23/11/2023
ความรู้ดีๆ🫶🏻
สรุป 9 อินไซต์ ผู้บริโภคไทย จากงาน The Future of Media | BrandCase
วันนี้มีงาน The Future of Media 2024 ที่จัดขึ้นโดย Nielsen บริษัทผู้ให้บริการสื่อและข้อมูลการตลาดชั้นนําของโลก ที่โรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok ในวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2023
โดยหนึ่งใน Session ที่น่าสนใจก็คือ Session “เทรนด์ผู้บริโภคไทย Connecting with the consumer through the right media”
โดยคนที่มาแชร์ข้อมูลใน Session นี้ คือ คุณโอ รัญชิตา Vertical Lead - Advertiser and Agency
จาก Nielsen ประเทศไทย
แล้วเทรนด์ผู้บริโภคไทยในปีหน้า มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ ใน 9 ข้อ
1. การแบ่งกลุ่มผู้บริโภคแบบใหม่ คือ Gen Now และ Gen New
โดยภายในงาน Nielsen ได้มีการแบ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคในไทย ออกเป็น
- Gen Now เป็นกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
เป็นการรวมกลุ่มของผู้บริโภคในกลุ่มคน Gen X (อายุ 40-54 ปี) และ Baby Boomer (อายุ 55 ปีขึ้นไป)
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากถึง 60% ของคนไทย โดยกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ยังมีการดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ผ่านช่องทางทีวี
- Gen New คือกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปีลงมา
เป็นการรวมกลุ่มของผู้บริโภคในกลุ่มคน Gen Z (อายุ 12-24 ปี) และ Gen Y (อายุ 25-39 ปี)
โดยกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากกว่า และเชื่อมั่นในคำแนะนำของ Influencer และ KOL
2. เทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ
จากผลการสำรวจพบว่า 68% ของผู้บริโภค Gen Now และ 61% ของทั้งผู้บริโภค Gen New เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
3. เทรนด์การสนับสนุนผลิตภัณฑ์รักษ์โลก
ภาพรวมในปี 2023 ของผู้บริโภคคนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมากถึง 72%
และจากผลการสำรวจพบว่า 82% ของผู้บริโภคกลุ่ม Gen New ชอบใช้สินค้าที่รักสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ถุงผ้า เพื่อลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก
4. เทรนด์ความหลากหลายและความเท่าเทียม
จากผลการสำรวจพบว่า 54% ของผู้บริโภค Gen Now และ 67% ของทั้งผู้บริโภค Gen New มีการเปิดรับความหลากหลายทางเพศ LGBTQ+
อีกทั้ง 39% ของผู้บริโภค Gen Now และ 55% ของทั้งผู้บริโภค Gen New สนใจในเรื่องของความเท่าเทียม การกลั่นแกล้ง และการบุลลีรูปร่าง
นั่นหมายความว่า ประเด็นในเรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียม เป็นประเด็นที่กลุ่มผู้บริโภค Gen New ให้ความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน
5. คนรุ่นใหม่เชื่อว่า “เงิน” คือตัววัดความสำเร็จที่ดีที่สุด
จากผลการสำรวจพบว่า 69% ของผู้บริโภค Gen Now และ 80% ของผู้บริโภค Gen New เชื่อว่า “เงิน” คือตัววัดความสำเร็จที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการสำรวจในกลุ่มผู้บริโภค Gen New เพิ่มเติมแล้ว พบว่า 53% มีการเก็บออมเงินเป็นประจำ และ 31% มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
6. ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม
- กลุ่มผู้บริโภค Gen Now
79% เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จากแบรนด์ที่คุ้นเคย
69% เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ตัวเองชอบ
33% เลือกซื้อสินค้าที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
31% จะสำรวจตามหาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อใช้ก่อนเพื่อน
28% มีการเซิร์ชหาข้อมูลรีวิวในอินเทอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจซื้อ
- กลุ่มผู้บริโภค Gen New
76% เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จากแบรนด์ที่คุ้นเคย
68% เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ตัวเองชอบ
52% มีการเซิร์ชหาข้อมูลรีวิวในอินเทอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจซื้อ
50% ชอบซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
46% จะสำรวจตามหาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อใช้ก่อนเพื่อน
สรุป 3 ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าของทั้งสองกลุ่ม ได้แก่
- คุณภาพ (Quality) จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชันยังคงให้ความสำคัญ กับคุณภาพสินค้าเป็นอันดับแรก
- แบรนด์ (Branding) การสร้างแบรนด์ที่ดีและทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ และช่วยให้สินค้าอยู่ในตลาดได้อย่างยั่งยืน
- ราคา (Price) ผู้บริโภคมีการเปรียบเทียบราคาของสินค้าประเภทเดียวกัน จากหลากหลายแบรนด์ก่อนตัดสินใจซื้อ
7. ข้อมูลในออนไลน์ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ
โดยเกือบ 50% ของกลุ่มผู้บริโภค Gen New แรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อสินค้า มาจากคอมเมนต์บนออนไลน์ และรีวิวของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ โดยเฉพาะ Influencer และ KOL
และถึงแม้ว่ายอดขายผ่านช่องทางออนไลน์จะมีการเติบโตที่ดี แต่ยอดขายส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในร้านซึ่งเป็นช่องทางการขายแบบออฟไลน์มากกว่า
8. ชนิดสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
- กลุ่มผู้บริโภค Gen Now
อันดับ 1 สินค้าแฟชั่น
อันดับ 2 สินค้าประเภทของชำหรือของสด
อันดับ 3 เครื่องสำอาง
อันดับ 4 อาหารเสริม
อันดับ 5 เครื่องใช้ภายในบ้าน
อันดับ 6 อุปกรณ์เสริม IT
- กลุ่มผู้บริโภค Gen New
อันดับ 1 สินค้าแฟชั่น
อันดับ 2 สินค้าประเภทของชำหรือของสด
อันดับ 3 เครื่องสำอาง
อันดับ 4 อุปกรณ์เสริม IT
อันดับ 5 อาหารเสริม
อันดับ 6 เครื่องใช้ภายในบ้าน
9. สิ่งที่นักการตลาดควรโฟกัส คือ “การทำ Omnichannel”
เนื่องจาก 59% ของผู้บริโภคชาวไทย มีการเซิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าในหน้าร้านแบบออฟไลน์
ในขณะเดียวกัน 53% ของนักช็อปปิงออนไลน์ ยังคงไปเดินดูสินค้าที่หน้าร้านออฟไลน์ก่อน แล้วค่อยกลับมาซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์
ซึ่งการทำ Omnichannel จะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดี ในการช็อปของคนไทยที่เข้ามาใช้บริการ หรือซื้อสินค้าของแบรนด์ได้ในทุกช่องทาง อีกทั้งยังช่วยให้แบรนด์สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น ทั้งในรูปแบบ Online และ Offline นั่นเอง