ณธีร์ พระนักศึกษาปริยัติ ปฏิบัติ

Bhante Nathivich,Tudong Monk, Dhamma Brother friend, I live in Bangkok, Thailand.The new bhikku learn buddhism.
นักสร้างบารมี ฝึกฝนตนเอง เป้าหมายเพื่อการหลุดพ้น และช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์

🏕 วิสฺสาสา ปรมา ญาตี ความคุ้นเคยเป็นญาตอย่างยิ่ง🍊9 ม.ค. 2568 วันที่ 9 ขอให้ชีวิตมีความก้าวหน้าในธรรม อนุโมทนา ญาติธรรมมี...
11/01/2025

🏕 วิสฺสาสา ปรมา ญาตี
ความคุ้นเคยเป็นญาตอย่างยิ่ง
🍊9 ม.ค. 2568 วันที่ 9 ขอให้ชีวิตมีความก้าวหน้าในธรรม อนุโมทนา ญาติธรรมมี โยมเปิ้ล โยมฮาเวิดส์ พร้อมกัลยาณมิตรชน มีน้ำใจดีได้มากราบเยี่ยม และทำบุญ สวัสดีปีใหม่ โอกาสกลับมาเมืองไทย นานทีปีละหน จึงได้พากราบสักการะบูชา และลอดพระบรมมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาส ประจวบกับช่วงนี้วัดกำลังจัดงานเฉลิมฉลองวัดมีอายุครบ 197 ปี อีกสามปีจะครบสองร้อยปี โอกาสปีใหม่นี้ ขอให้ชีวิตรอดพ้นภยันตราย โชคดีสมปรารถนาทุกคน นำพาไปกราบสักการะบูชา เวียนเทียน พระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว สรีระธาตุพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ มณฑลท้องสนามหลวง เป็นโอกาสดีหาได้ยาก กราบสักการะเทวดาศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ชมวัดอรุณฯ วัดกัลยาณมิตร สักการะหลวงพ่อซำปอกง อำนวยอวยพรแก่ตนเองครอบครัว ญาติมิตรสัมพันธวงศา ลูกหลาน

ขอบคุณญาติโยม กัลยาณมิตรทาง uk หลายคน แม้อาตมาจะกลับมาไทยได้สองสามปี ก็ยังระลึกคิดถึงกันมาเยี่ยมเยือนกันเมื่อมีโอกาส ส่งปัจจัยมาทำบุญ อุปถัมภ์ปัจจัยสี่ การเดินทางจาริกธรรมสร้างบารมี ซาบซึ้งน้ำใจยิ่งนัก

อาตมาก็มิได้มีสิ่งใดเป็นสิ่งปฏิการตอบแทนคุณ นอกจากคำอวยพร พรดีมงคลดีใดๆในโลกที่ปราถนาจงสำเร็จ บุญใดที่เกิดจากการปฏิบัติ ขอทุกคนโมทนามีส่วนแห่งบุญนั้นเท่าเทียมกันทั่วหน้า หากมีทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์นั้น มีสุขอยู่จงมีสุขยิ่งๆขึ้นไป นิพพานะปัจจะโย โหตุ ฯ

10/01/2025

🍊ภาพความทรงจำ อดทน พากเพียร เคียงบ่า เคียงไหล่ เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน คณะจาริกธุดงค์ “พระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน - พระธาตุมูลาอิ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (รัฐกระเหรี่ยง)- อุ้มผาง-ช่องเย็น กำแพงเพชร ”
ขอบคุณ 🙏😊 และอนุโมทนาบุญโยมผู้ตัดต่อทำคลิปนี้

🍏 สวัสดีปีใหม่ ปี 2568 ขอทุกคนจงประสบพบพรดีๆ สมปรารถนา สุขภาพดี🍊อนุโมทนาบุญ คณะญาติธรรมจาก UK ร่วมทำบุญปีใหม่ และทำบุญคล...
04/01/2025

🍏 สวัสดีปีใหม่ ปี 2568 ขอทุกคนจงประสบพบพรดีๆ สมปรารถนา สุขภาพดี
🍊อนุโมทนาบุญ คณะญาติธรรมจาก UK ร่วมทำบุญปีใหม่ และทำบุญคล้ายวันเกิด มีโยมเปิ้ล พร้อมครอบครัว, โยมสุรีย์ ทำบุญคล้ายวันเกิด, โยมป้าปิ๋ม, โยมยอม, โยมเกสร, โยมเล็ก, โยมจงจินต์ เป็นต้น *ร่วมเป็นเจ้าภาพเต็นท์ K2 summit (ขนาด 1 คน) จำนวน 1 หลัง, รองเท้าเดินทาง และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินทาง และปัจจัยระหว่างเดินทางจาริกธรรม ทานานุภาเวนะ สีลานุภาเวนะ ภาวนานุภาเวนะ ปุญญานุภาเวนะ ด้วยพลานิสงส์แห่งการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา บุญดังกล่าว จงเป็นพรย้อนถึงโยม พร้อมครอบครัว สัมพันธวงศาทุกๆคน จงประสบความสุข สุขภาพดี สมปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจ สัพพะมงคลทั้งหลายจงมีแก่ทุกคน ขอเหล่าเทวดาจงรักษา ปกป้องดูแล อำนวยชัยในกิจการงาน ขอทุกท่านพร้อมครอบครัว เจริญในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

🥭 บัดนี้ได้เดินทางกลับจากการเดินทางจาริกธรรมที่ใช้ระยะเวลา 2 เดือนกว่า ตั้งแต่ 25 ต.ค. 67-2 ม.ค. 68 เรียกว่าเดินข้ามปี เริ่มต้นตั้งแต่ วัดถ้ำปลา อ.แม่สาย เชียงราย สู่ วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นร่วมเดินกับคณะสวนป่ากตัญญุตาราม จาก วัดพระธาตุดอยกองมู สู่ พระธาตุมุลาอิ (รัฐกะเหรี่ยง) ทาง อ.พบพระ จ.ตาก และจากนั้น เดินทางจาก อ.พบพระ จ.ตาก โดยทางลัด เข้าทาง บ้านยะพอ อ.พบพระ เข้ารัฐกะเหรี่ยง ทะลุออกทางบ้านแม่กลองคี อ.อุ้มผาง จ.ตาก และเดินต่อไป ที่ช่องเย็น กำแพงเพชร ก่อนจะสิ้นสุดลงวันที่ 2 ม.ค. เดินทางถึงช่องเย็น วันที่ 1 ม.ค. มาปีใหม่ที่ช่องเย็น กำแพงเพชร

🍊 กล่างถึงความประทับใจในการเดินทางครั้งนี้
1. เป็นความตั้งใจแรกที่จะเดินทางไป จ.แม่ฮ่องสอน เพราะไม่เคยไปมาก่อนเลย เป็นครั้งแรก และตั้งใจจะไปกราบพระธาตุมุลาอิ รัฐกะเหรี่ยง เพราะเมื่อก่อนเข้าพรรษามีจัดเดินตั้งแต่วัดวังวิเวการาม (หลวงพ่ออุตตมะ) เข้าทุ่งใหญ่ฯ ไปถึง บ้านเปิงเคลิ่ง อ.อุ้มผาง จะข้ามไปสักการะพระธาตุมุลาอิ แต่ทางด้านโน้นเกิดการปะทะกัน จึงได้ยุติ ก่อนเข้าพรรษา วางแผนไว้ว่าจะเดินจาก อ.แม่สายไปแม่ฮ่องสอน และไปกราบพระธาตุมุลาอิ ต้องไปให้ได้ ได้ดูข้อมูล รีวิวการเดินทางเยอะมาก ว่าไปอย่างไร จนทราบว่าสวนป่ากตัญญุตามราม จัดเดินจาริกธรรมไปมุลาอิอีกครั้ง ก็ตรงกับเจตนารมย์ ตามที่ต้องการพอดี
2. ประทับใจการเดินทางกับคณะสวนป่าฯ ที่จะฝึกพระสงฆ์ให้เกิดธรรม เกิดบารมีผ่านการเดินจาริกธรรม ธุดงค์ เดินทางเข้าป่าช่วงที่ออกจาก พระธาตุดอยกองมู- จากนั้นก็เข้าทางบ้านแม่สามแลบ/ กลอเซโล / สบเมย /ขึ้นเรือข้ามน้ำ ไปพักที่วัดในรัฐกะเหรี่ยง เป็นเส้นทางชายแดนสุดๆ และ เส้นทางระหว่างทางมามุลาอิ ก็เป็นเส้นทางป่า หลายๆ อำเภอของ แม่ฮ่องสอน และ ตาก เป็นเส้นทางขุนเขา พักวัดบ้าง พักป่าบ้าง
3. ประทับใจได้มาเยือน กราบสักการะพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ พระธาตุมุลาอิ ที่ชาวกะเหรี่ยงให้ความเคารพมาก ตั้งบนที่่สูง ต้องใช้ความพยายามในการเดินทางถึงจะไปถึง โดยการนั้่งรถโฟลวิลหลายชั่วโมงกว่าจะไปถึง และเดินขึ้นไปอีก 800 เมตร ที่่พักด้านบนทุกที่จะหนาวเย็น และมีลมแรง เครื่องกันหนาวมากอย่างไรก็กันไม่ได้มาก ได้มีโอกาสไปกราบสักกการะ 2 ครั้ง ตอนบ่ายในวันที่ไปถึง และอีกวันตอนเช้าตรู่ไปทำวัตร สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตาด้านบนเขา หน้าพระธาตุ บรรยากาศงดงามยามรุ่งอรุณ การนั่งรถไปมุลาอิ การเดินทางที่วิบาก ยากที่เส้นทางขรุขระ นั่งไปกลับสะโพกระบม เข่ากระแทกกับที่นั่งด้านหน้า ทำให้เป็นรอยช้ำ ถือว่าปกติ เพราะหนทางเป็นดังนั้น และฝุ่น ใครไปก็ใส่หมวก ใส่หน้ากากป้องกัน จะมีทัวร์ไทยไปเยอะมาก หากมีโอกาสที่จะมามุลาอิอีก ก็จะมา ไม่คิดว่าจะความยากลำบากจะเป็นอุปสรรคในการไปกราาบสักการะ เป็นบุญที่ได้ไป

4. เสร็จจากถึงเส้นชัย กราบสักการะพระธาตุมุลาอิ ตามที่ปรารถนาไว้ หัวหน้าโครงการก็มีแถมพิเศษ เดินเข้าพม่า รัฐกะเหรี่ยง และ ไปช่องเย็น ซึ่งเป็นอะไรที่อะเมซิ่ง เป็นประสบการณ์ ด้วยการวางแผน การประสานงาน ประสบการณ์ของหัวหน้าโครงการฯ การเดินทางก็ไปไปด้วยดี ราบรื่น เหตุผลที่ต้องผ่านรัฐกะเหรี่ยงคือ เป็นทางลัดมาก สั้นมาก หากจะเดินทางในเส้นทางหลักก็ประมาณ ร้อยกว่ากิโลเมตร ถ้าเส้นทางที่เดินทางลัดมา ได้ทำทางดีๆ ลาดยาง จะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจ ค้าขาย เส้นทางลัดที่สั้นที่สุดจาก อ.อุ้มผาง ไป อ.พบพระ ไป อ.แม่สอดได้เลย แต่ด้วยการเมืองภายในพม่า ทำให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางกันดาร ป่าเขา สิ่งที่ประทับใจมากๆ ที่่สุด ช่วงเข้าไปรัฐกะเหรี่ยง คือ แม่หลวงบ้าน หรือภรรยาผู้ใหญ่บ้าน บ้านยะพอ พร้อมคณะออกเดินทางด้วยเท้า ออกเดินนำพระสงฆ์ไปจนถึงหมู่บ้านในรัฐกะเหรี่ยง เป็นระยะเกือบ 20 กม. อันนี้น่าขอบคุณ โมทนายิ่งนัก เดินไปไม่ใช่ง่ายๆ และอีกความประทับใจอีกอย่างคือ หลังจากมาถึงวัดบ้านมอโพรโก และออกเดินทาง ก็มีโยมผู้เฒ่าผู้แก่หญิงชาย อายุรุ่นตายาย และน้องๆเยาวชนหญิงชาย เดินนำหน้าไปส่งจากหมู่บ้านจนเข้าเขตชายแดนไทย ถีงวัดแม่กลองคี (อาศรมธรรมจาริก) โดยปรารถนาบุญ เขาดีในที่เห็นพระจำนวนมากๆเดินผ่านหมู่บ้าน เขาพยายามจะทำอย่างไรให้พระสงฆ์เดินทางไปสู่จุดหมาายด้วยความปลอดภัยมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ทำก็คือการเดินนำไปส่ง เป็นล่าม คุยกับทหารกะเหรี่ยง ทำให่้การเดินทางราบรื่น และทุกหมู่บ้านที่เราเดินทางไป ตอนเช้าบิณฑบาตร โยมเขาจะใส่บาตรกันมากด้วยความศรัทธาสุดๆ และเดินมาส่งที่เขตไทย ก็ 10 กว่า กม.

5. ประทับใจเส้นทาง จาก สำนักสงฆ์อุ้มผางคี อ.อุ้มผาง ถึง ช่องเย็น กำแพงเพชร เป็นเขตป่าอุทยาน เป็นเส้นทางวิบากมีช่วงที่จะผ่าน คือ จะเป็นด่านแก่งน้ำ ห้วยอุ้มผาง มีสะพานไม้ข้าม และไม่มีสะพานข้าม ต้องเดินข้าม เดินเลาะแม่น้ำข้ามไป ข้ามมานับครั้งได้มากว่า 14 ครั้งในวันแรก วันที่สองก็จะเป็นหนาม ป่าหนาม ทาก แมลงคุ่นที่กัดแบบเงียบๆ ไม่รู้สึกตัว เจอแหล่งหากินหมูป่า ร่องรอยกรงเล็บเสือ ขี้ช้างสดๆ ด้านหน้าที่เดินไปเจอช้างป่า แต่โยมอานนท์ ชาวกะเหรี่ยงที่เป็นคนชำนาญป่า ผู้่นำทาง ได้ให้รอเป็นชั่วโมง ให้ช้างกินอิ่ม และ เคาะเสียงให้ช้างหลีกหนีไป ป่าที่เข้ามาเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าอยู่ มีอันตรายทุกที่ แต่อาศัยความสามัคคี เชื่อฟังผู้นำ เดินไม่แตกแถว ไม่ห่างกัน ช่วยเหลือกัน เสียสละแบ่งปัน ทำให้การเดินทางถึงตามที่่กำหนด อาจจะออกมาช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย

เส้นทางนี้แม้แต่นายพราน หรือเจ้าหน้าที่่กล่าวว่า ใครเข้าไปแล้วออกมายาก แม้จะออกมายาก ก็จะต้องบาดเจ็บจากการเดินทางบ้าง แต่มีพระธุดงค์เดินอยู่บ้าง ถ้าเข้าทางคลองลาน ผ่านช่องเย็นไป อุ้มผาง เจ้าหน้าที่จะไม่ให้เข้า ถ้าจะเข้าก็ต้องมาทางอุ้มผาง ออกทางช่องเย็น เป็นเส้นทางที่หนักที่สุดที่เคยผ่านมา หลายรูปที่เข้าไปก็ยอมรับว่ายาก ต้องขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน และนายพรานที่นำทาง และมาส่งในวันแรก วันต่อมาก็มีโยมที่ติดตาม เป็นคนในพื้นที่เช่นกัน และพระนำทาง หาเส้นทาง เบิกทาง ค้นหาเสาปูน คล้ายเป็นเสาหลัก กม.ห่างกัน 20 เมตร 50 เมตรบ้าง ปักอยู่ แต่กาลเวลาล่วงเลยมาเป็น 40 ปี 50 ปี ก็ถูกน้ำป่าเซาะ ถนนขาด ต้องหาทางกันไม่ง่าย เป็นเส้นทางถนนเก่า เส้นทางคอมมิวนิสต์ ที่รัฐบาลปราบราม เส้นทางขนยาเสพติดก็ว่าได้ อันนี้ฟังจากหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดที่ไปพักคืนวันที่ 1 ม.ค. ท่านเล่าให้ฟัง แต่พระเราก็เข้าออกประจำ

เส้นทางจาก อุ้งผาง - ช่องเย็น ต้องรู้่เส้นทาง ต้องมีเสบียงเพียงพอ แต่ด้วยเราไปกันมากเป็นร้อยกว่า การเดินทางต้องรอกัน ไปพร้อมกัน เพราะกำลังแต่ละคนไม่เท่ากัน จึงทำให้เดินทางช้ากว่ากำหนดนิดหนึ่ง ถ้าเป็นพรานป่า เขาบอว่าใช้เวลา 1 วันก็ถึง สิ่งที่พบเห็นไม่อาจจะเขียนบรรยายให้เห็นภาพได้ แต่เสียดายเส้นทางที่สร้างเสร็จแต่ไม่ได้ใช้

ขอบคุณญาติธรรมที่ติดตาม และเป็นห่วง ขอให้ดูแลตนเอง ดูแลสุขภาพ ตอนนี้กลับมา กทม.เรียบร้อยแล้ว โปรแกรมเดินทางอีกครั้ง วันที่ 6 ก.พ. - 14 พ.ค. จะเป็นการเดินทางที่ยาวพอสมควร การเดินทางที่ผ่านมาถือว่าเป็นการวอร์มร่างกาย วอร์มเท้า แข้งขา การเดินทางจาริกธรรมไปที่นั่นที่นี่้ มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกตนเอง เดินไปภาวนาไป บำเพ็ญบารมีขันติ อธิษฐาน สัจจะ เนกขัมมะบารมี ทำให้การอยู่ในพระศาสนายาวนานขึ้น ผู้ใดออกมาอย่างนี้ได้ จะรู้จักสันโดษ อยู่ง่าย ใช้่ชีวิตง่าย เรียบง่าย ไม่ได้ต้องการมีชื่อเสียง ไม่ได้ต้องการลาภสักการะ ปัจจัยจากโยม ส่ิงสำคัญคือต้องการไปสักกการะพุทธสถาน หาครูบาอาจารย์ หาสถานที่ภาวนา พบปะสหธรรมิก ฯลฯ ได้โปรดญาติโยมๆได้มีโอกาสทำบุญ ได้แผ่เมตตาให้กับดวงจิตวิญญาณทุกดวงที่เดินทางไปทุกๆที่ ล้วนมีสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา แต่รู้สึกได้ เช่น ที่เดินไปรัญกะเหรี่ยง เป็นเส้นทางชายแดนมีผู้เสียชีวิตมากมาย เส้นทางไปช่องเย็น กำแพงเพชร ถนนเก่า ทางเก่าที่ถูกปิดมานาน หลาบสิบปี ทุกๆที่ที่ไป ขอทุกคน ทุกจิต ทุกตัวตนจงมีส่วนแห่งบุญที่เกิด ได้อนุโมทนา หากตกทุกข์ได้ยากลำบากแสนเข็น ขอให้พ้นจากทุกข์นั้น หากมีความสุขอยู่ ขอจงมีสุขยิ่งๆขึ้นไป โมทนาญาติโยมผู้อุปฐาก อุปถัมภ์ค้ำชู ตลอดการเดินทาง จงประสบบุญเป็นอันมากในภพนี้ และ ภพหน้า จนถึงที่สุดแห่งธรรม

02/01/2025

ชีวิตที่มีสีสัน คือ ชีวิตที่มีอุปสรรคปัญหา
ความลำบาก ทุกข์ยาก เป็นสิ่งที่ให้บทเรียน

#วีรบุรุษช่องเย็น
ขอบคุณภาพจาก เจ้าหน้าที่ฯ

🏞 บันทึกเส้นทางจาริกธรรม 🙏🇹🇭🇲🇲🇱🇦 🍊 อุ้มผางคี สู่ ช่องเย็น กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน/ วีรบุรุษช่องเย็น / ช่องเย็น ชื่อนี้จะจด...
01/01/2025

🏞 บันทึกเส้นทางจาริกธรรม 🙏🇹🇭🇲🇲🇱🇦
🍊 อุ้มผางคี สู่ ช่องเย็น กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน/ วีรบุรุษช่องเย็น / ช่องเย็น ชื่อนี้จะจดจำไปอีกนาน / การเดินทางที่ยากสุดๆเท่าที่เคยเดินมา/สวัสดีปีใหม่ 2568

🍏 วันที่ 28 ธ.ค.2567 พักจำวัด วัดป่าคาวนาราม ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก วันนี้พักฉันที่วัดวะครึโค๊ะ - หรือ วัดบ้านตะเพ่อภู วัดที่มีเรื่องราวผีกะเหรี่ยง ปล้ำพระธุเงค์ เมื่อ 14 ปีที่แล้ว หลวงพ่อพระครูโอภาสสันติคุณ ธุดงค์มากับหมู่คณะ พอจ.จรัน พระ 200 กว่ารูป ท่านพรรษามากสุด ได้พักกุฏิดังกล่าว ใกล้กุฏิมีต้นไม้ใหญ่ มีศาลอยู่ใกล้ๆ ท่านส่งเสียงดัง สรุปคือ มีผีกะเหรี่ยงมาขืนใจท่าน ท่านไล่ให้ออกไป พระสงฆ์ลูกศิษย์จึงสอบถาม ได้เรื่องราวตามนั้น เป็นกุฏิไม่มีใครพักร้างมานาน แต่ดูสะอาด ปัจจุบันก็สะอาด วันนี้พระเราบางรูปก็ไปพักหน้ากุฏิ ตอนถวายอาหา ก็ได้อุทิศบุญให้ แผ่เมตตาให้ เรื่องราวพิลึกๆ แปลกๆ ไม่เชื่อก็ต้องฟังไว้ ไม่ลบหลู่ว่าไม่มี พระที่เดินทางมักเจอบ่อยสุดบางแห่งที่ไปพัก ควรเคารพสถานที่ สวดมนต์ แผ่เมตตา สำรวมกาย วาจา ไม่พูดท้าทาย ลบหลู่ดูถูก ดวงจิตดวงวิญญาณ สัมภเวสี เทวดาที่ยึดมั่นในสถานที่ ก็ไม่ไปไหน

🍋 วันที่ 29 ธ.ค. 2567 จุดฉันเพล ร.ร.ชุมชนบ้านอุ้มผาง ต.อุ้มผาง จุดพักจำวัด สำนักสงฆ์อุ้มผางคี วันนี้เดินมามีโยมใส่บาตรจำนวนมาก สำนักสงฆ์อุ้มผางคี เป็นวัด เป็นบ้านอยู่บนเขาสูงขึ้นไป ดูในแผนที่เหมือนจะเป็นพื้นราบ ไม่มีสัญญาณเน็ต มือถือใดๆ เป็นบ้านชาวกะเหรี่ยงพุทธ ที่วัดแห่งนี้ไม่มีพระประจำ มีแต่พระจรมา เป็นพระธุดงค์ ชอบวิเวก ไม่มีไฟฟ้ามาถึง ใช้โซล่าเซล ที่ตรงนี้เป็นทั้งวัด และป่าช้า ชาวบ้านนิยมฝัง เขาจะเอาสังกะสีมาปักไว้แสดงว่ามีการฝังศพไว้ มีพระอยู่ตอนนี้ 3 รูป รูปแรกพักอยู่มานาน สองรูปมาจากอุทัยธานี ไปพูดคุยท่านนั่งรถมาลงที่อ.อุ้มผาง และเดินขึ้นมาที่นี่ และเคยเดินขึ้นไปช่องเย็น แต่ไปไม่ถึง เลยวกกลับมาพักที่วัด ท่านถูกตัวคุ่น เป็นแมลงเจ้าถิ่นช่องเย็นกัด ดูดเลือด ตามแขน ขา จะคันๆ มีน้ำใส แรกๆจะมีเลือดคั่งอยู่ ต้องบีบออกแล้วทายา ถ้าใครแพ้จะมีไข้ จะเป็นแผลเป็นนานหลายเดือนกว่าจะปกติ เคยถูกกัดนานหลายปีที่แล้ว ต้องใส่เสื้อแขนยาว แมลงคุ่นจะกัดโดยเราจะไม่รู้สึกว่าเจ็บ คันเลย หลังจากมันกัดหนีไปจึงจะมีอาการ

เย็นนี้หัวหน้าคณะได้ให้ข้อคิด คำแนะนำการเดินขึ้นช่องเย็น พร้อมแจกเสบียงประทังชีวิต สองสามวันนี้ไม่มีรถติดตาม จะอยู่ได้ก็ต้องพกเสบียงสะพายไปด้วย มีมาม่า ข้าวสารถุงเล็กๆ น้ำอ้อยก้อน โจ๊ก กาแฟ ขนม

วันนี้ทำวัตร สวดมนต์แผ่เมตตา บรรยากาศวิเวก วัดนี้มีห้วยอุ้มผางไหลผ่าน ใช้สรงน้ำ ล้างหน้า ซักผ้า มีกุฏิหลายหลัง เงียบสงบดี แต่หาพระสงฆ์อยู่ยาก เพราะตัดขาดจากโลกภายนอก ติดต่อโทรศัพท์ยาก เหมือนอีกโลกหนึ่งเลย แต่มีเสนาสนะพร้อม เป็นเขตอุทยานที่เป็นที่พักสงฆ์เพื่ออนุรักษ์ป่าด้วยกัน บิณฑบาตรในหมู่บ้านก็พอฉัน ถ้าอยู่หลายรูปก็ดูถ้าจะค่อนข้างอัตคัต โยมก็ใส่บาตรทุกวัน มีโรงเรียน จุดที่พักคืนนี้เป็นจุดที่จะขึ้นไปช่องเย็น ถ้าพระธุดงค์มาไม่มากคณะเรามาเป็น 102 รูป บางรูปที่ป่วย และสามเณรน้อยก็นั่งรถไปรอบนช่องเย็นเลย เพราะทางไม่ธรรมดา

🍈 วันที่ 30 ธ.ค. 2567 เช้านี้ทำวัตรเช้าสั้นกว่าปกติ เพื่อเตรียมตัวขึ้นเขาแต่เช้ามืด มีโยมชาวบ้านอุ้มผางคี ผู้ใหญ่บ้าน มาตักบาตรถวายอาหารเป็นเสบียงเดินทาง มีผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านนายพรานอีก 3 คนนำทาง และมีโยมชาวกะเหรี่ยงที่เป็นลูกศิษย์ เคยนำทางเข้าทุ่งใหญ่ฯ ตามมาดูแล

เดินทางมาเรื่อยๆ เส้นทางก็ขึ้นสูงเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นคือการข้ามน้ำ ห้วยอุ้มผาง เราต้องเดินขึ้นไปตามน้ำ แรกๆจะเป็นไร่ สวน นาของชาวบ้าน ข้ามน้ำแรกก็จะมีสะพานไม้ พอข้ามได้ พอสะพานอันต่อๆมา ก็จะไม่มีสะพาน ชาวบ้านตัดต้นไม้ล้มลงมาที่แม่น้ำเดินข้ามเป็นสะพาน ตอนข้ามแต่ละสะพาน เสียวสุดๆ เพราะต้องสะพานบาตร น้ำดื่ม เสบียง ค่อนข้างหนัก พอเดินข้ามน้ำกลัวจะพลาด ร่วงลงมาก ทุกก้าวย่างต้องใจเย็นมีสติ กลัวเพราะว่า สะพายของ มันทรงตัวได้ค่อนข้างยากมากๆ มันแกว่งไหว นับสะพานข้ามน่าจะ 4 สะพาน ทั้งหมด และมากกว่า 10 ครั้ง ที่เหลือคือเดินลุยเลาะ ข้ามน้ำไป ลุยน้ำก็ยิ่งหวาดเสียวสุดๆ คือน้ำเชี่ยว แรง น้ำลึกเลยขาขึ้นมา ถึงสะโพก และถึงเอว พระที่ตัวเล็ก ตัวต่ำ และสามเณรบางรูปที่มาด้วยก็ท่วมอก เดินไปก็อาจจะลื่นเพราะหินใต้น้ำ ต้องระมัดระวังพิเศษ พลาดคือเปียกทั้งตัว ทั้งบริขาร สำคัญสุดคือเอกสาร โทรศัพท์ ต้องใส่ถุงพลาสติกกัน เดินมาหยุดฉันระหว่างทางที่ห้วยอุ้มผาง ฉันไม่นานก็เดินขึ้นต่อเรื่อย ด้วยหมู่คณะแรงไม่เท่ากัน ความไวไม่เท่ากันก็หยุดรอกันเป็นช่วง ช่วงที่เป็นแยกก็ต้องระวัง ไปผิดทางคือเรื่องใหญ่

การเดินส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่เท้า และสายตาต้องดูที่ๆจะเหยียบ ดูข้างหน้า และจุดที่ทำให้หวาดเสียวมากที่สุดก็คือ มีจุดหนึ่ง ให้เลือกว่าจะไปทางบก หรือทางน้ำ ทางน้ำก็เชี่ยว ลึก ยากไปอีกแบบ เลือกไปทางบก ต้องปีนขึ้นเป็นผา ข้างล่างคือห้วย สูง ชัน แรกๆเหมือรจะง่าย พอไปก็ชันมากๆ มีจุดขาลงมา ชันสุดๆ คือที่จับหายาก และสะพายบริขารไปด้วย ทรงตัวยาก ถ้าขึ้นปีนป่ายไปไม่มีของแบกบนบ่าก็โอเค ก็เลยบอกว่าขอวกกลับไปลงทางน้ำได้ไหม พระที่ตามมาด้านหลังก็ตามมา ไม่สามารถกลับได้ เพราะคนตามหลังมาหลายรูป ก็จำต้องไป ต้องลงให้ถึง ตอนนั้นก็สุดๆ ไม่มีความมั่นใจว่าจะลงได้ พระรูปหนึ่งก็บอกอาจารย์ส่งบริขารให้รูปข้างหน้า แล้วค่อยเกาะไป อาจารย์ที่อยู่ด้านหน้าเห็นเราก็เข้าใจว่าต้องการความช่วยเหลือ ช่วยแบกบริขารส่งไปให้ท่าน จึงได้ค่อยๆไต่ลงมาจนถึง ขอบคุณในน้ำใจสุดๆ ส่วนผู้ที่เลือกข้ามไปทางน้ำก็ทุลักทุเล เห็นถึงความเสียสละ ช่วยเหลือ สามัคคี

เดินทางจนถึงเย็น จะเดินให้ถึงแหล่งน้ำ แต่ไปไม่ถึง ค่ำเสียก่อน ก็เลยพักกางเต้นท์ กางกลดพักกัน น้ำก็ได้กรอกใส่ขวดจากตอนเดินมาระหว่าง พอได้ดื่มถึงพรุ่งนี้ ด้วยว่าได้เดินออกจากห้วยน้ำอุ้มผาง การเดินทางทุกๆครั้งที่ไปมา บางที่ก็หินสุดๆ มีลักษณะความยากในแต่ละด้านต่างกัน มาครั้งนี้ก็ถือว่าสุดๆ สาหัส ไม่ใช่ง่ายๆที่จะมาได้ และจะขึ้นให้ถึงไม่ใช่ง่ายๆ ต้องรู้ทาง ต้องมาเป็นคณะ มีเสบียง เส้นทางที่มาเป็นเส้นทางที่หายไป เป็นเส้นที่ถูกปิดมานาน 40 กว่าปีได้ เป็นเส้นทางคอมมิวนิสต์เก่าที่ใช้เดินทาง รัฐบาลจึงสร้างเส้นทางนี้จากคลองลาน จ.กำแพงเพชร มาถึง อ.อุ้มผาง เพื่อเป็นเส้นทางเดินทางไปยังอุ้มผางที่สั้นที่สุด เพื่อต่อสู้ปราบปราบคอมมิวนิสต์ในสมัยสี่สิบห้าสิยปีก่อน แต่สร้างไม่เสร็จ สร้างถนนมาได้ถึงช่องเย็น เหลือระยะจากช่องเย็น มาอุ้มผาง เพียง 29 กม. จริงๆจากช่องเย็นไปสร้างเสร็จแล้ว บางส่วนแต่ถูกปิดไป รถยนต์สามารถไปถึงช่องเย็นได้ ต้องขับไป จ.กำแพงเพชร ทางคลองลาน จะมีเส้นทางที่ต่อจากช่องเย็นที่สร้างไม่เสร็จ มีร่องรอยทาง ถนนเก่า ที่เป็นปูน ลาดยาง ที่ถูกปิด ทิ้งไว้หลายสิบปี ทางรก เป็นทางที่ชาวบ้าน พรานป่าเดินไปมา ทราบว่าชาวบ้านเดินขึ้นใช้เวลาวันเดียวถึง แต่พระเราเดินต้องสองวัน หรืออาจจะสามวัน เพราะมีสัมภาระหนัก มีหลายวัย เดินช้า เร็วต่างกัน ไปต้องไปด้วยกัน อนุโมทนาผู้ใหญ่บ้านและคณะที่เสียสละเวลานำทางพระ รับบุญ

เส้นทางที่เราเดิน น้อยคนที่จะมีใครมาเดิน เพราะไม่ธรรมดาจริงๆ เส้นทางยากสุด ป่าสมบูรณ์ อาจพบเจอสัตว์ป่า
แต่มีพระธุดงค์ที่เดินในป่าทุ่งใหญ่ แล้วผ่านออกทางนี้ก็ได้
🍐 วันที่ 31 ธ.ค.2567 วันสุดท้ายของปีๆนี้มาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ช่องเย็น จุดพักจำวัด ในป่าใกล้ช่องเย็น ใกล้จะถึงช่องเย็น วันนี้สวดมนต์ ทำวัตรเสร็จ เก็บของ เดินทางต่อ หนทางก็สุดๆไปเลย เมื่อวานน้ำหมดต้องแบ่งปันกันดื่ม วันนี้ต้องไปฉันสถานที่มีแหล่งน้ำแน่นอน เช้าวันนี้ ผู้ใหญ่บ้าน และคณะพรานบุญที่นำทางมาตั้งแต่เมื่อวาน ก็มาส่งถึงสันเขา ทางข้างหน้าก็จะไม่ยากนัก จึงขอลากลับก่อน ขอขอบคุณอนุโมทนายิ่ง

ทางคณะออกเดินต่อไปถึงที่ๆมีแหล่งน้ำ ทำภัตกิจที่นี่ ตักน้ำ กรองน้ำ นำมาต้มใส่มาม่า พอมีแรงไปต่อ และลดเสบียงที่ถือมาหนัก ก็ทยอยออกมาฉัน แบ่งปันน้ำร้อนกัน ออกเดินทางต่อ จะมีทากชุกชุมมาก และแมลงคุ่นมากัด ดูดเลือด โดยไม่รู้ตัวตามขา ตามมือ แขน เป็นตุ่มจ้ำแดงๆ เรียกว่าทั่วหน้ากัน เส้นทางก็เดินไปตามเสาหลักปูน ตามที่ผู้ใหญ่บ้านบอก เรื่อยไปจนถึงช่องเย็น ทางเหล่านี้ เป็นทางเก่าที่รัฐสร้างเพื่อหวังเชื่อมไป อ.อุ้มผาง แต่สร้างไม่เสร็จ ถูกปิดตาย อันที่สร้างเสร็จก็ไม่ได้ใช้งาน ถนนลาดยางมะตอย มีสะพาน มีท่อน้ำ ปัจจุบันถนนเส้นนี้รกร้าง ไม่มีเค้าลางว่าจะเป็นถนนเลย มีต้นไม้ใหญ่ เล็กขึ้นเต็มไปหมด ต้นไผ่ ต้นหญ้า ยางมะตอยเสื่อมสลาย เห็นหินถนน บนถนนต้นไม้ขึ้นเต็ม รกร้าง บางช่วงถูกน้ำกัดเซาะจนขาด ต้องเลี่ยงเดินข้ามน้ำห้วยหลายช่วงมาก ถนนขาด จุดสังเกตุคือต้องเดินไปตามเสาหลักที่ปักห่างๆกัน 30 เมตรบ้าง 50 เมตรบ้าง เป็นเครื่องหมายถนน ๆจะโค้งไปตามสันเขา ขึ้น ลง ถ้าคลาดจากเสาหลักปูนก็แสดงว่าไปผิดทาง หลายครั้งหาเสาหลักไม่เจอ รกเต็มไปด้วยต้นไม้ หญ้า ป่าดีๆนี่เอง ห้วยที่ข้ามวันนี้ไม่กว้าง ไม่ลึก เหมือนวานก่อน เดินมาเจอสะพานข้ามห้วย 1 จุด ท่อน้ำ พักเป็นช่วงๆ เพราะพระ และโยมอุปฐากที่นำทาง ต้องหาทางไปค่อนข้างยาก เพราะทางรกร้างทึบมาก เป็นป่าหญ้า มีหนาม ชื้นแฉะ แห้ง ป่ากล้วย มีทุกรูปแบบ เดินตามกันไป คนนำทางห็จะสังเกตุ หาเสาปูนให้เจอ แผ้วถาง พอเดินไปได้ ตัดหนาม แสดงสัญลักษณ์ เพื่อให้คนตามมาข้างหลังจะเดินตามไม่หลง บางจุดก็ต้องปีนป่ายขึ้น และลงตามสภาพพื้นที่ที่เป็น ที่ก่อกวนคือทาก แต่ยังถือว่าไม่มากเท่าฤดูฝน แถวนี้เป็นถิ่นของเขา

มาถึงที่พักใกล้ห้วย พอได้ใช้น้ำต้มดื่ม อาบน้ำ ล้างหน้า พรุ่งนี้ก็ฉันที่นี่ พรุ่งนี้ถึงช่องเย็น เหลือระยะทางอีกไม่มาก

🥭 วันที่ 1 ม.ค. 2568 สวัสดีปีใหม่ ออกจากป่าฯ จากเขตอุ้มผาง จ.ตาก มาถึงเขต อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร วันนี้พักจำวัด วัดปรางค์ข้าวสาร ต.คลองพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

วันนี้เดินทางมาเป็นวันที่สาม ตื่นมาทำวัตร สวดมนต์แผ่เมตตาเสร็จ ฉันอาหาร เดินทางต่อ จนมาถึงช่องเย็น เวลา 11.30 น. และลงมาพักที่วัดปรางค์ข้าวสาร วันนี้เดินมาก็ต้องเดินตามเสาหลักปูน บางจุดก็ขาดหายไปบ้าง เจอสะพานข้ามห้วยแห่งที่ 2 กลายเป็นป่า มีเถาวัลย์ ต้นไม้ หญ้าเต็มไปหมด ยกย่องคนนำทางจริงๆ เป็นชาวกะเหรี่ยง อยู่บ้านเปิงเคลิ่ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก เคยนำทางเข้าทุ่งใหญฯ หลายครั้ง ชำนาญเรื่องป่า การใช้ชีวิตในป่าเขา รู้หมด วันนี้เจอขี้ช้างยังใหม่ๆมาก คิดว่าคลาดจากคณะเราไปไม่นาน โยมบอกว่า ที่เราพัก เพื่อรอช้างกินอิ่มแล้วจะหลีกไป ได้เคาะไม้ได้ยินเสียงตัดไม้เบิกเส้นทางเดิน มันก็หนีไป แต่ถ้าเป็นช้างตกมัน หรือมีลูก จะอันตราย วันแรกเจอด่านน้ำ วันที่สองด่านหนาม ๆเยอะมาบวกกับทาก และแมลงคุ่น วันที่สามเจอช้าง

ขอบคุณ ประทับใจมิตรภาพ การช่วยเหลือแบ่งปันกัน เป็นการเดินทางจะว่าหนัก สุดๆก็ใช่ สหธรรมิกหลายคนก็กล่าวว่าสุดๆ เส้นทางเป็นเส้นทางปราบปราบคอมมิวนิสต์เก่า อาจมีการต่อสู้ล้มตายมากมาย ได้แผ่บุญกุศล แผ่เมตตาตลอดเดินทาง เส้นทางถนนเก่าที่ปิดตายมาหล่ยสิบปี ย่อมมีสิ่งที่มองไม่เห็นเล่าขาน แม้แต่ชาวบ้าน แม้แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็เล่าว่าเป็นช่องทางที่ยากต่อการผ่านไปมา

ตอนนี้ออกจากป่ามาแล้ว ปลอดภัยดี
เนื่องจากสถานที่ช่องเย็นมีที่จำกัด มีนักท่องเที่ยวมาก ลงมาพักด้านล่าง การเดินทางพิเศษที่แถมให้หลังจากร่วมเดินไปมุลาอิ เส้นทางที่เดินมาสามสี่วันนี้ เป็นเส้นทางพิเศษ ยากลำบาก อันตราย เป็นเส้นทางปิด เป็นเส้นทางปิดยังไง ดูลิงค์ด้านล่าง
https://mgronline.com/local/detail/9490000086749

https://m.pantip.com/topic/35415672?

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000079633

พรุ่งนี้เดินทางกลับวัดประยุรฯ พักร่างกายหลายๆวันก่อน สวัสดีปีใหม่ญาติธรรมทุกคนขอให้มีความสุขในวาระปีใหม่นี้และทุกปี

------------------------------------
🌟 “จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย”
“ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลแก่ชาวโลกเถิด”🌟

🍊 ธรรมยาตรา - ธุตังคะ จาริกธรรม
เจริญรอยตามบุรพาจารย์ ฝึกฝน อดทน ขัดเกลา บำเพ็ญขันติบารมี วิริยะบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี

🌸 🙏😊🍛✨ สาธุ อนุโมทนาผู้มีบุญทุกคนที่ได้ร่วมอุปถัมภ์ สนับสนุนด้วยการถวายภัตตาหาร เภสัช น้ำดื่ม ยานพาหนะ ที่พัก อำนวยความสะดวกทั้งหลายทั้งปวง รวมถึงถวายกำลังใจ 🍳🍛 ⛺ ขอทุกท่านจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ ตามกำลังแห่งตนทุกคนเทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ฯ

#ธุดงค์ธรรมยาตราจาริกธรรมสู่สันติภาพโลก #โครงการปริวาสกรรมและจาริกธุดงค์ #ธุดงค์จาริกธรรม #ธุตังคะจาริกธรรม #เดินธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก #ธรรมเป็นทีม #ณธีร์ #พระธุดงค์ #ธุดงค์ #สู้เพื่อธรรม #ธรรมยาตราจาริกธรรม #ผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม #ธรรมเป็นทีม #ธรรมยาตราตามรอยบาทพระศาสดาสี่สังเวชนียสถาน4 #เส้นทางสายธรรม #ธุดงค์ตามยถากรรม #ธุดงค์ตามยถาธรรม #พระธาตุมุลาอิ #เดินธุดงค์เพื่อสันติภาพโลก2025

🏞 บันทึกเส้นทางจาริกธรรม 🙏🇹🇭🇲🇲🇱🇦 🍊 เดินทางเข้าเขตพม่า / ข้ามลัดจาก บ้านยะพอ อ.พบพระ จ.ตาก ไป บ้านแม่กลองคี อ.อุ้มผาง จ.ต...
27/12/2024

🏞 บันทึกเส้นทางจาริกธรรม 🙏🇹🇭🇲🇲🇱🇦
🍊 เดินทางเข้าเขตพม่า / ข้ามลัดจาก บ้านยะพอ อ.พบพระ จ.ตาก ไป บ้านแม่กลองคี อ.อุ้มผาง จ.ตาก นอนพักในพม่า (รัฐกะเหรี่ยง) 1 คืน / ซาบซึ้งน้ำใจไมตรี ศรัทธา อนุโมทนาโยมชาวบ้านเดินเท้านำทาง มาส่งหลายกิโลเมตร ชาวบ้านนะพอ และบ้านมอโพรโก

🍏 วันที่ 25 ธ.ค.2567 พักจำวัด วัดบ้านยะพอ ต.วัลเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก

วันนี้ ออกบิณฑบาตรโปรดชาวบ้านมอเกอไทยอีกวันหนึ่ง พระผู้ร่วมเดินทางด้วยกันมาหลายรูปเดินทางกลับวัด เสร็จสิ้นโครงการ แต่มีแถมพิเศษอีกนิดหนึ่ง สำหรับผู้ไม่มีกิจอันใด โดยจำนวนตอนนี้ทั้งหมดประมาณ 99 รูปรวมสามเณร จะพากันเดินทางไป บ้านแม่กลองคี พรุ่งนี้ ตอนนี้พักที่วัดบ้านยะพอ จะมีเส้นทางลัดตรงไป ระยะทางประมาณ 27 กม. เข้าพม่า (รัฐกะเหรี่ยง) จะทะลุถึงฝั่งไทย ทาง บ้านแม่กลองคี อ.อุ้มผาง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ฯ ได้ติดต่อ ประสานงานทางฝั่งกะเหรี่ยงให้ พร้อมเดินทางไปสำรวจเส้นทางให้ จริงๆปกติชาวบ้านก็เดินทางเส้นนี้ไปมาทะลุ อ.อุ้งผาง ใช้เส้นทางนี้มานมนาน เว้นบางขณะ ถ้ามีการปะทะกัน หรือไม่ปกติ แต่ถ้าปกติ คนก็สัญจรไปมา ค้าขาย ขนสิ่งสิ้นค้าของไปมา ไปทำกิจธุระ เพราะเป็นเส้นทางใกล้ที่สุด หากไปเส้นทางหลัก จะใช้ระยะทาง 132 กม. แต่ถ้าไปทางนี้ 27 กม.

ตอนเย็น มีชาวบ้านยะพอ ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง และคนเมือง สังเกตุจากบ้านเรือน การพูด เสียงตามสายประกาศสองภาษา ทั้งกะเหรี่ยง และไทย โยมชาวบ้านเขาปลื้มที่ได้เห็นพระมามาก ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนเดินมา โยมนำน้ำมาถวายตลอด คนแก่ เด็ก ชาวไร่ ยกมือไหว้ กราบ อนุโมทนา นั่งรถผ่านก็ยกมือสาธุ ไหว้โมทนา

แถบนี้ก็เป็นตะเข็บชายแดนสุดๆ มีอีกจุดคือบ้านวัลเล่ย์ ทราบข้อมูลว่า ก่อนนี้หลายปีบ้านวัลเล่ย์ บางครั้ง เกิดปะทะกันทางฝั่งพม่า ชาวกะเหรี่ยงหนีตายมาฝั่งไทย ระเบิดตกมาทางไทยบ้าง เหมือนบ้านมอเกอไทย ที่เคยเล่าให้ฟัง เพราะพื้นที่แถวนี้เป็นตะเข็บชายแดนติดต่อกับพม่า ทางที่ดินมามีจุดฐานปฏิบัติการทหารพรานตรวจคนเดินทางไปมา พื้นที่ก็ปกติ ชาวบ้าน เด็กนักเรียนก็นั่งรถไปเรียน ชาวบ้านไปๆมาๆ ทำไร่ทำสวนปกติ มีนายก และ เจ้าหน้าที่ อบต.วัลเล่ย์มาถวายน้ำดื่มระหว่างพักด้วย คือที่นี่อยู่สงบปกติ

🍋 วันที่ 26 ธ.ค. 2567 พักจำวัด วัดบ้านมอโพรโก

วันนี้ชาวบ้านยะพอมาใส่บาตรกันเยอะมาก บ้านมี 400 ครอบครัว มีวัดเดียว มีชาวคริสต์ 20 ครอบครัว มีชาวมุสลิมเริ่มมาปักฐาน วันนี้เห็นผู้หญิงคลุมอิยาบ มาใส่บาตรด้วย น่ายินดี อาหารเหลือนำแจกเด็ก ทหาร พระเดินไปแจกไปตามทาง คนเฒ่าคนแก่ เด็กน้อย ได้แบ่งปัน เดินมาทางเขาแหลม วัดป่าเขาแหลม มาฉันที่ ป่า ใกล้สวนชาวบ้าน มีทหารพรานมาดูแลส่ง มีชาวบ้าน แม่หลวง ซึ่งเป็นภรรยา ของผู้ใหญ่บ้าน เนื่องจากผู้ใหญ่ติดประชุมที่อำเภอ แม่หลวงจึงขันอาสาเดินนำทางไปจนถึงที่พักวัดมอโพรโก พร้อมแม่บ้านอีก 6-7คน นำน้ำขึ้นรถมาถวายตามเส้นทาง และ เดินนำทางพระสงฆ์

ฉันเสร็จก็ออกเดินทางทันที เพราะเส้นทางยังอีกไกล มีเนินเขา เป็นตะเข็บชายแดนที่ไม่ควรอยู่นาน ทราบจากชาวบ้าน และทหารว่า ใกล้ๆนี้ในอดีต มาจนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตเป็นร้อยในบริเวณแถบนี้ คณะจึงแผ่เมตตา อุทิศบุญให้ทุกสัพพะสัตว์ทุกดวงวิญญาณ ฉันเสร็จทหารพราน และอดีตทหารผ่านศึกที่มีบ้านใกล้ๆนี้ตามมาส่งถึงเขตที่จะเข้าเขตพม่า มีโยมแม่หลวง พร้อมคณะนำพระมา เข้าเขตพม่าระหว่างทางมีโยมชาวบ้านถวายน้ำดื่ม ขนม มาถึงจุดหนึ่ง เป็นแม่น้ำ จึงหยุดพักที่นี่ครึ่งชั่วโมง โยมแม่หลวง เล่าให้ฟังว่าจุดสะพาน แถวนี้มีผู้ถูกสังหารจากทหารพม่า 20 กว่าคน คือคนเหล่านี้ได้รับการว่าจ้างมาสร้างถนน ทำสะพานข้าม แต่ทหารพม่าอ้างว่าในบรรดาคนเหล่านี้มีสายลับ มีคำสั่งมาให้จัดการ ทั้งหัวหน้า ทั้งคนหนุ่มที่ทำงาน อันนี้ฟังมาคร่าวๆ จากโยมแม่หลวง หัวหน้าคณะเราจึงพาพระสวดอภิธรรม และแผ่เมตตา แผ่กุศลให้ ประเด็นนี้คิด สรุปง่ายๆ คือ ทางพม่าไม่อยากให้เกิดความเจริญ มีถนนดีๆ เชื่อมต่อกับไทยในเส้นนี้ ก็เลยจัดการอย่างว่า ถ้าทางเส้นนี้กลายเป็นถนนลาดยางจะ 2 เลน หรือ 4 เลนก็ตาม คนไทยจะเดินทางผ่านเส้นนี้กันมาก เพราะย่นระยะทาง และเวลา จาก อ.พบพระ ไป อ.อุ้มผาง 140 กว่า กม. เศรษฐกิจ การค้าขาย การคมนาคม ขนส่งจะคึกคัก บ้านแถบนี้จะเจริญ อีกประเด็น อาจจะเกรงว่ามีผลต่อความมั่นคงของเขา คนไทยจะโยกย้ายมาทำธุรกิจ มาค้าขาย

สอบถามพบว่า เส้นนี้มีพระธุดงค์ผ่านไปมาอยู่ แม้จะมีเรื่องเล่าที่ชวนให้กังวล แต่ชาวบ้านก็ผ่านไปมาเป็นประจำอยู่แล้ว ชาวบ้านจะรู้ข้อมูลดี ให้สอบถามข้อมูลจากชาวบ้านก่อนเดินทางดีที่สุด

เดินทางมาพักที่วัดมอโพรโก ซึ่งแม่หลวง และคณะได้ติดต่อประสานงานเรียบร้อย ทราบว่าแม่หลวง ภรรยาผู้ใหญบ้านเดิมทีเป็นชาวบ้านแม่กลองคี อ.อุ้มผาง ส่วนพ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) อยู่บ้านยะพอ อ.พบพระ เดินทางไปมาเส้นนี้ประจำ ระหว่างเดินทางมา ก็จะเป็นสวนมันสำปะหลัง ข้าวโพด ถั่ว เป็นไร่ เป็นสวนชาวบ้านติดกันไป เป็นพื้นที่ๆ เงียบ สงบ วังเวง แต่มีรถผ่านไปมาตลอด ขนพืชผลทางเกษตร มันจะดูกันดาร มีชาวบ้าน เด็กเล็กมากับพ่อแม่มาทำไร่เป็นครอบครัว ได้ยินมาก่อนนี้ พระเจ้าอาวาสวัดพระทรายงามที่เคยไปพักท่านก็แนะนำเส้นนี้ เพราะใกล้สุด

เส้นนี้มีร่องรอยทางที่ก่อสร้าง ทำทาง แต่ยุติไป เพราะเกิดการสังหารหมู่ ที่กล่าวไป เมื่อสองปีก่อน มีอีกเส้นคือ บ้านวัลเล่ย์ อ.พบพระ ไป บ้านหนองหลวง อ.อุ้มผาง เส้นนั้นระยะทาง 40 กม. เป็นทางลัด ทางลูกรังเหมือนกัน แต่เส้นทาง บ้านยะพอ ไป บ้านแม่กลองคี จะสั้นกว่า 27 กม.

🫐 วันที่ 27 ธ.ค. 2567 จุดพักจำวัด วัดบ้านแม่กลองคี ต.โมรโก อ.อุ้มผาง

วานนี้ มีโยมชาวบ้านมอโพรโก มาร่วมทำวัตรเย็นจำนวนมาก ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ วัดมอโพรโก ที่เราพัก ไม่มีเจ้าอาวาส ไม่มีพระเลย วัดวาก็สะอาด ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ชาวบ้านดีใจ ตื่นเต้นที่มีพระสงฆ์มากมายเดินผ่านมา ตอนเช้าบิณฑบาตร โยมใส่บาตรมากจริงๆ แม้จะอยู่ชายแดน ห่างไกล พื้นที่สีแดง จิตใจใฝ่บุญ

แม่หลวง (ภรรยาผู้ใหญ่บ้านยะพอ) ได้กราบลาส่งต่อบุญให้กับชาวบ้านมอโพรโก รู้สึกซาบซึ้งความร่ำรวยมีน้ำใจดีงามของโยมพร้อมคณะมาก ที่เดินเท้ามาส่งพระ และอุปฐากน้ำดื่มมาตลอดทางชายแดน ด้วยความเต็มใจ ปีติในบุญ เป็นความประทับใจสำหรับส่วนตัวมากๆ หายาก เดินมา เกือบยี่สิบโล แดดร้อน เสียสละเวลามานำทางส่งพระ

และยิ่งประทับใจมากอีกครั้ง เมื่อโยมชาวบ้านมอโพรโกที่เราพักเมื่อคืน มีโยมผู้นำชุมชน คนเฒ่าคนแก่จะเรียกว่าคุณยาย คุณตาได้ อายุ 60 ขึ้น สะพายย่ามกะเหรี่ยง ปากดูดบุหรี่ขี้โย
4-6 คน แล้วก็มีน้องๆเยาวชนชาย หญิง อายุ 16-19 ปี 5-6 คนเดินนำหน้า นำทาง เดินตามมาส่งพร้อมกับคณะพระ มาพักฉันป่าริมทาง ใกล้ฐานปฏิบัติการทหารกะเหรี่ยง ทหารเข้ามากราบ และชาวบ้านถวายอาหาร จุดที่เราฉันอาหาร ร่มเงาต้นไม้มีน้อย น้ำล้างบาตรก็ไม่มี ทหารเลยนิมนต์พระไปพักที่พักฐานทหารมอโพรโก มีห้องน้ำ ศาลา มีน้ำ มีร่มเงาเย็นสบาย ก่อนจะเดินทางต่อในภาคบ่าย ซาบซึ้งน้ำใจมากๆ ของเหล่าทหารชาวกะเหรี่ยง และประทับใจโยมบ้านมอโพรโก ผู้เฒ่าผู้แก่ น้องเยาวชน ผู้นำรวมๆสิบกว่าคน เดินมาส่งถึงเขตไทย ไม่มีค่าจ้าง ทำด้วยความปรารถนาบุญ เดินเท้ามาส่งระยะทาง 10 กว่า กม. ถึงฝั่งไทย ซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีที่ศรัทธาพระสงฆ์ ปีติใจกับความดีแม้จะต่างชาติ แต่ศรัทธาในพระรัตนตรัย ชาวพุทธด้วยกัน

โยมเขาสามารถพูดไทยได้ ทราบว่า บ้านที่เราเดินผ่านมาตามเส้นทาง จะรู้จักกันดี เดินทางต้องผ่านไปมา บางคนก็ไปแต่งงาน หรือมีญาติอยู่ต่างบ้าน
วันนี้เดินทางออกเขตแดนพม่า เข้าสู่ประเทศไทย โยมชาวบ้านมอโพรโก เดินทางมาส่งถึงฝั่งไทย ณ จุดพักจำวัดวันนี้ วัดบ้านแม่กลองคี หรือ ศูนย์ธรรมจาริกแม่กลองคี ต.โมโกร อ.อุ้มผาง ค่ำนี้ซักถุงย่าม จีวร วันนี้เดินหกล้มลื่นถนนฝุ่นสีแดง ถุงย่ามเปื้อน พักภาวนา ทำวัตร สวดมนต์ แผ่เมตตาที่นี่ พรุ่งนี้คงจะเข้าป่า ไปทางช่องเย็น กำแพงเพชร

------------------------------------
🌟 “จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย”
“ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลแก่ชาวโลกเถิด”🌟

🍊 ธรรมยาตรา - ธุตังคะ จาริกธรรม
เจริญรอยตามบุรพาจารย์ ฝึกฝน อดทน ขัดเกลา บำเพ็ญขันติบารมี วิริยะบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี

🌸 ช่วงที่ 1 / วันที่ 26 ต.ค. - 20 พ.ย. 2567 🍏 เส้นทาง : วัดถ้ำปลา อ.แม่สาย จ. เชียงราย - วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

🌟 ช่วงที่ 2 เดินร่วมกับคณะสวนป่ากตัญญุตาราม / 25 พ.ย. - 25 ธ.ค. 2567 🍏 เส้นทาง : วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน - พระธาตุมุลาอิ (รัฐกะเหรี่ยง)

🌸 🙏😊🍛✨ สาธุ อนุโมทนาผู้มีบุญทุกคนที่ได้ร่วมอุปถัมภ์ สนับสนุนด้วยการถวายภัตตาหาร เภสัช น้ำดื่ม ยานพาหนะ ที่พัก อำนวยความสะดวกทั้งหลายทั้งปวง รวมถึงถวายกำลังใจ 🍳🍛 ⛺ ขอทุกท่านจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ ตามกำลังแห่งตนทุกคนเทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ฯ

#ธุดงค์ธรรมยาตราจาริกธรรมสู่สันติภาพโลก #โครงการปริวาสกรรมและจาริกธุดงค์ #ธุดงค์จาริกธรรม #ธุตังคะจาริกธรรม #เดินธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก #ธรรมเป็นทีม #ณธีร์ #พระธุดงค์ #ธุดงค์ #สู้เพื่อธรรม #ธรรมยาตราจาริกธรรม #ผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม #ธรรมเป็นทีม #ธรรมยาตราตามรอยบาทพระศาสดาสี่สังเวชนียสถาน4 #เส้นทางสายธรรม #ธุดงค์ตามยถากรรม #ธุดงค์ตามยถาธรรม #พระธาตุมุลาอิ #เดินธุดงค์เพื่อสันติภาพโลก2025

🏞 บันทึกเส้นทางจาริกธรรม 🙏🇹🇭🇲🇲🇱🇦 🍊  สู่เส้นชัย จุดหมาย :  พระธาตุมุลาอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา รัฐกะเหรี่ยง  จังหวัดเมียวดี (พ...
24/12/2024

🏞 บันทึกเส้นทางจาริกธรรม 🙏🇹🇭🇲🇲🇱🇦
🍊 สู่เส้นชัย จุดหมาย : พระธาตุมุลาอิ ขุนเขาแห่งศรัทธา รัฐกะเหรี่ยง จังหวัดเมียวดี (พม่า) พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอพรสิ่งใดสมปรารถนา

🍏 วันที่ 23 ธ.ค.2567 พักจำวัด วัดพระธาตุมุลาอิ
ตอนเช้านี้คณะสงฆ์ 152 รูป ได้เดินบิณฑบาตรโปรดชาวบ้านมอเกอไทย หลังจากฉันเสร็จ พร้อมเพรียงกันเดินไปข้ามน้ำไปฝั่งพม่าที่บ้านลุงจ่า ใช้รถ 14 คัน ๆหนึ่งนั่งได้ 13 คน มีญาติโยมผู้ตามอุปฐากดูแล และนำเสบียง อุปกรณ์ไปทำอาหารถวายพระบนเขาด้วย ใช้เวลา 2-3 ชม. แต่คณะเรามีร้อยกว่าชีวิต พร้อมกันไปเป็นขบวนใหญ่ ติดต่อประสานงานฝ่ายปกครอง ทหารเรียบร้อย เป็นกะเหรี่ยง DKBU หรือกะเหรี่ยงชาวพุทธ เส้นทางประมาณ 40 กม. แต่เป็นเส้นทางวิบาก พอพ้นจากหมู่บ้านไป ก็ลูกรัง นั่งรถโฟลวิลไป ต้องใช้ผ้าปิดจมูก หมวก ฝุ่นจะมากเป็นพิเศษ

มาถึงวัดพักที่ศาลา และโรงครัว อากาศด้านบนเขามุลาอิ หนาวเย็นมาก 5-15 องศา เป็นปกติ โดยเฉพาะช่วงเย็นไปถึงตอนเช้า จะประมาณ 7 องศา
อุปกรณ์กันหนาวที่นำไปเอาไม่อยู่ พระบางส่วนกางเต้นท์พักนอกศาลา หนาวเย็น บวกกับลมด้วย พักในศาลา ในห้องครัวแม้จะหลบลมได้ ก็ยังหนาวสุดๆ ผู้พักด้านนอกจะแค่ไหน

ที่นี่จะมีญาติโยมชาวพม่า กะเหรี่ยง คนไทย มากราบสักการะพระธาตุมุลาอิตลอดไม่ขาด แม้หนทางจะลำบากก็ตาม ไปยากมายาก ต้องมีใจ ตั้งใจมาจริงๆ โยมก็จะพักศาลาชั้นบนผู้ชาย พักร่วมกับพระสงฆ์ ชั้นล่างสำหรับผู้หญิง บางคนก็ไปกางเต็นท์นอนตามป่า หรือใกล้ๆศาลา ใกล้โรงครัว อากาศหนาว ต้องก่อไฟทั้งคืน นอนไม่หลับก็มานั่งสุมไฟ ผิงไฟกัน ห้องน้ำก็สะดวก ด้านบนนี้มีร้านค้าหลายร้าน ขายอาหา ของกิน เครื่องกันหนาว เครื่องดื่ม บนวัด บนเขามีกฏไม่กินอาหาร ไม่ขายเนื้อสัตว์ มีอาหารเจ

เวลาบ่ายสี่โมงเดินขึ้นไปกราบสักการะพระธาตุมุลาอิ พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพนับถือของชาวกะเหรี่ยงอย่างมาก ได้ประกาศการเดินทางมาถึงพระธาตุต่อเทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ดูแล ให้ได้อนุโมทนาต่อการเดินทางมาครั้งนี้ ให้เป็นผู้มีส่วนแห่งบุญทุกๆบุญร่วมกัน ได้แผ่เมตตาส่งบุญถึงเหล่าเทวาพรหมทุกชั้นฟ้า บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ญาติมิตร ปัจจามิตร ญาติโยมผู้อุปถัมถ์ค้ำชู สนับสนุน เจ้าภาพถวายน้ำ ภัตตาหาร ของใช้ ปัจจัยต่างๆ พระเถระเจ้าอาวาสต่างๆ ที่เมตตา พ่อครัวแม่ครัว จิตอาสา ช่างภาพ เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ จงอนุโมทนาเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญถ้วนหน้ากัน ทำวัตรสวดมนต์ แผ่เมตตาให้เจ้าที่ผู้สร้างพระธาตุ สร้างวัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ สภาพอากาศช่วงเย็นลมค่อนข้างแรง หนาวเย็น

พระธาตุมุลาอิ จะเดินขึ้นห่างจากตัววัด 800 เมตร ก่อนถึงพระธาตุมุลาอิบนสุด จะมีพระธาตุอีกองค์ตั้งอยู่เป็นพระธาตุาำหรับสุภาพสตรี ๆ จะขึ้นมาไก้เพียงจุดนี้เท่านั้น สวดด้านบนเป็นพระธาตุเฉพาะผู้ชายที่ขึ้นได้ เป็นสิ่งที่คนก่อนเขาทำไว้ ตอนเช้าได้ขึ้นไปทำวัตรสวกมนต์ แผ่เมตตาที่ พระธาตุองค์แรก เสร็จจากนั้นก็ขึ้นไปภาวนาพระธาตุมุลาอิด้านบน ทิวทัศน์ บรรยากาศเดินจากวัดไปถึงพระธาตุ สุดจะพรรณนา ภูเขาสวยเหมือนในภาพวาด เหมือนในนิยาย ทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้น และตก มีพระสงฆ์ ฆราวาสม่สวดมนต์ นั่งสมาธิ ขอพร นำผลไม้ นำเครื่องดื่มมาสักการะ โดยเฉพาะพระธาตุผู้หญิงที่ห่างจากพระธาคุมุลาอิด้านบน เช้าๆจะมีโยมผู้หญิงมาเต็มไปหมด

คณะสงฆ์สามเณร 160 กว่าคนรวมทั้งโยม เป็นกลุ่มแรกที่มากันเยอะขนาดนี้ มีชาวท้องถิ่น ได้มาเก็บภาพนิ่ง วีดีโอ โดรนให้เพื่อเผยแพร่ คณะพระเดินขึ้นไปด้านบนก็เต็มบริเวณพื้นที่เลย ฉะนั้น จึงจำเป็นเดินทางไปวันธรรมดา ถ้าวันเสาร์ อาทิตย์จะเจอนักท่องเที่ยว

จะมีพระธาตุองค์เล็กห่างจากวัด และพระธาตุมุลาอิ 1.5 กม. โยมคนไทยมักไปกางเต้นท์พัก ชมวิวกันที่นั่น ตอนเช้าวันที่ 24 คณะได้เดินบิณฑบาตรไปจุดนั้น ญาติโยมผู้อุปฐาก และโยมชาวกะเหรี่ยงได้พากันทำอาหารเจ ถวายพระสงฆ์ และแจกเป็นทานแก่ผู้พักบนวัดที่มาแสวงบุญ หลังจากฉันเสร็จก็เดินทางกลับมาฝั่งไทยด้วยความปลอดภัย มาพักที่วัดมอเกอไทย คืนหนึ่ง พรุ่งนี้ก็แยกย้ายกันไป กลุ่มหนึ่งจะเดินไปอุ้มผาง เข้าช่องเย็น (จุดชมธรรมชาติ ชมนก ชมวิว พักกางเต้นท์ อุทยานฯแม่วงค์) ออกทางอุทยานแห่งชาติคลองลาน ที่จะไปมีจำนวน 100 กว่ารูป

🌄 พระธาตุมุลาอิ หรือ มุลาอิท่อง (Mulayit Taung) เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่บนยอดเขามุลาอิ ในรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะผู้ที่มีศรัทธาแรงกล้าจากเมียนมาและประเทศไทย

🏕 ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา

1. ที่มาของชื่อมุลาอิ:
ชื่อ "มุลาอิ" มีความหมายว่า "ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์" เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า โดยตำนานเล่าว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาโปรดสัตว์และประทับรอยพระบาทไว้ที่บริเวณยอดเขา

2. พระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์:
พระธาตุบนยอดเขาเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับมาจากพระมหากษัตริย์พุทธศาสนาในอดีต ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

3. เส้นทางแสวงบุญ:
พระธาตุมุลาอิเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของผู้แสวงบุญ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลศาสนา ผู้คนจะเดินทางขึ้นเขาเพื่อทำบุญ สวดมนต์ และปฏิบัติธรรม

⛰️ลักษณะภูมิประเทศ
ยอดเขามุลาอิมีความสูงประมาณ 2,078 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุม. บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงดอกไม้ป่าหลากสีที่เบ่งบานในช่วงฤดูหนาว

🥭ความเชื่อและปฏิบัติศาสนา

พระธาตุมุลาอิถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล ชาวบ้านมักอธิษฐานขอพรให้สมปรารถนาในเรื่องต่าง ๆ ผู้ที่มาสักการะต้องถือศีล ปฏิบัติธรรม และแต่งกายสุภาพเรียบร้อย

🍎ตำนานเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า

ตามตำนาน พระพุทธเจ้าได้เสด็จมายังพื้นที่นี้และทรงพยากรณ์ว่าภูเขามุลาอิจะกลายเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังเล่ากันว่ามีเทวดาและอมนุษย์รักษาสถานที่นี้ไว้ ทำให้พระธาตุมุลาอิได้รับการเคารพบูชาอย่างสูงจากผู้คนในพื้นที่และผู้ศรัทธาทั่วไป

พระธาตุมุลาอิจึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนา แต่ยังเป็นศูนย์รวมศรัทธาของผู้คนที่เดินทางมาเพื่อบำเพ็ญบุญและสัมผัสธรรมชาติอันสงบสุขอีกด้วย

------------------------------------
🌟 “จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย”
“ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลแก่ชาวโลกเถิด”🌟

🍊 ธรรมยาตรา - ธุตังคะ จาริกธรรม
เจริญรอยตามบุรพาจารย์ ฝึกฝน อดทน ขัดเกลา บำเพ็ญขันติบารมี วิริยะบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี

🌸 ช่วงที่ 1 / วันที่ 26 ต.ค. - 20 พ.ย. 2567 🍏 เส้นทาง : วัดถ้ำปลา อ.แม่สาย จ. เชียงราย - วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

🌟 ช่วงที่ 2 เดินร่วมกับคณะสวนป่ากตัญญุตาราม / 25 พ.ย. - 25 ธ.ค. 2567 🍏 เส้นทาง : วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน - พระธาตุมุลาอิ (รัฐกะเหรี่ยง)

🌸 🙏😊🍛✨ สาธุ อนุโมทนาผู้มีบุญทุกคนที่ได้ร่วมอุปถัมภ์ สนับสนุนด้วยการถวายภัตตาหาร เภสัช น้ำดื่ม ยานพาหนะ ที่พัก อำนวยความสะดวกทั้งหลายทั้งปวง รวมถึงถวายกำลังใจ 🍳🍛 ⛺ ขอทุกท่านจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ ตามกำลังแห่งตนทุกคนเทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ฯ

#ธุดงค์ธรรมยาตราจาริกธรรมสู่สันติภาพโลก #โครงการปริวาสกรรมและจาริกธุดงค์ #ธุดงค์จาริกธรรม #ธุตังคะจาริกธรรม #เดินธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก #ธรรมเป็นทีม #ณธีร์ #พระธุดงค์ #ธุดงค์ #สู้เพื่อธรรม #ธรรมยาตราจาริกธรรม #ผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม #ธรรมเป็นทีม #ธรรมยาตราตามรอยบาทพระศาสดาสี่สังเวชนียสถาน4 #เส้นทางสายธรรม #ธุดงค์ตามยถากรรม #ธุดงค์ตามยถาธรรม #พระธาตุมุลาอิ #เดินธุดงค์เพื่อสันติภาพโลก2025

ที่อยู่

วัดประยุรวงศาวาส แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี
Bangkok
10600

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ณธีร์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

วิดีโอทั้งหมด

แชร์