Mission To The Moon

Mission To The Moon ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Mission To The Moon, พอดแคสต์, 50 Rama IX Soi 53, Rama 9 Road, Pattanakarn, Suanluang, Bangkok.
(1)

การสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในโลกการทำงาน เพราะถ้าเราสื่อสารกับคนอื่นเก่ง มันก็จะทำให้งานของเราราบรื่นขึ้น ร...
09/12/2023

การสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในโลกการทำงาน เพราะถ้าเราสื่อสารกับคนอื่นเก่ง มันก็จะทำให้งานของเราราบรื่นขึ้น รวมถึงโน้มน้าวใจคนอื่นได้ดีขึ้น
ซึ่งทักษะการสื่อสารนั้น มีความเกี่ยวโยงกับอีกทักษะแห่งการพรีเซนต์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการทำงาน เพราะในโลกแห่งการทำงานนั้น เราจำเป็นที่จะต้องพรีเซนต์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพรีเซนต์ไอเดีย พรีเซนต์วิธีการทำงาน รวมถึงพรีเซนต์ผลงานของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในห้องประชุมก็ตาม
เราจึงได้รวม 5 พอดแคสต์จากรายการ Remaster ที่จะมามอบเคล็ดลับในการขัดเกลาทักษะการสื่อสารและการพรีเซนต์ที่เป็นอาวุธสุดสำคัญในการทำงาน ณ ปัจจุบันนี้
#พัฒนาตัวเอง
#การสื่อสาร
#การพรีเซนต์
#พอดแคสต์



09/12/2023

โลกของเราเต็มไปด้วยคนหลายประเภท
บ้างก็เป็นคนดี บ้างก็เป็นคนไม่ดี
ที่ชอบมีทริกต่างๆ มาล่อลวงเรา
ให้ตกหลุมพรางโดยไม่รู้ตัว
มาสำรวจ 9 ประเภทของนักล่อลวง
พร้อมรู้เท่าทันกระบวนการ
ในการชักจูงของบุคคลเหล่านี้
ผ่านหนังสือ The Art of Seduction
โดย Robert Greene นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน
เชิญรับฟังพร้อมๆ กันได้ใน MM Podcast EP.2001 | จับได้ไล่ทันคนชอบปั่นหัว ผ่านศาสตร์แห่งการล่อลวง #สรุปหนังสือ
ซื้อประกันสุขภาพและประกันรถยนต์ออนไลน์กับซันเดย์ สะดวก ง่าย ได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ https://ezsun.co/Xm9PxPq
และอย่าลืมใส่โค้ด missiontothemoon ที่หน้าชำระเงิน เพื่อรับส่วนลด 10%
(สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้กับทุกแผนประกัน)
สอบถามเจ้าหน้าที่ ติดต่อ:
- โทร 0 2026 3355
- แอด LINE
#ประกันซันเดย์ #ซันเดย์อินชัวร์เทค #ซันเดย์ประกันเมคเซนส์
#สรุปหนังสือ
#การโน้มน้าวใจ
#พอดแคสต์


09/12/2023

ความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของทุกคน
กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น
กลัวการต้องพูดต่าหน้าคนมากมาย
กลัวการต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
ความกลัวของบางคนอาจเป็นเรื่องใหญ่
มากกว่าที่ใครหลายคนคิด
และอาจสร้างผลกระทบ
ให้กับชีวิตของคนคนหนึ่งได้เลย
โดยพอดแคสต์ 5M EP. จะพาทุกคน
มารู้จักกับเคล็ดลับขจัดความกลัว 7 วิธี
ก่อนที่ความกลัวในใจจะกัดกิน
ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ


09/12/2023

หลายคนมักชอบบอกว่าชีวิตคือการเดินทางแต่ไม่มีใครสามารถบอกเราได้ว่าเส้นทางที่เราเลือกนั้น เป็นเส้นทางที่ถูกต้องหรือไม่
ใน Mission To The Moon EP. นี้มารับฟังไปพร้อมๆ กันว่าถ้าเรารู้สึกสับสนและรู้สึกว่าชีวิตไร้ทิศทางเราควรทำอย่างไร และควรตัดสินใจก้าวเดินต่อไปทางไหนดี
รับชมฉบับเต็มได้ที่
https://bit.ly/3uNK3VK

“เวลาคือสิ่งที่มีค่า” ค่อนข้างมั่นใจว่าหากกล่าวประโยคคลาสสิกนี้ หลายๆ คนก็ต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน เราถูกสอนกันมาตั้งแต่...
09/12/2023

“เวลาคือสิ่งที่มีค่า” ค่อนข้างมั่นใจว่าหากกล่าวประโยคคลาสสิกนี้ หลายๆ คนก็ต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน เราถูกสอนกันมาตั้งแต่เด็กว่าไม่ว่ามนุษย์จะมีฐานะร่ำรวยจนสามารถซื้อทุกสิ่งที่ต้องการได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อได้ก็คือ “เวลา” เวลาเป็นต้นทุนชีวิตหนึ่งที่ทุกคนมีเท่ากันและยากที่จะเอาเวลาที่เสียไปกลับมาได้อีก
แม้ว่ามนุษย์ทุกคนจะใช้มาตรวัดในเรื่องเวลาที่เหมือนกัน แต่จุดที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนมีต้นทุนทางเวลาไม่เท่ากันก็คือความสามารถในการจัดสรรเวลาให้มีค่ามากที่สุดเพื่อนำต้นทุนทางเวลาที่มีอยู่ไปลงทุนทำกิจกรรมที่สร้างมูลค่ามากที่สุดโดยไม่เสียเปล่า ถ้าหากจะให้พูดถึงคุณค่าและการลงทุนกับสินทรัพย์ที่เรียกว่า “เวลา” ก็คงไม่มีใครที่สามารถเป็นกรณีศึกษาได้อย่างน่าสนใจมากเท่ากับเจ้าพ่อในโลกของการเงินการลงทุนอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เป็นนักลงทุนระดับโลก ซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ และยังเป็นเจ้าของหนังสือดังอย่าง Buffettology, 10 Golden Principles of Warren Buffett และ The Essays of Warren Buffett นอกจากจะมีปรัชญาการลงทุนที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นไอดอลให้กับนักลงทุนทั่วโลกแล้ว วอร์เรน บัฟเฟตต์ยังเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการบริหารจัดการเวลาที่มีค่าและมีคำกล่าวที่โด่งดังในโลกการเงินการลงทุนอย่าง “The rich invest in time, The poor invest in money” หรือคนรวยลงทุนในเวลา คนจนลงทุนในเงิน และมีกฎเหล็กในการจัดการเวลาในชีวิตอย่างกฎ 5/25
เมื่อหัวข้อเรื่องเวลาเป็นเรื่องที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ให้ความสำคัญและกฎ 5/25 เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างมูลค่าจากเวลาของนักลงทุนเลื่องชื่อของโลกได้มากกว่าสินทรัพย์ใดๆ วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปเรียนรู้กฎเหล็กอย่าง 5/25 เพื่อให้เวลาที่มีค่าของเราไม่เสียเปล่า
ปฐมบทของกฎ 5/25 “เวลาที่เสียไป มักมีต้นทุนค่าเสียโอกาสเสมอ”
เคยรู้สึกหรือไม่ว่าทุกครั้งที่เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต เราจะรู้สึกว่าเวลานั้นไม่พอเสมอและต้องการเวลาที่มากขึ้นในแต่ละวันเพื่อให้ทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จ หรือถึงแม้ว่าเราจะทำสำเร็จแต่ถ้าหากผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่ดีพอ เราก็จะรู้สึกเสียดายเวลาที่เสียไปจนอยากที่จะย้อนกลับไปแก้ไข
ความรู้สึกเสียดายเวลาเหล่านี้ เราสามารถเรียกชื่อในทางเศรษฐศาสตร์ได้ว่าเป็น “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” หรือ Opportunity Cost ซึ่งเป็น “มูลค่าของผลตอบแทนจากกิจกรรมที่เราสูญเสียโอกาสไปเพื่อทำกิจกรรมอย่างอื่น” ตัวอย่างเช่น เราเลือกที่จะทำงานให้หนักขึ้น แต่การทำงานหนักนั้นก็ย่อมมาพร้อมกับเวลาที่ให้กับครอบครัวน้อยลง เท่ากับว่าเราจะสามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ แต่ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็จะแย่ลงด้วยเช่นกัน
กฎ 5/25 จึงเป็นกฎที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเลือกที่จะเสีย “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” ให้กับสิ่งที่จำเป็นน้อยที่สุดในชีวิตและให้เวลากับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ก่อน เพื่อป้องกันโอกาสในการบรรลุเป้าหมายของชีวิตนั้นและป้องกันไม่ให้ชีวิตต้องเสียต้นทุนทางด้านเวลาที่มีค่าอย่างมหาศาล
กฎ 5/25 กฎเหล็กเพื่อเวลาที่มีค่าและไม่เสียเปล่า
เราอาจจะเคยได้ยินกฎในการบริหารจัดเวลาอย่าง 60-30-10, 8-8-8 หรือกฎยอดนิยมอย่าง 80/20 แต่สำหรับกฎ 5/25 นั้นคงจะต้องนิยามอย่างง่ายๆ ว่าเป็นเหมือนกับเกมที่ท้าทายเราให้มุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชีพ ความฝัน สุขภาพ ครอบครัว คนรัก แล้วทุ่มเทเวลาที่มีค่าเพื่อทำเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดนั้นให้สำเร็จ ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นให้สำเร็จง่ายขึ้น มากกว่าการที่เราจัดการเป้าหมายทั้งหมดในคราวเดียวโดยไม่รู้ว่าเป้าหมายใดที่สำคัญกับชีวิตกันแน่
สำหรับขั้นตอนในการทำตามกฎ 5/25 นั้นเริ่มต้นจากการเขียนเป้าหมายในชีวิตที่เราอยากทำให้สำเร็จออกมาเป็นจำนวน 25 ข้อ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เลือกและวง 5 ข้อที่สำคัญกับชีวิตของเรามากที่สุด แล้วจึงหันมาให้ความสำคัญโดยลงมือทำ 5 ข้อหลักนั้นเป็นลำดับแรกในชีวิต ส่วนอีก 20 ข้อที่เหลือนั้นให้เก็บไว้ ไม่ต้องสนใจจนกว่าจะทำเป้าหมาย 5 ข้อนั้นสำเร็จ
วิธีเลือกเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิต 5 ข้อ
เมื่อชีวิตมีเวลาที่จำกัดและเราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ในเวลาเดียว การเลือกเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิต 5 ข้อจึงเป็นหัวใจหลักที่จะบ่งบอกเส้นทางของชีวิตที่เรากำลังจะเดินทางไปในอนาคต แล้วเราจะตัดสินใจเลือกเป้าหมาย 5 ข้อหลักได้อย่างไร?
วิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย 25 ข้อนั้นเพื่อให้ได้ 5 ข้อหลักก็คือการใช้เฟรมเวิร์กในการจัดเรียงเป้าหมายที่สำคัญผ่านเกณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SMART (เจาะจง, วัดผลได้, ทำได้จริง, มีความสอดคล้องและมีกรอบเวลาที่ชัดเจน) หรือ Eisenhower Matrix (ทำเป้าหมายที่สำคัญและเร่งด่วนทันที ส่วนเป้าหมายที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วนให้จัดสรรเวลาในการทำ)
แต่ไม่ว่าจะใช้เฟรมเวิร์กใดก็ตาม สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามในการเลือกเป้าหมาย 5 ข้อหลักก็คือ “เป้าหมายนั้นเป็นความสุขที่แท้จริงหรือไม่” ให้ลองนึกภาพหลังจากที่เราประสบความสำเร็จในเป้าหมายนั้นดูว่าชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงหรือไม่ และเป้าหมายนั้นดึงดูดให้เราลงมือทำได้มากแค่ไหน เพราะสุดท้ายแล้วการตั้งเป้าหมายที่เราไม่ได้ต้องการจริงๆ ก็จะทำให้เราไม่สามารถมีวินัยในการทำสิ่งนั้นได้ในระยะยาว
ได้เป้าหมายหลักแล้ว ควรทำอย่างไรเพื่อให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ
แม้ว่ากฎ 5/25 จะเป็นกฎที่ได้ผลดี แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะอดทนและมีวินัยในการทำตามแผนของตัวเองได้ ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์ ต้องต่อสู้กับการผัดวันประกันพรุ่งและสิ่งรบกวนจิตใจ การ “เคลียร์พื้นที่ของสมอง เพิ่มเวลาลงมือทำ” จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จกับกฎ 5/25 ได้จนสุดทาง
[ ] เริ่มจากการเชื่อมั่นในเป้าหมาย 5 ข้อหลักก่อน โดยเป้าหมายทุกข้อเราต้องมีเหตุผลในใจว่าทำไมเราจึงต้องการเป้าหมายเหล่านั้น
[ ] สร้างบรรยากาศให้รบกวนน้อยที่สุดและขจัดสิ่งรบกวนสมาธิรอบๆ ตัว
[ ] มีเครื่องมือในการจัดระเบียบงานที่มีประสิทธิภาพ (เช่น การใช้สมุดแพลนเนอร์หรือแอปพลิเคชันในการจัดระเบียบตารางงาน แทนการจดลงในเศษกระดาษที่ไม่มีระเบียบและมีโอกาสสูญหาย)
[ ] อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน ให้ทำเพียงงานเดียวอย่างตั้งใจ
[ ] อย่าโฟกัสกับเป้าหมายจนรู้สึก Burnout พยายามหยุดพักเพื่อฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาจากวันที่เหนื่อย (เช่น เดินเล่นข้างนอกบ้าน ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ตามสวน หรือหยุดเล่นโทรศัพท์เพื่อลดความเครียด)
และที่สำคัญที่วอร์เรน บัฟเฟตต์พยายามย้ำก็คืออย่าเสียเวลาไปกังวลกับเป้าหมายรองที่นอกเหนือจาก 5 อันดับแรก เพราะการที่ไปสนใจสิ่งที่รองลงมานั้นเท่ากับว่าเราได้เบียดเบียนพื้นที่ในสมองและเบียดเบียนเวลาที่มีค่าไปแล้ว ให้ทำเป้าหมายหลักให้สำเร็จแล้วจึงค่อยเลื่อนเป้าหมายรองนั้นขึ้นมาทำเป็นลำดับต่อไป
ถ้าหากจะค้นหาคำตอบว่ากฎ 5/25 มีประสิทธิภาพมากเพียงใดนั้น เราต้องยอมรับว่าการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ยากๆ นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำในชีวิตการทำงานของวอร์เรน บัฟเฟตต์มาโดยตลอด เขาเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักลงทุนมหาเศรษฐีจากเด็กวัยรุ่นตัวเล็กๆ ที่ก้าวเข้าตลาดจากการเลือกศึกษาและลงทุนในหุ้น Cities Service Preferred ที่ราคา 38 ดอลลาร์ต่อหุ้น ไปจนถึงการลงทุนในหุ้น Apple ที่สร้างมูลค่าให้พอร์ตมากถึง 139 พันล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเส้นทางที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เลือกจากการถือครองเพียงไม่กี่หุ้นและใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อลงทุนทั้งความรู้ ความตั้งใจ แรงกาย และเม็ดเงินไปกับหุ้นเพียงไม่กี่ตัวนั้น
กับมนุษย์วัยทำงานอย่างเราก็เช่นกัน แม้ว่าเราจะมีหลายสิ่งที่อยากได้ อยากมี และอยากเป็นในชีวิต แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะทำสิ่งใหญ่ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน “การลงทุนกับเวลา” ด้วยการนำทรัพยากรเวลาที่มีค่าไปลงมือทำเป้าหมายหลัก 5 อันดับในชีวิต จึงเป็นวิธีที่ทำให้เราค่อยๆ คิด ค่อยๆ เลือกและค่อยๆ ทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ ซึ่งไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะยากเพียงใดแต่ถ้าหากเราลงมือทำโดยไม่ต้องสนใจสิ่งรบกวน เราก็จะมีโอกาสเห็นผลตอบแทนที่ดีได้อย่างแน่นอน




“เธอคิดมากไปเปล่า ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย” “ทำไมเธอถึงทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่...”ถ้าใครเคยถูกผู้อื่นพูดใส่แบบนี้ จ...
08/12/2023

“เธอคิดมากไปเปล่า ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย”
“ทำไมเธอถึงทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่...”
ถ้าใครเคยถูกผู้อื่นพูดใส่แบบนี้ จนตื่นตระหนกและเริ่มคิดว่า บางทีตนเองอาจจะคิดมากแบบที่คนอื่นบอก ให้รู้ไว้เถอะว่าคุณกำลังถูก ‘Gaslighting’!
ทำไมคำว่า ‘ตะเกียง’ ถึงอธิบายถึงประเด็นเชิงจิตวิทยา และเราจะตรวจสอบได้อย่างไร ว่าเรากำลังถูกกระทำเช่นนั้น วันนี้เราจะมารู้จักกับ ‘Gaslighting’ กัน

‘Gaslighting’ สิ่งน่ากลัวในความสัมพันธ์
เมื่อเธอบอกว่าฉัน ‘เข้าใจผิดคิดบ้าไปเอง’
“เธอคิดมากไปหรือเปล่า ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย”
“ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่...”
“เป็นบ้าเหรอ!”
ถ้าใครเคยถูกผู้อื่นพูดใส่แบบนี้ จนตื่นตระหนกและเริ่มคิดว่า บางทีตนเองอาจจะคิดมากหรือเป็นบ้าแบบที่คนอื่นบอก ให้รู้ไว้เถอะว่าคุณกำลังถูก ‘Gaslighting’! ...ทำไมคำว่า ‘ตะเกียง’ ถึงอธิบายถึงประเด็นเชิงจิตวิทยา และเราจะตรวจสอบได้อย่างไร ว่าเรากำลังถูกกระทำเช่นนั้น วันนี้เราจะมารู้จักกับ ‘Gaslighting’ กัน
ืออะไร

คำว่า Gaslight ที่แปลว่าตะเกียงนั้น ถูกใช้เพื่อเปรียบเปรยภาวะการถูกชักใยจากคนอื่น และทำให้สับสนเกี่ยวกับความทรงจำหรือการรับรู้ของตนเอง โดยมาจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Gaslight’ (1944) ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับสามีที่ต้องการฮุบสมบัติของภรรยา โดยการทำให้ภรรยาคิดว่าตัวเองเป็นคนบ้า
ภาพยนตร์ ‘Gaslight’ มีฉากสำคัญฉากหนึ่ง คือตอนที่สามีแอบหรี่แสงตะเกียง เมื่อภรรยากล่าวถึงแสงตะเกียงที่มืดลง สามีกลับตำหนิว่า เธอเป็นบ้าคิดไปเอง ตะเกียงยังส่องแสงปกติ ทำให้ฝ่ายภรรยาเริ่มคิดว่า ตัวเองเป็นบ้าไปจริงๆ เพราะสามีเอาแต่พูดแบบนี้กับเธอ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วสามีสร้างสถานการณ์ขึ้นทั้งหมด ค่อยๆ ทำทีละเล็กทีละน้อย จนภรรยาสับสน และรู้สึกว่าตนเองต้องพึ่งพาสามีไปเรื่อยๆ
เมื่ออ่านถึงตรงนี้ หลายๆ คนคงเริ่มรู้สึกว่า ตนเองก็เคยตกเป็นเหยื่อของ Gaslighting มาแล้ว ไม่ว่าจะในความสัมพันธ์ของคนรัก ครอบครัว ที่ทำงาน หรือกระทั่งผู้มีอำนาจที่กล่าวผิดเป็นถูก กลับขาวเป็นดำ และโยนความผิดให้ผู้ถูกปกครองเข้าใจว่า พวกเขาคิดโอเวอร์เกินความจริง
ันตรายหรือไม่

นักจิตวิทยาที่ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ nbcnews บอกว่า Gaslighting นั้น “อันตราย” เพราะการสับสนระหว่างความลวงกับความจริง อาจทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม การ Gaslight ก็อาจไม่ได้หวังผลให้คนที่ถูกกระทำประสาทหลอนไปจริงๆ แต่ต้องการแค่เพิ่มอำนาจให้ตัวเอง เพื่อเป็นผู้ควบคุม หรือเปลี่ยนความผิดของตัวเอง โดยโยนให้อีกฝ่ายเป็นคนเข้าใจผิดแทน
เช่น เมื่อภรรยากล่าวว่า สามีคุยกับผู้หญิงอื่น และถามว่าเขากำลังนอกใจใช่หรือไม่ ฝ่ายสามีจะตะคอกกลับเสียงดัง ปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ทำ และมักตอบท้ายว่า “เธอคิดไปเอง!” หรือหัวหน้างานที่ทำงานผิดพลาด แต่กลับโทษว่าลูกน้องเป็นคนทำ เมื่อลูกน้องโต้แย้ง ก็จะรีบตวาดกลับไปว่า “คุณไม่รู้ล่ะสิว่าคุณทำผิดไว้แค่ไหน!” ด้วยอำนาจที่ไม่เท่าเทียมทางเพศ (กรณีสามีภรรยา) และอำนาจของตำแหน่ง (กรณีเจ้านายลูกน้อง) ทำให้อีกฝ่ายไม่อาจโต้เถียง และอยู่ในภาวะจำยอมไป
#ข้อสังเกตของGaslighting

คนที่พยายาม Gaslight คนอื่น จะรู้ว่าการสร้างความสับสนจะทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลง พวกเขาจึงมีพฤติกรรมที่ชอบปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้พูดหรือทำบางอย่าง แม้จะมีหลักฐานยืนยัน และพยายามทำให้คนอื่นเข้าใจเราผิดไปด้วย
ในขณะเดียวกันคนที่ถูก Gaslight จะมีอาการสงสัยในตนเอง หรือมีปัญหาในการตัดสินใจเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตนเอง หนักๆ เข้าจะเริ่มคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด หรือดีไม่พอ รู้สึกไม่มีความสุข ทุกข์ทรมาน แม้จะสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่คุณกลับตอบไม่ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
#วิธีรับมือกับGaslighting

จากข้อสังเกตข้างต้น เมื่อไรที่รู้สึกว่ากำลังเป็นผู้ถูกกระทำ ให้ตั้งสติดีๆ แล้วพยายามระบุให้ได้ว่า ตอนนี้คุณและอีกฝ่ายกำลังมีปัญหาอะไร อย่าไหลตามคำด่าทอหรือกล่าวหา แต่ควรคิดให้รอบคอบว่า เรื่องที่เป็นประเด็นนี้ คุณมีหลักฐานอะไร แม้อีกฝ่ายจะไม่ยอมรับ แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าคุณไม่ได้คิดไปเอง
ถ้าหากคุณรู้สึกแย่มากๆ ก็ปล่อยให้ตัวเองแสดงความรู้สึกนั้นออกมา และเมื่อไรที่คุณเข้าใจแจ่มแจ้งว่าคุณกำลังถูกทำร้ายหรือเปลี่ยนความจริงอย่างไม่เป็นธรรม ให้พาตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์นั้น แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ายังเข้มแข็งไม่พอ ให้ลองขอความคิดเห็นจากคนรอบข้าง พวกเขาจะชี้ให้คุณเห็นความจริงที่ถูกบิดเบือนได้ และสุดท้ายคือรักตัวเองและเห็นคุณค่าของตัวเองให้มากๆ จำไว้ว่า ถ้าสิ่งไหนเป็นความจริง สิ่งนั้นต้องเป็นความจริงไปตลอด อย่าให้ใครมาพยายามบิดเบือน และกล่าวหาคุณได้
แปลและเรียบเรียงจาก:

https://nbcnews.to/3aa3w5H
https://bit.ly/3scUQ4Z

08/12/2023

และแล้ว Mission To The Moon
ก็เดินทางมาถึง EP.2000
กว่าจะก้าวมาถึงวันนี้
ก็เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน
ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราว ผู้คน
และแรงบันดาลใจมากมาย
ใน EP. นี้เราจึงจะชวนทุกคนมา
ย้อนเรื่องราวกลับไปถึงก้าวแรกของ
Mission To The Moon Podcast
พร้อมเล่าเรื่องราวความประทับใจในช่วงที่ผ่านมา
ก่อนจะก้าวเข้าสู่เป้าหมายใหม่ๆ ต่อไป
เชิญรับฟังพร้อมๆ กันได้ใน MM Podcast EP.2000 | เส้นทาง-เรื่องราว-ผู้คน ย้อนรอยก้าวแรกของ Mission To The Moon Podcast
ซื้อประกันสุขภาพและประกันรถยนต์ออนไลน์กับซันเดย์ สะดวก ง่าย ได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ https://ezsun.co/Xm9PxPq
และอย่าลืมใส่โค้ด missiontothemoon ที่หน้าชำระเงิน เพื่อรับส่วนลด 10%
(สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้กับทุกแผนประกัน)
สอบถามเจ้าหน้าที่ ติดต่อ:
- โทร 0 2026 3355
- แอด LINE
#ประกันซันเดย์ #ซันเดย์อินชัวร์เทค #ซันเดย์ประกันเมคเซนส์
#แรงบันดาลใจ
#พอดแคสต์


08/12/2023

เรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน?
โลกใบนี้ประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย
ซึ่งบางครั้งมันก็ทำให้เราใช้ชีวิตจนลืมไปว่า
เราเป็นใคร หรือเป็นคนแบบไหน
มัวแต่มองหาสิ่งที่ต้องการ
จนมองข้ามสิ่งที่ควรค่าแก่เรามากที่สุดไป
แต่ถ้าเราเข้าใจและรู้จักตัวตนของเรามากพอ
ก็จะสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ รอบตัวได้
โดยพอดแคสต์ 5M EP. นี้ จะพาทุกคน
สำรวจแนวคิดที่ทำให้เรารู้จักตัวตน
และเข้าใจชีวิตได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น


08/12/2023

คำพูดอะไรจาก
หัวหน้า/เพื่อนร่วมงาน
ที่จำมาจนถึงทุกวันนี้?

การที่จะจบดีลธุรกิจในประโยคเดียว ต้องมีส่วนประกอบอะไรที่ทำให้ประโยคเดียวนั้นประสบความสำเร็จจนกลายเป็นแบบอย่างการ Pitch ไ...
08/12/2023

การที่จะจบดีลธุรกิจในประโยคเดียว ต้องมีส่วนประกอบอะไรที่ทำให้ประโยคเดียวนั้นประสบความสำเร็จจนกลายเป็นแบบอย่างการ Pitch ไอเดียให้กับเจ้าของธุรกิจทั่วโลกบ้าง?

ถอดบทเรียนและเทคนิคการ Pitch ไอเดียธุรกิจของ 2 ผู้ก่อตั้ง Google ไปพร้อมๆ กันได้ในโพสต์นี้

หากพูดถึงก้าวที่สำคัญของการที่ทำให้ Startup มีการเติบโตนั้น นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี ทีมที่มีคุณภาพแล้ว อีกส่วนประกอบที่สำคัญก็คงหนีไม่พ้นการ “ขายไอเดีย” ให้กับนักลงทุน เพื่อเปิดโอกาสในการได้รับเงินทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งการที่นักลงทุนจะ “ซื้อไอเดีย” ของเราหรือไม่นั้น แทบจะเรียกได้ว่าขึ้นอยู่กับวิธีการนำเสนอของเจ้าของธุรกิจว่าจะสามารถถ่ายทอดไอเดีย ดึงความสนใจของนักลงทุนและปิดการขายได้ในที่สุดหรือไม่
ซึ่งบนโลกใบนี้ก็มีหนังสือและหลักสูตรที่พูดถึงวิธีในการ Pitch ไอเดียธุรกิจกับนักลงทุนให้ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ถ้าหากให้พูดถึงกรณีศึกษาหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการ “ขายไอเดีย” และสามารถทำให้ Startup เล็กๆ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำมูลค่าได้ถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 25 ปีให้หลังนั้น ก็คงจะพลาดการ Pitch ของ 2 ผู้ก่อตั้งแห่ง “Google” ไปไม่ได้
หากย้อนไปเมื่อ 25 ปีก่อน Google เกิดขึ้นมาจากการก่อตั้งของ 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดอย่างแลร์รี่ เพจ (Larry Page) และเซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) จากการที่ทั้งคู่ตัดสินใจพักการเรียน นำเงินที่มีอยู่มาเช่าอู่ซ่อมรถและก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อชวนหัวเราะว่า Google
แม้ว่าพวกเราในปี 2566 จะเข้าใจการทำงานของ Google เป็นอย่างดี แต่ในปี 2541 นั้นมีน้อยคนที่จะเห็นภาพว่า Search Engine นั้นทำงานอย่างไร ซึ่งนี่ก็เป็นกำแพงที่ 2 ผู้ก่อตั้งต้องทำลายเพื่อให้ได้เงินทุนมาสร้าง Google ให้เติบโตได้ยิ่งใหญ่กว่าการอยู่ในอู่ซ่อมรถและพวกเขาก็สามารถทำลายกำแพงนั้นได้สำเร็จด้วยการชักชวนไมเคิล มอริตซ์ (Michael Moritz) นักลงทุนระดับตำนานจาก Sequoia Capital มาลงทุนด้วยจำนวนเงินถึง 12.5 ล้านดอลลาร์ผ่านกลยุทธ์การ Pitch ที่เรียกว่าการ “จบดีลธุรกิจในประโยคเดียว”
ย่อไอเดียทั้งหมดของธุรกิจให้อยู่ในประโยคเดียว
การขายไอเดียของ 2 ผู้ก่อตั้ง Google กับไมเคิล มอริตซ์นั้นเรียบง่ายและบอกเล่าไอเดียของ Google ผ่านคำศัพท์เพียง 12 คำอย่าง "To organize the world's information and make it universally accessible and useful." หรือ “เพื่อจัดระเบียบข้อมูลในโลก ทำข้อมูลนั้นให้เข้าถึงได้และมีประโยชน์กับทั้งโลก”
เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้นักลงทุนเข้าใจได้ทันทีว่า Google มีวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลที่กำลังถาโถมมาในโลกออนไลน์ในอีกไม่ถึงสิบปีข้างหน้า นักลงทุนมองเห็นอนาคตของธุรกิจและมองเห็นความเป็นไปของโลกเทคโนโลยีทันทีตั้งแต่ 2 ผู้ก่อตั้งยังไม่ได้อธิบายโมเดลธุรกิจเสียด้วยซ้ำ
จนถึงทุกวันนี้ไมเคิล มอริตซ์ก็ยังเชื่อว่าหาก 2 ผู้ก่อตั้งไม่สามารถอธิบายไอเดียธุรกิจของ Google ได้สั้นและกระชับแบบนี้ เขาในตอนนั้นก็คงจะไม่มีสมาธิ ไม่สนใจและตัดสินใจที่จะปล่อยผ่านไป แต่การที่ 2 ผู้ก่อตั้งสามารถสรุปไอเดียให้สั้นและทำให้เขาจดจำได้จึงเป็นเหมือนการปลดล็อกพื้นที่สมองของนักลงทุนที่มีเรื่องให้คิดมากมายให้สนใจธุรกิจของ Google ได้ในที่สุด
วันนี้เราจึงจะมาถอดบทเรียนและเทคนิคของ 2 ผู้ก่อตั้ง Google กันว่าการที่จะจบดีลธุรกิจในประโยคเดียวนั้น ต้องมีส่วนประกอบอะไรที่ทำให้ประโยคเดียวของพวกเขาประสบความสำเร็จจนกลายเป็นแบบอย่างการ Pitch ไอเดียให้กับเจ้าของธุรกิจทั่วโลกบ้าง
[ ] เทคนิคที่ 1 - ใจความประโยคนั้นต้องชัดและเข้าใจง่าย
“เจ้าของธุรกิจที่เก่งพอ จะสามารถดึงแก่นของธุรกิจออกมาให้เราเข้าใจได้ทันที” เหมือนกับพันธกิจหรือ Mission ของ Google ที่สามารถทำให้คนที่แม้จะไม่เข้าใจเทคโนโลยีก็สามารถเข้าใจธุรกิจได้ทันทีด้วยการใช้คำที่กระชับ สั้น เข้าใจง่าย เปลี่ยนศัพท์ทางเทคนิคที่ทำให้เกิดความสับสนให้เป็นประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับ
[ ] เทคนิคที่ 2 - ดึงความสนใจผู้ฟังด้วยการแก้ปัญหาในสิ่งที่ทุกคนต้องการ
ในหนึ่งประโยคนั้น 2 ผู้ก่อตั้ง Google ได้มีการนำความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในขั้นที่ 5 อย่าง Self-Actualization หรือความต้องการพัฒนาศักยภาพของตนมาใช้ประโยชน์เพื่อดึงความสนใจของนักลงทุน
นอกจากความต้องการพื้นฐานแล้วมนุษย์ยังต้องการที่จะพัฒนาตัวเอง ต้องการแหล่งความรู้ที่สามารถเข้าถึงได้ ต้องการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้เหนือกว่ามนุษย์ด้วยกัน ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและ Google สามารถแก้ปัญหานี้ได้ผ่านประโยค “ทำข้อมูลนั้นให้เข้าถึงได้และมีประโยชน์กับทั้งโลก”
การดึงเอาปัญหาที่ทุกคนกำลังพบเจอผ่านทฤษฎีความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์มาแก้ปัญหาด้วยผลิตภัณฑ์ของตัวเองเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลมาตลอด เพราะคนทั่วไปมักไม่สนใจไอเดียของเราจนกว่าไอเดียนั้นจะเชื่อมโยงกับพวกเขาจริงๆ การดึงความสนใจผู้ฟังด้วยการแก้ปัญหาหรือการตอบโจทย์ที่ทุกคนกำลังต้องการจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราชนะใจผู้ฟังได้ง่ายที่สุด
[ ] เทคนิคที่ 3 - ต้องกล้าเล่นใหญ่และทำให้นักลงทุนเห็นความทะเยอทะยาน
การ Pitch ไอเดียของ Google ไม่ได้เป็นการนำเสนอแนวคิดของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสนี้ในการสร้างแรงบันดาลใจให้นักลงทุนเห็นว่าข้อมูลที่มีอยู่มากมายมหาศาลบนโลกนั้น จะสามารถย่อส่วนให้อยู่ในมือของคนทุกคนได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องสมุดหรือเดินทางไกลไปยังแหล่งข้อมูลอีกต่อไป
การ Pitch ไอเดียธุรกิจของเรานั้นไม่จำเป็นที่จะต้องขายแค่ตัวธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อไอเดียได้ง่ายที่สุดคือการกล้าที่จะ “เล่นใหญ่” เพื่อให้นักลงทุนเห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ธุรกิจของเราดำเนินต่อไปและที่สำคัญคือต้องทำให้พวกเขาเห็นถึงความทะเยอะทะยานของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าเรามีความตั้งใจมากพอที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
“ทุกคนมีไอเดียที่ดีได้ แต่ถ้าเราไม่สามารถทำให้ผู้ฟังเข้าใจและจดจำมัน นั่นแปลว่าไอเดียดีๆ ของเราก็ไม่มีประโยชน์” การจบดีลธุรกิจในประโยคเดียวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจควรให้ความสำคัญเพื่อให้สามารถเอาชนะใจนักลงทุน
ซึ่งอย่าลืมว่านักลงทุนก็เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่นๆ ที่มีเรื่องให้คิด มีสิ่งที่ต้องทำมากมายและไม่สามารถจดจำการนำเสนอที่เข้าใจยากหรือสไลด์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลได้ เพราะฉะนั้นหัวใจง่ายๆ ที่ทำให้การขายไอเดียของ Google ประสบความสำเร็จจึงเป็นการขายไอเดียที่ “สั้นและน่าจดจำ” เพื่อดึงดูดความสนใจ มีหมัดฮุคเป็นประโยคสั้นๆ ที่สามารถติดอยู่ในสมองของนักลงทุนและทำให้นักลงทุนหันมาสนใจการลงทุนในธุรกิจได้ในที่สุด




เปิดรับสมัครแล้ว! พนักงานประจำ ที่ Mission To The Moon Media บริษัทสื่อออนไลน์ของคนยุคใหม่ไฟแรงที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื...
08/12/2023

เปิดรับสมัครแล้ว! พนักงานประจำ ที่ Mission To The Moon Media บริษัทสื่อออนไลน์ของคนยุคใหม่ไฟแรงที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
[ ] ตำแหน่งพนักงานประจำที่เปิดรับสมัคร
Business Development Manager 1 ตำแหน่ง
กรุณาอ่านรายละเอียดของแต่ละตำแหน่งในแคปชันของภาพ
หากสนใจร่วมงานเรา ส่งอีเมลมาที่ [email protected]
โดยตั้งชื่อหัวข้ออีเมลว่า “สมัครงาน ตำแหน่ง………….”
• ภายในอีเมลจะต้องประกอบด้วย
[ ] การแนะนำตัวเองสั้นๆ ในเนื้อหาอีเมล
[ ] ประวัติส่วนตัว (Resume)
[ ] ผลงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร (Portfolio)
[ ] เงินเดือนที่ต้องการ
[ ] วันที่พร้อมเริ่มงาน
ระยะเวลาในการตอบกลับ
• จะมีอีเมลตอบกลับว่า “ได้รับอีเมลของท่านแล้ว” ภายใน 3 วันหลังจากการส่ง
• กรณีไม่ได้รับอีเมลภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถสอบถามทาง Inbox Page: Mission To The Moon
• การแจ้งการคัดเลือกรอบแรก (รอบ Portfolio) จะแจ้งกลับทางอีเมลให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเท่านั้น เพื่อนัดสัมภาษณ์ต่อไป โดยการพิจารณาอีเมลจะใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์นับจากการส่งของท่าน
• เมื่อสัมภาษณ์แล้ว จะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยจะส่งอีเมลแจ้งผลการสัมภาษณ์ให้กับทุกท่าน ทั้งผู้ที่ได้รับคัดเลือกและไม่ได้รับคัดเลือก
#สวัสดิการพนักงาน
1. Flexible Working Hour: ให้เวลาทำงานอย่างยืดหยุ่น เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับความโปรดักทีฟของตัวเองได้ (แต่ต้องติดต่อได้ในเวลาทำการปกติ)
2. A Book Per Month / Thai Massage: ให้โควตาซื้อหนังสืองบสูงสุด 800 บาท สำหรับภาษาอังกฤษ และ 500 บาทสำหรับภาษาไทย จำนวน 1 เล่ม/เดือน โดยไม่จำกัดประเภทหนังสือ หรือเลือกใช้สิทธ์นวดเพื่อสุขภาพ เดือนละ 500 บาท
3. Recreation Room: มีห้องสันทนาการและพักผ่อน พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งเกม PS4, คาราโอเกะ, เตียงนอน (แบบเตียงจริงๆ นอนหลับสนิทกันไปเลย!)
4. Fitness Room: มีห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์จำเป็น (ใช้ร่วมกับพี่ๆ น้องๆ ศรีจันทร์) ล่าสุดมี Standing Desk ยืนทำงานไปด้วย เดินไปด้วย แอคทีฟสุดๆ ! และมีห้องอาบน้ำให้บริการ
5. Discount for Coffee Lovers!: ส่วนลดอาหารและเครื่องดื่มร้าน Tastes เดินซื้อได้ทั้งวัน
6. โบนัสประจำปี ตามผลประกอบการบริษัท (ได้เฉพาะพนักงานประจำ)
7. ค่าคอมฯ ต่อเดือน เมื่อทำยอดขายได้ทะลุเป้า มอบให้กับทุกคนในทีม ไม่ใช่แค่ทีมขาย (เฉพาะพนักงานประจำ)
8. ประกันสุขภาพและค่าทันตกรรม สูงสุด 3,000 บาท/ปี และอื่นๆ อีกมากมาย (เฉพาะพนักงานประจำ)
#วันหยุดพิเศษ!
นอกจากลาพักร้อน ลากิจ ลาป่วย เรายังมีวันลาพิเศษให้ด้วย (เฉพาะพนักงานประจำ)
1. ลาวันเกิด ลาได้ 1 วัน ในเดือนเกิด
2. ลาคลอดโดยได้รับค่าจ้าง สูงสุด 180 วัน
3. สามีลาดูแลภรรยาที่คลอดบุตร สูงสุด 30 วัน
4. ลาเพื่อผ่าตัดแปลงเพศ สูงสุด 30 วัน
5. ลาพักใจกรณีสูญเสีย สูงสุด 10 วัน
#สถานที่ทำงาน
ปัจจุบันบริษัทใช้นโยบาย Hybrid Work เข้าบริษัทบางวัน สลับกับทำงานที่บ้าน โดยวันที่เข้าบริษัทจะเป็นไปตามที่แต่ละทีมกำหนด
[ ] สถานที่ทำงานกรณีเข้าออฟฟิศ : 50 ซอยพระรามเก้า 53 ถนนพระราม 9 แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250


07/12/2023

เมื่อเราคิดถึงการทำงานอะไรสักอย่างบนอวกาศ
ส่วนใหญ่ก็คงคิดถึงการเป็น “นักบินอวกาศ” เป็นอันดับแรกๆ
ที่ทำหน้าที่ค้นหาและสำรวจพื้นที่ชายแดนใหม่ๆ
ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเคยไปเหยียบมาก่อน
แต่การทำงานในอวกาศมันไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการสำรวจ
หรือการเป็นนักบินอวกาศเสมอไป
เพราะงานที่ทำบนอวกาศนั้น
ก็สามารถกลับมาสร้างประโยชน์ให้กับคุณภาพชีวิต
ของพวกเราบนโลกได้ด้วย
โดยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
ประเทศไทยของเราได้ทำการส่ง “ดาวเทียม THEOS-2”
ขึ้นสู่อวกาศเป็นที่สำเร็จ
ถือเป็นการส่งดาวเทียมสำรวจโลกที่มีรายละเอียดสูงในระดับปฏิบัติการ
ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงตามภารกิจของประเทศ
เป็นดวงที่ 2 ของไทย ในรอบ 15 ปี
ซึ่งใน Mission To The Moon EP. นี้
เราก็ได้รับเกียรติจาก ดร.พรเทพ นวกิจกนก
ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ THEOS-2
ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA
ที่จะมาพูดคุยกับเราถึงเบื้องหลัง
ของโครงการ THEOS-2
รวมถึงประโยชน์ทางด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ
ที่จะมาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยจากโครงการนี้
Mission To The Moon x GISTDA


07/12/2023

ความฝันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
และยากเย็นเสมอ
ยิ่งฝันสูงมากเท่าไร
ก็ยิ่งดูเกินตัวมากเท่านั้น
แต่บนโลกใบนี้ก็ยังมี
คนที่ประสบความสำเร็จ
แม้ว่าความฝันของพวกเขา
จะดูยากเย็นเพียงใดก็ตาม
โดยพอดแคสต์ 5M ในวันนี้
จะเล่าถึง 5 นิสัยที่ทำให้เรา
พร้อมเผชิญหน้าทุกอุปสรรค
และไปถึงจุดสำเร็จของทุกความฝันได้


07/12/2023

เชื่อไหมว่า คำพูดของคนเราสามารถทำร้ายใครบางคนได้มากกว่าที่คิด แม้ว่าคำพูดนั้นจะพูดออกมาด้วยความหวังดีหรือความเป็นห่วงก็ตาม
ใน Mission To The Moon EP. นี้ มารู้จัก Nonviolent Communication หรือการสื่อสารแบบสันติวิธีที่จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจสิ่งที่แต่ละคนต้องการแบบไม่มีใครต้องทำร้ายจิตใจใคร
รับชมฉบับเต็มได้ที่
https://bit.ly/3RwK1KZ

07/12/2023

สะเทือนวงการ AI!
เมื่อ OpenAI เปลี่ยนบอร์ดบริหารยกเซต
และไม่เหลือสมาชิกผู้หญิงอยู่เลย
(อ่านต่อในคอมเมนต์)

เปิดรับสมัครแล้ว! พนักงาน Freelance ที่ Mission To The Moon Media บริษัทสื่อออนไลน์ของคนยุคใหม่ไฟแรงที่กำลังเติบโตอย่างต...
07/12/2023

เปิดรับสมัครแล้ว! พนักงาน Freelance ที่ Mission To The Moon Media บริษัทสื่อออนไลน์ของคนยุคใหม่ไฟแรงที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
[ ] ตำแหน่งพนักงานฟรีแลนซ์ (Freelance) ที่เปิดรับสมัคร
📌 Sales Executive 1 ตำแหน่ง
📌 Creative 1 ตำแหน่ง
📌 Video Editor 1 ตำแหน่ง
📌 Graphic Designer 1 ตำแหน่ง
กรุณาอ่านรายละเอียดของแต่ละตำแหน่งในแคปชันของภาพ
หากสนใจร่วมงานเรา ส่งอีเมลมาที่ [email protected] โดยตั้งชื่อหัวข้ออีเมลว่า “สมัครงาน Freelance ตำแหน่ง………….”
• ภายในอีเมลจะต้องประกอบด้วย
[ ] การแนะนำตัวเองสั้นๆ ในเนื้อหาอีเมล
[ ] ประวัติส่วนตัว (Resume)
[ ] ผลงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร (Portfolio)
[ ] เงินค่าจ้างที่ต้องการ
[ ] วันที่พร้อมเริ่มงาน และระยะเวลาการทำงาน เช่น 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี เป็นต้น (เริ่มต้นที่ 3 เดือน)
ระยะเวลาในการตอบกลับ
• จะมีอีเมลตอบกลับว่า “ได้รับอีเมลของท่านแล้ว” ภายใน 3 วันหลังจากการส่ง
• กรณีไม่ได้รับอีเมลภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถสอบถามทาง Inbox Page: Mission To The Moon
• การแจ้งการคัดเลือกรอบแรก (รอบ Portfolio) จะแจ้งกลับทางอีเมลให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเท่านั้น เพื่อนัดสัมภาษณ์ต่อไป โดยการพิจารณาอีเมลจะใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์นับจากการส่งของท่าน
• เมื่อสัมภาษณ์แล้ว จะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยจะส่งอีเมลแจ้งผลการสัมภาษณ์ให้กับทุกท่าน ทั้งผู้ที่ได้รับคัดเลือกและไม่ได้รับคัดเลือก
#สิทธิ์สำหรับพนักงานฟรีแลนซ์ (Freelance)
1. Discount for Coffee Lovers!: ส่วนลดอาหารและเครื่องดื่มร้าน Tastes สูงสุด 20% เพียงนำภาชนะมาใส่เครื่องดื่มเอง และสิทธิพิเศษ! เครื่องดื่มมูลค่า 50 บาท ฟรี! จำกัด 3 สิทธิ / เดือน / คน เพียงนำภาชนะมาใส่เครื่องดื่มเอง
2. Thuesday Snack: ขนม เครื่องดื่ม หรืออาหาร จะเป็นอะไรมาลุ้นกันทุกวันพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์!
#สถานที่ทำงาน
ปัจจุบันบริษัทใช้นโยบาย Hybrid Work เข้าบริษัทบางวัน สลับกับทำงานที่บ้าน โดยวันที่เข้าบริษัทจะเป็นไปตามที่แต่ละทีมกำหนด
[ ] สถานที่ทำงานกรณีเข้าออฟฟิศ : 50 ซอยพระรามเก้า 53 ถนนพระราม 9 แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250


06/12/2023

งานในฝันในปี 2024
สำหรับคุณเป็นอย่างไร?

ในช่วงปลายปีอย่างนี้ หลายคนคงกำลังเริ่มมองหาของขวัญที่จะมามอบให้กับเหล่าผู้คนรอบกายอันเป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพ...
06/12/2023

ในช่วงปลายปีอย่างนี้ หลายคนคงกำลังเริ่มมองหาของขวัญที่จะมามอบให้กับเหล่าผู้คนรอบกายอันเป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือว่าคู่ชีวิต
เวลาที่เราอยากจะตามหาของขวัญชิ้นสำคัญให้กับใครสักคนนั้นมักจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องครุ่นคิดอยู่เสมอ เนื่องจากของขวัญนี้เป็นสิ่งของที่ให้กัน เพื่อเป็นสิ่งแทนใจหรือรักษามิตรภาพของความสัมพันธ์ที่ยืนนาน เพราะของขวัญ 1 ชิ้นนั้นสามารถแฝงไปด้วยความหมายนับร้อย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความห่วงใย หรือความคิดถึงในยามที่อยู่ไกลกัน มันคือถ้อยคำของความห่วงใยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคำพูดหรือถ้อยคำใดๆ เลยแม้แต่น้อย
กล่าวคือของขวัญที่ดีนั้น เปรียบเสมือนคำพูดแทนความรู้สึกในใจของผู้ให้ ที่เต็มไปด้วยความรักดีๆ มากมาย ซึ่งในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงมากมายและรวดเร็ว ณ ขณะนี้ จะมีของขวัญแทนใจชิ้นไหนที่ดีไปกว่าการนำพาความสมดุลกลับเข้ามาในชีวิตของคนที่คุณรัก
ก่อนจะเข้าสู่ปี 2024 อย่างเป็นทางการ พวกเราขอชวนทุกคนมาส่งต่อความสมดุลและความรู้สึกดีๆ ให้กับทุกคนที่คุณรักด้วย Mission To The Moon Balance Planner 2024
โดย Mission To The Moon Balance Planner 2024 นี้คือเหมาะสมที่จะเป็นของขวัญแทนความรักดีๆ ให้กับทุกๆ คนด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและฟังก์ชันที่นำพาความสมดุลมาให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็น
1. Mission To The Moon Balance Planner 2024 นี้มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Black, Indigo, Lavender, Pink มีขนาดเล่มเป็นขนาด A5 (144x202x30 mm.) หุ้มด้วยปกหนังคุณภาพพรีเมียม กันละอองน้ำได้ พร้อมกับมีริบบิ้นคั่นหน้าให้สองเส้นเพื่อให้คุณสามารถหาหน้าได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น มียางรัดตัวเล่มไม่ให้เล่มกางออก แถมมียางยืดสำหรับเสียบปากกาได้
กระดาษถนอมสายตาสี IVORY เพิ่มแกรมกระดาษจากปี 2023 ที่ 80 แกรม ในปีนี้กลายเป็น 120 แกรม กันการทะลุและซึมของหมึกได้ดีขึ้น แถมยังเข้าเล่มแบบเพิ่มความแข็งแรงจากปีก่อนด้วยการเย็บสันเล่มแบบพิเศษ กางได้ 180 องศา ท้ายเล่มมีกระเป๋าสำหรับใส่เอกสาร รวมถึงแถม Sticker 3 แผ่นและ Postcard 1 ใบให้กับผู้ใช้ทุกคนอีกด้วย
2. ทำให้ชีวิตในปี 2024 ของคนที่คุณรักเป็นเรื่องง่ายด้วยฟีเจอร์ 2024 Calendar และ Monthly Calendar โดยเราย่อปฏิทินตลอดทั้งปีมาให้ครบจบภายในหน้าเดียว เพื่อความสะดวกต่อการใช้งานของทุกคน เพียงแค่พลิกกลับมาที่หน้าแรกของแพลนเนอร์เล่มนี้ ก็จะสามารถเห็นภาพรวมชีวิตตลอดทั้งปีทั้งวันทำงานและวันหยุด เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่สร้างสมดุลให้กับชีวิตของตัวเองในทุกๆ วัน
3. ทำให้ปี 2024 ของคนที่คุณรักเต็มไปด้วยความสมดุลด้วยฟังก์ชัน Balance Setting เพราะชีวิตนี้ไม่ได้มีเพียงด้านเดียว การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตจึงมีความสำคัญ ชวนให้คนที่คนห่วงใยมาตั้งค่าความสมดุลให้กับชีวิตในแง่มุมต่างๆ ด้วยการตั้งเป้าความสมดุลของตัวเองทุกๆ 6 เดือน
ซึ่งทุกคนสามารถวางแผนเป้าหมายของตัวเองผ่าน Strategy และ Action Steps รวมถึงติดตามความสำเร็จว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้คืบหน้าไปมากแค่ไหนแล้วผ่าน Balance Tracker อีกด้วย
4. ช่วยให้คนที่คุณรักได้หยุดพักสักนิดแล้วกลับมาทำความเข้าใจกับชีวิตของตัวเองสักหน่อยผ่านฟังก์ชันที่ช่วยให้พวกเขาได้ตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเองไม่ว่าจะเป็น Before We Begin, Questions Before Setting Your Balance, หรือ What Chapter Are You On In Life? ซึ่งหากชีวิตคือหนังสือ แต่ละวันที่ผ่านไปก็เหมือนการพลิกหน้ากระดาษอ่านเรื่องราวใหม่ๆ การได้กลับมาพูดคุยกับทำความเข้าใจกับตัวเองอย่างแท้จริงนั้น อาจจะเป็นกำลังใจดีๆ ให้คนที่คุณรักมีความสุขมากขึ้นในปี 2024 ก็ได้นะ
5. ช่วยให้คนที่คุณรักจัดการชีวิตอันยุ่งเหยิงในทุกวันหรือทุกเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยฟังก์ชัน Daily Task โดยเป็นการจัดระเบียบรายละเอียดเล็กน้อยมากมายระหว่างเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ด้วยการจัดเรียงลำดับความสำคัญสิ่งที่เร่งด่วนที่สุดใน 2 ลำดับแรก พร้อมกับพื้นที่ Free Note หรือ Bullet Journal แถมยังมีพื้นที่เล็กๆ ให้ทุกคนสามารถวาดภาพระบายอารมณ์ในฟังก์ชัน Weekly Preview อีกด้วย
อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Monthly Review ที่ช่วยให้พวกเขาได้สรุปแล้วทบทวนชีวิตและกลับมาไตร่ตรองกับตัวเองในแต่ละเดือนกับ Monthly Review ผ่านการจดบันทึกและความทรงจำที่ดีที่สุดในแต่ละเดือน รวมถึงตอบคำถามว่าในเดือนนั้นมีอะไรบ้างที่เราควร “เลิกทำ” “เริ่มทำ” หรือ “ทำต่อไป” ในเดือนถัดไป ก่อนจะไปให้คะแนนแง่มุมต่างๆ ภายในชีวิตตั้งแต่การงาน สุขภาพ ไปจนถึงความสัมพันธ์
6. ช่วยให้คนที่คุณรักได้เพิ่มพื้นที่ของความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้คุณได้ปลดปล่อยไอเดียได้อย่างอิสระ ไร้ข้อจำกัด ด้วยฟังก์ชัน Free Writing Function ผ่านรูปแบบกระดาษให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกการจด ด้วย Grid Note, Free Note, Dotted Note, และ Ruled Note
นอกจากนี้ เรายังมี Promotion พิเศษสำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาของขวัญชิ้นพิเศษจำนวนมากไปให้กับคนที่กำลังห่วงใย โดยซื้อ Planner 10 เล่ม จาก ลด 50% จากราคาเต็ม 9,900.- เหลือ 4,950.- โดยสั่งซื้อได้เลยทาง LINE OA
*หมายเหตุ Promotion นี้สามารถใช้ได้ได้โดยการทักมาแจ้งแอดมินใน LINE OA เท่านั้น
หากสะดวกเป็นช่องทางอื่น ทุกคนสามารถสั่งซื้อ Mission To The Moon Balance Planner 2024 ได้ทาง
[ ] LINE SHOPPING : ​https://shop.line.me/
[ ] Shopee : ​https://shope.ee/9eovnwIQUa
[ ] Lazada : ​https://s.lazada.co.th/l.XyN0
[ ] TIKTOK SHOP : https://www.tiktok.com/.co?_t=8hEzZbWkOlF&_r=1 (และกดที่คำว่า Showcase)**


ที่อยู่

50 Rama IX Soi 53, Rama 9 Road, Pattanakarn, Suanluang
Bangkok
10250

เบอร์โทรศัพท์

+66843628990

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Mission To The Moonผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท

ตำแหน่งใกล้เคียง บริษัท สื่อ


พอดแคสต์ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด