สำนักพิมพ์ ยิปซี

สำนักพิมพ์ ยิปซี Brief history in pictures.
หนังสือประวัติศาสตร์รอบโลก
นักสัญจรบนหน้ากระดาษ
ผู้แสวงหาความรู้และภูมิปัญญามาบรรณาการนักอ่าน
(32)

https://linktr.ee/gypzyonline
Tel.02-728-0939 Fax.02-728-0939 ต่อ108 การอ่าน คือ การเดินทางอันแสนสนุก
ยิปซี คือ กองแห่งภูมิปัญญา พาคุณเดินทางไปในดินแดนแห่งความรู้ จินตการ ไม่สิ้นสุด
นึกถึงประวัติศาสตร์ นึกถึงยิปซี

(Info)ท็อปฮิต ติดทุกชาร์ต! เปิดอันดับ ‘NEXUS’ จากอันดับหนังสือขายดีทั่วโลกเป็นเวลาเพียงสองเดือนกว่าเท่านั้น หลังจากหนังส...
09/12/2024

(Info)
ท็อปฮิต ติดทุกชาร์ต! เปิดอันดับ ‘NEXUS’ จากอันดับหนังสือขายดีทั่วโลก
เป็นเวลาเพียงสองเดือนกว่าเท่านั้น หลังจากหนังสือใหม่ของ ‘ยูวัล โนอาห์ แฮรารี’ อย่าง ‘NEXUS ประวัติย่อการสื่อสาร จากยุคหินสู่เอไอ’ วางขายทั่วโลก หนังสือเล่มนี้ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ต่าง มากมายเลยทีเดียว
นอกจากจะบอกเล่าเรื่องวิวัฒนาการการสื่อสารของมนุษยชาติตั้งแต่ยังพูดไม่ได้จนถึงวันที่มนุษย์สามารถที่จะกดเพียงไม่กี่ปุ่มก็สามารถเชื่อมคนทั้งโลกเข้าหากัน เล่มนี้ยังพูดถึงการมาถึงของ AI ซึ่งมนุษยชาติต้อง ‘ระมัดระวัง’ เพราะประวัติศาสตร์บอกเราเสมอว่า การมาถึงของเทคโนโลยีใหม่ นำมาซึ่งความวุ่นวายเสมอ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้ทั่วโลกต้องตะลึง
ปรากฏการณ์ของ ‘เน็กซัส’ สามารถการันตีได้จากความนิยมที่เกิดขึ้นทั่วโลก หนังสือเล่มนี้ติดชาร์ตและเป็นหนังสือ Best Seller ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น
✨อันดับ 2 ของ New York Times Best Sellers ในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย
✨อันดับ 3 ของ ‘Sunday Times Best sellers’ ในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย
✨อันดับ 2 ของ Amazon Best Sellers in Computer & Technology Best Sellers
✨อันดับ 5 ของ Amazon Best Sellers in History
✨อันดับ 10 ของ Amazon Best Sellers in Politics & Social Sciences
✨ติด ‘TOP 20 Amazon Charts Best Sellers Non-fiction books’ จนถึงปัจจุบันติดต่อกัน 12 สัปดาห์
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการยืนยันปรากฏการณ์และการตอบรับของนักอ่านทั่วโลกกับหนังสือเล่มนี้เท่านั้น
ในเมื่อนักอ่านทั่วโลกต่างก็ได้สัมผัสและตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของการสื่อสาร ‘ที่เป็นมากกว่า’ การสื่อสารโดยปลายปากกาของ ยูวัล โนอาห์ แฮรารี แล้ว ก็คงถึงเวลาที่เราจะได้เปิดประสบการณ์กับหนังสือที่สำคัญต่อหน้าประวัติศาสตร์โลกในเล่มนี้
นี่คือหนังสือที่คนทั้งโลก ห้ามพลาด!
เรื่อง: CPKZ
ภาพประกอบ: DOOM.
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #เน็กซัส #ยูวัลโนอาห์แฮรารี #เอไอ #หนังสือขายดี

🎊 12.12 นี้ ยิปซีฉลองไปกับทุกคน! 🎊🎉 New Year, New Pages อ่านยกปี! 12 เล่มเด็ด 🎉🌟 โปรโมชั่นพิเศษ 12 เล่มนี้ ลดไปเลย 30% !...
09/12/2024

🎊 12.12 นี้ ยิปซีฉลองไปกับทุกคน! 🎊
🎉 New Year, New Pages อ่านยกปี! 12 เล่มเด็ด 🎉
🌟 โปรโมชั่นพิเศษ 12 เล่มนี้ ลดไปเลย 30% !!!
✨ พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกพร้อมโค้ด 'ส่งฟรี!' (สูงสุด 40 บาท) * ผ่านช่องทาง Shopee/Lazada/Tiktok *
12 เล่ม สำหรับ 12 เดือนอ่านกันให้บันเทิงใจ หรือใครจะใส่กองดองก็จัดไปเลย!
💂 เดือนมากราคม อ่าน 'BLITZKRIEG บลิทซ์ครีก สงครามสายฟ้าแลบของฮิตเลอร์ (ปกแข็ง)'
ราคาเต็ม 5️⃣2️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 3️⃣6️⃣4️⃣ บาท
⚛️ เดือนกุมภาพันธ์ อ่าน 'บันทึกประจำวันระหว่างการเดินทางของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์'
ราคาเต็ม 3️⃣4️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 2️⃣3️⃣8️⃣ บาท
🪖 เดือนมีนาคม อ่าน 'สมรภูมินรกแปซิฟิก หมวกเหล็ก สงคราม ความหวัง : Helmet for My Pillow'
ราคาเต็ม 3️⃣5️⃣0️⃣ บาท เหลืองเพียง 2️⃣4️⃣5️⃣ บาท
🇺🇸 เดือนเมษายน อ่าน 'สมรภูมิชี้ชะตาสหรัฐอเมริกา'
ราคาเต็ม 2️⃣6️⃣0️⃣ บาท เหลืองเพียง 1️⃣8️⃣2️⃣ บาท
🎖️ เดือนพฤษภาคม อ่าน 'แนวรบด้านตะวันตก สมรภูมิครองยุโรปของนาซีเยอรมัน'
ราคาเต็ม 3️⃣2️⃣5️⃣ บาท เหลือเพียง 2️⃣2️⃣8️⃣ บาท
🗳️ เดือนมิถุนายน อ่าน 'คู่มือเผด็จการ ลัทธิบูชาตัวบุคคลในศตวรรษที่ 20'
ราคาเต็ม 3️⃣9️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 2️⃣7️⃣3️⃣ บาท
🐎 เดือนกรกฎาคม อ่าน 'มหาจักรวรรดิมองโกล Great Mongol Empire'
ราคาเต็ม 3️⃣8️⃣5️⃣ บาท เหลือเพียง 2️⃣7️⃣0️⃣
🇮🇳 เดือนสิงหาคม อ่าน 'ประวัติศาสตร์ลับปิดฉากจักรวรรดิอังกฤษ : Indian Summer'
ราคาเต็ม 5️⃣8️⃣5️⃣ บาท เหลือเพียง 4️⃣1️⃣0️⃣ บาท
🗺️ เดือนกันยายน อ่าน 'แผนที่อนาคต ผ่านมุมมอง 7 นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลก'
ราคาเต็ม 2️⃣3️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 1️⃣6️⃣1️⃣ บาท
👩‍🦳 เดือนตุลาคม อ่าน 'LADY DEATH มือสังหารของสตาลิน'
ราคาเต็ม 4️⃣5️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 3️⃣1️⃣5️⃣ บาท
💥 เดือนพฤศจิกายน อ่าน 'ประวัติศาสตร์รถถังโลก The World's Greatest Tanks an Illustrated History (ปกแข็ง)'
ราคาเต็ม 9️⃣5️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 6️⃣6️⃣5️⃣ บาท
⚓ เดือนธันวาคม อ่าน 'MARINE SNIPER พลซุ่มยิง 93 ศพ'
ราคาเต็ม 3️⃣5️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 2️⃣4️⃣5️⃣ บาท
พิเศษกันสุด ๆ ตั้งแต่วันที่ 12 - 15 ธันวาคม 2567
⭐️ อย่ารอช้า รีบไปคว้าทั้ง 12 เล่มนี้ได้ที่ ⭐️
Shopee: https://bit.ly/3SUpbon
Lazada: https://bit.ly/3P2NEql
Facebook: https://bit.ly/4bzcyYg
Line Official: https://bit.ly/489k49b
Website: https://www.gypsygroup.net/home
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #โปรโมชั่น #12เดือน12 #หนังสือ #หนังสือประวัติศาสตร์ #สวัสดีปีใหม่ #สวัสดีปีใหม่2568

‘โอลิมปัส’ ยอดเขาแห่งเทพเจ้ากรีก อยู่ที่ไหนกันแน่?‘ยอดเขาโอลิมปัส’ (Olympus) เป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ในตำนานกรีก เป็นที่สถ...
08/12/2024

‘โอลิมปัส’ ยอดเขาแห่งเทพเจ้ากรีก อยู่ที่ไหนกันแน่?
‘ยอดเขาโอลิมปัส’ (Olympus) เป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ในตำนานกรีก เป็นที่สถิตย์ของเหล่าเทพทั้งหลาย ตั้งแต่ ‘ซุส’ (Zeus) ราชาแห่งปวงเทพทั้งหลาย หรือ ‘อธีนา’ (Athena) เทพีแห่งสติปัญญาและการทำสงคราม
จะเกิดอะไรขึ้นในตำนานกรีกโบราณก็ต้องวนเวียนไปที่เขาโอลิมปัสทุกที ขนาดต้นตอของสงครามทรอยยังเกิดขึ้นที่งานเลี้ยงบนยอดเขาโอลิมปัสเลย
มันก็คงจะเหมือนกับเขาพระสุเมรุ หรือเขาไกรลาสในความเชื่อแบบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ว่าต่างกันอยู่ตรงที่เขาโอลิมปัสของกรีกนั้นยังพอมีคนบอกได้ว่ามันตั้งอยู่ที่ไหน
หากจะตอบกันอย่างที่เข้าใจ เขาโอลิมปัสนั้นปัจจุบันถูกระบุเอาไว้ว่าอยู่ในประเทศกรีซ บริเวณภูมิภาคเธสซาลี (Thessaly) ติดกับภูมิภาคมาเซดอน (Macedon) ตอนเหนือของกรีซ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนกันมากมาย
แต่หากย้อนกลับไปดูในประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาที่กรีกโบราณแรกเฟื่องฟู เทือกเขาโอลิมปัสนั้นมีอยู่ ‘มากกว่าหนึ่งแห่ง’ ไม่ได้ตั้งอยู่เฉพาะที่ชายแดนเธสซาลีกับมาเซดอนอย่างที่เป็นในปัจจุบัน มีเขาโอลิมปัสกระจายตัวอยู่ในบริเวณโดยรอบทะเลอีเจียน (Aegean Sea) หลายแห่งเลยทีเดียว อาทิเช่น
ในเกาะไซปรัส (Cyprus) ทางตอนใต้ของเกาะ ได้ปรากฏยอดเขาที่สูงที่สุดในเกาะนามว่า ‘ชิโอนิสตรา’ (Chionistra) ที่ชื่อเดิมตามภาษากรีกนั้นคือ ‘โอลิมปัส’ และตามคำบอกระบุไว้ว่า บริเวณนั้นมีวิหารสำหรับการบูชาเทพเจ้าที่น่าจะเป็น ‘อโฟรไดตี’ (Aphrodite) หรือที่ภาษาโรมันเรียก ‘วีนัส’ (Venus) ตั้งอยู่ด้วย
ดินแดนตุรกี หรือที่อดีตเรียกว่าเอเชียน้อย (Asia Minor) หรือว่าบางส่วนก็ถูกเรียก ‘อนาโตเลีย’ (Anatolia) ก็มีภูเขานามว่า ‘อูลูดา’ (Uludağ) มีอีกชื่อในภาษากรีกว่า ‘โอลิมปัส’ เช่นกัน ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลแถบช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (Dardanelles) โดยเป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ มีวิหารอารามของชาวคริสต์มาตั้งอยู่ด้วยในยุคกลาง
ไม่ใช่แค่นอกแดนกรีก เพราะในแดนกรีกเองก็มีเขาโอลิมปัสอยู่หลายแห่ง อย่างเช่นเขาโอลิมปัสที่ ‘ลอเรติก’ (Laureotic Olympus) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครเอเธนส์ปัจจุบัน ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังปรากฏวิหารโบราณของเทพเจ้าอยู่ เช่นเทพเจ้าแห่งมหาสมุทร ‘โพไซดอน’ (Poseidon) เป็นต้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเทือกเขาโอลิมปัสที่มีอยู่รอบๆ ทะเลอีเจียนเท่านั้น และแน่นอนว่าคำถามที่ตามมาก็คือ แล้วทำไมที่เหล่านั้นถึงกลายเป็น ‘เขาโอลิมปัส’ ได้?
เพราะการตั้งนิคมของชาวกรีกโบราณรอบทะเลอีเจียนนั่นเอง โดยในช่วงระยะแรกของโลกกรีกโบราณ มันยังมีเพียงแค่ความเชื่อว่าเทพเจ้าเป็นใครหรืออยู่ภูเขาชื่ออะไรเท่านั้น ยังไม่ได้มีการรวมศูนย์หรือจัดระเบียบความเชื่อแต่อย่างใด
การที่ออกทะเลหรือเดินทางไปตั้งนิคมเพื่อหาความอิสระหรือทำการค้าของตนเองตามดินแดนทำให้ชาวกรีกที่ออกไปตั้งรกรากตามเกาะต่างๆ เช่นไซปรัส หรือดินแดนในตุรกี เมื่อเห็นยอดเขาสูงตระหง่านเทียมฟ้า ก็กำหนดกันเองตามท้องถิ่นว่านั่นคือ ‘เขาโอลิมปัส’ แห่งทวยเทพทั้งหลาย เขาโอลิมปัสที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นก็ได้ชื่อมาจากสาเหตุนั้นนั่นเอง
ต่อมาเมื่อเกิดการรวมอำนาจทางการเมืองโดยนครรัฐและอาณาจักรต่างๆ ในแดนกรีก ไปจนถึงช่วงที่วัฒนธรรมกรีกแผ่ขยายไปสู่ชาวโรมัน ก็เริ่มมีการมาชี้กันว่า ตกลงแล้วเขาโอลิมปัสนั้นอยู่ที่ใดกันแน่ เพราะจะให้ไปแสวงบุญหรือไป ‘ติดต่อ’ กับเทพเจ้าก็ต้องไปให้ถูกที่ ทำให้นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายได้ข้อสรุปว่า เขาโอลิมปัสนั้นอยู่ที่พรมแดนของเธสซาลีและมาเซดอนมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเทือกเขาโอลิมปัสของจริงจะอยู่ที่ไหน จะเป็นอย่างที่เข้าใจกันทุกวันนี้ หรือจะอยู่ในไซปรัส หรือตุรกี ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของเทือกเขาโอลิมปัสนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดและแทบจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวตำนานเทพเจ้ากรีก -โรมันเลยทีเดียว
เรื่อง: CPKZ
ภาพประกอบ: DOOM.
อ้างอิง
Marek, C. (2021). In the Land of a Thousand Gods: A History of Asia Minor in the Ancient World. Princeton University Press.
Marker, Sherry. (1988). The Wonderful World of Olympos, Katerini, Dion. Athens: Efstathiadis Group.
Giannopoulou, Ifigenia; Manos, Giannis. (2004). Olympus the shelter of the Gods (Bilingual Edition) (in Greek and English). Translated by Koumoutsi, Persa. Athens: Ebiria Publications.
Rassios, A. E., Krikeli, A., Dilek, Y., Ghikas, C., Batsi, A., Koutsovitis, P., & Hua, J. (2022). The geoheritage of Mount Olympus: Ancient mythology and modern geology. Geoheritage, 14(1), 15.
Gangolf Haub. (n.d.). Olympos (Chionistra) : Climbing, Hiking & Mountaineering : SummitPost. SummitPost.org. https://www.summitpost.org/olympos-chionistra/150803
Smith, W. (Ed.). (1857). Dictionary of Greek and Roman geography (Vol. 2). Little, Brown and Company.
Vauchez, A., Lapidge, M., & Dobson, R. B. (2001). Encyclopedia of the middle ages.
*เครดิตภาพ
Le concile des Dieux dans la loggia d'Amour et de Psyché (Villa Farnesina, Rome) : by Jean-Pierre Dalbéra / Flickr
Mount Olympus from Larissa, Thessaly, Greece (1850–85) : by Edward Lear / Artvee
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #ตำนานเทพเจ้ากรีกโรมัน #เทพเจ้า #ตำนานเทพ #กรีก #โรมัน #เทพกรีก #เทพโรมัน #กรีกโบราณ #เขาโอลิมปัส

‘อีกเพียงครึ่งศตวรรษ’ 3 สิ่งที่คุณต้องรู้จากอนาคตที่กำลังมาถึงเพียงแค่ชั่วพริบตา โลกก็ผ่านพ้นศตวรรษที่ 21 ไปแล้วถึง 24 ป...
07/12/2024

‘อีกเพียงครึ่งศตวรรษ’ 3 สิ่งที่คุณต้องรู้จากอนาคตที่กำลังมาถึง
เพียงแค่ชั่วพริบตา โลกก็ผ่านพ้นศตวรรษที่ 21 ไปแล้วถึง 24 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาสองทศวรรษครึ่งที่ผ่านมานั้น มีเรื่องมากมายหลายอย่างได้เกิดขึ้นเต็มไปหมด แทบจะมากกว่าที่เกิดขึ้นกับศตวรรษที่ 20 ทั้งศตวรรษเสียอีก
หลายอย่างกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดร้ายแรง ความตึงเครียดทางการเมือง ไปจนถึงสงคราม และหลายอย่างก็เป็นสิ่งใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยี ทั้งหมดนี้รวมกันได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ในศตวรรษนี้ไปอย่างสิ้นเชิง
นี่เป็นที่มาของการจับปากกาขึ้นเขียนหนังสืออีกครั้งของ ‘ศ. ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์’ นักวิทยาศาสตร์ไทยชื่อเสียงดังไกลระดับโลก ผู้เฝ้าดูเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกมาอย่างยาวนานและเห็นถึงทิศทางของ ‘อนาคต’ ว่าโลกจะเป็นอย่างไรต่อไปในอีก 50 ปีข้างหน้านั่นเอง
หากไม่แน่ใจว่าหนังสือเล่มนี้น่าสนใจอย่างไร 3 ข้อนี้จะตอบทุกคนว่าทำไมควรอ่านหนังสือ ‘อีกเพียงครึ่งศตวรรษ อนาคตที่เอื้อมถึง’ เล่มนี้
:: ‘ย้อนกลับ’ ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วบ้างในศตวรรษที่ 21
เพื่อที่จะเข้าใจอนาคต สิ่งที่สำคัญก็คือการทำความรู้จักกับ ‘อดีต’ นั่นจึงทำให้หนังสือเล่มนี้จะพาย้อนกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเราไปแล้วบ้างในศตวรรษที่ 21 แล้วมันส่งผลกระทบต่อปัจจุบันและอนาคตอย่างไร?
พัฒนาการของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และ AI นั้นก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว และมันจะ ‘ครองโลก’ ได้จริงหรือไม่ หรือว่าจากโรคระบาดครั้งใหญ่ที่ผ่านมา นวัตกรรมทางการแพทย์กำลังพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาอะไร ไปจนถึงการเมืองและสังคมโลกนั้นที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไรบ้าง มีสิ่งไหนที่กระทบต่อมนุษยชาติทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวหรือไม่
เล่มนี้จะได้ทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆ ที่กำลังจะเกิดหรือเกิดขึ้นไปแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่ ‘หลงทาง’ เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
:: เตรียมตัวสู่อนาคตในศตวรรษที่โกลาหลไปกับเล่มนี้
หากศตวรรษที่ 20 คือศตวรรษที่มนุษยชาติต้องพบกับสงครามโลกสองครั้ง โรคระบาดครั้งใหญ่หนึ่งครั้ง ไปจนถึงความวุ่นวายมากมายตลอดระยะเวลา 100 ปี ทั้งหมดนั้นอาจจะดูเล็กน้อยไปเลยถ้าหันมาเทียบว่าในช่วงเวลาสองทศวรรษครึ่งที่ผ่านมานั้นโกลาหลกว่ามาก
แต่ก็เป็นสองทศวรรษกว่าที่มนุษยชาติพัฒนาสิ่งต่างๆ ไปมากมายเช่นกัน
อะไรที่ไม่เคยได้เห็นจากศตวรรษก่อนก็จะเกิดขึ้นในศตวรรษนี้ ยานพาหนะไร้คนขับ ปัญญาประดิษฐ์ที่เหนือล้ำไปกว่ามนุษย์ หรือแม้กระทั่งความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ทำให้มนุษยชาติใกล้เคียงกับความเป็นอมตะ แต่สิ่งเหล่านั้นนอกจากผลดีแล้วยังมีอย่างอื่นตามมาด้วยอีกหรือไม่
คำถามสำคัญที่ตามมาก็คือ นับจากนี้ต่อไปโลกของเราจะเป็นอย่างไรต่อ ร่วมหาคำตอบในเล่มนี้กัน
:: ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ไทยระดับแนวหน้าของยุคสมัย
ด้วยดีกรีของ ‘ศ. ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์’ นักวิทยาศาสตร์แถวหน้าของเมืองไทย ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้
ที่จะทำให้เข้าใจในมิติต่างๆ ของอนาคตที่กำลังคืบคลานมา
อาจารย์ยงยุทธไม่เพียงแต่เป็นนักวิทยาศาสตร์มากฝีมือ อีกทั้งผ่าานการทำงานทั้งในไทยและระดับโลกมามากมาย แต่นี่คือนักวิทยาศาสตร์เคยอยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมาแล้วอีกด้วย
ดังนั้น ความเข้าใจทั้งในมิติของวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม พร้อมกับความเข้าใจในมิติทางสังคมการเมือง จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายสิบปี จึงทำให้มุมมองต่อความเป็นไปของโลกที่ถ่ายทอดออกมาทำให้เข้าใจได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ได้อย่างชัดเจน
เพื่อจะรู้จักกับอดีต การมองย้อนกลับไปว่าโลกของเราได้ผ่านอะไรมาแล้วเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อมองเห็นปัจจุบัน การรับรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นรอบตัวเรานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก และทั้งหมดนั้นก็เพื่อเตรียมตัวสู่อนาคตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
‘อีกเพียงครึ่งศตวรรษ อนาคตที่เอื้อมถึง’ จะคู่มือในการท่องอดีตจนสู่อนาคต และเตรียมตัวเพื่อรออนาคตที่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกแล้ว
เรื่อง: CPKZ
ภาพประกอบ: DOOM.
*เครดิตภาพ
Astronaut : ©PIRO / Pixabay
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #อีกเพียงครึ่งศตวรรษ #ยงยุทธ์ยุทธวงศ์ #อนาคต #หนังสือใหม่ #หนังสือน่าอ่าน

⚡️ New Release ⚡️ 🏛️ The Olympian Gods are HERE! 🏛️🌟Pantheon and Heroes in Greco-Roman Mythology ตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษ...
06/12/2024

⚡️ New Release ⚡️ 🏛️ The Olympian Gods are HERE! 🏛️
🌟Pantheon and Heroes in Greco-Roman Mythology ตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษกรีก-โรมัน🌟
ผลงานใหม่ของ 'ภัทรพล สมเหมาะ' จากปลายปากกานักเขียนหนังสือประวัติศาสตร์มากมาย
เล่มนี้จะพาไปพบกับตำนานเทพเจ้าที่สุดแห่งความคลาสสิกของโลก เรื่องราวอมตะ สุดตื่นเต้น!
ภายใน 'ตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษกรีก-โรมัน' พบกับ
🌍 ตำนานการกำเนิดเทพเจ้า ตั้งแต่ยุคไททันบรรพกาลถึงเหล่าเทพแห่งเขาโอลิมปัส
🏔️ ตำนานและเรื่องราวของเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย ใครเป็นใคร ทำอะไรบ้าง
📚 เรื่องของที่มาที่ไปและรายละเอียดเจาะลึกเกี่ยวกับเทพเจ้าแต่ละองค์
🤴 รวมเรื่องเทพนิยายปรัมปราของอารยธรรมกรีก-โรมัน เช่นตำนานแห่งวีรบุรุษต่างๆ
เล่มเดียว ครบ จุใจ คุ้มค่าแน่นอน
Pantheon and Heroes in Greco-Roman Mythology ตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษกรีก-โรมัน
ราคาปกติ 2️⃣6️⃣5️⃣ บาท
พิเศษ 2️⃣2️⃣6️⃣ บาทเท่านั้น
ค่าจัดส่ง 4️⃣0️⃣ บาท
พิมพ์รหัส P53 ได้ที่ช่อง Comment
📌ไปสู่ช่องทางการตื่นเต้นกับเหล่าทวยเทพได้ที่📌
Shopee: https://bit.ly/4g0S3VY
Lazada: https://bit.ly/3ZH3jkA
Facebook: https://bit.ly/4bzcyYg
Line Official: https://bit.ly/489k49b
Website: https://www.gypsygroup.net/home
Pantheon and Heroes in Greco-Roman Mythology ตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษกรีก-โรมัน ขนาดหนังสือ 14.5 x 21 เซนติเมตร
ความยาว 240 หน้า
อ่านตัวอย่างหนังสือได้ที่: https://anyflip.com/jbtyn/njlp/
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #ตำนานเทพเจ้ากรีกโรมัน #เทพเจ้า #ตำนานเทพ #กรีก #โรมัน #เทพกรีก #เทพโรมัน #กรีกโบราณ #เขาโอลิมปัส #หนังสือใหม่

'Eternal Return' ทฤษฎีว่าด้วยการ 'ซ้ำรอย' ของประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันสิ้นสุดในศตวรรษที่ 12 เกิดความขัดแย้งทางศาสนาจนลุกล...
05/12/2024

'Eternal Return' ทฤษฎีว่าด้วยการ 'ซ้ำรอย' ของประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ในศตวรรษที่ 12 เกิดความขัดแย้งทางศาสนาจนลุกลามกลายเป็น ‘สงครามครูเสด’ (Crusade Wars) มาในศตวรรษที่ 21 นี้ ความขัดแย้งและสงครามจากสาเหตุดังกล่าวก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
หรือจะเป็นสงครามครั้งใหญ่ในยุโรปช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เมื่อจอมจักรพรรดินโปเลียนรุกรานยุโรปทั้งทวีป นำมาสู่การเกิดขึ้นของ ‘คองเกรสออฟเวียนนา’ (Congress of Vienna) ที่ประชุมอันมีเป้าหมายในการเป็นเวทีพูดคุยยับยั้งสงคราม แต่ไม่เพียงหนึ่งศตวรรษต่อมา สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ระเบิดขึ้น และก็จบลงด้วยการเกิด ‘สันนิบาตชาติ’ (League of Nations) เพื่อรักษาสันติภาพ
ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ความขัดแย้ง โรคระบาด ไปจนถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยี สิ่งต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ดูเหมือนจะมีลักษณะหมุนวนซ้ำกันไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนดูเป็นเรื่องบังเอิญ
แต่คนกลุ่มหนึ่งไม่ได้คิดว่าการเกิดขึ้นของอะไรซ้ำๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั้นเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะพวกเขาเหล่านั้นเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในประวัติศาสตร์นั้นต้องเกิดอย่างซ้ำไปซ้ำมาอยู่แล้ว สงครามต้องเกิดซ้ำไปมา โรคระบาดจะเกิดซ้ำไปมา หรืออะไรก็ตามที่เคยเกิดขึ้นแล้วก็จะเกิดขึ้นตลอดไป สิ่งนั้นเรียกว่าทฤษฎี ‘Eternal Return’
Eternal Return (หรือ Eternal Recurrence) เป็นทฤษฎีทางปรัชญาที่เชื่อว่า ‘กาลเวลา’ นั้นจะก่อกำเนิด ‘ซ้ำ’ วนไปมาอยู่เสมอ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีอะไรใหม่ มันเป็นแค่การเกิดซ้ำของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่เปลี่ยนรูปแบบลักษณะไปเท่านั้น
ความเชื่อเรื่องการซ้ำไปซ้ำมาของกาลเวลานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นจากนิยายวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด แต่ว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณแล้ว โดยเป็นทฤษฎีที่นักปรัชญาสาย ‘ลัทธิสโตอิก’ ยึดถือกัน โดยเฉพาะ ‘ซีโน แห่งซิเทียม’ เจ้าลัทธิในช่วงประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล
ลัทธิสโตอิกเชื่อว่า จักรวาลนั้นเป็นสิ่งที่ตั้งอยู่และดับไป แล้วที่ดับไปก็จะกลับมาตั้งอยู่ใหม่ วนซ้ำกันอย่างนี้ตลอดกาล แค่ต่างช่วงเวลาและเหตุการณ์ต่างๆ เช่นเดียวกัน
ความเชื่อเรื่อง Eternal Return จางหายไปหลังจากที่คริสต์ศาสนาเฟื่องฟู จนกระทั่งในปลายศตวรรษที่ 19 แนวคิดนี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในงานเขียนชื่อ ‘The Gay Science’ และ ‘Thus Spoke Zarathustra’ ของนักปรัชญาชาวเยอรมันชื่อดังอย่าง ‘ฟรีดริช นีทเชอ’ (Friedrich Nietzche)
นีทเชอเชื่อเช่นกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่ได้เป็นของใหม่ ประวัติศาสตร์ที่จะเดินไปข้างหน้าไม่ใช่ของใหม่ แต่มันจะต้องมีส่วนประกอบของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอยู่เสมอ
ใน ‘Thus Spoke Zarathustra’ ตัวเอกของเรื่องถูกกำหนดให้ต้องเอาชนะความกลัวของเขาที่มีต่อการเวียนวนไม่สิ้นสุดของ Eternal Return เพราะถ้าเขาเอาชนะไม่ได้ ทุกความสุข ทุกข์ เจ็บปวด ที่เขาได้เจอ มันก็จะกลับมาใหม่อย่างไม่จบสิ้น ถ้าเข้าใจว่าทุกอย่างนั้นคือการวนเวียนไม่จบสิ้นได้ เขาก็จะมีความสุข
หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง Eternal Return ก็คล้ายคลึงกับ ‘สังสารวัฏ’ ในพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างต่างวนเวียน ตั้งอยู่และดับไป เป็นธรรมชาติของสากลโลก
ด้วยแนวคิดทั้งหมดนั้น ทำให้นักปรัชญาจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาบนโลกและจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ล้วนแล้วเป็นเพียวการเกิดซ้ำของสิ่งต่างๆ โรคระบาดใหญ่ในจีนช่วง 2,000 ปีก่อน ได้เกิดซ้ำเป็นกาฬโรคในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 14 และโควิด - 19 ในศตวรรษนี้ก็อาจจะเป็นการเกิดซ้ำอีกครั้ง
หรืออาจจะเป็นเช่นเดียวกับความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวขึ้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการแบ่ง ‘ค่าย’ กันอยู่ ฝั่งหนึ่งเป็นสหรัฐและชาติตะวันตก ฝั่งหนึ่งเป็นจีน รัสเซีย และชาติตะวันออกบางส่วน เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น ในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง และในสงครามเย็นครั้งก่อน มันก็เคยเกิดขึ้นไปแล้ว และอยู่ในพื้นฐานที่ใกล้เคียงกันเสียด้วย ดังนั้นแล้วจะบอกว่าเป็น Eternal Return ก็อาจจะไม่ได้ผิดเพี้ยนเท่าไหร่นัก
Eternal Return แม้ว่าอาจจะดูเป็นทฤษฏีที่เลื่อนลอย แต่หากลองคิดตามแล้วมันอาจจะช่วยให้มนุษยชาติได้ตระหนักและเตรียมการรับมือกับสิ่งที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ เมื่อรู้แล้วว่าที่ผ่านมามีอะไร ในอนาคตที่กำลังจะเอื้อมถึงนี้ เราก็สามารถที่จะกำหนดทิศทางของมันได้
ในศตวรรษนี้ และในศตวรรษถัดไป สงคราม ความขัดแย้ง โรคระบาด การค้นพบสิ่งใหม่บนโลกของเรา หากเชื่อตามทฤษฎี Eternal Return มันก็จะวนซ้ำกลับมาอีก และมันก็จะเป็นวงจรตลอดไป แต่ในอีกทางหนึ่ง เมื่อเรารู้จัก Eternal Return แล้ว สิ่งที่มนุษยชาติต้องทำอาจจะเป็นต้องเปลี่ยนจากการยอมรับเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือมันให้ได้นั่นเอง
อย่างเช่นที่ ‘ซาราธุสตรา’ ในหนังสือของนีทเชอรู้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันคือการซ้ำไปวนมา เขาจึงสามารถเอาชนะมันได้
เรื่อง: CPKZ
ภาพประกอบ: DOOM.
อ้างอิง
Batchelder, G. M. (1998). The Stoic doctrine of eternal recurrence: Its development and characteristics. American University.
Cooke, A. (2005). Eternal Return and the Problem of the Constitution of Identity. Journal of Nietzsche Studies, 16-34.
Eliade, M. (2018). The myth of the eternal return: Cosmos and history (Vol. 122). Princeton university press.
Losada, J. M. (2017). Preface: The myth of the eternal return. Journal of Comparative Literature and Aesthetics, 40(2), 7-10.
Malabou, C. (2010). The Eternal Return and the phantom of difference. Parrhesia, 10(1), 21-29.
Ross, A. (2019). Nietzsche’s Eternal Return. The New Yorker. https://www.newyorker.com/magazine/2019/10/14/nietzsches-eternal-return

#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #อีกเพียงครึ่งศตวรรษ #ยงยุทธ์ยุทธวงศ์ #อนาคต #ประวัติศาสตร์ #ปรัชญา

On this day : ต้นกำเนิดของขนมแสนอร่อย ต้อนรับวันคุกกี้!ไม่ว่าใครก็น่าจะหลงรักขนมชิ้นเล็กๆ แสนอร่อย (หรือบางทีก็ชิ้นใหญ่เ...
04/12/2024

On this day : ต้นกำเนิดของขนมแสนอร่อย ต้อนรับวันคุกกี้!
ไม่ว่าใครก็น่าจะหลงรักขนมชิ้นเล็กๆ แสนอร่อย (หรือบางทีก็ชิ้นใหญ่เหลือเชื่อเหมือนกัน) ที่เรียกว่า ‘คุกกี้’ กันอย่างแน่นอน วันที่ 4 ธันวาคมของทุกปีถือว่าเป็น ‘วันคุกกี้แห่งชาติ’ (National Cookie Day) ในสหรัฐอเมริกา ที่ทั้งร้านขนมและผู้ชื่นชอบในคุกกี้ต่างฉลองร่วมกัน
คุกกี้ หรือหลายที่อาจจะเรียกกันว่าบิสกิต (Biscuit) คือส่วนผสมกันของแป้ง เนย น้ำตาล ไปจนถึงวัตถุดิบเพิ่มเติมเสริมความอร่อยต่างๆ รวมกัน จากนั้นก็อาจจะนำไปอบหรือไม่อบก็มี แล้วจะได้ออกมาเป็นขนมแสนอร่อยที่ใครต่อใครหยุดกินกันไม่ได้
แต่เชื่อหรือไม่ว่า เราอาจจะคิดว่ามันเป็นขนม ‘ฝรั่ง’ มีต้นกำเนิดอาจจะในยุโรปหรือในทวีปอเมริกา ในความเป็นจริงแล้วคุกกี้ไม่ได้กำเนิดในยุโรปอย่างที่คิดกันหรืออย่างที่ชื่อมันเป็น แล้วมันมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหนกันนะ?
‘ขนมผสมน้ำตาลที่มีต้นทางมาจากเปอร์เซีย แต่ชื่อเป็นของชาวดัทช์’
ในความเป็นจริง ตั้งแต่ช่วงสมัยโรมันไปจนถึงช่วงที่เข้าสู่ยุคกลาง ‘น้ำตาล’ ไม่ใช่สิ่งที่แพร่หลายนักในยุโรป เพราะว่ายุโรปนั้นมีสภาพอากาศที่ไม่สามารถเพาะปลูก ‘อ้อย’ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำตาลได้ ดังนั้นน้ำตาลจึงเป็นของหายาก
กลับกันในดินแดนใกล้เคียงกับสภาพอากาศเหมาะสมอย่าง ‘เปอร์เซีย’ (อิหร่านปัจจุบัน) มีการปลูกอ้อยและใช้น้ำตาลกันอย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 7 ก็มีการทำขนมขึ้นมาชนิดหนึ่ง เป็นการนำแป้งหรือไม่ก็จะเป็นถั่วบดผงมาผสมกับน้ำตาล ปั้นเป็นก้อน จากนั้นก็อาจจะรับประทานอย่างนั้นหรือนำไปอบก่อน ชื่อเรียกก็อาจจะแตกต่างหลากหลายกันไปตามวัตถุดิบและวิธีการทำ
ดังนั้น ต้นกำเนิดของคุกกี้มาจากดินแดนที่ปลูกอ้อยทำน้ำตาลกันอย่างเปอร์เซียก็ว่าได้
จนเมื่อเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 8 กองทัพมุสลิมที่แผ่ขยายอำนาจจากตะวันออกกลาง เข้าสู่ชายฝั่งแอฟริกาเหนือ และยึดคาบสมุทรไอบีเรียในยุโรปได้ทั้งหมด นอกจากจะนำอำนาจการปกครองไปด้วยแล้ว พวกเขายังเอาน้ำตาลและขนมหวานชนิดนี้เข้าไปในยุโรปอีกด้วย ทำให้น้ำตาลจากอ้อยและ ‘คุกกี้แบบเปอร์เซีย’ เริ่มแพร่หลายและกลายเป็นขนมหวานสำหรับเหล่าชนชั้นสูงในยุโรป (ชาวบ้านธรรมดายากที่จะได้ชิมรสของคุกกี้ เพราะน้ำตาลแพง)
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงศตวรรษที่ 15 แม้อำนาจสุลต่านจะหมดไปจากคาบสมุทรไอบีเรียแล้ว แต่สิ่งที่ยังอยู่ก็คือคุกกี้ พร้อมๆ กับที่ชาวยุโรปเริ่มจะใช้น้ำตาลจากอ้อยกันอย่างแพร่หลายแล้ว ทำให้คุกกี้ก็เริ่มผสมผสานเข้าไปกับวิถีชีวิตและพัฒนาเป็นคุกกี้รูปแบบต่างๆ ตามท้องถิ่น กลายเป็นขนมที่มีขายกันทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้นคุกกี้ได้กลายเป็นเสบียงสำคัญสำหรับบรรดานักเดินทาง โดยเฉพาะเหล่าผู้ออกทะเลไปสำรวจโลกใหม่ เพราะว่าคุกกี้นั้นเก็บได้นาน รสชาติอร่อย ให้พลังงานสูง
สำหรับชื่อ ‘คุกกี้’ นั้น แน่นอนว่าไม่ได้เป็นชื่อมาจากภาษาเปอร์เซียแต่อย่างใด และคุกกี้นั้นก็มีหลายชื่อมาก ที่อาจจะคุ้นหูกันที่สุดคือ ‘บิสกิต’ (Biscuit) ที่ใช้เรียกกันในยุโรปบางส่วน หรือดินแดนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก (Anglophone) ยกเว้นสหรัฐอเมริกาที่เรียก ‘คุกกี้’
ต้นกำเนิดของชื่อคุกกี้นั้น มาจากภาษาดัทช์ที่เรียกคุกกี้ว่า ‘koekje’ แปลว่า ‘เค้กชิ้นเล็ก’ (Little Cake) และในศตวรรษที่ 17 ก็แพร่เข้าสู่ภาษาอังกฤษจากการผสมผสานกันของชาวดัทช์และชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในอาณานิคมดัทช์อย่าง ‘นิวอัมสเตอร์ดัม’ หรือที่ต่อมาก็คือ ‘นิวยอร์ก’ ทำให้ชาวนิวยอร์กที่พูดภาษาอังกฤษ นำภาษาดัทช์มาแปลงร่างใหม่ แล้วก็กกลายเป็น ‘Cookie’ (คุกกี้) อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง
ขนมชิ้นเล็กๆ อย่างคุกกี้ นับได้ว่ามีเส้นทางในประวัติศาสตร์อันยาวนานหลักพันปีอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว จากแป้งผสมกับน้ำตาลในดินแดนเปอร์เซีย สู่การเป็นคุกกี้กินง่ายในมหานครนิวยอร์กที่ทุกเพศทุกวัยต่างก็ชื่นชอบกัน
ก็แน่นอน หวาน หอม อร่อยขนาดนี้ ใครล่ะจะไปอดใจไหว
เรื่อง: CPKZ
ภาพประกอบ: DOOM.
อ้างอิง
A, Alex. (2016). Cookies originated from Persia, shortly after the use of sugar became relatively common in the region. Thevintagenews. https://www.thevintagenews.com/2016/09/17/cookies-originated-persia-shortly-use-sugar-became-relatively-common-region/
Edwards, A. (2019). Biscuits and Cookies: A Global History. Reaktion Books.
National Day Archives. (2020). National Cookie Day - National Day Archives. https://www.nationaldayarchives.com/day/national-cookie-day/
Sember, B. (2012). COOKIE: A Love Story: Fun Facts, Delicious Stories, Fascinating History, Tasty Recipes, and More About Our Most Beloved Treat. Sember Resources.
*เครดิตภาพ
Shah Suleiman I and his courtiers, by Aliquli Jabbadar, Isfahan, 1670 : Folio from the St. Petersburg Album
Persian Love Cookies : via. The Little Vintage Baking Company
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #คุกกี้ #วันคุกกี้ #วันคุกกี้แห่งชาติ #ขนม #ขนมหวาน #ประวัติศาสตร์อาหาร #ประวัติศาสตร์ขนม

⚡️Coming Soon! ⚡️✨เตรียมตัวพบกับเรื่องราวอมตะของเหล่าทวยเทพแห่งเขาโอลิมปัส✨🌟Pantheon and Heroes in Greco-Roman Mythology...
04/12/2024

⚡️Coming Soon! ⚡️
✨เตรียมตัวพบกับเรื่องราวอมตะของเหล่าทวยเทพแห่งเขาโอลิมปัส✨
🌟Pantheon and Heroes in Greco-Roman Mythology ตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษกรีก-โรมัน🌟
เรื่องราวตำนานของเหล่าทวยเทพแห่งเขาโอลิมปัสจากอารยธรรมกรีกและโรมัน ที่ทรงอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมของโลกมาอย่างยาวนานหลายพันปี
รวบรวมเรื่องราวทุกแง่มุมจากตำนานเทพเจ้าและเรื่องปรัมปราของกรีก-โรมัน
⚡️ กำเนิดราชาของปวงเทพ เจ้าแห่งสายฟ้า ‘ซุส’
‼️ สงครามระหว่างเทพเจ้า
🏛️ ที่มาของชื่อเมือง และเทพนิยายต่าง ๆ
🤴 ตำนานเล่าขานของวีรบุรุษทั้งหลาย
ผลงานใหม่ของนักเขียนมือเยี่ยม ‘ภัทรพล สมเหมาะ’
เร็ว ๆ นี้ ห้ามพลาด
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #ตำนานเทพเจ้ากรีกโรมัน #เทพเจ้า #ตำนานเทพ #กรีก #โรมัน #เทพกรีก #เทพโรมัน #กรีกโบราณ #เขาโอลิมปัส #หนังสือใหม่

เรื่องประหลาดยุควิคตอเรีย!? เมื่อผู้ดีอังกฤษจัดงาน 'แกะห่อมัมมี่'มนุษย์โลกเรานั้นมักจะหาเรื่องบันเทิงเริงใจมาให้ตัวเองสน...
03/12/2024

เรื่องประหลาดยุควิคตอเรีย!? เมื่อผู้ดีอังกฤษจัดงาน 'แกะห่อมัมมี่'
มนุษย์โลกเรานั้นมักจะหาเรื่องบันเทิงเริงใจมาให้ตัวเองสนุกสนานมาตลอด ถ้าเป็นคนปัจจุบันก็อาจจะนอนดูคลิปตลกๆ ออกไปเที่ยวสังสรรค์ หรือหาภาพยนตร์ดีๆ ที่แปลกหน่อยอาจจะเช่นคนชอบเรื่องผี ไปล่าท้าผี แต่ทั้งหมดก็อยู่ในขอบเขตที่เข้าใจได้ ว่าความตื่นเต้นนั้นมันช่วยบันเทิงใจดีเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม คนอังกฤษยุควิคตอเรียนมีความบันเทิงที่ ‘ประหลาด’ กว่านั้นเสียอีก
เพราะคนจำนวนไม่น้อยเลยในอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 19 ชอบที่จะจัดงานปาร์ตี้เหลือเกิน แต่ไม่ได้เป็นปาร์ตี้ธรรมดา มันเป็นปาร์ตี้ที่จัดเพื่อมา ‘แกะห่อมัมมี่’ กันเพื่อความบันเทิง!
ตั้งแต่ชาวตะวันตกเริ่มเข้าไปในอียิปต์จนมาถึงช่วงจักรวรรดิอังกฤษแผ่อิทธิพลเข้าไปในอียิปต์ช่วงปี 1882 สิ่งที่ตามการเมืองและการลงทุนเข้าไปด้วยก็คือการศึกษาทางโบราณคดี นักโบราณคดีต่างเข้าไปสำรวจขุดค้นโบราณสถานอียิปต์โบราณมากมาย วัตุมีค่าถูกขุดค้น และที่สำคัญคือการพบ ‘มัมมี่’ จำนวนมากตามโบราณสถานต่างๆ
โดยทั่วไปมัมมี่ก็จะถูกนำไปศึกษาต่อ ว่าเป็นใคร มาจากไหน เป็นมัมมี่ได้อย่างไร และก็จะถูกนำไปเก็บรักษาไม่ก็จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ต่อไป อย่างไรก็ตามก็มีคน ‘หัวใส’ ไม่น้อยที่ลักลอบขุดมัมมี่แล้วนำกลับไปขายในฐานะของสะสมของคนรวย
แต่มัมมี่ไม่ได้หยุดเพียงแค่เป็นของสะสม เพราะนอกจากจะเอามาตั้งกับสมบัติต่างๆ ในบ้านแล้ว การเอามัมมี่มาแกะห่อดูเหมือนกันว่าข้างในเป็นอย่างไร และจะดูคนเดียวก็ไม่คุ้มที่หอบหิ้วมาจากอียิปต์ น่าจะชวนเพื่อนฝูงมาร่วมแกะห่อด้วย
นี่จึงเกิดกลายเป็นที่มาของ ‘ปาร์ตี้แกะห่อมัมมี่’ ซึ่งมักจะจัดกันในสถานที่ลับ มีความเป็นส่วนตัวสูง เจ้าภาพที่นำมัมมี่กลับมาหรือหามัมมี่มาได้ จะส่งเทียบเชิญให้กับแขกพิเศษของตน จากนั้นเมื่องานเริ่มขึ้น มัมมี่จะถูกนำออกจากโลงมาวางไว้ตรงกลางห้อง แขกทุกคนจะยืนล้อม และเจ้าภาพจะเริ่มแกะห่อมัมมี่ออกดู ว่าข้างในนั้นเป็นอย่างไร ระหว่างการแกะห่อ คนในงานก็มักจะถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกสนานว่ามัมมี่นั้นเป็นชายหรือหญิง เป็นใครมาจากไหน หรือจะมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่ใต้ผ้าลินินหรือไม่
เมื่อแกะห่อเสร็จเรียบร้อย แขกเหรื่อก็จะมาผลัดกันชมมัมมี่ และเมื่อเสร็จก็จะกลายเป็นงานปาร์ตี้รวมตัวกันทั่วไป ส่วนมัมมี่ที่แกะเสร็จแล้ว หากไม่นับไปจัดแสดงร่วมกับของมีค่าอื่นๆ ของเจ้าของบ้าน ก็อาจจะถูกขายต่อให้กับผู้ที่อยากได้
หนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการจัดงานแกะห่อมัมมี่นั้นคือ ‘โธมัส เพ็ตติกรูว์’ (Thomas Pettigrew) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้ง ‘สมาคมโบราณคดีแห่งบริเตน’ โดยนอกจากเขาจะอ้างว่าปาร์ตี้แกะห่อมัมมี่ของเขานั้นจัดขึ้นด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ให้บรรดาแขกมาร่วมกัน ‘ศึกษา’ มัมมี่ แต่จากหลายบันทึกระบุว่า การแกะห่อมัมมี่ของเขาเป็นเหมือนกับงานเพื่อความบันเทิงมากกว่า มีการประดับตกแต่งหรือใส่ลูกเล่นเอาไว้ เช่นบรรจุทรายเข้าไปในห่อมัมมี่ เมื่อแกะออกมาก็ทรายก็จะฟุ้งเต็มไปหมด ทำให้มัมมี่ดู ‘ขลัง’ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ดีอังกฤษก็ตื่นเต้นกับการแกะห่อมัมมี่อยู่ได้ไม่นาน เพราะในความเป็นจริงแล้ว นอกจากการไปดู ‘การแสดง’ แบบที่บ้านของเพ็ตติกรูว์ หรือการมาล้อมวงทายเรื่องต่าง ๆ ของมัมมี่ในห่อกันแล้ว การแกะมัมมี่ทุกครั้งก็จบลงแบบเดิม ก็คือมัมมี่นั้นก็ ‘เหมือน’ กันหมด
ที่สำคัญเลยนอกจากจะเบื่อมัมมี่ คำอ้างจำพวกว่าเพื่อความรู้ทางวิทยาศาสตร์หรือโบราณคดีก็ไม่ได้ถูกเชื่ออีกต่อไปเช่นกัน เพราะว่ามันจะไปได้อะไรนอกจากแกะห่อออกมาดูเล่น มันไม่เคยมีงานปาร์ตี้ใดเลยที่แกะห่อออกมาแล้วช่วยกันดูว่ามัมมี่นั้นเป็นอย่างไรโดยผู้เชี่ยวชาญ
สุดท้ายแล้วในช่วงปลายยุควิคตอเรีย รอยต่อระหว่างศตวรรษที่ 19 และ 20 งานแกะห่อมัมมี่ก็เลือนหายไปจนหมด ไม่มีใครจะหาความบันเทิงจากเรื่องทำนองนี้อีก และการแกะห่อมัมมี่ก็ได้เป็นงานสำหรับนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์จริง ๆ เพียงอย่างเดียว
นอกเหนือจากความตื่นเต้น ความกระหายใคร่รู้ และความต้องการอวดของสะสมของตัวเองแล้ว อาจจะบอกได้ว่าผู้ดีอังกฤษในสมัยวิคตอเรียนั้นชอบเล่น ‘พิเรนทร์’ ไม่น้อยเลยทีเดียว
เรื่อง: CPKZ
ภาพประกอบ: DOOM.
อ้างอิง
Cherrel, Kate. (2023, November 5). The Weird World of Mummy Parties Burials & Beyond. https://burialsandbeyond.com/2023/11/05/the-weird-world-of-mummy-parties/
Clinker, S. (2024). Unraveling Mummy Objectification: An Evaluation of the History and Legacy of Mummymania. International Journal of the Inclusive Museum, 17(1).
Dhwty. (2020). Disrespect and Desecration at Victorian Mummy Unwrapping Parties. Ancient Origins Reconstructing the Story of Humanity’s Past. https://www.ancient-origins.net/history-ancient-traditions/disrespect-desecration-victorian-mummy-unwrapping-0010129
Nikolaidou, D. (2016, February 23). Victorian Party People Unrolled Mummies For Fun. Atlas Obscura. https://www.atlasobscura.com/articles/victorian-party-people-unrolled-mummies-for-fun
Rogers, B. (2015). Unwrapping the past: Egyptian mummies on show. In Popular Exhibitions, Science and Showmanship, 1840–1910 (pp. 215-234). Routledge.
*เครดิตภาพ
Examination of a Mummy by Paul Dominique Philippoteaux c 1891 : Artmight / via. Atlas Ocscura
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #อียิปต์ #ไอยคุปต์ #มัมมี่ #โลกหลังความตาย #ความบันเทิง #งานเลี้ยง #งานปาร์ตี้ #ยุควิคตอเรีย #งานแกะห่อมัมมี่

🎊พิเศษสุด ๆ ต้อนรับปีใหม่ 🎊ส่งท้ายปีกับสำนักพิมพ์ยิปซี ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ!🎁’Books Gift set’ 🎁เพียงจับจองหนังสือราคาพิ...
03/12/2024

🎊พิเศษสุด ๆ ต้อนรับปีใหม่ 🎊
ส่งท้ายปีกับสำนักพิมพ์ยิปซี ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ!
🎁’Books Gift set’ 🎁
เพียงจับจองหนังสือราคาพิเศษ พร้อมของขวัญปีใหม่ให้กับแฟนหนังสือ
🎉 หมายเหตุ : รับฟรี ‘New Year Card’ แบบ Limited Edition และ GYPZY BOOK BOX สุดพิเศษ เมื่อซื้อครบ 1,500 บาทขึ้นไป 🎉
🌟 โปรโมชั่นปีใหม่สำหรับนักอ่านที่สนับสนุนกันมาตลอดทั้งปี 🌟
📚หนังสือเล่มเดี่ยว📚
เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ ฉบับครบรอบ 10 ปี (BOXSET)
ปกติ 1️⃣2️⃣0️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 1️⃣0️⃣0️⃣0️⃣ บาท
เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ ฉบับครบรอบ 10 ปี (แจ็กเกตปกแข็ง)
ปกติ 7️⃣5️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 6️⃣7️⃣5️⃣ บาท
เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ ฉบับครบรอบ 10 ปี (ปกอ่อน)
ปกติ 5️⃣3️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 4️⃣5️⃣1️⃣ บาท
เน็กซัส : ประวัติย่อการสื่อสาร จากยุคหินสู่เอไอ (Nexus)
ปกติ 6️⃣5️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 5️⃣8️⃣5️⃣ บาท
ยุโรปยุคกลาง : Medieval Europe
ปกติ 4️⃣2️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 3️⃣5️⃣7️⃣ บาท
สัตว์ประหลาด อสุรกาย ในตํานานกรีก-โรมัน (Monsters and Creatures in Greco- Roman Mythology)
ปกติ 3️⃣7️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 3️⃣1️⃣5️⃣ บาท
🐵 พิเศษ ‘ชุดเซเปียนส์กราฟิก’ 🐵
เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก (เล่ม 1) Sapiens: A Graphic History: The Birth of Humankind (Vol. 1)
เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก (เล่ม 2) Sapiens: A Graphic History: The Birth of Humankind (Vol. 2)
รวม 2 เล่ม ปกติ 7️⃣9️⃣3️⃣ บาท เหลือเพียง 6️⃣5️⃣0️⃣ บาท
🤖 ชุดจากเซเปียนส์ถึง AI ราคาขาย 1800 บาท 🤖
เน็กซัส : ประวัติย่อการสื่อสาร จากยุคหินสู่เอไอ
‘เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ ฉบับครบรอบ 10 ปี (ปกอ่อน)’🏃‍♂️
โฮโมดีอุส ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้ : Homo Deus A Brief History of Tomorrow 📡
21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : 21 Lessons for the 21 Century 🌏
รวม 4 เล่ม ปกติ 2️⃣1️⃣9️⃣5️⃣ บาท เหลือเพียง 1️⃣7️⃣0️⃣0️⃣ บาท
👓 ชุดหนังสือจาเร็ด ไดมอนด์ 👓
ชิมแปนซีที่สาม วิวัฒนาการและอนาคตของสัตว์มนุษย์ The Third Chimpanzee
การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ : จุดเปลี่ยนสำหรับนานาประเทศท่ามกลางภาวะวิกฤต
ปืน เชื้อโรค เหล็กกล้า กับชะตากรรมของสังคมมนุษย์
เซ็กซ์นั้นสนุกไฉน วิวัฒนาการด้าน เพศวิถีของมนุษย์
รวม 4 เล่ม ปกติ 1️⃣9️⃣7️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 1️⃣6️⃣0️⃣0️⃣ บาท
🌏 ชุดอารยธรรมและทวีป 🌏
ประวัติศาสตร์เปอร์เซียยุคอะคีเมนิด
24 ชั่วโมงในโรมโบราณ ชีวิตในหนึ่งวันของผู้คนที่นั่น
ประวัติศาสตร์คอนสแตนติโนเปิล
จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ มหาจักรวรรดิพันปีแห่งยุโรปกลาง
มหาจักรวรรดิมองโกล
มหาจักรวรรดิผู้พิชิต : The Ottoman Empire
รวม 6 เล่ม ปกติ 2️⃣1️⃣7️⃣0️⃣ บาท เหลือเพียง 1️⃣8️⃣0️⃣0️⃣ บาท
💂 ชุดประวัติศาสตร์สงคราม 💂
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (ปกแข็ง)
มิคาเอล วิทท์มันน์ เสือรถถังไทเกอร์แห่งนาซีเยอรมัน (ปกแข็ง)
กองกำลังเอสเอส หน่วยพิฆาตแห่งนาซี
ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2
8 ขุนพลของฮิตเลอร์ (ปกแข็ง)
สงครามเวียดนาม
รวม 6 เล่ม ปกติ 2️⃣3️⃣1️⃣5️⃣ บาท เหลือเพียง 1️⃣8️⃣0️⃣0️⃣ บาท
ห้ามพลาดของขวัญปีใหม่สุดพิเศษจากพวกเราชาวยิปซี!
📌วาร์ปไปรับหนังสือสุดพิเศษได้ที่📌
Shopee: https://bit.ly/3SUpbon
Lazada: https://bit.ly/3P2NEql
Facebook: https://bit.ly/4bzcyYg
Line Official: https://bit.ly/489k49b
Website: https://www.gypsygroup.net/home
#สำนักพิมพ์ยิปซี #อ่านยิปซี #ยิปซี #โปรโมชั่น #สวัสดีปีใหม่ #สวัสดีปีใหม่2568 #จับฉลาก #สิ้นปี #ปีใหม่ #ของขวัญ #ของขวัญปีใหม่

ที่อยู่

เลขที่ 37/145 ถ. รามคำแหง แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
Bangkok
10240

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักพิมพ์ ยิปซีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง สำนักพิมพ์ ยิปซี:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์


ผู้จััดพิมพ์เผยแพร่ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด