15/07/2022
มาครบทั้ง Sci-fi Horror และ Body Horror เลยค่า❤️
𝙔𝙤𝙪𝙧 𝙈𝙞𝙣𝙙 𝙞𝙨 𝙖 𝙏𝙚𝙧𝙧𝙞𝙗𝙡𝙚 𝙏𝙝𝙞𝙣𝙜 (𝙃𝙖𝙞𝙡𝙚𝙮 𝙋𝙞𝙥𝙚𝙧, 2021)
จริงๆตั้งใจจะรีวิวเรื่องนี้รับเดือน Pride Month ที่ผ่านไปแล้วค่ะ… แต่!! ถ้าไม่ช้าก็ไม่ใช่ป้าแว่นตัวจริง! 😂 ระวังไว้เลยว่าอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวที่แฝงมาในร่างป้า ที่จริงแล้วป้าแว่นรู้สึกว่าไม่ต้องรีวิวไซไฟ Lgbtq+ เฉพาะเดือนไพรด์ก็ได้ค่ะ เพราะช่วงนี้มีผลงานไซไฟจากนักเขียนทั้งหน้าใหม่และรุ่นเดอะรุ่นเก๋าที่มีตัวละครหลากหลาย non-binary, trans และ genderless/beyond gender เหนือคำนิยามเพศสภาพอย่างเช่นตัวเอกในเรื่องนี้
.
🙏ก่อนอื่นต้องแจ้งก่อนว่าป้าแว่นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Lgbtq+ และทฤษฎีเพศสภาพ มีความรู้น้อยมาก ถ้าใช้ศัพท์ผิดพลาดหรือเขียนเรื่องใดผิดไปก็ขออภัยทุกท่านล่วงหน้านะคะ🙏
ป้าแว่นเคยอ่านผลงานเรื่องอื่นๆ ของคุณผู้เขียน Hailey Piper ส่วนมากเป็นแนวสยองขวัญค่ะ เพิ่งมีเรื่องนี้ที่ออกแนวสยองบวกไซไฟถูกใจป้า ในประวัตินักเขียนคุณ Hailey แกเป็น Lgbtq+ แต่งงานมีภรรยาแล้วและพึ่งได้รางวัลหนังสือสยองขวัญ Bram Stoker Award ด้วย เป็นนักเขียนดาวรุ่งมากๆ จุดเด่นคือผลงานเรื่องสั้นขนาดยาวหรือ Novella (เล่มนี้ประมาณ 152 หน้า) ที่เขียนเซ็ตติ้งสร้างบรรยากาศได้สุดยอดมาก อ่านแล้วเหมือนถูกดูดเข้าไปอยู่ในเนื้อเรื่องเลย และภายในเนื้อเรื่องสั้นๆก็สามารถสร้างตัวละครที่มีหลายมิติให้ผู้อ่านรู้สึกมีส่วนร่วม อ่านไปเชียร์ไปจนเหงื่อออกมือ (ใครอ่านอีบุ๊กควรใช้รุ่นกันน้ำค่ะ ฮา) ไม่ต้องพูดถึงพล็อตค่ะ หักมุมจนป้าแว่นหน้าหงายมาแล้ว
🚀🚀 เม้ามอยเนื้อเรื่อง ไม่สปอยล์(มาก) ถ้าเข้าสปอยล์ป้าจะบอกอีกทีค่า 🚀🚀
ตัวเอกของเรื่องชื่อ Alto ซึ่งใช้สรรพนามแทนตัวว่า They/Them อัลโต้เป็น comm specialist หรือผู้เชี่ยวชาญระบบสื่อสารบนยานซึ่งเป็นเซ็ตติ้งของเรื่อง ถ้าใครไม่คุ้นเคยกับตัวละครนอนไบนารี่ (อย่างเช่นป้าแว่น) แรกๆอาจงงเล็กน้อยค่ะเวลาบรรยายตัวเอกแต่ใช้สรรพนามเป็นพหูพจน์ แต่รับรองอ่านไปแล้วจะไหลลื่นค่ะ
อัลโต้เป็นตัวละครที่ป้าแว่นเชียร์มากๆจากใจเพราะอัลโต้เป็น Anxiety โรควิตกกังวลค่ะ เลยต้องไปรับคำปรึกษาจากหมอคนสวยบนยานชื่อคุณหมอเอสเม่ อัลโต้รวบรวมความกล้าจีบหมอจนหมอก็มีใจให้ และเมื่อถึงฉากเลิฟซีนนักอ่านเลยได้รู้ว่า อะแฮ่ม..อะฮ่า..ง่าา.. อัลโต้ได้โมดิฟายร่างกายตัวเองระดับเอ็กซ์ตรีม คือผ่าตัดรวมเนื้อหนังมนุษย์เข้ากับเครื่องจักรจนทำให้อวัยวะบ่งบอกเพศสภาพสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเพศใดก็ได้ค่ะ (ตรงจุดนี้ผู้เขียนไม่ได้ทำให้ดูเป็นเรื่องเฟติชหรือเรื่องสยิวกิ้วอะไรเลย ป้าแว่นเลยอยากใช้คำว่าเพศสภาพมากกว่า) อัลโต้เล่าว่ารู้สึกแปลกแยกมาตลอดจนกระทั่งได้ผ่าตัดเปลี่ยนร่างกายเลยรู้สึกว่าได้เป็น “ตัวเอง” อย่างแท้จริง โชคดีที่หมอเอสเม่รับในตัวตนของอัลโต้ได้ แถมมีบอกอีกว่า “เซอร์ไพรส์ดี” 55
จากนั้นก็เริ่มเข้าพาร์ทแอ็คชั่นของเรื่อง เกริ่นก่อนว่าเรื่องนี้มันล้ำมากอย่างที่ตัวการ์ตูนป้าแว่นกรี๊ดกร๊าดในรูปค่ะ คือยานที่อัลโต้อยู่เนี่ยไม่ได้มีแค่เอไอคอมพิวเตอร์ธรรมดา แต่ยังมี “หุ่นคน” (ป้าแว่นเขียนไม่ผิด หุ่นคน ไม่ใช่ หุ่นยนต์) เรียกว่า “Wraith” แปลว่าภูติผี วิญญาณ Wraith คือการนำร่างมนุษย์ที่ตายไปแล้วมาดัดแปลงเชื่อมต่อกับเครื่องจักรให้กลายเป็น “หุ่น” ใช้งานประเภทหนึ่ง โรงงานสร้างของ Wraith นั้นคือสามารถตั้งโปรแกรมได้หลายอย่าง ทำให้เป็นหุ่นสำหรับเอนเตอร์เทนก็ได้ (อันนี้ป้าแว่นก็นึกไม่ออกว่าจะออกมารูปแบบไหน จะออกมาเดี่ยวไมโครโฟนเรอะ) หรือใช้สอยทั่วไปแบบเอาไว้ทำความสะอาดอะไรแบบนี้
ลักษณะของ Wraith บนยานคือจะไม่เห็นใบหน้าส่วนที่เคยเป็นมนุษย์โดยจะมีหน้ากากสีดำสวมอยู่ และลำตัวส่วนล่างเป็นเครื่องจักรเหมือนหางคล้ายงูเพื่อให้หุ่นพวกนี้สามารถเลื้อยไปมาตามช่องทาง Wraith-port ที่มีอยู่ทั่วยานสำหรับทำการซ่อมแซมต่างๆ — ตรงนี้ป้าแว่นชอบมากค่ะ มันมีความ Body horror อ่านแล้วสยอง
เข้าเรื่องซักที… อัลโต้เดินออกมาจากห้องหลังจากนัดเดตกับหมอเอสเม่แล้วก็เจอ Wraith ตัวหนึ่งถูกทำลายนอนกองอยู่ที่พื้น และสิ่งที่อัลโต้เห็นก็คือ ก้อนสมองขนาดใหญ่เท่าลำตัวคนเลื้อยไปมา มีท่อบางอย่างออกมาจากก้อนสมองนั้นและมันก็พยายามจะพันขาอัลโต้ จากนั้นอัลโต้ก็เห็นภาพหลอนน่าสยดสยอง เช่น เห็นแม่น้ำเลือด เห็นภาพยานที่เต็มไปด้วยซากศพ ทำให้รู้ว่าก้อนสมอง (อัลโต้เรียกว่า Brain Beast หรือปีศาจสมอง) นั้นสามารถ hack เข้าระบบประสาทของมนุษย์ได้ อัลโต้ผู้มีร่างกายเป็นเครื่องจักรส่วนหนึ่งเลยสามารถป้องกันการแฮ็คระบบและจัดการกับปีศาจสมองตัวนั้นสำเร็จ
‼️❗️ต่อไปจะมีสปอยล์นะคะ ใครที่จะตามอ่านเล่มนี้ให้ข้ามไปเลย❗️‼️
🌈🌈 ปลอดสปอยล์แล้วป้าแว่นจะใส่เครื่องหมายสายรุ้งให้เน้อ 🌈🌈
ยานที่อัลโต้อยู่นี้ชื่อว่า “Yellow Jacket” มีลักษณะเหมือนรถไฟในโลกยุคโบราณ (ก็คือรถไฟปัจจุบันนี่แหละค่ะ ในเนื้อเรื่องเป็นยุคอนาคตไฮเทคจนไม่มีรถไฟแล้ว) อัลโต้อยู่ในส่วนที่เป็นตู้โบกี้หรือเรียกว่า Pod ด้านท้ายยานและต้องหาทางไปยังส่วนหน้ายานเพื่อตามหาหมอเอสเม่และเจ้าหน้าที่ยานคนอื่นๆ
ระหว่างทางอัลโต้ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นในหัวจากสิ่งที่เรียกตัวเองว่า “The Messenger” ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นการแฮ็คจากพวกปีศาจสมอง แต่เสียงนั้นกลับบอกว่าตัวเองไม่ใช่การแฮ็คหรือคลื่นรบกวนในสมอง และบอกว่า “I am the dark” (ป้าแว่นอ่านตอนกลางคืนแล้วหลอนเลยค่ะ ต้องอ่านให้เป็นเสียงแบทแมนจะได้ขำหน่อย แหะๆ) อัลโต้เริ่มรู้แล้วว่าเดอะเมสเซนเจอร์นี่น่าจะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดบนยาน เมื่อถามกลับไปว่าถ้าเป็น “ผู้นำสาส์น” แสดงว่าต้องมี “สาส์น” น่ะสิ คำตอบที่ได้กลับมาคือ “สาส์นนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะมอบให้ได้ แต่ต้องรับรู้ด้วยตนเอง”
เมื่อศัตรูเป็นอะไรที่นามธรรมจับตัวไม่ได้ลอยเป็นคลื่นอยู่ในอากาศแบบนี้ อัลโต้เลยตัดสินใจแฮ็คตัวเองด้วยการเอาท่อเชื่อมเส้นประสาทที่ใช้กับพวก Wraith มาเสียบเข้าไปในแขนและเนื้อหนังของตนซะเลย เนื่องจากร่างกายเป็นจักรกลส่วนหนึ่งอยู่แล้วก็เลยใช้วิธีนี้เจาะระบบเดอะเมสเซนเจอร์ได้ — ตอนนี้อัลโต้เท่มากและตลกด้วย มีการบ่นว่าหลังจากนี้ค่อยผ่าตัดเอาสายเชื่อมออก เสียตังค์แน่ๆ
ถ้าสปอยล์มากไปกว่านี้ก็เฉลยตอนจบของเรื่องแล้วค่ะ😂 แต่ป้าแว่นขอทิ้งท้ายว่านอกจากจะไซไฟและสยองแล้ว มันมีองค์ประกอบของเลิฟคราฟเที่ยนมากๆ โดยเฉพาะเดอะเมสเซนเจอร์ที่ทิ้งไว้ให้คิดว่าเป็นอะไรและมาจากไหน
🌈🌈 ปลอดสปอยล์แล้ว อ่านได้ค่าา 🌈🌈
นอกจากความแอ็คชั่นแล้วที่ป้าแว่นชอบมากๆในเรื่องก็คือการที่อัลโต้บรรยายอาการ anxiety ของตัวเองค่ะ คือจะบรรยายว่าเหมือนกับมีหิมะตกในสมองซีกที่ไม่ดี (Inner snow from the bad side of the brain) ทำให้บดบังความคิด การตัดสินใจอะไรต่างๆ ตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่คุณนักเขียนเอามาใช้ในพล็อตด้วยคือทำให้อัลโต้สงสัยว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริงหรือภาพหลอน
ส่วนที่อ่านแล้วอยากจะให้ผู้เขียนเอามาเล่าต่อคือที่ไปที่มาของ Wraith ค่ะ แบบไปเอาร่างเค้ามาญาติๆไม่ว่ารึ หรือว่าเป็นการทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าตัวไว้ก่อนตาย…
ในตอนหนึ่งอัลโต้ผู้มีร่างครึ่งจักรกลได้อธิบายไว้ว่า “จิตใจมนุษย์เหมือนมีเศษแก้วอยู่ข้างใน แค่เขย่านิดเดียวก็ทำให้ตัวเองเป็นแผลแล้ว — แต่การที่มีเศษแก้วนี่แหล่ะคือการที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ล่ะ”
จบการรีวิวสามหน้าเอสี่เพียงเท่านี้ค่า
— รักคนอ่าน จากป้าแว่น หวังโคสิกัน —
ขอกำลังใจช่วยกดไลค์กดแชร์สู้กับพี่มาร์กซักเกอร์เบิร์กด้วยนะคะ🥲 (เหรอพี่มาร์กนี่แหละเดอะเมสเซนเจอร์! มาแฮ็คยอดรีชป้า ฮืออ..) /ไหว้งามๆ หรือใครมีคำแนะนำให้ป้าแว่นย้ายไปแพลตฟอร์มไหนก็เม้นต์กันมาได้ค่า ว่าจะย้ายตามเพจคุณน้อง แกเคยอ่านเล่มนี้ยัง ไปอินสตาแกรมแล้วว (ไปกดไลค์เพจกันน้า คุณน้องขยันรีวิวกว่าป้ามากมาย 55)