปัญหาใหญ่ต้องทุ่มงบก้อนโตแก้ไข #MarketeerOnline

หมูเด้งจะได้เป็นฮิปโปกี่โมง #หมูเด้ง #MarketeerOnline

ทางลัด

แชร์

ประเภท

เว็บไซต์ข่าวและสื่อ